Share

ตอนที่ 8

last update Last Updated: 2024-10-17 22:44:29

แคว้นที่เขาอาศัยอยู่นี้มีชื่อว่าแคว้นฉิน มีการปกครองด้วยองค์จักรพรรดิ เมืองหลวงมีชื่อว่า ซูโจว ที่นั่นเคยเป็นบ้านของเขาก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่หมู่บ้านหลัวถง ซึ่งเป็นหมู่บ้านหนึ่งในเมืองไห่ถัง เมืองเล็ก ๆ ที่ไม่ค่อยมีสิ่งใดนัก แม้แต่การเดินทางจากเมืองหลวงมายังหมู่บ้านหลัวถงเองก็ใช้เวลานานกว่าสิบวัน

ขณะนี้ บ้านเมืองอยู่ในช่วงสงบศึกหลังสงครามเพียงแค่   สิบห้าปี อาหารจึงยังไม่เพียงพอ แรงงานยังคงขาดแคลน แต่ศิลปะการแสดงเริ่มกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

สำหรับการเดินทางจากหมู่บ้านหลัวถงเข้าไปในเมืองไห่ถัง ใช้เวลาเดินเท้าหนึ่งชั่วยาม หากเดินทางด้วยเกวียนจะใช้เวลาเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น แต่ถ้าเป็นรถม้าหรือม้า ก็จะย่นระยะเวลาไปอีกครึ่งหนึ่งของการเดินทางด้วยเกวียน

ค่าแรงชาวบ้านทั่วไปขั้นต่ำอยู่ที่ยี่สิบอีแปะต่อวัน โดยคนจ้างไม่ได้เลี้ยงอาหาร ชาวบ้านกินอาหารวันละสองมื้อ คือมื้อแรกเวลาประมาณ ยามอู่  (11.00 – 12.59)   มื้อสุดท้ายประมาณยามโหย่ว (17.00 – 18.59) การซื้อขายสินค้าจ่ายเป็นเงินตำลึง 

ครอบครัวจางไปรับจ้างทำงานในไร่ของหัวหน้าหมู่บ้านเพื่อแลกกับธัญพืชโดยไม่รับเงินค่าจ้างแต่อย่างใด

ค่าเงินหนึ่งพันอีแปะ เท่ากับหนึ่งตำลึง  และสิบตำลึง เท่ากับหนึ่งตำลึงทอง 

เครื่องปรุงมีเพียงเกลือและน้ำตาลเท่านั้น ซึ่งมันก็มีราคาแพงมาก ชาวบ้านยากจนเช่นครอบครัวของเขาในตอนนี้ถึงไม่มีเครื่องปรุงใช้เลย อย่าว่าแต่เครื่องปรุงเลย แค่ธัญพืชหยาบก็หาได้ยากแล้ว 

สำหรับวิธีการปรุงอาหาร ชาวบ้านรู้จักแค่การต้ม ย่าง นึ่ง อบ เพียงเท่านั้น

ชาวบ้านมีอาชีพหาของป่า สมุนไพร เกษตรกรรมและการประมง เพราะหมู่บ้านหลัวถงด้านหลังติดภูเขา ด้านหน้าติดทะเล ช่างเหมาะจะเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจโดยแท้

สำหรับอาชีพประมง มีชาวบ้านเพียงไม่กี่หลังที่มีเรือหาปลา นอกจากนั้นจะเป็นการจับปลาจากการดำน้ำและใช้แห  ปกติแล้ว คนหาปลาจะนำปลาไปขายในเมืองด้วยตนเอง แต่ชาวบ้านทั่วไปมักนำสิ่งของที่หามาได้ไปขายให้กับท่านลุงผิง ชายแก่วัยเกือบห้าสิบปีที่มีเกวียนรับคนจากหมู่บ้านเข้าเมือง โดยคิดค่านั่งเกวียนไปและกลับคนละสิบอีแปะ ลุงผิงจะนำสินค้าไปขายในเมืองอีกที นอกจากนี้ ลุงผิงยังรับซื้อของในเมืองกลับมาขายในหมู่บ้านด้วย

บ้านของครอบครัวจางอยู่ตรงท้ายหมู่บ้าน ติดกับภูเขามีข้อดีคือไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับชาวบ้าน ข้อเสียคืออาจจะมีสัตว์ร้ายหลงเข้ามาทำร้ายร่างกาย แต่ก็ยังไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น หมู่บ้านนี้มีจำนวนสามสิบหมู่ ถือว่ามีพื้นที่กว้างขวางพอสมควร ตอนนี้ครอบครัวของเขายังไม่ได้ทำสิ่งใดเพราะย้ายมาได้เพียงเดือนกว่า จางอี้หมิงก็ล้มป่วย หัวหน้าหมู่บ้านจึงแนะนำให้เพาะปลูกในปีหน้า อีกอย่างเพราะกำลังจะเข้าฤดูเหมันต์แล้วด้วย

“ท่านย่าขอรับ ท่านแม่จะทำงานในไร่ได้หรือไม่ขอรับ”

“หมิงเอ๋อร์ ย่าก็ไม่รู้เหมือนกัน แม่ของเจ้าเป็นหญิงสาวในห้องหอ งานหนักไม่เคยได้จับ ย่าก็หวังว่าแม่ของเจ้าจะไม่เป็นอะไร” นางหูก้มลงตอบคำถามของหลานชายด้วยสีหน้าวิตกกังวล

“ข้าจะรีบโตขอรับ ข้าจะหาเงินมาให้ท่านย่า ท่านพ่อ กับท่านแม่เยอะ ๆ เลยขอรับ”

“หมิงเอ๋อร์ เจ้าช่างเป็นเด็กดี กตัญญูรู้คุณคนยิ่ง ย่าจะรอวันนั้นนะ แต่ตอนนี้ย่าว่าพวกเรารีบเดินไปให้ถึงไร่ก่อนดีหรือไม่ ท่านพ่อท่านแม่ของเจ้าคงหิวข้าวแล้วเป็นแน่”

“ดียิ่งขอรับ”

บทสนทนาจบลงเท่านั้น สองย่าหลานรีบเร่งฝีเท้าขึ้นอีกเท่าตัว หวังว่าจะไปถึงไร่ทันเวลาพักของจางอี้เทาและหลี่อ้าย แต่เมื่อเดินทางมาจนจวนจะถึงแคร่ไม้สำหรับพักผ่อน เสียงเซ็งแซ่ก็ดังออกมาจากกลุ่มชาวบ้านที่ยืมรวมตัวกัน จางอี้หมิงและนางหูมองหน้ากันด้วยความสงสัยก่อนจะเดินเข้าไป

“เกิดอะไรขึ้น” หูไป๋หงเอ่ยถาม นางจูงมือหลานชายเดินเข้าไปหา เมื่อเห็นว่าชาวบ้านกำลังโบกไม้โบกมือเหมือนเรียก

“สะใภ้จางน่ะสิ คงเป็นลมแดด” ชาวบ้านคนหนึ่งตอบ ก่อนคนที่เหลือจะเดินแยกย้ายกันไปพักผ่อนและแกะห่อข้าวออกมากิน เหลือเพียงครอบครัวจางเท่านั้น นางหูรีบเดินเข้าไปหา วางห่อข้าวที่ต้องนำมาส่งไว้บนแคร่ไม้ไผ่

“อาเทา สะใภ้เป็นเช่นใดบ้าง”

“ท่านแม่ น้องหญิงเป็นลมแดดไปกว่าสองเค่อแล้วขอรับ ทำยังไงก็ไม่ฟื้น ข้าว่าเราไปตามหมอผิงมาดูอาการดีหรือไม่ขอรับ” 

“อย่าเพิ่ง ขอแม่ดูอาการนางก่อน” นางหูลงมือบีบนวดและใช้ใบไม้แถวนั้นมาพัด ผ่านไปชั่วอึดใจ สะใภ้จางจึงเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมา

“ฟื้นแล้ว ท่านแม่ฟื้นแล้วขอรับ” เป็นจางอี้หมิงที่นั่งใกล้มารดาของตนเอ่ยขึ้นด้วยความดีใจ เด็กชายรีบร้องเรียกมารดา

“หมิงเอ๋อร์ ท่านแม่ ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ” หลี่อ้ายคว้าตัวบุตรชายมาสวมกอดไว้หลวม ๆ ก่อนจะคลายวงแขน นางหันไปมองสมาชิกในครอบครัวที่เหลือแล้วถามออกมา

“น้องหญิง เจ้าเป็นลมแดด ตอนนี้เรายังอยู่ที่ไร่ของหัวหน้าหมู่บ้าน”

“ท่านพี่ ข้าเป็นลมเช่นนี้คงทำงานต่อไปไม่ได้ เราจะได้ส่วนแบ่งอาหารหรือไม่เจ้าคะ”

ในฐานะที่เป็นสะใภ้ หลี่อ้ายมีความกังวลขึ้นมาทันทีเมื่อได้รับคำตอบ ถ้าไม่ได้ส่วนแบ่งอาหารแล้วตนเองยังมาล้มป่วย คาดว่าครอบครัวคงแย่ยิ่งกว่านี้

“สะใภ้จาง ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะให้ส่วนแบ่งธัญพืชกับเจ้าเหมือนเดิม ป่วยก็กลับไปพักให้หายก่อน ถ้าดันทุรังทำงานต่อไป ข้าเกรงว่าร่างกายเจ้าคงย่ำแย่จนลุกไม่ขึ้นเป็นแน่” ซุนซูเย่ ลูกชายหัวหน้าหมู่บ้านเอ่ยขึ้น เขายิ้มปลอบใจและเดินกลับไปกินข้าวกับครอบครัวตนเองอีกมุมหนึ่ง

“ขอบคุณพี่ซูเย่ พวกข้าเกรงใจพี่ซูเย่ยิ่งนัก” จางอี้เทาเอ่ยด้วยความเกรงใจ ครอบครัวเขาทำงานก็ไม่ใช่จะได้เต็มที่ เนื่องจากไม่เคยมีใครต้องทำงานหนักมาก่อน งานอันใดที่ได้รับมอบหมายมา ก็ช้ากว่าชาวบ้านคนอื่น แต่ซุนซูเย่ก็ไม่เคยเอ่ยตำหนิ ทั้งยังคอยให้กำลังใจรวมถึงสอนงานต่าง ๆ มากมาย

“อาเทา เจ้ามากินข้าวก่อนเถอะ ตอนบ่ายจะได้ไปทำงานได้ตามปกติ ยิ่งอาเย่ไม่ตำหนิเรา ยิ่งต้องเกรงใจ” นางหูเอ่ย 

“หลี่อ้าย เจ้าลุกขึ้นไหวหรือไม่ ลุกมากินข้าวก่อน เสร็จแล้วข้าจะพาเจ้ากลับบ้าน คงต้องให้พักตามที่อาเย่บอก ไม่เช่นนั้นเกิดเจ้าล้มป่วยไปมากกว่านี้ คงไม่ดีเป็นแน่”

“ท่านแม่ หมิงเอ๋อร์ ท่านกินข้าวหรือยังขอรับ”

“แม่กับอาหมิงก็ยังไม่ได้กินเช่นกัน แม่รีบเอาข้าวมาส่งให้ลูกก่อน”

“เช่นนั้น พวกเรามากินด้วยกันเถอะขอรับ” 

จางอี้เทาเสนอ เขาชวนให้ทุกคนกินข้าวด้วยกันพร้อมหน้า ถึงแม้ว่าอาหารที่มีจะเป็นแค่โจ๊กธัญพืชผักป่า แต่เมื่อทำงานหนักและความหิวมาเยือน ทันทีที่ได้ลิ้มรสคำแรก ก็ชวนให้รู้สึกดีขึ้นมาไม่น้อย

ขอบคุณท่านเทพทั้งหลายที่ยังให้พวกข้ามีข้าวกินในวันนี้

จางอี้เทากล่าวขอบคุณสวรรค์ในใจเงียบ  ๆ

แต่ไม่ใช่กับจางอี้หมิง เขาจะไม่ยอมทนกินอาหารหมูแบบนี้แน่

คิดสิคิด ในการหาข้อมูลต่าง ๆ ที่เราเคยทำมาก่อน ต้องเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์

สิ่งแรกคือต้องไปหาของกินในป่า นิยายเรื่องไหน ๆ ของกินหรือสมุนไพรล้ำค่ามักอยู่บนเขาทั้งนั้น

เห็นทีเขาต้องขึ้นเขาโดยเร็วซะแล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 270

    จางอี้หมิงยืนมองขบวนเดินทางของท่านย่า ท่านพ่อ ท่านแม่ และน้องน้อยอีกสองคนจนขบวนหายลับไปจากสายตา เมื่อหลี่อ้ายแข็งแรงพอจะออกเดินทางแล้ว ครอบครัวจางจึงได้เดินทางกลับหมู่บ้านหลัวถงพร้อมกับป้ายวิญญาณของอดีตท่านผู้นำตระกูล เด็กน้อยถอนหายใจและหันหลังเดินกลับเข้าจวนไปด้วยความรู้สึกหดหู่เล็กน้อย ด้วยนี้เป็นครั้งแรกที่เขาต้องแยกจากบิดา มารดาและท่านย่าตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาในร่างของจางอี้หมิงคนนี้ เขามีโอกาสได้มีความสุขกับน้องชายน้องสาวเพียงแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น แต่มิเป็นไรหรอกเมื่อเขาหมดภาระต้องตอบแทนบุญคุณแล้วจะกลับมายังแคง้นฉินก็ยังมิสายเกินไปความตั้งมั่นต่อสิ่งที่จะทำตั้งแต่ฟื้นคืนมีชีวิตใหม่อีกครั้ง ภารกิจเหล่านั้นเขาทำมันได้สำเร็จทุกอย่างแล้วไม่ว่าจะเป็นการนำป้ายวิญญาณท่านปู่กลับไปที่หมู่บ้านหลัวถง การแก้แค้นตระกูลหลัก การมีอาชีพและฐานะที่ดีขึ้น การแบ่งปันความสุขและความสำเร็จต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่เสร็จสิ้นไปทั้งหมดแล้ว ในแคว้นฉินนี้ เขามิมีสิ่งใดให้เป็นห่วงอีกต่อไป“น้องชายหมิง พวกเราออกเดินทางกันเถอะ สายมากแล้ว”เป็นอ๋องน้อยหนิงเทียนที่เดินเข้ามาวางมือลงไปบนบ่าเล็ก ๆ นั้นอย่างอ่อนโยน พร้

  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 269

    แต่สิ่งที่มิคาดว่าจะเกิดขึ้นก็เกิดขึ้นทันทีหลังจากที่จางอี้หมิงตะโกนเข้าไปรอบสอง หลี่อ้ายก็กรีดเสียงร้องดังออกมาถึงนอกห้อง ทำให้ทุกคนหันหน้าไปมองทางประตูห้องคลอดอย่างพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมาย“อุแว้ อุแว้”เสียงเด็กร้องแผดขึ้นทันทีที่จางอี้หมิงเอ่ยจบ ราวกับว่าเด็กน้อยรีบลืมตามาดูโลกตามคำบอกของพี่ใหญ่หรือเพราะเกรงกลัวคำขู่ก็หารู้ไม่“คลอดแล้ว ท่านแม่ น้องหญิงคลอดแล้ว” จางอี้เทาเป็นคนแรกที่ลุกขึ้นเดินไปชะเง้ออยู่หน้าประตูอีกครั้ง“อุแว้ อุแว้”“เอ๋! เสียงร้องมาจากไหนอีก” นางหูเอ่ยถามอย่างแปลกใจ“หรือว่า มีเด็กสองคน”นั่นเป็นคำถามที่ไม่มีใครตอบ พวกเขารอจนกระทั้งผ่านไปราวครึ่งชั่วยาม หมอตำแยสองคนก็อุ้มห่อผ้าออกมาจากห้องคลอดจางอี้เทาเป็นคนแรกที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นหมอตำแยอุ้มห่อผ้าเดินออกมาจากห้องคลอด จางอี้หมิงจึงเดินไปชะเง้อชะแง้มองห่อผ้าทันที“นายท่านจาง คุณชายน้อย เป็นบุตรชายเจ้าค่ะ”หมอตำแยส่งห่อผ้าขาวสะอาดให้กับนายท่านจาง ผู้ที่เป็นบิดาของเด็กน้อยได้อุ้ม เขาน้ำตาไหลออกมาทันทีที่หมอตำแยยื่นห่อผ้าที่ข้างในนั่นมีบุตรชายของเขา ผู้เป็นบิดาโอบอุ้มเอาห่อผ้ามาถืออย่างทะนุถนอม บุต

  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 268

    ศพของฮูหยินผู้เฒ่าจือเฟยอิน ถูกนำไปทิ้งที่ป่าท้ายเมือง หาได้มีการทำพิธีอันใดไม่ จางอี้หมิงมิได้รู้สึกผิดกับเรื่องนี้ เพราะถ้ามิใช่ความเห็นแก่ตัวอยากทำร้ายครอบครัวของตนเองก่อน คงไม่เกิดเรื่องราวเหล่านี้ขึ้นมาจางอี้หมิงได้พบท่านตากับท่านยายแล้วเช่นกัน โดยหลี่อ้ายถือเอาวันพักผ่อนในสัปดาห์หนึ่งของทุกคนกลับไปเยี่ยมบิดามารดาของตนที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวง เมื่อพ่อแม่ลูกได้กลับมาเจอกันก็เกิดภาพอันน่าประทับใจอย่างเหลือล้นหลี่อ้ายสวมกอดบิดามารดาด้วยความรักและคิดถึง ในขณะที่ท่านตาและท่านยายของอี้หมิงก็โอบบุตรสาวไว้อ้อมแขนอย่างห่วงหา ท่านทั้งสองแทบจะกินไม่ได้นอนไม่หลับตอนที่รู้ว่าหลี่อ้ายถูกขับไล่ให้ไปอยู่ชายแดนพร้อมสามีและลูกของนาง“นั่นใช่จางอี้หมิง หลานรักของยายใช่หรือไม่ เจ้าตัวโตขึ้นขนาดนี้แล้วหรือ” หญิงชราหันมามองเด็กชายที่หลบอยู่หลังหลี่อ้าย ซึ่งจางอี้หมิงก็พยักหน้ารับน้อยๆ“ขะ ข้าจางอี้หมิงขอรับ” เขาตอบกลับไปด้วยท่าทีเงอะงะโธ่...ก็คนไม่เคยมีตายายนี่นา จะทำตัวไม่ถูกบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดาในวันนั้นจางอี้หมิงถูกสวมกอดอยู่หลายหน เขาได้รับเสื้อผ้ามากมายจากท่านตาผู้เป็นคหบดีค้าผ้าในคราแรกก็คิ

  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 267

    เป็นเวลากว่าสามเดือนแล้วที่เหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้นกับครอบครัวจางผ่านพ้นไป ตอนนี้จางอี้หมิงหายจากอาการป่วยเป็นปลิดทิ้ง ท่านอ๋องน้อยหนิงเทียนปักหลักอยู่ที่เรือนตระกูลจางเพื่อติดตามน้องชายที่เที่ยวไปตามตรอก ซอกซอยของเมืองหลวง โดยบอกท่านแม่ทัพซึ่งติดตามมาด้วยว่าเป็นการเรียนรู้เส้นทางการค้าตามที่หนิงอ๋องกำชับมาทว่าความจริงแล้วก็คือการเล่นซนตามประสาเด็ก เนื่องจากชีวิตในแคว้นเหลียงของอ๋องน้อยหนิงเทียนต้องแบกรับภาระความรับผิดชอบเอาไว้มากมาย ทั้งการเล่าเรียนอย่างหนักไม่ว่าจะเป็นทั้งทางด้านบุ๋นและบู๋ เมื่อได้เดินทางห่างไกลบ้านและห่างไกลสายตาของพระบิดา จึงถือโอกาสปลดปล่อยความเก็บกดบ้างนั่นเองทางด้านจางอี้เทาก็ตามติดภรรยาอย่างมิเคยให้คลาดสายตา จนหลี่อ้ายถึงกับรำคาญและคาดโทษว่าหากมิปล่อยให้นางได้มีเวลาอิสระและชีวิตส่วนตัวบ้าง นางจะให้สามีนอนนอกห้อง จางอี้เทาจึงค่อย ๆ ผ่อนคลายความเข้มงวดของตนเองลง“ท่านพี่ ข้าแค่ตั้งครรภ์นะเจ้าคะ ข้ามิได้ป่วย ยังสามารถทำงานได้ตามปกติ ท่านหมอก็แนะนำให้เดินและทำงานบ้าง จะช่วยให้คลอดง่าย” หลี่อ้ายโอดครวญไม่หยุด เมื่อจางอี้เทายังคงตามติดนางอย่างกับเงาตามตัว เขาไม่ไ

  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 266

    อีกด้านหนึ่งของจวน จางอี้หมิงที่ปลอดภัยจากพิษร้ายแล้วกำลังหวนคิดถึงความฝัน อาจจะเป็นเพราะความเจ็บปวดบริเวณท้องที่ร่างกายเล็ก ๆ นี้ทนไม่ไหว หรือเป็นเพราะยาระงับความเจ็บปวดที่อาลิ่วให้เขากินก็สุดจะรู้ สติสัมปชัญญะของเขาจึงดับวูบไปและได้ลอยละล่องกลับไปยังโลกใบเดิมที่เคยจากมาในฝันนั้น...เขารับรู้ได้ว่าตนเองอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เขาเห็นแม่ครูกำลังถูกประคองด้วยรวิสา หญิงสาวที่เติบโตมาด้วยกันและยังเป็นรักแรกของเขา ทั้งสองคนเดินไปหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องพักผู้ป่วยก่อนจะเปิดประตูเข้าไปอานนท์เห็นร่างของตนเองนอนอยู่บนเตียงคล้ายคนที่กำลังนอนหลับเท่านั้น ร่างของเขาซูบผอมลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อแม่ครูเข้าไปถึงในห้องพักแล้ว พยาบาลที่ดูแลอยู่จึงหลบออกจากห้องเพื่อให้แขกที่มาเยี่ยมได้ใช้เวลาส่วนตัวกับคนไข้แม่ครูนั่งลงข้างเตียง ยกมืออันเหี่ยวย่นตามกาลเวลาลูบไปบนศีรษะของอานนท์อย่างรักใคร่ น้ำตาของหญิงชราเอ่อล้นออกมาจากดวงตา โดยมีรวิสาคอยปลอบอยู่ข้าง ๆ ไม่ห่าง“นนท์ เมื่อไหร่ลูกจะตื่นขึ้นมาเสียที อย่าทำให้แม่เป็นห่วงได้ไหม” แม่ครูเอ่ยกับร่างคนไข้บนเตียง ก็ไม่รู้ว่าคำบอกนั้นจะส่งไปถึงคนที่ฟังอยู่ได้หรือ

  • บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง   ตอนที่ 265

    “ท่านแม่ทัพ นำยาชุบชีวิตติดตัวมาหรือไม่” อ๋องน้อยหนิงเทียนหันไปถามแม่ทัพที่ตนเองฝากตัวเป็นศิษย์ ทั้งยังเป็นผู้ทำหน้าที่คุ้มกันตนเองตลอดการเดินทางมายังแคว้นฉิน“นำมาพ่ะย่ะค่ะ” ท่านแม่ทัพตอบ เขาเดินออกไปที่รถม้าไม่ถึงชั่วอึดใจก็กลับมาและยื่นยาชุบชีวิตให้กับท่านอ๋องหนิงเทียน“พวกเจ้ารีบนำยานี้ไปช่วยน้องชายข้าเร็วเข้า” อ๋องน้อยหนิงเทียนเอ่ยสั่งการพลางยื่นยาชุบชีวิตไปให้ อาลิ่วจึงเดินไปรับมา องครักษ์หนุ่มรีบนำยามาบดและป้อนให้กับคนป่วยบนเตียงยาเม็ดชุบชีวิตเป็นดั่งโอสถเทพ สมแล้วที่ใคร ๆ ต่างก็ไขว้คว้าอยากได้มาครอบครอง เพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม จางอี้หมิงก็ลืมตาฟื้นขึ้นมา อาการปวดท้องหายไปเป็นปลิดทิ้ง การหายใจกลับมาสม่ำเสมอ ใบหน้าที่เคยซีดเผือดเริ่มมีเลือดฝาด ริมฝีปากกลับมาเป็นสีแดงระเรื่อดังปกติถึงแม้ว่าจะมีอาการอิดโรยอยู่บ้าง แต่เมื่ออาลิ่วและอาปาเข้าไปตรวจดอย่างถี่ถ้วนแล้วจึงกล่าวรายงานท่านอ๋องน้อยหนิงเทียนด้วยความยินดี“อาการของท่านอ๋องน้อยอี้หมิงหายจากการถูกพิษแล้วพ่ะย่ะค่ะ พักผ่อนและเสวยยาบำรุงอีกไม่กี่เทียบก็คงกลับมาแข็งแรงดั่งเดิมแล้ว” สิ้นคำของหน่วยองครักษ์เหลียงไป๋ จวนที่เคยเงียบเหง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status