Share

บทที่ 17

“แม่ง……”

“หญิงร้ายชายเลว ขอให้แม่งอยู่ด้วยกันตราบชั่วฟ้าดินสลาย”

วันนี้โหลวฉางเยว่จะขนของในห้องทำงานกลับบ้านไปจนหมด การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่นี้ ไม่อาจปกปิดเฉียวซีซีที่อาศัยอยู่ด้วยกันได้ตามปกติ

ภายใต้การซักถามซ้ำ ๆ ของเฉียวซีซี ในที่สุดโหลวฉางเยว่ก็ต้องบอกทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้

เฉียวซีซีเปิดไมค์ขึ้นมาโดยตรง ด่าว่าเหวินเหยียนโจวกับไป๋โหยวอยู่นานนับครึ่งชั่วโมง ยิ่งด่าก็ยิ่งโมโห จึงไปหยิบเบียร์เย็น ๆ ออกมาจากตู้เย็นหนึ่งขวด แล้วกระดกเข้าไปจัง ๆ

เธอหันหน้า ไปถามโหลวฉางเยว่ “จากนั้นเธอก็ลาออกมาอย่างนี้งั้นเหรอ?”

โหลวฉางเยว่ทายาลงบนขาที่บาดเจ็บให้กับตัวเอง และพูดอย่างไร้อารมณ์ว่า “ไม่ใช่ว่าเธอหวังอยากให้ฉันออกมาจากเหวินเหยียนโจวมาโดยตลอดหรอกเหรอ? ตอนนี้ฉันลาออกมาแล้วไง เธอยังคิดว่าฉันวู่วามเกินไปอีกเหรอ?”

“ไม่ใช่แน่นอน! เธอเลือกถอยออกมาเอง มีหรือฉันจะไม่มีความสุข! ก็แค่รู้สึกว่าเอาคืนไอ้สารเลวคู่นั้นน้อยไป!”

เฉี่ยวซีซีด่าเสร็จ ก็เม้มริมฝีปากอีกครั้ง และถามโดยที่ยังโกรธต่อว่า “แล้วตอนที่เธอพูดว่าจะลาออก ท่าทีของไอ้โง่เหวินเหยียนโจวเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ฉันพูดว่าลาออกเสร็จก็เดินออกมาเลย ไม่ได้มองปฏิกิริยาของเขาอยู่น่ะ”

เฉียวซีซีพยายามถามขึ้นอีกว่า “ไม่ได้ตามออกมาเหรอ?”

โหลวฉางเยว่ “ไม่นะ”

อย่างไรก็ตาม เพราะเธอได้รับบาดเจ็บตรงขา จึงเคลื่อนไหวช้า และเดินออกมากว่าจะถึงหน้าประตูโรงพยาบาลได้ไม่ใช่ง่าย ๆ ในขณะที่กำลังเตรียมจะเรียกแท็กซี่ ก็เห็นไป๋โหยวนั่งอยู่ในรถฝั่งผู้โดยสารบนรถของเหวินเหยียนโจว และรถก็ขับผ่านไปตรงหน้าเธอ

เหอะ

เฉียวซีซีรู้สึกคับข้องใจ “ฉันหวังอยากให้เธอออกมาจากเขามาก ๆ เลยนะ แต่พอเธอออกมาจริง ๆ แล้ว และเขาก็ไม่รั้งเธอเอาไว้ ฉันก็รู้สึกไม่ยอมขึ้นมาอีก!”

โหลวฉางเยว่ยิ้มอ่อน ๆ เข้าใจว่าเธอรู้สึกอย่างไร ก็คือรู้สึกว่ามันไม่ควรเป็นแบบนี้ เธออยู่กับเขามาสามปี ได้รับความน้อยอกน้อยใจมามากมายขนาดนี้ พอเธอจะไป เขากลับไม่สะทกสะท้านเลย มันทั้งรู้สึกหมดพลังและน้อยอกน้อยใจ

เธออยากเห็นเขาเสียใจ ทุกข์ใจ และทำทุกวิถีทางเพื่อรั้งเธอเอาไว้ ตามเธอ เหมือนสุนัขที่ต่ำต้อยแบบนั้น

คนทั่วไปอาจจะใช่ แต่เหวินเหยียนโจวไม่ใช่คนทั่วไป เขาคนนั้นน่ะ……พระเจ้าลำเอียงกับเขาเกินไป เกิดมามีภูมิหลังที่ดี หน้าตาดี มีความสามารถ ข้างกายก็ไม่ขาดแคลนคน และยิ่งไม่ขาดแคลนคนที่ชื่นชมเขาและคุกเข่าให้กับเขารวมทั้งผู้คนที่คอยประจบประแจงเขาอีกด้วย

เธอสำหรับเขาแล้ว เดิมทีก็ไม่ได้นับว่าเป็นอะไรเลย

ในทางกลับกันโหลวฉางเยว่ต้องมาปลอบเฉียวซีซี “ถ้าคิดในแง่ดี ฉันไม่เพียงแต่ลาออกแล้วนะ แต่ก่อนลาออกหนึ่งเดือนไม่ต้องทำงานแต่ก็ได้รับเงินเดือนนะ ดีจะตายไป”

เฉียวซีซีคึกคักขึ้นมาทันที “มากกว่านั้น! ยังสามารถขู่ค่าชดเชยจากการบาดเจ็บระหว่างทำงานจากเขามาได้ด้วย สะใจจนผิวฉันจะแผ่ออกมาแล้วเนี่ย!”

โหลวฉางเยว่อดยิ้มไม่ได้ “เรียกว่าขู่อะไรกัน? พูดเหมือนฉันจงใจจะบาดเจ็บไปได้ แต่ว่า ค่าชดเชยการบาดเจ็บระหว่างทำงานสุดท้ายก็เป็นค่าชดเชยจากสำนักงานประกันสังคม ปี๋หยุนก็แค่ต้องจ่ายเงินเดือนให้ฉันตามปกติก็เท่านั้นแหละ”

“รายละเอียดไม่สำคัญ อย่างไรเสียวันนี้เธอก็ต่อสู้ในสนามรบได้อย่างงดงาม! หนึ่งเดือนนี้เธอก็รักษาตัวดี ๆ หายดีแล้วค่อยหางานดี ๆ ใหม่”

เดิมทีเฉียวซีซีอยากจะพูดว่า หาบริษัทที่ดีกว่าปี๋หยุนสักพันเท่าหมื่นเท่าไปเลย แต่พอกลับมาคิดดู มันอาจจะยากไปหน่อย

ในเมื่อนั่นเป็นถึงบริษัทปี๋หยุน บริษัทลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

โหลวฉางเยว่กล่าวว่า “อันที่จริง ตอนที่ฉันยังอยู่ในบริษัทสาขาเมืองเฟิงเฉิง ก็มีบริษัทหลายแห่งติดต่อฉันมาผ่านทางผู้บริหารน่ะ”

เฉียวซีซีตาเป็นประกาย “ถูกต้อง ๆ ! คนหัวกะทิชั้นสูงแบบเธอเนี่ย ผู้บริหารจะต้องเล็งเธอเอาไว้ตั้งนานแล้วแน่ ๆ ! แล้วเธอมีที่เหมาะสมแล้วหรือยัง?”

“มีอยู่สองสามแห่งน่ะ ฉันอยากจะทำความเข้าใจเพิ่มเติมอีกนิด แล้วค่อยตัดสินใจ”

เฉียวซีซีสะใจขึ้นมาอีกครั้ง “แม้กระทั่งงานก็ไม่ต้องหา พอสิ้นสุดวันพักแล้ว ก็เข้าทำงานกับบริษัทใหม่ได้อย่างราบรื่น โมโหไอ้โง่เหวินเหยียนโจวจริง ๆ เลย!”

เหวินเหยียนโจวจะถูกโกรธหรือไม่ โหลวฉางเยว่ก็ไม่สนใจ เธออยากออกมาตั้งแต่ในตอนที่ไป๋โหยวปรากฏตัว ที่กลับมาจากเมืองเฟิงเฉิง ก็เพื่ออยากจะแน่ใจเป็นครั้งสุดท้าย

เรื่องราวมาถึงตอนนี้ ก็ให้เป็นไปแบบนี้เถอะ

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status