LOGIN“โอ๊ย พอแล้ว ๆ ขอโทษ ๆ ขอโทษได้ไหม จะไม่พูดอีกแล้ว ยอมแล้ว” น้ำเสียงอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร
ซีนายรู้แล้วว่าตอนนี้ปาลินโกรธเขามากขนาดไหน ชายหนุ่มลืมไปว่าเพื่อนของเขาคนนี้ไม่ชอบให้พูดมึงกูกับเธอ และบ่อยครั้งที่เขาหลุดปากพูดกับเธอ ก็มักจะโดนปาลินตบตีแบบนี้เสมอ
จะทำไงได้ล่ะ ในเมื่อเวลาเขาอยู่กับกลุ่มเพื่อนชายก็มักใช้คำว่ากูมึงกันอยู่เสมอ มันก็ต้องมีพลั้งปากกันบ้าง จะมีก็แค่ปาลินนี่แหละ ที่ไม่อ่อนข้อให้กับเขาเลย
ตอนนี้ปาลินราวกับคนหน้ามืดตามัวไม่ฟังคำอ้อนวอนของซีนายเลยสักนิด จนซีนายต้องได้จับมือหญิงสาวเอาไว้ เพื่อไม่ให้ตีเขาหนักไปมากกว่านี้อีก
“ฟังกันก่อนดิ๊” ซีนายพูดให้ปาลินสงบสติอารมณ์
“ไม่-!”
“แล้วแบบนี้จะคุยกันรู้เรื่องป้ะ?”
“แล้วจะทำไม อีกอย่างฉันต้องไปรับรู้เรื่องใต้สะดือของแกเหรอ แข็งไม่แข็งแล้วมันยังไง? รู้ไม่รู้มันเกี่ยวอะไรกับฉัน?”
“จะไม่เกี่ยวกับแกได้ยังไง! ก็มันไม่แข็งตั้งแต่ที่แกเปิดประตูเข้ามาวันนั้นนั่นแหละ!!” ซีนายพูดจบพร้อมกับเอามือขึ้นมากุมขมับ
ปาลินได้ยินแบบนั้นถึงกับหยุดโวยวาย แล้วถามย้ำซีนายอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
“วะ...ว่าไงนะ?”
“มันเริ่มเป็นตั้งแต่วันที่แกเปิดประตูพรวดพราดเข้ามาเห็นฉันกำลังเอากันนั่นแหละ แล้วมันก็ไม่แข็งอีกเลย”
ซีนายไม่พูดเปล่า เขาเอื้อมมือไปหยิบเอกสารบางอย่างที่อยู่เบาะหลังให้ปาลินอ่าน เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นคือเรื่องจริง
“อะไร?” ปาลินรับซองเอกสารจากมือซีนายมาแบบงง ๆ
“ลองเปิดอ่านดูสิ” พูดจบชายหนุ่มก็ก้มใบหน้าลงบนพวงมาลัยรถแล้วหันไปมองบริเวณรอบนอก
ดวงตาตี๋มองดูนักศึกษามากหน้าหลายตาที่กำลังเดินไปมา มีทั้งคุ้นหน้าและไม่คุ้นหน้า หรือแม้แต่คนที่คุ้นเคยกับเขาเป็นอย่างดี แต่ทุกอย่างมันเป็นเพียงอดีต เพราะในชีวิตเขาไม่เคยคิดเลยว่าต้องมาเจอเรื่องที่สะเทือนใจขนาดนี้ ยิ่งคิดยิ่งเศร้า...
หลังจากที่ปาลินรับเอกสารจากซีนายมาแล้ว เธอก็เปิดอ่านข้อความที่อยู่ในนั้น ดวงตาคู่สวยกวาดตามองทุกบรรทัดทุกตัวอักษรถึงข้อความที่อยู่ในนั้น ซึ่งเป็นเอกสารทางราชการของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง คล้ายเป็นใบรับรองแพทย์ถึงอาการป่วยของเจ้าตัวคนไข้ โดยมีใจความสำคัญในเอกสารนั้นว่า
“...ปัญหาการไม่แข็งตัวของอวัยวะเพศ เกิดจากปัญหาสภาพทางจิตใจ หรือได้รับเหตุสะเทือนใจ บางอย่าง จึงทำให้อวัยวะเพศไม่สามารถแข็งตัวได้ชั่วคราว...”
พรึ่บ! ปาลินวางกระดาษแผ่นนั้นลงทันที พร้อมกับมองหน้าคนข้าง ๆ
"นาย... แกกลายเป็นพวกเซ็กซ์เสื่อมไปแล้วเหรอ? โธ่เพื่อน...หน้าตาก็ดี แต่กลายเป็นพวกอาภัพเรื่องนี้ซะงั้น" น้ำเสียงเจือปนไปด้วยความสงสาร
เกิดเรื่องร้ายแรงขนาดนี้ เพื่อนของเธอคงช้ำใจมากจนไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร ถึงได้เอาเรื่องสำคัญขนาดนี้มาบอกเธอ
"ใช่ที่ไหนเล่า!!! ยังไม่เสื่อมเว้ย! แกก็อ่านให้มันได้ศัพท์แล้วค่อยจับไปกระเดียดได้ป้ะ ในนั้นมันก็บอกอยู่ว่าไม่ได้เสื่อม ปัญหาเกิดจากจิตใจต่างหาก-!" ซีนายปฏิเสธเสียงแข็งพร้อมกับทำใบหน้าขึงขังใส่อีกฝ่าย
ไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่ามานาน ไม่รู้ว่าข่าวจะแพร่ไปถึงไหนต่อไหนบ้าง แค่ถูกเพื่อนตัวเองเยาะเย้ยว่าเป็นพวกไก่อ่อนก็เจ็บช้ำใจมากพอแล้ว ปาลินยังมาถากถางซ้ำเติมอีก
เครียดโว้ยยยยยยย!!!
"เอ้า" ปาลินอุทานออกมาด้วยความสงสัย เธอจึงหยิบกระดาษแผ่นนั้นมาอ่านเพื่อจับใจความข้อความในนั้นอีกครั้ง เผื่อว่าเธอพลาดตรงไหนไป
หลังจากอ่านเสร็จแล้ว หญิงสาวก็พยักหน้าให้อย่างเข้าใจ และเอ่ยกับคนข้าง ๆ อีกครั้ง
“ในนี้เขาบอกมีปัญหาด้านจิตใจ แกก็ไปปรึกษาหมอที่เชี่ยวชาญด้านนี้สิ มาปรึกษาฉัน แล้วฉันจะช่วยอะไรแกได้?” ปาลินพูดด้วยน้ำเสียงสงสัยแล้วก้มหน้าอ่านเอกสารย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าไม่ได้ตกหล่นใจความสำคัญ
หนุ่มผมเทาได้ยินแบบนั้นมุมปากของเขาถึงกับกระตุกขึ้นมา
ยัง... ยังไม่รู้ตัวอีก!!!
ด้านปาลิน พอเห็นซีนายยืนต่อยกำแพงเธอก็รีบเดินเข้าไปห้ามทันที“นายหยุด!”แม้น้ำเสียงหญิงสาวเต็มไปด้วยความดุดัน แต่ซีนายก็ไม่ยอมฟังแม้แต่น้อย เขายังคงต่อยเข้าไปที่กำแพงอยู่อย่างนั้น“อย่ามาห้าม...” น้ำเสียงเจือปนไปด้วยความรู้สึกผิดขณะที่ซีนายกำลังระบายอารมณ์กับกำแพงอยู่นั้นก็ต้องหยุดการกระทำ เพราะปาลินได้โอบกอดเขาจากด้านหลัง“พอเถอะที่รัก... พอได้แล้ว” น้ำเสียงแปรเปลี่ยนจากดุดันเป็นเสียงสั่นเครือที่เธอเสียงสั่นไม่ใช่เพราะกลัว แต่เธอสงสารซีนายที่ต้องมาเลือดตกยางออกโดยสาเหตุมาจากตัวเธอ“เฮอะ! กูก็ว่าใครที่พาพวกมากระทืบกูจนเข้าโรงพยาบาล ที่แท้ก็มึงนี่เองไอ้นาย ถุย!” ลีโอบ้วนเลือดในปากลงพื้นดิน สภาพลีโอตอนนี้ค่อนข้างสะบักสะบอมพอสมควร โดยมีเพื่อน ๆ ของเขาคอยพยุงตัวชายหนุ่มให้ลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล“กูคิดไว้ไม่มีผิดว่าพวกมึงสองคนต้องมีซัมติงกัน ไม่น่าล่ะ ถึงได้ปกป้องกันนัก อ๋อ... สุดท้ายแม่งแดกกันเอง หึหึ” น้ำเสียงลีโอเต็มไปด้วยความดูถูก“ไอ้สัตว์มึงอะเงียบปากไปก่อน” เพื่อนของลีโอเอ่ยเตือน“เหอะ! คิดว่ากูกลัวเหรอ? มันเป็นใครใหญ่มาจากไหนกูถึงต้องกลัวมัน สันดานตบตีคนไปทั่วแบบนี้ก็แค่กุ๊ยข้า
ตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกเธอต่างพาเล่นบทพ่อแง่แม่งอนกันไม่พัก เพราะซีนายชอบมาตามติดและคอยกวนประสาทอยู่เสมอไม่มีเปลี่ยน แม้ว่าเธอจะไล่ครั้งแล้วครั้งเล่า ชายหนุ่มก็ยังทำเหมือนอย่างเดิม จนคนที่เป็นฝ่ายทำใจคือเธอเองนั่นแหละหญิงสาวหันหน้าไปมองชายตาตี๋ที่จ้องมองเธอ ด้วยใบหน้าคลี่ยิ้มเพราะรู้สึกชื่นชมในตัวชายหนุ่มที่อดทนได้เก่งขนาดนี้ ทำเอาคนที่หน้าบึ้งตึงในตอนแรกแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มตามจนตาหยี ยังไม่พอเท่านั้น เขายังส่งจูจุ๊บให้เธออีกด้วยปาลินถึงกับหุบยิ้มทันที แล้วหันกลับมาหาเพื่อนตัวเองเหมือนดังเดิม ขืนเธอยังยิ้มหรือมองซีนายอยู่แบบนี้ มีหวังเขาคงส่งจูจุ๊บให้ทั้งคืนไม่ยอมเลิกแน่นอนแต่ละคนนั่งดื่มนั่งคุยกันไปเรื่อย ๆ จนแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปเริ่มออกฤทธิ์ ปาลินจึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำเพื่อปลดปล่อยหลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้ว ร่างเพรียวบางก็เดินกลับโต๊ะของตัวเอง ในระหว่างนั้นเธอก็ถูกใครบางคนฉุดรั้งแขนเอาไว้“ไง...”“ลีโอ...?”ปาลินเดินเลี่ยงไปอีกทาง แต่ก็ถูกลีโอขวางทางเอาไว้“จะรีบไปไหน?” น้ำเสียงเอ่ยถามอย่างกรุ้มกริ่มเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์“หลีก-ไป” น้ำเสียงเจือปนไปด้วยความแข็งกร้าวเธอไม่ได้อยากเสว
ผลสุดท้ายคนที่ต้องต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้ซีนายก็ไม่พ้นปาลินเหมือนเคย ขืนยังให้ซีนายต้มเองต่อไปมีหวังครัวของเธอพังแน่นอนมือเรียวบางยกถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ต้มเสร็จเรียบร้อยแล้วมาให้คนที่นั่งอยู่บนโซฟาอย่างระมัดระวัง“ขอบคุณค้าบ~ ที่รัก~” ชายหนุ่มยิ้มหวานอย่างดีใจ จากนั้นก็ลงมือกินอาหารที่ปาลินทำมาให้อย่างเอร็ดอร่อยไม่มีบ่นแม้แต่น้อยนับตั้งแต่ที่พวกเธอตกลงสานสัมพันธ์ครั้งใหม่นั้น ซีนายก็ได้เปลี่ยนคำพูดและคำสรรพนามกับเธอ โดยเรียกเธอว่าที่รัก และแทนตัวเองว่าเค้า ซึ่งเธอได้บอกให้ซีนายเรียกแบบเดิมเพราะรู้สึกแปลก ๆ หูแต่คิดว่าคนอย่างซีนายจะยอมฟังคำคนง่าย ๆ เหรอ? คนอย่างซีนายยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ เธอจึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย เอาที่สบายใจ ยังถือว่าโชคดีที่ซีนายทำตามเรื่องที่ตกลงกันตอนนั้นว่าทำหรือทำอะไรไม่ได้บ้าง ส่วนตัวเธอขอพูดแบบเดิมดีกว่าเพราะมันยังไม่ชินปากและไม่ได้เปลี่ยนแต่คำเรียกขานเท่านั้น ซีนายยังตามติดเธอตลอดทุกครั้งที่มีเวลาว่าง ทุกเย็นจะแวะมาหาเธอที่ห้องเสมอ บางทีก็ซื้อของเข้ามากินด้วยกันและอยู่ด้วยจนกว่าปาลินจะบอกให้กลับ หรือบางครั้งก็พากันออกไปกินข้าวข้างนอกเมื่อมีโอกาส ชี
“แล้วอะไรอีก?” เสียงหวานเอ่ยถาม“ความรู้สึกไม่เหมือนเดิม... จะอธิบายยังไงดีล่ะ เพราะมันก็คล้าย ๆ กันกับที่เล่าไปก่อนหน้านั้น ว่าไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับผู้หญิงคนไหนมาก่อน คนอื่นอาจจะเฉย ๆ แต่กับแกไม่ได้ ฉันเฉยไม่ได้ ไม่เชื่อไปถามเฮียดูก็ได้ เพราะฉันเอาเรื่องของแกไปปรึกษาเฮียตลอด”“มีอีกไหม?”ซีนายทำหน้าครุ่นคิด แล้วส่ายหน้าเบา ๆ “ไม่มีแล้ว รู้แค่ว่าอยากอยู่ด้วย อยากอยู่ใกล้ อยากได้เป็นแฟน ส่วนอนาคตเป็นยังไงค่อยว่ากันอีกที หรือแกอยากข้ามไปขั้นตอนแต่งงานเลยก็ได้นะ ฉันไม่ติด”“ตลกละ” มุมปากปาลินถึงกับกระตุก ให้ข้ามขั้นไปแต่งงานกันทั้งที่ยังไม่ได้เป็นแฟนเนี่ยนะ“ก็ครบสามข้อหนิ”“งั้นก็คบได้ดิ” น้ำเสียงซีนายเจือปนไปด้วยความดีใจ“ได้ แต่มีข้อแม้”ซีนายถูมือไปมาราวกับเด็กน้อยที่รอรับของเล่นจากผู้ใหญ่ “ได้สิ ว่ามาเลย”“หนึ่งปี”“หนึ่งปีเราค่อยแต่งงานกันใช่ไหม?” ซีนายไม่คิดมาก่อนว่าปาลินจะเป็นคนใจร้อนขนาดนี้ ช่างเถอะ... ยังไงเขาก็พร้อมอยู่แล้ว ไม่มีปัญหา จะแต่งเร็วกว่านี้ยังได้เลยทว่าความฝันของซีนายต้องดับลงเมื่อได้ยินคำพูดต่อจากนี้“หนึ่งปีค่อยมาเป็นแฟนกัน”“ทำไมล่ะ” น้ำเสียงของชายหนุ่มเต็มไปด้
ทางด้านปาลินตอนนี้เธอเองก็ตื่นนอนแล้วเช่นกัน หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว เธอก็เก็บของที่อยู่ในกระเป๋าเดินทางเข้าที่เข้าทางให้เรียบร้อย จากนั้นก็ทักแชตหาคนที่บอกว่ามีเรื่องต้องการคุยกับเธอ ว่าตอนนี้ว่างแล้วพร้อมจะคุยด้วยแล้วยอมรับว่าเมื่อคืนเธอค่อนข้างตกใจที่ได้เจอหน้าซีนาย เพราะเธอยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจสักนิด แต่พอเห็นสภาพของซีนายแล้ว เธอก็หลบหน้าเขาไม่ลง ไม่รู้ว่าช่วงเวลาที่ไม่ได้เจอกันซีนายไปทำอะไรมา ถึงได้มีสภาพต่างไม่จากโจรป่าขนาดนั้นเวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงเสียงกริ่งห้องของเธอก็ดังขึ้น หญิงสาวลุกไปเปิดประตู ก็เห็นเป็นซีนายที่มาในสภาพแบบใหม่ที่ต่างจากเมื่อคืน“ไปตัดผมมาใหม่เหรอ?”“อือ ดูดีขึ้นป้ะ?” คนถูกทักเอ่ยถามด้วยความดีใจ เพราะไม่คิดว่าปาลินจะสังเกตเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของเขา“ก็ดีกว่าเมื่อคืนอะ” พูดจบปาลินก็หันหลังเดินเข้าห้องตัวเองแล้วไปนั่งตรงโซฟาเพื่อดูซีรีส์ต่อ โดยไม่ได้สังเกตดูซีนายแม้แต่น้อยว่าถืออะไรไว้ข้างหลัง“ว่าแต่แกมีเรื่องอะไรจะคุยด้วยเหรอ?” ปาลินเอ่ยถามเข้าประเด็น โดยสายตาของเธอไม่ได้ละจากซีรีส์เรื่องโปรดแม้แต่น้อย“ลิน...” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยเรียก“อะไร
“ก็นั่นแหละ ก็ให้นึกกลับกันว่าจู่ ๆ มีคนมาบอกว่าชอบแก โดยที่ยังไม่รู้จักหรือยังไม่ได้ทำอะไรเลย แกจะรู้สึกยังไง?”นั่นสินะ... ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีผู้หญิงมาสารภาพชอบเขานับไม่ถ้วน แต่เขาไม่เคยรู้สึกตอบกลับความรู้สึกนั้นกับใครสักคน เพราะพวกเธอไม่เคยทำอะไรให้เขารู้สึกชอบ แต่กลับปาลินไม่ใช่แบบนั้น หรือเป็นเพราะปาลินที่ต่าง...“แล้วถ้าเฮียทำแล้วมันสูญเปล่า ผู้หญิงคนนั้นไม่รับรักเฮียล่ะ เฮียจะทำยังไง?”“มันก็เหมือนกับการทำธุรกิจ คนทำย่อมคาดหวังให้มันได้ตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้อยู่แล้ว ทั้งลงทุนลงแรงเต็มที่เพื่อเป้าหมายนั้น แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าจะสำเร็จตามที่เราคาดหวังหรือเปล่า? เพราะผลลัพธ์มันก็มีแค่สองทางคือสำเร็จกับไม่...แล้วสมมติแผนธุรกิจนั้นไม่สำเร็จ แกจะล้มเลิกหรือตั้งใจทำให้มากกว่าเดิมล่ะ?”ซีนายได้ยินแบบนั้นถึงกับยกมือขึ้นมาป้องปากตัวเองด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ“สุดยอดไปเลยเฮีย!” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความปลื้มปีติเขาไม่คิดมาก่อนว่าวันนี้พี่ชายสุดแสนเคารพรักจะให้คำปรึกษาเขาได้มากขนาดนี้ เพราะปกติเขาจะโดนพศวัฒน์เมินตลอด สมแล้วที่เขามาปรึกษาคราวนี้เป็นพศวัฒน์ที่ถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย







