Share

บทที่ 3

Author: ต้นไผ่น้อย
ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง หลิงอี้หรานจ้องมองเขาอยู่เงียบ ๆ ในตอนนั้นความเหงาที่เธอเคยรู้สึกเมื่อใดก็ตามที่เธอเพิ่งกลับมาที่อะพาร์ตเมนต์ดูเหมือนจะหายไป อาจเป็นเพราะมีคนอื่นอยู่ในห้องกระมัง?

หลังจากที่เขากินเสร็จ หลิงอี้หรานก็ทำความสะอาดจาน “ฉันมักจะนอนโดยเปิดไฟฉันหวังว่าคุณจะไม่รังเกียจนะคะ” เธอกล่าว นับตั้งแต่ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำเธอก็ติดนิสัยชอบเปิดไฟขณะนอนหลับ

“ไม่เป็นไร”

หลิงอี้หรานนอนลงบนเตียงในขณะที่เขานอนบนฟูกที่เธอปูไว้ที่พื้น

เธอหลับตาลงและพยายามอย่างมากที่จะหลับ เธอไม่รู้ว่ามันเริ่มต้นเมื่อใด แต่ในบางช่วงเวลาเธอเริ่มพบว่ามันน่ากลัวจริง ๆ ที่จะข่มตาให้หลับลง

เพราะเมื่อเธอหลับลงคราใด เธอมักจะฝันถึงช่วงเวลาที่อยู่ในคุก เธอจะถูกทุบตีทำให้อับอายและถูกทารุณกรรม... และทุกนิ้วยังคงรู้สึกถึงความเจ็บปวดจากการถูกหักและเล็บที่ถูกถอด …

หลายครั้งที่เธอคิดว่าเธอจะตายในคุก

อย่างไรก็ตามช่างน่าแปลกที่เธอนอนหลับจนกระทั่งพระอาทิตย์ขึ้นในคืนนั้น และฝันร้ายประจำของเธอก็ไม่มาเยือน

หลิงอี้หรานมองร่างที่นอนอยู่บนพื้นด้วยความงุนงง

มันเป็นเพราะเขางั้นเหรอ? เป็นเพราะเธอไม่ได้อยู่คนเดียวในห้องนี้อีกต่อไปและมีอีกคนอยู่กับเธอ?

ก่อนที่เธอจะรู้ตัว เธอลุกจากเตียงและค่อย ๆ นั่งยอง ๆ แล้ววางมือลงบนแก้มของเขา มือของเธอรู้สึกอบอุ่น

เขาเป็นคนจริงไม่ใช่สิ่งที่มาจากจินตนาการของเธอ เมื่อคืนเธอพาผู้ชายคนหนึ่งมาอะพาร์ตเมนต์ของเธอจริง ๆ

เมื่อเธอรู้สึกตัวก็พบว่าเขาตื่นแล้ว ดวงตาอันงดงามของเขาจับจ้องที่เธอ

“ขอโทษค่ะ” ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที “ ฉัน... ฉันแค่ ... นั่น... ถ้าคุณไม่มีที่จะไปคุณก็อยู่ที่นี่ได้”

เธอพูดอย่างรีบร้อน แต่หลังจากพูดไปแล้วเธอก็รู้สึกโล่งใจ

ใบหน้าสีแดงของเธอสะท้อนให้เห็นในรูม่านตาดำสนิทดั่งหินออบซิเดียนของเขาและร่องรอยของความประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา

“ถ้าคุณไม่ต้องการก็ทำเป็นว่าฉันไม่ได้พูดอะไร” เธอกล่าวเสริมพลางกัดริมฝีปากของเธอ

ในที่สุดริมฝีปากบางของเขาก็เปิดออกอย่างช้า ๆ "เธออยากให้ฉันอยู่ที่นี่เหรอ?" เสียงของเขาชัดเจนเหมือนดั่งน้ำใสฤดูในฤดูหนาว และยิ่งแจ่มชัดในห้องที่เงียบสงัดนี้

ถ้าผู้ชายคนอื่นพูดแบบนี้มันคงฟังดูเหมือนว่าพวกเขากำลังจีบเธออยู่ แต่เมื่อคำพูดนั้นมาจากปากเขา มันเหมือนกับว่าเขาแค่ถามคำถามง่าย ๆ ว่า "อยาก" หรือ "ไม่อยาก" ไม่มีความคลุมเคลือในคำพูดของเขาและแม้แต่ดวงตาของเขาก็สงบ

หลิงอี้หรานเม้มริมฝีปากของเธอ "ใช่ค่ะ ฉันอยากให้อยู่"

เขาจ้องมองเธอและรอยยิ้มก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากบางของเขา "ตกลง”

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเขายิ้ม แม้ว่ามันจะบางเบามาก... แต่ก็ดูสวยงามอย่างยิ่งสำหรับเธอ

หลิงอี้หรานไปทำงานและทิ้งเงิน 200 บาท ไว้ให้กับเขาเพื่อที่จะซื้ออาหารกินเอง

เมื่อชายหนุ่มออกจากอะพาร์ตเมนต์มีคนรอเขาอยู่ข้างนอกแล้ว หลังจากที่เห็นชายคนนี้ออกมาพวกเขาก็ทักทายเขาอย่างเคารพ "นายน้อยอี้"

“ไปกันเถอะ” อี้จิ่นหลี ตอบอย่างเเผ่วเบา

รถเมอเซเดส-เบนซ์สีดำคันหนึ่งจอดอยู่ตรงหน้าเขา อี้จิ่นหลีเข้าไปนั่งและมองเงิน 200 บาทในมือของเขา เป็นเวลาหลายปีแล้วที่มีคนให้เงินเขาแบบนี้และมันก็เป็นเงินแค่ 200 บาท

"นายน้อยอี้ครับ ผู้หญิงที่อยู่กับนายน้อยเมื่อคืนนี้เป็นคนงานรับจ้างของศูนย์บริการสุขาภิบาล เธอเริ่มเช่าที่อยู่อาศัยปัจจุบันของเธอที่นี่เมื่อเดือนที่แแล้ว และเพิ่งได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำเมื่อสองเดือนก่อน"

ในฐานะเลขาส่วนตัวของอี้จิ่นหลี เกาฉงหมิงเริ่มรายงานข้อมูลทั้งหมดที่พบทันทีที่พวกเขาขึ้นรถมา

“ออกจากเรือนจำเหรอ?”

“ใช่ครับ เธอชื่อหลิงอี้หราน เธอเคยเป็นเเฟนเก่าของเซียวจื่อฉีแห่งตระกูลเซียวครับ เธอถูกตัดสินว่าเมาเเละขับและทำให้คุณห่าวเหมยยวี่ตายเมื่อสามปีก่อน เธอถูกตัดสินจำคุกสามปีและใบอนุญาตทนายของเธอก็ถูกเพิกถอน"

เกาฉงหมิงกล่าวขณะที่เขาสังเกตการแสดงออกของเจ้านายอย่างระมัดระวัง

“หลิงอี้หราน…” อี้จิ่นหลี พึมพำชื่อนี้เบา ๆ ริมฝีปากบางของเขาโค้งเป็นรอยยิ้มขี้เล่นขณะที่เขาพูดว่า "ดี น่าสนใจ”

ตอนที่เขาตัดสินใจจะยอมแต่งงานกับตระกูลห่าว หลัก ๆ เป็นเพราะห่าวเหมยยวี่นั้นยืนกรานว่าจะแต่งงานกับเขา และเธอก็เป็นคู่ที่เหมาะสม หากว่าเขาต้องแต่งงานกับผู้หญิงสักคน ห่าวเหมยยวี่ก็เป็นตัวเลือกที่ดี

แต่เขาไม่คาดคิดว่าห่าวเหมยยวี่จะจบชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์

ถ้าหากว่าหลินอี้หรานรู้เรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างห่าวเหมยยวี่กับเขา เธอจะทำหน้าแบบไหนกันนะ?

คิดดูแล้วนี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่มีผู้หญิงจับมือเขาและพาเขาเข้าบ้าน เธอพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทาเล็กน้อยแต่มุ่งมั่นว่าเธอชอบเขา

“ฉงหมิง นายคิดว่าผู้หญิงแบบไหนที่เหมาะกับฉัน?” อี้จิ่นหลีถามออกมาไม่มีปี่มีขลุ่ย

“อะไรนะครับ?” ในครู่หนึ่งที่เกาฉงหมิงอึ้งไปไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร “ผมคิดว่านั่นขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการผู้หญิงแบบไหนนะครับนายน้อยอี้”

อี้จิ่นหลียักไหล่ “ส่งข้อมูลของหลิงอี้หรานให้ฉันที่โต๊ะทำงานด้วย”

“ได้เลยครับ” เกาฉงหมิงกล่าว นายน้อยอี้จู่ ๆ ก็ให้ความสนใจหลิงอี้หรานขึ้นมางั้นเหรอ?

เมื่อหลิงอี้หรานเลิกงาน เธอได้รับโทรศัพท์จากพ่อของเธอสั่งให้กลับบ้าน เขาบอกว่าไหน ๆ เธอก็ถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำมาแล้ว เธอควรที่จะไปจุดธูปไหว้เเม่ของเธอที่เสียไป

อี้หรานรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเพราะตั้งแต่ที่เธอออกมาจากคุก ครอบครัวของเธอก็ยิ่งอยากที่จะทำตัวห่างเหินกับเธอ ตลอดสามปีพวกเขาไม่เคยไปเยี่ยมเธอในคุกเลย เหมือนกับว่าเธอไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวอีกต่อไป

แม่แท้ ๆ ของเธอเสียชีวิตไปตอนเธอเด็กมากอายุได้สามขวบ สามเดือนต่อมาพ่อของเธอได้แต่งงานใหม่และแม่เลี้ยงของเธอก็ได้ให้กำเนิดลูกสาวอีกคนหนึ่งชื่อหลิงลั่วอิน ตั้งแต่ตอนที่เป็นเด็กหลิงอี้หรานรู้ดีว่าพ่อกับเเม่เลี้ยงของเธอนั้นลำเอียงรักน้องสาวมากกว่า เธอจึงตั้งใจทำงานอย่างหนักเพื่อให้ตัวเธอเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาดและเธอก็ได้ผลการเรียนดีมาโดยตลอด

ตลอดตอนเป็นเด็กจนวัยรุ่นไม่เคยมีใครต้องกังวลเรื่องการเรียนของเธอ ในที่สุดพ่อของเธอก็เริ่มอวดคนอื่น ๆ ว่าเขามีลูกสาวที่เรียนเก่ง เมื่อเธอและเซียวจื่อฉีเริ่มคบหากัน สถานะในบ้านของเธอก็อยู่ในจุดสูงสุด

พ่อของเธอเห็นเธอเป็นหน้าเป็นตาและแม่เลี้ยงของเธอก็ห่วงใยความเป็นอยู่ของเธอ แม้แต่น้องสาวของเธอก็พยายามจะพูดจาเยินยอเอาอกเอาใจ เธอรู้ว่าทั้งหมดเป็นเพราะสายสัมพันธ์ของเซียวจื่อฉี เขาเป็นทายาทของเซียวกรุ๊ป

ในเวลานั้นเธอยังคงอดไม่ได้ที่จะโหยหาความรักในครอบครัว แต่หลังจากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เธอก็ตระหนักว่าทุกอย่างเป็นเพียงภาพลวงตา

ตอนนี้ที่บ้านตระกูลหลิง หลิงอี้หรานนั่งฟังฟางซุ่ยเอ๋อบอกว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่หลิงลั่วอิน จะเข้าสู่วงการบันเทิงและเธอต้องรู้จักคนกว้างขวางหากจะได้รับบทบาทที่ดี

“อี้หราน เธอเองก็รู้ว่าครอบครัวของเราไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากนัก แต่ตอนนี้น้องสาวของเธอต้องการเงิน เอาเป็นว่า... เธอให้เรายืมเงินก่อนและเมื่อน้องสาวของเธอกลายเป็นดาราใหญ่ในอนาคตแล้วหาเงินได้เยอะ เราจะคืนให้ดีไหม? " ฟางซุ่ยเอ๋อกล่าวอย่างจริงจัง

“ฉันไม่มีเงินเลย” หลิงอี้หรานตอบอย่างรวบรัด

สีหน้าของฟางซุ่ยเอ๋อเปลี่ยนไปเป็นแข็งทื่อ แต่เเล้วเธอก็ยิ้มออกมาเล็กน้อยและพูดว่า “เธอไม่มีเงิน แต่เซียวจื่อฉีมีเงินนี่ใช่ไหม? เธอเคยคบกับเขาแต่ทันทีที่เธอเกิดเรื่องเขาก็เลิกกับเธอ เขาควรจะจ่ายชดใช้ให้บ้างไม่ใช่เหรอ?”

“น้าฟาง ทั้งน้า พ่อแล้วก็ลั่วอินก็ทำตัวห่างเหินกับฉันทันทีที่ฉันเกิดเรื่องไม่ใช่เหรอ?” อี้หรานตอบ

หลิงกวอจื้อพ่อของเธอพูดอย่างเกรี้ยวโกรธ "อะไร ตกลงว่านี่แกมาเพื่อรื้อฟื้นเรื่องเก่า ๆ เหรอ?ถ้าตอนนั้นแกไม่ได้ฆ่าคนตาย น้องสาวของแกคงจะได้รับเลือกให้เป็นดารานำไปนานแล้วและคงกลายเป็นดาราใหญ่ไปแล้ว!"

หลิงอี้หรานยิ้มอย่างเหน็บแนม เธอรู้ว่าที่หลิงลั่วอินได้รับเลือกให้เป็นนักแสดงนำเป็นเพราะเซียว กรุ๊ปเป็นหนึ่งในผู้ลงทุนของซีรีส์ทางทีวีและเซียวจื่อฉีได้บอกให้หลิงลั่วอินเป็นดาราตัวนำต่างหาก เมื่อเธอเลิกกับเซียวจื่อฉี บทบาทดารานำของหลิงลั่วอินก็ลอยหายวับไปในอากาศเป็นธรรมดา

“พี่สาว พี่ยังแค้นที่พวกเราไม่ช่วยพี่ตอนที่อยู่ในคุกเหรอ?” หลิงลั่วอินถามอย่างแผ่วเบา

“ในตอนนั้นพี่ทำให้ตระกูลห่าวและอี้จิ่นหลีขุ่นเคือง! แม้แต่ตระกูลเซียวจนสั่งให้เซียวจื่อฉีเลิกกับพี่ทันที แล้วครอบครัวของเราจะไปทำอะไรได้ล่ะ? ในตอนนั้นถ้าพวกเรายืนอยู่ข้างพี่และช่วยเรื่องคดี ทั้งครอบครัวของเราอาจทำให้ตระกูลห่าวและอี้จินหลี่ขุ่นเคือง ครอบครัวธรรมดา ๆ แบบเราจะทนรับโทสะแล้วการกดดันของพวกเขาได้อย่างไร?” หบิงลั่วอินอธิบาย

“เธอพูดถูก” หลิงอี้หรานยิ้มอย่างอ่อนโยนและมองตรงไปที่หลิงลั่วอิน “แต่ในเมื่อเธอยืนอยู่ข้างฉันไม่ได้ในช่วงที่ฉันตกต่ำที่สุดแล้วทำไมฉันต้องมาเสียเงินสักแดงช่วยให้เธอได้ดิบได้ดีด้วย?”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 424

    เสียงจัวเชียนอวิ๋นดังมาจากปลายสาย “นี่ การผ่าตัดของเสี่ยวเหยียนเป็นไปด้วยดีนะ หมอบอกว่าเสี่ยวเหยียน หลังจากผ่านไปสองสามวันเสี่ยวเหยียนปรับตัวได้ เขาก็จะเริ่มการฝึกเรื่องของการแยกแยะเสียงแล้ว”“ดีมากเลยค่ะ” หลิงอี้หรานดีใจที่ได้ยิน “ถ้างั้นตอนบ่ายฉันจะแวะไปเยี่ยมเสี่ยวเหยียนนะคะ”จากนั้นหลิงอี้หรานก็ถามอีกครั้งถึงเลขห้องผู้ป่วยของเสี่ยวเหยียนในโรงพยาบาลก่อนจะวางสายไป“นี่เรื่องของเด็กที่หูหนวกนั่นเหรอ?” อี้จิ่นหลีมองหลิงอี้หรานก่อนถาม“การผ่าตัดของเสี่ยวเหยียนเป็นไปด้วยดี ยังไงตอนบ่ายฉันก็มีเวลาว่าง ฉันเลยจะไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล” หลิงอี้หรานบอก“ให้ฉันไปกับเธอแล้วกัน” อี้จิ่นหลีพูด“คุณจะไปกับฉันเหรอคะ?” หลิงอี้หรานเบิกตาโตอย่างประหลาดใจ “แต่… คุณไม่มีงานต้องทำเหรอ?”“ฉันก็แค่บอกให้เลขาเลื่อนงานตอนบ่ายออกไป ยังไงก็ไม่ได้มีอะไรเร่งด่วน” อี้จิ่นหลีพูดเรียบ ๆแต่หลิงอี้หรานรู้ดีว่าในบริษัทใหญ่แบบนี้ สำหรับคนเป็นประธานไม่มีอะไรที่ “เร่งด่วน” สำหรับเขา“ทำไม เธอไม่อยากให้ฉันไปด้วยเหรอ?” เขาถาม“เปล่า ไม่ใช่แบบนั้น” พูดตามตรงการที่เขาเต็มใจจะไปเป็นเพื่อนเธอ ทำให้เธอประหลาดใจแต่ก็ร

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 423

    และเพราะว่าเธอฟังเข้าใจ จู่ ๆ เธอก็ยิ่งรู้สึกอายสุดท้ายอี้จิ่นหลีก็ตอบว่า “เธอนั่นแหละ”“โอ้ จิน คุณเป็นอะไรกับเธอเหรอ? เป็นคนรักกันไหม?” คนต่างชาติมักจะชอบถามอะไรตรง ๆหากว่าเป็นพนักงานชาติเดียวกัน ไม่มีใครกล้าถามอี้จิ่นหลีตรง ๆ แบบนี้แน่จากนั้นหลิงอี้หรานก็ได้ยินอี้จิ่นหลีตอบเป็นภาษาอังกฤษ “เธอเป็นคนโปรดของฉัน”ฉับพลันหลิงอี้หรานก็รู้สึกราวกับว่าหัวใจของเธอมีมือที่มองไม่เห็นมาบีบรัดไว้ แม้แต่จังหวะการเต้นของหัวใจก็เหมือนจะสะดุดหลังจากที่การประชุมทางวิดีโอจบลง อี้จิ่นหลีก็เดินเข้ามาหาเธอและถามว่า “เป็นอะไรไป? ทำไมหน้าแดงแบบนั้น?”“เปล่า…ไม่มีอะไรค่ะ” เธอรีบตอบแต่เขาก็เอามือมาจับหน้าเธอไว้แล้วพิจารณาหน้าแดงก่ำของเธอ “นี่เพราะว่าเรื่องที่พวกนั้นพูดเมื่อกี้เหรอ?”เธอไม่ได้ตอบอะไร แต่เธอก็ใช้ความเงียบเป็นการยอมรับ“ไว้อนาคตมีโอกาส ฉันจะแนะนำเธอกับพวกเขา” เขาบอก“แนะนำเหรอคะ?” เธอร้องเขาเลิกคิ้วเล็กน้อย “ทำไม เธอไม่อยากเหรอ?”เอ่อ… เธออึ้งไป ตอนนั้นดวงตาสีดอกท้อคู่นั้นฉายแววบีบคั้น เหมือนว่าหากเธอตอบว่าไม่อยาก เธอก็คงเหมือนเป็นตัวจุดประกายให้ไฟโทสะเขาลุกท่วมเธอคิดอยู่พั

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 422

    “แต่ถึงกู้ลี่เฉินอยากจะแย่งเธอไปจริง ๆ เขาก็ทำไม่ได้ใช่ไหม? เพราะว่าคนที่เธอชอบก็คือฉัน และคนที่เธอมีชะตาต้องตกหลุมรักในอนาคตก็คือฉันใช่ไหม?”เสียงของเขาพึมพำและลมหายใจอุ่นร้อนก็เป่ารดใบหน้า เมื่อพูดจบเขาก็จูบเธอที่ริมฝีปากเขาไม่มีทางยกเธอให้ใคร เธอจะเป็นของเขาเท่านั้น……ตอนที่หลิงอี้หรานตื่นขึ้นมาให้วันต่อมา อี้จิ่นหลีก็ไปทำงานแล้ว หลังจากที่กินอาหารเช้าเสร็จเธอก็เตรียมอาหารกลางวันให้อี้จิ่นหลีที่คฤหาสน์อี้มีกล่องอาหารกลางวันและวัตถุดิบ และก็มีพ่อครัวอยู่ใกล้ ๆ เห็นชัดว่าพ่อครัวก็ได้รับคำสั่งมา หากว่าหลิงอี้หรานมีปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือ พ่อครัวก็พร้อมช่วยถึงขนาดที่ว่าหลังจากทำกล่องอาหารกลางวันแล้ว หลิงอี้หรานรู้สึกว่าฝีมือของตัวเองนั้นพัฒนาสูงขึ้นเลยทีเดียวเธอนำกล่องอาหารมาที่อี้กรุ๊ป แต่เพราะว่าวันนี้คนขับรถของตระกูลอี้เป็นคนพาเธอมา ยามที่หน้าประตูก็ตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นเธอลงมาจากรถแม้ว่าพนักงานหลายคนในบริษัทเริ่มที่จะลือกันว่าพนักงานส่งอาหารลึกลับคนนี้น่าจะไม่ใช่คนธรรมดา แต่ก็ไม่มีใครคิดว่าพนักงานคนนี้จะเปลี่ยนจากรถไฟฟ้าเล็ก ๆ มาเป็นรถส่วนตัวเร็วแบบนี้โดยเฉพาะรถ

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 421

    ช่วงนี้เขามักจะมาค้างในห้องของเธอ นอนร่วมเตียงกับเธอ แม้ว่าพวกเขาทั้งสองจะไม่ได้ทำอะไรกัน แต่มันก็เหมือนว่าการนอนร่วมเตียงเดียวกันนั้นกลายเป็นนิสัยไปโดยไม่รู้ตัวแล้วเพราะว่าเธอต้องเปิดไฟนอน เธอก็พูดเสียงอ่อนว่า “คุณจะชินกับการเปิดไฟนอนตลอดเวลาไปแล้ว ทำไมคุณไม่กลับไปนอนห้องคุณล่ะคะ”สุดท้ายเขาก็บอกว่า “ฉันอยากนอนกับเธอนี่ พี่สาว ถึงจะเปิดไฟไว้ก็ไม่เป็นไรหรอก”ดังนั้นคำพูดที่เหลือของเธอจึงโดนกลืนกลับลงไป“เธอจะนอนแล้วเหรอ?” อี้จิ่นหลีถามขณะที่มองหลิงอี้หรานเดินไปที่เตียง“ใช่” หลิงอี้หรานพูดพร้อมหน้าแดงเรื่อหลิงอี้หรานเลิกผ้าห่มและเข้าไปนอนเตียง มือของอี้จิ่นหลีก็มาโอบรอบเอวเธอ เขากอดเธอแนบแน่นและฝังใบหน้าซุกกายเธอราวเก็บเด็กที่อยากจะออดอ้อนเขาดูราวกับเด็กเล็กน้อยซึ่งต่างไปจากท่าทางปกติของเขา แต่ด้วยเหตุผลบางประการ หลิงอี้หรานรู้สึกว่าชอบอี้จิ่นหลีที่มีท่าทางเป็นเด็ก ๆ แบบนี้“ว่าแต่กู้ลี่เฉินหมายความว่าอะไรตอนที่คุยกับคุณวันนี้? พวกคุณทะเลาะกันเหรอ?”จู่ ๆ หลิงอี้หรานก็คิดขึ้นมาได้“ประโยคไหนล่ะ?” อี้จิ่นหลีถาม พลางรู้สึกว่าการกอดเธอมันชวนให้เสพติดมาก เมื่อเขากอดเธอแล้วก็ไม

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 420

    “ฉันเข้าใจค่ะ ฉันจะไม่พูดอะไรกับเธอ” จัวเชียนอวิ๋นลังเลและบอกว่า “ถึงตอนนี้ฉันจะรู้ว่าเธอเป็นแฟนของคุณ ฉันไม่เคยบอกอะไรเธอมาตั้งแต่แรก และฉันก็ไม่คิดว่าจะบอกอะไร ไม่คิดจะหาประโยชน์จากเธอ แน่นอนว่าในอนาคตฉันก็ไม่คิดจะทำแบบนั้น ที่ตอนแรกฉันจ้างเธอก็เพราะว่าฉันรู้สึกว่าเธอเหมือนกับฉัน เคยติดคุกมาก่อน และรู้สึกว่าเราลงเรือลำเดียวกัน ฉันก็เลยอยากให้โอกาสเธอได้ทำงาน”ความเย็นชาในตาของอี้จิ่นหลีหายไป “ผมไม่สนหรอกว่าระหว่างคุณกับเย่เหวินหมิงมีเรื่องอะไร แต่ตราบใดที่เธอยังทำงานที่นี่กับคุณ เธอก็จะทำงานอย่างปลอดภัย หากว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ ไม่ว่าจะอะไร คุณโทรหาผมได้ตลอด”เมื่อพูดจบ เขาก็เอาเบอร์มือถือให้จัวเชียนอวิ๋นจัวเชียนอวิ๋นรีบจดลงไป เธอเกรงว่าคงมีไม่กี่คนที่สามารถมีเบอร์นี้ได้ในเมืองเสิ่น แต่ตอนนี้เธอได้มาภายใต้เงื่อนไขแต่ที่อี้จิ่นหลีบอกว่าเขาไม่สนว่าระหว่างเธอกับเย่เหวินหมิงมีเรื่องอะไร ก็แปลว่าเขาคงไม่บอกเย่เหวินหมิงว่าเธออยู่ที่ไหน ซึ่งนี่ก็ทำให้จัวเชียนอวิ่นหายใจได้อย่างโล่งอกอี้จิ่นหลียังอยู่ในร้านและกินมื้อเย็นกับหลิงอี้หรานดังนัั้นเมื่อเลิกงาน เพื่อนร่วมงานทุกคนเลยได้รู

  • บ่วงรักนักโทษสาว   บทที่ 419

    จัวเชียนอวิ๋นจำได้ว่าตอนที่เธอดึงหลิงอี้หรานมาถาม อีกฝ่ายก็ให้คำตอบที่ชัดเจนหนักแน่นกับเธอ“ก็พี่จัว คนที่ว่าก็คืออี้จิ่นหลีของอี้กรุ๊ป” โอเค ก็ถือว่าเป็นคำตอบแล้วกันจัวเชียนอวิ๋นรู้สึกว่าเหมือนมีฟ้าผ่าลงมากลางหัวเธอ ซึ่งทำให้เธอมึนไม่หายพนักงานส่งอาหารให้ร้านของเธอเป็นแฟนกับอี้จิ่นหลีจริงเหรอ? ถ้าบอกไปแล้วใครจะเชื่อ?โดยเฉพาะหลิงอี้หรานบอกว่ายังมีอาหารที่ต้องออกไปส่งอีก อี้จิ่นหลีก็บอกว่า “ถ้างั้นฉันจะรอเธอที่นี่ วันนี้ยังไงก็ว่าง”ดังนั้นคนหนึ่งก็ออกไปส่งอาหาร ส่วนอีกคนก็… เอ่อ อ่านหนังสือจัวเชียนอวิ๋นรู้สึกว่าเธอประสบคลื่นลมโหมกระหน่ำ แต่ตอนนี้เธอสับสนมากทำไมอี้หรานถึงได้ยังมาทำงานที่ร้านของเธอหากว่ามีแฟนแบบนี้? แล้วอี้จิ่นหลีจริงจังกับอี้หรานเหรอ?แต่เมื่อมองเหตุการณ์ก่อนหน้าระหว่างทั้งสอง ก็ไม่ดูเหมือนว่าเป็นเรื่องหลอกลวง อย่างน้อยท่าทีของอี้จิ่นหลีที่มีต่ออี้หรานด้วยสายตาคนนอกอย่างเธอก็เห็นได้ว่าเขารักอี้หรานมากเมื่อเห็นว่าอี้จิ่นหลีกินกาแฟหมดแล้ว จัวเชียนอวิ๋นก็เดินเข้าไปหาและถามว่า “คุณอี้ ต้องการอะไรเพิ่มไหมคะ?”“ขอน้ำให้ผมแก้วหนึ่งพอครับ” อี้จิ่นหลีบอกดังนั้น

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status