Home / รักโบราณ / บุปผาวารีสลับวิญญาณสยบมังกร / ตอนที่ 8 จวนสวีช่างวุ่นวาย2

Share

ตอนที่ 8 จวนสวีช่างวุ่นวาย2

Author: LiHong
last update Last Updated: 2025-08-10 22:22:33

คืนนั้นหลิ่งหลินลงทุนลงแรงเฝ้ายามให้สวีจงสือได้เข้าหอกับอนุคนใหม่ ในศาลาหน้าเรือนนางนั่งจิบชากินขนมอย่างรื่นรมย์ขณะชื่นชมดาราและดวงจันทร์ โอ้! ดาวสวยดี

กัวเหมยยังคงมาพร้อมแผนการขัดขวางมากมาย “ข้าต้องการพบนายท่าน” นางตะเบ็งเสียงดังใส่หน้าสาวใช้หน้าประตูเรือน ข้ามหัวบุตรีฮูหยินใหญ่ที่นั่งอยู่ใกล้ๆ

หลิ่งหลินถือจานขนมลุกขึ้น กินไปด้วยเดินมาด้วย ช่วยไม่ได้มันอร่อยจนติดใจ

“ฮูหยินรองมีสิ่งใดบอกกล่าวแก่ข้าก็ได้ รอจนสว่าง ข้าค่อยไปบอกท่านพ่อให้”

กัวเหมยหันมา “ล้วนเป็นเรื่องของผู้อาวุโส เกรงว่าจะไม่เหมาะกับแม่นางน้อยเช่นเจ้า”

หลิ่งหลินแค่นเสียงหยัน แววตาดุดัน “เหมาะหรือไม่ ย่อมต้องเป็นข้าที่มีฐานะบุตรสาวภรรยาเอก ช่วยตัดสินใจแทนบิดาได้ อนุเช่นเจ้าไม่นับเป็นอันใด จงกลับห้องไปรออย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัวดีกว่า”

กัวเหมยสีหน้าเคร่งเครียด คิ้วงามดุจคันศรขมวดมุ่น ตั้งแต่เมื่อใดกันที่สวีหลิงเยี่ยนเปลี่ยนไปถึงเพียงนี้

“เด็กน้อยเช่นเจ้าต่างหากต้องเจียมตัว อย่าลืมว่าข้าเป็นหญิงในดวงใจอันดับหนึ่งของนายท่าน เป็นเช่นนั้นตั้งแต่เจ้าเพิ่งลืมตาดูโลก!” 

นี่คือการตอกย้ำได้หนำใจที่สุด เพราะตอนแรก ตัวนางแค่ได้ความโปรดปรานเสมอภาคกับเหยาซื่อ แต่พอต่างฝ่ายต่างคลอดลูกและนางก็ได้เด็กผู้ชายเท่านั้นล่ะ ฮึ! เหยาซื่อที่คลอดลูกสาวก็ไม่ได้รับความรักอีกเลย

มีตำแหน่งแต่ไร้อำนาจ ไม่อยู่ในสายตาทั้งแม่ทั้งลูก!

กัวเหมยหัวเราะเยาะเหยียดหยันอย่างไม่เก็บข่ม  

หากแต่หลิ่งหลินกลับส่ายหน้าระอา แววตาฉายชัดถึงความสมเพช

“อ้อ เจ้าหน้าด้านไร้ยางอายตั้งแต่ข้ายังไม่เกิดสินะ”

กัวเหมยชะงัก “จ่ะ เจ้า”

“แย่งชิงสามีผู้อื่นมา สุดท้ายก็ถูกผู้อื่นแย่งชิงอีกที เป็นเช่นนี้เขาเรียก กรรมตามสนอง เจ้าทำใจเสียเถอะ”

กัวเหมยหนังตากระตุกเพราะความโกรธ “นังเด็กนี่” ฝ่ามือนางเงื้อขึ้น ตั้งท่าฟาดพวงแก้มจิ้มลิ้มของสาวน้อย “สามหาวนัก!”

หลิ่งหลินจับข้อมือนั้นไว้อย่างแม่นยำ

กัวเหมยผงะวูบ มิอาจขยับข้อมือได้ “จ่ะ เจ้า”

หลิ่งหลินแววตาเย็นเยียบ กระแสเสียงชวนขนลุก “ท่านเริ่มก่อนเองนะ อย่าหาว่าข้าไม่เตือน”

กัวเหมยเบิกตา ไม่รู้เพราะเหตุใด จู่ๆ เส้นขนทั่วร่างพลันลุกซู่ชูชัน แววตานังเด็กนี่ ไฉนชวนเหน็บหนาวปานนั้น

ม่ะ ไม่หรอก นางไม่กลัว

“วาจาโอหังนัก! ข้าจะเข้าไป เจ้าไม่มีสิทธิ์ขัดขวาง” นางสะบัดมือจนหลุดหันหลังทำท่าจะเดินฝ่าประตูเข้าไป สาวใช้ที่ยืนเฝ้ารีบเข้ามา ช่วยยับยั้งเอาไว้ 

“ฮูหยินรองใจเย็นเจ้าค่ะ ไร้คำสั่งนายท่าน เข้าไปไม่ได้เจ้าค่ะ”

“หลบไป บังอาจนัก”

“พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์ขวางทางฮูหยินรองนะ หลบไป” สาวใช้ติดตามกัวเหมยรีบเข้ามาช่วยเจ้านายอีกแรง

หน้าประตูเรือนพลันเกิดความวุ่นวายเล็กน้อย

ทว่าจู่ๆ กัวเหมยพลันผงะชะงักงัน เบิกตาโพลง อ้าปากค้าง ก่อนจะแน่นิ่ง เป็นลม ล้มทั้งยืนเสียอย่างนั้น 

“นายหญิง!” เหล่าสาวใช้ตะลึงลานอย่างไม่เข้าใจ “เป็นอะไรไปเจ้าคะ”

“พวกเจ้า ฮูหยินรองเป็นลมแล้วน่ะ พากลับเรือนสิ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บุปผาวารีสลับวิญญาณสยบมังกร   ตอนที่ 10 ปลอมตัว6

    “ข้ากล้าแน่” ว่าแล้วก็ตบอีกทั้งแก้มซ้ายแก้มขวาเพียะ เพียะ“โอ๊ยๆ”ผู้ตบเรี่ยวแรงเยอะนัก ชิงเอ๋อร์ล้มกลิ้ง แก้มแดงก่ำ ระบมไปหมด จังหวะนั้นหูซั่วได้ทีพลิกตัวลุกขึ้นมา ทำท่าเอาคืน แต่ถูกถีบอีกโครมใหญ่ “โอ๊ย” ชายหนุ่มลุกขึ้นมาอีกครั้ง เขาเป็นถึงองครักษ์จะเสียทีหลายกระบวนท่าได้อย่างไรหูซั่วม้วนตัวผุดร่างขึ้นมายืนผงาดหมายฟาดฟันทว่าผู้มาใหม่ฝีมือไม่ธรรมดา หูซั่วถูกเตะจนขาพับ ล้มแล้วล้มอีกจนเขาให้รู้สึกคาดไม่ถึง ชิงเอ๋อร์ก็เช่นกัน นางทั้งทุบตีทั้งกางเล็บข่วน แต่กลับไม่โดนตัวอีกฝ่ายเลย กลายเป็นตบตีหูซั่วเต็มแรงเสียอย่างนั้น จ้าวหมิงอวี่เลิกคิ้วมองความชุลมุนตรงหน้าอย่างอึ้งๆ และทึ่งกับผู้มาใหม่ อีกฝ่ายเป็นสตรีชุดแดง ปากแดง ค่อนข้างป่าเถื่อนและมีวรยุทธ!นางคือ สวีหลิงเยี่ยน!เสียงพลั่กๆ ผลัวะๆ ดังต่อเนื่อง ชุลมุนไม่หยุดยามนี้หูซั่วเริ่มไม่ไหว นึกแปลกใจในฝีมืออีกฝ่าย “โอ๊ย เจ้าเป็นใคร” หูซั่วละล่ำละลั่กถาม “บังอาจทำร้ายองครักษ์ตำหนักหมิงเฟิ่งขององค์ชายสี่ เจ้าเป็นนักฆ่า เข้ามาลอบสังหารใช่หรือไม่?”“ใช่แล้วอย่างไร?” หลิ่งหลินเป็นนักฆ่าจริงแต่ยามนี้นางไม่ได้มาลอบสังหารใครเหมือนเช

  • บุปผาวารีสลับวิญญาณสยบมังกร   ตอนที่ 10 ปลอมตัว5

    ใบหน้าดำคล้ำยิ่งนานยิ่งบึ้งตึง ประกายตาแข็งกร้าวเกินบ่าวทั่วไป และนั่นย่อมทำให้องครักษ์ผู้หนึ่งสัมผัสได้ จึงหันมาเห็นพอดี ทำให้สตรีหันมาเช่นกัน “อ๊ะ! ท่านพี่หู ตรงนั้นมีคนนั่งอยู่ มันคงเห็นพวกเราแล้วเป็นแน่ บังอาจนัก!”วาจานางกำนัลผู้นี้ชัดเจนว่าไม่พอใจอย่างยิ่งนางรีบเดินตรงดิ่งท่าทางพร้อมตำหนิอย่างรุนแรง องครักษ์หนุ่มแซ่หูจึงรีบปรี่เข้าหาพร้อมสีหน้าดุดันเช่นกัน ทิศทางด้านหน้าของพวกเขาคือจ้าวหมิงอวี่ที่ยามนี้ปลอมตัวเป็นแค่บ่าวชายผิวคล้ำจนจำรูปลักษณ์เดิมมิได้“เจ้า! บ่าวชั้นต่ำ มานั่งทำอันใดตรงนี้” หูซั่วคำรามอย่างต้องการข่มขวัญจ้าวหมิงอวี่มีหรือจะกลัว เขาเสียงเย็น “ข้าต่างหากที่ต้องถาม พวกเจ้ามาทำระยำอันใดกันตรงนี้”ชายหญิงชะงักกึกหูซั่วกัดฟันกรอดรับไม่ได้กับคำด่าจึงคำรามดุดัน “เหิมเกริมนัก พวกข้าทำสิ่งใด เจ้ามีหลักฐานหรือไร” “หลักฐาน?” จ้าวหมิงอวี่เหยียดยิ้ม “ข้าเป็นพยานเห็นกับตาก็พอกระมัง”หูซั่วหยัน “หึ! ใครจะเชื่อบ่าวระดับล่างเช่นเจ้ามากกว่าข้าที่เป็นถึงองครักษ์”จ้าวหมิงอวี่ร้อง “อ้อ เช่นนั้นให้คนเปิดประโปรงนางพิสูจน์แล้วกัน”นางกำนัลหน้าแดงเถือก รีบหนีบขาอย่างไว“จ่ะ เจ้า

  • บุปผาวารีสลับวิญญาณสยบมังกร   ตอนที่ 10 ปลอมตัว4

    ชายหนุ่มเดินมานั่งใต้ร่มชายคาศาลาซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดเดิมที่แต่งกิ่งไม้เมื่อครู่ อุทยานท้ายตำหนักแห่งนี้มีน้ำตกจำลอง ด้านหลังของน้ำตกมีพุ่มไม้ดอกไม้ประดับ เหมาะแก่การหลบเร้นซ่อนกายจากผู้คนวุ่นวายพอดีแม้วันนี้มีหิมะโปรยปราย แต่สำหรับเขานับว่าอากาศกำลังเย็นสบาย เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ ผ่อนคลายอารมณ์ ไหนเลยควรเรียนเคร่งเครียดทว่าอาจเป็นเพราะมีหิมะจึงพานให้นึกถึงใครบางคนบนยอดภูผาอันหนาวเหน็บวันนั้น‘เป็นถึงราชนิกุลแต่คิดสละฐานันดรเพื่อสตรีเช่นข้า ท่านบ้าหรือไร ข้ากำลังจะแต่งงาน ไสหัวไปซะ!’เสียงหวานที่ก้องกังวานยังคงชัดเจนในห้วงภวังค์จ้าวหมิงอวี่ค่อยๆ หลับตาลงเชื่องช้า สีหน้าเย็นชาผุดพรายความเศร้าหมองออกมาเลือนลางนางมักทำตัวร้ายกาจเช่นนั้นเสมอ ให้ผู้คนภายนอกมองเป็นพญามาร แต่เขารู้ดี มารตัวจริงมักมาในรูปแบบที่เราไม่รู้สึกถึงความอันตราย อันที่จริงนางควรทำตัวเหมือนมิตรสหาย มิให้เขาระแวดระวังภัยมิใช่หรือไร?ชายหนุ่มถอนหายใจให้ความคะนึงที่มิเคยจางหาย หลายครั้งที่หลับตา ภาพของหลิ่งหลินมักชัดเจนเสมอ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน ทุกวันที่พบหน้า กระทั่งถูกหักขา ถูกผลักไสที่ริมหน้าผาครานั้นท่าม

  • บุปผาวารีสลับวิญญาณสยบมังกร   ตอนที่ 10 ปลอมตัว3

    ฟ่านเจินให้รู้สึกเห็นใจสวีหลิงเยี่ยนขึ้นมาอย่างแท้จริง อีกฝ่ายแลดูจะเป็นคนกตัญญูรักครอบครัวเสียด้วย ก่อนนี้สตรีอื่นต่างเร่งร้อนมาเข้าตำหนักก่อนใคร เพื่อหวังให้เข้าตาองค์ชายสี่โดยเร็วที่สุด แต่นางกลับมาเข้าเรียนช้าเพราะอยู่เรือนช่วยมารดา ครานี้ต้องช่วยบิดา ต่อให้มิใช่นักฆ่าก็คงจำเป็นต้องหาวิธีฆ่าคนแล้วฟ่านเจิ้งเองก็คิดไม่ต่าง นางช่างน่าเห็นใจ แต่ว่า...“แผนการของพวกเราก็ไม่ควรเปลี่ยนนะพ่ะย่ะค่ะ” ฟ่านเจิ้งว่า “แม้พระองค์รังเกียจนางและไม่ชอบวิธีการนี้ แต่ยังคงต้องแสร้งเป็นเหยื่อลอบจับเสือต่อไป เพราะไม่นานฝ่ายเราจะได้หลักฐานและมีพยานเอาผิดองค์ชายรองส่งให้ฝ่าบาทเสียที”ฟ่านเจินพยักหน้าเห็นด้วยกับพี่ชายเฉกเดิม “ใช่ๆ เร่งเปิดทางให้นางเข้าหาแล้วรับตัวมาไว้ข้างกายเลยเพคะ”ลูกน้องคนสนิทคิดกันไป ในขณะที่จ้าวหมิงอวี่เพียงปิดตำรา อิงแผ่นหลังกว้างกับพนักเก้าอี้แล้วหลับตาลงช้าๆ ท่าทางเงียบงันเย็นชา พาให้คู่แฝดลอบมองอย่างลุ้นระทึก ด้วยมิอาจคาดเดาความคิดของเจ้านายท้ายที่สุดจ้าวหมิงอวี่ยืดตัวลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูง กล่าวเสียงเรียบอย่างเกียจคร้าน “ข้ารังเกียจนางจริง หน้าที่เข้าหานางข้าให้พวกเจ้า วั

  • บุปผาวารีสลับวิญญาณสยบมังกร   ตอนที่ 10 ปลอมตัว2

    ขันทีหวังก้าวเท้าสั้นๆ เดินยิกๆ หลิ่งหลินก็เดินตามเพียงแต่ฝีเท้าของนางยาวและมั่นคง ไม่เหมือนคุณหนูทั่วไปที่ก้าวสั้นแบบนั้น ตำหนักนี่กว้างมากทีเดียว มีเรือนเยอะแยะยิ่ง เดินอยู่นาน ขันทีหวังถึงได้มาหยุดยืนหน้าเรือนหลังหนึ่ง เขาเอียงหน้ามาทางนางโค้งกายเล็กน้อย เปล่งเสียงแหลม“นี่คือเรือนหงซิ่ว เป็นเรือนพักของคุณหนูสวี”หลิ่งหลินประสานมือยอบกายตามมารยาทอันพึงมีของคุณหนูลูกขุนนาง “ขอบคุณหวังกงกง”“เชิญคุณหนูสวีเข้าด้านใน” หวังกงกงเปิดประตู ผายมือ ส่งแขกด้วยใบหน้าไร้อารมณ์หญิงสาวเดินเข้าไปอย่างไม่อิดออดประตูห้องปิดลง หลิ่งหลินเห็นเพียงแผ่นหลังขันที อีกฝ่ายเดินเชิดหน้าซอยเท้าก้าวเล็กหายไปทางใดไม่ทราบ นางแค่เดินเข้าห้องไปสำรวจตรวจตราอย่างไม่ถือสาท่าทีของขันทีผู้นั้นในเรือนแม้ไม่กว้างแต่ครบครันยิ่ง หลิ่งหลินสำรวจ เห็นทิศตรงไปซึ่งชิดกำแพงด้านในสุดของห้องคือเตียงนอน ด้านซ้ายโต๊ะจิบชา ด้านขวาโต๊ะหนังสือ อีกฝั่งของเตียงคือฉากกั้นวางไว้เป็นสัดส่วนสำหรับเปลี่ยนอาภรณ์ ถัดออกไปคือห้องอาบน้ำ นอกหน้าต่างอากาศค่อนข้างเย็น แต่ด้านในห้องพักแม้ห้องมีขนาดกว้างขวางแต่กลับอบอุ่น แสงแดดสาดส่อง

  • บุปผาวารีสลับวิญญาณสยบมังกร   ตอนที่ 10 ปลอมตัว1

    เรื่องวุ่นวายในจวนสวียังคงดำเนินไปทั้งอย่างนั้นผลตรวจของท่านหมอลงความเห็นว่าสวีจงสือมีภาวะเลือดลมสูบฉีดขั้นรุนแรงส่งผลให้จุดป๋ายฮุ่ย[1]แตกซ่านนั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาเป็นอัมพาตท่อนล่าง ปากบิดปากเบี้ยว พูดจาไม่รู้เรื่องนั่นเอง หลังจากนี้เกรงว่าคงมิอาจหาความสำราญจากเรือนร่างสตรีได้อีกนอกจากนั้นยังมิอาจจัดการงานในจวนได้อีกด้วย เหยาซื่อซึ่งมีตำแหน่งเป็นฮูหยินใหญ่จึงต้องรับหน้าที่บริหารจัดการงานในจวนสวีทั้งหมดโดยปริยายมิใช่มีสิทธิ์มีเสียงแค่เพียงหลังเรือนเหมือนเมื่อก่อน แต่รวมถึงเรือนหน้าและอำนาจจวนสวีทั้งหมดที่เคยเป็นของสวีจงสือบัดนี้เป็นของเหยาซื่อโดยสมบูรณ์พอกัวเหมยรู้เรื่องก็กรีดร้องแทบบ้าคลั่งจนสลบไสล ครั้นตื่นขึ้นมาก็ร้องไห้โหยหวนเป็นลมอีกในขณะที่อวี้เสวี่ยจีดีใจแทบตายแล้ว นางมีอิสระ ได้รับเบี้ยหวัด ไม่ต้องทนนอนปรนนิบัติใต้ร่างบุรุษเฉกอดีต ยอดเยี่ยมที่สุดทั้งหมดทั้งมวลหลิ่งหลินเพียงทิ้งไว้เบื้องหลังยามนี้นางต้องเข้าไปเรียนในตำหนักหมิงเฟิ่งเสียที เพียงแต่ปล่อยเวลาล่วงเลยหลายวัน ยังจะเรียนทันหรือไม่ จะเข้าตำหนักได้หรือเปล่าไม่ใช่พยายามเข้าหาจ้าวหมิงอวี่ตามคำสั่งสวีจงสือ เพ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status