/ โรแมนติก / บุปผาต้องมนตร์ / Chapter 14.หญิงสาวที่งดงาม

공유

Chapter 14.หญิงสาวที่งดงาม

last update 최신 업데이트: 2024-11-16 20:59:17

            “ข้าไม่ใช่เด็กเล็กๆ จะได้มาเล่นกลองป๋องแป๋งเช่นนี้” เป็นผู้ใดกันที่เล่นตลกหยามเขาได้ขนาดนี้

            “รับไปเถอะน่า นางตั้งใจดี อุตส่าห์เอามาให้ข้า เป็นของฝากถึงน้องชายของข้า ซึ่งข้าก็มีน้องชายคนเดียวคือเจ้า เจ้าก็ต้องรับของฝากชิ้นนี้ไป”

            “นี่เอาข้าไปขายยังไง ถึงได้กลองป๋องแป๋งแบบนี้มา”

            “เอาน่า คนที่ให้มาเป็นคนดีและเป็นหญิงสาวที่งดงามมากด้วย เจ้ายังไม่เคยเจอนางก็อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจนัก เผลอๆ จะเป็นเจ้านั่นแหละที่เป็นฝ่ายชอกช้ำเสียดายซะเอง”

            โดนนางพูดให้เสียขนาดนั้น เขาจึงจำใจรับมา ได้มาก็เก็บไว้ไม่ได้ใส่ใจ จนมาถึงตอนนี้ที่จู่ๆ ก็คิดถึงสิ่งนี้ขึ้นมา จะเป็นนางหรือไม่นะคนที่ฝากกลองป๋องแป๋งนี้มาให้เขา ดูจากที่นางไม่รู้ว่าเคอหลิ่งหลินมีฐานะที่แท้จริงอย่างไร และนางไม่รู้จักเขา หากเป็นนางจริง นางก็คงเข้าใจว่า ‘น้องชาย’ ที่เคอหลิ่งหลินพูดบ่อยๆ เป็นเด็กชายตัวเล็กกระจ้อยร่อยเป็นแน่

            เขาเผลอยิ้มที่มุมปากเก็บ ‘ของฝาก’ เข้าที่เดิมแล้วเดินตรงไปแช่ตัวในอ่างอาบน้ำ

            หญิงสาวที่งดงาม

            รู้สึกว่าเคอหลิ่งหลินจะให้ค่าหญิงสาวคนนั้นมากไปนิด สำหรับเขาแล้วนางยังห่างไกลคำว่า ‘งดงาม’ นัก ยิ่งเห็นวันนี้แล้วท่าทางเกรี้ยวโกรธเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อเขา ยิ่งทำให้เขาอยากจะหัวเราะให้ลั่นห้อง แค่งูตัวเดียวนางถึงกลับเปิดเผยนิสัยที่แท้จริงออกมา ดื้อและหัวรั้นไม่ยอมผู้ใด บิดาของนางเป็นหมอ นางได้รับถ่ายทอดความรู้จากบิดาก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอันใด แม้การเป็นหมอหญิงจะไม่เป็นที่ยอมรับนัก แต่สำหรับเขาแล้วหากมีความรู้ความสามารถ ต่อให้เป็นหญิงก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใด แน่นอนว่ามือขวาในสนามรบของเขาก็เป็นผู้หญิง! บิดาของเขาอาจเป็นคนแปลกสักหน่อย การเลือกใช้คนมาทำงานแทนมือแทนเท้าก็เลือกที่ความสามารถ มิใช่ชาติกำเนิดหรือยศศักดิ์ ไม่แปลกใจที่แต่ละคนล้วนมีที่มาแตกต่างกัน เป็นโจรบ้าง เป็นขโมย เป็นนักย่องเบา ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่ผู้อื่นรังเกียจ หากแต่ท่านพ่อก็ซื้อใจพวกเขาให้ทำงานร่วมกันได้ เช่นเดียวกับที่ได้พบเจอกับพ่อแท้ๆ ของเคอหลิ่งหลินที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นขุนโจรแห่งหุบเขาชิงซาน พ่อของเคอหลิ่งหลินปกป้องบิดาของเขาจนตัวตายทำให้ท่านพ่อตัดสินใจรับนางเป็นบุตรบุญธรรม

            ความสามารถของหญิงสาวผู้นั้นเขายังไม่ได้พิสูจน์ แม้นางจะเป็นหญิงชาวบ้านแต่คนเป็นหมอ ควรจะสุขุมเยือกเย็น แต่นางเหมือนเด็กซุกซนมอมแมมเหลือจะกล่าว แปลกประหลาดกว่าหมอทุกคนที่เขาเคยพบเจอมา

          “อีกสองวันข้าจะเอาหนังสือไปคืน ท่านอยู่รอตรวจทุกหน้ากระดาษได้เลย!”  

            จ้าวจิ่นสือกระตุกยิ้มที่มุมปาก เขาไม่มั่นใจนักว่าช่วงนั้นเขาจะอยู่ในจวนหรือไม่ หรือต้องเดินทางแฝงตัวไปกับกองคาราวานพ่อค้าเร่ นางเพิ่งยืมหนังสือไปเมื่อสองวันก่อน อีกสองวันจะมาคืน นางอ่านหนังสือทั้งสามเล่มจบแล้วหรือ? หรือเขาควรแสดงความใจกว้างกับนาง ยืดเวลาอีกหน่อย หรือเขาควรสั่งให้พ่อบ้านตู้เก็บตำราที่นางยืมไปให้เขาตรวจสอบก่อน ทำไมแต่ละวิธีที่คิดได้ราวกับจะเป็นการกลั่นแกล้งนางทั้งนั้น  ไม่หรอก เขาไม่ใช่คนแบบนั้น ก็เพียงแค่อยากเห็นสีหน้าของผู้หญิงที่รู้ว่าเขาคือผู้ใช้มีดสั้นปักหัวเจ้างูตัวนั้น 

            เรื่องมันก็แค่นั้นเองจริงๆ.

            อะไรนะ! เขาว่าอะไรนะ!

            มู่ฟางเหนียงเดินกระแทกส้นเท้ากลับเข้ามาในบริเวณลานบ้านที่ใช้เป็นที่ตากสมุนไพร นางฮึดฮัดหันซ้ายหันขวาอย่างหงุดหงิด แลทุกสิ่งรอบข้างก็ขวางหูขวางตาจนอยากยกเท้าขึ้นเตะของที่อยู่ตรงหน้า แต่ก็เกรงว่าจะต้องเสียเวลามาเก็บของที่ตัวเองเตะไปอีก

            อะไรกัน! นางสิ้นเปลืองพลังงานในการอ่านและคัดลอกตำราแพทย์นั้นอยู่สองวันสองคืน ไม่ขึ้นเขาไปช่วยท่านพ่อเก็บสมุนไพร เอาแต่อ่านตำรานี่จนหลงลืมเวลา ปล่อยให้ท่านพ่อต้องกินอาหารเย็นชืดไปหลายมื้อ กลางคืนก็อดหลับอดนอนเปลืองเทียนไขไปตั้งเท่าไหร่ แล้วจู่ๆ ให้คนมาบอกว่าเขายังไม่เอาตำรากลับคืน ให้นางเก็บไว้ก่อน นางจะฝากบ่าวรับใช้ที่มาส่งข่าวคืนให้ ก็เหมือนเขาจะรู้ จึงกำชับมาว่าไม่รับฝาก นางต้องเอาไปคืนด้วยตนเอง เพียงแต่ตอนนี้เขาไม่สะดวกจะอยู่ตรวจหนังสือทุกแผ่นทุกหน้า ชายผู้นี้นิสัยเหมือนเด็กเอาแต่ใจอย่างที่เคอหลิ่งหลินชอบพูดให้นางฟังนัก

จะแปลกอะไรที่นางจะเข้าใจไปว่าเขาอายุสิบขวบ! ถึงได้ฝากกลองป๋องแป๋งเอาไว้ปลอบใจยามที่ต้องอยู่ไกลพี่สาวและครอบครัว!

            นางเป็นลูกคนเดียว แต่กระนั้นก็ติดตามบิดาตลอด เรียกได้ว่าบิดาอยู่ที่ไหน นางอยู่ที่นั่น แม้จะไม่ได้อยู่เป็นหลักแหล่ง แต่นางก็ไม่เหงาเพราะบิดาของนางเป็นทั้งพ่อ แม่ และเพื่อนให้นาง เมื่อเคอหลิ่งหลินเล่าเรื่องราวของ ‘น้องชาย’ ที่ต้องใช้ชีวิตช่วงหนึ่งอยู่ห่างไกลครอบครัวเพื่อศึกษาเล่าเรียน นางจึงเข้าใจความรู้สึกที่น้อยใจตามประสาเด็กเหมือนถูกพ่อแม่ทิ้งขว้างทั้งที่ความจริงแล้ว สิ่งที่ทำไปเพื่ออนาคตของเขาเอง

            ก็นั่นแหละ นางจึงเข้าใจไปว่าเขาเป็นเด็กเล็กๆ เอาแต่ใจ ไร้เหตุผล ชอบเอาชนะและขี้น้อยใจ ใครจะไปรู้ว่านิสัยแบบนั้นอยู่ในตัวผู้ชายร่างกำยำผู้นั้นเล่า!

            “เป็นอะไรไปเหนียงเอ๋อร์” น้ำเสียงสงบเยือกเย็นเอ่ยถามเมื่อเห็นท่าทางฮึดฮัดของลูกสาวอยู่กลางลานบ้าน

            นางสูดลมหายใจลึก พยายามข่มโทสะของตนก่อนจะหมุนตัวหันไปเอ่ยตอบ

“ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ”

            “ไม่มีอะไร ไยเจ้าทำเหมือนจะพังบ้านทั้งหลังได้ นี่ดีที่เจ้าไม่มีวรยุทธ์ ไม่เช่นนั้นพ่อก็ไม่รู้ว่าบ้านจะมีรูที่ใดบ้าง”

            “ท่านพ่อก็พูดเกินไป” นางเบ้ปากทำแง่งอนแล้วเดินไปหาบิดา

            “หากเจ้าจะเอาดีด้านการรักษาคน เจ้าควรใจเย็นและไม่แสดงอาการเช่นเมื่อครู่” คนเป็นพ่อเตือนพร้อมสั่งสอน  “ที่นี่มีผู้ใดนอกจากท่านพ่อเล่า” นางเบ้ปากน้อยๆ “เป็นหมอแล้วอย่างไร ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกรึ เจอคนไข้ไม่รักตัวเอง ลูกก็ดุใส่เหมือนกันแหละ ใครจะไปใจดีเหมือนท่าน มีอะไรก็โอ๋คนไข้นัก ท่านควรดุพวกเขาบ้าง ไม่อย่างนั้นเขาก็เจ็บป่วยอาการเดิมๆ กลับมาให้ท่านต้องปวดหัวเพราะคิดว่าอย่างไรท่านก็รักษาพวกเขาได้”

           

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  136.  จบ

    องค์ชายไท่หยางมักมีรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าซีดเซียวเสมอ ซึ่งมองเพียงผิวเผินจะเข้าใจว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ ใครเลยจะรู้ว่าเบื้องหลังใบหน้าและร่างกายอ่อนแอนี้กุมความลับที่ใช้ต่อรองกับเขาได้ดียิ่งนัก เขาเองก็ได้สัญญาการซื้อขายกับทางการหลายรายการเพราะการแนะนำของคุณชายเฉิน“แล้วนี่คุณชายเฉิน อ้อ! ไม่สิ! องค์ชายไท่หยางนึกสนุกอย่างไรถึงอยากได้หน้ากากอสูรที่ดูน่ากลัวเช่นนี้”“ก็คงไม่ต่างจากเจ้าที่เบื้องหน้าเป็นคุณชายเจ้าสำราญเช่นกัน”“พระองค์กล่าวเช่นนี้ เห็นทีว่ากระหม่อมคงไม่มีทางหลีกเลี่ยงแล้วกระมัง” เหวินเฮ่าหลันกลับรู้สึกพอใจกับท่าทางเปิดเผยขององค์ชายไท่หยาง“ร่างกายของข้าไม่ค่อยแข็งแรงนัก จึงมีเรื่องที่ต้องทำให้เรียบร้อยก่อน... แต่การเคลื่อนไหวในฐานะขององค์ชายไท่หยางทำได้ลำบากนัก จึงอยากจะรบกวนเจ้าหาช่างดีๆ ทำหน้ากากอสูรนี่ให้ข้า”“พระองค์จะเอาไว้ใช้เอง?”เหวินเฮ่าหลันได้คำตอบเป็นรอยยิ้มที่มุมปาก หลังจากนั้นเขาหาช่างที่ไว้ใจได้สั่งทำหน้ากากอสูร แต่ไม่รู้สิ่งใดดลใจเขาให้ช่างทำสองอัน เมื่อส่งมอบหน้ากากอสูรนั่นให้องค์ชายไท่หยาง ไม่นานนักก็ได้ยินข่าวว่ามีบุรุษลึกลับภายใต้หน้ากากอสูรออกอาละวาดเล่น

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  135.  บุปผาพยศรัก

    ปีศาจน้อย! จ้าวจิ่นสือขบกรามแน่น นางเรียนรู้ที่จะหยอกล้อเขาเช่นเดียวกับที่เขาทำกับนาง เขาไม่อาจทานทนไฟปรารถนาที่เผาไหม้อยู่นี้ได้อีก ขยับร่างกายรวดเร็วรุนแรงและลึกล้ำ เป็นนางที่พาเขาให้เตลิดโบยบินไปในค่ำคืนวิวาห์ที่อุ่นร้อน ราวกับวิหคคู่ที่โบยบินในเวิ้งฟ้า หยอกล้อราวกับทั้งโลกมีเพียงแค่เขากับนางเท่านั้น ร่างสองร่างสอดประสานแทบเป็นหนึ่งเดียว ชายหนุ่มส่งเสียงคำราม ในขณะที่หญิงสาวหวีดร้องออกมาอย่างสุขสม แล้วเขาจึงผ่อนร่างนางลงนอนกอดอย่างรักใคร่นางปิดเปลือกตาหอบใจแรงแล้วค่อยๆ ผ่อนลมหายใจตัวเองจนเกือบจะเป็นปกติจ้าวจิ่นสือมองหญิงคนในรักในวงแขน ยกมือขึ้นเกลี่ยเส้นผมของนางให้พ้นใบหน้า หนึ่งชีวิตได้พานพบผู้คนมากมาย แต่มีเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นเจ้าของเสียงในหัวใจ เขาก้มหน้าสูดกลิ่นหอมของนางให้กลิ่นกายของนางไหลเวียนในตัวเขา นางคือหญิงสาวของเขาแต่เพียงผู้เดียว“ฟางเหนียง ข้ารักเจ้า”ผ่านเรื่องราวมากมายฟันฝ่ามาด้วยกันจนมีวันนี้ แต่แท้จริงแล้วทุกอย่างมันเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น นางคิดถึงกลองป๋องแป๋งอันนั้น นางจะเก็บรักษาเอาไว้ให้ลูกๆ ได้ดู ของขวัญล้ำค่าที่เชื่อมโยงหัวใจของคนสองคนให้ได้มาใกล้ชิดกั

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter  134.  บทส่งท้าย2. 

    “ท่าน...” นางถูกดวงตาร้อนแรงของเขาจ้องมองจนลืมคำพูดตัวเองไปเสียสิ้น “อืม”เขาจ้องมองนาง ไม่เคยรู้สึกเบื่อหน่ายที่ได้มองใบหน้านี้เลยสักคราเดียว คิดไม่ออกเลยว่าหากไม่มีนางเคียงข้างแล้ว เขาจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร เห็นทีเรื่องนี้คงต้องเก็บเป็นความลับไว้ให้ลึกที่สุด ไม่เช่นนั้นนางจะเอาแต่ใจตัวเองเกินไป รู้ว่าอย่างไรเขาก็ต้องจำนนยอมแพ้พ่ายต่อสายตาคู่นี้ของนาง “ข้า... ข้าต้องปรนนิบัติท่าน... พี่” คืนนี้นางเป็นภรรยาของเขาอย่างถูกต้องแล้ว ควรทำหน้าที่ของตนเองถึงจะถูก แต่มือเล็กก็สั่นเทา ยื่นไปหมายจะช่วยเขาเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่อาการเงอะงะของนางเรียกเสียงหัวเราะเบาๆ ออกมา ทำให้นางฉุนกึกขึ้นมา แล้วเงยหน้าขึงตาใส่อย่างดุดัน “ใช่สิ! ข้าทำไม่เก่งนี้ เรื่องแบบนี้ข้าคุ้นเคยเสียเมื่อไหร่ล่ะ” นางหงุดหงิดโมโห อารมณ์นางช่วงนี้ขึ้นๆ ลงๆ แปรปรวนชอบกล “ไม่เป็นไร น้องหญิงอยากทำอะไรก็ตามใจเจ้าเถิด” เขากลั้นหัวเราะแต่กลายเป็นยิ้มกรุ้มกริ่มแทน ปล่อยให้มือเล็กช่วยถอดเสื้อตัวนอก พอนางลุกขึ้นจะเอาเสื้อของเขาไปแขวน ตัวเองก็เสียหลักเพราะนั่งตัวเกร็งอยู่ตั้งนา

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter   133.  บทส่งท้าย 1.

    หญิงสาวนั่งก้มหน้า มองปลายเท้าที่สวมรองเท้าสีแดงสดสวยปักรูปหงส์อย่างงดงามประณีต เสียงครื้นเครงด้านนอกไม่ได้ช่วยให้นางลดอาการตื่นเต้นลงได้เลย ยามมองผ่านผ้าคลุมหน้าสีแดงสดนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างในห้องหอราวกับถูกย้อมด้วยสีแดง นางจึงหลุบตาลงก้มมองปลายเท้าของตนแทน เพียงหนึ่งเดือนหลังเสร็จภารกิจลับของจ้าวจิ่นสือ ด้วยความช่วยเหลือขององค์ชายไท่หยาง ทำให้ทั้งสองได้รับราชโองการพระราชทานสมรส แม้มู่ฟางเหนียงจะเป็นเพียงหญิงสาวสามัญชน แต่ด้วยความรักใคร่ที่รองแม่ทัพจ้าวจิ่นสือมีให้นางนั้นเป็นที่เลื่องลือกันไปทั่ว นางทั้งเขินทั้งอาย แต่ก็ดีใจที่ฮูหยินอี้ซิ่วรักและเอ็นดูนางราวกับเป็นลูกสาวแท้ๆ ท่านพ่อของนางก็พลอยวางใจว่านางจะอยู่ที่จวนแม่ทัพจ้าวได้อย่างไม่ทุกข์ร้อนใจอันใด “เจ้าไม่ใช่เด็กแล้ว ต่อไปนี้ทำอะไรก็เชื่อฟังพ่อแม่สามีของเจ้าให้ดี” “ท่านพ่อ” นางกลั้นน้ำตา คราวนี้ได้แยกกันอยู่แล้วจริงๆ ท่านพ่อของนางมีใจรักใคร่น้าเสี่ยวหลิว เสร็จงานแต่งงานของนางแล้วก็จะกลับไปเมืองหลวง ช่วยน้าเสี่ยวหลิวดูแลโรงเตี๊ยมหมื่นบุปผาและรักษาคนเจ็บป่วยเช่นเคย ส่วนนางเองก็ได้รั

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 132. ไม่อยากเชื่อ

    “ท่าน... ระ.. รักข้า..” นางแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยินเขาหัวเราะเบาๆ อาศัยจังหวะที่นางไม่เป็นตัวของตัวเองลอกคราบเสื้อผ้าออกเหลือเพียงเอี๊ยมปิดบังทรวงอกที่สะท้อนหอบหายใจแรงกับกางเกงชั้นในตัวน้อย มือกร้านลูบไล้เรียวขาของนาง ไอร้อนจากกายของเขาทำให้นางแทบไม่รู้สึกว่าตัวเองเกือบจะเปลือยเปล่าอยู่แล้ว“ข้า... เข้าใจว่า... ท่าน ระ รัก พี่หลิ่งหลิน” นางรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีพูดออกไปเขาผงกศีรษะรับแล้วกลับยิ้มให้นาง “ก่อนนั้นข้าคิดเช่นนั้น แต่เมื่อเจอเจ้า ข้าก็รู้ว่าความรักที่แท้จริงเป็นเช่นไร”หัวใจของนางแทบหยุดเต้นไป แต่กระนั้นก็ยังหวาดหวั่นอยู่ “แต่ท่านเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ ท่านจะรับข้าไว้ในฐานะใดเล่า”“ข้าย่อมให้เจ้าเป็นภรรยา” มือใหญ่เลื่อนขึ้นจากต้นขาด้านในสู่กลีบบุปผาอ่อนบาง “ข้าจ้าวจิ่นสือจะมีภรรยาเพียงผู้เดียวก็คือเจ้า”“ท่านจะไม่มีหญิงอื่นอีกหรือ?” นางกะพริบตามองหน้าเขา ค้นหาความจริงใจในทุกถ้อยคำ “ข้าไม่ได้หวังตำแหน่งใด ข้าเพียงไม่อาจแบ่งสามีกับผู้อื่นได้”“เจ้าทำให้ข้ารักเจ้าจนไม่มีที่ว่างให้ผู้อื่นแล้ว” แตะกลีบดอกไม้เบาๆ แล้วกระซิบเสียงพร่า แท่งศิลาใต้ตักของนางเริ่มร้อนระอุ“อย

  • บุปผาต้องมนตร์   Chapter 131. อย่ามายุ่งกับข้า 

    “นึกแล้วเชียว” นางพึมพำ ไม่รอถามอะไรเขาทั้งนั้น ขยับเสื้อของเขาออกกว้างเพื่อจะได้จัดการล้างแผลและใส่ยาให้ใหม่ ขณะนั้นเอง เสียงเรียกชื่อนางอย่างเกรงใจก่อนที่จะเปิดประตูเข้ามา เสี่ยวเอ้อที่รอพานางไปส่งที่พักก็ต้องตกใจเพราะเห็นมู่ฟางเหนียงกำลังเปลื้องผ้าชายหนุ่มอยู่ แต่เขามองไม่เห็นบาดแผลจึงคิดไปเองว่าทั้งสองกำลัง...“ข้าจะรอข้างนอก แม่นางมู่เสร็จธุระแล้วโปรดเรียก”นางเพียงหันไปพยักหน้ารับ เพราะใจจดจ่อกับบาดแผล พอเหลือบตาขึ้นมองก็เห็นสายตาของเขาก้มมองนางอยู่ก่อนแล้วผู้หญิงคนนี้ วุ่นวายกับเขานัก! จ้าวจิ่นสือได้แต่บ่นในใจ แต่ก็ยอมให้นางแกะผ้าพันแผลและทำความสะอาดที่บริเวณชายโครงซ้ายของเขา“โรคทางใจรักษายากนัก” นางรำพึง“อย่ามาทำเป็นรู้ดี” เขาแค่นเสียงในลำคอ รินสุราใส่จอกให้ตนเอง แต่นางกลับยื่นมือไปคว้าแย่งไว้“ระหว่างที่รักษาแผลนี้อยู่ งดดื่มสุราทุกชนิด” นางถลึงตาสั่งเขา “ข้ารักษาให้ท่านได้เพียงบาดแผลภายนอก แต่ในใจที่เจ็บปวดของท่านนั้น ท่านคงต้องใช้เวลาเยียวยารักษาเอง”“ข้าจะดื่ม” เขาท้าทายนาง“ถือว่าข้าเตือนแล้ว ท่านอยากให้แผลเน่าอยู่ภายในก็ตามใจท่านเถิด” นางปิดบาดแผลให้เขาเรียบร้อย “ท่าน

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status