Home / โรแมนติก / บอสเย็นชากับเลขาหน้าใหม่ / ตอนที่ 2 โดนไล่ออกจากบ้าน

Share

ตอนที่ 2 โดนไล่ออกจากบ้าน

last update Last Updated: 2025-10-01 19:24:17

            หญิงสาวร่างเพรียวที่ตอนนี้เดินเป็นซากไร้วิญญาณอยู่ในตลาดสดไม่ห่างใกล้จากหอพักของเธอมากนัก เพราะวันนี้เธอต้องซื้อของเข้ามาเมื่อมันเป็นช่วงสิ้นเดือนพอดี พี่ชายก็เริ่มบ่นแล้วว่าไม่ค่อยมีอะไรให้ทำอาหารเลย

            โดยปกติเธอเป็นคนซื้อของนิดเดียวสามารถอยู่ได้เป็นเดือน ๆ แล้ว แต่พอมีสมาชิกเพิ่มมาอีกสองคนก็เลยจำเป็นต้องซื้อของเพิ่มแบบทวีคูณขึ้นไปอีกเพื่อจะได้มีทานกันให้เพียงพอ คนที่ต้องหอบสังขารตื่นแต่เช้าไปทำงานก็ต้องแบกสังขารอันเหนื่อยล้ากลับมาพร้อมกับข้าวของในมือ ทั้งผักสด เนื้อสดและอีกมากมายนำมาแช่ไว้ในตู้เย็น

             ประตูลิฟต์บานเก่า ๆ เปิดออกมาที่ชั้นของเพลงขวัญ หญิงสาวก้าวเท้าออกจากลิฟต์แต่ยังไม่ทันจะได้เดินเลี้ยวไปฝั่งห้องพักของตัวเอง ร่างของหญิงชราเจ้าของตึกที่เธออาศัยเช่าอยู่ก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า

             “เพลงขวัญ ฉันมีเรื่องจะคุยกับหนูหน่อยได้ไหม” ร้อยวันพันปีไม่เคยได้เห็นหน้ากันยกเว้นแต่วันครบกำหนดจ่ายค่าเช่าห้อง วันนี้เจ๊แกมีเรื่องอะไรหรือเปล่าเนี่ย ขอให้เป็นเรื่องดี ๆ หน่อยเถอะนะแค่นี้ชีวิตก็วุ่นวายจนหัวหมุนไปหมดแล้ว

             “ได้ค่ะเจ๊ มีอะไรหรือเปล่าคะ” เธอยิ้มอ่อน ๆ เพราะเจ๊แกเอ่ยพูดมาขนาดนี้ถ้าเธอบอกว่าไม่ว่างคงได้ปลิวออกจากที่นี่แน่นอน

             “ย้ายออกได้ไหมเพลงขวัญ คนร้องเรียนว่าห้องเธอเด็กร้องเสียงดังมาก ทำเอาคนที่อาศัยอยู่ในหอไม่ได้หลับได้นอนกัน” สิ้นประโยคนั้นของหญิงชราตรงหน้าที่พูดบอกเธอด้วยสีหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไร หูของเพลงขวัญเหมือนโดนคนเอามือมาปิดเพราะเธอไม่ได้ยินเสียงจากสิ่งรอบตัวอีกเลย มันวิ้งไปหมด

             “ถะ ถึงขั้นต้องออกเลยเหรอคะ” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ มือไม้อ่อนแรงไปหมด ข้าวของที่ถืออยู่ก็จะหล่นแหล่ไม่หล่นแหล่ เพลงขวัญทั้งเหนื่อยจากงานและพอมาเจอเรื่องแบบนี้อีก ยอมรับเลยว่าอยากจะหายไปจากตรงนี้สักพัก

            “ใช่ คนในหอเขาร้องเรียนมาว่าเสียงเด็กจากห้องของหนูร้องดังมาก ตอนกลางคืนทำเอาคนในหอไม่ได้หลับได้นอนเลย” เพลงขวัญเองก็เถียงไม่ได้เพราะเธอเองก็ได้ยินอยู่ทุกคืน และเธอก็มั่นใจว่าปกรณ์เองก็ไม่อยากจะให้ลูกร้องเสียงดังรบกวนคนอื่นตอนกลางคืนหรอกแต่จะให้ทำยังไงได้

             มันเป็นสิ่งที่เกินควบคุมนี่.....

             สีหน้าของเธอหม่นลงอย่างเห็นได้ชัดเพราะเธอขอเวลาเจ๊แกในการหาที่พักใหม่ก่อนจะย้ายออก ร่างเพรียวเดินเหมือนคนไร้วิญญาณมาหยุดอยู่หน้าห้องพักของตนเอง เธอไม่อยากจะพูดเรื่องนี้ให้พี่ชายฟังเพราะปกรณ์ก็คงไม่สบายใจมาก ๆ ที่มาทำให้เธอเดือดร้อน

              ลมหายใจก้อนใหญ่ถูกสูดเข้าปอดก่อนมือบางจะบิดลูกบิดเปิดเข้าไปในห้องด้วยท่าทางปกติไม่ได้แสดงสีหน้าวิตกกังวล ยิ่งเปิดเข้ามาเห็นภาพของชายร่างสูงผอมกำลังอุ้มลูกชายพาดบ่าพร้อมเดินกล่อมให้นอนเนื่องจากสองสามวันที่ผ่านมาเจ้าตัวเล็กไม่สบาย เพลงขวัญรู้สึกคิดถูกแล้วที่ไม่บอกเรื่องที่เธอเพิ่งได้รับรู้มาว่ามีคนในตึกร้องเรียนให้กับพี่ชายฟัง หญิงสาวสะบัดใบหน้าเอาเรื่องวุ่น ๆ ออกจากหัว

              “กลับมาแล้วค่ะ” น้ำเสียงสดใสของเธอเอ่ยเสียงดังให้สองพ่อลูกได้ยิน รอยยิ้มที่ดูดีกว่าวันแรกที่พบเจอกันของปกรณ์หันมายิ้มให้กับเธอ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองลงไปที่มือสองข้างของน้องสาว ขายาวก้าวเดินเข้ามาใกล้และคว้าเอาของที่เพลงขวัญซื้อมาออกจากมือไปเก็บ

             ทั้ง ๆ ที่มืออีกข้างก็ไม่ได้วางหลานชายของเธอลงแต่ปกรณ์ก็ไม่อยากจะให้เธอถือของหนักจึงอาสามาถือให้และเอาไปเก็บ หญิงสาวที่กลับมาก็อยากจะอาบน้ำไล่ความเครียดที่สะสมและความเหนื่อยล้าของร่างกายจึงปลีกตัวเข้าห้องน้ำจัดการธุระ

             ใช้เวลาไปไม่นานมากเพลงขวัญก็เดินออกจากห้องน้ำก่อนจะเห็นหลานชายนั่งดูการ์ตูนที่พี่ชายเธอเปิดทิ้งเอาไว้เพราะจัดเตรียมอาหารอยู่ เด็กชายที่ตอนนี้ดวงตาสีมะละกอสุกก็เริ่มปรือ ๆ แล้วสงสัยคงเพลียยา

              “ปกป้องครับ” เด็กชายวัยขวบสามเดือนพอจะรู้ชื่อของตัวเองก็หันมองเธอที่เดินมานั่งข้าง ๆ หลานชาย มือบางเอื้อมไปสัมผัสบริเวณหน้าผากของหลานเพราะอยากจะรู้ว่าเจ้าตัวเล็กยังตัวร้อนอยู่หรือเปล่า

             “ตัวยังร้อนอยู่เลยพี่กร” ชายร่างสูงที่ตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารหันมามองเธอเมื่อได้ยินสิ่งที่เพลงขวัญพูดขึ้น รอยยิ้มอ่อน ๆ ของปกรณ์ส่งให้เพลงขวัญซึ่งเธอก็เดาเอาเองว่าพี่ชายของเธอก็คงรู้อยู่แล้วว่าลูกชายยังไม่หายดี

             “เออ จริงสิพี่กรฉันว่าจะหาบ้านเช่าน่ะ”

             “จะได้มีที่ให้ปกป้องวิ่งเล่นด้วย ดีไหม” เพลงขวัญที่ไม่รู้ว่าจะเอ่ยบอกพี่ชายยังไงหากต้องพาย้ายออกจากที่นี่กะทันหันจึงได้เอ่ยคำเท็จเพื่อให้ไม่น่าสงสัยและพี่ชายก็จะได้ไม่ต้องรับรู้เรื่องที่พวกเราถูกเชิญออกจากที่นี่

             “มันแพงนะเพลง จะไหวเหรอ” คนที่ไม่ได้หันมาคุยกับเธอเอ่ยขึ้น มือหนาก็หั่นเนื้อหมูเพราะจะทำเมนูหมูทอดให้ทาน ดวงตาสีน้ำตาลอัลมอนด์จ้องมองแผ่นหลังนั้นก่อนจะคิดในใจว่าเธอก็รู้ว่ามันแพงแต่จะให้ทำไงได้ก็โดนเชิญออกอะ

             ไม่รู้ว่าจะบอกยังไงเลยหลอกอยู่นี่ไง ใบหน้าย่นเล็กน้อยของเพลงขวัญปรากฏขึ้นลับหลังของพี่ชายแต่กับถูกจับจ้องจากดวงตาสีมะละกอสุกแทน ดวงตาใสแป๋วแต่ก็เหมือนจะปิดเพราะเด็กชายกำลังง่วง

             “นอนไหมครับ” คอน้อย ๆ เอียงไปทางซ้ายเมื่อสงสัยว่าที่เธอพูดมันหมายความว่าอะไร แต่ท่าทีแบบนี้มันช่างน่าฟัดเสียจริง ๆ เลย ไม่คิดว่าหลานของตัวเองจะน่ารักได้มากขนาดนี้

              “ฝากกล่อมปกป้องนอนหน่อยนะเพลง ยาน่าจะออกฤทธิ์แล้ว” เหมือนคนที่ทำอาหารจะได้ยินเธอพูดกับปกป้องจึงไหว้วานให้เธอพาเจ้าตัวน้อยนอนก่อน ซึ่งเพลงขวัญได้เห็นพี่ชายเลี้ยงดูหลานชายมาตลอดสองเดือนก็พอจะรู้วิธีจึงสามารถกล่อมหลานนอนได้อย่างง่ายดาย

             หลังจากที่เพลงขวัญพาหลานชายเข้านอนแล้ว พี่ชายของเธอก็ทำอาหารเสร็จพอดี สองคนพี่น้องจึงได้โอกาสทานอาหารระลึกย้อนไปในวัยเด็ก รอยยิ้มและบทสนทนาของเพลงขวัญ

และปกรณ์เล่าถึงเรื่องราวในวัยเด็กพร้อมกับทานอาหารมื้อเย็นด้วยความสุข

             “วันนี้พี่กินข้าวอร่อยที่สุดเลย” ในขณะที่ปกรณ์กำลังล้างจานอยู่ก็เอ่ยขึ้นมา หญิงสาวที่นอนหลับตาอยู่ข้าง ๆ หลานชายก็ลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินประโยคของปกรณ์

             “ตั้งแต่แต่งงานออกไป วัน ๆ ทำแต่งาน หาเงินเท่าไรก็ไม่ค่อยพอ”

             “...”

             “เหนื่อยก็เหนื่อย กลับบ้านมาก็ไม่มีใครรอกินข้าวด้วย”ประโยคตัดพ้อของชายร่างสูงทำให้เพลงขวัญยิ่งไม่กล้าที่จะบอกกล่าวเรื่องที่เจ๊เจ้าของตึกบอกมาเลย ชีวิตของพี่ชายเธอเจออะไรมาบ้างก็ไม่รู้

             สำหรับเธอชีวิตตอนนี้ของปกรณ์คงดีที่สุดตั้งแต่มีชีวิตอยู่มาแล้วใช่ไหม รอยยิ้มที่ยิ้มออกมาผ่านสายตาและการได้อยู่ใกล้ลูกชายคนเดียว เธอไม่อยากจะผลักไสไล่ส่งพี่ชายเธอไปไหนเลย อยากให้อยู่ด้วยกันแบบนี้ เธอเองก็ไม่เหงาและก็มีความสุขที่กลับมามีคนรอทานข้าวด้วย

            “อะไรที่มันไม่น่าจำก็ไม่ต้องจำหรอกพี่กรตอนนี้พี่มีฉันนะ”

            “ฉันที่รอให้พี่มานั่งทานข้าวด้วยทุกมื้อนะ”

            ปกรณ์หันมองน้องสาวที่ยิ้มหวานอยู่พร้อมกับตบตูดน้อย ๆ ของลูกชายเขา ภาพที่มีแต่คนที่รักเขาทำให้ปกรณ์ยิ้มกว้างพร้อมน้ำตาที่เอ่อคลอเบ้าแทบทะลัก เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาภาพนี้มันชั่งหายากเสียเหลือเกิน

            “เดี๋ยวสัปดาห์หน้าฉันหยุด เราไปหาบ้านเช่ากันนะ”

            “จะได้ย้ายออกไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีกว่านี้ ปกป้องเองก็จะได้มีพื้นที่วิ่งเล่นด้วย” เพลงขวัญจ้องมองพี่ชายพร้อมกับพยักหน้าเป็นการบอกว่ามีกันและกันอยู่นะ

             ผ่านไปสี่ชั่วโมงตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว เข็มนาฬิกาบนหัวนอนหมุนวนบ่งบอกเวลาห้าทุ่มกว่า ๆ สองพ่อลูกข้าง ๆ นั้น

หลับสนิท ต่างจากเพลงขวัญหญิงสาวที่นอนไม่หลับเพราะเธอกำลังคิดอยู่ว่าจะไปหาบ้านเช่าที่ไหน หายังไงให้ราคาไม่แพงมากเกินกำลัง ค่าใช้จ่ายของเธอเองก็เยอะมากอยู่แล้ว

             มือบางที่วางอยู่บนอกกุมเข้าหากันสองมือ ดวงตาสีน้ำตาลอัลมอนด์มองผ่านความมืดเมื่อต้องการครุ่นคิดว่าจะเอายังไงกับชีวิตต่อจากนี้ เพลงขวัญคิดเอาไว้ว่าเธออยากจะเพิ่มรายได้สักหน่อยตอนนี้เธอเองก็ทำงานเป็นพนักงานห้างสรรพสินค้าธรรมดา

             เงินเดือนก็ไม่ได้มากมายถึงพอมีเงินเก็บแต่มันก็ไม่ได้เยอะขนาดนั้น เธอคิดว่าถ้าหาบ้านเช่าได้แล้วเธอจะออกไปหางานใหม่ที่พอจะมีฐานเงินเดือนที่สูงกว่านี้หน่อย

             “อึก อื้อ” เสียงร้องในลำคอของเด็กชายข้าง ๆ กายเธอดังเข้ามาในหูทำให้หญิงสาวที่ไม่ได้หลับหันไปมอง ตั้งแต่เป็นไข้กลางดึกเจ้าตัวเล็กก็ไม่ค่อยร้องกลางดึกเท่าไรเพราะเพลียจากฤทธิ์ยาที่ให้ทานก่อนนอน

             มือบางผละออกจากอกเอื้อมไปเกลี่ยหน้าผากของเด็กชายปกป้อง จะรู้ไหมนี่ว่าเสียงของตัวเองทำให้น้าแบบเธอต้องหาที่อยู่ใหม่ให้พวกเรา เธอหรี่ตาด้วยความหมั่นไส้เพราะเด็กน้อยไม่รู้เรื่องอะไรเลยแต่สามารถทำให้เธอวุ่นวายได้น่าดูเลยเหมือนกัน

             “.....ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

             “น้าไม่ทิ้งหนูกับพ่อของหนูแน่ ๆ”

             คำมั่นสัญญาเอ่ยออกมาท่ามกลางความเงียบอย่างแผ่วเบาเพราะเพลงขวัญไม่มีทางทิ้งพี่ชายและหลานแน่ ๆ ไม่คิดที่จะทิ้งด้วย มาด้วยกันแล้วก็ต้องไปด้วยกันลำบากแค่ไหนก็จะทุกข์สุขไปพร้อม ๆ กัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บอสเย็นชากับเลขาหน้าใหม่   ตอนพิเศษ 2

    ใบหน้าเคร่งเครียดของร่างสมส่วนที่กำลังนอนไม่หลับทามกลางความมืดของห้อง เตชินทร์เขากำลังเป็นกังวลว่าถ้าเกิดวันหนึ่งเขาเป็นอะไรขึ้นมาเพลงขวัญและลูกจะลำบากไหม เพราะวันนี้มันมีอุบัติเหตุเล็กน้อยจากการที่มีรถมาชนรถที่เขานั่งขณะเดินทางกลับบ้าน ทำให้เตชินทร์เริ่มต้องคิดแล้วว่าเขานั้นควรที่จะต้องทำอะไรสักอย่างแล้วเรื่องทรัพย์สินมรดกทั้งหลาย ถ้าเป็นอะไรไปก็จะได้ไม่ลำบากต่อเพลงขวัญและลูกสองคน.... มือหนาคว้าโทรศัพท์ข้างหัวเตียงมาไลน์หาทนายเพื่อให้เตรียมเอกสารเข้ามาคุยกับเขาที่บ้านในวันพรุ่งนี้ เมื่อคิดออกแล้วก็อยากจะจัดการให้เร็วที่สุดเกรงว่าเมื่อไปทำงานอะไรมันก็เกิดขึ้นได้ หลังจากไลน์หาและจัดการทุกอย่างเสร็จ ร่างสมส่วนตะแคงไปอีกฝั่ง ใบหน้าของหญิงสาวที่เขารักมาก ๆ กับลูกชายตัวน้อยที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา ส่วนแผ่นหลังที่แนบอกเขาอยู่ก็คือลูกที่เขารักมาก ๆ คนหนึ่ง ต่อให้ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถขาดได้จริง ๆ ครอบครัวของเราจะขาดใครไปไม่ได้ “ฉันจะไม่มีวันทำให้เธอและลูกลำบา

  • บอสเย็นชากับเลขาหน้าใหม่   ตอนพิเศษ 1

    แผ่นหลังบางของร่างเพรียวกำลังยืนผัดอาหารอยู่ในห้องครัว แขนแกร่งของคนเป็นสามีเดินเข้ามาสวมกอดจากทางด้านหลังจนเพลงขวัญต้องหันกลับไปมองด้วยความมึนงงว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นอะไร ทำไมอยู่ ๆ ถึงได้ลุกมาแต่เช้าแบบนี้ “นอนเต็มอิ่มแล้วเหรอคะ” เพลงขวัญอมยิ้มพร้อมกับหันไปเอ่ยถามคนเป็นสามีด้านหลัง ใบหน้าคมดุที่ซุกอยู่บริเวณลำคอขาวของเธอ เพลงขวัญก็ได้แต่ส่ายหัวเบา ๆ “ถ้าคุณตื่นแล้วก็ไปปลุกปกป้องให้หน่อยนะคะ พาลูกอาบน้ำแต่งตัวได้ยิ่งดี” เตชินทร์เงยหน้าก่อนเอาคางเกยไหล่ของภรรยาพร้อมก้มจมูกเข้าสูดดมความหอมจากภรรยาตัวเอง “รับทราบครับ” ว่าจบร่างสมส่วนก็เดินขึ้นไปบนห้อง เพลงขวัญได้แต่ผัดข้าวต่อและส่ายหน้าเมื่อปวดหัวกับคนเป็นสามี ทางด้านของเตชินทร์ก็อยู่ในโอวาทของเพลงขวัญทุกอย่าง ไม่ว่าภรรยาจะสั่งงานอะไรสามีคนนี้ไม่เคยเอ่ยปากปฏิเสธ อะไรทำให้เขากลายเป็นคนกลัวเมียขนาดนี้เนี่ย มือหนาเปิดประตูห้องนอน สายตาคมมองลูกชายทั้งสองด้วยความเอ็นดูกับใบหน้าที่พอหลับแล้วน่ารักขึ้นมาเป็นร้อยเท่า แต่ตอนนี้ตื่นนี่ก็อีกเรื่องโดยเฉพาะไอ้เจ้

  • บอสเย็นชากับเลขาหน้าใหม่   ตอนที่ 35 เห่อลูก

    สามเดือนผ่านไป... นับตั้งแต่วันที่คลอดลูกชายคนเล็กออกมาเพลงขวัญก็ได้ค้นพบว่าเตชินทร์นั้น เป็นคนเห่อลูกมาก ๆ เลย ดวงตาสีน้ำตาลมองดูเหล่าข้าวของเครื่องใช้เด็กอ่อนที่เต็มไปหมดจนไม่มีทางจะเดิน “เฮ้อ” เสียงถอนหายใจของคุณแม่มือใหม่ที่จะมาเอาของเล่นไปให้ลูกชายคนโตก็ต้องเท้าเอว เพราะเส้นทางกว่าจะไปถึงกล่องของเล่นก็ต้องผ่านเหล่าของใช้ที่คุณพ่อมือใหม่หอบมาจากห้างฯ ของตัวเอง เธอคิดว่าแค่นี้ยังไม่สะใจคุณชายเขาเลยนะนั่น เพราะถ้าจะให้ชอบใจเขาจริง ๆ คงแบกมาทั้งชั้นขายของเด็กอ่อนอะดูท่าทางแล้ว “แม่ครับ หยิบได้ไหม” เด็กชายปกป้องยืนมองผู้เป็นแม่ด้วยแววตาเป็นกังวลเพราะตนอยากได้ของเล่นในห้องนี้ พ่อไม่อยู่ก็เลยต้องขอให้แม่เอาให้ “เดี๋ยวแป๊บหนึ่งนะปกป้องแม่ขอเวลาคิดก่อนว่าจะเดินไปยังไง” เพลงขวัญใช้ท่าการเดินแบบบัลเล่ห์ ไม่ใช่เคยเรียกหรอกนะแต่ใช้เท้าเขย่งเข้าไปเรื่อย ๆ จนถึงกล่องของเล่นลูกชาย “อึบ อะแม่เอามาให้แล้วครับ จุ๊บ” ทุกครั้งเวลาพูดคุยอะไรกับปกป้องเธอจะจบท้ายด้วยการจุ๊บหน้าผากลูกเสมอเพื่อให้เขารับรู้ว่าเธ

  • บอสเย็นชากับเลขาหน้าใหม่   ตอนที่ 34 ทำหน้าที่สามีที่ดี

    ภายในคฤหาสน์เครือห้างสรรพสินค้าใหญ่ระดับประเทศ ตอนนี้ชุลมุนวุ่นวายไปหมดเพราะลูกสะใภ้คนเดียวของบ้านกำลังจะคลอดหลานคนแรกของบ้าน ใบหน้าสวยหวานที่ตอนนี้เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ มือบางกำชายเสื้อของคนเป็นสามีแน่น เธอเจ็บท้องมาก ๆ เลยตอนนี้ ท้องฟ้าที่เริ่มจะเปลี่ยนสีจากแสงสว่างที่ได้รับมาจากดวงอาทิตย์กลับหลายเป็นฟ้าน้ำเงินเข้มเมื่อหมดแสงอาทิตย์ ดีที่เพลงขวัญรู้สึกปวดท้องคลอดช่วงเย็นของวันไม่ได้ปวดกลางดึก “คุณโอเคไหมที่รัก” น้ำเสียงทุ้มต่ำที่เอ่ยออกมาด้วยความกังวลแบบสุด ๆ เพราะเตชินทร์เป็นห่วงทั้งเพลงขวัญและลูกน้อยในท้อง สีหน้าไม่ดีของคนรักทำให้เขารู้สึกเหมือนเจ็บเจียนตาย การหายใจเข้าออกแรงและถี่ของเธอทำเอาเตชินทร์อยู่ไม่เป็นสุข ได้แต่ภาวนาขอให้การคลอดครั้งนี้ผ่านไปด้วยดีเถอะ “อดทนหน่อยนะคะ รักคุณนะ” ประโยคสุดท้ายที่ได้ยินก่อนที่พยาบาลจะเข็นเพลงขวัญเข้าไปในห้องผ่าตัดพร้อมกับกลุ่มคุณหมออีกสามสี่คน เตชินทร์หันกลับมาอุ้มปกป้องจากแม่ของเขา ใบหน้าคมดุเปื้อนคราบน้ำตาเล็กน้อยเพราะมันอดไม่ได้ที่จะร้อง เขากำลังหวาดกลัวเมื่อไม่

  • บอสเย็นชากับเลขาหน้าใหม่   ตอนที่ 33 แพ้ท้องแทนเมีย

    สามเดือนผ่านไป ภายในห้องน้ำที่ตอนนี้มีร่างสมส่วนของเตชินทร์กำลังโก่งคออ้วกแบบเอาเป็นเอาตาย ชายหนุ่มไม่รู้เลยว่ามันเป็นเพราะอะไรเขาถึงได้มีอาการแบบนี้ และมันก็เป็นต่อเนื่องกันมาหลายวันแล้ว “คุณโอเคไหมคะ” มือบางที่ลูบแผ่นหลังสามีอย่างเป็นห่วง เพลงขวัญก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าอาการที่เตชินทร์เป็นมันคืออะไร ชายหนุ่มมักจะตื่นมาอ้วกแบบนี้ทุกเช้าเลย แถมเวลาจะทานอะไรก็จะรู้สึกอาเจียนอยู่ตลอดเวลา ทานได้แค่ของเปรี้ยวและพวกผลไม้ดอง ข้าวปลาอาหารแทบจะแตะไม่ได้จนอดที่จะเป็นห่วงคนรักไม่ได้จริง ๆ “คะ คุณ อึก แหวะ ไปนอนต่อเถอะ” พูดไปก็จะอ้วกไป มือหนาพยายามดันให้ภรรยาที่แบกท้องโตมาลูบหลังให้กลับเข้าไปนอนต่อเพราะตอนนี้ยังเช้ามืดอยู่เลย คนท้องควรที่จะนอนพักผ่อนให้เพียงพอและเขาก็อยากจะให้เพลงขวัญเป็นแบบนั้น อาการแค่นี้เล็กน้อยมากสำหรับเขา ดวงตาสีน้ำตาอัลมอนด์มองคนที่พยายามผลักเธอให้เข้านอน ทำตัวเหมือนจะไม่เป็นอะไรทั้ง ๆ ที่ตอนนี้จะนอนกอดชักโครกอยู่แล้ว เธอควรจะพาสามีไปหาหมอนะ ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ไหวจริง ๆ

  • บอสเย็นชากับเลขาหน้าใหม่   ตอนที่ 32 ขอแต่งงานกลางห้างฯ

    ใบหน้าหงิกงอของเพลงขวัญเพราะเธอนั้นกำลังอ่อนเพลียและเวียนหัวจากอาการแพ้ท้อง หญิงสาวที่ยังดันทุรังทำงานเพราะแค่เธอเห็นคนในห้างฯ วุ่นวายกันไปหมด โดยไม่รู้เลยว่าที่คนอื่นเขาวุ่นจนหัวหมุนกันนั้นเป็นเพราะเธอคนเดียวเลย“ว่าไงครับที่รัก” เสียงที่ดังเข้ามาในหูของเธอทำให้ใบหน้าสวยหวานแต่คิ้วขมวดเข้ากันเงยขึ้นมองชายหนุ่มที่มีตำแหน่งเป็นถึงประธานห้างฯ“บอกให้กลับบ้านไปพักก็ไม่เชื่อ… ทำไมดื้อแบบนี้ครับ” เตชินทร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงก่อนจะมานั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นพร้อมกับเอาใบหน้ามาสัมผัสบริเวณหน้าท้องของเพลงขวัญ“อย่าแกล้งแม่นักสิครับ เห็นไหมแม่เหนื่อยมากแล้วนะ” เพลงขวัญทำสีหน้าเลิ่กลั่กก่อนจะหันซ้ายขวามองดูว่ามีใครมาเห็นไหม เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเตชินทร์ชอบทำแบบนี้ให้คนอื่นเห็นกันนะ“คุณลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยนะ อายคนอื่นเขา” ใบหน้าคมดุเงยขึ้นมองหญิงสาวที่พยายามจะจับไหล่กว้างของเขาให้ลุกขึ้นยืนดี ๆ“คุณจะอายทำไมครับ เราสองคนมีลูกด้วยกันแล้วนะ” เพลงขวัญเองก็รู้เรื่องนั้น แต่ที่ต้องอายเพราะคนในบริษัทยังไม่รู้น่ะสิว่าเธอตั้งท้องทุกคนรู้แค่ว่าเธอกับเตชินทร์คบหากัน แต่เรื่องนี้เธอเองก็ยังไม่กล้าบอกใค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status