공유

บทที่ 12

작가: ถานฉี
วันรุ่งขึ้น โหลวฉางเยว่ได้ติดตามเหวินเหยียนโจว เพื่อตามมิสเตอร์สมิธคนเมื่อวานนั้นไปยังโรงงานผลิตเรือมังกร

ปี๋หยุนกรุ๊ปร่วมลงทุนเป็นสิ่งหลัก เป็นหนึ่งในบริษัทการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งล้วนมีโครงการในการลงทุนทั้งในและนอกประเทศ และมีอิทธิพลเป็นอย่างมาก ส่วนสถานะทางสังคมก็มีบทบาทที่สำคัญมากเช่นกัน ดังนั้นจึงได้เป็นผู้นำในการสนับสนุนโครงการของรัฐบาลอีกด้วย

อาทิ โรงงานผลิตเรือมังกรที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้แห่งนี้

โหลวฉางเยว่เก็บกิริยาท่าทางและอารมณ์แบบเมื่อคืนไว้ และยืนเคียงข้างเหวินเหยียนโจวตามปกติของตำแหน่งเลขานุการของท่านประธาน ในเวลาที่เธอจำเป็นต้องพูดก็จะพูด และในเวลาที่เธอไม่จำเป็นต้องพูดเธอก็จะติดตามไปอย่างเงียบ ๆ เท่านั้น

ภายในโรงงานขนาดใหญ่นี้ เรือมังกรหลายสิบลำที่หลากหลายสีสันและลวดลาย รวมทั้งรูปลักษณ์ที่ต่างกันออกไป ได้ถูกจัดวางเอาไว้ หัวหน้าโรงงานได้แนะนำให้กับพวกเขา และสมิธได้ยินแล้วก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมา

หัวหน้าโรงงานภาคภูมิใจ “เรือเหล่านี้มีความยาวเพียงสิบแปดเมตรเท่านั้นครับ ซึ่งเรากำลังผลิตเรือมังกรที่ยาวที่สุดในโลกอยู่ โดยมีความยาวทั้งหมด 101 เมตรครับ รอให้ผลิตเสร็จแล้ว พวกเราจะยื่นขอบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ครับ เพื่อให้ผู้คนรู้จักเรือมังกรเมืองเซินเฉิงของเรามากยิ่งขึ้น”

สมิธตกใจ “101 เมตรเลยเหรอครับ? สูงกว่าตึกอีกนะครับ พอลงไปในน้ำแล้ว จะงดงามขนาดไหนกันนะ! ผมจะมีเกียรติได้เห็นด้วยหรือเปล่าครับ?”

เจ้าของโรงงานยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “แน่นอนว่าต้องได้เห็นครับ อันที่จริงมันก็อยู่เหนือศีรษะเราไปนี่เองครับ ดูสิ——”

ทุกคนเงยหน้าขึ้นไป และพบว่า กลางโรงงานนั้น มีเรือลำยาวมากจนมองไม่เห็นหัวเรือแขวนอยู่ลำหนึ่ง

เจ้าของโรงงานพูดขึ้นอีกว่า “มันค่อนข้างใช้พื้นที่เยอะเกินไปหน่อย จึงทำได้เพียงต้องแขวนไว้เพื่อประหยัดพื้นที่ ตอนนี้ทำเสร็จแค่โครงสร้างพื้นฐานอยู่ครับ หลังจากนี้ยังมีกระบวนการรออยู่อีกยาวเหยียด ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะเป็นการทำส่วนของตัวมังกรให้เสร็จสิ้นครับ”

ทุกคนต่างพากันมองไปยังเรือลำยาว แต่โหลวฉางเยว่กลับรู้สึกถึงความอ่อนไหว ราวกับว่าตัวเองถูกใครเพ่งเล็งอยู่

เธอมองไปรอบ ๆ ก็เห็นมุมที่ไกลออกไปมีคนสวมหมวกและหน้ากากอนามัยอยู่ เป็นชายร่างสูงคนหนึ่ง ถือกล้องเลนส์ยาวกำลังถ่ายรูปมาทางพวกเขา

โหลวฉางเยว่ขมวดคิ้ว “คุณเจ้าของโรงงานคะ คนนั้นเป็นใครเหรอคะ?”

เจ้าของโรงงานเหลือบมอง “เขาบอกว่าตัวเองเป็นบล็อกเกอร์อะไรสักอย่างครับ แต่ก็แค่ถ่ายนู่นนี่ไปโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ตเฉย ๆ ครับ ได้ยินมาว่าพวกเราเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ทั้งยังผลิตเรื่องมังกรที่ยาว 101 เมตร ก็เลยอยากมาถ่ายทำน่ะครับ ผมคิดว่านี่ก็เป็นวิธีโฆษณาอีกอย่างหนึ่ง เลยปล่อยให้เขาถ่ายไปน่ะครับ”

ทิศทางของกล้องของผู้ชายคนนี้นั้น พูดแล้วก็สมเหตุสมผลอยู่ที่บอกว่าเขากำลังถ่ายเรือมังกร อันที่จริงเรือมังกรลำนี้ก็ยาวมากเป็นพิเศษ และพวกเขาเองก็กำลังเดินอยู่ตรงใต้ท้องของเรือมังกรอีกด้วย

เธออาจจะกังวลมากไปหน่อย

โหลวฉางเยว่ถอนสายตากลับมา จากนั้นเหวินเหยียนโจวก็ยื่นมือมาหาเธอ แต่เธอไม่ได้โต้ตอบอะไรกลับไปเลย

เพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่าเขายื่นมือมาเพื่อจะทำอะไรกัน?

มือของเหวินเหยียนโจวค้างอยู่กลางอากาศอยู่ประมาณยี่สิบสามสิบวินาทีโดยที่ไม่มีใครสนใจเลย เขาขมวดคิ้วแล้วมองไปที่โหลวฉางเยว่ โหลวฉางเยว่สบตามองไปที่เขา ก่อนจะตระหนักขึ้นได้ว่าเขากำลังขอทิชชูเปียกจากเธอมาเช็ดมืออยู่

ชายหนุ่มเป็นโรครักความสะอาด สัมผัสสิ่งใดก็จะต้องเช็ดมือทันที

ก่อนหน้านี้โหลวฉางเยว่จะใส่ใจทุกการเคลื่อนไหวของเขา และจดจำความเคยชินทั้งหมดของเขาได้หมด หากเขาส่งสายตาหรือเคลื่อนไหวอะไรแค่หนึ่งครั้ง เธอก็เข้าใจทันทีเลย

แต่วันนี้ ความสนใจของเธอไม่ได้อยู่ที่เขา

โหลวฉางเยว่หยิบทิชชูเปียกออกมาจากกระเป๋าแล้วส่งไปให้เขา ลึก ๆ ในใจก็รู้ประหลาดใจที่ตัวเองเมินเขา เธอนั้นไม่ได้คิดอะไรอยู่ เพียงแค่……

ไม่ได้คิดเกี่ยวกับเขาเหมือนเคยอีกแล้ว

และเพราะการละเลยของเธอ เหวินเหยียนโจวจึงมองเธอถึงสองครั้ง

ตบของเธอเมื่อคืนนี้ไม่ได้แรงมากนัก จึงไม่ได้ทิ้งร่องรอยเอาไว้บนใบหน้าของเขา ราวกับไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้น

วันนี้ไป๋โหยวปรากฏตัวตามปกติ และสังเกตเห็นสายตาของเหวินเหยียนโจวที่จับจ้องแต่โหลวฉางเยว่ ประโยคนั้นที่ว่า “ข้าไม่ตาย เจ้าก็ต้องเป็นสนมตลอดไป” ก็ผ่านเข้ามาในสมองของเธอ

ทันใดนั้นเธอก็ตะโกนขึ้น “พี่ฉางเยว่คะ”

โหลวฉางเยว่หันมา

เธอเห็นจากหางตาว่าชายคนนั้นถ่ายรูปมาทางเธออีกครั้ง คราวนี้เธอแน่ใจแล้วว่าไม่ได้เข้าใจผิดแน่นอน เขากำลังถ่ายรูปเธออยู่

โหลวฉางเยว่อยากจะเข้าไปถามเขา ว่าถ่ายเธอไปทำอะไร แต่ลูกค้ายังคงอยู่ที่นี่ หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นคงส่งผลไม่ดีสักเท่าไหร่

อย่างไรเสียการมาเยี่ยมชมก็ใกล้จะเสร็จสิ้นลงแล้ว รอให้เสร็จก่อนแล้วค่อยไปหาเขาก็ยังไม่สาย

โหลวฉางเยว่มองไปที่ไป๋โหยว “อะไรเหรอ?”

ไป๋โหยวพูดเสียงเบาขึ้นว่า “โครงการแบบนี้ บริษัททำเงินได้ด้วยเหรอคะ?”

“กำไรจากโครงการแบบนี้ไม่ใช่เงินทองหรอกะ”

“นั่นคือชื่อเสียงเหรอคะ?” ไป๋โหยวโชว์รอยยิ้มหวาน ๆ ออกมา “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ”

โหลวฉางเยว่เหลือบมองป้ายเบอร์ 4 บนผนัง จากนั้นก็ติดตามเหวินเหยียนโจวไปต่อ

ผู้ชมเยี่ยมชมหนึ่งรอบ แผนการเดินทางสิ้นสุดลงแล้ว เหวินเหยียนโจวได้เชิญลูกค้ามารับประทานอาหารกลางวันด้วยกันต่อ และในเวลานี้เอง จู่ ๆ ก็มีคนบนชั้นสองตะโกนขึ้นว่า “อันตราย! หลบเร็ว! !”

ปฏิกิริยาแรกเมื่อผู้คนด้านล่างได้ยินเสียงตะโกนก็คือเงยหน้าขึ้นไปมอง

จากนั้นก็เห็นว่าเรือมังกรที่ยาว 101 เมตรลำนั้นเอียงไปทางด้านใดด้านหนึ่ง——ซึ่งมันถูกมัดด้วยเชือกป่านนับสิบกว่าเส้นแขวนอยู่กลางอากาศ แต่ในขณะนี้ เชือกนั้นขาด และเรือมังกรทั้งลำก็สูญเสียการถูกยึดเหนี่ยวเอาไว้ แล้วหล่นลงมาสู่พื้นดิน!

ดวงตาของผู้ชมทุกคนเบิกกว้าง ในเวลาที่รวดเร็วดั่งฟ้าแลบนี้ ก็ไม่ทันได้คิดไตร่ตรองอะไร โหลวฉางเยว่รีบเข้าไปดึงตัวเหวินเหยียนโจวมาโดยไม่รู้ตัว

แต่กลับจับไว้ได้แค่ความว่างเปล่า

ปึง——

ทันทีที่เรือมังกรตกลงมา ผู้คนที่อยู่ด้านล่างล้มกันเป็นกลุ่ม

ส่วนโหลวฉางเยว่เพราะไปดึงเหวินเหยียนโจว การเคลื่อนไหวก็ช้าลงไปชั่วขณะ และไม่สามารถหลบไปได้อย่างสิ้นเชิง และน่องก็โดนเรือมังกรชนเข้า เธอกรีดร้องขึ้นมา “อา!”

เจ็บ

แต่จุดที่โดนชนเข้าดูเหมือนจะไม่ใช่จุดที่เจ็บที่สุด

โหลวฉางเยว่เงยหน้าขึ้นไปมองทางนั้น เหวินเหยียนโจวที่เธอดึงตัวมาไม่ได้กำลังปกป้องไป๋โหยวอยู่ใต้ร่างกายของเขา——จังหวะเมื่อกี้เขากระโจนเข้าไปหาไป๋โหยว

คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะยอมได้ทุกอย่างแบบนี้

รักเธออย่างลึกซึ้งขนาดนี้เลยเหรอ?

โหลวฉางเยว่มองไปยังขาที่บาดเจ็บ จู่ ๆ ก็หัวเราะขึ้นมา

หัวเราะที่เวลาสามปีของตัวเอง ช่างไม่มีความหมายอะไรจริง ๆ

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • บอสเหวินรีบตามเร็ว! คุณภรรยาค่าตัวสามหมื่นล้าน   บทที่ 418

    พอแม่โหลวก็ได้ยินเสียงพ่อโหลวกลับมา จากนั้นเธอก็นำอาหารจานสุดท้ายมาเสิร์ฟที่โต๊ะ“งั้นก็มากินข้าวกันเถอะ วันนี้เย่ว่เยว่พาเหยียนโจวกลับมาด้วย เธอไม่ได้บอกเราล่วงหน้า พวกเราเลยไม่ได้เตรียมอะไรไว้ เลยมีแค่อาหารทำเองที่บ้าน ไม่รู้ว่าเหยียนโจวจะทานได้หรือเปล่า? ”เหวินเหยียนโจวลุกขึ้นยืน เหลือบมองใบหน้าซีดเซียวของพ่อโหลว และกระซิบเบา ๆ “เป็นผมที่ไม่ได้บอกเย่ว่เยว่ล่วงหน้าว่าผมจะอยู่ต่อ เธอถึงไม่ได้บอกกับทุกคน ไม่โทษเธอหรอกครับ”แม่ยายมองดูลูกเขย ยิ่งมองก็ยิ่งชอบเขามากขึ้น แม่โหลวไม่ได้มีความสุขขนาดนี้มานานแล้ว มีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเธอ เธอแสร้งดุออกไป “เหยียนโจว เธอก็อย่าให้ท้ายเยว่เยว่มากเกินไปสิ”แต่หลังจากที่พูดจบ เขาก็ปกป้องเธอ “แต่เยว่เยว่ของเราเป็นคนที่มีเหตุผลที่สุด ต่อให้ตามใจก็ไม่เป็นไรหรอกครับ”มุมปากของโหลวฉางเยว่โค้งงอขึ้นทุกคนมานั่งที่โต๊ะด้วยกัน แม่โหลวตักซุปเสิร์ฟให้เหวินเหยียนโจวก่อน จากนั้นจึงใช้ตะเกียบคีบผักใส่ในชามของเขา“เหยียนโจว ลองซุปปลาหน่อไม้เหลืองฤดูหนาวดูสิ หน่อไม้นั่นปลูกเองเชียวนะ ปลาก็เป็นของเพื่อนบ้านที่ไปจับมาจากทะเล”“แล้วก็ยังมีหมูเปรี้ยวหวานสั

  • บอสเหวินรีบตามเร็ว! คุณภรรยาค่าตัวสามหมื่นล้าน   บทที่ 417

    จนถึงตอนนี้โหลวฉางเยว่ก็ยังไม่เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างไป๋โหยวกับเขาอย่างถ่องแท้ เธอเหลือบมองเขา และอดไม่ได้ที่จะเริ่มคิดผู้ชายน่ะนะ ไม่ได้ “ไร้เดียงสา” ขนาดนั้น โดยเฉพาะผู้ชายอย่างเหวินเหยียนโจว ผู้หญิงสนใจเขาหรือเปล่า เขาก็สามารถมองออกได้ง่าย ๆเหวินเหยียนโจวรู้อยู่แล้วว่าไป๋โหยวชอบเขา แล้วเขาก็ยังตกลงที่จะให้เธอมาอยู่เคียงข้างเขาอีก นั่นก็เป็นเหมือนคำตอบรับโดยปริยายว่าเขายอมรับความรู้สึกของเธอแล้วไม่ใช่หรือไง?พอมาคิดรวมกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันส่งท้ายปีเก่าปีที่แล้ว ก็มีความคิดเห็นที่เกี่ยวกับเธอขึ้นมา เขาเย็นชาใส่เธอตลอด ดังนั้นที่เขาเก็บไป๋โหยวไว้ ไม่ใช่แค่เพราะว่าอยากจะทำให้เธอโกรธ แต่วางแผนที่จะทำให้ “เปลี่ยนใจ” ด้วยสินะ?โหลวฉางเยว่พูดด้วยความรำคาญ “แม่ของคุณชอบไป๋โหยวมากเลยเหรอคะ? เธอยังอยากให้คุณแต่งงานกับไป๋โหยวด้วยใช่ไหม? เนี่ยเหลียนอี้เคยบอกฉันว่าท่านประธานใหญ่เหวินยอมรับไป๋โหยวแล้วด้วย แต่เพราะด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาก็ปฏิเสธกะทันหัน เป็นเพราะว่าท่านประธานใหญ่เหวินรู้เรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างไป๋โหยวกับแม่ของคุณรึเปล่าคะ? ”แม้ว่าโหลวฉางเยว่จะไม่ค่อยรู้เรื่องคร

  • บอสเหวินรีบตามเร็ว! คุณภรรยาค่าตัวสามหมื่นล้าน   บทที่ 416

    ถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว แต่พ่อโหลวก็ยังไม่กลับมา พี่เลี้ยงจึงออกไปตามหาเขาเดิมทีโหลวฉางเยว่ต้องการช่วยแม่โหลววางจานและตะเกียบ แต่แม่โหลวก็ให้เธอไปอยู่เป็นเพื่อนเหวินเหยียนโจว เพราะเธอกลัวว่าลูกเขยคนจะอึดอัดถ้าต้องนั่งอยู่คนเดียว......จะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง? ต่อให้ฟ้าจะถล่ม ประธานเหวินก็ยังคงมั่นคงไม่ขยับเขยื้อนอยู่ดีแต่ยังไงโหลวฉางเยว่ยังคงเดินไปหาเขาเหวินเหยียนโจวอยู่บนโซฟาสำหรับสองคน เดิมทีเธอต้องการนั่งบนโซฟาเดี่ยวที่อยู่ข้าง ๆ แต่ประธานเหวินดึงเธอเข้ามานั่งกับเขาเขากระซิบข้างหูเธอ “คุณพูดอะไรกับแม่ของคุณบ้าง? ”หูของโหลวฉางเยว่ไวต่อความรู้สึกมาก เธอก็กระตุกตัวหลบอยู่ครู่หนึ่ง “ก็ไม่ได้พูดอะไรหนิคะ”“ไม่พูดงั้นเหรอ แล้ววทำไมท่าทีที่เธอมีต่อผมถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้? ” เหวินเหยียนโจวบีบนิ้วของเธอ “คุณคิดว่าผมดูไม่ออกเหรอ? เมื่อกี้เธอไม่ค่อยพอใจผมเท่าไหร่ แล้วผมมีอะไรที่ทำให้แม่ยายไม่พอใจเหรอ? ”ความมั่นใจของประธานเหวินก็มาจากสภาพที่เหนือกว่าของเขา แต่ตราบใดที่พ่อแม่ไม่ขายลูกกิน สิ่งแรกที่พวกเขาจะพิจารณาเมื่อลูกจะแต่งงานก็คืออุปนิสัยของอีกฝ่ายการแสดงออกของโหลวฉางเยว่ยังคง

  • บอสเหวินรีบตามเร็ว! คุณภรรยาค่าตัวสามหมื่นล้าน   บทที่ 415

    แม่โหลวไม่ใช่คนโง่ แม้ว่าเหวินเหยียนโจวจะตอบด้วยท่าทีนอบน้อม แต่เธอก็มองออก ด้วยลักษณะท่าทางและนิสัยของเหวินเหยียนโจว คงไม่ใช่แค่มี “เงินเล็กน้อย” ถึงสามารถเลี้ยงเขามาได้แน่ ๆ “งั้นก็ดีมาก ดีแล้วล่ะ พวกลูกคบกันมาสามปี สิ่งที่ควรจะเรียนรู้ก็น่าจะเรียนรู้กันมาหมดแล้ว แม่เองก็ไม่มีอะไรที่จะต้องถามอีกแล้วล่ะ”เหวินเหยียนโจวไม่ชอบพูดอ้อมค้อม จู่ ๆ เขาก็จับมือโหลวฉางเยว่ “เมื่อกี้ผมเพิ่งขอเยว่เยว่แต่งงานครับ และเธอก็ตอบตกลงแล้วด้วย”โหลวฉางเยว่มองไปที่แม่ของโหลวโดยไม่รู้ตัวใบหน้าของแม่โหลวเปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอไม่ได้มีความสุขมากนัก เธอฝืนยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ จะเร่งรีบขนาดนี้ได้ยังไง พวกเรายังไม่ได้รู้จักเธอมากขนาดนั้นเลย เราเองก็ไม่เคยพบพ่อแม่ของเธอด้วย อย่างน้อยก็ควรจะหาเวลา ให้พวกเราทั้งสองตระกูลได้พูดคุยกันและปรึกษาหารือกันหน่อย”เหวินเหยียนโจวหยิบถ้วยชาขึ้นมา แต่เขาแค่เอามันมาใกล้จมูกแล้วดมกลิ่น เขาไม่ได้ดื่มมัน จากนั้นก็วางมันกลับไปที่เดิม สีหน้าเขาดูไม่ใส่ใจโหลวฉางเยว่รู้จักเขาดี เขารู้สึกว่าชาราคาถูกเกินไป เกินกว่าที่เขาจะเอาเข้าปากได้ และคำพูดเหล่า

  • บอสเหวินรีบตามเร็ว! คุณภรรยาค่าตัวสามหมื่นล้าน   บทที่ 414

    ระยะทางจากห้างสรรพสินค้าถึงบ้าน ก็ใช้เวลาประมาณสิบกว่านาที โหลวฉางเยว่ก็ครุ่นคิดว่าจะพูดอะไรดีอยู่ในใจ จะบอกพ่อโหลวแม่โหลวยังไงดี เกี่ยวกับเรื่องที่เธอกำลังจะแต่งงาน?จะให้อธิบายยังไง ว่าลูกสาวของพวกเขา ตอนเพิ่งออกจากบ้านก็เป็นแค่คนโสด แต่ผ่านไปได้แค่ครึ่งชั่วโมง กลับบ้านมาก็กลายเป็นคนที่กำลังจะแต่งงานอย่างงั้นเหรอ?เธอคิดไม่ตกเลยจริง ๆ เลยได้แต่พาเหวินเหยียนโจวเดินไปรอบ ๆ ตรอกเท่านั้น จนกระทั่งประธานเหวินเริ่มหมดความอดทน เขาคว้าหลังคอของเธอแล้วลากกลับบ้าน“ผมเคยได้ยินประโยคหนึ่งที่ว่า ‘แม้ลูกสะใภ้จะขี้เหร่ แต่ก็จำเป็นจะต้องเจอหน้าพ่อแม่สามีอยู่ดี’ ผมคงไม่ได้ไร้ความสามารถถึงขั้นทำให้คุณอายจนไม่กล้าพาผมไปเจอหน้าพวกท่านหรอกมั้ง? ”โหลวฉางเยว่คิดว่าเขามีความสามารถมากเกินไปต่างหาก เธอถึงไม่รู้ว่าจะบอกพ่อแม่ของเธอยังไงดีคิ้วของเหวินเหยียนโจวขยายออก และยกขึ้นเล็กน้อย แล้วเขาก็พูดด้วยหางเสียงว่า “หืม” โหลวฉางเยว่ทำได้แค่กัดฟัน แล้วพาเขาเข้าไปพ่อโหลวออกไปตั้งแต่เช้า ตอนนี้ยังไม่กลับมาแม่โหลวเพิ่งเห็นว่าเธอพาเพื่อนกลับบ้านมาด้วย แถมยังเป็นเพื่อนผู้ชายอีกต่างหาก รู้สึกประหลาดใจและตกใจม

  • บอสเหวินรีบตามเร็ว! คุณภรรยาค่าตัวสามหมื่นล้าน   บทที่ 413

    ผนังซีเมนต์สีเทาที่ได้รับแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ ทำให้รู้สึกอบอุ่นเล็กน้อย ขณะที่เธอกำลังจัดเสื้อผ้าตัวเองอยู่ โหลวฉางเยว่ก็ไม่ได้เอ่ยปากพูดอย่างอื่น “......ฉันยังไม่ได้ตกลงอะไรเลยนะคะ คุณเลิกคิดเองเออเองได้แล้วค่ะ”เหวินเหยียนโจวก็ยังคงจัดการวางแผนเองอยู่ “ยังไงนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้เข้าบ้านจริง ๆ คงดูไม่ดีถ้าเข้าไปมือเปล่า คุณช่วยพาผมไปที่ห้างสรรพสินค้าในตำบลของคุณหน่อยสิ แล้วคุณก็ช่วยเลือกของขวัญที่เหมาะกับพ่อแม่ของคุณด้วย”“......”“เด็กดี นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้พบกับพ่อแม่คุณ คุณต้องช่วยผมด้วยนะ”“......”โหลวฉางเยว่ลูบแหวน เธอไม่รู้ว่าเธอตัวชาเพราะการที่เขาเรียกเธอว่าเด็กดี หรือเป็นเพราะสับสนกับท่าทางที่เขายอมก้มหัวให้กันแน่ เธอค่อนข้างสับสนอย่างมาก แต่เธอก็ยังพาเขาไปที่ห้างสรรพสินค้าอยู่ดีโชคดีที่ชุมชนนี้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว เลยยังพอจะมีห้างสรรพสินค้าที่จำหน่ายสินค้าแบรนด์ระดับไฮเอนด์อยู่บ้างแต่ก่อนที่จะเข้าประตู เหวินเหยียนโจวก็ได้รับสายโทรศัพท์สายหนึ่ง เขามองไปที่ชื่อผู้โทร ขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าของเขาไม่ผ่อนคลายเหมือนตอนที่เผชิญหน้ากับเธอเมื่อกี้โหลวฉางเยว่มองไปที

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status