Home / รักโบราณ / บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า / บทที่ 4 ต่างคนต่างพึ่งพากัน (4/4)

Share

บทที่ 4 ต่างคนต่างพึ่งพากัน (4/4)

last update Last Updated: 2024-12-03 10:39:38

เพียงแค่นางเรียกขานว่า ‘สามี’ ก็ทำหูตั้งหางส่ายไปมาราวกับเจ้าเสี่ยวโก่ว

            “เขาไม่ยอมกินยาเจ้าค่ะ ท่านช่วยใช้วิธีผ่าหัวเพื่อรักษาให้เขาหายจากสติฟั่นเฟือนได้หรือไม่เจ้าคะ”

            “คงมิได้หรอกแม่นาง ข้ายังไม่เคยผ่าหัวใครเลยสักครั้ง”

            “เช่นนั้นใช้เขาลองเถิดเจ้าค่ะ” นางคอยถามไถ่เรื่องกินยาด้วยความเป็นห่วงอยู่หลายวัน แต่เขากลับโกหกนาง มันน่าโมโหหรือไม่

            “ฮูหยิน...”

            “บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า” นางเฝ้าดูแลเขามาหลายวัน แต่เขากลับไม่กินยา เช่นนี้เมื่อใดจะหายกันเล่า

            “ฮูหยินไม่เอา ไม่กล่าวเช่นนั้น พี่ขอโทษเจ้าหายโกรธพี่ได้หรือไม่”

            “ข้าไม่ได้โกรธเจ้าค่ะ ” แค่หงุดหงิดเพียงเท่านั้น

            “หากเจ้าไม่ได้โกรธพี่แล้วเจ้ากำลังจะเดินไปที่ใด ท่านหมอห้ามเจ้าเดินเหินมิใช่หรือ” เขากล่าวเสียงอ่อนพลางทำท่าจะลุกเดินตามนาง

            “ข้าหายแล้วเจ้าค่ะ และท่านหยุดเท้าอยู่ตรงนั้นเจ้าค่ะ ข้าขออยู่คนเดียวเงียบๆ” ขอนางสงบสติอารมณ์ชั่วครู่ เขาไม่ได้เป็นสามีนางจริงๆ เสียหน่อย นางไม่ควรต้องห่วงใยเขามากถึงเพียงนี้

            “เช่นนั้นให้พี่ไปด้วยได้หรือไม่ พี่สัญญาจะไม่เอ่ยวาจาให้เจ้ารำคาญ”

            ท่าทางและน้ำเสียงออดอ้อนอ่อนหวานของสหายทำให้ท่านหมอเทวดาได้แต่ลอบยิ้ม ได้เห็นสหายเป็นเช่นนี้นับว่าได้เปิดหูเปิดตาแล้ว

            “เช่นนั้นท่านออกจากห้องไปเลยเจ้าค่ะ ข้ามีเรื่องสำคัญจะสนทนากับท่านหมอตามลำพัง” ซูหนิงเซียนหันไปมองบุรุษที่เดินเข้ามาใกล้ก่อนจะใช้โอกาสนี้ดันตัวเขาออกจากห้อง

            “พี่อยู่ด้วยไม่ได้หรือ”

            “ไม่ได้เจ้าค่ะ” นางทำท่าจะปิดประตูแต่เขาก็ยังดันประตูเอาไว้

            “แต่พี่ไม่ไว้ใจท่านหมอหน้าตาไม่น่ามองผู้นั้น เจ้างดงามถึงเพียงนี้ เกิดท่านหมอคิดไม่ดีกับฮูหยินของพี่ พี่จะทำเช่นไร” หยางซีซวนกล่าวพลางส่งสายตาบอกสหายให้ช่วยเอ่ยปาก

            “คุณชายอย่าได้กังวล ข้าไม่ทำอันใดฮูหยินของท่านหรอก” ลู่จื้อกล่าวพลางลุกเดินไปช่วยนางปิดประตู และในช่วงที่ประตูกำลังจะปิดลงท่านหมอยังส่งสายตาเยาะเย้ยสหายอีกด้วย

            ‘ลู่จื้อ! ข้าจะสั่งให้เสี่ยวช่างจิกคาบงูเจ้าไปทิ้ง’ คุณชายหยางคิดพร้อมกับขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

            ฉับพลันมุมปากหยักยกยิ้มเมื่อคิดถึงสีหน้ายามดุด่าเขา ดูเหมือนนางจะห่วงใยเขาไม่น้อย เพียงคิดได้เท่านี้เขาก็ยิ้มกว้างออกมาราวกับคนบ้า ในสายตาของผู้ติดตามที่รออยู่ด้านนอก

            “ข้าเริ่มจะเชื่อแล้วว่าคุณชายสติฟั่นเฟือนจริงๆ ไม่เชื่อเจ้าดูนั่นสิ”

            “นั่นสิ เดี๋ยวโกรธ เดี๋ยวยิ้มแย้ม ดูไม่ค่อยปกติเท่าใด” บุรุษแซ่เจียวอีกคนเสริม            

            ทั้งสองยังไม่ทันจะสนทนาอันใดต่อก็ถูกพลังไร้รูปซัดใส่จนเกือบกระโดดหลบไม่ทัน

           

            หลังจากไล่บุรุษมากเล่ห์โกหกเก่งออกจากห้องไป นางก็นั่งทำหน้ามึนงงราวกับไม่รู้จะเอ่ยถามท่านหมออย่างไร

            “มีอันใดจะถามข้า แม่นางได้โปรดเอ่ยมาเถิด”

            “คือข้าจะถามว่าท่านหมอเคยรักษาคนป่วยสติฟั่นเฟือนบ่อยครั้งหรือไม่เจ้าคะ”

            “ก็พอจะพบเจออยู่บ้าง”

            “แล้วมีใครที่ยามปกติ ไม่เคยกิน แต่พอสติฟั่นเฟือนแล้วชอบกินหรือไม่เจ้าคะ”

            “ไม่มี” ท่านหมอเทวดากล่าวพลางคิดไว้อาลัยให้สหาย ดูเหมือนคุณหนูผู้นี้จะเริ่มเกิดความสงสัย

            “แล้วเขา เอ่อ...ข้าหมายถึงคุณชายหยาง ท่านว่าเขามีอาการบาดเจ็บภายในมากหรือไม่เจ้าคะ”

            “ดูเหมือนจะมีแต่ส่วนหัวที่ได้รับการกระทบกระเทือนหนักที่สุด”

            “แล้วมันจะเป็นไปได้หรือเจ้าคะ ที่ในยามปกติเขาไม่เคยมีฮูหยิน หรือแม้แต่สตรีอุ่นเตียง แต่พอสติฟั่นเฟือนแล้วจะคิดว่าตนแต่งฮูหยินแล้ว”

            ‘นั่นประไร นางสงสัยจริงๆ ด้วย’ ท่านหมอคิดก่อนจะอ้างนั่นอ้างนี่เพื่อช่วยเหลือสหาย

            “มันเป็นไปได้ บางครั้งเขาอาจจะฝังใจกับใครสักคน จึงเกิดการวาดฝันเอาไว้ พอสติฟั่นเฟือนเขาจึงสับสนระหว่างความฝันกับความจริง”

            “เป็นเช่นนั้นหรือเจ้าคะ” ความหมายของท่านหมอคือเขาอาจจะรักฝังใจกับสตรีสักคน เฝ้าฝันว่าจะได้กราบไหว้ฟ้าดินกับนาง แต่ดันบาดเจ็บจนสติฟั่นเฟือนเสียก่อน

            ‘เขาช่างน่าเห็นใจ’ ซูหนิงเซียนก้มหน้าลงเพื่อซ่อนแววตาเศร้าเอาไว้ เพียงแค่ได้ยินว่าเขารักฝังใจกับแม่นางผู้หนึ่ง นางก็รู้สึกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

            “โรคสติฟั่นเฟือนนั้นต้องใช้เวลา แม่นางอย่าได้กังวลให้มาก” หากเจ้าซีซวนอยากหายเมื่อใด ประเดี๋ยวก็คงจะหายเอง

            “เจ้าค่ะ ข้าแค่เป็นห่วงเขา ว่าหากถึงเมืองหลวงแล้ว ข้าที่ไม่ได้เป็นฮูหยินจริงๆ ของเขา อย่างไรก็ต้องแยกตัวกลับจวน ส่วนเขาก็ต้องกลับจวนของตน ไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้เช่นตอนเดินทาง”

            “กว่าจะถึงเมืองหลวงมีเวลาอีกหลายวัน ไม่แน่ว่าตอนนั้นเขาอาจจะอาการดีขึ้นแล้วก็ได้ แม่นางอย่ากังวล”

            “ข้าก็หวังจะเป็นเช่นนั้นเจ้าค่ะ” อย่างไรชายหญิงก็ไม่ควรใกล้ชิดกันให้มาก แต่เพราะต้องพึ่งพาอาศัยเขาให้พาเข้าเมืองหลวงอย่างปลอดภัยนางจึงยอมรับสมอ้างเป็นฮูหยินของเขา

            ทว่าหากเข้าเมืองไปแล้วเขายังเอาแต่ร้องเรียกนางว่าฮูหยินเช่นนี้ มันคงไม่เหมาะสมเป็นแน่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   ตอนพิเศษ : ในกาลก่อนที่ข้ารักเจ้า (3/3)

    “เรื่องนั้นท่านอย่าได้ห่วงเลยเจ้าค่ะ พี่เหลียงอี้ เขาไปลาดตระเวนตรวจตราที่บริเวณจวนของนางอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นนางปลอดภัยไม่มีอันตรายแน่นอน” ‘สตรีโง่ ข้าอยากจะบอกเจ้าเหลือเกินว่า คู่หมั้นข้านางผู้นั้นมีของล้ำค่ามากกว่าปิ่นที่เจ้าจะซื้อให้อีก’ ยิ่งได้เห็นความใสซื่อของซูหนิงเซียน ความสนใจในตัวคู่หมั้นก็เริ่มลดลง หากไม่ติดที่ว่ามีบุญคุณช่วยชีวิตเขาก็คงไม่คิดสนใจไยดีแล้ว น่าแปลกที่เขาเชื่อวาจาที่ซูหนิงเซียนบอกกล่าวออกมามากกว่าที่ได้รับฟังจากหม่าลี่อิน “ข้าเลือกชิ้นนี้เจ้าค่ะ ลี่อินนางชอบไข่มุก ข้าว่านางต้องดีใจมากแน่นอนเจ้าค่ะที่ได้ปิ่นนี้” “อืม” รอยยิ้มจริงใจของคุณหนูซูทำให้เขาเอ่ยวาจาไม่ออก “คุณหนูซูท่านช่างโชคดีเหลือเกินขอรับ วันนี้นายท่านของร้านเราใจดี สั่งลดราคาเครื่องประดับให้กับลูกค้าคนที่สิบเก้า ซึ่งคือท่าน” “ลดราคาเช่นนั้นหรือเจ้าคะ” “ใช่ขอรับ เพื่อเป็นการแสดงความยินดีที่ม้าตัวโปรดของนายท่านคลอดลูกม้า นายท่านสั่งลดราคาเครื่องประดับให้ลูกค้าคนที่สิบเก้าครึ่งราคา นั่นเท่ากับว่าวันนี้คุณหน

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   ตอนพิเศษ : ในกาลก่อนที่ข้ารักเจ้า (2/3)

    ดวงหน้าหวานที่โผล่ออกมาจากรถม้าทำให้ใจของเขาสั่นไหว เมื่อนางเผยรอยยิ้มเขาแทบจะกระโดดลงจากชั้นสองของโรงเตี๊ยมเพื่อไปหานาง “แม่นางหนิงเซียน” เสียงทุ้มของบุรุษที่ดังขึ้นดึงความสนใจของซูหนิงเซียนให้หันไปมอง “คารวะคุณชายซวนเจ้าค่ะ” ยามเห็นหน้ากากจึงจดจำได้ว่าอีกฝ่ายเป็นคู่หมั้นของสหาย “ท่านมาคนเดียวหรือ” “เจ้าค่ะ วันนี้ข้าจะมาหาซื้อผ้าไปตัดชุดให้สาวใช้คนสนิท จึงตั้งใจมาด้วยตัวเองไม่ได้ชวนลี่อินมาด้วย” นางเข้าใจว่าเขาถามหาสตรีในดวงใจ “ข้ามีความรู้เรื่องผ้าไม่น้อย ให้ข้าช่วยเลือกดีหรือไม่ ไม่แน่เจ้าอาจจะได้ผ้าเนื้อดีที่ราคาถูก” “หากมิรบกวนคุณชายซวนเกินไป…” ซูหนิงเซียนยังกล่าวไม่ทันจบเขาก็รีบเอ่ยแทรกขึ้นก่อน “เรื่องนี้มิได้เหลือบ่ากว่าแรง จะถือว่ารบกวนข้าได้อย่างไร” “เช่นนั้นก็ได้เจ้าค่ะ” นางตอบรับแล้วยกยิ้มเล็กน้อย บุรุษสวมหน้ากากช่วยนางเลือกผ้าได้หลายพับ แต่เมื่อจ่ายเงินนางกลับพบว่านางได้ของดีแต่ราคาถูกอย่างเหลือเชื่อ “ท่านหลงจู๊ ลองคิดเงินใหม่อีกครั้งดีหรือไม่

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   ตอนพิเศษ : ในกาลก่อนที่ข้ารักเจ้า (1/3)

    ในกาลก่อนที่ข้ารักเจ้า บริเวณชั้นบนของโรงเตี๊ยมเลี่ยงจิน บุรุษสวมหน้ากากจ้องมองคู่หมั้นของตนที่กำลังเดินอยู่ท่ามกลางผู้คน ดวงหน้าหวานแต่งแต้มรอยยิ้มสดใสพาลทำให้บุรุษรอบตัวต่างหันมามอง แต่เขากลับถูกสตรีนางหนึ่งดึงดูดสายตาให้จ้องมอง สตรีนางนั้นคล้ายจะเป็นสหายของคุณหนูหม่า แม้ดวงหน้านางจะแต่งแต้มรอยยิ้มบาง แต่ทว่ากลับดึงดูดเขาได้อย่างน่าประหลาด และดูเหมือนว่าแท้จริงบุรุษเหล่านั้นจะจ้องมองนางเสียมากกว่า พลันในอกรู้สึกไม่ชอบใจอย่างประหลาด ความรู้สึกหวงแหนก่อตัวขึ้นในใจของเขาอย่างไม่รู้ตัว เหตุใดกับคู่หมั้นตน เขาถึงไม่รู้สึกเช่นนี้ พรึ่บ ไวกว่าความคิดร่างสูงโปร่งของบุรุษรูปงามก็ปรากฏตัวด้านหลังสตรีทั้งสอง ก่อนจะเอ่ยทักทาย “ลี่อินเจ้ามาเดินเที่ยวเล่นหรือ” เขาทราบว่ามันเป็นคำถามที่ดูโง่งม แต่เขาไม่รู้จะเอ่ยถามอันใดออกไป “คารวะคุณชายซวนเจ๋อเจ้าค่ะ” สายตาที่มีประกายรังเกียจพาดผ่านทำให้เขาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนที่คู่หมั้นจะแสดงความเคารพเขา หลายครั้งที่นางมองเขาเช่นนี้ คงเพราะหวาดกลัวหน้ากากที่ปกปิดบนใบหน้าเขา การเป

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   ตอนพิเศษ : คุณชายหมิงอี้เฉิน (2/2)

    “คนของเจ้าสืบได้ละเอียดถึงเพียงนั้น” หมิงอี้เฉินหรี่ตามองอย่างจับผิด “เรื่องที่คิดกำจัดนางกับท่านพ่อตา คนของข้าได้ยินหม่าลี่อินวาดฝันกับกวางเหลียงอี้ เมื่อเห็นว่าเป็นภัยต่อนาง คนของข้าจึงนำมารายงานข้าด้วย” “...” “เบื้องต้นข้ามีหลักฐานที่กลุ่มนักเลงพวกนั้นสารภาพ เจ้าอยากดูหรือไม่” “อืม” เขายกชามสุราขึ้นจิบก่อนจะตอบรับ “นี่คือจดหมายรับสารภาพของนักเลงที่ดักปล้นรถม้าแต่ถูกข้าซ้อนแผนจับเป็นทั้งหมด ก่อนจะนำมาทรมานเพื่อเค้นความจริง” หยางซีซวนยื่นจดหมายที่เพิ่งนำออกมาจากอกเสื้อให้เขา “หม่าลี่อินชั่วช้ายิ่งนัก คิดจะให้พวกนักเลงข่มเหงนาง” จากคำสารภาพของนักเลง กวางเหลียงอี้เพียงแต่ตั้งใจทำให้นางตกใจ แต่หม่าลี่อินกลับซ้อนแผนให้นักเลงพวกนั้นข่มเหงนางก่อนที่กวางเหลียงอี้จะไปช่วย คงกลัวว่าหากเหมยเขียวม้าไม้ไผ่ของตนได้พบเจอนางจะเปลี่ยนใจ จึงสร้างมลทินให้ซูหนิงเซียน “เพราะเหตุนี้ข้าจึงแสร้งสติฟั่นเฟือนเพื่อจะได้อยู่ในจวนตระกูลซูต่อไป เพื่อจะได้ปกป้องนางและบิดาด้วยตนเอง” “เรื่องนี้เจ้าสามารถใช้ผ

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   ตอนพิเศษ : คุณชายหมิงอี้เฉิน (1/2)

    คุณชายหมิงอี้เฉิน เมื่อได้รับข่าวว่าสหายในวัยเด็กเดินทางกลับมาจากเมืองซานโจวแล้ว เขาจึงรีบไปหา แต่ใครจะคิดเล่าว่าการพบเจอครั้งนี้จะพ่วงบุรุษผู้นั้นมาด้วย ชายที่มองอย่างไรก็ไม่คล้ายคนสติฟั่นเฟือน ท่าทางออดอ้อนนั้นแลดูเหมือนบุรุษเจ้ามารยาเสียมากกว่า คุณชายหมิงเหม่อมองท้องฟ้ายามค่ำคืน แล้วยืนนิ่งราวกับกำลังรออะไรบางอย่าง “คุณชายขอรับ นี่ก็เป็นปลายยามไฮ่ (21.00-22.59) แล้ว น้ำค้างก็ลงมากแล้วอย่างไร...” บ่าวรับใช้คนสนิทยังกล่าวไม่ทันจบ คุณชายเจ้าของจวนก็เอ่ยวาจาแทรกขึ้นก่อน “เจ้าไปนอนก่อนเถิด ข้าจะยืนชมดาวอีกสักหน่อยก็จะไปนอนแล้ว” “ขอรับ” เมื่อคุณชายกล่าวเช่นนั้น บ่าวรับใช้คนสนิทก็ได้แต่เดินจากไป พรึ่บ บุรุษชุดดำกระโดดลงมาตรงหน้าเขาหลังจากบ่าวรับใช้เดินหายไปไม่นาน “มาแล้วหรือ” คุณชายหมิงเอ่ยวาจาทักทายผู้มาเยือน “เจ้าอยากพบข้าด้วยเหตุใด” หากบุรุษผู้นี้ไม่ค้นพบการมีตัวตนของผู้ติดตาม เขาก็คงคิดว่า ซือเย่ผู้นี้เป็นเพียงบัณฑิตอ่อนปวกเปียกที่ไม่กล้าฆ่าแม้แต่ไก่ “ท่านควรแจ้งถึงจุดประสงค์ในก

  • บุรุษมากเล่ห์เช่นท่านหาใช่สามีข้า   ตอนพิเศษ : ท่านแม่กำลังไปตามหาน้องให้ (3/3)

    “พี่ไม่ได้รังแกเจ้า พี่มอบความโปรดปรานให้เจ้า” “หน้าอกท่านแน่นเสียจริง” “หากเจ้าอยากลูบไล้ยามไร้อาภรณ์ ก็จงรีบกลับจวนกับพี่” “ไม่เอา ข้ายังไม่อยากกลับ กว่าจะได้ออกมาเที่ยวเช่นนี้ไม่ง่ายเลย ต้องขอบคุณท่านแม่นะเจ้าคะ ที่เมตตาข้า” “มิเป็นไรๆ เจ้าอยู่สนุกกับเหล่าชายงามต่อเถิด แม่ต้องกลับไปรับโทษ...ไม่ใช่ แม่ต้องรีบกลับแล้ว” กล่าวจบหยางฮูหยินก็หันไปมองใบหน้าบึ้งตึงของสามี ‘ครั้งนี้นางคงหยอกเย้าบุตรชายมากเกินไป จึงทำให้ฟูจวิน ของนางโกรธขึ้นมาจริงๆ’ ต่อจากนี้คงต้องทนปวดเอวเพื่อง้อท่านแม่ทัพใหญ่หลายคืนอีกแล้ว “ได้เจ้าค่ะ ประเดี๋ยวข้าจะสนุกกับพี่ชายคนงามแทนท่านแม่เองเจ้าค่ะ” นางกล่าวพลางลุกขึ้นแล้วทำท่าจะเดินโซซัดโซเซไปหากลุ่มชายงาม แต่กลับโดนสามีโอบรั้งเอวคอดกิ่วเอาไว้ “พี่ชายคนงามพวกนี้ อยากกลับไปพักผ่อนแล้ว เจ้าอย่าได้รบกวนพวกเขาเลย” น้ำเสียงที่เอ่ยกับฮูหยินตนช่างอ่อนโยนยิ่งนัก ต่างจากสายตาที่จ้องมองคล้ายจะเข้าขย้ำเหยื่อตรงหน้าของราชสีห์ “จริงหรือเจ้าคะพี่ชาย” “จริงขอรับ”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status