LOGINปาลินหันไปตามเสียงเรียก พบว่าเป็นแฟนหนุ่มของตัวเองกำลังเดินมาหา ใบหน้างามยิ้มให้เล็กน้อย “ตัวไปไหนมาเหรอ?”
ชายหนุ่มหน้าตาดีเดินไปนั่งข้าง ๆ แฟนสาวพร้อมกับตอบคำถาม “พอดีอาจารย์เรียกให้ไปหาน่ะ” ลีโอพูดด้วยรอยยิ้ม “แล้วนี่... คุยอะไรกันอยู่เหรอ?”
ได้ยินคำถามจากแฟนหนุ่ม ปาลินถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ต่างจากเพลินเพลงกับนานะพากันหัวเราะให้กับท่าทางลุกลี้ลุกลนของเพื่อนตัวเอง
“ก็คุยเรื่องทั่ว ๆ ไปแหละไม่มีอะไรหรอก” ปาลินปฏิเสธเสียงแข็ง
“งั้นเหรอ?” เสียงทุ้มเอ่ยถาม
“อือ”
ลีโอเห็นอย่างนั้นก็เออออตามน้ำ ไม่อยากซักไซ้แฟนสาวให้มากความ
“ตัวมีเรียนอีกไหม?” ปาลินแสร้งเปลี่ยนเรื่องคุย
“เหลืออีกวิชาครับ แล้วตัวล่ะ?” ลีโอตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
ความหวานและการคุยแบบเสียงสองของทั้งสองคนทำเอาคนรอบข้างถึงกับมองบน เพราะไม่ว่าผ่านมานานขนาดไหนเพลินเพลงกับนานะก็ไม่ชินสักที
ในระหว่างที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอยู่นั้น แขนของปาลินก็ถูกมือของใครบางคนจับเอาไว้
“เรามีเรื่องต้องคุยกัน” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความดุดัน
ดวงตาเธอเบิกกว้างราวไข่ห่าน เพราะคนที่มาจับแขนเธอไม่ใช่ใครที่ไหน...
“นาย...”
“ขอยืมตัวลินแป๊บนะ” ซีนายหันไปพูดกับแฟนหนุ่มและเพื่อน ๆ ของปาลิน
“ดะ เดี๋ยวก่อนสิ มีเรื่องอะไร?” ใบหน้าของปาลินเต็มไปด้วยความงุนงง ที่จู่ ๆ ถูกซีนายลากตัวไปกะทันหันแบบนี้
“แล้วมันคุยตรงนี้ไม่ได้หรือไง ทำไมต้องลากไปคุยที่อื่นด้วย?”
“ไม่ได้-!” ซีนายปฏิเสธเสียงแข็ง
ยังไงวันนี้เขากับปาลินต้องคุยกันให้รู้เรื่อง ไม่อย่างนั้นคนที่ต้องอมทุกข์ตลอดไปก็คือเขา
คิ้วของปาลินขมวดเข้าหากันด้วยความงุนงง แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เดินตามเพื่อนชายของตัวเองไปด้วยแต่โดยดี
บรรดาเพื่อนชายของซีนายที่เดินมาด้วยกัน ต่างพากันส่ายหน้าให้อย่างจนใจกับเพื่อนตัวเอง
ดรีมนั่งลงข้าง ๆ นานะแฟนสาวของตน แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย
“ตัวเองมันไก่อ่อนเอง ยังจะไปโทษคนอื่นอีก เนอะที่รัก” ดรีมหันไปพูดกับนานะพร้อมกับส่งยิ้มหวาน
“มีเรื่องอะไรกันเหรอ?” นานะถามแฟนตัวเองด้วยน้ำเสียงสงสัย
ดรีมได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาด้วยความเจ้าเล่ห์พร้อมกับยีผมแฟนสาวตัวเองเล็กน้อย
“เป็นเด็กเป็นเล็กไม่ต้องรู้หรอก”
“ก็รุ่นเดียวกันป้ะ?” นานะตอบแฟนตัวเองทันควัน
มาพูดว่าเธอเป็นเด็กเป็นเล็กได้ไงทั้งที่อายุก็เท่ากัน แล้วถ้าจะวัดกันจริง ๆ เธอเป็นพี่ด้วยซ้ำ เพราะเธอเกิดก่อนดรีมตั้งสามเดือน
ด้านลีโอเองก็ขอตัวไปหาเพื่อน ๆ ของเขา ในเมื่อแฟนสาวไม่อยู่ตรงนี้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องอยู่เหมือนกัน เพราะตัวเขากับกลุ่มซีนายไม่ได้สนิทหรือรู้จักกันเป็นพิเศษ พวกเขารู้จักแค่ผิวเผินทั้งนั้น อย่างลีโอก็รู้แค่ว่าซีนายกับปาลินเป็นเพื่อนสนิทกันมานานแล้ว ส่วนซีนายก็รู้แค่ว่าลีโอกับปาลินเป็นแฟนกันแค่นั้นเอง
ทางด้านปาลินกับซีนาย
หนุ่มผมเทาพาปาลินมานั่งยังรถยนต์ของตัวเอง เพียงสองคนตามลำพัง
“มีเรื่องอะไรถึงต้องลากมาคุยในที่ลับตาคนขนาดนี้ฮะ?!”
แม้น้ำเสียงกับสีหน้าของหญิงสาวจะดุดันมากขนาดไหน ทว่าข้างในหัวใจของเธอเต้นเสียยิ่งกว่ากลองรัว
ขอสารภาพว่าจนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่กล้าสู้หน้าเพื่อนตัวเอง เพราะเวลามองหน้ามันทีไร ภาพในวันนั้นแวบเข้ามาในสมองของเธอทันที
อยากจะกรี๊ดออกมาดัง ๆ ชาติที่แล้วเธอทำกรรมอะไรไว้นะ ถึงต้องไปเห็นภาพบัดสีบัดเถลิงอะไรแบบนั้น
ซีนายหันหน้ามาสบตาปาลิน แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“ของกูมันไม่แข็ง...” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเครียด
“อะ อะไรไม่แข็งนะ?” ปาลินถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ว่าที่ได้ยินเมื่อตะกี้เธอไม่ได้หูฝาดไป
“ของกูมันไม่แข็งเหมือนเมื่อก่อน” ซีนายยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดเช่นเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง
ปาลินได้ยินอย่างนั้นเธอถึงกับอ้าปากค้างทั้งตกตะลึงและตกใจ เพราะไม่คิดว่าซีนายจะลากเธอมาคุยเรื่องอะไรแบบนี้
เพียะ เพียะ เพียะ เสียงฝ่ามือของปาลินที่ฟาดไปยังแขนของอีกฝ่ายแบบไม่ยั้ง
“กรี๊ดดดดด อีนาย อีชั่ว อีเลว พูดอะไรออกมา กรี๊ดดดดดด เลว เลวที่สุด-!” หญิงสาวทั้งด่าทอพร้อมกับเสียงฝ่ามือที่ยังคงฟาดแบบไม่หยุดยั้ง
“โอ๊ยยย โอ๊ย เจ็บ เจ็บ มันเจ็บนะโว้ย-!” ซีนายพูดพร้อมกับเอาแขนขึ้นมาปกป้องใบหน้าหล่อเหลาของเขา เพราะกลัวว่าปาลินจะตีถูกใบหน้าอันแสนล้ำค่านี้ หากเป็นรอยขึ้นมาคงหมดหล่อกันพอดี
“ดีที่รู้ตัวว่าเจ็บ นึกว่าจะด้านหมดแล้ว” ปาลินไม่พูดเปล่า เธอยังคงฟาดฝ่ามือไปยังแขนซีนายแบบไม่ยั้งมือ
“ไอ้เราก็นึกว่าจะเรียกมาคุยเรื่องสำคัญ ที่ไหนได้ ไม่พ้นเรื่องใต้สะดือ แล้วไหนจะพูดคำว่ากูมึงอีก แกตายวันนี้แหละ อย่าอยู่เลย-!” น้ำเสียงปาลินเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว
เธอไม่สนใจแล้วว่าภาพจำเหล่านั้นจะวนมาหาเธอหรือไม่ เพราะตอนนี้มันมีสิ่งที่ทำให้เธอโมโหจนควันออกหู คือซีนายพูดเรื่องลามกไม่พอ ยังพูดกูมึงกับเธออีก
ตาย ยังไงวันนี้เธอก็ต้องตีเจ้าเพื่อนคนนี้ให้ตายคามือ-!
ด้านปาลิน พอเห็นซีนายยืนต่อยกำแพงเธอก็รีบเดินเข้าไปห้ามทันที“นายหยุด!”แม้น้ำเสียงหญิงสาวเต็มไปด้วยความดุดัน แต่ซีนายก็ไม่ยอมฟังแม้แต่น้อย เขายังคงต่อยเข้าไปที่กำแพงอยู่อย่างนั้น“อย่ามาห้าม...” น้ำเสียงเจือปนไปด้วยความรู้สึกผิดขณะที่ซีนายกำลังระบายอารมณ์กับกำแพงอยู่นั้นก็ต้องหยุดการกระทำ เพราะปาลินได้โอบกอดเขาจากด้านหลัง“พอเถอะที่รัก... พอได้แล้ว” น้ำเสียงแปรเปลี่ยนจากดุดันเป็นเสียงสั่นเครือที่เธอเสียงสั่นไม่ใช่เพราะกลัว แต่เธอสงสารซีนายที่ต้องมาเลือดตกยางออกโดยสาเหตุมาจากตัวเธอ“เฮอะ! กูก็ว่าใครที่พาพวกมากระทืบกูจนเข้าโรงพยาบาล ที่แท้ก็มึงนี่เองไอ้นาย ถุย!” ลีโอบ้วนเลือดในปากลงพื้นดิน สภาพลีโอตอนนี้ค่อนข้างสะบักสะบอมพอสมควร โดยมีเพื่อน ๆ ของเขาคอยพยุงตัวชายหนุ่มให้ลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล“กูคิดไว้ไม่มีผิดว่าพวกมึงสองคนต้องมีซัมติงกัน ไม่น่าล่ะ ถึงได้ปกป้องกันนัก อ๋อ... สุดท้ายแม่งแดกกันเอง หึหึ” น้ำเสียงลีโอเต็มไปด้วยความดูถูก“ไอ้สัตว์มึงอะเงียบปากไปก่อน” เพื่อนของลีโอเอ่ยเตือน“เหอะ! คิดว่ากูกลัวเหรอ? มันเป็นใครใหญ่มาจากไหนกูถึงต้องกลัวมัน สันดานตบตีคนไปทั่วแบบนี้ก็แค่กุ๊ยข้า
ตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกเธอต่างพาเล่นบทพ่อแง่แม่งอนกันไม่พัก เพราะซีนายชอบมาตามติดและคอยกวนประสาทอยู่เสมอไม่มีเปลี่ยน แม้ว่าเธอจะไล่ครั้งแล้วครั้งเล่า ชายหนุ่มก็ยังทำเหมือนอย่างเดิม จนคนที่เป็นฝ่ายทำใจคือเธอเองนั่นแหละหญิงสาวหันหน้าไปมองชายตาตี๋ที่จ้องมองเธอ ด้วยใบหน้าคลี่ยิ้มเพราะรู้สึกชื่นชมในตัวชายหนุ่มที่อดทนได้เก่งขนาดนี้ ทำเอาคนที่หน้าบึ้งตึงในตอนแรกแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มตามจนตาหยี ยังไม่พอเท่านั้น เขายังส่งจูจุ๊บให้เธออีกด้วยปาลินถึงกับหุบยิ้มทันที แล้วหันกลับมาหาเพื่อนตัวเองเหมือนดังเดิม ขืนเธอยังยิ้มหรือมองซีนายอยู่แบบนี้ มีหวังเขาคงส่งจูจุ๊บให้ทั้งคืนไม่ยอมเลิกแน่นอนแต่ละคนนั่งดื่มนั่งคุยกันไปเรื่อย ๆ จนแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปเริ่มออกฤทธิ์ ปาลินจึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำเพื่อปลดปล่อยหลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้ว ร่างเพรียวบางก็เดินกลับโต๊ะของตัวเอง ในระหว่างนั้นเธอก็ถูกใครบางคนฉุดรั้งแขนเอาไว้“ไง...”“ลีโอ...?”ปาลินเดินเลี่ยงไปอีกทาง แต่ก็ถูกลีโอขวางทางเอาไว้“จะรีบไปไหน?” น้ำเสียงเอ่ยถามอย่างกรุ้มกริ่มเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์“หลีก-ไป” น้ำเสียงเจือปนไปด้วยความแข็งกร้าวเธอไม่ได้อยากเสว
ผลสุดท้ายคนที่ต้องต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้ซีนายก็ไม่พ้นปาลินเหมือนเคย ขืนยังให้ซีนายต้มเองต่อไปมีหวังครัวของเธอพังแน่นอนมือเรียวบางยกถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ต้มเสร็จเรียบร้อยแล้วมาให้คนที่นั่งอยู่บนโซฟาอย่างระมัดระวัง“ขอบคุณค้าบ~ ที่รัก~” ชายหนุ่มยิ้มหวานอย่างดีใจ จากนั้นก็ลงมือกินอาหารที่ปาลินทำมาให้อย่างเอร็ดอร่อยไม่มีบ่นแม้แต่น้อยนับตั้งแต่ที่พวกเธอตกลงสานสัมพันธ์ครั้งใหม่นั้น ซีนายก็ได้เปลี่ยนคำพูดและคำสรรพนามกับเธอ โดยเรียกเธอว่าที่รัก และแทนตัวเองว่าเค้า ซึ่งเธอได้บอกให้ซีนายเรียกแบบเดิมเพราะรู้สึกแปลก ๆ หูแต่คิดว่าคนอย่างซีนายจะยอมฟังคำคนง่าย ๆ เหรอ? คนอย่างซีนายยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ เธอจึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย เอาที่สบายใจ ยังถือว่าโชคดีที่ซีนายทำตามเรื่องที่ตกลงกันตอนนั้นว่าทำหรือทำอะไรไม่ได้บ้าง ส่วนตัวเธอขอพูดแบบเดิมดีกว่าเพราะมันยังไม่ชินปากและไม่ได้เปลี่ยนแต่คำเรียกขานเท่านั้น ซีนายยังตามติดเธอตลอดทุกครั้งที่มีเวลาว่าง ทุกเย็นจะแวะมาหาเธอที่ห้องเสมอ บางทีก็ซื้อของเข้ามากินด้วยกันและอยู่ด้วยจนกว่าปาลินจะบอกให้กลับ หรือบางครั้งก็พากันออกไปกินข้าวข้างนอกเมื่อมีโอกาส ชี
“แล้วอะไรอีก?” เสียงหวานเอ่ยถาม“ความรู้สึกไม่เหมือนเดิม... จะอธิบายยังไงดีล่ะ เพราะมันก็คล้าย ๆ กันกับที่เล่าไปก่อนหน้านั้น ว่าไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับผู้หญิงคนไหนมาก่อน คนอื่นอาจจะเฉย ๆ แต่กับแกไม่ได้ ฉันเฉยไม่ได้ ไม่เชื่อไปถามเฮียดูก็ได้ เพราะฉันเอาเรื่องของแกไปปรึกษาเฮียตลอด”“มีอีกไหม?”ซีนายทำหน้าครุ่นคิด แล้วส่ายหน้าเบา ๆ “ไม่มีแล้ว รู้แค่ว่าอยากอยู่ด้วย อยากอยู่ใกล้ อยากได้เป็นแฟน ส่วนอนาคตเป็นยังไงค่อยว่ากันอีกที หรือแกอยากข้ามไปขั้นตอนแต่งงานเลยก็ได้นะ ฉันไม่ติด”“ตลกละ” มุมปากปาลินถึงกับกระตุก ให้ข้ามขั้นไปแต่งงานกันทั้งที่ยังไม่ได้เป็นแฟนเนี่ยนะ“ก็ครบสามข้อหนิ”“งั้นก็คบได้ดิ” น้ำเสียงซีนายเจือปนไปด้วยความดีใจ“ได้ แต่มีข้อแม้”ซีนายถูมือไปมาราวกับเด็กน้อยที่รอรับของเล่นจากผู้ใหญ่ “ได้สิ ว่ามาเลย”“หนึ่งปี”“หนึ่งปีเราค่อยแต่งงานกันใช่ไหม?” ซีนายไม่คิดมาก่อนว่าปาลินจะเป็นคนใจร้อนขนาดนี้ ช่างเถอะ... ยังไงเขาก็พร้อมอยู่แล้ว ไม่มีปัญหา จะแต่งเร็วกว่านี้ยังได้เลยทว่าความฝันของซีนายต้องดับลงเมื่อได้ยินคำพูดต่อจากนี้“หนึ่งปีค่อยมาเป็นแฟนกัน”“ทำไมล่ะ” น้ำเสียงของชายหนุ่มเต็มไปด้
ทางด้านปาลินตอนนี้เธอเองก็ตื่นนอนแล้วเช่นกัน หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว เธอก็เก็บของที่อยู่ในกระเป๋าเดินทางเข้าที่เข้าทางให้เรียบร้อย จากนั้นก็ทักแชตหาคนที่บอกว่ามีเรื่องต้องการคุยกับเธอ ว่าตอนนี้ว่างแล้วพร้อมจะคุยด้วยแล้วยอมรับว่าเมื่อคืนเธอค่อนข้างตกใจที่ได้เจอหน้าซีนาย เพราะเธอยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจสักนิด แต่พอเห็นสภาพของซีนายแล้ว เธอก็หลบหน้าเขาไม่ลง ไม่รู้ว่าช่วงเวลาที่ไม่ได้เจอกันซีนายไปทำอะไรมา ถึงได้มีสภาพต่างไม่จากโจรป่าขนาดนั้นเวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงเสียงกริ่งห้องของเธอก็ดังขึ้น หญิงสาวลุกไปเปิดประตู ก็เห็นเป็นซีนายที่มาในสภาพแบบใหม่ที่ต่างจากเมื่อคืน“ไปตัดผมมาใหม่เหรอ?”“อือ ดูดีขึ้นป้ะ?” คนถูกทักเอ่ยถามด้วยความดีใจ เพราะไม่คิดว่าปาลินจะสังเกตเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของเขา“ก็ดีกว่าเมื่อคืนอะ” พูดจบปาลินก็หันหลังเดินเข้าห้องตัวเองแล้วไปนั่งตรงโซฟาเพื่อดูซีรีส์ต่อ โดยไม่ได้สังเกตดูซีนายแม้แต่น้อยว่าถืออะไรไว้ข้างหลัง“ว่าแต่แกมีเรื่องอะไรจะคุยด้วยเหรอ?” ปาลินเอ่ยถามเข้าประเด็น โดยสายตาของเธอไม่ได้ละจากซีรีส์เรื่องโปรดแม้แต่น้อย“ลิน...” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยเรียก“อะไร
“ก็นั่นแหละ ก็ให้นึกกลับกันว่าจู่ ๆ มีคนมาบอกว่าชอบแก โดยที่ยังไม่รู้จักหรือยังไม่ได้ทำอะไรเลย แกจะรู้สึกยังไง?”นั่นสินะ... ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีผู้หญิงมาสารภาพชอบเขานับไม่ถ้วน แต่เขาไม่เคยรู้สึกตอบกลับความรู้สึกนั้นกับใครสักคน เพราะพวกเธอไม่เคยทำอะไรให้เขารู้สึกชอบ แต่กลับปาลินไม่ใช่แบบนั้น หรือเป็นเพราะปาลินที่ต่าง...“แล้วถ้าเฮียทำแล้วมันสูญเปล่า ผู้หญิงคนนั้นไม่รับรักเฮียล่ะ เฮียจะทำยังไง?”“มันก็เหมือนกับการทำธุรกิจ คนทำย่อมคาดหวังให้มันได้ตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้อยู่แล้ว ทั้งลงทุนลงแรงเต็มที่เพื่อเป้าหมายนั้น แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าจะสำเร็จตามที่เราคาดหวังหรือเปล่า? เพราะผลลัพธ์มันก็มีแค่สองทางคือสำเร็จกับไม่...แล้วสมมติแผนธุรกิจนั้นไม่สำเร็จ แกจะล้มเลิกหรือตั้งใจทำให้มากกว่าเดิมล่ะ?”ซีนายได้ยินแบบนั้นถึงกับยกมือขึ้นมาป้องปากตัวเองด้วยความรู้สึกตื้นตันใจ“สุดยอดไปเลยเฮีย!” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความปลื้มปีติเขาไม่คิดมาก่อนว่าวันนี้พี่ชายสุดแสนเคารพรักจะให้คำปรึกษาเขาได้มากขนาดนี้ เพราะปกติเขาจะโดนพศวัฒน์เมินตลอด สมแล้วที่เขามาปรึกษาคราวนี้เป็นพศวัฒน์ที่ถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย







