แชร์

ปฐมบท 1 กำราบให้สิ้น2

ผู้เขียน: LiHong
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-02 17:43:46

ห่างจากที่ซ่องสุม เหนือพสุธากลางหุบเขามรณะ ร่างระหงชุดดำคาดแดงยอมเผยตัวออกมาในที่สุด

ท่ามกลางฝุ่นดินสีดำจัดตลบฟุ้งหอบกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งโดยรอบบริเวณ แม่ทัพหนุ่มยืนตระหง่านอยู่ตรงนั้น ลำตัวของเขาตั้งตรงเหนือกลุ่มทหาร รอบกายแผ่ซ่านความอำมหิตผสานกลิ่นอายสังหารแห่งเทพสงครามเหนือหมู่มวล

ในระยะสายตาคมกริบท่ามกลางแสงอาทิตย์คมกล้า เขามองเห็นสตรีผู้หนึ่งยืนสงบนิ่งภายใต้แสงตะวันอยู่ตรงนั้น  มองคล้ายราชันแห่งขุนเขา ประหนึ่งปราการหินที่ก่อตัวขึ้นปกปักษ์พิทักษ์ทุกสรรพสิ่งบนผืนพนา

ร่างสูงในชุดเกราะของแม่ทัพคุมทหารแคว้นเยี่ยนยังคงยืนนิ่งไม่ขยับ ในขณะที่เรียวตาคมค่อยๆ หรี่แคบลงเพื่อเพ่งพิศนาง

ภาพสะท้อนของนางให้ความรู้สึกคล้ายกำลังมองเห็นปีศาจสาวผู้ชื่นชอบคุกคามมนุษย์ ความเย็นเยียบยิ่งนานยิ่งแผ่กำจายความเย็นกระด้างคล้ายน้ำแข็งค้างเกาะกุมตรึงแน่นบนผิวหนังผู้คน

นางชี้ดาบขึ้นฟ้ากล่าววาจาท้าทายต่อเขา

“เจ้าเรียกข้าว่าผู้ร้ายต่ำช้า แต่สวรรค์ย่อมรู้ดี นรกยิ่งเห็นพ้อง ค่ายโจรจันทราแดงของข้าเหนือกว่ากองทัพทหารหลายขุมนัก”

ทว่าชายหนุ่มยังคงมองนิ่งด้วยใบหน้าไร้อารมณ์

หญิงสาวเจ้าของร่างระหงผู้มีหน้ากากเงินบดบังใบหน้าจนเหลือเพียงดวงตาแวววาวปานแม่เสือค่อยๆ ลดดาบลงชี้มาที่เขา พลางแค่นเสียงหยัน

“แม้วันนี้ข้าจำต้องตายด้วยน้ำมือแม่ทัพผู้เกรียงไกรเช่นท่านก็นับว่าเป็นบุญที่ได้เกิดมา...ทว่าคงมีแต่ท่านที่ต้องก้มหน้ารับใช้ขุนนางทรราชสืบไป ช่างน่าเวทนา!”

รองแม่ทัพคนหนึ่งถลันขึ้นหน้า

“สามหาว!”

เขาผู้นี้มีนามว่าจิ้นเหอ ชักกระบี่พร้อมพุ่งทะยาน กระทั่งแม่ทัพหนุ่มผู้ถูกหยามเหยียดต้องยกฝ่ามือห้ามปรามถึงได้กลับไปยืนที่เบื้องหลังดุจเดิม

“ท่านแม่ทัพหยาง นางโจรผู้นี้...”

รองแม่ทัพจิ้นยังพูดไม่ทันจบ หยางเจี้ยนโบกมืออย่างไม่ใส่ใจคราหนึ่ง อีกฝ่ายถึงได้สงบปากคำ

แม้รู้ดีถึงตื้นลึกหนาบางทว่าหยางเจี้ยนยังคงเงียบงัน ด้วยหน้าที่สำคัญค้ำคออยู่ ค่ายโจรจันทราแดงจักต้องถูกกวาดล้างให้สิ้นซากเท่านั้น!

แม่ทัพหนุ่มกล่าวเสียงเรียบ “หากเจ้าพาสมุนโจรทั้งหมดเข้าสวามิภักดิ์แต่โดยดี ซากศพพวกนี้ย่อมไม่เกิดขึ้น” กล่าวพลางกวาดตามองเศษเนื้อของคนตายที่เคยมีร่างกายครบส่วนอย่างเย็นชา ใบหน้าหล่อเหลาไร้ความรู้สึกยิ่ง

“ความสามารถของเจ้าย่อมสร้างคุณประโยชน์ให้บ้านเมืองและแว่นแคว้นเยี่ยนสืบไป”

หัวหน้าค่ายโจรจันทราแดงได้ฟังพลันแค่นเสียงหยัน “หึ! มิคาดว่าท่านแม่ทัพหยางผู้เก่งกาจในการศึกจะเป็นบุรุษที่ชอบฝันเฟื่องเยี่ยงนี้ ช่างพูดจาไร้สาระนัก!”

“เจ้า!” รองแม่ทัพคนเดิมถลันขึ้นหน้าอีกคราอย่างเดือดดาล “นังโจรถ่อย!”

เรียวตางามที่พ้นหน้ากากเงินตวัดฉับ “นังโจรถ่อยอย่างข้ายังดีกว่าสวะรับใช้ขุนนางถ่อยชั่วช้าเยี่ยงพวกเจ้า!”

“สามหาวนัก! ข้าจะตัดลิ้นเจ้า!”

รองแม่ทัพชักกระบี่ทำท่าพุ่งตัวฟาดฟันอย่างไม่ยอม กลับถูกหยางเจี้ยนหันมาถลึงตาปราดหนึ่ง เขาถึงได้กัดฟันบดกรามยอมสงบลงอีกครั้ง ท่าทางคล้ายหมาป่าถูกล่ามโซ่

จังหวะนั้นหญิงสาวผู้ยืนค้ำหล้าอย่างทระนงองอาจกลับเป็นฝ่ายชิงลงมือก่อน

แมลงสารพัดชนิดถูกปลดปล่อยออกมาจนมืดดำ นางเพียงผิวปากภายใต้หน้ากากเงินเท่านั้น รอบด้านคล้ายมีหมอกควันขมุกขมัวปกคลุมโดยรอบบริเวณ อัดแน่นไปด้วยแมลงมีพิษทันที

หยางเจี้ยนหาใช่บุรุษไร้ฝีมือไม่ เขาผ่านมาหลายสมรภูมิรบ กลการศึกอีกนับไม่ถ้วน ตำแหน่งแม่ทัพบูรพาฉายาจอมกระบี่สุริยัน มิใช่ได้มาเพราะโชคช่วยแน่นอน

ชายหนุ่มยกฝ่ามือขึ้นสั่งการทันใด เหล่าทหารกล้าหลายคนฟาดฟันแมลงพิษ หลายคนกระจายตัวออกไปค้นหากลุ่มโจรที่เหลือ

ส่วนตนเองพุ่งตัวเข้าใส่หญิงสาวหัวหน้าค่ายโจรจันทราแดงผู้ยืนโดดเด่นอยู่ผู้เดียวบนเชิงเนิน

นางเองย่อมตั้งรับรออยู่แล้ว

หญิงสาวหาได้ครั่นคร้ามต่อการเผชิญหน้ากับบุรุษที่พุ่งมาหาด้วยท่าทางรุนแรงไม่ กลิ่นอายบนตัวเขาที่พลันเปลี่ยนเป็นดุร้ายปานนั้น นางก็หาได้หวาดหวั่นอันใด          

แม้ตัวคนจะแผ่ไอสังหารกระหายเลือดอย่างเข้มข้นออกมาเทียมฟ้า นางก็แค่แค่นเสียงเย็นหนึ่งคราก่อนทะยานร่างขึ้นสูงเทียมกัน

เสียงเคร้งคร้างเกิดขึ้นฉับพลัน

การปะทะกันของสุดยอดฝีมือเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วคล้ายสายฟ้าแลบแปลบปลาบ ใครที่มองทันกลับต้องรู้ซึ้งถึงคำว่าแสบตาอย่างแท้จริง

ท้องฟ้าที่สาดแสงสว่างเจิดจ้าเมื่อครู่กลับมืดครึ้มอึมครึมทันใด ดวงตะวันคล้ายถูกดวงจันทร์บดบังแทนที่อยู่ชั่วเวลาหนึ่ง

จังหวะกระบี่กระทบกันจนเกิดประกายเงินสะเก็ดไฟ หยางเจี้ยนยังไม่หยุดโน้มน้าวหญิงสาวผู้ที่เขานับถือในฝีมือ

“ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง กลับตัวกลับใจเถิด แล้วมอบตัวกับทางการ ผันตนจากฝ่ายอธรรมเสีย”

“ฝันไปเถอะ!”

ฟ้าที่มืดครึ้มกลับมาสาดแสงสว่างเจิดจรัสอีกครั้ง กำลังภายในสายหนึ่งถูกส่งมายังกระบี่จนร้อนวูบเกิดคลื่นพลังอันไร้รูปลักษณ์วาบขึ้นมาวาดเป็นเส้นแสงกรีดกลางอากาศ ยามที่หยางเจี้ยนตวัดกระบี่ออกไป

ดาบดวงเดือนในมือสตรียิ่งขยับขับเคลื่อนว่องไวปราดเปรียว คล้ายมีจันทร์เสี้ยวโค้งคมบาดลึกอ่อนไหว    ทว่ากลับแข็งแกร่งยิ่งกว่าอะไร

นางลากแสงเงินเย็นเยียบผ่านแสงตะวันที่สาดส่องร้อนระอุ เกิดเป็นความเดือดพล่านตัดกันชนิดคนละขั้ว

ร่างใหญ่กับร่างเล็กประชิดประมือสลับการผละออกจากกันเพื่อเดินลมปราณขั้นสูง ก่อนกระโจนเข้าปะทะกันอย่างรุนแรงอีกครั้งและอีกครั้ง

คนสองคนพุ่งทะยานฟาดฟันกันจนป่าราบทั้งแถบ เกิดเป็นหลุมใหญ่ยาวเหยียดความกว้างขนาดฝ่าเท้ามัจจุราชความลึกหลายชุ่น[1]

เศษหินทรายกระจัดกระจาย ฝุ่นกรวดปลิวว่อน ไม่ต่างจากอาวุธลับกระชากวิญญาณของเหล่าปีศาจร้าย

---

[1]  1 ชุ่น = 1 นิ้ว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนที่ 24 ด้ายแดงเส้นใหม่ สายใยเส้นเดิม (ตอนจบ)

    กู้เจิ้งจัดงานเลี้ยงอำลาเล็กๆ ให้น้องชาย ก่อนจากลาเขาตบบ่ากู้เหิงแสดงความยินดีจากใจจริง แต่เมื่อเห็นน้องชายแย้มยิ้มหน้าบานปานนั้น กู้เจิ้งก็ให้รู้สึกปลาบปลื้มระคนอิจฉาริษยาเหลือเกินกู้เหิงเหมือนเขาแทบทุกอย่าง นอกใจภรรยา ลุ่มหลงหญิงอื่น มัวเมากามารมณ์หัวปักหัวปำ อาจเรียกได้ว่ากระทำการหยาบช้าไม่ต่างกัน ทว่าอีกฝ่ายกลับยังคงมีภรรยาอยู่เคียงข้างไม่ห่างหาย ในขณะที่เขาทำร้ายจิตใจภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากจนตายจากกันไปแล้วและยามนี้ตัวเขาก็รู้สึกเหมือนกำลังได้รับผลกรรมเหตุเพราะหลินเพ่ยเริ่มมีพฤติกรรมแปรเปลี่ยนไป นางไม่เอาอกเอาใจเขาเหมือนก่อน ไม่นุ่มนวลอ่อนหวาน ไม่เชื่อฟังเหมือนวันวาน สีหน้าแววตายังฉายความเบื่อหน่ายแกมหงุดหงิดออกมาอย่างไม่เกรงใจนางยังสาวยังสวย ในขณะที่เขาแก่เฒ่าลงทุกวัน ดังนั้น จึงเป็นเหตุให้นางตัดสินใจทำอะไรต่ำช้า ใช่หรือไม่? เหมือนที่ครั้งหนึ่งเขาเคยทำกับภรรยา ใช่หรือเปล่า?ความรู้สึกทรมานและทุกข์ทนยากหลุดพ้นชนิดนี้ เหมือนความรู้สึกที่เคยเกิดกับอดีตคนรักผู้ล่วงลับใช่หรือไม่?เขาเคยทำให้นางต้องเจ็บช้ำปานใด บัดนี้ได้รู้ซึ้งแล้วหลังจากยืนส่งขบวนครอบครัวของกู้เหิง กู้เจิ้งก็เพียง

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนที่ 23 วาสนาหรือชะตากรรม2

    การแต่งงานอันหวานชื่นของบุรุษแซ่กู้ผ่านพ้นไปเรื่องราวควรยุติสงบสุขเพราะทุกคนต่างมีคู่ครอง ทว่าซ่งเสวียนชิงกลับยังทำตัวหน้าหนาไร้ยางอายไม่เว้นวัน เขาลอบเข้าหาโม่เหลียนเกือบทุกคืนอย่างไร้มารยาท ปราศจากยางอาย แต่จนใจที่ฝีมือสู้เยี่ยนเต๋อมิได้ จากนั้นเขาเปลี่ยนแผนใหม่ โดยการใช้ฐานะญาติพี่น้องระหว่างกู้ซือหมิงกับกู้ฉีรุ่ย เดินข้ามประตูวงเดือนของจวนกู้มาหาโม่เหลียนอย่างสง่าผาเผยเสียเลยคนอื่นอาจมองเป็นการไปมาหาสู่กันฉันญาติสนิท ทว่าโม่เหลียนกับเยี่ยนเต๋อเกรงว่าเหยาจินกับกู้ซินอาจจะมิได้คิดเช่นนั้นหากแม่สามีกับน้องสามีมองสะใภ้ด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป การอยู่ร่วมกันย่อมมีช่องว่างที่มองไม่เห็นแม้ปัญหายังไม่ทันเกิดและเหมือนเหยาจินกับกู้ซินจะไม่คิดเล็กคิดน้อยอันใด ทั้งยังดูเชื่อใจโม่เหลียนมาก หากแต่เยี่ยนเต๋อไม่มีทางปล่อยปละละเลยภรรยาได้ เขาเชื่อใจนางแต่ไม่มีทางไว้ใจเจ้าคนหน้าหนาอย่างโจรราคะซ่งเสวียนชิงเด็ดขาดการย้ายจวนหลังแต่งงานจึงจำต้องมีตามมาเยี่ยนเต๋อต้องการสร้างจวนใหม่อยู่อย่างผาสุกกับภรรยาและตั้งใจจะพามารดากับน้องสาวไปด้วยเรียกได้ว่าไม่คำนึงถึงธรรมเนียมปฏิบัติกันเ

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนที่ 23 วาสนาหรือชะตากรรม1

    หลังจากจัดการส่งซ่งเสวียนชิงกลับไปเยี่ยนเต๋อก็ใช้เวลาอยู่กับโม่เหลียนทั้งคืน ดื่มด่ำราตรีร่วมกันอย่างหวานชื่น เอ่ยตามจริง หากเป็นชายอื่นเข้ามาเห็นผู้หญิงของตนอยู่กับผู้ชายอีกคนเช่นนั้นย่อมมีปัญหารุนแรงถึงขั้นแตกหักทว่าเยี่ยนเต๋อที่รู้ทุกเรื่องราวย่อมมีแต่คำปลอบใจ ทำทุกทางให้นางสบายใจ ให้มั่นใจว่าจะมีเขาอยู่เคียงข้าง ช่วยบังลมฝนให้ทุกก้าวย่างจวบจนรุ่งสางโม่เหลียนถึงได้ผลักไสให้เยี่ยนเต๋อลอบปีนหน้าต่างกลับออกไป ก่อนที่หานเซิงจะถือดาบมาไล่ฟัน ชายหนุ่มยิ่งคึกคักฮึกเหิมรีบจัดการนางอย่างเร่าร้อนและเร่งเร้าตรงริมหน้าต่างอีกหลายกระบวนท่า ก่อนยินยอมหนีไปอย่างเร่งรีบ อันเป็นการกระทำที่ตื่นเต้นเร้าใจหาใดเปรียบชาติที่แล้วเยี่ยนเต๋อมีความคิดที่ชั่วร้ายอยู่อย่างหนึ่ง คือคิดจะลอบเข้ามาหาโม่เหลียนแบบนี้ แล้วฉุดคร่านางไปจากสามีผู้นั้นให้รู้แล้วรู้รอด ด้วยรู้ดีว่าซ่งเสวียนชิงหวาดกลัวในตัวเขาอย่างที่สุด หากเขาพาโม่เหลียนไปอย่างอุกอาจ ซ่งเสวียนชิงย่อมทำอะไรเขาไม่ได้ แต่เพราะโม่เหลียนรักใคร่อีกฝ่าย เขาจึงได้แต่ข่มใจไม่กล้าตอแยนางแต่ชาตินี้ไม่เหมือนกัน เขาไม่ต้องทำเรื่องชั่วร้าย แต่สามาร

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนที่ 22 จัดการนางขั้นเด็ดขาด

    ค่ำคืนเดือนพราว ดวงดาวระยิบระยับโม่เหลียนยืนแหงนหน้ามองฟ้าอย่างอารมณ์ดี รู้สึกว่าราตรีนี้ช่างสวยงามเสียจริง สาเหตุที่รู้สึกเช่นนี้ก็เพราะเพิ่งได้รับจดหมายจากเยี่ยนเต๋อที่บอกให้รู้ถึงการเดินทางกลับในอีกเจ็ดวันข้างหน้าหญิงสาวหมุนตัวกลับเข้าห้องนอนตรงไปที่ชั้นเสื้อผ้า หยิบชุดนั้นเลือกชุดนี้ออกมา แต่ละชุด นางสั่งสาวใช้คัดสรรมาเตรียมไว้ตั้งแต่หัวค่ำ คิดว่าควรใส่ชุดไหนออกไปต้อนรับเขาที่ประตูเมืองดี ทว่าจนแล้วจนรอดก็ยังตัดสินใจมิได้จังหวะนิ่วหน้าครุ่นคิดอย่างมีความสุข เงาดำหนึ่งพลันวูบเข้ามาจากทางใดมิทราบ จับนางกดลงบนเตียง ทั้งรวดเร็วรวบรัด ในชั่วลมหายใจเดียวนางก็ถูกพันธนาการโม่เหลียนเบิกตาจ้องมอง เห็นเป็นใบหน้าคนคุ้นเคยก็ให้ตกใจนัก เสี้ยวเวลาต่อมานางจึงโมโหอย่างที่สุด“เสวียนชิง! ท่านอุกอาจปานนี้ได้อย่างไร?”ชายหนุ่มผู้บุกรุกก้มมองนางด้วยดวงตาเจ็บร้าวและเศร้าสลด สีหน้าสำนึกผิดเต็มที่ ไม่มีเสแสร้ง“เหลียนเอ๋อร์ เจ้าควรรู้เอาไว้ว่าเรื่องข้ากับเหวินซูลี่ไม่ได้มีอะไร ข้ามิได้ชอบนาง ไม่ได้มีใจ และไม่เคยคิดอยากให้เกิดเรื่องแบบนั้น นางวางยาข้า เจ้าเชื่อข้านะ”ซ่งเสวียนชิงแก้ตัว ข

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนที่ 21 ไม่ละอายใจ 2

    ทางฝั่งโม่เหลียน เคยมีชายกักขฬะใจหยาบคิดทำการฉุดคร่านางจริงๆ และหลายครั้งด้วย เพียงแต่เรื่องนี้มิได้ถูกแพร่งพรายจนตัวเองต้องเสื่อมเสียมัวหมอง เพราะนางจัดการเจ้าคนพวกนั้นปางตายกลับไปทุกคราหญิงสาวนึกเสียดายอยู่เรื่องหนึ่งคือไม่ทันได้เค้นถามว่าเป็นผู้ใดส่งมา เจ้าคนที่ถูกจับได้ก็ตายเสียก่อน คนผู้นั้นตกใจมีดที่จ่อคอชิงขยับมีดปาดคอตาย สุดท้ายนางก็ต้องเสียเวลาคิดวิธีทำลายศพ มิให้ตัวการใหญ่ที่แท้จริงไหวตัวกำหนดการแต่งงานจะเกิดขึ้นในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า รวดเร็วถูกใจจูซิ่วเหลือเกินถามว่านางละอายใจหรือไม่ที่ใช้วิธีต่ำช้าอย่างการรวบรัดบุรุษด้วยยาปลุกกำหนัดในสุรา คำตอบคือ ไม่! และการแย่งชิงบุรุษของผู้อื่นเล่า นางเคยรู้สึกผิดบ้างไหมคำตอบก็คือ ไม่เลยสักนิด!บาปกรรมที่เคยทำตัวไร้ยางอายเข้ามาแทรกกลางครอบครัวคนอื่นจนแตกพ่ายนางก็ไม่ตระหนักเช่นกันซ่งเสวียนชิงต้องเป็นของนาง ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหนต่อให้เขายังรักโม่เหลียนแล้วอย่างไร นางไม่สน!ท่ามกลางท่าทีขัดขืนไม่ยินยอมพร้อมใจของกู้ซือหมิงในขณะแม่สื่อเจรจาสู่ขอ โม่เหลียนบังเอิญได้เห็น... ตรงหลังบานประตู ...เหวินซูลี่แอบยิ้มร้าย สาย

  • บุพเพรักแม่ทัพสุริยัน   ตอนที่ 21 ไม่ละอายใจ 1

    หลังจากวันนั้น เหวินซูลี่ก็แสดงออกชัดเจนยิ่งขึ้น ถึงขั้นตื่นแต่ฟ้าสางทำขนมส่งไปให้กู้ซือหมิงถึงจวนกู้ และอีกหลายครั้งยังทำทีบังเอิญพบเจอกู้ซือหมิงที่ตลาด ยิ่งกว่านั้น ทุกคราที่กู้ซือหมิงมาเยือนจวนหาน เพื่อขอพบหานจื่อหราน แต่คนที่ได้พบพานก็มักจะเป็นเหวินซูลี่โม่เหลียนที่หลบหน้าซ่งเสวียนชิงเป็นประจำจึงเห็นทั้งสองแอบพบกันแต่จะเรียกว่าแอบพบกันคงไม่ถูกต้องเสียทีเดียว เพราะเหวินซูลี่ถึงขั้นมายืนรออีกฝ่ายที่หน้าประตูจวนหาน ชนิดที่ว่าหากซ่งเสวียนชิงก้าวเท้าเข้ามา จะต้องเห็นเหวินซูลี่ก่อนบ่าวรับใช้ครั้นฝ่ายบุรุษบอกว่ามาหาใครอีกคน เหวินซูลี่ก็เพียงแค่ยิ้มหวาน แล้วบอกให้สาวใช้ไปเชิญพอเป็นพิธี จากนั้นก็พาเขาไปนั่งรับลมที่ศาลา ชักชวนสนทนาจนตะวันคล้อยโม่เหลียนไม่รู้จะต้องรู้สึกโล่งใจหรือกังวลใจดี ที่เป็นเช่นนี้เพราะนางนึกห่วงใยเหวินซูลี่อย่างยิ่ง แม้ไม่อยากออกไปพบหน้าซ่งเสวียนชิงก็จำต้องเข้าร่วมวงสนทนาเพื่อไม่ให้พวกเขาอยู่ด้วยกันเพียงลำพังสองต่อสอง“หรานเอ๋อร์ มาแล้วหรือ? ปล่อยข้าให้รอเจ้าตั้งนาน ไม่น่ารักเลย” หางคิ้วโม่เหลียนกระตุกทันทีเมื่อซ่งเสวียนชิงเรียกอย่างสนิทสนมจนออกนอกห

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status