"ตราบใดที่นายไม่ทำสิ่งผิดกฎหมายทำไมฉันจะต้องผิดหวัง?" เธอถามขณะใส่ถุงเท้าและรองเท้าอีกครั้ง จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นและเดินไปที่โต๊ะสี่เหลี่ยมเล็ก ๆเขายิ้มและมองเธอกลับไป ดวงตาของเขาเป็นประกายและเขากระซิบกับตัวเองว่า "ก็ดี พี่สาว ฉันหวังเป็นอย่างยื่งว่าเธอจะไม่ผิดหวังในอนาคต"—ตั้งแต่คืนนั้นที่คลับ หลิง ลั่วอิน รู้สึกวิตกกังวล อย่างไรก็ตามการแสดงออกของผู้ช่วยผู้กำกับเหอในวันนั้นเป็นเรื่องแปลก ๆ ชอบกลและในวันต่อมาผู้ช่วยผู้กำกับเหอก็ไม่ปรากฏตัวในที่ทำงานอีกเลย หลังจากนั้นอีกวันผู้กำกับก็ถูกเปลี่ยนไปสำหรับเหตุผลดูเหมือนไม่มีใครในทีมงานภาพยนตร์ที่สามารถอธิบายได้ อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลบางประการ หลิง ลั่วอิน รู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงของผู้กำกับภาพยนตร์มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ช่วยผู้กำกับ เมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้มากขึ้นเธอก็เริ่มกลัวว่ามันจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับหลิง อี้หรานสำหรับเรื่องเหตุผลแล้ว ไม่มีใครในทีมงานภาพยนตร์ที่จะสามารถอธิบายมันได้เลย อย่างไรก็ตามด้วยเหตุผลบางอย่าง หลิง ลั่วอิน รู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงของผู้กำกับภาพยนตร์มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ช่วยผู้กำกับเหอ เมื่อเธอนึกถึงเรื่องนี้มากข
หลิงกว๋อจื้อ ฟางซุ่ยเอ๋อและหลินลั่วอินมองหน้ากันฟางซุ่ยเอ๋อยากจะด่าอีกแต่จู่ ๆ หลิงกว๋อจื้อก็ห้ามไว้ "เอาเถอะ บางทีหมอนั่นอาจออกจากคุกมาเหมือนกัน! ในคุกมีคนอยู่ทุกประเภท ใครจะรู้ว่าทำไมเขาถึงได้ติดคุก"เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฟางซุ่ยเอ๋อก็ลังเลแล้วพูดว่า "แล้วพวกเราจะปล่อยมันไปแบบนั้นเหรอ?"หลิงกว๋อจื้อลังเลอยู่ครู่หนึ่งและกล่าวว่า "รอดูก่อนเถอะ ถ้าผู้ช่วยผู้กำกับเหอจะเอาเรื่องลั่วอิน เราก็ค่อยคิดหาทาง" เขาไม่มีความกล้าที่จะเผชิญชายคนนั้นอีกหลิงลั่วอินขมวดคิ้ว ชายคนเมื่อกี้เคยอยู่ในคุกจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ แม้ว่าดวงตาของชายคนนั้นถูกปิดไว้ด้วยผมหน้าม้า แต่เธอก็ยังสังเกตเห็นได้ว่าเขาดูดี…อีกอย่างเธอรู้สึกว่าผู้ชายคนนั้นดูคุ้น ๆ เหมือนกับว่าเธอเคยเห็นเขาที่ไหนมาก่อนหรือชายคนนี้อยู่ในแวดวงบันเทิงด้วย?ในห้องเช่า หลิงอี้หรานมองอี้จิ่นหลีและพูดว่า "ขอบใจนะ" ถ้าจินไม่กลับมาเธอคงจะถูกพ่อของเธอทุบตีไปแล้วเมื่อกี้นี้ "ฉันก็แค่ช่วยพี่สาว ไม่มีอะไรต้องขอบคุณหรอก นั่นเป็นเรื่องที่ฉันควรทำอยู่แล้ว" เขาพูดพร้อมมองไปที่ข้อเท้าของเธอ "มันยังไม่หายดีเลยนะ ฉันจะทาน้ำมันไพลให้พี่เอง"ในขณะที่เขาพู
ย้อนกลับไปตอนนั้นในคุกหลิงอี้หรานตัวคนเดียว ถ้าเหลียนอีไม่มาเยี่ยมเธอบ่อย ๆ เพื่อให้กำลังใจเธอและวิ่งเต้นเรื่องคดีเพื่อเธอ หลิงอี้หรานอาจไม่ได้ออกจากคุกมาแบบมีชีวิตก็เป็นได้เหลียนอีเป็นคนที่คอยให้การดูแลสนับสนุนเธอตลอดสามปีที่ผ่านมาฟางช่วยชีวิตเหรอ? ดวงตาของอี้จิ่นหลีเปล่งประกาย ชินเหลียนอีดูเหมือนจะมีตำแหน่งพิเศษในหัวใจของหลิงอี้หราน อี้จิ่นหลีถาม "แล้วพี่ไม่คิดเหรอว่ามันเป็นเรื่องตลกที่เห็นคน ๆ หนึ่งเป็นฟางช่วยชีวิต? หากวันหนึ่งถ้าฟางช่วยชีวิตทอดทิ้งพี่ไปแล้วพี่จะไม่รู้สึกสิ้นหวังเหรอ?”“เหลียนอีไม่มีวันทำแบบนั้นแน่นอน” เธอพูดอย่างมั่นใจ ดวงตาเธอฉายแววเชื่อมั่นอี้จิ่นหลีไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกไม่สบายใจ เขาไม่ชอบที่หลิงอี้หรานเชื่อใจคนอื่นเหมือนเธอจะทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อคน ๆ นั้น…หลายวันต่อมาปริมาณงานของหลิงอี้หรานก็เพิ่มขึ้นอย่างมากเนื่องจากเจ้าหน้าที่บริหารจากศูนย์บริการสุขาภิบาลจะเข้ามาตรวจสอบ ในบางครั้งเธออาจจะต้องทำงานล่วงเวลา โชคดีที่เมื่อเธอกลับบ้านมา จินจะเตรียมอาหารเย็นไว้รอเธอและนั่นทำให้หัวใจของเธออบอุ่นขึ้น เธอเคยบอกจินว่าให้เขากินข้าวเย็นไปก่อนถ้าเธอกลับบ้านด
"รุ่นนี้ก็ดีพอแล้ว!" เขาตัดบทเธอแล้วก้มศีรษะลงเพื่อดูโทรศัพท์มือถืออย่างจริงจังทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเรียกว่า "โอ้ อี้หราน!"หลิงอี้หรานเงยหน้าขึ้นและเห็นเหมียวเจียยู่กับผู้หญิงอีกคนเดินตรงมาหาพวกเขา เห็นชัดว่าพวกหล่อนนั้นออกมาซื้อของกัน เมื่อพวกหล่อนเข้ามาใกล้ ๆ อี้หรานก็เห็นว่าผู้หญิงอีกคนคือเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายของเธอ จ้าวม่านเถียน“บังเอิญจังมาเจอเธอที่นี่ นี่แฟนเธอเหรอ?” เหมียวเจียยู่มองจินที่ยืนข้างอี้หรานหัวจรดเท้าก่อนที่อี้หรานจะทันตอบ จ้าวม่านเถียวก็พูดว่า "นี่เจียยู่ อย่าพูดเรื่องไร้สาระน่า ฉันได้ยินมาว่าอี้หรานมีแฟนเป็นคนรวย ผู้ชายคนนี้ไม่ได้แต่งตัวเหมือนคนรวยเลยสักกะนิด"ชุดเสื้อผ้าราคาถูกอะไรอย่างนี้!จ้าวม่านเถียนเลิกคิ้วขึ้น ใบหน้าสวยของเธอดูเหยียดหยามและเยาะเย้ยขณะที่เธอพูดว่า "โอ้! แฟนใหม่ของเธอรู้ไหมว่าเธอกำลังกวาดถนนอยู่น่ะ?"“เฮ้อ ม่านเถียน ทำไมเธอถึงพูดแบบนั้นล่ะ?” เหมียวเจียยู่ขัด“ฉันก็พูดถูกนี่? เธอบอกว่าตอนนี้อี้หรานทำงานกวาดถนนอยู่ในศูนย์บริการสุขาภิบาลหรอกเหรอ?!” จ้าวม่านเถียนกล่าวอย่างหยิ่งผยองย้อนกลับไปในโรงเรียนมัธยม หลิงอี้หรานเก่งกว่าจ้าวม่
จ้าวม่านเถียนรู้สึกโกรธและอับอาย เธอหันกลับออกไปทันทีโดยมีเหมียวเจียยู่รีบตามเธอไปหลิงอี้หรานรู้สึกราวกับว่าเธอกำลังชมดูการแสดง นาทีที่เธอก้าวออกมาจากตรงนั้นเธอก็เห็นคนสองสามคนทุบรถที่ดูเหมือนจะเป็นของจ้าวม่านเถียน"เกิดอะไรขึ้นกัน? เธอทำให้ใครบางคนขุ่นเคืองและโดนแก้แค้นหรือ?" หลิงอี้หรานถาม"ใครจะรู้ล่ะ?" อี้จินหลี่ตอบขณะที่ดวงตาของเขาเปล่งประกายกับริมฝีปากที่ยกยิ้ม “แต่มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา”อี้หรานเห็นด้วยและดึงเขาให้เดินตามไปที่ป้ายรถเมล์ทันใดนั้นอี้จิ่นหลีก็หยุดเดิน หลิงอี้หรานหันไปมองเขาและเห็นว่าเขาดูซีดเผือด เขาดูตกใจจับและจ้องไปที่ป้ายรถเมล์"เกิดอะไรขึ้น?" หลิงอี้หรานถามด้วยความกังวล“ปะ...เปล่า” อี้จินหลี่ตอบเมื่อการแสดงออกของเขากลับสู่สภาวะปกติ เขาตาฝาดเห็นผู้หญิงที่ขึ้นรถไปเป็นผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงที่ทิ้งสามีและลูกชายไม่น่าจะปรากฏตัวในบริเวณนั้นได้อี้จิ่นหลีตั้งสติและเดินตามอี้หรานต่อ“อย่าเดินตามรอยพ่อแม้ว่าลูกจะตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่งก็อย่ารักเธอทั้งใจ”“ความรักกลายเป็นสิ่งที่ไร้ค่าที่สุด เมื่อเธอไม่รักลูกอีกต่อไปมันจะไร้ประโยชน์แม้ว่าลูกจะคุกเข่าต่อหน้าเ
"ฉันยังอยู่นะ ฉันจะนอนบนพื้นข้างเตียงนาย นายจะเห็นฉันเมื่อนายเอียงหัวมาด้านข้าง" หลิง อี้หรานกล่าว"พี่อยู่กับฉันได้ไหม?" อี้จิ่นหลีพึมพำ แม้แต่เขาก็ไม่รู้ว่าสายตาของเขาเว้าวอนมากหลิงอี้หรานกัดริมฝีปากและลังเลสักพักก่อนที่จะพยักหน้ากล่าวว่า "ก็ได้" เธอยกผ้านวมที่พื้นแล้วนอนลงข้าง ๆ เขาตัวเธอเองยังประหลาดใจที่เธอยอมนอนข้าง ๆ ผู้ชาย อาจเพราะตอนนี้เขาดูเหมือนตุ๊กตาแก้วที่เปราะบางที่จะแตกได้ทุกเมื่อซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงต้องการปกป้องเขาหลังจากที่เธอนอนบนเตียงเธอก็ปิดไฟ มือซ้ายของเขาจับมือขวาของเธอไม่ยอมปล่อย"จิน ถ้านายรู้สึกแย่มาก เรียกฉันนะ" หลิงอี้หรานกล่าว"ฉันจะเรียก" อี้จินหลี่ตอบ นี่เป็นเพราะยาหรือเปล่านะ? เขารู้สึกดีขึ้นกว่าที่เคยป่วยครั้งก่อน ๆ หรือบางที...เป็นเพราะเธอเหรอ? ความอบอุ่นในมือของเขาทำให้รู้สึกสบายใจ“พี่จะอยู่กับฉันตลอดไปไหม?” อี้จิ่นหลีถามเบา ๆ"แน่นอน เราสามารถดูแลกันและกันต่อไปได้ ในอนาคตเมื่อนายแต่งงานและมีครอบครัวฉันก็จะยังคงดูแลนายต่อไป" เธอเห็นเขาเป็นสมาชิกในครอบครัวต่อไปแม้ว่าพวกเขาจะไม่เกี่ยวข้องกันเลยก็ตามอี้จิ่นหลีหลับตาลงอย่างช้า ๆ เสียงข
ร่างกายของหลิงอี้หรานแข็งทื่อ เมื่อใดก็ตามที่เธอได้ยินชื่อของสองคนนั้นเธอรู้สึกราวกับว่าเธอกำลังฝันร้าย!เธอรู้จักแหวนเพชร 6 กะรัต อย่างที่ว่าในข่าว แม้ว่าเธอจะพยายามหลีกเลี่ยงการอ่านข่าวเกี่ยวกับทั้งสองคน แต่เธอก็จะเห็นการพูดถึงเรื่องนี้เมื่อเธอใช้โทรศัพท์มือถือค้นหาข้อมูลเมื่อก่อนตอนที่เธอและเซียวจื่อฉีอยู่ในร้านเครื่องประดับเธอได้เห็นเพชรสีชมพู เซียวจื่อฉีเคยบอกเธอว่า "อี้หราน ถ้าคุณชอบผมจะซื้อให้คุณเป็นแหวนแต่งงานของเรา"อย่างไรก็ตามทั้งเซียวจื่อฉีและแหวนเพชรไม่ได้เป็นของเธอ“อี้หราน... คุณกำลังจะกลับบ้านหรือเปล่า?” เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้นหลิงอี้หรานเงยหน้าขึ้นและเห็นชายอายุประมาณ 30 ปี ยิ้มให้เธออย่างเขินอาย เขาไว้ผมสั้นและสวมเครื่องแบบของคนขับรถหลิงอี้หรานนิ่งไปชั่วขณะ ทันใดนั้นเธอก็จำได้ว่าเขาคืออากว๋อ คนขับรถของศูนย์บริการสุขาภิบาล"ใช่ค่ะ" หลิงอี้หรานตอบ“ผมว่างให้ผมไปส่งคุณที่บ้านนะ” กว๋อซิ่นหลี่รวบรวมความกล้าของเขาพูดหลิงอี้หรานจำที่พี่ซูบอกเธอว่าอากว๋อสนใจเธอ อากว๋อพยายามจีบเธอเหรอ? อย่างไรก็ตามหลิง อี้หรานไม่มีความตั้งใจที่จะมีความสัมพันธ์ใด ๆ “ไม่ต้องก็ได
หลิงอี้หรานหัวใจของเธอเต้นแรง เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันนะ?เธอรีบดึงมือออก ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อขณะที่เธอพูดว่า "เอาล่ะมานั่งกันเถอะ เพื่อไม่ให้อาหารเย็นก่อน" หลังจากพูดอย่างนั้นเธอก็ก้มศีรษะลงและเริ่มรับประทานอาหารอี้จิ่นหลียิ้มเมื่อเห็นว่าใบหน้าของอี้หรานแทบจะฝังอยู่ในชาม รอยยิ้มของเขาลึกขึ้นเมื่อเขาถามว่า "พี่ชอบฉันไหม พี่สาว?"“ฉันชอบนาย” หลิงอี้หรานตอบโดยไม่ลังเล"ฉันก็ชอบพี่เหมือนกันพี่สาว ฉันชอบพี่มาก" อี้จิ่นหลีกล่าวขณะที่เขาโค้งริมฝีปากของเขาเป็นรอยยิ้ม เป็นเวลานานมากตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เขาพบคนที่สามารถทำให้เขาสนใจได้…หลังจากการตรวจสอบจากสำนักบริหารจัดการเมืองสิ้นสุดลง เหมียวเจียยู่บอกกับหลิงอี้หราน ว่า "อี้หราน พวกเราจะนัดรวมตัวงานเลี้ยงรุ่นกับเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายของเราในสุดสัปดาห์นี้ มาร่วมงานกันเถอะ"นัดรวมตัวงานเลี้ยงรุ่น? หลิงอี้หรานหัวเราะ ด้วยสภาพปัจจุบันของเธอเธอจะถูกล้อเลียนถ้าเธอต้องไปที่งานนั้น เหมียวเจียยู่คงอยากให้เพื่อนสมัยมัธยมได้เห็นสภาพตอนนี้ของเธอ "ฉันไปไม่ได้ ฉันไม่ว่าง" หลิงอี้หรานตอบ“แต่…” เหมียวเจียยู่เริ่มพูด"ฉันต้องทำงานในช่วงสุดสัปดาห