Home / รักโบราณ / บุปผาสีชาด / ตอนที่42คนว่างงาน

Share

ตอนที่42คนว่างงาน

last update Last Updated: 2025-09-05 21:04:21

มาอีกแล้ว คนผู้นี้ว่างงานนักหรืออย่างไร

อวี้จิ้งทอดถอนใจยาวตั้งแต่ยังไม่ทันได้จิบชาเช้า ใบหน้านิ่งขรึมเต็มไปด้วยริ้วรอยของความอดกลั้น และกลิ่นอายของความหงุดหงิดปนเวทนาในชะตากรรมของตน

รุ่งเช้า ฟ้ายังไม่ทันสว่างดีนัก คนก็มาเยือนถึงหน้าจวนเสียแล้ว

"หากไม่มีงานการทำ เหตุใดถึงไม่กลับแดนเหนือไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด"

อวี้จิ้งได้เพียงบ่นอยู่ในใจ ฟันกรามกัดแน่นจนขมับเต้นตุบๆ ขณะลุกจากที่นั่ง เดินออกไปต้อนรับแขกผู้สูงศักดิ์ แขกที่เหมือนจะกลายเป็นสมาชิกประจำบ้านเข้าไปทุกที

องค์ชายใหญ่หลี่เหวินหลง ยืนตระหง่านราวขุนเขาเช่นเคย ท่าทีสงบนิ่ง เยือกเย็นประหนึ่งนักปราชญ์ผู้สูงส่ง ทั้งที่ความจริงแล้วก็แค่คนไร้ยางอาย หน้าด้านหน้าทนผู้หนึ่ง ที่ทำเอาเจ้าบ้านอย่างเขาแทบกระอักเลือดตาย เมื่อวานกว่าจะต้อนคนส่งกลับได้ก็เล่นเอาเขาแทบจะหัวหลุดจากบ่าอยู่หลายครั้ง

"องค์ชายใหญ่มาตั้งแต่เช้าเลยนะพ่ะย่ะค่ะ"

อวี้จิ้งเอ่ย พลางฉีกยิ้มบางๆ ที่คล้ายรอยยิ้มของเสือเฒ่ากำลังข่มอารมณ์ แฝงไว้ด้วยคำว่า ‘เจ้าว่างนักหรือ’ ขณะทำความเคารพอีกฝ่ายอย่างมีมารยาท

"ใต้เท้าอวี้ พบหน้าข้าแล้วยินดีถึงเพียงนี้เชียว"

หลี่เหวินหลงยิ้มรับสีหน้าระรื่น ประหนึ่งว่าไม่เห็นรอยยิ้มที่ราวกับจะแยกเขี้ยวของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย ทักทายเจ้าบ้านเสร็จ ก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงชวนหมั่นไส้ ทั้งยังเดินนำเจ้าของเรือนไปยังห้องหนังสือราวกับคุ้นเคยเป็นอย่างดี

"มาเถอะ เช้านี้ลมเย็นดีนัก ดื่มชาร้อนๆ ไปพลางสนทนากันไปพลาง วันนี้ข้ามีเรื่องน่ายินดีมาแจ้งท่านด้วย"

คำพูดและการกระทำนั้น ทำเอาเส้นเลือดบนหน้าผากของอวี้จิ้งเต้นตุบๆ หนวดกระตุกถี่ราวจะหลุดออกมา

แต่ในฐานะเจ้าบ้านผู้มีมารยาท เขาจึงทำเพียงส่งเสียงในลำคอ

หึ! แล้วหมุนตัวเดินตามอีกฝ่ายไปยังห้องหนังสืออย่างไร้ทางเลือก

เซิ่งซื่อที่วันนี้ใบหน้าดูผ่องใสผ่อนคลายมากขึ้น ออกมาต้อนรับอีกฝ่ายเช่นกัน แต่นางหาได้ใส่ใจคนทั้งสองมากนัก เพราะในสายตานาง องค์ชายใหญ่ก็แค่บุรุษผู้หนึ่งที่ตกหลุมเสน่ห์ของอวี้หลันเช่นเดียวกับหลานชายของนาง จึงตามเทียวไล้เทียวขื่ออยู่เช่นนี้ ส่วนสามีของนางก็คงจะหวงบุตรสาวจนเสียสติ จึงแสดงท่าทีเป็นไม้เบื่อไม้เมาอยู่ร่ำไป

แต่จะเป็นเช่นไรก็ช่างเถิด...เช่นนี้กลับดีเสียอีก แผนของซุนเอ๋อร์จะได้เป็นไปอย่างราบรื่น

คิดถึงตรงนี้แล้วเซิ่งซื่อก็หัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะเหยียดยิ้มแล้วหันหลังเดินกลับเรือนอย่างอารมณ์ดี

หลังจากได้รับจดหมายจากผู้เป็นพี่ชาย ความหนักอึ้งที่กดทับกลางอกมาตลอดหลายวันก็พลันคลายลงราวหมอกเช้า เพราะในจดหมายนั้น ไม่เพียงยืนยันชัดเจนว่าเรื่องที่นางเป็นกังวลจะไม่มีวันสาวมาถึงตัวแล้ว ยังบอกถึงแผนการใหม่ของหลานชายนาง...แผนที่ยากจะปฏิเสธเสียด้วย

เซิ่งซื่อไม่อยากจะเชื่อเลยว่า หลานชายของนางจะพึงใจในตัวของนังเด็กนั่นจนถึงขั้นคิดจะตบแต่ง แม้ตอนแรกนางจะรู้สึกไม่พอใจและไม่เห็นด้วยนัก ใครเล่าจะอยากได้นังเด็กนั่นมาเกี่ยวข้องในสายตระกูล แต่เมื่อคิดถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาก็รู้สึกพึงพอใจไม่น้อย 

หนึ่งคือองค์ชายใหญ่ ผู้ที่ทำให้แผนการของนางต้องพังลงครั้งแล้วครั้งเล่า หากสุดท้ายถูกหลานชายของนางแย่งตัวเด็กนั่นมา นางคงจะสาแก่ใจไม่น้อย

สองคือนังเด็กปากกล้านั่น ที่ยังกล้าหลงคิดว่าตัวเองอยู่เหนือหัวนาง หลังจากนี้คงต้องตกเป็นรองของนางทุกอย่าง

คอยดูเถอะว่าหลังจากแผนนี้สำเร็จนางจะจัดการนังเด็กนั่นยังไง แม้เป็นสะใภ้ของตระกูลเซิ่ง แต่นางไม่มีวันจะได้อยู่อย่างสงบสุข

เซิ่งซื่อยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างสำราญใจ สายตาพราวระยับทอดมองกลีบดอกเหมยที่ผลิบานสะพรั่งตรงหน้า ราวกับกำลังชื่นชมภาพความงามแห่งชัยชนะที่กำลังจะมาถึง

ขณะที่อีกด้านหนึ่งในห้องหนังสือนั้นกลับเต็มไปด้วยแรงกดดันและความตึงเครียด บุรุษต่างวัยทั้งสองยังคงนั่งประจันหน้ากัน สีหน้าเคร่งเครียดบ่งชัดถึงความจริงจังที่ถาโถมอยู่รอบกาย

หนึ่งคือขุนนางผู้มากด้วยบารมี เจ้าของเรือนผู้เป็นเสาหลักของตระกูล อีกหนึ่งคือองค์ชายใหญ่ผู้ถืออำนาจบังคับบัญชาทหารชายแดน ผู้ที่เติบโตมาท่ามกลางคมดาบและอำนาจ แววตาของทั้งสองต่างเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ที่ผ่านร้อนหนาวมาไม่แพ้กัน

ทว่าภายในห้องกลับไร้เงาของความขุ่นเคืองหรือคำเสียดแทง ไม่ใช่เพราะพวกเขายอมรับกันโดยดี แต่เพราะเรื่องที่อยู่ตรงหน้านั้นสำคัญเกินกว่าจะมัวเสียเวลากัดฟันข่มกันไปมา

"เสด็จพ่อทรงเขียนราชโองการแต่งตั้งท่านเป็นอัครเสนาบดีกรมพิธีการแล้ว" 

หลี่เหวินหลงยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างนิ่งสงบ น้ำเสียงที่เอ่ยออกมานั้นราบเรียบ ทว่าแฝงไว้ด้วยแรงสะท้อนบางอย่าง

"กระหม่อม...จะเหมาะสมกับตำแหน่งนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ"

อวี้จิ้งหลุบตาต่ำ ปลายนิ้วลูบไล้ขอบถ้วยชาในมืออย่างเชื่องช้า คล้ายจะใช้สัมผัสนั้นพยุงจิตใจที่หนักอึ้งให้คงที่ เหม่อลอยราวกำลังขบคิดอะไรบางอย่างที่ซับซ้อน น้ำเสียงที่ตอบกลับจึงฟังคล้ายรำพึงเสียมากกว่า และมันเต็มไปด้วยความลังเลและเหนื่อยล้า ดวงตาทอดมองน้ำสีใสในถ้วยราวมองเงาของอดีต

ตำแหน่งนี้คือสิ่งที่เขาเคยปรารถนาและพยายามไขว่คว้ามาเนิ่นนาน แต่พอได้มันมาแล้ว เขากลับพบว่ามันช่างว่างเปล่าเหลือเกิน เขาไม่แม้แต่จะรู้สึกยินดี หรือมีความสุขกับมันเลยแม้แต่น้อย

มีอำนาจแล้วอย่างไร เพราะแม้แต่ครอบครัวของตัวเอง เขายังปกป้องไว้ไม่ได้

อวี้จิ้งสูดลมหายใจลึก ข่มความเจ็บปวดที่พยายามกลบฝังไว้เนิ่นนาน มือที่ถือถ้วยชาสั่นเล็กน้อย

เพราะเขามัวแต่หมกมุ่นกับการช่วงชิงอำนาจ จนหลงลืมสิ่งที่สำคัญที่สุดไป

ตำแหน่งอัครเสนาบดีนี้...เขาจะคู่ควรได้อย่างไร

หลี่เหวินหลงปรายตามองอีกฝ่าย วางถ้วยชาลงบนจานแผ่วเบา แล้วพ่นลมหายใจออกมา เขาเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เดินทอดน่องไปเอนกายพิงขอบหน้าต่าง มองออกไปยังสวนหย่อมที่ตกแต่งเอาไว้อย่างงดงาม ใบหน้าเรียบสงบแต่แววตากลับลึกล้ำเกินจะหยั่ง เอ่ยขึ้นเสียงขรึม

"ตอนนี้ท่านคงพอจะรู้แล้วกระมัง ว่าฮูหยินของท่าน และตระกูลเดิมของนาง รับใช้ผู้ใด"

อวี้จิ้งนิ่งเงียบไปอึดใจ ดวงตาที่ทอดมองถ้วยชาเบื้องหน้าค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเยียบเย็นและนิ่งลึก ก่อนจะพยักหน้าเพียงเล็กน้อย สีหน้าสงบแต่ในแววตาเจือแววเจ็บลึกยากจะปิดบัง เมื่อความจริงบางอย่างกำลังบ่งชี้ไปยังผู้ที่คอยชักนำทุกอย่างอยู่เบื้องหลัง

"เช่นนั้น ท่านก็ควรรู้ ว่าตำแหน่งนี้สำคัญแค่ไหน หากปราศจากอำนาจ ท่านย่อมไม่อาจปกป้องสิ่งใดได้ ไม่ใช่แค่ภรรยาหรือบุตร แต่หมายถึงตระกูลของท่านเองด้วย ท่านต้องมีอำนาจมากขึ้นเท่านั้น ถึงจะสามารถต่อกรกับอีกฝ่ายได้"

คำพูดนั้นมิใช่คำสั่ง หรือคำสอน แต่เป็นความจริง ทำเอาอวี้จิ้งนิ่งงัน ราวกับถูกดึงสติกลับมายังใจกลางความจริงที่ตนเผชิญอยู่

อวี้จิ้งเงยหน้าขึ้นช้าๆ แววตานิ่งงันแปรเปลี่ยนเป็นเด็ดเดี่ยว แม้ในใจยังเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและความรู้สึกไม่คู่ควร แต่ในเวลานี้ เขาก็รู้แล้วเช่นกันว่า หากปล่อยให้ความเสียใจถ่วงรั้งตนเองเอาไว้ ย่อมไม่มีวันเอื้อมถึงหรือปกป้องสิ่งใดได้เลย

"พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเข้าใจแล้ว"

หลังจากนั้นภายในห้องก็เหมือนตกอยู่ในความเงียบงัน มีเพียงเสียงลมแผ่วเบาที่ลอดผ่านช่องหน้าต่าง กับกลิ่นหมึกจางๆ ที่คลุ้งอยู่ในอากาศ ราวกับความนิ่งสงบกำลังโอบคลุมทั่วห้อง

ทว่าความเงียบนี้กลับไม่ทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลงเลยแม้แต่น้อย เพราะแรงกดดันอึมครึมบางอย่างยังคงแผ่ซ่านออกมาจากร่างของบุรุษสูงศักดิ์ที่ยืนอยู่ตรงหน้าต่าง

อวี้จิ้งขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะเหลือบตามองอีกฝ่ายเงียบๆ พลางครุ่นคิดในใจ

เขาเผลอพูดอะไรไม่เข้าหูไปงั้นหรือ หรือว่า...คำตอบก่อนหน้านี้ยังไม่เป็นที่พอพระทัย

อวี้จิ้งลุกขึ้นจากเก้าอี้ด้วยท่วงท่าสงบนิ่ง เดินเข้าไปหาอีกฝ่าย จนกระทั่งมาหยุดยืนอยู่เบื้องหลัง ใบหน้ายังคงสงบราบเรียบดุจเดิม มือทั้งสองประสานไว้เบื้องหน้าอย่างสุขุมเช่นทุกครั้ง

องค์ชายใหญ่หลี่เหวินหลงยังคงยืนนิ่งอยู่ที่หน้าต่าง ไม่เอ่ยคำใด ไม่แม้แต่จะปรายตากลับมามองเขา 

"ยังมีสิ่งใดที่กระหม่อมต้องรู้อีกหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ"

อวี้จิ้งจึงถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบต่ำ

ในที่สุด บุรุษผู้เงียบงันก็ขยับ ดวงตาคมลึกที่เต็มไปด้วยอะไรบางอย่างค่อยๆ หันมาจ้องเขาแน่วนิ่ง

"มีสิ"

เสียงนั้นไม่ดังนัก ทว่ากลับหนักแน่นจนบีบให้ห้องยิ่งเงียบงันกว่าเดิม

"ท่านดูเอาเองเถิด"

อวี้จิ้งหันมองตามสายตาขององค์ชายใหญ่ แล้วร่างทั้งร่างก็พลันแข็งค้าง สีหน้าที่เคยสุขุมสงบนิ่งเปลี่ยนเป็นดำทะมึนในพริบตา

ภายในสวนหย่อมอันร่มรื่น สายลมพัดโชยแผ่วเบาให้ใบไม้ไหวเอน อากาศช่างดีเสียจนไม่น่าจะมีเรื่องน่าหงุดหงิดใดๆ แต่ตรงนั้น กลับเป็นภาพที่ทำให้มุมปากของอวี้จิ้งกระตุกถี่

อวี้หลัน บุตรสาวคนรองของเขา นางกำลังยืนอยู่ตรงนั้น และมิได้อยู่เพียงผู้เดียว ยังมีบุรุษหนุ่มรูปงามอีกผู้หนึ่งที่เขารู้จักอีกฝ่ายเป็นอย่างดี

บุรุษผู้นั้นหาใช่ใครที่ไหน แต่คือองค์ชายห้าหลี่จื้อหยวน ว่าที่บุตรเขยคนโตของเขา

อวี้จิ้งปรายตามององค์ชายใหญ่ที่ยังยืนนิ่งอยู่ข้างกาย ใบหน้าหล่อเหลาคมคายนั้นมืดครึ้มยิ่งกว่าเดิม จ้องมองไปยังสวนหย่อมไม่วางตา สีหน้าเย็นชานิ่งงัน แต่ในแววตากลับเต็มไปด้วยแรงอารมณ์ ราวกับพร้อมจะก้าวเข้าไปปะทะกับใครบางคนได้ทุกเมื่อ

อวี้จิ้งอดถอนใจเงียบๆ ไม่ได้ เขาเริ่มสงสัยขึ้นมาจริงๆ แล้วว่า เหล่าเชื้อพระวงศ์ทั้งหลายไม่มีราชกิจให้ต้องสะสางกันเลยหรืออย่างไร

องค์ชายใหญ่ผู้นี้ ลอยไปลอยมาอย่างคนว่างงาน กว่าจะเชิญกลับได้ก็ยากเย็นแสนเข็ญ ฟ้ายังไม่ทันสว่างดีก็โผล่มาให้เห็น

วันนี้ยังพ่วงน้องชายอย่างองค์ชายห้ามาด้วยอีกหนึ่ง

อวี้จิ้งเหลือบมองออกไปยังสวนหย่อมอีกครั้ง ภาพที่เห็นตรงหน้าทำเอาเขาเริ่มลังเลขึ้นมาว่า จวนของเขานั้นยังเป็นจวนขุนนางอยู่หรือไม่ หรือว่ากลายเป็นโรงเตี๊ยมไปแล้วกันแน่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่43ผู้มาเยือน

    "หลันเอ๋อร์ ขอเวลาข้าสักครู่ได้หรือไม่"เสียงทุ้มต่ำขององค์ชายห้าหลี่จื้อหยวนเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน ทว่าแฝงแววเว้าวอนลึกซึ้ง เขาก้าวขวางเบื้องหน้าในจังหวะที่อวี้หลันหมุนกายจะจากไป หยุดยั้งฝีเท้าเรียวอย่างไม่เปิดโอกาสให้นางหลบเลี่ยงสายตาคมกริบทอดมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่อาจละไปได้ ความคาดหวัง ความลังเล และความเจ็บปวดสลักทับซ้อนในแววตาคู่นั้นราวกับเพียงคำตอบหนึ่งคำจากนาง จะสามารถปลดปล่อยหรือขังเขาไว้ตลอดกาลอวี้หลัน..หญิงสาวที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นคู่หมั้นในวัยเยาว์ของเขา หญิงสาวที่เขาเคยคิดว่าจะได้ครอบครองและปกป้องแต่ตอนนี้นางกลับไกลจากเขาออกไปทุกทีข่าวลือที่โด่งดังไปทั่วเมืองหลวงอยู่ในตอนนี้ ทำให้เขาไม่อาจทนนิ่งเฉย จนต้องมาปรากฏตัวที่นี่ ยิ่งเมื่อได้เห็น ปิ่นปักผม ที่ปรากฏอยู่บนมวยผมของนาง ดวงตาของเขายิ่งแข็งกร้าวปิ่นนั่นหลี่เหวินหลงผู้เป็นพี่ชายหวงแหนยิ่งกว่าสิ่งใด เป็นสิ่งที่ไม่ควรมอบให้ใครง่ายๆ นอกจากผู้ที่เขา "หมายปอง" อย่างแท้จริงหลี่จื้อหยวนกำมือแน่น ความรู้สึกในใจร้อนรนแทบระเบิดออกมา แต่กลับไม่เอ่ยอันใด นอกจากสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วเปิดกล่องเครื่องประดับในมือออก ยื่นไปตรงหน้าอีก

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่42คนว่างงาน

    มาอีกแล้ว คนผู้นี้ว่างงานนักหรืออย่างไรอวี้จิ้งทอดถอนใจยาวตั้งแต่ยังไม่ทันได้จิบชาเช้า ใบหน้านิ่งขรึมเต็มไปด้วยริ้วรอยของความอดกลั้น และกลิ่นอายของความหงุดหงิดปนเวทนาในชะตากรรมของตนรุ่งเช้า ฟ้ายังไม่ทันสว่างดีนัก คนก็มาเยือนถึงหน้าจวนเสียแล้ว"หากไม่มีงานการทำ เหตุใดถึงไม่กลับแดนเหนือไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด"อวี้จิ้งได้เพียงบ่นอยู่ในใจ ฟันกรามกัดแน่นจนขมับเต้นตุบๆ ขณะลุกจากที่นั่ง เดินออกไปต้อนรับแขกผู้สูงศักดิ์ แขกที่เหมือนจะกลายเป็นสมาชิกประจำบ้านเข้าไปทุกทีองค์ชายใหญ่หลี่เหวินหลง ยืนตระหง่านราวขุนเขาเช่นเคย ท่าทีสงบนิ่ง เยือกเย็นประหนึ่งนักปราชญ์ผู้สูงส่ง ทั้งที่ความจริงแล้วก็แค่คนไร้ยางอาย หน้าด้านหน้าทนผู้หนึ่ง ที่ทำเอาเจ้าบ้านอย่างเขาแทบกระอักเลือดตาย เมื่อวานกว่าจะต้อนคนส่งกลับได้ก็เล่นเอาเขาแทบจะหัวหลุดจากบ่าอยู่หลายครั้ง"องค์ชายใหญ่มาตั้งแต่เช้าเลยนะพ่ะย่ะค่ะ"อวี้จิ้งเอ่ย พลางฉีกยิ้มบางๆ ที่คล้ายรอยยิ้มของเสือเฒ่ากำลังข่มอารมณ์ แฝงไว้ด้วยคำว่า ‘เจ้าว่างนักหรือ’ ขณะทำความเคารพอีกฝ่ายอย่างมีมารยาท"ใต้เท้าอวี้ พบหน้าข้าแล้วยินดีถึงเพียงนี้เชียว"หลี่เหวินหลงยิ้มรับสีหน้าระร

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่41สนทนาพาที

    เซิ่งซื่อใช่ว่าจะไม่รู้สึกถึงบรรยากาศอึดอัดกดดันที่แผ่คลุมอยู่ภายในห้อง หากแต่นางยังฝืนรักษารอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าเอาไว้ ไม่ว่าสายตาใครจะจับจ้องมายังนางอย่างไร นางก็ยังสงบนิ่งไม่แสดงพิรุธหลายวันมานี้ นางสัมผัสได้ถึงบรรยากาศภายในจวนที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน นางรับรู้ได้ว่าสามีเริ่มมีท่าทีที่ผิดแผกไป ไม่เหมือนเดิมอย่างที่เคย นับตั้งแต่เกิดเรื่องกับอวี้หลัน ทว่าเขากลับยังคงนิ่งเฉยไม่เอ่ยสิ่งใด นั่นยิ่งทำให้นางทั้งหวาดระแวงและไม่อาจวางใจได้ ความเงียบของเขากลับทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งนางรู้ดีว่าคนอย่างอวี้จิ้งไม่ใช่ผู้ที่จะปล่อยผ่านเรื่องใดไปโดยไม่คิดสืบหาความจริง ไม่ใช่คนที่จะถูกหลอกล่อได้ง่ายนัก และยิ่งเงียบก็ยิ่งน่าหวาดกลัวแต่ถึงอย่างนั้น นางก็ยังพอจะเบาใจอยู่บ้าง อย่างน้อยที่สุดหลานชายของนางก็กลับมาอย่างปลอดภัย และที่สำคัญ เขาไม่ได้ทิ้งร่องรอยใดไว้ให้ถูกสาวมาถึงตัวทุกอย่างยังอยู่ในการควบคุม นางเพียงต้องระวังตัวให้มากพอ และฉลาดพอที่จะไม่ถามถึงรายละเอียดให้มากความ สิ่งที่ไม่รู้ ก็ไม่จำเป็นต้องรู้ สิ่งที่รู้ นางก็เลือกจะซ่อนไว้ลึกสุดใจ ไม่ให้แม้แต่น้ำเสียงหรือแววตาเผลอเผยพิรุธออ

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่40ศึกชิงนาง

    หลังจากพิธีปักปิ่นอย่างเป็นทางการในช่วงเช้าผ่านพ้นไป ตกเย็นก็ควรจะเป็นเวลาของคนในครอบครัว แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นเช่นนั้นเสียแล้วอวี้จิ้งเพิ่งเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงคำกล่าวที่ว่าเชิญเทพมาง่าย แต่ส่งกลับไปแสนยาก ก็ในวันนี้เองรองเสนาบดีผู้มากบารมี ปลายสายตาเหลือบมองบุรุษหนุ่มผู้สูงศักดิ์ที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะด้วยสีหน้าอึมครึม เขาไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำใดออกมา เพราะแม้จะเงียบ แต่หนวดที่กระตุกอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า ดวงตาวาววับที่ราวกับจะพ่นลูกไฟออกมาได้ทุกเมื่อ ก็ฟ้องหมดทุกอย่างและถึงจะเป็นเช่นนั้นอีกฝ่ายกลับยังนั่งจิบชาอย่างสบายอารมณ์ หาได้รู้ถึงความผิดของตัวเอง ประหนึ่งว่าเขาคือเจ้าของเรือน มิหนำซ้ำยังทำตัวกลมกลืนอย่างยิ่งราวกับคนในครอบครัวไม่ขัดเขิน ไม่เกรงใจ ไม่ถ่อมตนกระทำตัวเหมือนเขยของบ้านข้าเข้าไปทุกทีหึ…กล้าดียังไงแน่นอนว่าอวี้จิ้งได้แต่คิดในใจเท่านั้น ไม่มีวันกล้าเอ่ยออกมาเพราะบุรุษตรงหน้านั้น หาใช่ใครอื่นไกล แต่คือ องค์ชายใหญ่หลี่เหวินหลงการกระทำของอีกฝ่ายในวันนี้สร้างความขุ่นเคืองใจให้เขาอย่างยิ่ง แต่แม้จะรู้สึกไม่พอใจเพียงใด ทว่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับหยางฮูหยินผู้เฒ่า ซึ

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่39วันปักปิ่น

    แสงอรุณอ่อนในฤดูใบไม้ผลิส่องพาดแนวหลังคาเรือน บรรยากาศทั่วทั้งจวนรองเสนาบดีเต็มไปด้วยความคึกคัก ภายในเรือนใหญ่ของตระกูลอวี้อบอวลด้วยกลิ่นหอมของไม้จันทน์บ่าวไพร่ในจวนสีหน้าสดชื่นแจ่มใส ขะมักเขม้นจัดเตรียมพิธีมงคล ข้าวของเครื่องใช้ล้วนถูกจัดเรียงตามตำราโบราณเรือนหลักของจวนอวี้ในวันนี้ถูกประดับประดาด้วยผ้าแพรไหมสีมงคล ลวดลายดอกเหมยปักดิ้นทองสะท้อนแสงแดดระยิบระยับ กลิ่นหอมของชาดอกไม้ที่ลอยอบอวลในอากาศ สร้างบรรยากาศละมุนละไมวันนี้คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคุณหนูรองอวี้ในที่สุดวันปักปิ่นของอวี้หลันก็มาถึง พิธีในวันนี้ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่สมเกียรติบุตรีขุนนางฝ่ายพิธีการ เรียกได้ว่าเป็นงานเลี้ยงที่หรูหราและงดงามที่สุดในรอบหลายปีของเมืองหลวง อวี้หลันในชุดผ้าไหมเนื้อละเอียดสีชมพูอมทองปักลวดลายดอกโบตั๋นอย่างประณีต เนื้อผ้าไหมพลิ้วไหวรับแสงแดดอ่อนยามเช้า ปลายแขนเสื้อขลิบดิ้นทอง ชุดตัวยาวรัดช่วงเอวด้วยสายผ้าแพรสีแดงสด ด้านข้างห้อยพู่หยกล้ำค่า เงาผ้าพลิ้วไหวราวกลีบดอกไม้ต้องลมตามจังหวะก้าวเดิน ทุกสายตาต่างจับจ้องไปยังสตรีน้อยผู้เป็นบุตรีของรองเสนาบดีหญิงสาวย่างก้าวด้วยท่วงท่าที่เปี่ยมไ

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่38ความจริงเริ่มกระจ่าง

    เซิ่งซื่อนั่งนิ่งอยู่ในเรือนใหญ่ของตนเอง บรรยากาศภายในเรือนที่เคยสงบร่มรื่น บัดนี้กลับอึดอัดและหนักแน่นประหนึ่งมีเงาทึบปกคลุม มือที่ถือพัดเริ่มกำแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว แววตาเคร่งเครียดขณะฟังรายงานจากบ่าวคนสนิท เสียงนั้นเบาราวกระซิบ แต่ทุกคำกลับฟังชัดเจนยิ่งในหูของนาง"คุณหนูรองกลับมาถึงจวนเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ มิได้รับบาดเจ็บใดๆ ทั้งสิ้น"คำบอกเล่านั้น ดังก้องในใจจนมือที่กำพัดเริ่มสั่นอวี้หลันกลับมาแล้ว อีกทั้งยังไม่เป็นอะไรเลย"ข่าวว่า...องค์ชายใหญ่เป็นผู้ช่วยชีวิตคุณหนูรองเอาไว้ด้วยพระองค์เองเจ้าค่ะ"เสียงในห้องเงียบงันชั่วอึดใจ"องค์ชายใหญ่"เซิ่งซื่อทวนคำเบาๆ อย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ความหวาดหวั่นคละคลุ้งในอกองค์ชายใหญ่หลี่เหวินหลง คนผู้นี้อีกแล้วหรือพัดในมือของนางถูกบีบจนแทบจะแหลกคามือ แววตาที่เคยสั่นไหวเปลี่ยนเป็นขุ่นมัวในฉับพลัน ริมฝีปากที่เคลือบชาดเอาไว้บางๆ เม้มแน่นจนแทบเป็นเส้นตรงทั้งที่แผนการถูกวางไว้อย่างดี หลานชายที่เก่งกาจของนางไม่เคยที่จะทำงานผิดพลาด ทุกอย่างที่ควรจะจบลงอย่างเงียบงัน กลับพังครืนเพราะการปรากฏตัวของบุรุษเพียงผู้เดียวและยิ่งแย่กว่านั้น…ข่าวนี้กำลังจะถูก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status