เธอบอกไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา แต่ดูเหมือนว่าเขากำลังเจ็บปวดเป็นอย่างมาก ชายหนุ่มถามตัวเองด้วยคำถามเดิมซ้ำ ๆ แล้วเดินไปเดินมา แววตาที่เคยเฉียบคมและชาญฉลาดในตอนนี้กลับมืดมนไม่นานเจเรมี่ก็หยิบเอกสารการหย่าจากพื้นขึ้นมาฉีกออกเป็นชิ้น ๆ ต่อหน้าเมเดลีน“ลินนี่ ผมไม่อยากหย่ากับคุณ คุณจะได้เป็นภรรยาของผมตลอดไป”“ผมจะไม่มายุ่งวุ่นวายกับคุณและพุดดิ้งอีก ผมจะคอยดูแลพวกคุณอยู่ข้างนอก”“...”เมเดลีนนั่งลงบนเตียงด้วยความมึนงง เธอมองแผ่นหลังของเจเรมี่โดยที่ยังไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่หลังจากที่สติสัมปชัญญะกลับมา เธอก็รู้สึกราวกับว่าความเจ็บปวดจากหัวใจได้ลุกลามไปทั่วทั้งตัวเธอไม่รู้ว่าเจเรมี่จะเฝ้าประตูตลอดทั้งคืนหรือเปล่า แต่เธอก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างที่หน้าประตูเจเรมี่เดินไปมาที่หน้าประตู ในขณะที่มือก็กำแน่นและคลายออกซ้ำ ๆเขาอยากจะสูบบุหรี่อีกแล้วราวกับว่าความหงุดหงิดที่เขามีจะสามารถคลายลงได้ด้วยการสูบบุหรี่เท่านั้นหากเขาไม่มีเหตุผลและสติเหลืออยู่ วันนี้เขาอาจบังคับให้เมเดลีนทำในสิ่งที่เธอไม่ต้องการ'ทำไมถึงเป็นแบบนี้?'เจเรมี่รู้สึกสับสนก่อนเกิดอุบัติเหตุเมื่อวาน
เธอเห็นชายคนนั้นนั่งอยู่ที่อีกมุมหนึ่ง มือขาวและดูสะอาดสะอ้านของเขาถือแก้วกาแฟไว้ด้วยความสง่างามเธอเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของเขา แต่มันกลับถูกบดบังด้วยแสงสลัว ลาน่าไม่มั่นใจ เธอจึงตัดสินใจแอบขึ้นไปบนชั้นสองเพื่อหาตำแหน่งที่ดีกว่านี้ในการมองหน้าของชายคนนั้น แต่เมื่อกำลังจะเงยหน้าขึ้นมอง เสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นขณะที่ชายคนนั้นกำลังดื่มกาแฟ อยู่ดี ๆ เขาก็นิ่งไปแล้วจ้องมองไปที่โยริคอย่างเย็นชาโยริคลงไปด้านล่างแล้วพบกับลาน่าที่กำลังพยายามขึ้นไปชั้นบน"ทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่?" โยริคถามและพยายามดึงลาน่าไปด้านล่างลาน่าดิ้นด้วยความไม่พอใจ “คนนี้เองเหรอ? เขาเป็นใคร? เขากล้าสั่งพี่ได้ยังไงกัน?”“คิดให้ดีก่อนพูดจะดีกว่านะ” โยริคเตือน“ฮึ่ม” ลาน่าเย้ยหยันอย่างอวดดี “โยริค พี่เป็นอะไรไป? พี่เป็นผู้นำของสเตเจี่ยน จอห์นสัน แต่นี่อะไร พี่กำลังรับคำสั่งจากคนอื่นงั้นเหรอ? ฉันต้องรู้ให้ได้ว่ามันเป็นใคร!”เพียะ!“โอ๊ย!”ลาน่าไม่เคยถูกตบจนเจ็บขนาดนี้มาก่อน แล้วนี่ก็ยังเป็นตบที่มาจากโยริคผู้เป็นพี่ชายของเธออีกด้วย มันแรงจนตอนนี้เธอรู้สึกได้ถึงรสเลือดที่กำลังไหลซึมออกมาตรงมุมปาก“กลับไปซะ!”
“ลาน่า!” โยริคดูโกรธเป็นอย่างมาก “พรุ่งนี้สิ่งแรกที่เธอต้องทำก็คือบินกลับไปที่เมืองเอฟซะ! แล้วฉันก็ไม่อนุญาตให้เธอกลับมาที่เกลนเดลอีก!”ลาน่ากัดฟันกรอด เธอเตะโต๊ะกาแฟแล้ววิ่งออกไปหลังจากที่ลาน่าจากไป ฟาเบียนก็เดินเข้ามาหาโยริค “จริงหรือเปล่า? ที่มีคนมีอำนาจเหนือกว่าหัวหน้าแก๊งสเตเจี่ยน จอห์นสันจนพี่ต้องหงอและคอยเอาอกเอาใจเขาแบบนี้?”โยริคมองฟาเบียนที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยสายตาที่คมกริบ“ฟาบ นายเองก็ควรกลับไปเมืองเอฟกับเธอ”“ไม่ ฉันยังมีเรื่องที่ต้องจัดการที่นี่” ฟาเบียนปฏิเสธ ก่อนเอ่ยถาม “ทำไมถึงบอกไม่ได้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร? ฉันรู้จักหรือเปล่า?”“ทางที่ดีนายไม่รู้จะดีกว่า” โยริคเอ่ยอย่างหวังดี ก่อนจะสังเกตเห็นผมสีน้ำตาลของอีกฝ่าย “ช่วงนี้นายเปลี่ยนลุคไปเยอะนี่ กำลังคบกับใครอยู่หรือเปล่า?”“คบกับใคร?” เฟเบียนเย้ยหยัน "ไม่มีทาง ไม่มีผู้หญิงคนไหนในโลกนี้คู่ควรกับฉัน” ชายหนุ่มเอ่ยเย้ยหยัน แต่เมื่อนึกถึงการที่เขาถูกปฏิเสธช่อโลลิป๊อบเมื่อไม่นานมานี้ เขาก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองพ่ายแพ้ การได้ลิ้มรสความโรแมนติกอันแสนหวานนั้นดูเหมือนจะเป็นเรื่องยากสำหรับเขา…ลาน่าขับรถไปที่บาร์โดยมี
เมื่อรู้สึกถึงร่างสูงที่อยู่ด้านหลังของเธอ หัวใจของลาน่าก็เต้นไม่เป็นจังหวะหญิงสาวหันศรีษะไปมองช้า ๆ จากนั้นใบหน้าหล่อเหลาทว่ามีรังสีน่ากลัวแผ่ออกมาของเจเรมี่ก็สะท้อนอยู่ในดวงตาของเธอชายหนุ่มยืนหันหลังบังแสงสว่างที่ลอดเข้ามา การมีอยู่ของเขากำลังกดดันผู้หญิงสองคนอย่างมหาศาล จนคนมองรู้สึกได้ถึงความสะพรึงกลัวที่แผ่ออกมาลาน่ารู้สึกว่าหัวใจของเธอเต้นรัว แต่เธอก็สงบลงได้อย่างรวดเร็วและเอ่ยออกมาอย่างอวดดี “เจเรมี่ คุณลักพาตัวฉันมาทำไม? ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!”น้ำเสียงของเธออวดดีเหมือนเคย แน่นอน ลาน่ารู้ว่าเธอไม่สามารถหลอกเจเรมี่ได้อีกต่อไป เพราะเขาจำทุกอย่างได้แล้วลาน่ามองชายผู้ไร้อารมณ์คนนั้นและเชิดหน้าขึ้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้“คุณเป็นคนฉลาดเจเรมี่ แต่คุณยังไม่รู้อีกเหรอว่าใครที่เข้ากับคุณมากกว่า? เอวลีนไม่เหมาะกับคุณหรอกนะ ตราบใดที่คุณอยู่กับฉันและยอมเป็นผู้ชายของฉัน ฉันจะให้คุณสัมผัสความสุขที่แท้จริงของการเป็น…”เพียะ! เจเรมี่ตบลาน่าเข้าอย่างแรง“โอ๊ย!”ลาน่าร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ทว่าใบหน้าของเจเรมี่ก็ยังไม่มีความรู้สึกใด ๆทว่ายิ่งเขาดูนิ่งเงียบและเย็นชาเท่าไหร่ ก็ยิ่
นั่นคือบุหรี่ที่เธอสูบและยังเป็นบุหรี่ที่เธอให้เจเรมี่ในตอนนั้นด้วย แต่บุหรี่ที่เธอให้เจเรมี่นั้นมีอย่างอื่นเพิ่มเข้ามาเมื่อเจเรมี่โยนกล่องบุหรี่ใส่หน้าเธอ ลาน่าก็เดาได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น“เธอใส่อะไรลงไปในบุหรี่?” เจเรมี่ถามอย่างเย็นชาลาน่าไม่กล้าตอบ เธอทำได้เพียงแสร้งไอจากความตกใจเจเรมี่ไม่มีเวลามาเล่นลิ้นกับเธอ ดังนั้น เขาจึงเดินไปอีกฟากอย่างเย็นชาเมื่อลาน่าเห็นแบบนั้นเธอจึงยกขาขึ้นแล้วเตะนาโอมิที่กำลังแกล้งสลบอยู่"ลุกขึ้น! กัดเชือกให้ฉันที!” หญิงสาวสั่งเสียงเบาแต่นาโอมิก็ยังคงแกล้งสลบต่อไป เธอคิดว่าเจเรมี่ต้องการแก้แค้นแต่เพียงลาน่าเท่านั้น และเธอก็แค่เดินตามลาน่าเข้ามาในรถอย่างมึน ๆ เพราะดื่มมากเกินไป ดังนั้น เธอจึงตกเป็นเหยื่ออยู่ที่นี่ด้วย“นาโอมิ!” ลาน่าร้องเสียงหลง แต่ในตอนที่เธอกำลังจะนาโอมิเตะอีกครั้ง เธอรู้สึกว่ามีของเหลวเย็น ๆ ไหลรินตั้งแต่หัวจรดเท้าของเธอ“กรี๊ด!” ลาน่าร้องนาโอมิผงะทันที เพราะเจเรมี่เทน้ำเย็นใส่เธอเช่นกันเมื่อได้กลิ่นของมัน หญิงสาวทั้งสองก็ตกตะลึง เพราะนี่ไม่ใช่น้ำเย็น แต่มันคือน้ำมันเบนซิน!ลาน่าและนาโอมิถูกน้ำมันเบนซินราดทั้งตัว!“
“ไม่!”ลาน่ากลัวมากจนเริ่มพูดพล่าม แต่ในวินาทีถัดมา เธอก็เห็นเจเรมี่ขว้างไม้ขีดไฟลงบนกองกล่องไม้ด้านข้างแทนเหมือนว่ากล่องนั้นก็ถูกราดด้วยน้ำมันเบนซินเช่นกัน ทันใดนั้นเปลวไฟเล็ก ๆ บนก้านไม้ขีดไฟก็ลุกโชนขึ้นและเริ่มกระจายไปทั่วแต่ก่อนที่ไฟจะมาถึง ลาน่าและนาโอมิก็กลัวจนตัวแข็งทื่อ เหงื่อเย็น ๆ เริ่มก่อตัวบนร่างกายของทั้งคู่เจเรมี่มองลาน่าด้วยความเย็นชา ในตอนนี้เธอรู้สึกกลัวจนหน้าซีดขาวไปหมดแล้ว“ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอตายแบบนี้หรอกนะ ลาน่า”แววตาที่คมกริบนั้นมีเปลวไฟที่ลุกโชนรุนแรงกำลังเผาไหม้อย่างน่ากลัวอยู่ภายใน“เธอใช้ฉันจนทำให้ฉันต้องฆ่าพ่อแม่ของภรรยาตัวเอง ทำให้ฉันไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่กับลินนี่ได้ ฉันอยากให้เธอตายอย่างช้า ๆ และหวาดกลัว ฉันอยากให้เธอได้สัมผัสถึงความรู้สึกที่ถูกใส่ร้ายและทรมาน”“...”หลังจากที่เขาพูดอย่างนั้น ลาน่าก็เห็นร่างสูงค่อย ๆ เดินห่างออกไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเดินออกจากโรงงานร้างไปไฟกำลังลามเข้ามาใกล้พวกเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ และรู้สึกได้ว่าความร้อนกำลังจะสัมผัสกับใบหน้าของพวกเธอได้ในทุกวินาทีนาโอมิตะโกนใส่ลาน่าด้วยความหวาดกลัว “ลาน่า ยัยบ้า! แกอยากตาย แต่
หลังจากที่มาถึงสถานที่นั้นก่อนฟาเบียนและคนอื่น ๆ เมเดลีนก็เห็นเปลวเพลิงที่ลุกท่วมโรงงาน ในตอนนั้นหญิงสาวก็เข้าใจทันทีว่าการแก้แค้นที่เจเรมี่หมายถึงคืออะไรเมเดลีนรีบวิ่งไปที่ประตูโลหะ เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นข้างใน เมื่อเข้ามาเธอก็พบกับเจเรมี่ที่ยืนนิ่งอยู่หน้าโรงงานราวกับรูปปั้น เขาเฝ้าดูเปลวไฟที่โหมไหม้อยู่อย่างห่าง ๆหัวใจของเมเดลีนดับวูบลงเธอรีบโทรหาหน่วยดับเพลิงและวิ่งไปยืนอยู่ตรงหน้าเจเรมี่ทันทีตอนนั้นเองที่ชายหนุ่มรู้แล้วว่าเมเดลีนมาถึง ดวงตาที่หม่นแสงของเขาก็กลับเป็นประกาย“คุณมาทำอะไรที่นี่ลินนี่? ออกไปเร็ว” เจเรมี่ดึงเมเดลีนออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่อยากให้เธอถูกไฟลวกเมเดลีนปัดมือของเขาออก ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความกังวล“คุณรู้ตัวรึเปล่าว่ากำลังทำอะไรอยู่? คุณยังมีสติดีอยู่ไหม?”“ผมรู้” เจเรมี่ตอบห้วน ๆ เปลวไฟสะท้อนในดวงตาที่เย็นชาของเขา “แต่เธอสมควรตาย”“ใช่ เธอสมควรตาย แต่คุณต้องไม่เป็นฆาตกร!” เมเดลีนตื่นตระหนกและอยากวิ่งเข้าไปดูข้างใน แต่เจเรมี่รั้งเธอไว้ขณะที่เธอกำลังดิ้นรน ดวงตาของเมเดลีนก็เปียกชื้นขึ้นมา เธอไม่รู้ว่ามันเกิดจากความร้อนหรืออะไร “คุณต้องรู้สิว่าลาน่
เมื่อมองดูดวงตาของเมเดลีนที่แดงจากการร้องไห้ ในที่สุดแววตาของเจเรมี่ก็สะท้อนความรู้สึกบางอย่างออกมา ชายหนุ่มไม่สามารถเพิกเฉยต่อการวิงวอนของเมเดลีนได้ นับประสาอะไรกับความปรารถนาของเธอ“มันอยู่ใต้ประตู” เจเรมี่เฉลยออกมาในที่สุดเมเดลีนรีบตะโกนบอกฟาเบียน “มันอยู่ใต้ประตู!”ฟาเบียนหมอบลง และคลำไปรอบ ๆ ก่อนจะพบกุญแจเมื่อเปิดประตูได้ ทั้งเขาและโยริคก็วิ่งเข้าไปอุ้มลาน่าและนาโอมิที่หมดสติไปแล้วทันทีเพราะลาน่าและนาโอมิถูกราดด้วยน้ำมันเบนซิน เปลวไฟที่กำลังปะทุจึงติดตัวในขณะที่ถูกอุ้มออกมาขอบคุณนักผจญเพลิงที่มาทันเวลาและดับไฟไว้ได้ทันลาน่าและนาโอมิถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล โชคดีที่ทั้งคู่ไม่ได้อยู่ในภาวะที่อันตรายถึงชีวิตทว่าสุดท้ายแล้วปลายผมที่สั้นอยู่แล้วของลาน่านั้นถูกไฟไหม้และขาดเป็นกระจุก ขณะที่มีกลิ่นควันอบอวลไปทั่วเส้นผมของเธอเมื่อรู้ว่าลาน่าและนาโอมิไม่เป็นไร เมเดลีนจึงกลับเข้าไปในรถอย่างกังวลใจเธอได้แต่จินตนาการว่าเจเรมี่ต้องเกลียดลาน่าและตัวเขาเองมากเพียงใดถึงทำเรื่องแบบนี้ลงไปเมเดลีนเอื้อมมือไปหยิบรูปถ่ายของเอโลอิสและฌอนมาดูอย่างโหยหา“พ่อกับแม่จะตำหนิที่หนูขัดขวางเจเ