Share

ตอนที่ 10 ปลอมตัว4

Author: LiHong
last update Last Updated: 2025-08-14 22:36:04

ชายหนุ่มเดินมานั่งใต้ร่มชายคาศาลาซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดเดิมที่แต่งกิ่งไม้เมื่อครู่ อุทยานท้ายตำหนักแห่งนี้มีน้ำตกจำลอง ด้านหลังของน้ำตกมีพุ่มไม้ดอกไม้ประดับ เหมาะแก่การหลบเร้นซ่อนกายจากผู้คนวุ่นวายพอดี

แม้วันนี้มีหิมะโปรยปราย แต่สำหรับเขานับว่าอากาศกำลังเย็นสบาย เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ ผ่อนคลายอารมณ์ ไหนเลยควรเรียนเคร่งเครียด

ทว่าอาจเป็นเพราะมีหิมะจึงพานให้นึกถึงใครบางคนบนยอดภูผาอันหนาวเหน็บวันนั้น

‘เป็นถึงราชนิกุลแต่คิดสละฐานันดรเพื่อสตรีเช่นข้า ท่านบ้าหรือไร ข้ากำลังจะแต่งงาน ไสหัวไปซะ!’

เสียงหวานที่ก้องกังวานยังคงชัดเจนในห้วงภวังค์

จ้าวหมิงอวี่ค่อยๆ หลับตาลงเชื่องช้า สีหน้าเย็นชาผุดพรายความเศร้าหมองออกมาเลือนลาง

นางมักทำตัวร้ายกาจเช่นนั้นเสมอ ให้ผู้คนภายนอกมองเป็นพญามาร แต่เขารู้ดี มารตัวจริงมักมาในรูปแบบที่เราไม่รู้สึกถึงความอันตราย อันที่จริงนางควรทำตัวเหมือนมิตรสหาย มิให้เขาระแวดระวังภัยมิใช่หรือไร?

ชายหนุ่มถอนหายใจให้ความคะนึงที่มิเคยจางหาย หลายครั้งที่หลับตา ภาพของหลิ่งหลินมักชัดเจนเสมอ  ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน ทุกวันที่พบหน้า กระทั่งถูกหักขา ถูกผลักไสที่ริมหน้าผาครานั้น

ท่ามกลางปุยหิมะเย็นเยียบ ภายใต้แววตาเศร้าลึก ความคิดของจ้าวหมิงอวี่ล่องลอยไปไกลแสนไกล ในใจมีแต่ความไม่ยินยอม

หลิ่งหลิน เจ้าควรเชื่อฟังพวกผู้อาวุโสป่าเถื่อนโง่เง่าในสำนักของเจ้าเหล่านั้น 

หลอกลวงข้า เข้าหาข้า แสวงหาผลประโยชน์จากข้า หลอกใช้ความรักของข้า

หลิ่งหลิน ข้าเกลียดเจ้า

จู่ๆ ความรู้สึกเจ็บแปลบพลันเสียดแทงลึกเข้ากระดูกตรงตำแหน่งที่เคยบาดเจ็บสาหัส 

จ้าวหมิงอวี่นิ่วหน้าตัวเกร็ง เมื่อแผลเก่ากำเริบขึ้นมา เพราะมันถึงขั้นมิอาจขยับเขยื้อนได้ชั่วขณะ แม้แต่ลุกขึ้นยืนยังทำมิได้

จังหวะนั้น พุ่มดอกไม้ด้านหลังพลันขยับเคลื่อนไหว ชายหญิงคู่หนึ่งเดินออกมาด้วยกัน กิริยาท่าทางไม่ค่อยเข้าที

ฝ่ายหญิงกำลังขยับสาบเสื้อตรงเนินอกอวบอิ่ม ส่วนฝ่ายชายผูกสายรัดเอวให้เข้าที่ 

แอบมาพลอดรัก? 

การกระทำชัดเจนโดยไม่ต้องสืบ จ้าวหมิงอวี่นิ่วหน้า เพิ่งสังเกตได้ว่าตรงบริเวณท้ายน้ำตกจำลองนี้เป็นทางเชื่อมกับถ้ำจำลองทำให้มีมุมอับลับตาพอดี ชายหนุ่มหรี่ตามองนิ่ง หากจำไม่ผิดบุรุษคือองครักษ์แซ่หู ส่วนสตรีดูจากเสื้อผ้าย่อมเป็นนางกำนัล

แน่นอนว่าหากใครจะรักกันย่อมมิใช่ปัญหา เพียงแต่เท่าที่รู้ บุรุษแซ่หูมีภรรยาที่เพิ่งแต่งงานได้ไม่นาน ยังไม่ครบสามเดือนกระมัง เห็นว่าคบหาหมั้นหมายกันตั้งแต่เยาว์วัย

“ท่านพี่หูเก่งกาจเหลือเกิน ทำชิงเอ๋อร์หลงใหลยิ่ง” นางกำนัลพูดอย่างเขินอาย ใบหน้าแดงระเรื่อ

“หากเจ้าชอบ ข้าจะพาเจ้ามา ‘ทำ’ ตรงนี้อีก” สุ้มเสียงบุรุษทุ้มต่ำแหบพร่า “ดีหรือไม่?”

“ย่อมดีเจ้าค่ะ” นางหัวเราะคิก “แต่เราทำเช่นนี้ ท่านไม่กลัวล่วงรู้ถึงภรรยาหรือเจ้าคะ?”

“ภรรยาข้าซื่อบื้อจะตาย โง่งมตั้งแต่เด็ก”

“หากนางโง่ ท่านก็รีบพาข้าเข้าจวนสิเจ้าคะ”

“ยังต้องรอสักระยะ เจ้าอย่าลืม ข้าเพิ่งแต่ง”

คนฟังแง่งอน “ข้าให้เวลาภายในหนึ่งปีนี้นะเจ้าคะ” ตามกฏต้องแต่งภรรยาเอกครบสามปีก่อนค่อยแต่งภรรยาคนที่สอง แต่นางอยากครอบครองเขาอย่างเปิดเผยแล้ว

“เจ้านี่นะ ช่างใจร้อนจริงเชียว” บุรุษเชยคางนางแล้วก้มจูบอย่างดูดดื่ม

คิ้วคมของจ้าวหมิงอวี่ขมวดมุ่น คู่ชู้ผิดศีลธรรมบังอาจทำเรื่องแบบนี้ในตำหนักของเขา! 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บุปผาวารีสลับวิญญาณสยบมังกร   ตอนที่ 10 ปลอมตัว6

    “ข้ากล้าแน่” ว่าแล้วก็ตบอีกทั้งแก้มซ้ายแก้มขวาเพียะ เพียะ“โอ๊ยๆ”ผู้ตบเรี่ยวแรงเยอะนัก ชิงเอ๋อร์ล้มกลิ้ง แก้มแดงก่ำ ระบมไปหมด จังหวะนั้นหูซั่วได้ทีพลิกตัวลุกขึ้นมา ทำท่าเอาคืน แต่ถูกถีบอีกโครมใหญ่ “โอ๊ย” ชายหนุ่มลุกขึ้นมาอีกครั้ง เขาเป็นถึงองครักษ์จะเสียทีหลายกระบวนท่าได้อย่างไรหูซั่วม้วนตัวผุดร่างขึ้นมายืนผงาดหมายฟาดฟันทว่าผู้มาใหม่ฝีมือไม่ธรรมดา หูซั่วถูกเตะจนขาพับ ล้มแล้วล้มอีกจนเขาให้รู้สึกคาดไม่ถึง ชิงเอ๋อร์ก็เช่นกัน นางทั้งทุบตีทั้งกางเล็บข่วน แต่กลับไม่โดนตัวอีกฝ่ายเลย กลายเป็นตบตีหูซั่วเต็มแรงเสียอย่างนั้น จ้าวหมิงอวี่เลิกคิ้วมองความชุลมุนตรงหน้าอย่างอึ้งๆ และทึ่งกับผู้มาใหม่ อีกฝ่ายเป็นสตรีชุดแดง ปากแดง ค่อนข้างป่าเถื่อนและมีวรยุทธ!นางคือ สวีหลิงเยี่ยน!เสียงพลั่กๆ ผลัวะๆ ดังต่อเนื่อง ชุลมุนไม่หยุดยามนี้หูซั่วเริ่มไม่ไหว นึกแปลกใจในฝีมืออีกฝ่าย “โอ๊ย เจ้าเป็นใคร” หูซั่วละล่ำละลั่กถาม “บังอาจทำร้ายองครักษ์ตำหนักหมิงเฟิ่งขององค์ชายสี่ เจ้าเป็นนักฆ่า เข้ามาลอบสังหารใช่หรือไม่?”“ใช่แล้วอย่างไร?” หลิ่งหลินเป็นนักฆ่าจริงแต่ยามนี้นางไม่ได้มาลอบสังหารใครเหมือนเช

  • บุปผาวารีสลับวิญญาณสยบมังกร   ตอนที่ 10 ปลอมตัว5

    ใบหน้าดำคล้ำยิ่งนานยิ่งบึ้งตึง ประกายตาแข็งกร้าวเกินบ่าวทั่วไป และนั่นย่อมทำให้องครักษ์ผู้หนึ่งสัมผัสได้ จึงหันมาเห็นพอดี ทำให้สตรีหันมาเช่นกัน “อ๊ะ! ท่านพี่หู ตรงนั้นมีคนนั่งอยู่ มันคงเห็นพวกเราแล้วเป็นแน่ บังอาจนัก!”วาจานางกำนัลผู้นี้ชัดเจนว่าไม่พอใจอย่างยิ่งนางรีบเดินตรงดิ่งท่าทางพร้อมตำหนิอย่างรุนแรง องครักษ์หนุ่มแซ่หูจึงรีบปรี่เข้าหาพร้อมสีหน้าดุดันเช่นกัน ทิศทางด้านหน้าของพวกเขาคือจ้าวหมิงอวี่ที่ยามนี้ปลอมตัวเป็นแค่บ่าวชายผิวคล้ำจนจำรูปลักษณ์เดิมมิได้“เจ้า! บ่าวชั้นต่ำ มานั่งทำอันใดตรงนี้” หูซั่วคำรามอย่างต้องการข่มขวัญจ้าวหมิงอวี่มีหรือจะกลัว เขาเสียงเย็น “ข้าต่างหากที่ต้องถาม พวกเจ้ามาทำระยำอันใดกันตรงนี้”ชายหญิงชะงักกึกหูซั่วกัดฟันกรอดรับไม่ได้กับคำด่าจึงคำรามดุดัน “เหิมเกริมนัก พวกข้าทำสิ่งใด เจ้ามีหลักฐานหรือไร” “หลักฐาน?” จ้าวหมิงอวี่เหยียดยิ้ม “ข้าเป็นพยานเห็นกับตาก็พอกระมัง”หูซั่วหยัน “หึ! ใครจะเชื่อบ่าวระดับล่างเช่นเจ้ามากกว่าข้าที่เป็นถึงองครักษ์”จ้าวหมิงอวี่ร้อง “อ้อ เช่นนั้นให้คนเปิดประโปรงนางพิสูจน์แล้วกัน”นางกำนัลหน้าแดงเถือก รีบหนีบขาอย่างไว“จ่ะ เจ้า

  • บุปผาวารีสลับวิญญาณสยบมังกร   ตอนที่ 10 ปลอมตัว4

    ชายหนุ่มเดินมานั่งใต้ร่มชายคาศาลาซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดเดิมที่แต่งกิ่งไม้เมื่อครู่ อุทยานท้ายตำหนักแห่งนี้มีน้ำตกจำลอง ด้านหลังของน้ำตกมีพุ่มไม้ดอกไม้ประดับ เหมาะแก่การหลบเร้นซ่อนกายจากผู้คนวุ่นวายพอดีแม้วันนี้มีหิมะโปรยปราย แต่สำหรับเขานับว่าอากาศกำลังเย็นสบาย เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ ผ่อนคลายอารมณ์ ไหนเลยควรเรียนเคร่งเครียดทว่าอาจเป็นเพราะมีหิมะจึงพานให้นึกถึงใครบางคนบนยอดภูผาอันหนาวเหน็บวันนั้น‘เป็นถึงราชนิกุลแต่คิดสละฐานันดรเพื่อสตรีเช่นข้า ท่านบ้าหรือไร ข้ากำลังจะแต่งงาน ไสหัวไปซะ!’เสียงหวานที่ก้องกังวานยังคงชัดเจนในห้วงภวังค์จ้าวหมิงอวี่ค่อยๆ หลับตาลงเชื่องช้า สีหน้าเย็นชาผุดพรายความเศร้าหมองออกมาเลือนลางนางมักทำตัวร้ายกาจเช่นนั้นเสมอ ให้ผู้คนภายนอกมองเป็นพญามาร แต่เขารู้ดี มารตัวจริงมักมาในรูปแบบที่เราไม่รู้สึกถึงความอันตราย อันที่จริงนางควรทำตัวเหมือนมิตรสหาย มิให้เขาระแวดระวังภัยมิใช่หรือไร?ชายหนุ่มถอนหายใจให้ความคะนึงที่มิเคยจางหาย หลายครั้งที่หลับตา ภาพของหลิ่งหลินมักชัดเจนเสมอ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน ทุกวันที่พบหน้า กระทั่งถูกหักขา ถูกผลักไสที่ริมหน้าผาครานั้นท่าม

  • บุปผาวารีสลับวิญญาณสยบมังกร   ตอนที่ 10 ปลอมตัว3

    ฟ่านเจินให้รู้สึกเห็นใจสวีหลิงเยี่ยนขึ้นมาอย่างแท้จริง อีกฝ่ายแลดูจะเป็นคนกตัญญูรักครอบครัวเสียด้วย ก่อนนี้สตรีอื่นต่างเร่งร้อนมาเข้าตำหนักก่อนใคร เพื่อหวังให้เข้าตาองค์ชายสี่โดยเร็วที่สุด แต่นางกลับมาเข้าเรียนช้าเพราะอยู่เรือนช่วยมารดา ครานี้ต้องช่วยบิดา ต่อให้มิใช่นักฆ่าก็คงจำเป็นต้องหาวิธีฆ่าคนแล้วฟ่านเจิ้งเองก็คิดไม่ต่าง นางช่างน่าเห็นใจ แต่ว่า...“แผนการของพวกเราก็ไม่ควรเปลี่ยนนะพ่ะย่ะค่ะ” ฟ่านเจิ้งว่า “แม้พระองค์รังเกียจนางและไม่ชอบวิธีการนี้ แต่ยังคงต้องแสร้งเป็นเหยื่อลอบจับเสือต่อไป เพราะไม่นานฝ่ายเราจะได้หลักฐานและมีพยานเอาผิดองค์ชายรองส่งให้ฝ่าบาทเสียที”ฟ่านเจินพยักหน้าเห็นด้วยกับพี่ชายเฉกเดิม “ใช่ๆ เร่งเปิดทางให้นางเข้าหาแล้วรับตัวมาไว้ข้างกายเลยเพคะ”ลูกน้องคนสนิทคิดกันไป ในขณะที่จ้าวหมิงอวี่เพียงปิดตำรา อิงแผ่นหลังกว้างกับพนักเก้าอี้แล้วหลับตาลงช้าๆ ท่าทางเงียบงันเย็นชา พาให้คู่แฝดลอบมองอย่างลุ้นระทึก ด้วยมิอาจคาดเดาความคิดของเจ้านายท้ายที่สุดจ้าวหมิงอวี่ยืดตัวลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูง กล่าวเสียงเรียบอย่างเกียจคร้าน “ข้ารังเกียจนางจริง หน้าที่เข้าหานางข้าให้พวกเจ้า วั

  • บุปผาวารีสลับวิญญาณสยบมังกร   ตอนที่ 10 ปลอมตัว2

    ขันทีหวังก้าวเท้าสั้นๆ เดินยิกๆ หลิ่งหลินก็เดินตามเพียงแต่ฝีเท้าของนางยาวและมั่นคง ไม่เหมือนคุณหนูทั่วไปที่ก้าวสั้นแบบนั้น ตำหนักนี่กว้างมากทีเดียว มีเรือนเยอะแยะยิ่ง เดินอยู่นาน ขันทีหวังถึงได้มาหยุดยืนหน้าเรือนหลังหนึ่ง เขาเอียงหน้ามาทางนางโค้งกายเล็กน้อย เปล่งเสียงแหลม“นี่คือเรือนหงซิ่ว เป็นเรือนพักของคุณหนูสวี”หลิ่งหลินประสานมือยอบกายตามมารยาทอันพึงมีของคุณหนูลูกขุนนาง “ขอบคุณหวังกงกง”“เชิญคุณหนูสวีเข้าด้านใน” หวังกงกงเปิดประตู ผายมือ ส่งแขกด้วยใบหน้าไร้อารมณ์หญิงสาวเดินเข้าไปอย่างไม่อิดออดประตูห้องปิดลง หลิ่งหลินเห็นเพียงแผ่นหลังขันที อีกฝ่ายเดินเชิดหน้าซอยเท้าก้าวเล็กหายไปทางใดไม่ทราบ นางแค่เดินเข้าห้องไปสำรวจตรวจตราอย่างไม่ถือสาท่าทีของขันทีผู้นั้นในเรือนแม้ไม่กว้างแต่ครบครันยิ่ง หลิ่งหลินสำรวจ เห็นทิศตรงไปซึ่งชิดกำแพงด้านในสุดของห้องคือเตียงนอน ด้านซ้ายโต๊ะจิบชา ด้านขวาโต๊ะหนังสือ อีกฝั่งของเตียงคือฉากกั้นวางไว้เป็นสัดส่วนสำหรับเปลี่ยนอาภรณ์ ถัดออกไปคือห้องอาบน้ำ นอกหน้าต่างอากาศค่อนข้างเย็น แต่ด้านในห้องพักแม้ห้องมีขนาดกว้างขวางแต่กลับอบอุ่น แสงแดดสาดส่อง

  • บุปผาวารีสลับวิญญาณสยบมังกร   ตอนที่ 10 ปลอมตัว1

    เรื่องวุ่นวายในจวนสวียังคงดำเนินไปทั้งอย่างนั้นผลตรวจของท่านหมอลงความเห็นว่าสวีจงสือมีภาวะเลือดลมสูบฉีดขั้นรุนแรงส่งผลให้จุดป๋ายฮุ่ย[1]แตกซ่านนั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเป็นอัมพาตท่อนล่าง ปากบิดปากเบี้ยว พูดจาไม่รู้เรื่องนั่นเอง หลังจากนี้เกรงว่าคงมิอาจหาความสำราญจากเรือนร่างสตรีได้อีกนอกจากนั้นยังมิอาจจัดการงานในจวนได้อีกด้วย เหยาซื่อซึ่งมีตำแหน่งเป็นฮูหยินใหญ่จึงต้องรับหน้าที่บริหารจัดการงานในจวนสวีทั้งหมดโดยปริยายมิใช่มีสิทธิ์มีเสียงแค่เพียงหลังเรือนเหมือนเมื่อก่อน แต่รวมถึงเรือนหน้าและอำนาจจวนสวีทั้งหมดที่เคยเป็นของสวีจงสือบัดนี้เป็นของเหยาซื่อโดยสมบูรณ์พอกัวเหมยรู้เรื่องก็กรีดร้องแทบบ้าคลั่งจนสลบไสล ครั้นตื่นขึ้นมาก็ร้องไห้โหยหวนเป็นลมอีกในขณะที่อวี้เสวี่ยจีดีใจแทบตายแล้ว นางมีอิสระ ได้รับเบี้ยหวัด ไม่ต้องทนนอนปรนนิบัติใต้ร่างบุรุษเฉกอดีต ยอดเยี่ยมที่สุดทั้งหมดทั้งมวลหลิ่งหลินเพียงทิ้งไว้เบื้องหลังยามนี้นางต้องเข้าไปเรียนในตำหนักหมิงเฟิ่งเสียที เพียงแต่ปล่อยเวลาล่วงเลยหลายวัน ยังจะเรียนทันหรือไม่ จะเข้าตำหนักได้หรือเปล่าไม่ใช่พยายามเข้าหาจ้าวหมิงอวี่ตามคำสั่งสวีจงสือ เพ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status