Share

บทที่ 15 รู้จริงๆ เหรอว่าคนที่เข้าหอกับเจ้าคือใคร

สุดท้าย จวินเย่เสวียนก็ยอมหันไป ถึงแม้จะยังมีอาการไม่พอใจอยู่บ้างก็ตาม

แต่เหมือนกู้อวิ๋นซีจะได้พบกับความจริงข้อหนึ่ง นั่นก็คือ องค์ชายสี่ผู้นี้แท้จริงแล้วก็ไม่ได้เย็นชาไร้เมตตาขนาดนั้น เขาไม่ใช่คนเอาแต่ใจไม่คิดถึงคนอื่นขนาดนั้น

เขาถึงขั้นช่วยเธอหยิบเสื้อผ้าที่กองอยู่บนพื้นขึ้นมาส่งให้เธอที่เตียงด้วย

จากนั้นเขาก็เดินไปนั่งพักที่ด้านข้าง มองดูบาดแผลที่ขาของตัวเอง แล้วก็ได้แต่ทอดถอนใจ

เยียนเป่ยถูกแยกตัวออกไปแล้ว ส่วนจะให้ไปตามหมอหลวงมาทำแผลให้ตอนนี้ก็ไม่ได้อีก

ก็เลยได้แต่นั่งมองเลือดที่ไหลออกจากปากแผลตัวเองอยู่อย่างนั้น

ในที่สุดกู้อวิ๋นซีก็สวมเสื้อผ้าเรียบร้อย เมื่อเธอหันไปมองก็เห็นจวินเย่เสวียนกำลังฉีกผ้าผืนยาว คิดจะทำแผลให้ตัวเองอย่างลวกๆ

เธอรีบห้ามเขาอย่างรีบร้อน "องค์ชายสี่ มีเศษกระเบื้องฝังอยู่ที่แผลด้วยนะเพคะ ต้องทำความสะอาดแผลก่อน!"

เธอพยายามคลำทางลงมาจากเตียง เพื่อจะเดินไปหยิบกล่องๆ หนึ่งที่ตั้งอยู่ไม่ไกล ทั้งๆ ที่ตอนนี้ขาของเธอก็ยังคงรู้สึกอ่อนแรงอยู่

กล่องๆ นั้นบ่าวรับใช้เป็นคนเตรียมไว้ให้เธอ ข้างในมีห่อเก็บเข็มของเธออยู่ด้วย

เมื่อเห็นเธอเดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับห่อเข็ม จวินเย่เสวียนก็ยกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย "ทำไมเราไม่เคยรู้ว่าเจ้ารู้วิชาการแพทย์ด้วย"

กู้อวิ๋นซีมองไปที่เขาทีหนึ่ง "ข้ากับองค์ชายสี่ไม่เคยพบกันมาก่อน เรื่องของข้า องค์ชายสี่จะรู้สักเท่าไรกันเชียว"

จวินเย่เสวียนมองไปที่เธอ แววตาเขาเต็มไปด้วยความซับซ้อนที่เธอเองก็มองไม่ออก

ครู่หนึ่ง เขาจึงได้พูดออกมาว่า "แล้วเจ้าอยากให้เรารู้สักเท่าไรล่ะ"

กู้อวิ๋นซีไม่ได้ตอบอะไร

เธอหวังว่าต่อไปคงจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาอีก ดังนั้น ทางที่ดีไม่ต้องรู้สักเรื่องเลยจะดีกว่า

กู้อวิ๋นซีเปิดห่อเข็มออก ด้านในนอกจากจะมีเข็มเงินอยู่แล้ว ยังมีพวกของประหลาดต่างๆ ที่จวินเย่เสวียนก็ไม่รู้จัก

อย่างพวกมีดเอย แหนบเอย กรรไกรเอย แต่ทุกอย่างล้วนดูปราณีตไปหมด

"ของพวกนี้ จะเอาไว้ใช้สังหารหรือป้องกันตัวจากศัตรูได้อย่างไร" เขาเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย

กู้อวิ๋นซีนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าขาของเขาเธอเปิดกล่องยาออก และเริ่มจัดการทำความสะอาดปากแผลให้เขา

"ของพวกนี้ไม่ได้มีไว้เพื่อสังหารศัตรู มีไว้เพื่อรักษาคนต่างหาก"

จวินเย่เสวียนไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงมองตามที่นิ้วของเธอ

นิ้วเรียวเล็กสีขาวนั่นดูจะคล่องแคล่วกว่าที่เขาคิดเอาไว้มาก

และพวกของเล็กๆ ที่เขาไม่เห็นค่าพวกนั้นแหละที่ใช้คีบเอาเศษกระเบื้องที่ติดอยู่ในผิวเนื้อออกให้เขาทีละนิดๆ

เอาออกเกลี้ยงใช้ได้

กู้อวิ๋นซีคอยจับสังเกตสีหน้าของเขาอยู่ตลอด

ตอนนี้ใบหน้าหล่อเหลาของเขามีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นอยู่รำไร แต่ถึงจะเจ็บขนาดไหนแต่เขาก็ไม่แม้แต่จะขมวดคิ้วสักนิด

"ไม่...เจ็บเหรอเพคะ"

"เราจะร้องไห้เป็นผู้หญิงต่อหน้าเจ้าได้ยังไงล่ะ" จวินเย่เสวียนตอบเหมือนเป็นเรื่องธรรมชาติ

"เช่นนั้น...ไม่เจ็บจริงๆ เหรอ" เขาไม่ร้องสักแอะ จนเธอแทบจะคิดว่าตัวเองกำลังทำแผลให้กับคนตายอยู่แล้ว

คนตาย...ในใจเธอรู้สึกเศร้าเสียใจแปลกๆ

"องค์ชายสี่..."

"เจ็บจะตายอยู่แล้ว รีบๆ เลย!" จวินเย่เสวียนโวยวายเสียงดัง

กู้อวิ๋นซีถอนหายใจอย่างโล่งอก

นี่สิถึงจะเป็นองค์ชายสี่ที่เธอรู้จัก

เผด็จการ หยาบคายแถมนิสัยเสียสุดๆ

เธอรีบเร่งมือขึ้น

ในที่สุดเธอก็ทำแผลให้เขาเสร็จก่อนเที่ยงคืน

จากนั้น กู้อวิ๋นซีก็ใช้โต๊ะช่วยพยุงตัวเธอให้ลุกขึ้น แต่เมื่อลุกขึ้นแล้วเธอก็ยังรู้สึกหน้ามืดไร้เรี่ยวแรงอยู่ดี

เธอค่อยๆ เดินกลับไปที่เดิมเพื่อเอากล่องยากับห่อเข็มเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย เมื่อเก็บเสร็จ หันมาก็เห็นว่าจวินเย่เสวียนกำลังลุกเดินมาทางเธอ

จู่ๆ กู้อวิ๋นซีก็รู้สึกตื่นกลัว จึงก้าวถอยหลังไปก้าวหนึ่ง

คิดไม่ถึงว่าด้านหลังจะเป็นเก้าอี้ยาว เมื่อถอยมา น่องของเธอก็เลยชนเข้ากับเก้าอี้จนเสียหลัก ล้มตึงลงบนเก้าอี้เลย

เมื่อกำลังจะลุกขึ้นมาก็เห็นว่าจวินเย่เสวียนได้มายืนซ้อนอยู่ข้างหน้าเธอเป็นที่เรียบร้อย จึงทำให้เธอไม่สามารถยืนขึ้นได้

"องค์ชายสี่ ข้าคือภรรยาของฉู่หลีนะ! หากท่านกล้าเสียมารยาทกับข้าอีก ฉู่หลีจะต้องเกลียดท่านแน่ๆ!"

เมื่อคิดถึงภาพที่ทั้งคู่เกือบมีอะไรกันในคืนนี้ ภาพจูบนั้นยังคงชัดเจน กู้อวิ๋นซีก็รู้สึกสิ้นหวัง

ในเวลาเช่นนี้ จะมีเรื่องให้เกี่ยวข้องกับเขาไม่ได้อีก

จวินเย่เสวียนได้แต่ยืนจ้องเธออย่างเย็นชา ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจ้องมานานเท่าไรแล้ว แต่จู่ๆ เขาก็ยกริมฝีปากขึ้นก่อนจะถามว่า

"เจ้าแยกเรากับฉู่หลีออกได้จริงๆ เหรอ เจ้ารู้จริงๆ เหรอว่าคนที่เข้าหอกับเจ้าคือใคร"

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status