Home / รักโบราณ / บุปผาสีชาด / ตอนที่5คุณหนูใหญ่อวี้เหมย

Share

ตอนที่5คุณหนูใหญ่อวี้เหมย

last update Last Updated: 2025-07-11 16:18:49

หลังจากส่งบิดาของเจ้าของร่างกลับไปแล้ว ท่าทางอ่อนแรงที่แสดงออกก่อนหน้านี้ก็จางหายไป ราวกับไม่เคยมีอยู่จริง แม้ร่างกายนี้จะยังอ่อนแอจากการต้องพิษ แต่จิตใจของอวี้หลันใช่จะอ่อนแอตาม

นางพาตัวเองมานั่งเงียบอยู่ตรงโต๊ะชาข้างหน้าต่าง แผ่นหลังตั้งตรง แววตานิ่งลึก ใบหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆ มือเรียวกุมถ้วยชาไว้แน่น น้ำชาในถ้วยเย็นชืดไปนานแล้ว แต่เรื่องราวที่ได้รับรู้ก่อนหน้านี้ยังคงวนเวียนในความคิด 

อวี้หลันเจ้าของร่างเดิมเป็นหญิงสาวผู้แบกรับความโดดเดี่ยวมาตลอดชีวิต ช่างคล้ายคลึงกับตนเองอยู่ไม่น้อย

แม้อีกฝ่ายจะมีชาติกำเนิดสูงส่ง แต่นับตั้งแต่มารดาจากไป อำนาจในจวนก็ตกอยู่ในมือของเซิ่งซื่อ ฮูหยินรองผู้ฉลาดเป็นกรด

ไม่แน่ว่าผู้ที่วางยานางก็เป็นฝีมือของเซิ่งซื่อผู้นี้

ในจวนแห่งนี้ แม้รองเสนาบดีอวี้จะยืนอยู่ตรงศูนย์กลางของตระกูล แต่เงาที่ทอดยาวใต้เสาเรือนนั้น เป็นของเซิ่งซื่อผู้นั้นต่างหาก 

ชายผู้ทะนงตนว่าฉลาดหลักแหลม คิดแต่จะแสวงหาอำนาจ หลงคิดว่าตัวเองคือผู้วางหมากในกระดาน

แต่หารู้ไม่ ว่าเขาเองก็เป็นเพียงหมากตัวหนึ่งในเกมของคนอื่นไม่ต่างกัน

การใช้ชีวิตในยุคที่เต็มไปด้วยเล่ห์เพทุบาย ผู้หญิงคือเครื่องมือทางการเมือง บุตรีขุนนางคือหมากตัวหนึ่งในกระดานอำนาจ และตอนนี้ อวี้หลัน อดีตหญิงสาวยุคใหม่ที่เคยใช้ชีวิตอย่างมีเหตุผลและวิทยาศาสตร์ ต้องเผชิญกับโลกที่คำว่า "อำนาจ" สำคัญยิ่งกว่าความถูกต้อง

หญิงสาวเอนกายพิงหมอนอิงพลางมองท้องฟ้ายามค่ำคืนผ่านม่านโปร่งบาง สายลมอ่อนๆ ไล้ผ่านปลายผมของนาง ทว่าในแววตานั้นเปี่ยมไปด้วยความสงบนิ่งที่ไม่อาจเห็นได้จากหญิงสาววัยสิบห้าทั่วไป

โลกนี้ไม่ได้มีเพียงชนชั้นที่แบ่งแค่ คนรวย กับ คนจน อย่างในยุคที่นางจากมา แต่แบ่งแยกด้วยศักดินา ยิ่งสูง ยิ่งห่างไกลชีวิตธรรมดา

แม้เจ้าของร่างเดิมจะอ่อนแอ หัวอ่อน และไม่เคยมีความทะเยอทะยาน แต่ความจำในหัวกลับละเอียดลึกซึ้งพอจะบอกนางได้ว่า ที่นี่คือโลกที่กฎเกณฑ์สังคมคือทุกสิ่ง โลกที่ผู้คนไม่เท่ากันตั้งแต่เกิด

ฮ่องเต้ คือจุดสูงสุดของพีระมิด ไม่มีผู้ใดตั้งคำถาม

ถัดลงมา คือเชื้อพระวงศ์ ที่ถือสายเลือดสูงศักดิ์ องค์ชายทุกพระองค์แม้ไม่ได้เป็นรัชทายาท ก็ถือสิทธิ์สูงกว่าขุนนางทั้งหลาย

ขุนนางฝ่ายบุ๋น เช่น อัครเสนาบดี เจ้าเมือง และตำแหน่งในหกกรม ล้วนมีอำนาจในทางบริหารบ้านเมือง

ขุนนางฝ่ายบู๊ เช่น แม่ทัพใหญ่ หัวหน้ากองกำลัง รักษาพรมแดน หรือควบคุมราชองครักษ์

ต่ำลงมา คือ พ่อค้า นักวิชาการ ช่างฝีมือ และสามัญชน ซึ่งนับว่ามีค่าแค่เพียง จำนวน ไม่ใช่ สิทธิ

แม้นางจะเป็นธิดาของรองเสนาบดี แต่หากไร้การหนุนหลัง ไร้อำนาจต่อรอง สตรีเช่นนางก็ไม่ต่างอะไรกับหมากตัวหนึ่ง

อวี้หลันย้อนนึกถึงตนเองในอดีตที่เกิดในโลกซึ่งสิทธิ ความสามารถ และเหตุผล เป็นตัวกำหนดคุณค่าของชีวิต แต่ในโลกนี้ ชาติกำเนิดเพียงอย่างเดียว กลับมีอำนาจยิ่งกว่าสิ่งใด

จากความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม อวี้หลันได้เรียนรู้ว่า

ผู้หญิงไม่ได้มีสิทธิ์ครองทรัพย์สินของตนเอง ทั้งหมดตกอยู่ในมือสามี หรือผู้เป็นหัวหน้าตระกูล

การแต่งงานคือเครื่องมือทางการเมือง ตำแหน่งชายา พระสนม หรือแม้แต่ภรรยารองล้วนขึ้นอยู่กับสถานะและจุดยืนทางการเมืองของแต่ละฝ่าย

คำว่า คุณหนู หรือ ฮูหยิน แม้จะฟังดูสูงศักดิ์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีสิทธิเหนือชีวิตตนเอง

เพียงเพราะนางเกิดในตระกูลขุนนาง ใช่ว่าชีวิตจะปลอดภัยจากเงื้อมมือของเกมการเมือง

อวี้หลันรู้ดีว่าหากยังยอมผู้อื่นเหมือนเช่นเจ้าของร่างเดิม ก็คงไม่ต่างอะไรจากการเดินเข้าสู่สุสาน

ในเมื่อฟ้าส่งนางมายังยุคนี้ นางก็จะไม่ยอมถูกบีบให้เดินตามเส้นทางที่ใครวางไว้

บางทีการที่สวรรค์ส่งนางมาอยู่ที่นี่ ก็อาจจะให้นางทำความดีชดใช้บาปก็ได้

อวี้หลันเหลือบสายตาขึ้นมองเงาในกระจก แววตาของเจ้าของร่างเดิมที่เคยมีแต่ความหวาดกลัว บัดนี้กลับแน่วแน่ดั่งหินผา

นางไม่ใช่อวี้หลันที่แสนอ่อนแอผู้นั้นอีกต่อไป และในเมื่อฟ้าประทานโอกาสที่สองให้มาอยู่ในร่างนี้ นางก็จะใช้มันให้คุ้มค่า

และหากโลกนี้จะเล่นหมาก นางก็จักเป็นผู้วางหมากเอง

นับจากนี้ไป ตัวตนใหม่ของนางในโลกนี้คือ "อวี้หลัน" บุตรีของรองเสนาบดีกรมพิธีการ

มือเรียวที่กำถ้วยชาไว้แน่นค่อยๆ คลายออก อวี้หลันมองขวดกระเบื้องเคลือบใบเล็กที่วางอยู่ข้างมือ ภายในบรรจุยาถอนพิษเม็ดกลมสีดำที่ท่านหมอตู้มอบไว้ให้ ก่อนจะหยิบมันขึ้นมาเปิดฝา เทยาเข้าปากโดยไม่ลังเล รสขมฝาดแตะปลายลิ้น แต่ดวงตากลับนิ่งสงบ

ก่อนที่นางจะลงมือทำสิ่งใด สิ่งแรกที่ควรทำคือรักษาและฟื้นฟูร่างกายนี้ให้แข็งแรงเสียก่อน และนับว่านางยังพอมีโชคอยู่บ้าง ที่ได้พบกับหมอเทวดาผู้นี้เข้า ฝีมือการรักษาเช่นเขา หากไม่เรียกว่าเป็นหมอเทวดา ก็คงไม่มีคำใดเหมาะสมไปกว่านี้แล้ว

เรือนฮวาหงยามนี้เงียบสงบ เสียงลมยามค่ำคืนพัดผ่านแผ่วเบา อวี้หลันเหลือบสายตาไปยังเงาร่างที่เคลื่อนไหวอยู่หลังช่องหน้าต่าง แม้จะเพียงพริบตาเดียว แต่ก็ไม่พ้นสายตาของนาง

นิ้วเรียวยาวค่อยๆ ลูบวนบนขอบถ้วยชาในมือแผ่วเบา ก่อนจะยกยิ้มบางอย่างเยือกเย็น แววตาปรากฏร่องรอยคล้ายเย้ยหยัน

"หนูสกปรกในเรือนนี้ดูท่าจะมากเกินไป"

อวี้หลันพึมพำออกมาเสียงเบา ก่อนที่นางจะวางถ้วยชาลง ลุกขึ้นเดินไปยังเตียงอย่างเงียบงัน ท่วงท่าของนางดูเหนื่อยอ่อนราวไร้เรี่ยวแรง ร่างบางทรุดตัวลงนอนอย่างสงบ หลับตาลงช้าๆ ราวกับไม่สนใจอีกแล้วว่าเงานั้นจะยังอยู่หรือไม่

ปล่อยมันให้วิ่งเล่นไปก่อนก็แล้วกัน

รอให้นางฟื้นตัวเมื่อใด...

คงถึงเวลารื้อเรือนนี้ครั้งใหญ่

ในเวลาเดียวกันนั้นขณะที่อวี้หลันกำลังหลับใหลอย่างสงบ

ภายในเรือนเหมยเยี่ย เรือนของคุณหนูใหญ่อวี้เหมย กลับปั่นป่วนราวกับพายุพัดผ่าน เสียงข้าวของแตกกระจายดังลั่นเรือน ก่อนจะตามมาด้วยเสียงร่ำไห้สะอึกสะอื้นของเจ้าของเรือน

อวี้เหมย คุณหนูใหญ่ผู้มีรูปร่างหน้าตางดงาม แต่เบื้องหลังความงามนั้นกลับแฝงไว้ด้วยนิสัยริษยาและจิตใจคับแคบ นางนั้นนิสัยต่างกันกับมารดาโดยสิ้นเชิง หากจะบอกว่าอวี้เหมยโง่งมก็ไม่ผิดนัก เพราะนางมักจะเก็บอาการไม่ค่อยอยู่เพียงแค่ถูกยั่วยุเล็กน้อย ในขณะที่มารดาเป็นสตรีร้ายลึก แต่บุตรสาวคิดสิ่งใดก็มักจะพูดออกมาแบบนั้น อารมณ์ร้อนและปากคอร้ายกาจ 

อวี้เหมยเติบโตมาพร้อมกับอวี้หลัน ทว่าหาได้รักใคร่กลมเกลียวกันไม่ นางมักหาทางกลั่นแกล้งน้องสาวร่วมบิดามาตลอด ในทางตรงกันข้าม อวี้เหมยมองอวี้หลันเป็นดั่งหนามตำใจอยู่เสมอ นางไม่เคยยินดีแม้แต่น้อยที่ต้องเห็นอวี้หลันได้รับความรักและการยอมรับในฐานะบุตรีของฮูหยินเอก ไม่ยินดีที่อีกฝ่ายเหนือกว่าตน น้องสาวผู้นี้จึงเป็นดั่งศัตรูที่นางต้องกำจัด

"เหตุใดนางถึงยังไม่ตาย" 

อวี้เหมยกรีดเสียงอย่างเดือดดาล แววตาเต็มไปด้วยโทสะและความหวาดหวั่น น้ำตาไหลอาบสองแก้ม

"เจ้าใจเย็นลงก่อนเถิด เหมยเอ๋อร์"

เซิ่งซื่อที่ยืนอยู่ใกล้ๆ รีบเข้ามาประคองบุตรสาว 

"เจ้าลืมไปแล้วหรือ ว่าตอนนี้เจ้าก็ได้ชื่อว่าเป็นบุตรสาวของฮูหยินเอกเช่นกัน"

นางเอ่ยอย่างใจเย็น พลางลูบหลังอวี้เหมยเบาๆ อย่างปลอบโยน แต่แววตาแฝงไว้ด้วยความเคร่งเครียด นางรู้สึกได้ว่าเด็กคนนั้นไม่เหมือนเดิม แต่ไม่รู้ว่ามันแปลกไปตรงไหน

"ระหว่างบุตรสาวของฮูหยินที่ตายไปแล้ว ทั้งบ้านเดิมของมารดายังล่มสลาย กับเจ้า ผู้ที่เป็นบุตรสาวคนโตของฮูหยินเอกคนปัจจุบัน อีกทั้งเจ้าก็มีท่านตาที่ตอนนี้ดำรงตำแหน่งแม่ทัพ เปี่ยมด้วยบารมี องค์ชายห้ายังจะเลือกใครได้อีกเล่า"

เสียงของเซิ่งซื่อฟังดูอ่อนโยน ทว่าเต็มไปด้วยความมั่นใจ บ่งบอกชัดว่าทุกอย่างยังอยู่ในการควบคุมของนาง

ถ้อยคำนั้นเปรียบเสมือนหยาดน้ำค้างยามเช้าที่หล่นลงบนเปลวเพลิงในอกของอวี้เหมย แม้ไม่อาจดับไฟได้ทั้งหมด แต่ก็ช่วยให้นางพอสงบใจลงได้บ้าง แววตาที่เคยวาวโรจน์ด้วยโทสะเริ่มอ่อนลงเล็กน้อย

และคำพูดเหล่านั้น แท้จริงแล้วก็เป็นเสมือนถ้อยคำปลอบใจตัวเองของเซิ่งซื่อเช่นกัน

ไม่ว่าอวี้หลันจะฟื้นขึ้นมาด้วยปาฏิหาริย์ใด หรือจะมีเจตนาใดซ่อนอยู่ในใจ ตอนนี้อีกฝ่ายยังจะทำอะไรได้อีก ฐานะของนางแม้จะเป็นบุตรสาวของฮูหยินเอกผู้ล่วงลับ แต่ก็เป็นเพียงแค่ชื่อเสียงที่ถูกลืมเลือน ไม่มีบ้านเดิมของมารดาคอยหนุน ไม่มีผู้ใดยืนหยัดอยู่ข้างกาย

ต่างจากนาง นางคือฮูหยินเอกคนปัจจุบันของรองเสนาบดีอวี้จิ้ง เป็นนายหญิงโดยสมบูรณ์ของจวนรองเสนาบดี

ซ้ำยังมีตระกูลเซิ่ง บ้านเดิมที่ยิ่งใหญ่เป็นที่พึ่งพิง ท่านพ่อของนางคือแม่ทัพแห่งแผ่นดิน มีทหารใต้บัญชาหลายหมื่นนาย

ตำแหน่งพระชายาขององค์ชายห้า เหตุใดนางจะไม่สามารถหยิบยื่นมันวางแทบเท้าบุตรสาวของตนได้

เป็นอย่างที่อวี้หลันคิด ผู้ที่ลงมือวางยานางไม่ใช่ใครอื่น หากแต่เป็นเซิ่งซื่อและอวี้เหมย พวกนางวางแผนทุกอย่างมานานแล้ว หวังกำจัดอวี้หลันให้พ้นทาง แล้วผลักดันอวี้เหมยขึ้นแทนตำแหน่งคู่หมั้นขององค์ชายห้า บุรุษผู้ที่เป็นหนึ่งในชายหนุ่มที่มีอำนาจและเป็นที่หมายปองที่สุดในเมืองหลวง

ตามแผนเดิมแล้ว ทุกอย่างควรจะดำเนินไปตามแผนการ อวี้หลันควรจะสิ้นใจลงเงียบๆ ภายในเรือน

ไร้เสียงร้อง

ไร้คำถาม

ไร้ผู้สืบสาวราวเรื่อง สืบหาความจริง

ไร้ผู้แยแสสนใจ

เมื่อถึงเวลานั้นตำแหน่ง ธิดาผู้เกิดจากฮูหยินเอกผู้ล่วงลับ ก็จะถูกลบเลือนจากความทรงจำของทุกผู้คน ถูกแทนที่ด้วยนามของอวี้เหมย คุณหนูใหญ่ผู้เพียบพร้อมเพียงคนเดียวของตระกูลอวี้

หากแต่พวกนางไม่คาดคิดว่า อวี้หลันจะยังมีลมหายใจ

แต่ยังนับว่าสวรรค์มีเมตตาต่อพวกนาง ถึงแม้ว่าจะไม่อาจพรากลมหายใจของอวี้หลันได้ แต่ตระกูลเซิ่งกลับผงาดขึ้นอย่างไม่คาดคิด นั่นมิเท่ากับมอบแต้มต่อให้พวกนางหรอกหรือ

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่11กำจัดหนูสกปรก

    หลังจากทุกคนนั่งประจำที่เรียบร้อยแล้ว บรรยากาศบนโต๊ะอาหารดูเหมือนจะสงบลงชั่วครู่ แต่ความสงบนั้นกลับอยู่ได้ไม่นานอวี้เหมยที่ถูกบังคับให้กลืนเลือดไหนเลยจะอดใจไม่ให้เอ่ยสิ่งใดออกมาได้ สายตาของนางเหลือบมองการแต่งกายอันแสนเรียบง่ายของน้องสาวต่างมารดา สายตากวาดมองตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยแววตาไม่ปิดบังความดูแคลน ก่อนจะยกยิ้มบาง เอ่ยถ้อยคำเชือดเฉือนออกมาทันที"น้องรองช่างสมถะเสียเหลือเกิน วันงานเลี้ยงของท่านแม่ทั้งที กลับแต่งกายเรียบง่ายเสียจนนึกว่าเป็นสาวใช้จากเรือนใดหลงเข้ามา"คำพูดนั้นทำเอาทุกคนบนโต๊ะถึงกับชะงัก แม้รอยยิ้มของอวี้เหมยจะดูละมุน แต่แววตากลับฉายชัดว่าไม่คิดจะไว้ไมตรีอวี้หลันเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ดวงตาหวานลึกล้ำดั่งสายน้ำ มองสบอีกฝ่ายอย่างสงบ ไม่มีความหวั่นไหวแม้แต่น้อย ก่อนจะคลี่ยิ้มอ่อนโยนประหนึ่งไม่ได้ถือสาหาความในขณะที่อวี้จิ้งนั่งเงียบ สีหน้าของเขาเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันทีที่ได้ยินคำพูดของบุตรสาวคนโต สายตาเหลือบมองอวี้หลัน ก่อนจะกวาดตามองการแต่งกายของนางอย่างพิจารณาหัวคิ้วของรองเสนาบดีขมวดแน่นอย่างไม่อาจปกปิดในทุกปี ทุกๆ เทศกาล เสื้อผ้าและเครื่องประดับล้วนถูกส่งไปย

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่10พบปะคนในครอบครัวครั้งแรก

    ลานหน้าเรือนหลักของจวนรองเสนาบดีตอนนี้ถูกตกแต่งอย่างวิจิตรงดงาม พรมแดงทอดยาวจากหน้าประตูเรือนใหญ่ไปจนถึงศาลากลางสวน ทั้งสองฝั่งทางเดินประดับด้วยโคมแดงที่แกว่งไกวตามลม กลิ่นหอมหวานของดอกหอมหมื่นลี้จากสวนโดยรอบลอยปะปนมากับสายลม ให้ความรู้สึกสงบละมุนในยามเช้าตลอดสองข้างทาง บ่าวไพร่กำลังวุ่นวายอยู่กับการจัดเตรียมงานเลี้ยง เมื่อเห็นคุณหนูรองของจวนเดินมา ต่างก็หยุดมือลงพร้อมก้มหัวทำความเคารพคุณหนูรอง หญิงสาวที่คนในจวนแทบจะลืมเลือนไปแล้วคุณหนูที่มีร่างกายอ่อนแอ เจ็บป่วยออดแอดแทบทั้งปี ใช้ชีวิตเงียบงันอยู่แต่ภายในเรือนฮวาหง ไม่เคยออกมาสุงสิงกับผู้ใด ไม่ปรากฏตัวแม้ยามมีงานสำคัญของตระกูล จนหลายคนเผลอหลงลืมไปแล้วว่า ในจวนหลังนี้ยังมีคุณหนูรองอยู่อีกคนหนึ่งแต่ตอนนี้อีกฝ่ายกลับปรากฏตัวขึ้น หลังจากเกือบก้าวข้ามประตูผี ก้าวเท้าออกจากเรือนฮวาหงมาเยือนเรือนใหญ่ในรอบหลายปีอวี้หลันเดินทอดน่องออกมาจากเรือนฮวาหงด้วยกิริยาสงบ โดยมีฉิงหว่านคอยประคองอยู่ข้างกาย เดินไปตามทางเดินที่ทอดยาวไปยังเรือนใหญ่ เสียงฝีเท้าของนางเบาแทบไร้เสียง แต่กลับเรียกความสนใจของบ่าวไพร่รอบข้างได้เป็นอย่างดี คุณหนูรองผู้นี้ แม

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่9เริ่มเดินหมาก

    แสงแดดอ่อนยามเช้าสาดลอดเข้ามาทางหน้าต่างห้องนอนใหญ่ในเรือนฮวาหงอันเงียบสงบ ปรากฏเงาร่างเพรียวระหงของหญิงสาวผู้หนึ่งยืนตั้งมั่นอยู่กลางห้อง ฝ่าเท้าแนบแน่นกับพื้น หายใจเข้าออกอย่างเป็นจังหวะไม้พลองในมือของนางตวัดวูบไปในอากาศ เสียงลมเสียดอื้ออึงตามแรงเหวี่ยง ทุกท่วงท่าคมกริบราวกับกำลังฟันดาบ ไม่ใช่เพียงแค่การออกกำลัง หากแต่เป็นการฝึกฝน ในชีวิตก่อนนางฝึกฝนการต่อสู้ทุกอย่าง แต่สิ่งที่ได้ใช้มากที่สุดคือการใช้ปืน ตอนนี้จึงต้องเคาะสนิมกันเสียหน่อยอวี้หลันเคลื่อนไหวอย่างมั่นคง แขนขาแข็งแรงและว่องไว ราวกับร่างกายนี้ไม่เคยอ่อนแอเลยแม้แต่น้อย ดวงตาของนางแน่วแน่ เยือกเย็น และเต็มไปด้วยสมาธิ ทุกจังหวะที่ก้าว ทุกท่าที่ฟาดฟัน ล้วนแฝงด้วยสัญชาตญาณของคนที่เคยอยู่กับความเป็นความตายมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนไม้พลองฟาดลงกลางอากาศอย่างแรง ส่งเสียง "ฟึ่บ" ราวกับมันคือคมดาบที่กำลังฆ่าฟันศัตรูจริงๆหยาดเหงื่อไหลซึมจากไรผมลงมาตามข้างแก้ม อวี้หลันหยุดการเคลื่อนไหว ลมหายใจยังคงสม่ำเสมอและไม่หอบเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย นางวางไม้พลองในมือลง พลางหยิบผ้าขึ้นมาซับเหงื่อ ตอนนี้ร่างกายของนางนับว่าหายดีแล้ว นางใช้เวลาพักผ่อนร

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่8องค์ชายห้าหลี่จื้อหยวน

    "ลูกถวายพระพรเสด็จแม่พ่ะย่ะค่ะ"เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นจากริมฝีปากสีระเรื่อได้รูปสวยขององค์ชายห้าหลี่จื้อหยวน ชายหนุ่มรูปงามราวกับเทพเซียนที่ยืนสงบนิ่งอยู่เบื้องหน้าฮองเฮาผู้เป็นพระมารดา ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งขรึม แววตานิ่งสงบเช่นเคย จนยากจะคาดเดาความคิดภายในได้เสิ่นฮองเฮาเพียงโบกพระหัตถ์เบาๆ "นั่งลงเถิด"พระสุรเสียงราบเรียบแต่เปี่ยมด้วยความเมตตารักใคร่เมื่อพระโอรสทรุดกายลงนั่ง พร้อมกับที่นางกำนัลรินน้ำชาจนเรียบร้อย นางก็ไม่อ้อมค้อม เอ่ยถามเข้าเรื่องทันที"เรื่องการหมั้นหมายของเจ้า ตอนนี้เปลี่ยนแปลงเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่"หลี่จื้อหยวนพยักหน้าช้าๆ แววตานิ่งเฉยคู่นั้น คล้ายจะหม่นแสงลงไปวูบหนึ่ง"พ่ะย่ะค่ะ ลูกจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว"ฮองเฮายกจอกชาขึ้นจิบเพียงเล็กน้อย ก่อนจะวางลงบนแท่นวางด้านข้าง เสียงกระทบกันเบาๆ ของเนื้อกระเบื้องดังแผ่วเบา แต่กลับฟังชัดในความเงียบ เสิ่นฮองเฮาไม่ได้เอ่ยสิ่งใดในทันที นางเพียงเหลือบสายพระเนตรมองพระโอรส แววตานั้นลึกซึ้ง เยือกเย็น และคมกริบราวกับจะบอกว่า เรื่องนี้ นางไม่ต้องการความลังเล ไม่ต้องการให้เกิดความผิดพลาด และยิ่งไม่ต้องการให้พระโอรสของตนรู้สึก

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่7เสิ่นฮองเฮา

    ภายในตำหนักใหญ่ ตำหนักจิ้งเหอ ของฮองเฮาแซ่เสิ่น บรรยากาศเย็นสงบ ทว่าสายลมที่พัดผ่านม่านโปร่งเบานั้น กลับไม่อาจคลายความตึงเครียดในใจผู้ที่อยู่ภายใน ข่าวการฟื้นคืนสติของคุณหนูรองอวี้หลันมาถึงตำหนักจิ้งเหอแห่งนี้แล้วเช่นกันเสิ่นฮองเฮา ประทับนิ่งอยู่บนตั่งหยก ดวงพักตร์งดงามทรงอำนาจ สายพระเนตรทอดมองออกไปนอกหน้าต่าง ราวกับกำลังครุ่นคิดบางสิ่ง พระหัตถ์เรียวขาวยกจอกชาขึ้นจิบอย่างสงบ ท่าทางอ่อนโยนเยือกเย็น หากแต่ในแววตากลับแฝงไว้ด้วยความคมดุจคมมีด ไม่มีสิ่งใดรอดพ้นสายพระเนตรนี้ได้ง่ายๆเสิ่นฮองเฮา มิใช่ผู้ครองตำแหน่งมารดาของแผ่นดินตั้งแต่ต้น พระนางขึ้นเป็นฮองเฮาภายหลังจากการสิ้นพระชนม์ของฮองเฮาพระองค์ก่อน ซึ่งอีกฝ่ายเป็นสตรีสูงศักดิ์จากตระกูลเก่าแก่ที่หยั่งรากลึกในราชสำนัก เป็นมารดาผู้ให้กำเนิด องค์ชายใหญ่หลี่เหวินหลง โอรสองค์โตของฮ่องเต้ และเป็นผู้ที่ได้รับการจับตามองว่าอาจจะได้สืบทอดราชบัลลังก์ยามเมื่อเสิ่นฮองเฮาได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ปกครองวังหลัง ก็ขึ้นชื่อเรื่องความสุขุมเยือกเย็น และความสามารถในการจัดการภายในวังหลังได้อย่างไร้ที่ติ พระนางรอบรู้ทั้งศาสตร์แห่งการเมืองและจิตใจคน ใช้เวลาเพียง

  • บุปผาสีชาด   ตอนที่6ศัตรูนำไปแล้วถึงสองก้าว

    เช้าวันนี้อวี้หลันตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกสดชื่น ร่างกายที่เคยอ่อนแรงรู้สึกเบาสบาย กระปรี้กระเปร่าเหมือนได้รับพลังใหม่แสงแดดยามเช้าทอแสงอ่อนผ่านหน้าต่างไม้ เงาของต้นเหมยพาดทอดอยู่บนพื้นห้อง เงียบสงบและอบอุ่น นางนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ปล่อยให้ฉิงหว่านสาวใช้คนสนิทช่วยหวีผมและแต่งกายให้อาภรณ์ผ้าไหมปักลวดลายดอกเหมยสีหวานถูกสวมทับลงบนร่าง สะท้อนแสงแดดระยิบระยับ อวี้หลันมองตนเองในกระจกทองเหลือง ใบหน้าที่สะท้อนกลับมาแม้จะยังซีดเซียวเล็กน้อย แต่กลับไม่อาจกลบความงดงามเอาไว้ได้ ใบหน้าที่สะท้อนอยู่ในกระจกจะเรียกว่างามล่มเมืองก็ไม่ผิดนัก"ไม่เลว"อวี้หลันพึมพำเบาๆ กับตนเอง พลางมองสำรวจเครื่องแต่งกายด้วยความพึงพอใจการใช้ชีวิตแบบนี้ ก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดในชีวิตก่อนของนาง ทุกวันเต็มไปด้วยการต่อสู้ การไล่ล่า และกลิ่นคาวเลือด ไม่มีเวลาจะเลือกเสื้อผ้า ไม่มีเครื่องประดับงดงาม ไม่มีแม้แต่กระจกสักบานให้ได้เห็นเงาของตัวเองทุกย่างก้าวในชีวิตมีเพียงมีดและปืนในมือ มีเป้าหมายที่ต้องสังหารนางไม่เคยได้ใช้ชีวิตในฐานะ หญิงสาว อย่างแท้จริงเลยด้วยซ้ำแต่ตอนนี้ ในร่างใหม่ ในชีวิตใหม่ นางสามารถทำทุ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status