แชร์

บทที่ 11

ผู้เขียน: ชะนีติดมันส์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-01 09:16:06

"ขึ้นรถสิ"

"ใครบอกว่าฉันจะไปรถคันเดียวกับคุณ" จะพาข้าวปุ้นมาด้วยก็ไม่ได้เพราะคนนั้นงานเยอะมาก ถ้าจะชวนอลิสมามันก็เป็นงานของรินรดา แต่คงไม่เป็นไรหรอกเพราะโรงแรมคนก็เยอะมันคงไม่กล้าทำอะไรเธอ

หญิงสาวเดินสะบัดสะโพกผ่านรถหรูของมาเฟียหนุ่มไปที่รถอีกคัน รถของเธอก็หรูไม่ต่างกัน

ช่วงนี้ยังหัวค่ำอยู่และรถบนท้องถนนก็กำลังติดกว่าจะมาถึงโรงแรมใช้เวลาอยู่พอสมควร ทรงอัปสรมาถึงก็เห็นว่าเขานั่งรออยู่โต๊ะที่จองไว้แล้ว

พนักงานเสิร์ฟเห็นลูกค้าเดินตรงมาที่โต๊ะก็รีบขยับเก้าอี้ให้นั่ง

"ขอบคุณค่ะ" ทรงอัปสรหยิบเอกสารที่ได้มาจากรินรดาออกมาดู เพราะเธอทำหน้าที่ขับรถเองเลยไม่มีเวลาอ่านเหมือนอีกคน

ขณะที่เธออ่านเอกสารอยู่ก็สังเกตได้ว่าคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเอาแต่จับจ้องมาที่เธอ หญิงสาวเลยเหลือบตามองไปดู

"หน้าฉันมีอะไรน่ามองขนาดนั้น"

"คุณว่าอะไรนะ" ดวงตาคมคู่นั้นขยับมองมาที่เธอ

"ฉันเห็นคุณมองฉันนานแล้วนะ"

"คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ผมมองสาวสวยที่อยู่ด้านหลังคุณต่างหาก"

ทรงอัปสรหันขวับกลับไปมองด้านหลังด้วยใบหน้าที่ชาเล็กน้อย

พอเธอหันกลับมาก็เห็นว่าเขายกแก้วไวน์ขึ้นเหมือนเชื้อเชิญผู้หญิงคนที่อยู่ด้านหลังชนแก้ว

"พ่อรูปหล่อ พ่อเสน่ห์แรง"

"คุณว่าอะไรนะ"

"ฉันไม่ได้พูดกับคุณ"

"สวัสดีค่ะ ฉันเห็นคุณยกแก้วเมื่อครู่" ผู้หญิงคนนั้นถือแก้วไวน์ของตัวเองเดินเข้ามาทักทาย

"สวัสดีครับ" นเรศวรยกแก้วขึ้นแล้วก็ยื่นไปสัมผัสกับแก้วอีกฝ่ายเบาๆ พอไม่ให้ฝ่ายหญิงเสียหน้า

"คุณมากับน้องสาวหรือคะ"

"แฟนครับ"

"ใครแฟนคุณ!"

"อ้อ..ถ้างั้นฉันขอตัวนะคะ" เห็นว่าอีกฝ่ายกล้าทักทายเลยคิดว่ามากับน้องสาว ที่ไหนได้มากับแฟนนี่เอง

"คุณอย่ามาตู่ว่าฉันเป็นแฟนอีกนะ!" หลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นล่าถอยไปแล้วทรงอัปสรถึงได้กระซิบพูดกับเขาด้วยถ้อยคำที่ตำหนิ

"จะให้ผมแนะนำว่าเป็นเมียว่างั้น"

"ใครจะให้คุณแนะนำแบบนั้น!"

"เบาหน่อยสิคุณนี่โรงแรมระดับไหนคุณก็รู้"

"ไม่รู้ล่ะ ฉันจะกลับแล้ว" ว่าแล้วหญิงสาวก็เอื้อมมือไปคว้ากระเป๋า แต่ถูกอีกฝ่ายขวางไว้ก่อนโดยการจับกระเป๋าเธอไว้ "ปล่อยนะ"

"งานยังไม่เสร็จเลย ไม่สิงานยังไม่เริ่มเลยด้วยซ้ำ"

"เชิญคุณดูงานไปคนเดียวเถอะ"

"คุณนี่ไม่​ Professional เลยนะ"

"คุณว่าใคร"

"ว่าคุณนั่นแหละ"

เวลาเดียวกันนั้นที่คลับ..

"สวัสดีจ๊ะอลิส"

"หวัดดีค่ะ" อลิสทักทายกลับด้วยใบหน้าที่ไม่ค่อยดีนัก

"เป็นอะไรหรือเปล่า"

"ไม่สบายนิดหน่อยค่ะ" ที่เธอบอกไม่สบายคือไม่สบายใจ เธอเอาความมั่นใจมาจากไหนที่จะไปสู้กับคนเก่งแบบรินรดา แค่วันแรกก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายไม่ธรรมดาเลย

"แล้วนี่เธอกำลังทำอะไรอยู่"

"รับแขกค่ะ"

"รับแขกมันหน้าที่พนักงานไม่ใช่เหรอ"

"ฉันก็เป็นพนักงานนี่คะ"

"เธอช่วยมาดูไอ้นี่กับฉันหน่อยได้ไหม"

"ฉันไม่ว่างค่ะ"

"เธอขี้ขลาดแบบนี้เหรอ ยังไม่รู้แพ้รู้ชนะเลยก็จะยอมแพ้สะแล้ว"

"หึ.." แทนที่จะโกรธแต่อลิสกลับขำ เพราะที่รินรดาพูดมามันก็ใช่จะไปโกรธทำไมล่ะ

"ความฝันของเธอคืออะไร"

"ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน หาเงินเยอะๆ เพื่อวันข้างหน้าจะได้ไม่ลำบากเหมือนตอนนี้"

"แล้วเธอได้เริ่มทำความฝันของเธอหรือยัง"

"แค่คิดจะทำก็ท้อแล้วค่ะ"

"แสดงว่านั่นมันไม่ใช่ความฝันที่แท้จริงของเธอ เพราะถ้ามันเป็นความฝันเธอต้องมุ่งมั่นทำมันให้ได้สิ"

"คุณหมายความว่ายังไง" อลิสแปลกใจในคำพูดของรินรดา เหมือนว่าอีกฝ่ายกำลังกระตุ้นสติเธอให้กลับมา แต่จะทำแบบนั้นเพื่ออะไรมันไม่ได้เป็นผลดีต่อตัวอีกฝ่ายเลย

"ฉันอยากสู้กับคนที่สมน้ำสมเนื้อ ไม่ใช่สู้กับคนที่ยอมแพ้ตั้งแต่เริ่มต้น"

"แต่ฉันคิดอะไรไม่ออกเลยค่ะ ฉันทำงานที่นี่มาเป็นปีๆ แล้ว ทุกอย่างมันก็อยู่ในสายตาของฉัน และฉันก็ทำแบบนี้ไปทุกวันจะให้ฉันเห็นความแตกต่างอะไรล่ะคะ"

"สิ่งที่เธอคิดว่าตัวเองด้อยกว่านั่นมันเป็นความได้เปรียบของเธอเลยรู้ไหม"

"ยังไงคะ"

"ฉันเพิ่งเข้ามาไม่รู้อะไรเลย ต้องมาทำความรู้จักใหม่ทุกอย่าง แต่เธออยู่ที่นี่มาเป็นปีๆ ใครได้เปรียบกว่ากันล่ะ" หลังจากที่พูดประโยคเมื่อสักครู่จบรินรดาก็มองไปเห็นอะไรบางอย่าง "ฉันขอตัวแป๊บหนึ่งนะ"

อลิสมองตามหลังรินรดาไป ตกลงผู้หญิงคนนี้เป็นคนยังไงกันแน่จะมาแย่งชิงตำแหน่งกับเธอหรือจะมาช่วย เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่ผู้หญิงคนนั้นทำลงไปเหมือนเตือนสติให้เธอลุกขึ้นมาสู้เลย

"ทำไมกลับมาเร็วจังล่ะคะ"

คนที่ถูกทักหยุดแล้วหันมามองแบบหน้านิ่วคิ้วขมวด

"ได้เรื่องยังไงบ้างคะ"

"จะได้เรื่องอะไรล่ะไม่ตีกันตายก็ดีเท่าไรแล้ว"

"อะไรนะคะ" รินรดารีบเดินตามหลังอีกฝ่ายเข้าไปในห้องทำงาน

"อย่าหาทำแบบนี้อีก"

"แบบไหน"

"ก็ให้ไปดูงานพร้อมกันนี่แหละ"

"แล้วคุณอัปสรล่ะคะ"

"ไม่รู้"

"หึหึหึ"

"ขำอะไร"

"มองหน้าตัวเองในกระจกจะรู้เองค่ะ" ว่าแล้วรินรดาก็ออกจากห้อง ส่วนคนที่หน้านิ่วอยู่เมื่อครู่รีบเดินไปดูตัวเองผ่านกระจกในห้องน้ำ

"ก็ไม่เห็นอะไรนี่นอกจากความหล่อ" ชมตัวเองพลางเปิดน้ำรองใส่มือเล็กน้อยก่อนจะมาลูบผมเพื่อจัดทรง "พ่อแม่คงตั้งใจทำนะเนี่ยเรา"

ทีแรกทรงอัปสรว่าจะไม่กลับมาที่นี่แล้ว แต่มันยังไม่ดึกเธอเลยต้องขับรถตามเขากลับมา

"คุณหนูเป็นยังไงบ้างคะ"

"ไม่ได้เป็นอะไร"

"มันไม่ได้ทำอะไรคุณหนูใช่ไหมคะ"

"ไม่ได้ทำอะไร"

"แล้วทำไมหน้าคุณหนูถึง" เพราะดูใบหน้าของคุณหนูไม่เหมือนสิ่งที่พูดเลย

"แค่อยากจะฆ่าคน"

ก๊อกๆ "อลิสเองค่ะ"

"เข้ามา"

"อลิสคิดอะไรออกแล้วค่ะ"

"คิดอะไร"

"เราทำสระน้ำแบบตู้กระจกดีไหมคะ"

"ยังไง"

อลิสคุยรายละเอียดกับทรงอัปสรครู่หนึ่งเธอก็รีบเรียกประชุม

"ใครเรียกประชุมนะ"

"คุณทรงอัปสรครับ" คนที่มาแจ้งข่าวก็คือภาณุ

"มาถึงแล้วเหรอ"

"มาแล้วครับ"

เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะเรียกคุยเรื่องอะไร

พอเข้ามาถึงห้องประชุมทุกคนก็พร้อมหน้ากันแล้ว รวมถึงรินรดาด้วยเพราะรินรดาอยากรู้ว่าอลิสมีไอเดียอะไร

"อะไรนะ?" นเรศวรคิดว่าตัวเองฟังผิด

"อลิส" ทรงอัปสรหันไปบอกให้อลิสเป็นคนพูด เพราะมันเป็นโปรเจคงานของอลิส

"หน้าเวทีเรามีเนื้อที่พอที่จะทำสระว่ายน้ำแบบตู้กระจกได้ค่ะ"

"แล้วไง" นเรศวรคิดว่าใครเขาจะมาเล่นน้ำดึกๆ ดื่นๆ ดีไม่ดีลูกค้าอาจจะจมน้ำตายอีกเพราะเมา

"เราไม่ได้ทำสระว่ายน้ำให้ลูกค้าค่ะ ทำเพื่อโชว์ ให้สาวๆ ใส่ชุดว่ายน้ำลงไปเล่นเพื่อเรียกแขก"

"แล้วใครล่ะจะไปเล่นน้ำในนี้หนาวจะตาย"

"เอ่อ.." เจอคำถามนั้นของนเรศวรอลิสถึงกับมองหน้าทรงอัปสร

"ฉันเอง" ทรงอัปสรอยากสนับสนุนความคิดของอลิส เลยเสนอว่างานแรกเธอจะเป็นคนเล่นน้ำโชว์แขกเอง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 97 ตอนจบ

    ขุนราม [มาเฟียร้ายรัก] บทที่ 97 ตอนจบเธอไม่รู้หรอกว่าท่านให้มาบริษัททำไม แต่รินรดาก็แต่งตัวเรียบร้อยให้ดูเป็นหน้าเป็นตาของสามีตอนที่เขาพาเธอเดินเข้ามาพนักงานต่างก็ทำความเคารพกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา"เข้ามาด้วยกันสิคะ" หญิงสาวเห็นว่าพนักงานยืนรอลิฟต์กันหลายคน พอเธอกับสามีเดินเข้ามาพนักงานก็ไม่กล้าเข้ามาด้วย"เอ่อ..""เข้ามาสิ" จริงๆ ตอนที่เขาใช้ลิฟต์ไม่มีใครกล้าใช้ด้วย แต่พอท่านรองประธานอนุญาตให้เข้าพนักงานก็เข้าไปแต่ก็เข้าไม่กี่คนรินรดาขยับให้พนักงานยืนกันจนหลังเธอพิงเข้ากับร่างของขุนราม เขาเลยเอื้อมมือมาโอบเอวเธอไว้ พนักงานไม่ได้หันไปมองหรอกแต่มองผ่านผนังของลิฟต์ที่เป็นกระจก เห็นภาพนั้นแล้วต่างก็อมยิ้มไปตามๆ กันจนลิฟต์มาเปิดที่ชั้นผู้บริหาร ส่วนพนักงานออกไปก่อนหน้านั้นแล้ว"ไปห้องทำงานผมก่อน" เขาคิดว่าห้องประชุมคงยังไม่เรียบร้อย ค่อยพาเธอไปทีหลังแล้วกันแต่พอเข้ามาในห้องทำงานไม่นานเลขาก็มาตามให้เข้าห้องประชุมห้องประชุมใหญ่ของบริษัทณโยดม.."มานั่งนี่สิ" รัตติกาลที่นั่งตำแหน่งประธานบริษัทแทนสามีที่เสียไป เรียกให้ลูกชายมานั่งประจำที่ของนาง"ครับ?" ทุกครั้งที่เขาจะนั่งตรงนั้นก็ตอนท

  • นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 96

    คืนนั้นที่บ้านณโยดม..ก๊อกๆ "ที่รักครับ เปิดประตูให้ผัวหน่อย""คุณไปนอนห้องอื่นเลยค่ะฉันจะนอนกับลูก""คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ" ชายหนุ่มไม่ได้พูดเสียงดังเพราะกลัวแม่จะได้ยินว่าเธอไม่ให้เขาเข้าห้องด้วย"ถ้าคุณยังพูดอยู่แบบนี้เดี๋ยวลูกก็ตื่น" ขุนเขาเข้ามารอแม่ตั้งแต่เล่นกับคุณย่าเสร็จแล้ว จนตอนนี้แกนอนหลับรออยู่ในห้อง พี่เลี้ยงที่ดูแลก็ออกไปตอนที่เห็นคุณผู้หญิงกลับมา พอเข้ามาในห้องเธอก็จัดการล็อกห้องไม่ให้เขาตามเข้ามาได้"ไหนเราเคลียร์กันรู้เรื่องแล้วไง เปิดประตูให้ผมหน่อยนะ""รู้เรื่องแค่คุณน่ะสิคะ จำไว้ว่าอย่าทำแบบนี้อีก" ตอนที่รู้ว่าพี่ชายเปลี่ยนยาคุมกำเนิดเป็นยาบำรุงให้กับทรงอัปสรเธอก็รู้สึกโมโหมากพออยู่แล้ว พอมาเจอกับตัวยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ดุด่าว่ากล่าวเขามากมายแต่เธอต้องดัดนิสัยเขาบ้าง จะได้ไม่มีความคิดแผลงๆ แบบนี้อีก"คุณเมียครับ พรุ่งนี้ผัวต้องไปทำงาน""ก็ไปนอนห้องอื่นสิคะ" ในใจก็แอบรู้สึกสงสาร เพราะเขาต้องรับผิดชอบบริษัทที่ใหญ่โต ผ่านไปสักพักรินรดาก็รู้สึกว่าด้านนอกเงียบไปแล้ว เธอเลยเดินมาเปิดประตูดู "อุ้ยคุณ"เธอประเมินความอดทนของเขาต่ำไป เขารู้ว่าถ้าเงียบเธอต้องม

  • นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 95

    "ดูเหมือนคุณจะตกใจจังเลยนะคะ มีอะไรหรือเปล่า""ปะเปล่าา ผมจะมีอะไรล่ะก็นั่นน้องสาวผม""ไม่มีอะไรแน่นะคะ" เธอรู้ว่าเขาเป็นคนเจ้าแผนการ แถมสายตาที่มองเพื่อนดูมีพิรุธมันต้องมีอะไรแน่"อีกสามวันก็เป็นวันเกิดหุ้นส่วนอีกคนแล้ว" นเรศวรรีบเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะถ้าไม่งั้นเขาคงถูกจับได้แน่ว่ามีส่วนร่วมแต่มีหรือที่ทรงอัปสรจะปล่อยไป เธอคิดว่ามันต้องมีอะไรสักอย่างแน่ ฉับพลันนั้นทรงอัปสรก็คิดอะไรขึ้นมาได้ เพราะเธอยังไม่ได้จัดกระเป๋าใหม่ แสดงว่าเจ้าสิ่งนั้นมันยังคงอยู่ในกระเป๋า"อยู่ไหนนะ""คุณอัปสรหาอะไรเหรอคะ""ลิปสติกน่ะสิคะว่าจะเติมสักหน่อย" เธอแสร้งทำเป็นค้นหาของในกระเป๋าแต่ระหว่างนั้นคนในห้องก็คุยเรื่องวันเกิดของหุ้นส่วนอีกคนเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไปเรื่องอื่น"ปีนี้มันจะจัดวันเกิดเหรอ" พวกเขาไม่ค่อยให้ความสำคัญกับวันเกิดมากนักนอกจากครอบครัวจะเป็นคนจัดให้ แต่สำหรับคนที่ไม่มีครอบครัวก็ชวนเพื่อนมาดื่มกินที่บ้านหรือไม่ก็นัดกันที่ร้านอาหาร"มันบอกว่าจะมาสังสรรค์กันที่นี่แหละ""จะปิดร้านเลี้ยงวันเกิดเหรอ""ไม่ได้ปิดแต่มันบอกว่าถ้าลูกค้าคนไหนมาใช้บริการคืนนั้นมันจะเป็นคนเลี้ยงเอง""ไอเดียเจ๋งนี่""

  • นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]   บทท่ 94

    "ที่คุณพูดหมายความว่ายังไงคะ" หญิงสาวตามเขาขึ้นมาข้างบน แต่ยังไม่ถึงห้องทำงานเลยด้วยซ้ำเธอก็อดถามเรื่องนี้ไม่ได้"สวัสดีค่ะท่านรอง" แต่ก่อนที่เขาจะตอบเธอก็ได้ยินเสียงนี้ก่อน"?" ทั้งสองที่เดินตามกันมาหยุดแล้วก็มองคนที่กล่าวสวัสดีเมื่อครู่ ก่อนที่ขุนรามจะหันไปมองดูสายตารินรดา "คุณเป็นใคร""ชะเอมเป็นเลขาคนใหม่ที่มาแทนคุณเอวาค่ะ""เธอไปทำงานแผนกอื่น เปลี่ยนเลขาคนใหม่มา""แต่ชะเอมสอบสัมภาษณ์ผ่านแล้วนะคะ""ตกลงใครเป็นเจ้าของบริษัท""เอ่อ.."เขาไม่รอฟังคำอธิบายก็พาเธอเข้าไปในห้องทำงานก่อน"คุณยังไม่บอกฉันเลย""ผมไม่ได้หาเลขาเองเลยไม่รู้ว่าเขาส่งใครมา""ฉันไม่ได้หมายถึงผู้หญิงคนเมื่อกี้""อ้าวแล้วคุณหมายถึงอะไรล่ะ""เรื่องที่คุณบอกว่าเลขาคนเก่าอยู่โรงพักไงคะ""ไม่ใช่แค่เลขาคนเก่าหรอกที่อยู่โรงพัก ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นตอนนี้อยู่โรงพักทั้งหมด""อะไรนะคะ คุณส่งพวกนั้นให้กับตำรวจเหรอคะ""ข้อหาพยายามฆ่า""พยายามฆ่า?""ใช่ ผมแจ้งความจับทั้งหมดเลย ผมจะไม่ให้ใครทำร้ายคุณได้อีก""อย่าบอกนะคะว่าที่คุณรับสมัครพนักงานใหม่?""อืม" ชายหนุ่มตอบเธอไปโดยการเปล่งเสียงออกมาจากลำคอเบาๆ สายตามองดูผู้หญิ

  • นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 93

    "อื้อ" สะโพกงามเด้งรับเรียวลิ้นที่ตวัดเลียวนอยู่กึ่งกลางร่อง "อ่ะอ่ะอ่ะมะไม่ไหวแล้วค่ะ"ยิ่งได้ยินเสียงครวญครางมันก็ยิ่งทำให้เขาเร่งความเร็วที่กำลังทำอยู่ เพราะเขาต้องการเห็นเธอเสร็จก่อนโดยที่ยังไม่สอดใส่และเขาก็ทำได้สำเร็จ ชายหนุ่มค่อยๆ ชักนิ้วออกมาก่อนจะขยี้นิ้วให้เธอเห็นว่าเขาเก่งไหมที่ทำให้เธอหลั่งได้โดยที่ยังไม่เจอไม้เด็ด"ทำบ้าอะไรของคุณ""แต่ก่อนชอบแบบนี้ไม่ใช่เหรอ""ยังจำได้อยู่เหรอ นึกว่าจำแต่เรื่องผู้หญิงคนอื่นได้""ผู้หญิงคนอื่นที่ไหนไม่มีหรอก" ขณะที่เอ่ยร่างหนาก็ขยับขึ้นมา ก่อนจะคว้ามือเล็กมาโอบอุ้มความแข็งแกร่งเพื่อให้เธอวัดขนาด และในเวลาเดียวกันเขาก็จับมือเธอรูดชักขึ้นและลง"พูดเหมือนฉันจะเชื่อ"ใบหน้าหล่อคมเผลอเผยรอยยิ้มออกมา แต่ก็รีบซ่อนอาการนั้นไว้"ปล่อยนะ!" ถึงแม้จะรู้ว่าเขาคงไม่เก็บร่างกายตัวเองไว้ใช้แค่กับเธอ แต่ก็อยากได้ยินเขาพูดอะไรออกมาบ้าง แม้ว่ามันจะเป็นคำโกหก"จะจบเกมคนเดียวได้ยังไง แบบนี้ผมก็เคว้งคว้างน่ะสิ""คุณก็ไปปล่อยกับผู้หญิงพวกนั้นสิ""หึงผัวเหรอ""อึบ!" รินรดากัดฟันใช้แรงที่อุ้งมือ"ซี๊ดดดอ๊อยย ถ้ามันขาดจะมีใช้ไหม" ชายหนุ่มถึงกับสะดุ้ง"ไม่มีก็ไม่ใ

  • นเรศวร [มาเฟียร้ายรัก]   บทที่ 92

    "ถึงแบบนั้นก็เถอะค่ะ ข้อหาพยายามฆ่ามันไม่รุนแรงเกินไปเหรอคะ" เอวาก็เป็นลูกของผู้มีฐานะท่านหนึ่ง ไม่ยอมเจอข้อหาอะไรแบบนี้ง่ายๆ อยู่แล้ว"รุนแรงเกินไป? เธอจะให้ฉันรอจนเมียกับลูกฉันเป็นอะไรไปงั้นเหรอ" ชายหนุ่มหันหน้ามาประชันกับผู้หญิงที่เขาไม่เคยเห็นค่าเลย"แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่ ถึงยังไงฉันก็ไม่ยอมรับข้อหานี้" ในขณะที่พูดใบหน้าเอวาก็เชิดขึ้นแบบหยิ่งผยอง"แสดงว่าเธอยอมรับแล้วว่าเป็นตัวบงการ คุณตำรวจได้ยินหรือยังครับ""เชิญคุณเอวาไปที่โรงพักด้วยครับ""ฉันยอมรับตอนไหน! คุณแม่คะช่วยเอวาด้วยค่ะ" เอวาที่ถูกตำรวจพาออกไปตะโกนเข้ามาขอให้แม่ของเขาช่วย "ถึงยังไงเอวาก็ไม่ยอมถูกจับ""และก็เชิญพนักงานทุกท่านขึ้นรถด้วยนะครับ" ตำรวจหันมาบอกพนักงานที่อยู่ในที่นี้ทั้งหมด และรถที่ตำรวจเตรียมมาก็คันใหญ่พอที่จะขนคนพวกนี้ไปได้"พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะคะ เราไม่ได้แตะตัวภรรยาของท่านรองเลยค่ะ" ในคลิปกล้องวงจรปิดก็ไม่เห็นว่าคนพวกนี้ทำอะไร แค่มีแต่คำพูดที่วิพากษ์วิจารณ์"นั่นแหละมันคือข้อหาของพวกเธอ เห็นคนถูกทำร้ายร่างกายทำไมไม่ช่วย แถมยังยืนพูดให้ร้าย" เขาไม่คิดจะปล่อยใครไปง่ายๆ แน่ ยิ่งคนยืนมุงนี่แหละสำคัญเล

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status