Share

บทที่ 7

"เปล่า ไม่ได้ทำอะไร" เขาพูด นึกถึงว่าหลังจากที่เขาอุ้มเธอกลับไปที่อะพาร์ตเมนต์ ตอนที่เขาจะวางเธอลงบนเตียงทันใดนั้นเธอก็ผลักเขาลงบนเตียง ในขณะนั้นเขารู้สึกแปลกใจว่าทำไมเขาถึงประมาทขนาดนี้ ถ้าเป็นคนที่ต้องการฆ่าเขา เขาก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลย เขาระวังตัวมาตลอด เขาเผลอตัวแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกันนะ?

แต่ก่อนที่เขาจะทันทำอะไร เธอก็เอามือแตะใบหน้าของเขาและปัดผมม้าหนา ๆ บนหน้าผากของเขาออกไปและสัมผัสดวงตาของเขาด้วยปลายนิ้วของเธอ

“ดวงตาของนายสวยมากเลย… ฉันชอบ… มันดูใสมาก…” เธอพึมพำพูดกับตัวเอง

"ใสเหรอ?" เขาหัวเราะเบา ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนใช้คำว่า ‘ใส’ มาอธิบายตาของเขา “หมายถึงว่ามันดูใสบริสุทธิ์เหรอ?”

"มันเหมือนกับว่า... มันไม่เคยแปดเปื้อนจากบาปใด ๆ... มันใสบริสุทธิ์มาก... " เธอพูดอย่างเมามาย “ จินไม่ต้องกลัว... ฉันจะ... ปกป้องนายเอง...”

หลังจากพูดอย่างนั้นเธอก็ฟุบลงบนหน้าอกของเขาและหลับไป

เขาพูดว่า "พี่สาว พี่ไม่ได้ทำอะไรเลย พี่แค่หลับไป"

เมื่อได้ยินเช่นนี้เธอก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

สายตาของเขามองตรงส่วนที่บวมแดงบนแก้มของเธอ “หน้าเจ็บหรือเปล่า?”

เธอชะงักแล้วพูดว่า "ไม่เป็นไร" นี่คือความจริงเพราะเธอเคยทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดที่เลวร้ายยิ่งกว่านี้ในคุก

“เมื่อวานนี้มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมพี่ถึงบาดเจ็บและเมาได้?” เขาจ้องมองเธอและถาม

"ไม่มีอะไรฉันแค่เจอคนขี้เมาและทะเลาะกันนิดหน่อย" เธอพูดพยายามทำให้เรื่องเมื่อคืนดูเล็กลง เธอไม่อยากเล่าเรื่องแย่ ๆ ให้เขาฟัง

เธอรู้สึกว่าเขาแตกต่างจากคนอื่น เขาเป็นคนที่มีจิตใจสะอาดบริสุทธิ์ แม้ว่าเขาจะเร่ร่อนอยู่บนถนนแต่เขาก็ยังบริสุทธิ์ใสซื่อ ถ้าเป็นไปได้เธอหวังว่าเขาจะไม่เปลี่ยน

“เข้าใจแล้ว…” แพขนตาของเขาสั่นไหวเล็กน้อย และเขาก็ซ่อนอารมณ์ไว้ใต้สายตา “ถ้าฉันไปถึงเร็วกว่านี้พี่ก็คงไม่บาดเจ็บ ฉันน่าจะไปปกป้องพี่”

ที่จริงเขาจะยื่นมือเข้าไปเกี่ยวก่อนหน้านี้ได้ แต่สำหรับเขานี่เป็นแค่เกมเท่านั้น เขาคิดไว้ว่าอาจจะมีอะไรเกิดขึ้นเมื่อเธอเข้าไปในห้องส่วนตัว แต่เมื่อเห็นผลลัพท์ของสิ่งที่เกิดขึ้นกลับทำให้เขาไม่สบายใจอย่างคาดไม่ถึง

"แค่มาที่คลับเพื่อมารับฉันก็ดีพอแล้ว ไม่อย่างนั้นฉันอาจจะนอนอยู่ข้างถนนก็ได้" หลิงอี้หราน พูดและจับมือเขา "ขอบใจนะจิน ดีมากจริง ๆ ที่มีนายอยู่และฉันก็สบายดี แค่โดนตบหน้าสำหรับฉันไม่ถือเป็นอะไรหรอก"

รอยยิ้มของเธออ่อนโยน แต่เขายังเห็นว่ามันตราตรึงอย่างน่าแปลกใจ

"อะไรนะ? หลิงลั่วอินหลอกให้เธอไปดื่มกับผู้ชายงั้นเหรอ? นางนั่นมันไร้ยางอาย ฉันจะไปหาหล่อน!" ชินเหลียนอีไปหาเธอในวันนี้และเห็นว่าใบหน้าของหลิงอี้หรานยังคงแดงและบวมอยู่ แล้วเธอพบว่ามันเกิดอะไรขึ้นหลังจากถามหลิงอี้หราน

"ไปหาหล่อนแล้วเธอจะทำอะไรได้?" หลิงอี้หรานรั้งชินเหลียนอีไว้ "ฉันประมาทเกินไปฉันคิดว่าอย่างมากหล่อนก็คงแค่ไถเงินฉัน ฉันไม่ได้คาดว่า... แต่โชคดีตอนที่ฉันโซเซออกมาจินมารับฉัน"

“จินเหรอ?”

"เขาเป็นคนที่อาศัยอยู่กับฉันตอนนี้ เป็นเหมือนน้องชายที่ฉันรับเลี้ยง ฉันให้เขาเรียกฉันว่า 'พี่สาว' ล่ะ" หลิงอี้หรานกล่าว เมื่อเธอพูดถึงจินรอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าของเธอโดยไม่รู้ตัว

“น้องชายเหรอ? เขาอายุเท่าไรกัน?” ชินเหลียนอีถาม

"อายุยี่สิบเจ็ดปี อ่อนกว่าฉันไม่กี่เดือนน่ะ"

ชินเหลียนอีแทบจะสำลักน้ำลาย เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเพื่อนของเธออาศัยอยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง

"เธอกำลังคิดอะไรอยู่เนี่ย? ถ้าเขามีเจตนาชั่วร้ายล่ะ? เธอเคยคิดบ้างไหมว่าเธออาจจะตกอยู่ในอันตรายก็ได้? เธอเรียนกฎหมายไม่ใช่หรือไง มีหลายกรณีที่ชายและหญิงเช่าห้องร่วมกันไม่ใช่เหรอ? สถานการณ์ปัจจุบันของเธออันตรายกว่าการแชร์อะพาร์ตเมนต์กับคนอื่นเสียอีก!"

"ฉันรู้ว่าเธอกังวลเรื่องอะไร แต่เหลียนอีพอมีคนอยู่ด้วย ฉันไม่รู้สึกเหมือนว่าฉันเหงาเลยนะ เเถมจินก็เป็นคนดีอีกด้วย"

“หมายความว่ายังไงที่รู้สึกเหงาน่ะ? เธอยังมีฉันไม่ใช่หรือไง!?” ชินเหลียนอีกล่าว “ให้ฉันย้ายไปอยู่กับเธอไหม?”

“ไม่ล่ะ หากเธอย้ายออกจากบ้าน พ่อแม่ของเธอจะยิ่งเกลียดฉันมากขึ้น” หลิงอี้หรานรีบตอบ

ตอนที่เกิดเรื่อง แม้เธอไม่ได้ดื่มแต่หลักฐานทั้งหมดดูเหมือนจะแสดงให้เห็นว่าเธอเมาแล้วขับ ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอยกเว้นเหลียนอี ในช่วงสามปีที่เธอถูกจำคุกนั้น เหลียนอียุ่งอยู่กับคดีของอี้หรานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เธอถึงขนาดไม่ไปเรียนต่อต่างประเทศซึ่งทำให้พ่อแม่ของเหลียนอีโกรธอี้หรานมาก พวกเขาคิดว่าเธอเป็นตัวถ่วงของเหลียนอี และมันก็เป็นความจริง ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ ตอนนี้เหลียนอีคงจะมีชีวิตที่ดีขึ้นแทนที่จะเป็นนักออกแบบตัวเล็ก ๆ ในบริษัทสถาปนิก

“สำหรับฉัน จินก็เหมือนน้องชาย เธอก็รู้นี่ว่าฉันอยากมีน้องชายมาตลอด ตอนนี้ในที่สุดความปรารถนาของฉันก็เป็นจริงแล้ว” หลิอี้หรานกล่าว

ชินเหลียนอี รู้ว่าไม่มีทางที่เธอจะห้ามปรามเพื่อนของตนได้ เธอเลยประนีประนอมว่า "งั้นให้ฉันเจอเขาหน่อยได้ไหม? ฉันต้องเจอเขาก่อนถึงจะวางใจ”

“แน่นอน” หลิงอี้หรานตอบ

“อ้ออีกอย่าง นี่เป็นสำนวนของคดีของเธอในตอนนั้น นอกจากนี้ยังมีข้อมูลบางอย่างที่ฉันพบในช่วงหลายปีที่ผ่านมาด้วย” ชินเหลียนอีกล่าวขณะที่เธอส่งเอกสารปึกหนึ่งให้กับอี้หราน "ไหน ตอนนี้เธอก็ออกมาแล้ว เธอวางแผนที่จะรื้อคดีนี้อีกครั้งไหม?"

"ฉันไม่รู้ พยานจากตอนนั้นหายไปหมดแล้วและหลักฐานทั้งหมดยังชี้มาที่ฉัน แล้วตอนสามปีนั้นฉันก็รื้อคดีไม่ได้ ในอนาคตก็…”

"บางทีเธออาจจะมีโอกาสรื้อคดีในอนาคต อย่าลืมว่าเธอคือหลิงอี้หรานนะ และหลิงอี้หรานที่ฉันรู้จัดจะไม่ยอมแพ้อย่างง่าย ๆ แน่นอน" ซินเหลียนอีกล่าว

หลิงอี้หรานยิ้มอย่างขมขื่น บางทีถ้าเป็นสามปีก่อนเธออาจจะมุ่งมั่นเพื่อล้างชื่อเสียงของตัวเอง แต่หลังจากใช้เวลานานถึงสามปีในคุก จิตวิญญาณและความกล้าของเธอก็โดนความเจ็บปวดทำให้สูญสิ้นไปแล้ว

หลิงอี้หรานนำเอกสารข้อมูลมากมายกลับไปที่ห้องเช่า เธอเห็นว่าไม่มีใครอยู่ในห้องและจินน่าจะยังแจกใบปลิวอยู่ เขาทำแบบนั้นมาสองสามวันแล้ว อี้หรานนึ่งข้าวโพดสองฝัก ปรุงผัดง่าย ๆ ทำซุปหนึ่งชามและรอการกลับมาของจิน

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status