Share

บทที่ 18

ข้อมูลเป็นอะไรที่แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว เรื่องที่โหลวฉางเยว่ติดต่อกับหลายบริษัทบ่อย ๆ ในช่วงนี้ ก็ไม่อาจปิดบังจากคนในได้

เหวินเหยียนโจวไปขี่ม้าที่ทุ่งหญ้าเพื่อพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์กับเพื่อน ๆ สองสามคน และระหว่างเวลานี้ก็คุยกันถึงหัวข้อนี้ขึ้นมา

ซูหยุนถามขึ้นอย่างซื่อบื้อว่า “จริงหรือเปล่า? ที่ว่าพี่โจวยอมปล่อยให้เลขาโหลวจากไป?”

“จริงแท้แน่นอน ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลของฉันก็ยังได้ติดต่อเธอไปแล้วเช่นกัน เพียงแต่ไม่รู้ว่าเพราะอยู่นอกเหนือการพิจารณาวางแผนเรื่องอาชีพการงาน หรือว่าเพราะฉันรู้จักโจวเอ๋อร์กันแน่ แต่ถึงอย่างไรเธอก็บอกว่าไม่ค่อยเหมาะสม และปฏิเสธมาแล้ว”

เย่เหอหรานเหลือบมองไปที่เหวินเหยียนโจว สายตานั้นแฝงความหมายที่ตำหนิเขาอยู่เล็กน้อยที่ขัดโอกาสในการคว้าคนมีความสามารถเอาไว้

เหวินเหยียนโจวสวมชุดขี่ม้าสีดำ ส่วนล่างสะโพกคือม้าขาวตัวหนึ่ง หน้าตาหล่อแต่เย็นชา เมื่อเทียบกับสวมชุดสูทแบบคนชนชั้นสูงนั้น ตอนนี้ดูสบาย ๆ กว่ามาก

พวกเขากำลังคุยเรื่องโหลวฉางเยว่กันอยู่ แต่เขากลับดูเหมือนฟังเรื่องของคนแปลกหน้าอยู่เสียอย่างนั้น

แต่พอคิดดูอย่างละเอียดแล้ว เหวินเหยียนโจวก็เป็นแบบนี้มาโดยตลอด แม้ว่าหลายปีมานี้จะมีแค่โหลวฉางเยว่ผู้หญิงคนเดียวที่อยู่ข้างกาย แต่เขาก็ไม่ได้ปฏิบัติอะไรแบบพิเศษกับโหลวฉางเยว่มาตั้งแต่ต้นจนจบอยู่แล้ว

พวกเขายังเคยคุยกันถึงจุดยืนของเหวินเหยียนโจวที่มีต่อโหลวฉางเยว่

เห็นได้ชัดว่าไม่อาจเป็นคู่หมั้นของเขาได้ และไม่ยอมรับว่าเป็นแฟนสาว พูดถึงว่าจะเป็นเมียน้อยก็ดูจะไม่เหมือนอีกด้วย ท้ายที่สุดก็ไม่เคยเห็นเขาเคยจ่ายเงินก้อนโตซื้ออะไรให้ใครมาก่อนอีกด้วย ผู้คนในแวดวงนี้ของพวกเขา จะเลี้ยงดูนางแบบหรือเน็ตไอดอลโดยการมอบรถมอบบ้านให้ สุดท้ายก็เป็นมอบกระเป๋าให้ และกระเป๋าแอร์เมสที่อยู่บนหลังไป๋โหยวก็คือเหวินเหยียนโจวที่เป็นคนมอบให้

ในท้ายที่สุดเย่เหอหรานซึ่งเติบโตมาพร้อมกับเหวินเหยียนโจวก็พูดขึ้นว่าจุดยืนที่ดูจะใกล้เคียงที่สุด ก็คือเครื่องมือ

เหวินเหยียนโจวเป็นผู้ชายธรรมดาทั่วไป ที่มีความต้องการทางเพศ ดังนั้นจึงต้องการผู้หญิงเป็นปกติ แต่เขาไม่ชอบเสียเวลาจัดการกับความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง ดังนั้นผู้หญิงคนนี้เลยเป็นโหลวฉางเยว่

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ในตอนที่โหลวฉางเยว่สับสนวุ่นวายกับความสัมพันธ์นี้ แต่ในความเป็นจริงเหวินเหยียนโจวนั้นจะมีหรือไม่มีก็ได้

ซูหยุนรีบพูดขึ้นทันที “งั้นฉันก็จะสั่งให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลของฉันติดต่อไปหาเธอด้วย เลขานุการอย่างเลขาโหลว อยู่กับใครคนนั้นก็สบายใจ ฉันใจสั่นมาตั้งนานแล้ว!”

ซิ่วอวี้เหลือบมองเหวินเหยียนโจว แล้วพูดอย่างช้า ๆ ว่า “พวกนายช้าไปหนึ่งก้าวแล้วล่ะ”

เย่เหอหรานเลิกคิ้วขึ้น “หมายความว่าอะไร? เธอโดนนายพาตัวไปแล้วงั้นเหรอ?”

ซิ่วอวี้ถามขึ้น “จินอี้เฟย รู้จักเขาไหม?”

ซูหยุน “ลูกของเถ้าแก่อาหารและเครื่องดื่มจินปู๋ห้วนกรุ๊ปเหรอ?”

“ก็คือเขา เมื่อวานนี้ฉันเห็นเขากับเลขาโหลวกำลังกินข้าวด้วยกันอยู่”

ซูหยุนจิ๊จ๊ะ “เลขาโหลวเป็นที่แย่งชิงขนาดนี้เลย……”

“มากกว่านั้น” ซิ่วอวี้พูดขึ้น “ขาของเลขาโหลวดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บ เขายังช่วยประคองเลขาโหลวขึ้นลงจากรถด้วย เลขาโหลวก็ไม่ได้ปฏิเสธ ทั้งสองดูค่อนข้างสนิทสนมกัน แล้วกลางดึกของเมื่อวาน จินอี้เฟยยังโพสต์บนหน้าฟีดไทม์ไลน์ด้วย พูดเกี่ยวกับเก็บเกี่ยวความรักและอาชีพการงานที่ดีทั้งสองอย่าง”

ซูหยุนกับเย่เหอหรานมองตากัน จากนั้นก็มองไปที่เหวินเหยียนโจวอีก แล้วไม่พูดอะไร เพราะเข้าใจกันหมด

ทุ่งหญ้านั้นใหญ่มาก หลังจากที่พวกเขาพยายามวิ่งอยู่สองสามรอบ ก็เที่ยงแล้ว จึงขี่ม้ากลับกัน เหวินเหยียนโจวที่ดูไม่ค่อยคึกคัก เขาเดินอยู่หลังสุด ซิ่วอวี้จึงดึงบังเหียน มาอยู่เคียงข้างเขา

“โจวเอ๋อร์”

เหวินเหยียนโจวมองข้ามไป

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status