ช่วงเวลาที่แพรไหมตัดสินใจกลับมาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิดของเธอในต่างจังหวัด แม้จะเต็มไปด้วยความสงบและเรียบง่าย แต่ภายในใจของเธอกลับไม่ได้หยุดนิ่ง เธอใช้เวลาทุกวินาทีในการทบทวนเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในชีวิตของเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องราวในอดีตของคริสเตียนที่เปิดเผยออกมา สิ่งที่เธอเผชิญไม่ใช่เพียงแค่ความสับสน แต่เป็นการเดินทางภายในจิตใจเพื่อค้นหาคำตอบที่แท้จริงให้กับตัวเอง
แพรไหมเริ่มต้นจากการรื้อฟื้นความทรงจำเกี่ยวกับคริสเตียน ตั้งแต่วันแรกที่พวกเขาพบกัน การผจญภัยที่เต็มไปด้วยอันตราย ความหวาดกลัวที่เธอเคยมีต่อเขาในฐานะมาเฟีย และความรู้สึกที่ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปเป็นความรักความผูกพันที่ลึกซึ้ง
เธอคิดถึงทุกครั้งที่คริสเตียนปกป้องเธอ ทุกครั้งที่เขาแสดงความอ่อนโยนออกมาภายใต้ท่าทีเย็นชา และทุกครั้งที่เขาทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยและมีคุณค่า เขาคือผู้ชายที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอจากหน้ามือเป็นหลังมือ เขาเป็นคนแรกที่ทำให้เธอรู้จักความรักที่แท้จริง และเป็นคนแรกที่ทำให้เธอรู้สึกว่าชีวิตมีค่ามากกว่าที่เคยเป็น
ในขณะเดียวกัน เธอก็ไม่ลืมอดีตของเขาที่เพิ่งได้รับรู้ เธอพยายามทำความเข้าใจแรงจูงใจเบื้องหลังการกระทำของคริสเตียน การที่เขาต้องสูญเสียน้องชายและบิดาอย่างไม่ยุติธรรม การที่เขาถูกบีบให้ต้องก้าวเข้าสู่โลกมืดเพื่อปกป้องสิ่งที่เหลืออยู่ และความรู้สึกผิดที่กัดกินหัวใจเขามาตลอด
เธอเริ่มเห็นว่า อดีตของคริสเตียนไม่ใช่แค่เรื่องราวความรุนแรง แต่เป็นเรื่องราวของความเสียสละ การแบกรับ และการพยายามปกป้อง มันคือส่วนหนึ่งที่หล่อหลอมให้เขาเป็นคริสเตียนในวันนี้ ผู้ชายที่แข็งแกร่ง เด็ดขาด แต่ก็อ่อนโยนและเปราะบางในเวลาเดียวกัน
เธอยังคงพูดคุยกับแม่เสมอ ถึงแม้จะไม่ได้ลงรายละเอียดเรื่องราวของคริสเตียนทั้งหมด แต่เธอก็ปรึกษาแม่เกี่ยวกับความรัก การให้อภัย และการใช้ชีวิตอยู่กับอดีต แม่ของเธอมักจะย้ำเตือนเสมอว่า "ไม่มีใครสมบูรณ์แบบหรอกลูกจ๋า คนเราทุกคนล้วนมีด้านที่สว่างและด้านที่มืดมิด สิ่งสำคัญคือเราเลือกที่จะมองเห็นด้านไหน และเราพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเขาในทุกด้านหรือเปล่า"
คำพูดของแม่เป็นเหมือนแสงสว่างที่ค่อยๆ ส่องนำทางให้แพรไหม เธอเริ่มตระหนักว่าความรักที่แท้จริงคือการยอมรับอีกฝ่ายในทุกมิติ ไม่ใช่แค่ด้านที่ดีงามที่เธอชื่นชอบเท่านั้น แต่รวมถึงด้านที่มืดมิดและเจ็บปวดด้วย
ยิ่งเวลาผ่านไป แพรไหมก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองเติบโตขึ้น เธอไม่ได้เป็นเพียงแค่หญิงสาวที่เคยหวาดกลัวโลกภายนอกอีกต่อไป แต่เธอกลายเป็นคนที่เข้มแข็งขึ้น มีความคิดที่ลึกซึ้งขึ้น และมีความเข้าใจในชีวิตมากขึ้น
เธอเริ่มมองอดีตของคริสเตียนด้วยสายตาที่ต่างออกไป ไม่ใช่ด้วยความหวาดกลัวหรือผิดหวัง แต่ด้วยความเห็นใจและความเข้าใจ เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงต้องทำในสิ่งที่เขาทำ และเธอเข้าใจถึงความเจ็บปวดที่เขาต้องแบกรับมาตลอดชีวิต
เธอตระหนักว่าคริสเตียนได้พยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างจริงจัง เพื่อเธอ เพื่ออนาคตของพวกเขา การที่เขาเปิดเผยอดีตให้เธอฟัง นั่นคือสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความเชื่อใจและความรักที่เขามีต่อเธอมากเพียงใด และนั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
“ไม่ว่าคริสเตียนจะมีอดีตอย่างไร เธอก็ยังรักเขา” ประโยคนี้ดังขึ้นในใจของแพรไหมอย่างชัดเจน มันเป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ เธอรักเขาในแบบที่เขาเป็นทั้งหมด ทั้งความแข็งแกร่งและความอ่อนโยน ทั้งด้านที่สว่างและด้านที่มืดมิด
เธอพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเขา ไม่ใช่แค่ในวันที่สดใส แต่ในวันที่เขายังคงต้องเผชิญกับเงาของอดีตด้วย เธอจะช่วยเขาเยียวยาบาดแผลในใจ เธอจะช่วยเขาแบกรับภาระที่หนักอึ้ง และเธอจะอยู่เป็นแสงสว่างนำทางเขาออกจากความมืดมิด
แพรไหมคิดถึงบทสนทนาทางโทรศัพท์กับคริสเตียน เขาเล่าถึงความพยายามในการปรับเปลี่ยนธุรกิจให้ถูกกฎหมาย การตัดขาดจากโลกใต้ดิน การที่เขาออกกำลังกายอย่างหนักเพื่อให้จิตใจสงบ และการที่เขาคิดถึงเธอมากแค่ไหน ทุกคำพูดของเขาบ่งบอกถึงความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง และนั่นทำให้แพรไหมมั่นใจในความรู้สึกของตัวเองมากยิ่งขึ้น
เธอไม่ต้องการให้เวลาผ่านไปมากกว่านี้อีกแล้ว เธอรู้แล้วว่าคำตอบที่เธอค้นหามาตลอดอยู่ที่ไหน และอยู่ที่ใคร
วันหนึ่ง หลังจากที่เธอได้ใช้เวลาทบทวนตัวเองอย่างเต็มที่ และมั่นใจในความรู้สึกของตัวเองแล้ว แพรไหมก็ตัดสินใจที่จะกลับไปหาคริสเตียน เธอเดินเข้าไปหาแม่ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่สดใสและมั่นใจอย่างที่ไม่เคยเห็นมานาน
“แม่คะ…หนูตัดสินใจแล้วค่ะ หนูจะกลับไปหาคริสเตียน”
แม่ของแพรไหมยิ้มอย่างอ่อนโยน เธอเห็นความสุขและความมั่นใจในดวงตาของลูกสาว เธอกอดแพรไหมแน่น “แม่ดีใจด้วยนะลูก ที่ลูกหาคำตอบให้กับตัวเองได้”
ในขณะนั้น พ่อของแพรไหมที่กำลังนั่งซ่อมแซมราวตากผ้าอยู่ใต้ร่มเงาไม้ ก็เงยหน้าขึ้นมองลูกสาว พ่อเดินเข้ามาหาแพรไหมด้วยแววตาเต็มไปด้วยความห่วงใย
“ลูกมั่นใจแล้วแน่นะแพรไหม” พ่อถามเสียงทุ้ม “พ่อไม่อยากเห็นลูกต้องเสียใจอีก”
“หนูมั่นใจค่ะพ่อ” แพรไหมยิ้มให้พ่อ “หนูรักเขาค่ะ และหนูรู้ว่าเขาเองก็รักหนูมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อหนู”
พ่อพยักหน้าช้าๆ เขาเอื้อมมือมาลูบศีรษะลูกสาวอย่างอ่อนโยน “ถ้าลูกมีความสุข พ่อก็มีความสุขด้วยเสมอ”
แพรไหมโทรหาคริสเตียน น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความสดใสและความมั่นใจ
“คริสเตียนคะ…ฉันจะกลับไปหาคุณค่ะ” แพรไหมพูดด้วยความตื่นเต้น
ปลายสายเงียบไปชั่วขณะ ก่อนที่เสียงของคริสเตียนจะดังขึ้น เสียงที่สั่นเล็กน้อยแต่เต็มไปด้วยความดีใจอย่างที่สุด “คุณ…คุณจะกลับมาจริงเหรอแพรไหม”
“จริงสิคะ” แพรไหมตอบ “ฉันคิดถึงคุณมาก และฉันก็มั่นใจแล้วว่าฉันอยากอยู่เคียงข้างคุณเสมอ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม”
“ผมจะไปรับคุณเดี๋ยวนี้เลย” คริสเตียนกล่าวอย่างกระตือรือร้น
“ไม่ต้องค่ะ” แพรไหมยิ้ม “ฉันอยากให้คุณจัดการเรื่องงานของคุณให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยมารับฉันไปนะคะ ฉันจะรอคุณอยู่ที่นี่”
เธอต้องการให้คริสเตียนได้จัดการเรื่องราวของเขาให้เสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์ เธอต้องการให้เขารู้ว่าเธอไม่ได้เร่งรัด แต่ก็พร้อมที่จะกลับไปอยู่เคียงข้างเขาเสมอ
คริสเตียนรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก คำพูดของแพรไหมทำให้เขามีพลังที่จะทำทุกอย่างให้สำเร็จ เขารีบกลับไปจัดการงานที่คั่งค้างทั้งหมด โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนธุรกิจให้ถูกกฎหมายอย่างเต็มที่ เขาต้องการให้แน่ใจว่าเมื่อแพรไหมกลับมา เธอจะไม่ต้องกังวลอะไรอีกต่อไป
เขาใช้เวลาไม่นานในการจัดการเรื่องงานทั้งหมด การที่เขาเร่งรัดและเด็ดขาด ทำให้กระบวนการเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เขาสั่งให้นิคและลีโอเตรียมรถยนต์เพื่อออกเดินทางไปรับแพรไหมทันทีที่งานเสร็จสิ้น
ในขณะเดียวกัน แพรไหมก็ใช้เวลาที่เหลืออยู่ที่บ้านกับครอบครัว เธอเล่าเรื่องราวความรักของเธอกับคริสเตียนให้แม่และน้องชายฟังอย่างละเอียดมากขึ้น พวกเขาเข้าใจและให้กำลังใจเธอเสมอ
แพรไหมมองเห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวเองอย่างชัดเจน เธอไม่ได้หวาดกลัวสิ่งต่างๆ อีกต่อไป เธอไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นเพียงแค่หญิงสาวที่ต้องพึ่งพาคนอื่น แต่เธอกลับกลายเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง มีความคิดเป็นของตัวเอง และพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกอุปสรรค
เธอตระหนักว่าความรักไม่ได้เป็นเพียงแค่ความรู้สึกหวานชื่น แต่เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ ที่สามารถเปลี่ยนแปลงคนคนหนึ่งได้ และสามารถเยียวยาบาดแผลในใจได้ ไม่ว่าอดีตจะมืดมิดเพียงใด หากมีรักที่แท้จริงอยู่เคียงข้าง ทุกสิ่งก็จะผ่านพ้นไปได้
วันที่คริสเตียนจะมารับแพรไหมก็มาถึง แพรไหมรู้สึกตื่นเต้นและมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก เธอเตรียมตัวอย่างดีที่สุด เธอเลือกชุดที่เธอชอบ และแต่งหน้าทำผมให้ดูสดใส
เมื่อรถยนต์ของคริสเตียนมาจอดอยู่หน้าบ้าน แพรไหมก็รีบวิ่งออกไป เธอเห็นคริสเตียนยืนรออยู่ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่กว้างที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็น ดวงตาของเขาสดใสเปล่งประกาย แตกต่างจากวันที่เธอจากมาอย่างสิ้นเชิง
“คริสเตียน!” แพรไหมโผเข้ากอดเขาแน่น เธอซบหน้าลงกับแผงอกกว้างของเขา สูดดมกลิ่นกายที่เธอคิดถึงมาตลอด
คริสเตียนกอดเธอแน่น เขากระซิบข้างหูเธอ “ผมคิดถึงคุณแทบแย่เลยแพรไหม”
“ฉันก็เหมือนกันค่ะ” แพรไหมตอบ น้ำตาคลอเบ้าด้วยความสุข
คริสเตียนจับใบหน้าของแพรไหมขึ้นมามอง เขาจูบเธออย่างอ่อนโยน จูบที่เต็มไปด้วยความรัก ความคิดถึง และคำสัญญาที่จะอยู่เคียงข้างกันตลอดไป
แม่ และพ่อ ของแพรไหมเดินออกมาส่ง พ่อมองคริสเตียนด้วยสายตาที่คลายความกังวลลงมาก พวกเขามองดูภาพของทั้งคู่ด้วยความสุขใจ
“ดูแลลูกสาวแม่ด้วยนะคริสเตียน” แม่ของแพรไหมกล่าว
“ดูแลลูกสาวพ่อด้วยนะ” พ่อเสริมด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
“แน่นอนครับคุณแม่ คุณพ่อ” คริสเตียนตอบอย่างหนักแน่น “ผมจะดูแลแพรไหมให้ดีที่สุดครับ”
แพรไหมหันไปกอดแม่และน้องชายเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเดินขึ้นรถยนต์ไปพร้อมกับคริสเตียน
บนรถ แพรไหมเล่าเรื่องราวการทบทวนของเธอให้คริสเตียนฟัง เธอเล่าถึงการที่เธอได้เรียนรู้และเติบโตขึ้นอย่างไร คริสเตียนรับฟังอย่างตั้งใจ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข
“ผมดีใจนะแพรไหม ที่คุณได้ใช้เวลาทบทวนทุกอย่าง” คริสเตียนกล่าว “และผมก็ดีใจที่ได้คุณกลับมา”
แพรไหมยิ้มให้เขา เธอจับมือของเขาแน่น “เราจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกันนะคะคริสเตียน เราจะสร้างอนาคตที่ดีที่สุดให้กันและกัน”
คริสเตียนพยักหน้า เขารู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ การกลับมาของแพรไหมไม่เพียงแค่เติมเต็มความว่างเปล่าในใจเขา แต่ยังเป็นแรงผลักดันให้เขากลายเป็นคนที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง อดีตอาจจะยังคงอยู่ แต่เขามั่นใจว่าด้วยความรักของแพรไหม เขาจะสามารถก้าวผ่านมันไปได้อย่างแน่นอน
แสงสว่างแห่งความสุขและความหวังได้สาดส่องเข้ามาในชีวิตของคริสเตียนและแพรไหมอีกครั้ง พวกเขาพร้อมที่จะเดินเคียงข้างกัน สร้างอนาคตที่เต็มไปด้วยความรัก ความเข้าใจ และความสุขที่ยั่งยืนตลอดไป
ตอนที่ 80 เติมเต็มความสมบูรณ์ของครอบครัวหลังผ่านบทพิสูจน์แห่งผู้นำ และการกอบกู้วิกฤตการณ์ครั้งสำคัญ อเล็กซานเดอร์ ได้รับความไว้วางใจจากทุกฝ่าย แต่สิ่งที่เติมเต็มชีวิตของเขาและ ลลิล ให้สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริงคือ ข่าวดีที่สุด ที่พวกเขารอคอยมาตลอด เสียงเล็กๆ ในอนาคตกำลังจะกลายเป็นความจริง และนำพาความสุขมาสู่ตระกูลคาร์ดินัลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนหลังจากที่ทั้งสองคนได้พูดคุยกันอย่างจริงจังเรื่องการมีทายาท อเล็กซานเดอร์ และ ลลิล ก็เริ่มเตรียมตัวสำหรับการเป็นพ่อแม่ ลลิลเริ่มศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการดูแลทารกอย่างละเอียด ส่วนอเล็กซานเดอร์ก็เริ่มจัดเตรียมห้องเล็กๆ ในคอนโดเพื่อรอรับสมาชิกใหม่ความคาดหวังเพิ่มขึ้นในทุกๆ วัน แต่พวกเขาก็พยายามไม่กดดันตัวเอง จนกระทั่งเช้าวันหนึ่ง ลลิลรู้สึกไม่สบายตัว อาการคลื่นไส้และอ่อนเพลียทำให้เธอสงสัย เธอตัดสินใจใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ และผลลัพธ์ที่ปรากฏก็ทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวด้วยความสุขและความตื่นเต้นสองขีดสีชมพู ปรากฏชัดเจน ลลิลกรีดร้องด้วยความดีใจ เธอไม่สามารถเก็บความลับนี้ไว้คนเดียวได้ เธอตัดสินใจจะบอกข่าวดีนี้กับอเล็กซานเดอร์ในทันที แต่เธอ
ตอนที่ 79 บทพิสูจน์แห่งผู้นำท่ามกลางความกังวลเรื่องทายาทและความสุขในชีวิตคู่ อเล็กซานเดอร์ ก็ต้องเผชิญกับบททดสอบครั้งสำคัญในบทบาทของผู้นำ นั่นคือการแก้ไขวิกฤตการทุจริตที่เกิดขึ้นในโครงการพัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะ ความท้าทายนี้ไม่เพียงเป็นการพิสูจน์ความสามารถของเขา แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงคุณธรรมและความโปร่งใสที่ กลุ่มคาร์ดินัล ยุคใหม่ยึดมั่นเมื่อหลักฐานเริ่มชัดเจนว่ามีการทุจริตจริงในบริษัทสตาร์ทอัพที่คาร์ดินัลลงทุนไป อเล็กซานเดอร์ ก็ตัดสินใจดำเนินการอย่างเด็ดขาดและรอบคอบ เขาไม่ได้ต้องการเพียงแค่จับตัวผู้กระทำผิด แต่ต้องการถอนรากถอนโคนปัญหา เพื่อไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคตอเล็กซานเดอร์เรียกประชุมทีมงานคนสำคัญของคาร์ดินัลที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ รวมถึง เดฟ และหัวหน้าฝ่ายกฎหมาย เขาเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาชื่อเสียงและความโปร่งใสของบริษัท“เราจะไม่ยอมให้การทุจริตใดๆ มาแปดเปื้อนชื่อเสียงของคาร์ดินัลอีกแล้ว” อเล็กซานเดอร์กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นในห้องประชุม “เราต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้องและเป็นธรรมที่สุด”เขามอบหมายให้ทีมผู้ตรวจสอบบัญชีอิสระที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เข้าม
ตอนที่ 78 บททดสอบใหม่และเสียงเล็กๆ ในอนาคตชีวิตคู่ของ อเล็กซานเดอร์ และ ลลิล ดำเนินไปอย่างราบรื่นและอบอุ่น แต่ในโลกของธุรกิจและความรับผิดชอบที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ย่อมมี ความท้าทายใหม่ๆ เข้ามาทดสอบความเข้มแข็งของพวกเขาเสมอ และท่ามกลางความท้าทายเหล่านั้น เสียงเล็กๆ ในอนาคตก็เริ่มดังขึ้นในหัวใจของทั้งคู่ในขณะที่โครงการเยียวยาชุมชนของมูลนิธิคาร์ดินัลดำเนินไปอย่างงดงาม และได้รับคำชื่นชมอย่างกว้างขวาง ปัญหาใหม่กลับเกิดขึ้นภายในอาณาจักรธุรกิจของคาร์ดินัลเองคริสเตียน ได้มอบหมายให้ อเล็กซานเดอร์ เข้ามาดูแลการลงทุนใน โครงการพัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะ ซึ่งเป็นสาขาใหม่ที่คาร์ดินัลกำลังให้ความสนใจอย่างมาก แต่โครงการนี้กลับประสบปัญหาตั้งแต่เริ่มต้นมีรายงานว่าบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีที่คาร์ดินัลเข้าไปลงทุน มีปัญหาเรื่องการบริหารจัดการภายใน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ล่าช้ากว่ากำหนด และที่สำคัญที่สุดคือ มี ข่าวลือเรื่องการทุจริต ของผู้บริหารระดับสูงบางรายในบริษัทนั้น“พ่อว่าเรื่องนี้ต้องตรวจสอบให้ละเอียดเลยนะอเล็กซานเดอร์” คริสเตียนกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดในห้องทำงานของเขา “เราไม่อยากให้ชื่อเสียงของคา
ตอนที่ 77 บทใหม่แห่งชีวิตร่วมหลังพิธีวิวาห์ที่อบอุ่นและเปี่ยมด้วยความหมาย อเล็กซานเดอร์ และ ลลิล ก็ได้เริ่มต้นบทใหม่ของชีวิตในฐานะสามีภรรยาอย่างเป็นทางการ การใช้ชีวิตคู่ไม่ใช่แค่เรื่องของความรักที่โรแมนติก แต่ยังรวมถึงการปรับตัว การเรียนรู้ และการเติบโตไปพร้อมกันในทุกๆ วันชีวิตคู่เริ่มต้นขึ้นที่คอนโดมิเนียมสุดหรูของอเล็กซานเดอร์ ซึ่งบัดนี้กลายเป็น "เรือนหอ" ที่อบอุ่นและเป็นส่วนตัวของพวกเขา แม้จะเคยมาพักอยู่ด้วยกันบ่อยครั้ง แต่การย้ายข้าวของทั้งหมดเข้ามาอยู่ด้วยกันอย่างถาวร ก็เป็นประสบการณ์ที่แตกต่างออกไปลลิลใช้ความสามารถด้านการออกแบบของเธอเข้ามาเนรมิตห้องชุดให้เป็นพื้นที่ที่สะท้อนตัวตนของทั้งคู่ได้อย่างลงตัว เธอเพิ่มความสดชื่นด้วยต้นไม้เล็กๆ และเปลี่ยนผ้าม่านเป็นสีเอิร์ธโทนที่อบอุ่น นอกจากนี้ยังมีมุมเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยหนังสือและงานศิลปะที่เธอชื่นชอบ ทำให้คอนโดแห่งนี้มีชีวิตชีวาและเป็น "บ้าน" อย่างแท้จริง“คุณชอบไหมครับคุณ” อเล็กซานเดอร์ถามด้วยรอยยิ้มหลังจากที่ลลิลจัดข้าวของเสร็จเรียบร้อยลลิลโอบแขนรอบเอวเขา “ฉันชอบมากค่ะที่รัก มันเป็นบ้านของเราจริงๆ”การปรับตัวเข้าหากันในรายละเอียด
ตอนที่ 76 ถักทอความรัก สู่พิธีวิวาห์หลังจากที่ อเล็กซานเดอร์ ได้ขอ ลลิล แต่งงานอย่างเป็นทางการ บรรยากาศของความสุขและความตื่นเต้นก็ปกคลุมไปทั่วคฤหาสน์คาร์ดินัล การเตรียมงานแต่งงานเริ่มต้นขึ้นอย่างเรียบง่าย แต่อบอุ่นและเต็มไปด้วยความหมาย สะท้อนถึงความรักที่มั่นคงและบริสุทธิ์ของทั้งคู่ทั้งอเล็กซานเดอร์และลลิลต่างเห็นพ้องต้องกันว่างานแต่งงานของพวกเขาจะต้อง เรียบง่าย อบอุ่น และเป็นส่วนตัว โดยเน้นไปที่ความหมายและความผูกพันของสองครอบครัวมากกว่าความหรูหราอลังการ“ฉันอยากให้งานแต่งงานของเราเป็นวันที่เราได้แบ่งปันความสุขกับคนที่เรารักและห่วงใยค่ะที่รัก” ลลิลบอกกับอเล็กซานเดอร์ในขณะที่พวกเขากำลังปรึกษากันเรื่องการจัดงานอเล็กซานเดอร์ยิ้ม “ผมก็คิดอย่างนั้นครับคุณ”พวกเขาตัดสินใจที่จะจัดพิธีหมั้นและงานแต่งงานเล็กๆ ที่ คฤหาสน์คาร์ดินัล ซึ่งเป็นสถานที่ที่ลลิลมีความทรงจำดีๆ มากมาย และเป็นเหมือนบ้านอีกหลังของเธอ โดยจะมีเพียงญาติสนิทและเพื่อนสนิทเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับเชิญแพรไหม ผู้เป็นแม่ของอเล็กซานเดอร์ เป็นผู้ดูแลการเตรียมงานทั้งหมดอย่างละเอียดอ่อน เธอต้องการให้งานแต่งงานของลูกชายออกมาสมบู
ตอนที่ 75 จุดเริ่มต้นแห่งชีวิตคู่หลังจากผ่านพ้นอุปสรรคและร่วมสร้างสรรค์สิ่งดีๆ มาด้วยกัน อเล็กซานเดอร์ ก็ตระหนักแล้วว่า ลลิล คือผู้หญิงที่ฟ้าส่งมาให้เขา เขาไม่ต้องการรออีกต่อไป ถึงเวลาแล้วที่ความรักของพวกเขาจะก้าวไปอีกขั้น สู่การเริ่มต้นชีวิตคู่ที่ชัดเจนและมั่นคงการขอแต่งงานไม่ใช่แค่เรื่องของคำพูด แต่เป็นเรื่องของความรู้สึกและช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบ อเล็กซานเดอร์ใช้เวลาหลายวันในการวางแผน เขาอยากให้การขอแต่งงานครั้งนี้เป็นความทรงจำที่ลลิลจะไม่มีวันลืมเขาปรึกษาเรื่องนี้กับ แพรไหม ผู้เป็นแม่ ซึ่งเป็นคนที่เข้าใจหัวใจของผู้หญิงดีที่สุด“ลูกอยากขอแต่งงานกับลลิลครับแม่” อเล็กซานเดอร์กล่าวด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข “ผมอยากให้มันเป็นอะไรที่พิเศษที่สุดสำหรับเธอ”แพรไหมยิ้มอย่างอ่อนโยน “แม่ดีใจด้วยนะลูก แม่รู้ว่าลลิลคือคนที่ใช่สำหรับลูกจริงๆ”แพรไหมช่วยอเล็กซานเดอร์วางแผนอย่างละเอียด เธอแนะนำให้เขาเลือกสถานที่ที่มีความหมายกับทั้งคู่ และสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นส่วนตัว อเล็กซานเดอร์คิดถึง บ้านพักที่เขาใหญ่ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ความรักของเขาและลลิลเริ่มต้นขึ้นอย่างแท้จริงเขาจัดเตรียมทุกอย่