หน้าหลัก / วาย / บอสครับอย่าทำผม / บทที่ 4 มาอยู่ใกล้ ๆ กัน

แชร์

บทที่ 4 มาอยู่ใกล้ ๆ กัน

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-25 22:13:44

 เช้าวันนี้บริษัทของผมต่างก็พูดถึงเรื่องเลขาคนใหม่ของบอสวินกันอย่างหนาหู ทุกคนต่างให้ความสนใจและสงสัยว่าใครกันจะมาเป็นเลขาคนใหม่ เนื่องจากในกลุ่มไลน์ของบริษัท มีข้อความจากบอสวินได้แจ้งทุกคนให้มาประชุมพร้อมกันในเวลาเก้าโมงตรงเพื่อรับทราบเรื่องเลขาที่บอสเลือกไว้เรียบร้อยแล้ว

แน่นอนว่าข้อความเหล่านั้นผมเองก็เห็น แต่ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร เพราะผมรู้คำตอบอยู่แล้วหนิว่าเลขาคนนั้นคือใคร และทันทีที่ผมวางกระเป๋าทำงานลงบนโต๊ะ พี่ดาก็รีบก้าวยาว ๆ มาหาผมหน้าตาตื่น

“ภัทเห็นข้อความในไลน์กลุ่มรึยัง ที่บอสเรียกประชุมน่ะ”

พี่ดาถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น มือหนึ่งถือแก้วกาแฟที่มีไอร้อนลอยขึ้นมา

“เห็นแล้วครับพี่”

“แกว่าใครจะมาเป็นเลขาคนใหม่ของบอส คนโชคร้ายคนนั้นจะเป็นใครกันนะ”

“ก็คงหนีไม่พ้นผมหรอกครับพี่”

“ถามจริง !!”

พี่ดาลากเก้าอี้ทำงานโต๊ะตัวเองมานั่งใกล้ผมมากขึ้น ส่วนผมก็นั่งหมุนเก้าอี้หนังสีดำไปมา รู้ดีว่าอีกฝ่ายต้องมีเรื่องคุยกับผมมากแน่ ๆ ผมเลยไม่คิดจะเปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างเช่นทุกวัน

“ภัท เมื่อกี้แกว่าไงนะ บอสเลือกแกไปเป็นเลขาเหรอ”

พี่ดาถามหน้าตาตื่นยิ่งกว่าเดิม ราวกับเรื่องที่ได้รับรู้นั้นเป็นเรื่องใหญ่ซะเหลือเกิน

“ครับ เมื่อวานที่บอสเรียกผมไปพบก็เรื่องนี้แหละ”

“โห แล้วแกโอเคปะเนี่ยภัท แล้วตำแหน่งติดตามหนี้ใครจะมาทำแทนล่ะ พี่ว่าบริษัทเราไม่มีใครทำตำแหน่งนี้ได้ดีเท่าแกแล้ว”

“ก็ยังเป็นผมนี่แหละครับที่ต้องทำ บอสบอกว่าจะให้ผมควบตำแหน่ง แล้วก็ปรับเงินเดือนให้”

“จริงเหรอ ๆ แล้วบอสว่าไงอีกปะ เล่า ๆ”

พี่ดาวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะทำงานของตัวเองแล้วรัวคำถามใส่ผมอีกหลายคำถาม

“ก็ไม่ว่าไงแล้วครับ เราคุยกันแค่นี้ ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ผมว่าเขาคงแจ้งตอนประชุมอีกครั้ง”

“อืม แต่เอาจริงนะ พี่ว่าแกก็เป็นคนเก่งคนนึง คงไม่แปลกหรอกที่ผลงานจะเข้าตาบอส”

“ผมก็ภาวนาให้ตัวเองทำงานกับบอสอย่างราบรื่นครับพี่ดา”

“เอาหน่า อย่าคิดมาก พี่เชื่อว่าภัททำได้อยู่แล้ว”

พี่ดายื่นมือมาตบบ่าผมเบา ๆ เป็นการให้กำลังใจ ผมยิ้มกลับไปเล็กน้อย หลังจากนั้นบทสนทนาของเราก็จบลง เพราะใกล้จะได้เวลาประชุมแล้ว

ก่อนเวลานัดหมายห้านาที พนักงานทุกคนต่างก็พร้อมใจกันไปนั่งรอภายในห้องประชุม ซึ่งเมื่อถึงเวลาเก้าโมง บอสวินก็เปิดประตูเข้ามาในห้อง และทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ

ให้ตายเถอะผมโคตรจะไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลย ถึงแม้ลึก ๆ ผมจะชอบความเงียบในบางครั้ง แต่ความเงียบภายในห้องประชุมเป็นสิ่งที่ผมอยากหลีกเลี่ยงมากที่สุด เพราะมันชวนอึดอัดไม่น้อย

“ขอบคุณทุกคนที่มาตรงเวลาครับ”

เมื่อบอสเริ่มเกริ่นประโยคทักทาย ความเงียบภายในห้องก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น ไม่มีพนักงานคนไหนเอ่ยอะไร หรือแม้แต่จะขยับตัว ทุกคนนั่งนิ่งราวกับถูกสาปให้เป็นหินในทันใด

“ทุกคนคงรู้แล้วว่าเลขาคนเก่าของผมได้ลาออกไป ตอนนี้ผมเลยแต่งตั้งพนักงานคนใหม่ที่จะย้ายมาทำตำแหน่งเลขา และอยากจะแจ้งให้ทุกคนทราบว่าพนักงานคนนั้นคือ นายภากร เจ้าหน้าที่ติดตามหนี้สิน หลังจากนี้ภัทจะมาทำตำแหน่งเลขาและยังควบตำแหน่งเจ้าหน้าที่ติดตามหนี้สินเช่นเดิม มีใครอยากคัดค้านการแต่งตั้งครั้งนี้ หรือคิดว่ามีคนอื่นที่เหมาะกว่าภัทไหมครับ สามารถเสนอความคิดเห็นได้ ผมยินดีรับฟัง”

ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ ไม่มีใครเอ่ยอะไร แต่พี่ดาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ผม หันมากระซิบกระซาบ

“ถามมาได้ว่าใครอยากค้านรึเปล่า ก็ตัวเองเป็นคนเลือกเองหนิ ใครจะกล้าขัด หรือถ้าเห็นไม่ตรงกันมีหวังได้โดนเหวี่ยงอีก”

ผมนึกขำกับท่าทางของพี่ดา ซึ่งจังหวะนั้นบอสหันหน้ามายังเราสองคนพอดี และเห็นว่าพี่ดากำลังพูดคุยบางอย่างกับผม

“มีปัญหาอะไรรึเปล่าครับคุณดวงดาว ถ้ามี รบกวนคุยกับผมครับ”

พี่ดารีบหันกลับไปมองหน้าบอสแล้วส่ายหน้าทันที ผมเห็นสีหน้าพี่ดาซีดเป็นไก่ต้มทั้งขำทั้งเอ็นดู

“ปะ เปล่าค่ะบอส ไม่มีอะไรค่ะ”

“ดีครับ งั้นก็ปิดประชุม เรื่องที่จะแจ้งมีแค่นี้ ส่วนเรื่องงาน ผมคิดว่าทุกคนในองค์กรคงเต็มที่อยู่แล้ว ตั้งใจทำงานในตำแหน่งของตัวเองให้ดีนะครับ ผมอยากให้ผลประกอบการปีนี้ดีกว่าในทุก ๆ ปีที่ผ่านมา รบกวนด้วยนะครับ”

พนักงานทุกคนพร้อมใจกันพยักหน้าตอบรับ หลังจากนั้นทุกคนก็ทยอยเดินออกจากห้องประชุม ผมเห็นพี่ดารีบเดินออกไปอย่างไว คงเพราะไม่อยากเจอรังสีอำมหิตจากใบหน้าของบอส ส่วนผมไม่ชอบแย่งอะไรกับใครเลยรอให้ทุกคนเดินออกไปกันก่อน เหลือผมคนสุดท้าย

“ภัท”

“ครับ”

ไม่ทันจะได้เดินออกมาจากห้อง เสียงของบอสที่เรียกชื่อผมทำให้สองขาหยุดชะงักไว้ก่อน ผมหันไปมองต้นเสียงก็เห็นว่าสายตาบอสจับจ้องใบหน้าผมแทบไม่กะพริบตา ไม่แน่ใจว่ามีอะไรติดหน้าผมอยู่รึเปล่า

“เดี๋ยวกลับไปเก็บของที่โต๊ะทำงานเก่าแล้วมาย้ายโต๊ะทำงานหน้าห้องของผม เข้าไปนั่งในห้องกับผม”

“นั่งในห้อง?”

ผมถามย้ำอีกครั้ง ไม่แน่ใจนักว่ามีเหตุผลอะไรที่ผมต้องไปนั่งทำงานในห้องของบอส เท่าที่รู้มา เขาชอบความเป็นส่วนตัวและไม่ชอบให้ใครไปยุ่งวุ่นวายเวลาที่ทำงานนัก

“อืม ฉันจะได้สั่งงานง่าย ๆ ขี้เกียจยกหูโทรศัพท์บ่อย ๆ”

พูดจบบอสวินก็เดินตัวปลิวออกไปจากห้องประชุม ทิ้งให้ผมยืนงง ๆ กับคำสั่งของเขา

แค่ยกหูโทรศัพท์มันจะยุ่งยากอะไรนักหนา

“พี่คงคิดถึงภัทแย่เลย”

พี่ดาหันมาชวนคุยระหว่างที่ผมกำลังเก็บของ จะว่าไปแล้ว ตั้งแต่ที่ผมมาทำงานที่นี่ก็มีแค่พี่ดานี่แหละที่เป็นทั้งเพื่อนและพี่ คอยสอนงานและให้คำแนะนำต่าง ๆ ตลอดเวลาที่ผมทำงานที่นี่มา ไม่รู้ว่าการไปทำงานกับบอสจะต้องเจออะไรบ้าง บอสจะใจดีแบบพี่ดาไหมนะ อดคิดไม่ได้เลย

“เอาหน่า ยังไงเราก็ยังอยู่บริษัทเดียวกันนะครับพี่ดา ไว้พักเที่ยงภัทไปกินข้าวด้วย”

“แหม ทำเป็นพูด คงได้มาหรอกจ้า ภัทไม่รู้เหรอว่าเลขาบอสนี่ต้องตัวติดกับบอสมากเลยนะ พี่เห็นเลขาคนเก่าน่ะ แทบไม่ได้ไปไหนมาไหนกับพนักงานคนอื่นในบริษัทเลย บางวันก็เลิกงานพร้อมบอส บอสไปประชุมที่ไหนก็ต้องตามไปด้วย ถ้าเป็นพี่นะ ถึงได้เงินเดือนเยอะพี่ก็ไม่ทำหรอก”

ผมเงียบไปครู่หนึ่งเมื่อรู้แบบนั้น อดคิดมากไม่ได้ว่าการย้ายตำแหน่งงานของผมในครั้งนี้จะต้องเจออะไรบ้าง และถ้าเป็นอย่างที่พี่ดาบอกจริง ชีวิตส่วนตัวของผมก็คงจะหายไป

“ภัท พี่ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจจะพูดให้เครียดนะ”

“อ้อ เปล่าครับ ภัทไม่ได้คิดมากหรอก ไว้เจอกันนะครับพี่”

ผมเก็บของทุกอย่างใส่ลงในลังกระดาษสีน้ำตาลแล้วสะพายกระเป๋าสีดำคู่ใจเดินออกมาจากโต๊ะทำงานตัวเก่า เอ่ยลาพี่ดาอีกครั้งแล้วเดินไปกดลิฟต์ขึ้นไปยังชั้นห้า ซึ่งทั้งชั้นมีห้องทำงานแค่ห้องเดียวคือห้องของบอส ส่วนอีกห้องจะเป็นห้องประชุม

ผมแทบไม่เคยขึ้นมาชั้นนี้ และรู้สึกว่ามันวังเวงยังไงชอบกล ไม่รู้ว่าบอสอยู่ที่นี่ได้ยังไง มองดูแล้วเหมือนเป็นชั้นที่ตัดขาดจากทุกคนภายนอก เป็นพื้นที่ส่วนตัวอย่างตั้งใจ

เมื่อเดินมาถึงหน้าห้องทำงานของบอสผมก็เห็นว่าโต๊ะทำงานของเลขาที่เคยอยู่หน้าห้องมันหายไป เดาว่ามันคงถูกเคลื่อนย้ายไปในห้องเรียบร้อยแล้ว

หลังจากเคาะประตูไปสองครั้ง ก็ได้ยินเสียงตอบรับกลับมาทันที ผมหมุนลูกบิดเปิดประตูเข้าไปด้านในก็เห็นว่าโต๊ะทำงานหน้าห้องถูกย้ายมาไว้ในห้องแล้วอย่างที่คิด แต่มีบางอย่างที่ผมไม่เข้าใจคือ ทำไมโต๊ะทำงานผมถึงไปตั้งชนกับโต๊ะของบอสจนใกล้กันขนาดนั้น

ใกล้ชนิดที่ว่าถ้าผมถอนหายใจแรง ๆ บอสก็คงได้ยินไม่ยาก

“ฉันให้คนย้ายโต๊ะหน้าห้องมาให้แล้ว นายเก็บของช้ามาก เสียเวลา นี่ก็จะเที่ยงแล้ว”

คนที่อยู่ในห้องเอ่ยเสียงดุ ผมเดินไปยังโต๊ะทำงานตัวเองแล้ววางกล่องกระดาษลังลงบนโต๊ะ ยกข้อมือซ้ายดูเข็มนาฬิกาบนหน้าปัดที่บอกเวลาสิบโมงครึ่ง ไม่เข้าใจสักนิดว่ามันใกล้เที่ยงตรงไหน

“ทำไมโต๊ะผมถึงต้องมาตั้งใกล้โต๊ะบอสขนาดนี้ครับ ผมขอขยับไปนั่งตรงมุมห้องได้ไหม”

ทันทีที่ผมถามในสิ่งที่ค้างคาใจออกไป ร่างสูงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หนังตัวใหญ่ก็ลุกเดินมาหาผมอย่างรวดเร็ว บอสเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าก่อนจะโน้มตัวเข้าใกล้ผมมากขึ้น ทำให้ผมต้องขยับออกห่างจนสะโพกชนกับขอบโต๊ะและไม่สามารถเลี่ยงไปไหนได้อีก

“งานแรกของคุณวันนี้คือ ไปทำความเข้าใจหน้าที่เลขาให้ถี่ถ้วนก่อน คุณจะได้ไม่ต้องถามคำถามแบบเมื่อกี้นี้กับผมอีก”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • บอสครับอย่าทำผม   ตอนพิเศษ (3) พี่ทำเอง (nc)

    ร่างกายของผมถูกถอดเสื้อผ้าออกไปอย่างรวดเร็วสกิลด้านนี้ของพี่วินช่ำชองมากขึ้นทุกวัน ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีผมก็เหลือเพียงร่างเปลือยเปล่า เสียงลมหายใจหอบกระเส่าดังกว่าทุกครั้ง เวลาพี่วินเมาเขาดูเหมือนคนหื่นกระหายที่ไม่เคยทำเรื่องแบบนี้เลย ทั้งที่ความจริงแล้วเขาช่ำชองเป็นที่สุดและครั้งนี้เขาก็เริ่มต้นด้วยการ หยิบเจลหล่อลื่นออกมาจากลิ้นชักใต้โต๊ะเครื่องแป้งแล้วเดินมุ่งมาหาผมที่นอนหงายอยู่บนเตียงท่าทีคลานเข่าเข้ามาหาก่อนจะคร่อมร่างผมไว้ไม่ต่างจากเสือร้ายที่กำลังจะล่าเหยื่อ สายตาของเขามองผมราวกับว่าสามารถกลืนผมลงไปได้ทั้งร่าง และไม่บ่อยนักที่ผมจะได้เห็นเขาในมุมนี้“คืนนี้ภัทน่าเอากว่าทุกคืนเลย รู้ตัวไหมครับ”เขาก้มลงมากระซิบข้างหูผมเบา ๆ ก่อนจะใช้ปลายลิ้นลากไล้ตั้งแต่ซอกคอของผมลงมาตามลำคอ แล้วกลับไปส่งมอบรสจูบแสนหวานอย่างช้า ๆเราจูบกันเนิ่นนานและค่อย ๆ เพิ่มระดับความเร่าร้อนมากขึ้น สอดลิ้นแลกเปลี่ยนความหวานในโพรงปากของกันและกันอย่างโหยหา ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จาง ๆ ที่ยังอยู่ในตัวทำให้ความต้องการของผมถูกปลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนตอนนี้ผมรู้สึกปวดหน่วงกลางกายขึ้นมาในทันที“พะ พี่วิน”ผมเอื้อมม

  • บอสครับอย่าทำผม   ตอนพิเศษ (2) คนเมามันน่าเอา

    ความสัมพันธ์ของผมกับพี่วินยังคงเป็นไปด้วยดีถึงแม้เราจะมีงอนกันบ้างโกรธกันบ้าง แต่ผมคิดว่ามันคือความธรรมดาของชีวิตคู่แหละครับ และสุดท้ายเราสองคนก็รู้ดีว่า ต่อให้จะทะเลาะกันขนาดไหนเราไม่มีวันปล่อยมือกันไปแน่นอน และเราก็จะกลับมาคุยดีกันเหมือนเดิมภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง เพราะถึงยังไงก็ต้องทำงานด้วยกันอยู่แล้วอย่างเช่นวันนี้ที่กำลังมีคนหน้าบึ้งอีกแล้ว เหตุเพราะเห็นผมไปสอนงานให้น้องใหม่ที่เพิ่งมาทำงานวันนี้วันแรก“ปั้นหน้ายักษ์นาน ๆ ระวังหน้าเหี่ยว เดี๋ยวแก่เร็วนะครับ”ผมอดไม่ได้ที่จะเอ่ยแซวแล้วเดินไปโอบล้อมรอบคอพี่วินเอาไว้จากด้านหลัง“พี่ไม่กลัวแก่ครับ แต่พี่ไม่ชอบให้ภัทไปใกล้ใคร ไปดีกับคนโน้นคนนี้เดี๋ยวก็มีคนมาชอบภัทอีก”“โห คิดไปโน่น ที่ผ่านมามีใครได้เข้าใกล้ภัทบ้างล่ะ แค่มาเฉียดพี่ก็ขู่ฟ่อ ๆ แล้ว”“ภัท พี่ไม่ใช่หมา !”ใบหน้าเง้างอนชัดเจนยิ่งกว่าเดิม พี่วินกอดอกแน่น หายใจฟึดฟัดเหมือนเด็กเอาแต่ใจที่โดนแย่งของเล่น ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนนิสัยของเขาก็ไม่เคยเปลี่ยน“โอ๋ ๆ ภัทไม่ได้ว่าพี่เป็นหมาสักหน่อย แค่จะบอกว่าพี่หวงภัทขนาดนี้ ใครจะกล้ามายุ่งกับภัทครับ และภัทก็ไม่มีทางไปยุ่งกับใครแน่น

  • บอสครับอย่าทำผม   ตอนพิเศษ (1) คนนี้ของผม

    “เตรียมทุกอย่างพร้อมแล้วใช่ไหม”พี่วินหันมาถามขณะที่ผมกำลังจะเคลื่อนรถออกจากบริษัท วันนี้เราสองคนต้องไปต่างจังหวัดเนื่องจากมีสาขาเปิดใหม่พี่วินเลยรับหน้าที่ไปดูแลการเปิดสาขาใหม่วันแรก โดยวันนี้เราจะลงใต้ไปจังหวัดชุมพรด้วยกัน“ทุกอย่างพร้อมแล้วครับ ทั้งเอกสารแล้วก็กระเป๋าเสื้อผ้า”“เยี่ยมมาก เป็นทั้งเลขาเป็นทั้งแฟน ทำทุกอย่างโดยไม่บกพร่อง ไตรมาสหน้าพี่จะปรับเงินเดือนเป็นห้าแสนดีไหม”“หึ เว่อร์มาก”ผมหลุดขำออกมา แต่เมื่อหันไปมองหน้าพี่วิน ผมรู้ว่าเขาคิดจริงและคงทำจริงได้ไม่ยาก เห็นแบบนั้นเลยต้องเอ่ยห้ามไว้ก่อน“แค่เดือนละแสนห้าผมก็เกรงใจคนอื่นจะแย่ ถ้าปรับเป็นเดือนละห้าแสนพ่อพี่คงเรียกผมไปคุยแน่”“เขาไม่เรียกหรอก เขาโอนกรรมสิทธิ์สาขาสามให้พี่เต็มตัวแล้ว”“ถามจริง”ผมแทบไม่เชื่อหูที่ได้ยินข่าวดีสุด ๆ ในวันนี้ แต่จะว่าไปก็คงไม่แปลกหรอก เพราะที่ผ่านมาพี่วินก็ตั้งใจและทุ่มเทกับสาขาสามเป็นอย่างมาก นับตั้งแต่พี่วินเข้าไปดูแล ผลประกอบการก็ดีขึ้นและเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งลูกค้ายังบอกต่อและเอ่ยคำชมไม่หยุดหย่อนถึงการบริการและความเอาใจใส่ของพนักงาน ส่วนเรื่องมีตติ้งยิ่งไม่ต้องพูดถึง ในทุกเดือนพ

  • บอสครับอย่าทำผม   บทที่ 35 ผมรักพี่นะ

    “พี่วินจะเอาชุดพวกนี้ไปทั้งหมดจริง ๆ เหรอครับ”ผมหันไปถามคนที่นอนสบายใจเฉิบอยู่บนเตียง ตอนนี้เราสองคนกำลังจัดกระเป๋าเตรียมไปมีตติ้งภาคเหนือ แต่ถ้าจะพูดให้ถูกต้องพูดว่าเป็นผมคนเดียวมากกว่าที่กำลังจัดกระเป๋าทั้งของผมและของพี่วิน ส่วนอีกฝ่ายน่ะ เอาแต่นอนมองผมทำโน่นทำนี่ เอามือเท้าคาง กลิ้งตัวไปมาบนเตียงอย่างอารมณ์ดี“ใช่แล้ว เอาไปหมดนั่นเลย รวมสกินแคร์ในขวดเล็ก ๆ ที่พี่เตรียมไว้บนโต๊ะหน้ากระจกด้วยครับ”ผมหันไปมองสกินแคร์ที่พี่วินบอกก็ได้แต่ส่ายหน้า นี่เขาลืมไปรึเปล่าว่าเราไปแค่ไม่กี่วัน เขาเอาทุกอย่างไปหมดราวกับจะย้ายบ้านยังไงอย่างนั้น“แล้วเสื้อคู่ กางเกงคู่ พี่จะเอาไปทุกชุดเลยเหรอ”“ครับ ทุกชุดเลย ของภัทก็ด้วย เราจะได้ใส่เหมือนกันไง”“เอาจริงดิ?”“อื้ม ตามนั้น”พี่วินยักคิ้วยียวน เขายังคงนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง มองหน้าผมเป็นครั้งคราว รอยยิ้มบนใบหน้าเกิดขึ้นแทบตลอดเวลาที่ได้ดูผมจัดกระเป๋าให้เขาและเตรียมข้าวของทุกอย่างที่จำเป็นให้ไม่แน่ใจเหมือนกันว่านอกจากหน้าที่เลขาและคนรักแล้ว ตอนนี้ผมพ่วงหน้าที่แม่บ้านไปอีกตำแหน่งด้วยรึเปล่า แต่ไม่ว่าจะหน้าที่ไหนผมก็เต็มใจครับ เพราะผมรักเขา รักมากที

  • บอสครับอย่าทำผม   บทที่ 34 มีคนงองก็ต้องง้อ

    ผมกับภัทเป็นแฟนกันครับ แจ้งให้ทราบ เผื่อใครยังไม่ทราบ ถ้าทราบแล้วก็อยากให้ทราบอีก“พี่วิน พี่ส่งข้อความอะไรไปในไลน์กลุ่มพนักงานเนี่ย”ผมเอ่ยถามหลังจากที่เห็นข้อความแจ้งเตือนในกลุ่มไลน์พนักงาน และตอนนี้เราสองคนกำลังทานมื้อเที่ยง ก่อนจะกลับไปบริษัท“เปิดตัวไงครับ พี่อยากทำอะไรแบบนี้มาตั้งนานแล้ว”“แบบนี้?”“อื้ม ใช่ พี่อยากประกาศให้โลกรู้ อยากบอกทุกคนว่าภัทเป็นแฟนพี่ ในที่สุดก็ได้ทำตามใจสักที”“ต้องเล่นใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอ กรุปไลน์บริษัทมีพนักงานตั้งเยอะแยะนะพี่ อีกอย่าง วันก่อนพี่ก็บอกพนักงานทุกคนไปแล้วรอบนึงนี่นา”“แล้ว?”คนตรงหน้ามองผมด้วยสีหน้ายียวนกวนบาทาเป็นอย่างมาก หากไม่ติดว่าผมรักเขามากผมอยากจะเอื้อมมือไปเขกกบาลเขาสักทีเดี๋ยวนี้เลย“ก็ไม่แล้วยังไงหรอก ผมแค่ไม่ชิน แต่ถ้าพี่สบายใจที่จะประกาศเรื่องของเรากับใคร ๆ ก็แล้วแต่พี่ครับ”พูดจบผมก็ก้มหน้ากินข้าวต่อ ส่วนอีกฝ่ายก็นั่งหัวเราะชอบใจ ไม่รู้เลยว่าหลังจากนี้พี่วินจะมีท่าทีหรือการกระทำอะไรแปลก ๆ ตามมาอีกรึเปล่า เพราะเขาดูมีความสุขซะเหลือเกินที่เราสองคนไม่ต้องปิดบังสถานะอีกต่อไปแล้วและหลังจากที่ผมกับพี่วินกลับมาบริษัท ทุกอย่างก็เป็นไ

  • บอสครับอย่าทำผม   บทที่ 33 มีอะไรที่ฉันยังไม่รู้รึเปล่า

    พ่อของพี่วินสั่งให้ทุกคนออกไปจากห้องประชุม แม้แต่พี่วินเองก็ตาม แม้ว่าเขาจะพยายามขออยู่ข้าง ๆ ผม แต่พ่อเขาก็ไม่ยอม ดูเหมือนว่าเรื่องที่เขาอยากคุยกับผมจะเป็นเรื่องซีเรียสขนาดหนัก ถึงขั้นไม่ยอมให้ใครอยู่ในห้องเลย สุดท้ายพี่วินเลยต้องจำยอมออกจากห้องไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ตอนนี้เลยมีแค่ผมและผู้ก่อตั้งองค์กรอยู่ในห้องประชุมกว้างขวาง ทั้งห้องเงียบสนิท แม้แต่เสียงของเครื่องปรับอากาศยังไม่มีให้ได้ยิน หัวใจของผมเต้นเร็วและแรงจนแทบจะหลุดออกมาอยู่แล้ว เดาไม่ออกเลยว่าเขามีเรื่องสำคัญอะไรจะคุยกับผมผมที่เป็นแค่พนักงานธรรมดา ๆ คนหนึ่งเท่านั้น“ฉันติดตามการทำงานของเธออยู่ตลอดนะ เป็นพนักงานที่อายุงานน้อยที่สุดในบริษัท แต่กลับทำผลงานได้ดีเยี่ยม อีกทั้งยังได้รับคำชมจากลูกค้าหลายคนเรื่องของการบริการ ที่ฉันรู้เพราะคำชมพวกนั้นส่งตรงมายังเว็บเพจของบริษัทที่ฉันคอยดูอยู่ตลอด”ผมได้แต่ก้มหน้านิ่ง สมองกำลังประมวลว่าเขากำลังเอ่ยชมผมอยู่รึเปล่า ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนสมองเบลอและอ๊องมาก อาจเพราะตื่นเต้นที่เขาเรียกคุยส่วนตัว และผมก็ฟังอะไรแทบไม่รู้เรื่องเลย“ขอบใจเธอมากที่มาช่วยงานวิน แต่มีเรื่องนึงที่ฉันอยากรู้”“ครับท

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status