ตอนที่
[3] คนผู้นี้โหดยิ่งนัก ทว่าภาพตรงหน้าทำให้จินอ้าปากค้าง อะไรคือมีแค่อ่างไม้หนึ่งใบและขันที่ทำจากลูกน้ำเต้าเก่า ๆ ไม่มีความมิดชิดเพราะมีแค่ฉากกั้นผุ ๆ พัง ๆ แถมยังไม่ครบสี่ด้าน นี่ไม่เรียกว่าห้องน้ำด้วยซ้ำ แล้วถ้าปวดหนักขึ้นมาจะไปที่ไหน ชักโครก ไม่สิ ส้วมหลุมก็ไม่มี ทันใดนั้นสายตาของหญิงสาวก็มองไปยังเนินป่าที่อยู่ไม่ไกลออกไป อย่าบอกนะว่า จะไหวมั้ยเนี่ยจิน ถ้าต้องอยู่ที่นี่จริง ๆ เธอจะอยู่ยังไง เมื่อคิดว่าไม่มีห้องน้ำความปวดหน่วงในตอนเช้าก็หายไป เธอรีบทำการล้างหน้าล้างตาและบ้วนปาก ในตอนนี้ก็คงทำได้แค่นี้ อย่าถามหาแปรงสีฟัน สบู่อะไรเลย เมื่อเสร็จธุระแล้วจึงรีบไปหาเจ้าของเรือนนาคนนั้น จินไม่ทันได้สังเกตเลยว่ารูปลักษณ์ตนเองนั้นดูอ่อนเยาว์กว่าตอนที่อยู่โลกเดิมเสียอีก มือบางผลักประตูเรือนนาเข้าไป ทันใดนั้นกลิ่นอับบางอย่างก็ตีปะทะเข้ากับใบหน้า หากแต่จินรีบเก็บปฏิกิริยาได้ทันเพราะไม่ไกลกันนั้นมีใครบางคนกำลังจ้องมองมาอยู่ เขากำลังนั่งรอที่โต๊ะอาหารเก่า ๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่นัก เขาไม่พูดอะไรและเธอก็ยืนนิ่งไม่ขยับเช่นกัน จนกระทั่ง… “นั่งสิ” ตรงหน้าของเขามีมันเผาที่สองศรีพี่น้องนำมาให้ นี่คงเรียกเธอไปกินด้วยใช่หรือไม่ เฮ้อ อย่างน้อยก็ไม่ใจร้ายกินคนเดียว คิดได้ดังนั้นใบหน้างามจึงเผยรอยยิ้มกว้างแล้วเข้านั่งตรงข้ามเขาทันที ทว่าระหว่างที่กำลังจะเอื้อมมือไปหยิบมันเผาที่อยู่ตรงหน้า จู่ ๆ คนตรงข้ามก็จับตะเกียบขึ้นมาก่อนจะปักมันลงไปยังตำแหน่งที่เฉียดฉิวจากมือของเธอไปเพียงนิดเดียว “เฮ้ย นี่คุณทำอะไร” นัยน์ตาหญิงสาวเบิกกว้างขึ้นพร้อมมองไปที่คนตรงข้ามอย่างไม่พอใจ “ข้าเพียงจะบอกเจ้าเอาไว้ ว่าหากอยากจะอยู่ที่นี่ ห้ามทำตัวน่ารำคาญเด็ดขาด” “อย่าเรียกร้องอันใดเกินตัว ที่สำคัญ หากเจ้าเล่นตุกติกอันใดแม้แต่นิดเดียว” “รับรองว่าตะเกียบอันนี้จะมิได้ปักลงที่โต๊ะนี้อย่างแน่นอน ปักที่ใดเจ้าคงไม่ต้องเดา” ว่าแล้วก็ถอนตะเกียบขึ้นแล้ว แล้วยกยิ้มด้วยท่าทางราวกับฆาตกรโรคจิตในหนังที่เคยดูก็ไม่ปาน จะขู่อะไรกันขนาดนั้น “ฉันก็ตัวแค่นี้ จะไปทำอะไรได้” จินว่าพลางยกมือทำท่าแสดงถึงความตัวเล็กตัวน้อยของตัวเอง “แล้วก็เลิกพูดด้วยภาษาประหลาดด้วย ข้ารำคาญ” “อ่าว นั่น ก็ฉัน…” “หือ….” สายตาข่มขู่ถูกส่งมาอีกครั้ง “ก็ ฉะ…. ข้าถนัดพูดแบบนี้นี่นา” “ไม่ต้องแก้ตัว นี่มันของเจ้ารีบกินเข้าไปเสีย” ส่งสายตาข่มขู่แล้วก็ยื่นมันเผาที่ชิ้นเล็กที่สุดให้กับเธอ นี่มันช่าง…. เอาเถอะ เดี๋ยวถ้าเรื่องมาก อาจจะมีการฆาตกรรมกันเกิดขึ้น เธอรีบรับมันเผาก่อนจะกินมันอย่างรวดเร็ว ไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อคืน หิวชะมัด ชายหนุ่มมองสตรีแปลกหน้าด้วยสายตาอ่านยาก แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา นอกจากหยิบมันเผาของตนเองกินไปอย่างเงียบ ๆ เมื่อกินเสร็จ จินจึงรีบเช็ดปากของตัวเองแล้วถามสิ่งที่อยากรู้กับคนตรงหน้าไปทันที “นี่คุณ เอ่อ ท่านพอจะบอกข้าได้หรือไม่ว่าที่นี่คือที่ไหน ปีอะไร” ร่างบางนอนกระสับกระส่ายบนแคร่เล็ก ๆ เพราะนอนไม่หลับ อนึ่งนั่นมาจากสิ่งที่ตนเองเพิ่งได้รับรู้มา เธอได้ทะลุมิติมาในโลกคู่ขนานคล้ายประเทศซีในยุคโบราณจริง ๆ ด้วย!! เพราะแคว้นที่เธออยู่ตอนนี้ ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน ไม่เคยอ่านเจอในประวัติศาสตร์ใด มันเป็นเรื่องน่าตระหนกไม่น้อย เกิดเรื่องนี้ขึ้นได้อย่างไร แล้วจะสามารถกลับไปในโลกที่เธอจากมาได้หรือไม่ ตรงนี้ที่ทำให้เธอหวั่นไหว ถ้ากลับไปไม่ได้จะทำยังไง จะอยู่ที่นี่ต่อไปยังไง แม้กระทั่งเจ้าของเรือนนาที่เธอนอนอยู่ตอนนี้เขายังไม่ได้อยากต้อนรับเธอเลยแม้แต่น้อย ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ จากต่างโลกจะใช้ชีวิตในโลกโบราณได้ยังไง ระหว่างที่คิดเสียงของบางอย่างก็ดังขึ้น โครกกกก จินกุมท้องด้วยความหิว วันนี้กินมันเผาชิ้นเล็ก ๆ ไปแค่ชิ้นเดียว และพยายามมองหาจนทั่วเรือนนาหลังนี้แล้วไม่มีอาหารอย่างอื่นอีก แม้กระทั่งข้าวสาร แล้วเขาใช้ชีวิตมาได้ยังไง อีกอย่างที่ทำให้จินนอนไม่หลับนั่นก็คือ เธอยังไม่ได้อาบน้ำเลย เมื่อช่วงเย็นจะไปอาบแต่ก็เห็นว่าน้ำในถังน้ำมีเพียงไม่มาก ครั้นจะไปตักมาเพิ่มก็ไม่รู้จะไปตักที่ไหน คนผู้นั้นก็เอาแต่ขังตัวเองในห้องนอนเล็กของเขา เสื้อผ้าที่ติดตัวมาก็มีเพียงชุดเดียวที่เธอกำลังใส่ตอนนี้ ไม่มีให้เปลี่ยนอีก คิดแล้วจึงทอดถอนลมหายใจแล้วนอนมันทั้งอย่างนี้ แต่มันก็ไม่สามารถนอนได้ง่าย ๆ ด้วยการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน รู้ตัวอีกทีที่หางตาก็มีน้ำตาไหลลงอย่างไม่รู้ตัว ไม่นานก็มีเสียงสะอึกสะอื้นดังขึ้น ด้วยเรือนนานั้นไม่ใหญ่ มีเพียงห้องโถงเล็กด้านนอก แล้วห้องส่วนตัวที่ไม่ใหญ่อีกหนึ่งห้องซึ่งก็คือห้องนอนของเยี่ยนซี แม้หญิงสาวจะพยายามเก็บเสียงสะอื้นของตนเองมากเพียงใด เสียงนั้นก็ดังเข้าหูของคนที่นอนอยู่ในห้องนอนของตนเองอยู่ดีตอนพิเศษที่[3]ทำรากบัวเชื่อมกัน หลังจากที่แต่งงานกันมาหลายปีสามีก็เอ่ยว่า อยากจะพานางไปที่ที่หนึ่ง ซึ่งรับรองว่านางต้องชอบเป็นแน่ นางจึงตกลงไปด้วยความตื่นเต้น “เอ๋ สระบัวหรือเจ้าคะ” ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยดอกบัวที่งดงามมากมายมีส่วนที่เป็นสระน้ำและส่วนที่เต็มไปด้วยดอกบัวที่เกิดขึ้นกลางดินนางรู้สึกคุ้นเคยและแปลกใจก่อนจะหันไปมองหน้าเขา “ตอนที่อยู่ที่หมู่บ้านซินเฉียว พี่ไม่ค่อยได้ช่วยเจ้าทำรากบัวเลย มาวันนี้มีโอกาสและนึกขึ้นได้ว่าครอบครัวมีที่ดินที่มีสระบัวงดงามอยู่ผืนหนึ่ง จึงคิดอยากจะชวนเจ้ามาทำรากบัวเชื่อมกัน ให้เจ้าช่วยสอนพี่ทำแล้วจากนั้นค่อยเอาไปแจกจ่ายทุกคนดีหรือไม่” “ดีเจ้าค่ะ” นางก็ไม่ได้ทำรากบัวเชื่อมนานแล้ว ครั้งล่าสุดก็ตั้งแต่อยู่ที่ท้ายเรือนนา คิดแล้วก็อยากกินเหมือนกัน แต่ทำไมนางจึงรู้สึกว่าสายตาของสามีนั้นมีความวาววับบางอย่างนะ มันดูแปลก ๆ แค่ทำรากบัวเชื่อมเหตุใดต้องดูตื่นเต้นถึงเพียงนั้นแต่ดูเหมือนว่านางจะคิดไปเอง เพราะหลังจากที่ตกลงกัน นางและเขาก็ช่วยกันทำรากบัวกันอย่างจริงจัง เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนแรกคือขุดรากบัว…รากบัวที่นี่มีขนาดหัวใหญ่มาก ใหญ่กว่าที่หมู่บ้านซินเฉียวเส
ตอนพิเศษที่[2]อวี๋ซิ่ง อวี๋หรูกับชีวิตที่ไม่คาดฝัน อวี๋ซิ่งและอวี๋หรูหรูนั้น พวกเขาคิดว่าชีวิตของพวกเขาคงจะอยู่ได้แค่ในหมู่บ้านซินเฉียวเท่านั้น ด้วยท่านย่าก็แก่ชราแล้วยากที่จะมีโอกาสได้ออกไปสัมผัสโลกภายนอก พวกเขาไม่แม้แต่จะมีโอกาสได้เข้าไปในตลาดตำบลด้วยซ้ำ ชีวิตจึงวนอยู่กับการช่วยท่านย่าหารายได้และขึ้นไปหาของป่าเพื่อประทังชีวิตกัน แต่แล้ววันหนึ่งชีวิตของพวกเขาก็เปลี่ยนไป เมื่อได้พบกับสตรีผู้งดงามและใจดีอย่างพี่เยว่จิน พี่สาวผู้นั้นเป็นราวกับเทพธิดาลงมาโปรด ทำให้พวกเขามีรายได้ด้วยตนเองเป็นครั้งแรก ได้กินของอร่อย ได้ไปเที่ยวตลาดในตำบลกับท่านย่า ได้ซื้อเสื้อผ้าใหม่ ๆ ได้นั่งรถม้าคันใหญ่โต นอกจากนั้นยังได้ย้ายออกไปอยู่บ้านใหม่ที่หลังใหญ่โตมาก ทั้งชีวิตไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะได้อยู่ที่นี่แม้ว่าก่อนออกมาจะพบเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยดีนักเพราะท่านย่านั้นต้องบาดเจ็บ แต่ก็เป็นพี่สาวผู้นั้นที่เป็นผู้รักษาให้พวกเขาจึงคิดเอาไว้ว่านางนั้นถือว่าเป็นผู้ที่มีพระคุณกับพวกเขา ในอนาคตพวกเขาสองพี่น้องจะต้องรักและตอบแทนนางให้จงได้ แม้ต้องตายแทนก็ยอม…ต่อมาพวกเขาก็ต้องพบเรื่องไม่คาดฝันอีกครั้งเพราะพี่
ตอนพิเศษที่[1]ความเจ้าคิดเจ้าแค้นของเซี่ยเยว่จิน เยว่จินไม่ใช่คนที่ปล่อยวางอะไรได้ง่ายถึงเพียงนั้น โดยเฉพาะเมื่อหากตอนที่โดนรังแกหรือเมื่อคนที่รักถูกรังแก ไม่ว่าตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันนางไม่เคยที่จะปล่อยมันไปโดยง่าย จะต้องหาทางระบายเพื่อให้ความคับข้องใจให้หายไปและในคืนนี้ก็เช่นกัน…. หลังจากที่ทุกคนได้แยกย้ายเข้าพักในห้องของตนในบ้านหลังใหม่หลังออกจากหมู่บ้านซินเฉียวแล้ว ในช่วงค่ำของคืนนั้นเยว่จินได้เตรียมอำพรางตัว ก่อนที่จะลอบเดินเท้าด้วยรองเท้าพิเศษกลับไปที่หมู่บ้านอีกครั้ง ในตอนที่ทุกคนหลับใหลและไม่ได้คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น หญิงสาวยกยิ้มขึ้นราวกับมีแผนการบางอย่าง… เยว่จินแอบหยดบางอย่างลงไปในน้ำของชาวบ้านที่มาหาเรื่องตนและท่านย่าในวันนั้น ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้นำหมู่บ้านที่ไร้จริยธรรมและบ้านหานที่ไร้น้ำใจ นอกจากนั้นนางยังเอาฉี่แมวที่ให้ผู้อาวุโสอี้ไปรวบรวมนำมันไปราดที่หน้าบ้านของแต่ละคน เจ้าแก้แค้นเกี่ยวอะไรกับข้าด้วย ผู้อาวุโสอี้ กลิ่นฉี่แมวนั่นกลิ่นแรงฉุนเตะจมูกนัก นางในโลกก่อนก็เคยเลี้ยง จึงได้คิดว่ากลุ่มคนที่มีจิตใจสกปรกเช่นพวกเขา ก็ต้องได้รับอะไรที่สาสมกันเช่นนี้ เมื่อทุก
ตอนที่[36]บทสรุปความสุขที่หอมหวาน (ตอบจบ)บุรุษที่อยู่เรือนนาผู้นั้น ที่แท้เป็นถึงซ่งกั๋วกงและที่เขาเป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าถูกพิษ บัดนี้ชุนเยว่เกิดความละอายใจไม่น้อย กับความคิดของตนด้วยตนนั้นก็อัปลักษณ์แต่มีสิทธิ์อันใดไปตัดสินและรังเกียจผู้อื่นเช่นนั้น โดยที่ไม่รู้จักเขาดีเลยสักนิด“พี่เยี่ยนซีไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องนั้นหรอกเจ้าค่ะ ท่านไม่ต้องคิดมาก แล้วท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรเจ้าคะ” ล่าสุดที่รู้คืออีกฝ่ายกระโดดน้ำตายไปแล้วยามนั้นชุนเยว่จึงได้นึกเรื่องราวในวันนั้นก่อนจะเล่าออกมา“วันนั้นข้าตั้งใจที่จะกระโดดน้ำให้ตายไป ด้วยเสียใจที่ถูกบังคับและเสียใจที่ท่านพ่อท่านแม่ทำราวกับข้ามิใช่ลูก เพราะว่าข้าเกิดมาเป็นคนอัปลักษณ์ แต่ผู้ใดจะคาดคิดว่าในขณะที่ร่างของข้าลอยออกไปและกำลังจะหมดลมหายใจ กลับมีคนผู้หนึ่งมาดึงข้าขึ้นจากน้ำ…”“คนผู้นั้นนอกจากจะไม่รังเกียจข้า ยังให้กำลังใจและยอมรับทุกอย่างที่ข้าเป็นอย่างไม่นึกรังเกียจ เขาพาข้าเดินทางมาเริ่มชีวิตใหม่ที่เมืองหลวง รู้ตัวอีกทีก็มีบุตรกับเขาสองคนเสียแล้ว” ชุนเยว่ลูบท้องของตนไปมา นัยน์ตาเต็มไปด้วยความรักใคร่และความสุขยามพูดถึงสามีที่รออยู
ตอนที่[36]บทสรุปความสุขที่หอมหวาน (ตอบจบ)ปกติหญิงสาวมักจะไม่ปล่อยเรื่องราวพวกนี้ไปโดยง่าย แต่เหตุใดวันนี้จึงได้เอาแต่ยกยิ้มแปลก ๆ อยู่เช่นนั้น ทว่า“จัดการอยู่เบื้องหลังสนุกกว่าอยู่เบื้องหน้าอีกนะเจ้าคะท่านพี่” เมื่อได้ยินภรรยากล่าวเช่นนั้นเขาก็รู้แล้วว่าทุกอย่างไม่ได้ง่ายอย่างตาเห็น เมืองหนี่หรู่เป็นเมืองสุดท้ายที่พวกเขาจะบริจาคสิ่งของ แล้วจากนั้นก็จะได้เดินทางกลับเมืองหลวงเสียที ก่อนที่จะเดินทางกลับจึงเป็นเวลาที่พวกเขาจะได้ต่างแยกย้ายไปพักผ่อนกันก่อน แน่นอนว่าสองสามีภรรยาแห่งจวนตระกูลซ่งนั้นเลือกที่จะไปรำลึกความหลังกันที่บ้านเช่าหลังนั้น… พวกเขาได้ขอเช่าจากเจ้าของบ้านเป็นเวลาสามวันและให้บ่าวรับใช้ไปปัดกวาดเช็ดถูก่อนที่พวกเขาทั้งสองคนจะเข้าไปอยู่ “ท่านพี่ อ๊ะตรงนั้นไม่ได้นะเจ้าคะ” เสียงหวานเอ่ยทักท้วงก่อนที่จะน้ำเสียงจะแปรเปลี่ยนเป็นความเย้ายวนบางประการเมื่อสามีพยายามสัมผัสจุดอ่อนไหวของนาง ซ่งเยี่ยนซีเอาวนอยู่กับร่างกายหอมของภรรยาอย่างไม่รู้เบื่อพวกเขาใช้เวลาอยู่ที่บ้านเช่าหลังนั้นอย่างเต็มที่และคุ้มค่ามากที่สุด องค์รัชทายาทที่รู้ว่าสหายและภรรยานั้นหนีไปทำอันใดกันก็ได้แต่เขี่ย
ตอนที่[36]บทสรุปความสุขที่หอมหวาน (ตอบจบ) ด้านเถาเจียที่ได้ยินคนพูดถึงชื่อของสตรีผู้หนึ่งที่ตนไม่ได้ยินมานานและไม่ชอบหน้าจนกระทั่งกุข่าวลือที่ไม่ใช่เรื่องจริงเพื่อใส่ความอีกฝ่ายจนเกิดการแพร่กระจายออกไปช่วงหนึ่ง ก็ชะงักแข็งค้างไปครู่หนึ่ง เพราะความทรงจำครั้งล่าสุดจากสตรีผู้นี้ไม่ดีนัก ในค่ำคืนนั้นที่สตรีผู้นี้ย้อนกลับมาเล่นงานตน…‘ถ้าไม่อยากหน้าเน่าแล้วก็ปากเน่าก็อย่าเที่ยวเอาปากไปพูดจาสกปรกที่ใดอีก’ คำพูดนี้น่ากลัวนัก จากที่คิดว่าวันนี้จะได้ทำตัวโดดเด่นเพื่อไปเตะตาองค์รัชทายาทและซ่งกั๋วกงให้มากที่สุดก็เป็นอันต้องพับเก็บไป ได้แต่พยายามทำตัวให้ไร้ตัวตนมากที่สุด สตรีผู้นั้นจะได้ไม่เห็นนาง หากเป็นไปได้นางอยากจะกลับหมู่บ้านไปด้วยซ้ำ แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถกลับได้ เพราะต้องรอรับของบริจาคก่อน ทั้งไม่มียานพาหนะกลับไปอีก “สตรีไร้น้ำใจผู้นั้นเหตุใดจึงได้ไปนั่งในรถม้าของผู้สูงศักดิ์เช่นนั้น” ชาวบ้านหมู่บ้านซินเฉียวผู้หนึ่งยังไม่หายสงสัย ที่จู่ ๆ เห็นเยว่จินมากับผู้สูงศักดิ์จึงพากันเอ่ยความสงสัยของตนออกมา ทว่ามีหนึ่งในชาวบ้านหมู่บ้านที่ได้ยินพวกเขากล่าวไม่ค่อยดีเท่าไรนักจึงได้รีบเอ่ยขึ้น