Share

บทที่ 1

Penulis: moonlight -mini
last update Terakhir Diperbarui: 2025-01-18 03:04:06

บทที่1

“แค่ก ๆ” เสียงไอถี่ดังขึ้นไม่หยุด เมื่อตอนนี้ลำคอของเยว่เหลียนในตอนนี้แห้งเป็นผง ริมฝีปากแตกระแหงเพราะไม่ได้ดื่มได้กินมาหลายวันแล้ว หากนางนับแสงที่ลอดเข้ามาไม่ผิดน่าจะสามวันแล้วกระมัง

สวรรค์ข้าเคยทำผิดมามากมายเพียงใดกันถึงได้ลงโทษกันเช่นนี้ เยว่เหลียนต่อว่าฟ้าดินอยู่เพียงครู่ประตูที่ปิดอยู่ถึงสามวันก็เปิดออก

แม้ดวงตาของเยว่เหลียนจะพร่าเพราะแสงยามเย็น แต่นางก็เห็นว่าคนที่เปิดประตูเข้ามาเป็นน้องสาวต่างมารดาของนาง เยว่เม่ย

“แค่ก ๆ เยว่เม่ย ทะ ท่านแม่ให้มาปล่อย แค่ก ๆ ข้าแล้วหรือ” เสียงหัวเราะเสียดหูดังขึ้นจากน้องสาวต่างมารดาที่ในยามนี้นางเป็นฮูหยินรองของตระกูลตง นางเพิ่งแต่งเข้ามาได้ไม่นานนัก

แววตาสมเพชของเยว่เม่ยมองไปยังคนที่นอนไร้เรี่ยวแรงอยู่ที่พื้น

“ปล่อยรึ” เยว่เม่ยยกมือขึ้นมาป้องปากและหัวเราะด้วยท่าทางราวกับเรื่องตรงหน้านี่น่าขันเสียเต็มประดา

“พี่สาวท่านลองนึกดู ยามนี้จะมีใครในตระกูลตงนึกถึงท่านอีก ฮูหยินที่ฆ่าลูกตนเองเพียงเพราะไม่พอใจเรื่องรับเมียรอง รู้ไปถึงไหนก็อายไปถึงนั่น ที่จริงความผิดนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะเขียนหนังสือหย่าได้ แต่ข้าไม่พอใจแค่นั้นหรอก”

ดวงตาเหยียด ๆ มองมายังพี่สาวของตน เพราะนางเป็นเหตุทำข้าไม่ได้เป็นที่หนึ่ง เกิดก่อนแล้วอย่างไร สุดท้ายข้าจะแย่งทุกอย่างมาจากเจ้าให้หมด

“ไหน ๆ ก็มีโอกาสที่ดีเช่นนี้แล้ว ข้าคิดว่าพี่สาวก็ควรจะติดตามบุตรหรือบุตรีของท่านไปเสียให้สิ้นเรื่องจะดีกว่า”

เยว่เหลียนมองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ แค่ความรักจากสามีของนางยังไม่เพียงพอจะทำให้น้องสาวคนนี้พอใจอีกหรือ ยังมีสิ่งใดอีกที่เยว่เม่ยต้องการจากนางอีก

“แววตาเช่นนี้ มิรู้จริง ๆ น่ะหรือ” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนใบหน้าของหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นรองนางไม่ว่าจะเกิดทีหลัง หรือเข้ามาเป็นสะใภ้ตระกูลตงหลังจากนาง

“แค่ก ๆ เจ้า อึก เจ้า หมายความเช่นไร” เยว่เหลียนอยากจะเอ่ยถามให้ชัดกว่านี้ แต่เมื่อครู่นางคงใช้เสียงเท่าที่มีถามเรื่องที่ต้องการรู้ไปจนหมดแล้ว ตอนนี้จึงยากเหลือเกินที่จะเปล่งเสียงออกมาจากลำคอแห้งผากนั่น

“เอาเป็นว่าข้าจะบอกให้เอาบุญแล้วกัน” เยว่เม่ยพูดก่อนจะชายตาไปที่สาวใช้ของตน อีกฝ่ายเดินเข้าไปคุกเข่าใกล้ ๆ กับคนที่ได้ชื่อว่าฮูหยินเอก นางจับเอาชายผ้าของเยว่เหลียนยัดเข้าไปในปากของนายหญิงที่มีแต่ตำแหน่ง

“ถึงจะมั่นใจว่าพรุ่งนี้ทุกคนจะเจอพี่สาวอย่างท่านไหม้เป็นเถ้าธุลี แต่ข้าก็ขอสร้างความมั่นใจอีกสักนิดก็แล้วกันนะเจ้าคะ เพราะเรื่องที่จะบอกนั้นไม่อาจจะให้คนเป็นรู้ได้”

หญิงสาวเอียงคอมองใบหน้าที่สร้างความรำคาญใจให้กับนางเสมอมาก่อนจะฉีกยิ้มแม้จะงดงามแต่กลับไม่น่ามอง

“ข้ารอวันนี้มานานเหลือเกิน รอวันที่จะได้กำจัดเสี้ยนที่ตำอยู่ที่เท้า แม้จะเห็นอยู่แต่กลับเอาออกไม่ได้ช่างน่ารำคาญใจยิ่งนัก” เยว่เม่ยเดินวนเวียนไปรอบ ๆ ตัวของพี่สาวที่เป็นเหมือนศัตรูของนางมาทั้งชีวิต เหมือนกับมารดาของอีกฝ่ายที่เป็นศัตรูของมารดาของนางเช่นเดียวกัน ฉะนั้นแล้วนางก็จะกำจัดอีกฝ่าย เหมือนอย่างที่มารดาของนางเคยทำ ไม่ให้อยู่เป็นเสี้ยนหนามตำตาไปแบบนี้หรอก

“ไม่แค่นั้นเสี้ยนนั่นยังมีมากกว่าหนึ่ง ทั้งลูกและแม่ อะเกือบลืมไป มารดาของเจ้าก็เป็นเสี้ยนที่ถูกกำจัดทิ้งเฉกเช่นเดียวกันกับเจ้า ข้าเสียเวลาพูดมากไปแล้ว เอาเป็นว่าอย่ามัวแต่เสียเวลาพูดพร่ำกันให้มากเลย รีบ ๆ ตามลูกของเจ้ากับแม่ของเจ้าไปได้แล้ว และก็รู้ไว้ว่าอย่าเกิดมาเป็นศัตรูของพวกเราแม่ลูกอีก มิเช่นนั้นจะต้องตายเช่นนี้ทุกชาติไป”

เยว่เม่ยเดินออกจากสุสานบรรพชน นางไม่ลืมที่จะหันไปมองย้ำกับสาวใช้ของตนให้ทำสิ่งที่ตระเตรียมกันเอาไว้แล้ว สถานที่แห่งนี้จะต้องมีคนเข้ามาจุดธูปเทียนไม่ให้ขาด แต่เพราะหลายวันมานี้ ฮูหยินของคุณชายถูกขังเพราะทำความผิด หน้าที่จุดธูปเทียนจึงมีเพียงนางที่ทำ และหากมันจะเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยก็คงไม่มีใครเอะใจ นั่นก็เพราะหลาย ๆ คนนั้นกลายเป็นคนของเยว่เม่ยมานานแล้ว และคนพวกนั้นก็ไม่ได้ยินดีที่ตระกูลตงจะมีฮูหยินใหญ่นามเยว่เหลียน ทุกคนยินดีที่จะมีข้าเยว่เม่ยเป็นฮูหยินเอกมากกว่า นางยิ้มเยาะ ก็แน่ล่ะ ต่อให้เยว่เหลียนจะแสนดีและโอบอ้อมอารีกับบ่าวในจวนเพียงใด ไหนเลยจะเทียบกับคนที่เห็นมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยอย่างนางได้กัน

เปลวไฟจากเทียนที่ตกลงไปที่พื้นจากการกระทำของสาวใช้ของเยว่เม่ยค่อย ๆ ลุกลามจากเล็กเป็นใหญ่และโหมกระหน่ำจนทุกอย่างค่อย ๆ ถูกเผาไหม้

เยว่เหลียนที่อ่อนล้าจากร่างกายที่ขาดน้ำและอาหาร เหมือนจะเพิ่งเข้าใจความหมายที่อีกฝ่ายต้องการจะบอก

นี่หมายความว่าเยว่เม่ยจะบอกว่าท่านแม่และลูกของนางที่สิ้นไปนั้นอีกฝ่ายเป็นคนจัดการสินะ

การตายของท่านแม่ไม่ใช่อุบัติเหตุอย่างที่ใครๆ คิด แต่เป็นฝีมือของคนที่พึ่งเดินจากไปเมื่อครู่

คิดแล้วเยว่เหลียนก็ยิ่งรู้สึกแย่ ผิดหรือที่นางเกิดมาเป็นบุตรสาวของท่านแม่ ผิดหรือที่ท่านแม่เป็นฮูหยินใหญ่ ท่านแม่ของข้ามาก่อนแท้ ๆ แม้จะไม่มีเรี่ยวแรงแต่เยว่เหลียนก็พยายามดึงตนเองมาให้พ้นไฟแม้มันจะทำได้ยากเต็มที

ดวงตาที่เหนื่อยล้ามองไปรอบ ๆ หากท่านแม่ไม่ตกลงกับมารดาของตงเนี่ยนเจินชีวิตของนางจะเป็นเช่นนี้หรือไม่นะ

“แค่ก ๆ แค่ก”

หญิงสาวคิดน้ำตาไหลเป็นทางก่อนที่นางจะสิ้นสติไปทามกลางกองเพลิงที่ลุกโชน แต่ประตูที่พังทลายลงในช่วงสุดท้ายก่อนที่หญิงสาวจะไร้ซึ่งสติกลับทำให้นางเห็นอะไรบางอย่าง เพราะนั่นเป็นภาพที่ทำให้เยว่เหลียนปวดร้าวที่สุดในชีวิต

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • บัวขาวแต้มสี   บทที่31

    บทที่31“ที่ช่วงนี้พระชายาทรงรู้สึกเพลีย ๆ มิได้เป็นเพราะพระองค์ทรงงานหนักไปหรอกพ่ะย่ะค่ะ แต่เป็นเพราะกำลังทรงตั้งครรภ์ต่างหาก” ใบหน้าของเยว่เหลียนแดงซ่าน นางเพิ่งคลอดอาฉีออกมาได้ไม่นานนัก เหตุใดจึงตั้งครรภ์อีกแล้วเล่า “เช่นนี้เองที่เขาบอกว่าหัวปีท้ายปี จริงไหมตาเฒ่าหงเฉิน” คนเป็นตาทั้งสองที่ตอนแรกเป็นห่วงรีบมาเยี่ยมหลานและหลานสะใภ้ที่หมดสติ กลายเป็นว่านี่คือเรื่องมงคลจะต้องกลับไปฉลองกันเสียแล้ว“ทำไมทำหน้าเช่นนั้น เจ้าไม่ดีใจหรือ” หลังจากทุกคนออกไปจากห้องตงห่าวก็เอ่ยถามชายาของตน “มิใช่ไม่ดีใจ แต่ข้าอาย” เยว่เหลียนไม่เคยรู้สึกเขินอายเท่านี้มาก่อน นางเพิ่งคลอดลูกไปได้ไม่นานแท้ ๆ“อายทำไมกันเล่า เรื่องธรรมชาติ ใครก็เป็นเช่นนี้กันได้ทั้งนั้น ดีเสียอีก อาฉีจะได้มีน้องอายุไล่ ๆ กัน ถ้าคนนี้เป็นชายก็ดีนะสิ ตระกูลหงของท่านตาก็จะได้มีคนสืบต่อ”และทั้ง ๆ ที่สองคนหมายมั่นเอาไว้เช่นนั้นแต่ท้องที่สองกลับกลายเป็นธิดาไปเสียได้ มิใช่มิยินดี แน่นอนว่าเด็กหญิงก็น่ารักไปอีกแบบ และครานี้ตงชี่จวิ้นก็หลงรักหลานตัวน้อยของเขาเอามาก ๆ ถึงขนาดมาอยู่เมืองฉีนานนับปีจนคนเป็นตงฮูหยินต้องกลับไปเมืองหลวงก่อน เพรา

  • บัวขาวแต้มสี   บทที่30

    บทที่30ทุกอย่างกลับเข้าสู่สภาวะปกติ หลังจากช่วยเลี้ยงหลานอยู่นานนับเดือน ตงชี่จวิ้นก็กลับไปเมืองหลวงพร้อมกับฮูหยินของตน เพราะได้ข่าวว่าอนุ ต้องบอกว่ายามนี้นางเป็นฮูหยินเอกของคุณชายรองตงเนี่ยนเจินก็กำลังจะคลอดลูกไม่ต่างกัน และเพราะคำนั้นทำให้เยว่เหลียนแกล้งเอ่ยถามกับสามีของนางเกี่ยวกับเยว่เม่ย“ข้าขอโทษที่ปิดบังเจ้า แต่สถานการณ์ของตระกูลเยว่ไม่ดีนัก”ทั้ง ๆ ที่ตงห่าวกังวลกลัวว่าพระชายาของตนจะรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับข่าวของตระกูลทางบิดา แต่ก็เปล่าใบหน้าของเยว่เหลียนนิ่งสนิท “หม่อมฉันไม่ได้เป็นคนที่สูงส่งขนาดจะไม่รู้สึกอะไรกับคนที่ทำร้ายมารดาหรอกเพคะ”ตงห่าวดึงพระชายาตนเข้ามากอด “ใช้คำพวกนี้อีกแล้ว ข้าบอกเจ้าว่าอย่างไร” เยว่เหลียนมองพระสวามีของนางที่ตอนนี้รับตำแหน่งแทนท่านตาเรียบร้อยแล้ว“เรื่องบางเรื่องก็ควรทำเพื่อให้คนอื่นดู แต่หากพระองค์อยากได้ยินหม่อมฉันคุยกับท่านอ๋องเช่นพระองค์เหมือนแต่ก่อน คงต้องรอยามที่อยู่กันสองต่อสองแล้ว” ตงห่าวมองคนรักของเขาที่นับวันก็ดูคล้ายจะยั่วยวนมากขึ้นทุกขณะ“ว่าแต่เจ้าแน่ใจนะเรื่องตระกูลเยว่”เยว่เหลียนพยักหน้า “หากพระองค์จะช่วยอะไรก็ทำแต่พอดีเถอะเพคะ แต่

  • บัวขาวแต้มสี   บทที่29

    บทที่29หลังจากคำนั้นของสามีเยว่เหลียนก็ต้องปลอบใจคนตัวใหญ่ใจเล็กอยู่นาน อีกฝ่ายทั้งอายุมากกว่า ทั้งเก่งกาจ ทำทุกอย่างได้ดีไปหมดจนบางครั้งหญิงสาวก็ลืมไปว่าบางอย่างก็ต้องพูดกันตรง ๆ “ท่านพี่ข้าขอโทษ เพราะเป็นฝ่ายที่ถูกท่านรักจนเคยชินจึงลืมที่จะเอ่ยความในใจออกไป ข้ารักท่านมานานมากแล้ว งานมงคลของเราก็ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความไม่เต็มใจ ท่านพี่อย่ากังวลใจไปนะเจ้าคะ” มือเรียวประคองใบหน้าของผู้เป็นสามีเข้ามาจุมพิตเบา ๆ หลังจากรับรู้ความรู้สึกของตงห่าวในวันนี้ เยว่เหลียนต้องยอมรับเลยว่าทุกสิ่งมันทำให้นางมองตงห่าวไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แต่มิใช่ในทางที่ไม่ดี นางกลับรู้สึกว่าชายหนุ่มนั้นดูเป็นคนธรรมดามากขึ้น มิได้เพียบพร้อมไปเสียทุกสิ่ง"ท่านพี่ ข้าเองก็ไม่เคยรักใครมาก่อน ไม่เคยต้องกังวลใจเพราะใครมาก่อนนอกจากคนในครอบครัวเช่นนั้นแล้วหากมีเรื่องอะไร ท่านพี่สามารถพูดกับข้าได้เลยนะเจ้าคะ อย่างไรเราก็เป็นคู่ชีวิตกันแล้ว อย่างเช่นเรื่องนี้หากข้าไม่เอ่ยคำว่ารักออกไปชั่วชีวิตนี้ท่านพี่ก็จะอยู่ไปกับความรู้สึกที่ไม่แน่ใจนี่หรือ เรื่องบางเรื่องก็ต้องพูดต้องคุยนะเจ้าคะ” เยว่เหลียนจำต้องเอ่ยต่อว่าสามีของนางไ

  • บัวขาวแต้มสี   บทที่28

    บทที่28วันเวลาผ่านไปท้องของเยว่เหลียนก็โตขึ้นทุกที อาการของท่านตาก็ดีขึ้นที่จริงก็ต้องบอกว่าท่านตาทั้งสอง เพราะตอนนี้ทั้งคู่ชอบมานั่งเล่นหมากล้อมด้วยกันเกือบทุกวันชีวิตของเยว่เหลียนดีแตกต่างจากทางตระกูลเยว่ของนางยิ่งนัก และก็ไม่มีใครกล้าเล่าเรื่องราวหลาย ๆ อย่างในตระกูลเยว่ให้หญิงสาวได้ฟัง นั่นก็เพราะตงห่าวห้ามเอาไว้ เขากลัวภรรยาจะรู้สึกไม่ดีหากได้รับรู้ข่าวที่น่าอดสูหลาย ๆ เรื่องจากตระกูลของบิดา“ท้องเจ้าใหญ่มากหรือจะมิได้มีคนเดียว” คำพูดของสามีทำให้เยว่เหลียนกังวลไม่ใช่น้อย เพราะนางเคยได้ยินหญิงสาวที่ในหนึ่งท้องมีบุตรสองคน ได้ข่าวมาว่าอันตรายยิ่งนัก ทั้งยังคลอดยาก“อย่าเลยเจ้าค่ะ ข้ากลัว ค่อย ๆ ท้องค่อย ๆ คลอดทีละคนดีกว่า” ตงห่าวยิ้มมือแกร่งก็ลูบไปบนหน้าท้องที่นูนขึ้นมา “พูดเช่นนี้เจ้าอยากจะให้ข้าทำให้ตามที่เจ้าขอหรือ” เมื่อเข้าใจความของคำพูดสามีใบหน้าสวยก็แดงซ่าน แม้จะอยู่ด้วยกันมานาน แต่เยว่เหลียนก็ยังเขินอายการได้อยู่กับตงห่าวมันทำให้เยว่เหลียนรู้แล้วว่าสิ่งที่นางรู้สึกกับตงเนี่ยนเจินในชาติก่อนนั้นมันไม่ใช่ความรักเลยแม้แต่นิด กับตงห่าวสิถึงจะเรียกว่าความรักได้ยามนี้หญิงสาว

  • บัวขาวแต้มสี   บทที่27

    บทที่27ข่าวการตั้งครรภ์ของเยว่เหลียนที่มาถึงตระกูลเยว่ยิ่งทำให้เยว่เม่ยที่เพิ่งได้รับหนังสือหย่าจากสามีมาหมาด ๆ เกิดความริษยา ที่ของเยว่เหลียนควรจะเป็นของนางตั้งแต่แรก ชีวิตของนางไม่ควรจะต้องมาติดอยู่กับผู้ชายเฮงซวยอย่างตงเนี่ยนเจิน ทั้ง ๆ ที่เป็นพี่น้องกับตงห่าวแต่ทำไมก็ไม่รู้นิสัยถึงไม่ได้เหมือนกันเลยแม้แต่นิดหญิงสาวนั่งอยู่หน้าป้ายวิญญาณของท่านแม่ของนาง ไม่มีใครสนใจที่จะนำป้ายวิญญาณของท่านแม่ไปร่วมกับศาลบรรพชนของตระกูล นางเองที่กลับมาอยู่ในจวนหลังจากหย่าร้างกับตงเนี่ยนเจินก็เก็บตัวอยู่แต่ในห้องนอนของตัวเอง นางไม่มีหน้าไปสู้หน้าใครอีกแล้ว ท่านพ่อไม่สนใจนางตั้งแต่สงสัยเรื่องท่านแม่ฆ่าฮูหยินเอก แม้ท่านแม่จะบอกกับท่านพ่อว่าไม่ได้ทำอะไร แต่ความสงสัยเมื่อเกิดแล้วก็ไม่สามารถจะทำให้มันหายไปได้ ที่จริงนางรู้เรื่องทั้งหมด ท่านแม่เคยเล่าให้ฟัง หากฮูหยินยังอยู่ แม่ของนางที่เป็นเพียงอนุก็ไม่มีทางที่จะมีที่ยืนในตระกูลเยว่แห่งนี้ ในตอนที่มารดาของนางตั้งครรภ์ท่านจึงลงมือฆ่าอดีตตงฮูหยิน แสร้งทำเป็นอุบัติเหตุ มันได้ผล ได้ผลเท่าอายุของนางจนถึงวันที่ท่านแม่จากไป เยว่เม่ยคิดอย่างเศร้าใจ มารดาของน

  • บัวขาวแต้มสี   บทที่25

    บทที่25หลังจากกินอาหารและอาบน้ำกันเรียบร้อยทั้งสองก็มานอน เยว่เหลียนนอนไม่หลับ เฉกเช่นเดียวกันกับตงห่าว คนหนึ่งไม่หลับเพราะเป็นห่วงท่านตาของตน แต่อีกคนเป็นห่วงภรรยา และแน่นอนท่านตาของภรรยา“ท่านพี่ถาวกู่นั่น...” เยว่เหลียนกำลังจะบอกว่านางไม่ได้ตั้งใจจะเก็บของที่ตงเนี่ยนเจินให้เอาไว้ดูต่างหน้านะ แต่ก็เป็นตงห่าวที่พูดออกมาเสียก่อน “ถาวกู่ที่ข้าซ่อมให้เจ้าน่ะหรือ” เยว่เหลียนพยักหน้า“มีสิ่งใดหรือ” เยว่เหลียนที่ได้ยินคำถามก็ตัดสินใจอยู่นานนางกับสามีไม่ค่อยมีเรื่องราวอะไรกัน นางก็ไม่อยากให้ผิดใจกันเพราะเรื่องเช่นนี้ “ที่ข้าเก็บเอาไว้เพราะลืมทิ้งนะเจ้าคะ ข้าไม่ได้คิดอะไรกับตงเนี่ยนเจินจริง ๆ ” ตงห่าวยิ้ม ช่างเป็นความรู้สึกที่ดีจริง ๆ แม้จะมีเรื่องไม่สบายของท่านตา แต่ปกติเยว่เหลียนไม่ค่อยเปิดเผยความในใจ ตอนนี้นางกลับดูกระวนกระวายเพราะกลัวว่าเขาจะเข้าใจผิด“ที่จริงข้าเองก็มีความจริงจะบอกเจ้า แล้วก็ดีแล้วที่เจ้าไม่ทิ้งมันไป เพราะถาวกู่อันนั้นข้าเป็นคนให้เจ้าเอง ที่จริงตงเนี่ยนเจินไม่เคยส่งอะไรมาให้เจ้า ขนมหรือของฝากก็ล้วนเป็นข้าทั้งสิ้น หลัง ๆ ข้าไม่อยากโกหกเจ้าแล้วเลยบอกว่าเป็นของฝากข้าเอ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status