Share

3 ตื่นๆๆ

Author: sammi'P
last update Last Updated: 2025-08-29 11:41:39

หากใครคิดจะขวางอย่าได้หมาย ไม่เพียงร่างกายของเธอที่ต้องตกอยู่ใต้อาณัติของเขา  หัวใจของทานตะวันก็ต้องตกเป็นทาสเสน่หาของเขา

หากไม่แล้ว...      

ฆ่าเขาให้ตายเสียดีกว่า...

เพราะรักจึงอยากครอบครองให้สมรัก เป็นหนึ่งเดียวกับเด็กสาวที่เฝ้าทนุถนอมมานาน เธอทำให้เขารู้สึกเร่าร้อนรุนแรงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่หรือเป็นเพราะโชคชะตาที่ทำให้เขาได้พบเธอ เด็กหญิงผู้ถูกทิ้งไว้ที่ท้ายรถกระบะของเขาเมื่อยี่สิบปีก่อนก็ไม่อาจรู้ได้...

“ตาภูมิ! เป็นอะไร ตาภูมิ!”

ภูมิที่กำลังฝันค้างถึงกับสะดุ้งตื่น ขยี้ตามองร่างตะคุ่มเจ้าของเสียงเรียกที่เห็นเลือนรางจากแสงสลัวที่ลอดผ่านม่านหน้าต่างเข้ามาแล้วต้องพรูลมหายใจหนักหน่วงเมื่อเห็นสายตาเป็นห่วงจากมารดา

“แม่”

“ก็แม่น่ะสิ เป็นอะไรล่ะเรา”

เจ้าของร่างท้วมผมสีดอกเลาลงนั่งข้างเตียงอังหลังมือกับหน้าผากชื้นเหงื่อของบุตรชาย ภูมิคว้ามือมารดาลงมากุมเหนือตักส่ายหน้าปฏิเสธ

“ผมไม่เป็นไรครับ”

            “นี่ขนาดไม่เป็นไรนะ ร้องหาตะวันมันซะเสียงหลงเลย”

“ผมเปล่าซะหน่อย”

“ย่ะ ให้มันจริงเถอะ แม่ก็นึกว่าแกว้าวุ่นเรื่องที่ไร่โน้นส่งคนมาทาบทามตะวันให้หนุ่มๆ บ้านเขาซะอีก”

“แล้วพวกบ้านนั้นเกี่ยวอะไรกับผมล่ะ”

“อ้าว! ตกลงเรื่องสู่ขอตะวันไม่เกี่ยวกับแกหรอกเหรอ”

“ก็ไม่เกี่ยวสิครับ ผมว่าพรุ่งนี้เช้าจะเข้าไร่ไปดูเด็กเก็บผลไม้รอบสุดท้ายซะหน่อย”

“แล้วจะได้แจ้นไปรับตะวันสินะ” มารดาหยอก

“ไม่ใช่ซะหน่อยน่ะแม่!”

ภูมิถึงกับหงุดหงิด รีบผุดลุกยืนคว้าผ้าขนหนูมาพันเอวปิดบ็อกเซอร์ที่สวมนอน มารดาได้แต่ส่ายหน้าระอาใจ พลันเหลือบไปเห็นบางอย่างที่บนเตียงนอนลูกชาย นางจึงได้แต่ยิ้มอย่างมีเลศนัย

“คนเรานี่ก็นะ ปากแข็งเหมือนหินแต่ใจไม่ยักกะแข็งเหมือนปาก นี่คงคิดมากจนเก็บเอาไปฝันถึงสิท่า”

“โธ่ แม่ครับ!” ภูมิเหลือบไปเห็นคราบวาวบนที่นอนแล้วถึงกับตาเหลือก รีบก้าวยาวๆ กระโดดขึ้นเตียงแล้วคว้าผ้าห่มคลุมปิดมิดคอ ก่อนจะเอ่ยคำพูดแก้เก้อ “แม่ไปนอนเถอะ”

“ไม่อยากรู้เรื่องบ้านโน้นจริงเหรอ”

“ก็เรื่องตะวันกับไอ้พวกไร่ฝั่งโน้นมันไม่ได้เกี่ยวกับผมซะหน่อย...”

“ฉันจะคอยดู”

“คอยดูได้เลย” ภูมิเสียงสั่นเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆ ปรับอารมณ์ให้นิ่งแต่ก็ต้องหลบสายตามารดาที่มองจ้องจับผิด ได้แต่ยิ้มกลบเกลื่อน ”จริงๆ นะแม่!”

“ย่ะ แกจะตัดสินใจยังไงก็รีบๆ เข้าล่ะ ขืนชักช้าอย่ามาร้องไห้งอแงให้ฉันเห็นก็แล้วกัน”

“โธ่! แม่! ผมไม่ใช่เด็กๆ”

“ในสายตาคนเป็นแม่ ถึงลูกจะโตกว่าควายยังไง ก็ยังเด็กอยู่ดีนั่นล่ะ”

“แม่เอาผมไปเปรียบกับควายเลยเหรอ”

“ก็ใช่น่ะสิ” ภาคินีค้อนขวับเข้าให้ “จะทำอะไรก็ให้รีบๆ เข้า ระวังจะเสียใจทีหลัง”

ภูมิอ่อนอกอ่อนใจ นี่ใครใช้ให้แม่ของเขารู้ทันเสียทุกเรื่องกัน...

ภูมิรู้สึกอับจนคำพูด ไม่ว่าตอนนี้หรือตอนไหน เขาก็พ่ายแพ้ต่อคำพูดของผู้หญิงบ้านนี้มาตลอด ทานตะวันก็คนนึงเก่งนักพูดให้ใจหวั่นไหว คราวนี้มารดาของเขาก็พอกัน ขยันเติมเชื้อไฟเสียจริง

เขาเริ่มหวั่นใจว่าจะโดนแย่งของรักแล้วสิ!

“ไม่กวนแกแล้ว นอนได้แล้ว”

“ครับ”

ภูมิมองตามหลังมารดาที่ปิดประตูห้องเสร็จ เขาจึงล้มตัวลงนอนนึกถึงความฝันเมื่อครู่ มันเสมือนจริงจนเขาแทบบ้า

โธ่! ไอ้ภูมิ ไอ้สมภารคิดจะกินไก่วัด!”

ภูมิก่นด่าตัวเองในใจด้วยความหงุดหงิด คิดว่าเพราะไม่ได้เจอทานตะวันนานพอที่จะทำให้ความรู้สึกเสน่หาที่มีต่อเธอเบาบางลง

แต่ไม่ใช่เลย...

มันยังคุกรุ่นอยู่ในใจ เหมือนตกอยู่ในบ่วงรักลุ่มหลงในตัวทานตะวัน

เธอเป็นสมบัติของเขา...

ของเขาคนเดียว...

ภูมิหลับตาล้มตัวลงนอนอีกหนพยายามข่มตาหลับ แต่ภาพในฝันเมื่อครู่ยังวนเวียน เขาหลับตาแล้วปล่อยใจล่องลอยไปไกลในจินตนาการ ยิ่งรู้ข่าวว่าคนไร่ข้างๆ มาทาบทามสู่ขอทานตะวันให้หลานชาย เขายิ่งนอนไม่ได้

โธ่โว้ย! ไอ้บ้า!

ภูมิผุดลุกนั่งกุมขมับทึ้งดึงหัวตัวเองอย่างบ้าคลั่ง จะทำยังไงให้หลับตาลงได้ แค่คิดว่าจะมีใครมาแย่งของรักก็แทบจะทนไม่ไหวแล้ว!

ในที่สุดภูมิก็นอนไม่หลับ...

ร่างสูงกำยำผุดลุกผุดนั่งทั้งคืนกว่าจะได้งีบก็เกือบเช้า กระทั่งแสงจากโทรศัพท์สว่างขึ้นพร้อมเสียงนาฬิกาปลุกแผดร้อง ภูมิจึงสะดุ้งตื่น

ด้านนอกฟ้ายังมืดแต่ภูมิตัดสินใจว่าจะรีบออกเดินทางไปรับทานตะวันกลับไร่ก่อนฟ้าสาง

ชายหนุ่มสตาร์ทรถญี่ปุ่นสี่ประตูคู่ใจ แต่ไม่ทันจะได้ออกรถก็โดนเงาของใครคนหนึ่งกระโดดเข้ามาขวางเสียก่อน ชายหนุ่มถึงกับสะดุ้งที่ถูกจับได้จึงเปิดหน้าต่างชะโงกหน้าออกไปหาคนที่สีหน้าไม่สู้ดีตรงหน้า

“โดดมาขวางอยากตายรึไง” ภูมิเอ็ด

แทนที่คนโดนให้พรแต่เช้าจะสลดกลับหรี่ตามองพร้อมคำฝากฝังชุดใหญ่

“แม่นายฝากมาบอกว่าให้พ่อเลี้ยงรีบพาคุณตะวันกลับบ้าน อย่าพาไปเถลไถลที่ไหนค่ะ”

“ฉันไม่ได้จะไปรับตะวัน” ภูมิคอแข็งตอบแต่พอเห็นสีหน้าเจ้าเล่ห์ราวกับรู้ทันของคนสนิทมารดา เขาจึงรีบบอก “ฉันจะไปดูไร่ตะหาก”

“แต่ทุกทีถ้าพ่อเลี้ยงไม่มีธุระไปต่างจังหวัดก็ไม่ขับคันนี้... เอ หรือแม่นายเข้าใจผิด”

“เออ... ก็ประมาณนั้นแหละ ไปไร่ก่อนแล้วจะแวะไปธุระในเมืองน่ะ”

“อ๋อ... ไปธุระในเมือง”

“แต่ไมได้ไปรับตะวัน”

“อ๋อ....”

น้ำเสียงยานคางรู้ทันของอีกฝ่ายทำให้ภูมิจิ๊จ๊ะขัดใจก่อนโบกมือไล่แล้วรีบขับรถออกไปทันที เขาทันได้เห็นมารดามองมาจากริมระเบียง สีหน้าของมารดานั้นดูนิ่งสงบ แต่ริมฝีปากที่ยกยิ้มขณะมองตามทำให้ภูมิรู้สึกสะท้าน เพราะถูกจับได้ไล่ทันเข้าให้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บ่วงรักทานตะวัน   7 โลลิ

    ทานตะวันไม่ได้ท้วงต่อเพราะกลัวจะทำให้อาหนุ่มหงุดหงิดไปอีกจึงเงียบไป ภูมิลอบมองดวงหน้าเรียวแล้วแอบยิ้มนิดๆ แต่เมื่อเหลือบมองกระจกอีกทีเห็นดวงตาเต็มไปด้วยคำถามจากเด็กสาวมองอยู่ก็กลอกตามองถนนก่อนเอื้อมมือไปเปิดดีวีดีให้เด็กสาวดูทำลายความเงียบ“ดูหนังดีกว่านะ... อาว่า” ชายหนุ่มแก้เก้อ“ค่ะ”“ดูอะไรดี”“แล้วแต่อาภูมิเลยค่ะ” ทานตะวันพยักเพยิดให้อาหนุ่มภูมิจึงกดเปิดแผ่นหนังที่ค้างอยู่ในเครื่องเล่นโดยไม่ได้ดูว่าเป็นเรื่องอะไร กระทั่งเสียงดังขึ้นพร้อมหน้าจอปรากฏภาพดาราฮอลลีวู๊ดหนุ่มใหญ่กำลังเล่นฉากรักถึงพริกถึงขิงกับเด็กสาวผมเปียยาวรุ่นราวคราวลูก แถมเสียงใส่อารมณ์ในฉากรักทำให้ทั้งคนเปิดและคนฟังต่างหน้าม้านไปตามๆ กัน“เอ่อ...” ภูมิแทบสำลัก อ้ำอึ้งไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาอธิบายเมื่อดูสีหน้ากระอักกระอ่วนของทานตะวันชายหนุ่มถึงกับสบถในใจ ก็ระหว่างรอเธอเขาเปิดหนังดูแก้เบื่อ เผอิญว่าเป็นแผ่นเก่าเก็บที่มีคนให้แล้วไอ้ตัวแสบนั่นก็เลือกแผ่นนี้ให้บอกว่าเขาต้องชอบโธ่เว้ย!ไอ้เวรนั่น!“อา อาว่า...”“อาภูมิดูหนังแนวนี้ด้วยเหรอคะ”“อืม มีคนให้มาน่ะ อาว่าเรื่องนี้หนังดีนะ”“เอ่อ... ถึงดีแต่ก็ไม่น่าดูค่ะ เดี๋ยวน

  • บ่วงรักทานตะวัน   6 อาภูมิคนพาล

    “อาภูมิอย่ามาพาลกะตะวันนะคะ ตะวันกับเพชรเป็นเพื่อนกันไม่เหมือนอาภูมิกับอาสร้อยสักหน่อย”“ทานตะวัน!” ภูมิเริ่มหัวเสียเช่นกัน“ตะวันจะบอกอีกครั้งว่าตะวันกับเพชรเป็นแค่เพื่อนกันค่ะอาภูมิ”“ได้ยินแล้ว” ภูมิเสียงอ่อนลงก่อนจะบ่นเบาๆ “อาไม่ได้หูตึงที่ถามเพราะเป็นห่วง จะมาหงุดหงิดใส่อาทำไม”ฮึ...ภูมิทำอย่างกับหึงหวงเธอ...หึงหวง!เป็นไปไม่ได้หรอก เธอไม่ได้สำคัญสำหรับเขาขนาดนั้นแล้วถ้าเธอสำคัญล่ะ!แต่แค่คิดทานตะวันก็อดยิ้มอย่างลืมตัวไม่ได้ ภูมิเหลือบเห็นสีหน้าหลานสาวก็เบรครถเสียงดังเอี๊ยดจนทานตะวันถึงกับตื่นจากภวังค์“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ได้ ติดอกติดใจของกำนัลจากมันมากรึไง เอาไว้อาจะปลูกดอกไม้เพิ่มอีกสักสิบไร่ให้เราดมจนจมูกตันไปเลย” “โธ่! ทำไมอาภูมิคิดแบบนั้นละคะ”“อาเปล่าคิด”“นี่แหละค่ะคิดแล้ว”ภูมิอึ้ง ยิ่งโตทานตะวันยิ่งต่อปากต่อคำเก่งเป็นที่สุด เขาเหลือบมองหญิงสาวครู่หนึ่งก็ต้องละสายตาทำทีมองทางตรงหน้าเพราะทานตะวันจ้องเอาๆ“ไปได้แล้วเดี๋ยวไม่ทัน”“ไม่ทันอะไรคะ”แต่ทานตะวันไม่ได้คำตอบ เธอไม่ชอบใจเลยที่ภูมิชอบมีท่าทีห่างเหินทั้งที่นานๆ จะเจอกันที เขาคงไม่รู้ว่าเธอแอบรอวันที่จะได้กลับบ้าน

  • บ่วงรักทานตะวัน   5 ไมไ่ด้หวงแต่หึงเว้ย!

    ทานตะวันกอดอกเชิดหน้าอย่างภูมิใจ“งั้นก็รับไปซะทีสิ เพชรอายคน” เด็กหนุ่มยืนสิ่งของในมือให้แล้วพูดน้ำเสียงรื่นรมย์ “ในที่สุดก็จบซะทีนะเราสองคน”“อืมมมม... ขอบใจที่คอยติวให้ เพชรน่ารักที่สุดเลย”“ก็แค่อยู่นานกว่าตะวันปีนึงเองไม่ได้เก่งอะไร” พัชระแก้เก้อทานตะวันรู้ความหมายในคำพูด พัชระเป็นเพื่อนร่วมชั้นปีแต่อายุมากกว่าเธอหนึ่งปีเพราะเข้าเรียนช้ากว่าเกณฑ์ เหตุผลใดเธอไม่อาจรู้ได้และไม่เคยถาม แต่คิดว่าน่าจะเกี่ยวกับอาภูมิไม่มากก็น้อย“ตะวัน”“หือ” เด็กสาวถึงกับสะดุ้ง“จะเอาไปได้ยัง”ทานตะวันหยิกแก้มหนุ่มน้อยแล้วรับดอกไม้ช่อโตมาสูดดมด้วยความยินดีดวงตาของเธอเป็นประกายจนเด็กหนุ่มอดมองด้วยความชื่นชมไม่ได้ กว่าจะรู้ตัวก็ได้ยินเสียงปิดประตูรถดังปังด้านหลังทำให้เด็กหนุ่มละสายตาจากคนน่ารักจ้องไปทางหนุ่มใหญ่ด้วยความขยาด“ท่าทางยักษ์จะอยากกินตับเราแล้ว ตะวันกลับไปเหอะไป”“ขอบใจนะ แต่วันนี้ตะวันไม่มีของขวัญให้เพชรเลย ต๊ะไว้ก่อนนะ” เด็กสาวบอกกล่าวสีหน้าแหยรู้สึกผิด แต่อีกฝ่ายยีผมเธอด้วยความเอ็นดู“ไม่ต้องหรอก แค่ให้เพชรไปหามั่งก็พอ อยู่ใกล้กันแค่รั้วไม้กั้นเอง”“โอเค... งั้นวันนี้เพชรกลับด้วยกันปะ”“

  • บ่วงรักทานตะวัน   4 สาบานว่าไม่ได้หวง

    จบซะที... ทานตะวันมองไปรอบบริเวณด้วยความรู้สึกอาลัยอาวรณ์ ตลอดสี่ปีที่เรียนที่นี่ ไม่มีวันไหนที่เธอจะรู้สึกใจหายเหมือนวันนี้ วันที่รู้ว่ากำลังก้าวออกไปสู่โลกกว้างอีกช่วงหนึ่งของชีวิตเธอไม่รู้เลยว่าต่อจากนี้จะมีสิ่งใดรออยู่...“ตะวันๆ ดูโน่นสิ” “อะไร” “โน่นไง ดูสิ” ทานตะวันปัดมือเพื่อนที่เขย่าแขนเธอขณะกำลังเก็บโน้ตบุ๊กตัวเก่งลงกระเป๋าทำให้กล่องกระดาษสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดเล็กเกือบร่วงหล่นลงพื้นโชคดีที่เด็กสาวคว้าไว้ได้ทัน “สานี่ยังไง เกือบทำของหวงของตะวันตกพื้นและนะ” “ช่างของมันก่อนเหอะน่า ดูโน่นก่อนว่าใครมา!”สารสาไม่วายพยักเพยิดให้ ทานตะวันมุ่นคิ้ว หน้างอเพราะความรำคาญ“ใครมาก็ช่างสิ ไม่เกี่ยวกับเราซะหน่อย เรากำลังรีบอย่าเพิ่งกวน”“กลัวคนที่บ้านมารอนานงั้นเหรอ” สารสาลากเสียงยานคางทานตะวันจึงจีบนิ้วเรียวดีดเข้ากลางหน้าผากเพื่อนสนิททันที“โอ๊ย! ดีดหน้าผากเราทำไมอะตะวัน”“ก็สากวน ไม่เห็นเหรอเรารีบ”“ก็เห็นน่ะสิ ถึงได้บอก” สารสาว่าแล้วก็ชี้มือไปอีกทางก่อนเอ่ยเสียงน้อยใจ “นึกว่าตะวันจะดีใจที่ไหนได้.. ฮึ“เสียงของสารส

  • บ่วงรักทานตะวัน   3 ตื่นๆๆ

    หากใครคิดจะขวางอย่าได้หมาย ไม่เพียงร่างกายของเธอที่ต้องตกอยู่ใต้อาณัติของเขา หัวใจของทานตะวันก็ต้องตกเป็นทาสเสน่หาของเขาหากไม่แล้ว... ฆ่าเขาให้ตายเสียดีกว่า...เพราะรักจึงอยากครอบครองให้สมรัก เป็นหนึ่งเดียวกับเด็กสาวที่เฝ้าทนุถนอมมานาน เธอทำให้เขารู้สึกเร่าร้อนรุนแรงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่หรือเป็นเพราะโชคชะตาที่ทำให้เขาได้พบเธอ เด็กหญิงผู้ถูกทิ้งไว้ที่ท้ายรถกระบะของเขาเมื่อยี่สิบปีก่อนก็ไม่อาจรู้ได้...“ตาภูมิ! เป็นอะไร ตาภูมิ!”ภูมิที่กำลังฝันค้างถึงกับสะดุ้งตื่น ขยี้ตามองร่างตะคุ่มเจ้าของเสียงเรียกที่เห็นเลือนรางจากแสงสลัวที่ลอดผ่านม่านหน้าต่างเข้ามาแล้วต้องพรูลมหายใจหนักหน่วงเมื่อเห็นสายตาเป็นห่วงจากมารดา“แม่”“ก็แม่น่ะสิ เป็นอะไรล่ะเรา”เจ้าของร่างท้วมผมสีดอกเลาลงนั่งข้างเตียงอังหลังมือกับหน้าผากชื้นเหงื่อของบุตรชาย ภูมิคว้ามือมารดาลงมากุมเหนือตักส่ายหน้าปฏิเสธ“ผมไม่เป็นไรครับ” “นี่ขนาดไม่เป็นไรนะ ร้องหาตะวันมันซะเสียงหลงเลย”“ผมเปล่าซะหน่อย”“ย่ะ ให้มันจริงเถอะ แม่ก็นึกว่าแกว้าวุ่นเรื่องที่ไร่โน้นส่งคนมาทาบทามตะวันให้หนุ่มๆ บ้านเขาซะอีก”“แล้วพวกบ้านนั้นเกี่

  • บ่วงรักทานตะวัน   2 คิดลึก

    “ก็เท่ากับทิ้งคุณย่ากับตะวันอยู่ดี” เด็กหญิงอิดออดเสียงสั่น โผเข้ากอด“ตะวัน... ปล่อยอา” ภูมิส่งเสียงสั่นเทาโดยไม่หันกลับไปมอง ก้มมองสองมือเรียวที่กำแน่นอยู่เหนือหน้าท้องของเขาด้วยความรู้สึกอึดอัด “ปล่อยอา... ตะวัน” “ไม่ปล่อยค่ะ ตะวันไม่ปล่อย!” เด็กสาวดื้อแพ่ง สองมือกุมกันแน่นเข้าทำให้ภูมิรู้สึกถึงสรีระที่เปลี่ยนไปของเธอ ทานตะวันเริ่มเป็นสาวแล้ว...เธอไม่ใช่เด็กหญิงที่เขาอุ้มพาดบ่าหรือพาขี่คอเที่ยวชมทุ่งหญ้าแปลงดอกไม้ใบหญ้าบานสะพรั่งเหมือนเดิม เขากลัวว่าจะอดใจไม่ไหวจนทำเรื่องเลวร้ายกับเธอ... “กอดพอแล้ว ทีนี้จะปล่อยอาได้รึยัง” ภูมิเอ่ยเสียงแผ่วแกะมือน้อยๆ ที่ยังขัดขืนอยู่ “ทำไมอาภูมิต้องไปอยู่ที่อื่นด้วย” เธอถามเสียงเศร้าสร้อย“ก็อาบอกหลายรอบแล้วว่าต้องไปทำงาน”“ทำที่ไร่นี้ได้นี่คะ”“งานอาไม่ได้มีแต่ที่ไร่นะตะวัน”“อาภูมิคิดอีกทีไมได้เหรอคะ ตะวันขอร้อง”เฮ้อ...ภูมิอ่อนใจ อะไรมันจะพูดยากพูดเย็นขนาดนี้กัน!“ช่วงที่อาไปทำงานในเมือง ตะวันก็คอยอยู่กับคุณย่าดูแลคุณย่าแทนอาด้วยนะ อาไม่มีใครอีกแล้วนอกจากตะวัน ทำให้อาได้ไหม” เขาตอบพลางย้อนถามเธ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status