Share

ตอนที่ 4 สมัครงาน

last update Last Updated: 2025-10-02 14:53:06

             “ห้างฯ หน้าทางเข้าเขาเปิดรับสมัครตำแหน่งผู้จัดการลองไปสมัครดูก็ได้นะครับ ฐานเงินเดือนถือว่าสูงอยู่ครับ”

             เสียงของอาทิตย์ยังคงดังอยู่ในหัวของเพลงขวัญ หญิงสาวนั่งนิ่ง ๆ อยู่กับพื้นของบ้านเช่าที่เธอเพิ่งได้เซ็นสัญญาเช่าเมื่อไม่นานมานี้ เธอได้เอ่ยบอกกับชายร่างใหญ่เจ้าของบ้านเช่าว่าอยากจะหางานใหม่ทำอีกคนก็เลยเสนอว่าเห็นมีการรับสมัครพนักงานห้างสรรพสินค้าอยู่

             ซึ่งห้างสรรพสินค้าที่เขาพูดมันก็ไม่ได้อยู่ไกลจากบ้านของเธอเท่าไรซึ่งมันก็ดีมาก ๆ เธอเองก็อยากจะไปสมัครเผื่อจะได้ เห็นว่าฐานเงินเดือนสูงด้วยมันจะได้พอใช้จ่ายภายในครอบครัวของเธอ เพลงขวัญนั่งครุ่นคิดอยู่โถงกลางบ้าน

             บ้านเดี่ยวขนาดเล็กไม่ได้ใหญ่โตมากแต่ก็อยู่ได้สบาย ๆ เลยแหละ มีห้องนอนส่วนตัวสองห้องแต่เป็นห้องน้ำรวมในบ้านมันก็ถือว่าโอเคมาก ๆ กับราคาค่าเช่าแค่สามพันบาท ในขณะที่เพลงขวัญมองรอบ ๆ บ้านเสียงฝีเท้าของพี่ชายก็เดินเข้ามาใกล้

            “มากินข้าวได้แล้วเพลงขวัญ” ปกรณ์ที่ได้เตรียมอาหารมื้อเย็นไว้เสร็จเรียบร้อยแล้วจึงเดินเข้ามาบอกกล่าวกับน้องสาว เพลงขวัญได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าและลุกเดินตามพี่ชายไปที่หลังครัว

            ครัวขนาดเล็กมีเคาน์เตอร์ไว้ทำอาหารกับพื้นที่เล็ก ๆ ไว้สำหรับนั่งทาน สองพี่น้องกับหลานชายหนึ่งคนนั่งทานอาหารบนพื้นอย่างเรียบง่าย ยังไม่มีทุนมากพอที่จะไปซื้อโต๊ะทานอาหารหรือพวกโซฟาอะไรทำนองนั้น

            ตอนนี้ยังจะหางานใหม่อยู่เลย เงินก็ต้องประหยัดกันหน่อยเพราะถ้าออกจากงานแล้วไม่ได้งานใหม่เงินเก็บก็ต้องเอามาใช้ดูแลครอบครัวไปพลาง ๆ ระหว่างหางาน ไม่สามารถเอามาใช้จ่ายกับของฟุ่มเฟือยได้จริง ๆ

            “คุยอะไรกับเจ้าของบ้านเหรอ เห็นยืนคุยกันนานเชียว”ระหว่างนั่งทานอาหารเย็นปกรณ์ก็เอ่ยถามน้องสาวที่นั่งอยู่ตรงข้ามซึ่งเพลงขวัญก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ก่อนจะตอบ

            “ก็เรื่องทั่ว ๆ ไปอะพี่ คุณอาทิตย์เขาคิดว่าปกป้องเป็นลูกฉัน” เธอพูดไปขำไปเล็กน้อยก่อนจะมองเด็กน้อยที่นั่งมองเธอกับพ่อตัวเองทานข้าว

           “ชื่ออาทิตย์เหรอ” ปกรณ์จ้องมองพร้อมถาม หัวที่พยักขึ้นลงของเพลงขวัญเป็นคำตอบทำให้เขาพยักหน้าส่งกลับ

           “ฉันบอกเขาว่ากำลังหางานใหม่ทำเขาเลยแนะนำให้ไปสมัครงานห้างฯ หน้าปากทางบ้านอะพี่กร” เพลงขวัญบอกกล่าวกับพี่ชายเพื่อให้อีกคนเป็นสมองให้และช่วยกันคิดว่าดีหรือเปล่า แต่ในใจเธอลึก ๆ ก็อยากจะลองเปลี่ยนงานดูเพราะงานที่ทำอยู่เงินเดือนก็น้อย ไม่ค่อยพอกินเท่าไร

           “ก็ดีเหมือนกันนะ อยู่ใกล้ ๆ บ้านด้วย” รอยยิ้มกว้างเผยออกมาเมื่อพี่ชายเห็นด้วยก่อนจะพยักหน้าดีใจ ปกรณ์เองก็

อยู่กับน้องมานานจึงพอรู้ว่าเพลงขวัญทำงานเป็นแค่พนักงานห้างสรรพสินค้าปกติเงินเดือนก็ไม่ได้มากแต่งานหนักเอาเรื่อง

           การที่น้องอยากจะเปลี่ยนงานใหม่คงคิดมาดีมาก ๆ แล้วล่ะ

           “งั้นเดี๋ยวฉันจะไปลองสมัครดู เห็นคุณอาทิตย์บอกว่าเขารับสมัครตำแหน่งผู้จัดการห้างฯ เลยนะ”

           “เงินเดือนคงเยอะน่าดูเลย....” สำหรับเพลงขวัญไม่มีอะไรสำคัญกับเธอเท่าเงินแล้ว เมื่อค่าใช้จ่ายที่เธอต้องหาให้ได้มันทำให้เธอต้องให้ความสำคัญเรื่องนี้เป็นอันดับหนึ่งจริง ๆ

           หลังจากทานอาหารและพูดคุยเรื่องราวต่าง ๆ เรียบร้อยปกรณ์ก็จัดการเก็บจานและเอาไปล้าง ส่วนเพลงขวัญก็ขอไปอาบน้ำก่อนซึ่งปกรณ์ก็ไม่ได้ว่าอะไร หญิงสาวที่อยู่ภายใต้สายน้ำของฝักบัวหลับตาสนิทเพราะต้องการให้น้ำผ่อนคลายจิตใจที่หนักอึ้งไปด้วยภาระต่าง ๆ

           มือบางลูบใบหน้าและตามเนื้อตัวต้องการให้น้ำซึมเข้ากับทุกตารางนิ้วของร่างกาย เพราะมันเหมือนเป็นการบำบัดจิตใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับหญิงสาวได้ วันนี้ไม่ได้ไปทำงานก็จริงแต่การที่เดินหาบ้านเช่าและขนย้ายของก็หนักไม่แพ้กันเลย

           ถึงจะมีคุณอาทิตย์คอยช่วยเหลืออยู่บ้างแต่มันก็หนักจนเธอเหนื่อยล้าไปหมดทั้งเนื้อทั้งตัว พอเธออาบน้ำเรียบร้อยก็เดินออกมาก่อนจะรับช่วงต่อดูแลเจ้าตัวเล็กให้พี่ชายเพราะปกรณ์จะเข้าไปอาบน้ำ

           “ว่าไงตัวเล็ก ชอบบ้านใหม่ไหม” เธอจับแก้มซาลาเปาให้เงยหน้าขึ้นมาคุยกับเธอก่อนจะก้มลงไปฟัดแก้มอวบ ๆ หนึ่งทีด้วยความมันเขี้ยว

           “มาอยู่ที่นี่แล้ว จะร้องดังแค่ไหนก็ไม่มีใครว่าแล้วนะปกป้อง เอาให้เต็มที่หลานรัก” เพลงขวัญเอ่ยออกไปพร้อมจ้องเข้าไปในดวงตาของหลานชายเป็นแนวประชดเพราะเธอต้อง

ขนย้ายทุกคนออกมาจากที่เก่าก็ต้องเสียงร้องของเจ้าตัวแสบตรงหน้านี่แหละ

           ตอนนี้ออกมาอยู่บ้านเดี่ยวแล้วไม่มีใครได้ยินหรอก อยากจะร้องดังแค่ไหนก้จัดมาเลย

           รอยยิ้มกว้างของหญิงสาวปรากฏออกมาเพราะเธอขำที่ตัวเองกำลังมานั่งประชดประชันหลานวัยขวบสามเดือนไปเพื่ออะไร รู้เรื่องก่อนหรือเปล่าที่เธอประชดใส่น่ะ ยังนั่งยิ้มร่าอยู่เลย โธ่ เด็กเอ่ยเด็ก......

            เช้าวันต่อมา........

            เพลงขวัญตื่นขึ้นมาด้วยความนอนเต็มตาเพราะเธอได้นอนห้องส่วนตัวครั้งแรกในรอบสองสามเดือนตั้งแต่พี่ชายกับหลานมาอยู่ด้วยก็จะหลับ ๆ ตื่น ๆ หน่อยเพราะปกป้องชอบร้องไห้ตอนกลางคืน แต่เมื่อคืนไม่ได้ยินเสียงอะไรรบกวนจึงหลับได้เต็มที่มาก ๆ

            “ตื่นแล้วเหรอ มีไปสมัครงานกี่โมงล่ะ” เปิดประตูห้องออกมาก็ได้ยินเสียงของปกรณ์ที่กำลังวุ่นอยู่กับการป้อนข้าวลูก เธอที่ยังรู้สึกเบลอ ๆ อยู่ก็หันมองพี่ชายของตัวเองเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ตอบและเดินเข้าห้องน้ำ

             “เฮ้อ...” เสียงถอนหายใจของปกรณ์ดังขึ้นตามหลังหญิงสาวพร้อมกับหัวที่ส่ายไปมาเบา ๆ เพราะความเอ็นดูน้องสาว

              เพลงขวัญจัดการอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยก็มานั่งอยู่ที่พื้นห้องครัวรอพี่ชายทำอาหารเช้าให้ทาน ในตักของเธอก็มีร่างน้อย ๆ ของปกป้องกำลังจับคอเสื้อของเธอพลิกไปพลิกมาอยู่ ดวงตาสีมะละกอสุกมองคอเสื้อของเธอเหมือนมันเป็นสิ่งแปลกตาแบบนั้น

              หญิงสาวใส่เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินครามพร้อมกับกระโปรงทรงเอยาวเลยเข่าเล็กน้อยเพื่อความสุภาพในการไปสมัครงาน ถึงแม้มันจะแค่การกรอกใบสมัครทิ้งไว้เฉย ๆ ก็เถอะแต่ก็ควรแต่งให้มันสุภาพ

              “อะ กินข้าวก่อนค่อยไป” ไข่เจียวหมูสับร้อน ๆ ถูกวางตรงหน้าพร้อมกับข้าวเปล่าหนึ่งจาน เพลงขวัญพนมมือขึ้นไหว้ขอบคุณพี่ชายก่อนจะส่งปกป้องที่อยู่บนตักให้กับพ่อของเด็กน้อย

              “ขอให้ได้งานนี้นะ” คำอวยพรจากใครก็ไม่รู้สึกดีเท่ากับคนในครอบครัว ปกรณ์เอ่ยบอกน้องสาวพร้อมกับเอื้อมมือไปลูบหัวน้องของตนเบา ๆ คนที่เคี้ยวข้าวเต็มปากก็หันมายิ้มให้

              ดวงตาสีน้ำตาลอัลมอนด์จ้องมองห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ตรงหน้าพร้อมกับผู้คนที่เดินเข้าออกและเพ่นพ่าน

ไปหมด ก็ไม่ได้แปลกใจอะไรนักเพราะห้างสรรพสินค้าระดับนี้ก็ต้องเต็มไปด้วยผู้คนแน่นขนัดอยู่แล้ว ไม่ช้าหญิงสาวเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าก่อนจะกวาดสายตามองหาจุดรับสมัครพนักงาน

              วันนี้ดูเหมือนจะมีการออกบูธของพ่อค้าแม่ค้าด้วยเพราะเดินเข้ามาก็เต็มไปด้วยบูธขายของ เพลงขวัญไม่ได้ให้ความสนใจมากนักเพราะเธอต้องการที่จะมาสมัครงานซึ่งก็ต้องยื่นใบสมัครเอาไว้ก่อนแต่ตอนนี้ยังหาจุดรับสมัครไม่เจอเลย

             หญิงสาวร่างบางในชุดสุภาพใช้สายตากวาดมองพร้อมกับเดินไปเรื่อย ๆ อยู่สักพัก เธอก็พบกับเคาน์เตอร์รับสมัครพนักงาน ร่างเพรียวเดินดุ่ม ๆ เข้าไปทันทีก่อนจะส่งยิ้มให้กับพี่พนักงานหน้าเคาน์เตอร์

            “มาสมัครงานใช่ไหมคะ” พนักงานหญิงเอ่ยถามเธอด้วยความสุภาพซึ่งเพลงขวัญก็พยักหน้าและทำตัวให้เล็ก ๆ

เป็นการนอบน้อม

            “กรอกเอกสารและรอรับโทรศัพท์เพื่อนัดวันมาสัมภาษณ์งานนะคะ” แผ่นใบสมัครถูกยื่นมาให้เพลงขวัญก่อนที่เธอจะเดินมาหาที่นั่งในศูนย์อาหารเพื่อกรอกเอกสารและเดินกลับไปให้พี่พนักงานหน้าเคาน์เตอร์

            “เรียบร้อยแล้วนะคะ ยังไงทางเราติดต่อกลับไปนะคะ”เพลงขวัญพยักหน้าพร้อมรอยยิ้มก่อนจะเดินออกมาจากตรงนั้นและคิดว่าจะกลับบ้านเลยดีหรือเปล่า เพราะถ้ายังไม่ถูกเรียกเธอก็คงต้องกลับไปทำงานที่เก่าก่อนจะได้ไม่ต้องเอาเงินเก่าออกมาใช้

             ในระหว่างที่หญิงสาวกำลังเดินลงบันไดเลื่อนอยู่นั้นสายตาของเธอก็พลันไปเห็นและได้ยินบูธขายของบูธหนึ่งประกาศโพรโมชัน ซึ่งสิ่งที่ได้ยินก็ทำให้เธอตาลุกวาวเอามาก ๆ พอลงบันไดเลื่อนมาได้เธอก็ตรงไปที่บูธนั้นทันที

             “สวัสดีค่ะ บูธเรามีโพรโมชันสามารถมาลองชิมได้นะคะ และใครที่ใส่เสื้อสีขาวในวันนี้สามารถนำกลับไปทานที่บ้านฟรีค่ะ” เพลงขวัญหลุบตาก้มมองสีเสื้อของตัวเองก่อนจะมองสลับกับบูธขายไก่ทอดเจ้าดัง

             “อยากได้กลับไปกินที่บ้านอะ ไม่ต้องเสียค่ากับข้าวเย็นด้วย” ริมฝีปากที่เม้มเข้าหากันเล็กน้อยอย่างใช้ความคิดเพราะเธออยากได้ของฟรีแต่ก็ไม่ได้ใส่เสื้อสีขาวมา สายตาที่มองออกไปบริเวณรอบ ๆ ที่คนเริ่มสนใจเหมือน ๆ กับเธอแต่ก็มีอยู่สองสามคนที่กำลังไหว้วานให้คนอื่นที่ใส่เสื้อขาวไปเอามาให้

             เห็นแบบนั้นเพลงขวัญก็รีบกวาดสายตามองหาคนที่ใส่เสื้อสีขาวเพราะเธอจะขอให้เขาไปเอาไก่ทอดมาให้หน่อย หญิงสาวยืนเท้าเอวมองหาและไปสะดุดเข้ากับชายรูปร่างสมส่วนแต่ดูกำยำบ่งบอกว่าร่างผ่านการออกกำลังกายมาอย่างหนัก ดวงตาสีดำขลับก็ออกแววดุนิด ๆ แต่ไม่ใช่ปัญหาเพราะในระหว่างที่คิดขาเรียวของเพลงขวัญก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของชายร่างสมส่วนแล้ว

              “สวัสดีค่ะ ขอรบกวนอะไรหน่อยได้ไหมคะ” คิ้วที่ขมวดเข้าหากันของเตชินทร์เมื่อเห็นหญิงสาวใส่เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินครามเดินมาดักตรงหน้าในขณะที่เขากำลังจะเดินไปที่ลานจอดรถเพื่อกลับบ้าน

             “พอดีอยากจะขอให้คุณช่วยไปรับไก่ทอดให้ทีได้ไหมคะ ทางร้านเขาต้องการแค่คนใส่เสื้อสีขาว” น้ำเสียงแผ่วเบาพร้อมสายตาที่ก้มมองเสื้อของตัวเอง เตชินทร์ไม่รู้จักคนตรงหน้ามาก่อนเลยแต่ทำไมไม่รู้เขาถึงพยักหน้าตอบรับไป

             “ขอบคุณนะคะ คุณเองก็คงมาสมัครงานเหมือนกันใช่ไหมคะ” คิ้วของเขากระตุกอะไรทำให้หญิงสาวคิดว่าเขามาสมัครงาน นี่มันห้างฯ ของเขา แม้จะคิดในใจแต่เตชินทร์ก็ไม่ได้เอ่ยพูดออกไปตามแบบฉบับคนพูดน้อย

             ร่างสมส่วนเดินตามหญิงสาวมาจนถึงบูธขายไก่ทอดที่คนยืนต่อแถวกันเต็มโดยที่เตชินทร์ก็ไปเข้าแถวเพื่อรอรับไก่ทอดให้ หญิงสาวที่อยู่ในอาการชะเง้อชะแง้มองดูเขาอยู่ตลอด ใช้เวลาอยู่ไม่นานนักเพราะทางบูธเร่งแจกจนถึงคิวของเตชินทร์ก็เอาไก่ทอดมาให้หญิงสาวสองชุด

             “ขอบคุณมาก ๆ เลยนะ ไว้โอกาสหน้ามาสัมภาษณ์งานเดี๋ยวฉันเลี้ยงข้าว” เพลงขวัญพูดไปก็กุมไก่ทอดในมือไว้แน่นเพราะจะเอาไปให้หลานกับพี่ชายทาน

             “แต่คงเลี้ยงร้านแพง ๆ ไม่ได้นะคะ แต่ถ้าสัมภาษณ์งานได้จะเลี้ยงของแพงสักมื้อค่ะ” ดวงตาสีดำขลับจ้องมองหญิงสาวที่พูดเจื้อยแจ้วและมีรอยยิ้มเปื้อนใบหน้าอยู่ตลอดทำให้เตชินทร์รู้สึกไม่สามารถละสายตาออกได้

             “ติดอยู่แล้ว” เพลงขวัญเงยหน้ามองคนที่ไม่พูดอะไรกับเธอมาตลอดทางแต่อยู่ ๆ ก็พูดและพูดเหมือนอวยพรด้วย เธอจึงยิ้มให้ด้วยความขอบคุณ

             “ขอบคุณอีกครั้งนะคะ” ว่าจบเธอก็โค้งหัวเล็กน้อยก่อนจะเดินออกจากตรงนั้นเพื่อกลับบ้านเอาไก่ทอดเจ้าดังไปฝากพี่ชายกับหลานตัวเล็กทาน ลับหลังของเพลงขวัญสายตาดุจ้องมองจนเธอลับสายตา เตชินทร์กำลังชื่นชอบบางอย่างในตัวของหญิงสาวคนเมื่อกี้

             มันมีอะไรดึงดูด.......

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บอสเย็นชากับเลขาหน้าใหม่   ตอนพิเศษ 2

    ใบหน้าเคร่งเครียดของร่างสมส่วนที่กำลังนอนไม่หลับทามกลางความมืดของห้อง เตชินทร์เขากำลังเป็นกังวลว่าถ้าเกิดวันหนึ่งเขาเป็นอะไรขึ้นมาเพลงขวัญและลูกจะลำบากไหม เพราะวันนี้มันมีอุบัติเหตุเล็กน้อยจากการที่มีรถมาชนรถที่เขานั่งขณะเดินทางกลับบ้าน ทำให้เตชินทร์เริ่มต้องคิดแล้วว่าเขานั้นควรที่จะต้องทำอะไรสักอย่างแล้วเรื่องทรัพย์สินมรดกทั้งหลาย ถ้าเป็นอะไรไปก็จะได้ไม่ลำบากต่อเพลงขวัญและลูกสองคน.... มือหนาคว้าโทรศัพท์ข้างหัวเตียงมาไลน์หาทนายเพื่อให้เตรียมเอกสารเข้ามาคุยกับเขาที่บ้านในวันพรุ่งนี้ เมื่อคิดออกแล้วก็อยากจะจัดการให้เร็วที่สุดเกรงว่าเมื่อไปทำงานอะไรมันก็เกิดขึ้นได้ หลังจากไลน์หาและจัดการทุกอย่างเสร็จ ร่างสมส่วนตะแคงไปอีกฝั่ง ใบหน้าของหญิงสาวที่เขารักมาก ๆ กับลูกชายตัวน้อยที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา ส่วนแผ่นหลังที่แนบอกเขาอยู่ก็คือลูกที่เขารักมาก ๆ คนหนึ่ง ต่อให้ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถขาดได้จริง ๆ ครอบครัวของเราจะขาดใครไปไม่ได้ “ฉันจะไม่มีวันทำให้เธอและลูกลำบา

  • บอสเย็นชากับเลขาหน้าใหม่   ตอนพิเศษ 1

    แผ่นหลังบางของร่างเพรียวกำลังยืนผัดอาหารอยู่ในห้องครัว แขนแกร่งของคนเป็นสามีเดินเข้ามาสวมกอดจากทางด้านหลังจนเพลงขวัญต้องหันกลับไปมองด้วยความมึนงงว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นอะไร ทำไมอยู่ ๆ ถึงได้ลุกมาแต่เช้าแบบนี้ “นอนเต็มอิ่มแล้วเหรอคะ” เพลงขวัญอมยิ้มพร้อมกับหันไปเอ่ยถามคนเป็นสามีด้านหลัง ใบหน้าคมดุที่ซุกอยู่บริเวณลำคอขาวของเธอ เพลงขวัญก็ได้แต่ส่ายหัวเบา ๆ “ถ้าคุณตื่นแล้วก็ไปปลุกปกป้องให้หน่อยนะคะ พาลูกอาบน้ำแต่งตัวได้ยิ่งดี” เตชินทร์เงยหน้าก่อนเอาคางเกยไหล่ของภรรยาพร้อมก้มจมูกเข้าสูดดมความหอมจากภรรยาตัวเอง “รับทราบครับ” ว่าจบร่างสมส่วนก็เดินขึ้นไปบนห้อง เพลงขวัญได้แต่ผัดข้าวต่อและส่ายหน้าเมื่อปวดหัวกับคนเป็นสามี ทางด้านของเตชินทร์ก็อยู่ในโอวาทของเพลงขวัญทุกอย่าง ไม่ว่าภรรยาจะสั่งงานอะไรสามีคนนี้ไม่เคยเอ่ยปากปฏิเสธ อะไรทำให้เขากลายเป็นคนกลัวเมียขนาดนี้เนี่ย มือหนาเปิดประตูห้องนอน สายตาคมมองลูกชายทั้งสองด้วยความเอ็นดูกับใบหน้าที่พอหลับแล้วน่ารักขึ้นมาเป็นร้อยเท่า แต่ตอนนี้ตื่นนี่ก็อีกเรื่องโดยเฉพาะไอ้เจ้

  • บอสเย็นชากับเลขาหน้าใหม่   ตอนที่ 35 เห่อลูก

    สามเดือนผ่านไป... นับตั้งแต่วันที่คลอดลูกชายคนเล็กออกมาเพลงขวัญก็ได้ค้นพบว่าเตชินทร์นั้น เป็นคนเห่อลูกมาก ๆ เลย ดวงตาสีน้ำตาลมองดูเหล่าข้าวของเครื่องใช้เด็กอ่อนที่เต็มไปหมดจนไม่มีทางจะเดิน “เฮ้อ” เสียงถอนหายใจของคุณแม่มือใหม่ที่จะมาเอาของเล่นไปให้ลูกชายคนโตก็ต้องเท้าเอว เพราะเส้นทางกว่าจะไปถึงกล่องของเล่นก็ต้องผ่านเหล่าของใช้ที่คุณพ่อมือใหม่หอบมาจากห้างฯ ของตัวเอง เธอคิดว่าแค่นี้ยังไม่สะใจคุณชายเขาเลยนะนั่น เพราะถ้าจะให้ชอบใจเขาจริง ๆ คงแบกมาทั้งชั้นขายของเด็กอ่อนอะดูท่าทางแล้ว “แม่ครับ หยิบได้ไหม” เด็กชายปกป้องยืนมองผู้เป็นแม่ด้วยแววตาเป็นกังวลเพราะตนอยากได้ของเล่นในห้องนี้ พ่อไม่อยู่ก็เลยต้องขอให้แม่เอาให้ “เดี๋ยวแป๊บหนึ่งนะปกป้องแม่ขอเวลาคิดก่อนว่าจะเดินไปยังไง” เพลงขวัญใช้ท่าการเดินแบบบัลเล่ห์ ไม่ใช่เคยเรียกหรอกนะแต่ใช้เท้าเขย่งเข้าไปเรื่อย ๆ จนถึงกล่องของเล่นลูกชาย “อึบ อะแม่เอามาให้แล้วครับ จุ๊บ” ทุกครั้งเวลาพูดคุยอะไรกับปกป้องเธอจะจบท้ายด้วยการจุ๊บหน้าผากลูกเสมอเพื่อให้เขารับรู้ว่าเธ

  • บอสเย็นชากับเลขาหน้าใหม่   ตอนที่ 34 ทำหน้าที่สามีที่ดี

    ภายในคฤหาสน์เครือห้างสรรพสินค้าใหญ่ระดับประเทศ ตอนนี้ชุลมุนวุ่นวายไปหมดเพราะลูกสะใภ้คนเดียวของบ้านกำลังจะคลอดหลานคนแรกของบ้าน ใบหน้าสวยหวานที่ตอนนี้เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ มือบางกำชายเสื้อของคนเป็นสามีแน่น เธอเจ็บท้องมาก ๆ เลยตอนนี้ ท้องฟ้าที่เริ่มจะเปลี่ยนสีจากแสงสว่างที่ได้รับมาจากดวงอาทิตย์กลับหลายเป็นฟ้าน้ำเงินเข้มเมื่อหมดแสงอาทิตย์ ดีที่เพลงขวัญรู้สึกปวดท้องคลอดช่วงเย็นของวันไม่ได้ปวดกลางดึก “คุณโอเคไหมที่รัก” น้ำเสียงทุ้มต่ำที่เอ่ยออกมาด้วยความกังวลแบบสุด ๆ เพราะเตชินทร์เป็นห่วงทั้งเพลงขวัญและลูกน้อยในท้อง สีหน้าไม่ดีของคนรักทำให้เขารู้สึกเหมือนเจ็บเจียนตาย การหายใจเข้าออกแรงและถี่ของเธอทำเอาเตชินทร์อยู่ไม่เป็นสุข ได้แต่ภาวนาขอให้การคลอดครั้งนี้ผ่านไปด้วยดีเถอะ “อดทนหน่อยนะคะ รักคุณนะ” ประโยคสุดท้ายที่ได้ยินก่อนที่พยาบาลจะเข็นเพลงขวัญเข้าไปในห้องผ่าตัดพร้อมกับกลุ่มคุณหมออีกสามสี่คน เตชินทร์หันกลับมาอุ้มปกป้องจากแม่ของเขา ใบหน้าคมดุเปื้อนคราบน้ำตาเล็กน้อยเพราะมันอดไม่ได้ที่จะร้อง เขากำลังหวาดกลัวเมื่อไม่

  • บอสเย็นชากับเลขาหน้าใหม่   ตอนที่ 33 แพ้ท้องแทนเมีย

    สามเดือนผ่านไป ภายในห้องน้ำที่ตอนนี้มีร่างสมส่วนของเตชินทร์กำลังโก่งคออ้วกแบบเอาเป็นเอาตาย ชายหนุ่มไม่รู้เลยว่ามันเป็นเพราะอะไรเขาถึงได้มีอาการแบบนี้ และมันก็เป็นต่อเนื่องกันมาหลายวันแล้ว “คุณโอเคไหมคะ” มือบางที่ลูบแผ่นหลังสามีอย่างเป็นห่วง เพลงขวัญก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าอาการที่เตชินทร์เป็นมันคืออะไร ชายหนุ่มมักจะตื่นมาอ้วกแบบนี้ทุกเช้าเลย แถมเวลาจะทานอะไรก็จะรู้สึกอาเจียนอยู่ตลอดเวลา ทานได้แค่ของเปรี้ยวและพวกผลไม้ดอง ข้าวปลาอาหารแทบจะแตะไม่ได้จนอดที่จะเป็นห่วงคนรักไม่ได้จริง ๆ “คะ คุณ อึก แหวะ ไปนอนต่อเถอะ” พูดไปก็จะอ้วกไป มือหนาพยายามดันให้ภรรยาที่แบกท้องโตมาลูบหลังให้กลับเข้าไปนอนต่อเพราะตอนนี้ยังเช้ามืดอยู่เลย คนท้องควรที่จะนอนพักผ่อนให้เพียงพอและเขาก็อยากจะให้เพลงขวัญเป็นแบบนั้น อาการแค่นี้เล็กน้อยมากสำหรับเขา ดวงตาสีน้ำตาอัลมอนด์มองคนที่พยายามผลักเธอให้เข้านอน ทำตัวเหมือนจะไม่เป็นอะไรทั้ง ๆ ที่ตอนนี้จะนอนกอดชักโครกอยู่แล้ว เธอควรจะพาสามีไปหาหมอนะ ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ไหวจริง ๆ

  • บอสเย็นชากับเลขาหน้าใหม่   ตอนที่ 32 ขอแต่งงานกลางห้างฯ

    ใบหน้าหงิกงอของเพลงขวัญเพราะเธอนั้นกำลังอ่อนเพลียและเวียนหัวจากอาการแพ้ท้อง หญิงสาวที่ยังดันทุรังทำงานเพราะแค่เธอเห็นคนในห้างฯ วุ่นวายกันไปหมด โดยไม่รู้เลยว่าที่คนอื่นเขาวุ่นจนหัวหมุนกันนั้นเป็นเพราะเธอคนเดียวเลย“ว่าไงครับที่รัก” เสียงที่ดังเข้ามาในหูของเธอทำให้ใบหน้าสวยหวานแต่คิ้วขมวดเข้ากันเงยขึ้นมองชายหนุ่มที่มีตำแหน่งเป็นถึงประธานห้างฯ“บอกให้กลับบ้านไปพักก็ไม่เชื่อ… ทำไมดื้อแบบนี้ครับ” เตชินทร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงก่อนจะมานั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นพร้อมกับเอาใบหน้ามาสัมผัสบริเวณหน้าท้องของเพลงขวัญ“อย่าแกล้งแม่นักสิครับ เห็นไหมแม่เหนื่อยมากแล้วนะ” เพลงขวัญทำสีหน้าเลิ่กลั่กก่อนจะหันซ้ายขวามองดูว่ามีใครมาเห็นไหม เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเตชินทร์ชอบทำแบบนี้ให้คนอื่นเห็นกันนะ“คุณลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยนะ อายคนอื่นเขา” ใบหน้าคมดุเงยขึ้นมองหญิงสาวที่พยายามจะจับไหล่กว้างของเขาให้ลุกขึ้นยืนดี ๆ“คุณจะอายทำไมครับ เราสองคนมีลูกด้วยกันแล้วนะ” เพลงขวัญเองก็รู้เรื่องนั้น แต่ที่ต้องอายเพราะคนในบริษัทยังไม่รู้น่ะสิว่าเธอตั้งท้องทุกคนรู้แค่ว่าเธอกับเตชินทร์คบหากัน แต่เรื่องนี้เธอเองก็ยังไม่กล้าบอกใค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status