เมื่องานฌาปนกิจของคุณย่าเสร็จสิ้นแล้ว พ่อของปลายฝันก็หยิบจดหมายของคุณย่าที่ฝากถึงพ่อไว้มาให้ปลายฝันและคุณแม่อ่าน เนื้อความในจดหมายเขียนไว้ว่า
"แม่เป็นหนี้แม่เลี้ยงเป็นจำนวนเงินทั้งหมดเกือบจะสามล้านแล้ว แม่เลี้ยงใจดีที่ยื่นมือเข้ามาช่วยในการรักษาของแม่ให้แม่ดีขึ้น ณ วันนี้ แม่เลี้ยงเขาไม่ได้คิดว่ามันเป็นเงินที่แม่ไปติดหนี้เขา เพราะแม่เคยช่วยชีวิตพ่อของเขาไว้ แต่ที่แม่ช่วยชีวิตพ่อของเขานั้นแม่ไม่ได้เสียเงินสักบาท แถมตอนที่จากมาแม่ของแม่เลี้ยงเองก็ให้เงินแม่มาก้อนนึงแล้ว แต่แม่เลี้ยงนวลจันทร์ผู้นี้ก็ยินดีที่เข้ามาช่วยแม่ จึงถือว่าเขามีบุญคุณต่อแม่ถ้าพวกแกทั้งสาม หาเงินคืนเขาได้แม่ก็จะไม่ว่า แต่ถ้าถึงเวลาที่ไม่มีแม่จริงๆแล้วพวกแกยังหาเงินคืนแม่เลี้ยงไม่ได้แม่อยากจะขอร้องแกสักหน่อยนะพงษ์ ยกลูกสาวแกให้แต่งงานกับลูกของแม่เลี้ยงได้ไหม แม่เลี้ยงเขาเอ็นดูและชอบลูกสาวแกมาก ครั้งที่แม่เขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้นมาเขาก็ยังเล่าสารพัดสารเพเขาชอบปลายฝัน ถ้ามันไม่เหนือบ่ากว่าแรงจริงๆแม่อยากจะขอร้องแกนะพงษ์"
จดหมายของคุณย่ามีแค่นี้ซึ่งก็เป็นตามที่ต้นข้าวเคยเกริ่นเอาไว้ว่าน่าจะเป็นเรื่องเงินซึ่งบ้านเราไม่มีเงินถึงล้านขนาดนั้นขนาดเงินหมื่นเงินแสนยังหายากลำบากเลยบ้านนั้นเขารวยจริงๆ เขาออกค่ารักษาให้ย่า
"เอาจริงๆการจัดงานส่งย่าทั้งหมดทั้ง 7 คืนนั้นเงินส่วนใหญ่ก็เป็นเงินที่ได้มาจากแม่เลี้ยง หลังจากที่ย่าแกเสีย พ่อก็เจอจดหมายฉบับนี้แล้วโทรไปหาแม่เลี้ยง แม่เลี้ยงก็จัดการเรื่องเงินทุกอย่าง เรื่องประกันที่พ่อเคยทำไว้พ่อก็ได้เต็ม"
พงษ์กล่าวกับลูกสาว
"แล้วเราจะหาเงิน 3 ล้านไปคืนเขาได้ไหมแล้วตั้งแต่ที่แม่เขียนเงินนั้นอาจจะเพิ่มจำนวนขึ้นก็ได้ คุณจะว่าอย่างไรถ้าลูกสาวเราจะแต่งงานกับลูกชายของแม่เลี้ยงซึ่งทั้งสองก็ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน"
ผู้เป็นแม่กล่าวขึ้น
'ผมเองก็ยังไม่รู้ว่าจะตัดสินใจยังไง ดูท่าทางแม่เลี้ยงเขาก็เป็นคนดีแต่ลูกชายของเขาผมดูไม่ออกจริงๆ ผมกลัวว่าลูกจะไปตกระกำลำบากได้สามีรวยแต่ถ้าไม่รักก็จะยิ่งเหมือนตกนรก ผมจึงยังไม่อยากบอกให้ปลายฝันรู้ตั้งแต่ตอนที่อยู่ในงานแล้ว"
ผู้เป็นพ่อกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าที่เครียดพอสมควร
"คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ เอาแบบนี้ก็แล้วกัน ปลายฝันจะแต่งงานกับพี่เขา ก็คุณย่าก็บอกเองนิค่ะว่าแม่เลี้ยงชอบหนูมาก และดูท่าทางที่อยู่ในงานวันที่ผ่านๆมา เขาก็เหมือนชอบหนูอยู่เหมือนกันก็คงไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ ส่วนเรื่องพี่เขาหนูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่เขาจะยังไง ถ้าเขาไม่ยอมแต่งขึ้นมา ความผิดก็อยู่กับเขาซึ่งเราก็ไม่สามารถไปทำอะไรได้ แต่เราก็จะพูดถึงเรื่องเงินสามล้านที่พวกเราเป็นหนี้กับแม่เลี้ยงและเราก็จะหาเงินทยอยใช้ถ้าเราไม่ได้แต่งกันจริงๆ"
ปลายฝันกล่าวขึ้นทำให้พ่อกับแม่สบายใจขึ้นไม่น้อยที่ลูกสาวยอมตกลงแต่งงานกับคนคนหนึ่งที่ลูกไม่รู้จักด้วยซ้ำ แต่ถ้ามีแม่สามีที่ดีก็จะดีไม่น้อย แต่หัวอกความเป็นแม่ก็ต้องคิดว่าเขาอาจจะดีเฉพาะหน้าช่วงนี้หรือไม่กลัวว่าลูกสาวแต่งงานไปแล้วจะตกระกำลำบาก ในใจปลายฝันภาวนาอยู่ลึกๆว่าให้พี่เขาคัดค้านการแต่งงานเพราะดูท่าทีแล้วเขาก็ไม่ได้ชอบปลายฝันมากเท่าไหร่ ตอนที่มาร่วมงานแทบจะไม่พูดสิ่งใดออกมาด้วยซ้ำ เขาน่าจะมีคนรักอยู่แล้วก็ได้เพราะผู้ชายที่หล่อขนาดนั้นและรวยมักจะมีผู้หญิงที่สวยมาชอบและคนแบบนี้จะชอบผู้หญิงที่สวย และตนก็รู้ว่าตนไม่ได้สวยอะไรเลยสักนิด หลังจากที่ลูกสาวตอบตกลงแต่งาน ผู้เป็นพ่อเป็นแม่จึงโทรไปหาแม่เลี้ยงนวลจันทร์เพื่อที่จะบอกและจะคุยกันจริงจังก็หลังเมื่อทำบุญครบ 100 วันของคุณแม่แล้ว แม่เลี้ยงนวลจันทร์เองก็ดีใจอย่างมาก จึงมาคุยกับลูกชายที่อยู่ในไร่
"ตะวันน้องยอมตกลงแต่งงานแล้วล่ะ เดียวอีกสามเดือนเราลงไปขอแบบจริงจังและเตรียมจัดงานกัน มันต้องยิ่งใหญ่"
แม่เลี้ยงกล่าวขึ้น ทำให้ตะวันถึงกับคอตกเลยทีเดียว
"ผู้หญิงคนนั้นคงคิดว่าเรารวย จึงยอมที่จะแต่งงานกับลูกถ้าเขารู้นะว่าเงินทุกบาทของลูกเป็นของคุณแม่ เขาอาจจะถ่อยหนี้ก็ได้นะ"
ตะวันกล่าวขึ้นมา
"แม่ไม่ลืมที่เคยให้สัญญาไว้กับแกหรอกนะตะวัน ถ้าแกได้แต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ แม่จะให้แกบริหารเงินในส่วนของแกแต่แม่ไม่ได้ให้แกหมดหรอก แม่จะให้แกบริหารเป็นบางส่วนแล้วแต่แกต้องการ บางครั้งการที่แกมีครอบครัว แกก็อาจจะคิดได้ในการใช้เงิน"
ผู้เป็นแม่กล่าวขึ้นอย่างดีใจที่ตนจะมีสะใภ้ ที่ตนคิดว่าดี ในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมาที่เจอกับคุณย่าแม่เลี้ยงก็ได้ให้คนติดตามและในเมื่อปลายปีแล้วที่เธอคิดว่าอยากได้ผู้หญิงคนนี้เป็นลูกสะใภ้ เธอก็ให้คนสืบข้อมูลอย่างละเอียด ก็รู้ว่าเด็กคนนี้เป็นคนที่ตั้งใจเรียนคนนึงและเป็นคนดีมากไม่ได้มีอะไรที่มันเสื่อมเสีย
"แล้วเรื่องของขวัญแกก็เลิกหวังได้แล้วนะ แม่จะบอกแกว่าเขาแต่งงานแล้ว"
ผู้เป็นแม่กล่าวขึ้น
"คุณแม่แค่ไม่ชอบเขาเท่านั้น มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่ของขวัญจะแต่งงานเราติดต่อกันตลอด คุณแม่ขอเรื่องที่จะให้ผมแต่งงานกับเด็กปลายฝันนั้นผมก็จะทำ แต่คุณแม่ห้ามมายุ่งกับผมเรื่องของขวัญ"
ตะวันกล่าวขึ้น ไม่ชอบที่คุณแม่ไม่ชอบของขวัญแล้วยังมาใส่ร้ายเขาอีก มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เอารูปคนแต่งงานกันมาให้ดู ซึ่งเจ้าสาวก็คือของขวัญ แต่เมื่อเขาโทรไปถามก็พบว่าเป็นข่าวโคมลอยเฉยๆ เขาจึงทะเลาะกับแม่เสียยกใหญ่จนแม่งดจ่ายเงินเดือนแก่เขา จนในที่สุดเขาต้องเข้าไปขอโทษแม่เพื่อให้ได้เงินมาใช้ เขาทำงานทุกอย่างในไร่เหมือนคนงานเพราะผู้เป็นแม่จ้างให้เขาทำเหมือนคนงาน เหมือนเขาจะบริหารงานในไร่ก็จริงแต่การเงินเข้าออกทั้งหมดจะเป็นแม่ที่คอยจัดการ จนทำให้ผู้หญิงที่เข้ามาทุกคนเบื่อหน่ายและถ่อยหางทุกคน ยกเว้นของขวัญเพียงคนเดียวที่ยังทนคบกับเขาได้ ถึงของขวัญจะไม่มีเวลาคุยกับเขามากเท่าไหร่ แต่เขาก็เชื่อสนิทใจว่าของขวัญรักเขาเพียงผู้เดียวและไม่มีทางที่จะมีคนอื่นเป็นแน่ แต่เป็นตัวเขาเองที่จะกำลังจะทำผิดกับของขวัญ เขายังคิดไม่ออกเลยว่าจะบอกกับของขวัญยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้ถ้าไม่บอกจะปิดยังไงให้มิดในเมื่อคุณแม่ของเขาต้องการที่จะประกาศให้โลกรู้อยู่แล้ว แต่ตอนนี้เขาเองก็เริ่มทำผับของตัวเองแล้ว แต่ในด้านการเงินที่ขัดสนทำให้เขาทุ้มให้ผับอย่างเต็มที่ไม่ได้ แต่เมื่อได้แต่งงานกับปลายฝันแล้วเข้าก็จะลงผับเต็มตัว และหาทำธุรกิจอีกหลายๆอย่างจะได้ไม่ต้องพึ่งคุณแม่อีก
เรื่องของมานพและต้นข้าว ตะวันแค่แจ้งให้มานพรู้ว่า ต้นข้าวท้องลูกของมานพอยู่และใกล้คลอดออกมาแล้ว และตอนนี้ต้นข้าวอยู่ตอนโดวรโชติ ส่วนเรื่องอื่นๆให้มานพคิดและจัดการกับชีวิตเอาเอง"เพื่อนของคุณและเพื่อนของผมก็มีลูกกันแล้วเนาะ เราแต่งงานก่อนเขาเสียอีกยังไม่มีลูกเลย "ตะวันพูดขึ้น"ปลายว่าเราต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปค่ะ วันนี้พ่อเลี้ยงจะกินอะไรค่ะปลายจะได้ทำให้"ปลายฝันพูดขึ้น"พ่อเลี้ยงอยากกินหนูปลายได้หรือป่าวครับ"พ่อเลี้ยงกระซิบขึ้นทำสีหน้าละลื่น ทำใหคนฟังหน้าแดง พลางใช้มือใหญ่ๆโอบเอวบางจับให้คนตัวเล็กกว่านั่งบนตักตัวเอง"มันยังไม่มืดเลยนะคะ เดียวปลายไปทำกับข้าวนะอุ๊ยๆๆๆ"ปลายฝันพูดขึ้นแต่พ่อเลี้ยงไม่ลดละความพยายามทำให้ปลายฝันร้องออกมา"บางครั้งเราต้องเปลี่ยนช่วงบาง ทำช่วงเดิมซ้ำๆจะมีลูกได้อย่างไร เปลี่ยนช่วงเปลี่ยนบรรยากาศเสียบ้าง"ตะวันเอ่ยเย้า พลางจับคางให้เธอหันหน้ามาหาเขาและบดจูบอย่างเต็มที ปลายฝันก็ไม่ได้ฟืนอะไรเขาตอบสนองพ่อเลี้ยงอย่างไว สักพักก็หันหน้าออก"แต่ไม่นานก็ต้องมีคนมาตามปลายไปทำกับข้าว ปลายไปทำกับข้าวก่อนนะคะ"ปลายฝันพูดขึ้นอย่างหอบๆ พลางพลักอกใหญ่ๆของพ่อเลี้ยงออก"ไม่มี
"ที่แท้พ่อเลี้ยงตะวันกับคนพิภพก็เป็นพี่น้องกันหรือคะ เห็นเป็นข่าวใหญ่โตก็ไม่เห็นออกมายอมรับหลายๆคนนึกสงสัยและนำรูปมาเปรียบเทียบกันที่แท้พวกคุณก็หลอกสังคมอยู่นี่เอง ว่าพวกคุณไม่ใช่พี่น้องกันทั้งที่พวกคุณเป็นพี่น้องกัน"ของขวัญพูดขึ้นอย่างคนที่เหนือกว่าเขาเอาคำนี้ไปบอกนักข่าวรับรองว่าเป็นข่าวดังแน่ๆ"ผมไม่เคยบอกใครว่าผมกับตะวันไม่ใช่พี่น้องกัน และก็ไม่เคยยอมรับที่ไหนว่าเราเป็นพี่น้องกัน คุณว่าจริงหรือเปล่าครับ แล้วถ้าคุณจะเอาจุดนี้มาเป็นข้อได้เปรียบของพวกผมคุณคิดน้อยเกินไปแล้วล่ะครับคุณของขวัญ ตอนนี้ธุรกิจของผมก็ไปในทิศทางที่ดี ตะวันเองก็ไปในทิศทางที่ดีตอนนี้ถ้าทุกคนรู้ว่าเราเป็นพี่น้องกันชื่อเสียงของเราก็จะผลักดันกันครับ แต่เมื่อก่อนมันไม่ใช่เพราะถ้าทุกคนรู้ว่าพวกเราเป็นพี่น้องกันรั้งแต่จะฉุดให้อีกคนลงต่ำมา เพราะตะวันทำตัวเองไม่ได้เรื่อง มีแม่เลี้ยงที่พลอยอุ้มชูอยู่เท่านั้น คุณคงเข้าใจนะครับว่าทำไมผมไม่ออกมายอมรับว่าเขาคือน้องแต่ผมก็ไม่ได้ปฏิเสธนะครับ"พิภพพูดขึ้นให้ของขวัญกระจ่าง แม่เลี้ยงเป็นคนวางแผนเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นให้เขาทั้งสองคนแยกกันอยู่เพราะเรื่องที่ว่าผู้หนึ่งได้ดี แล้วต้
ผับของตะวันเองไปได้สวยแล้ว ทางด้านแม่เลี้ยงก็เห็นเป็นอย่างดีจึงยอมที่จะให้ลูกชายจัดการไร่เองทั้งหมดรวมกับรายได้ของไร่ตะวันด้วย เขาจึงเรียกลูกชายทั้งสองกับลูกสะใภ้มาพร้อมๆกันที่ไร่ตะวัน"คุณพลอยไพลินฝากคุณหนูทั้งสองไว้กับป้าก็ได้นะ"ป้าสายพูดขึ้นเมื่อทั้งสี่เข้ามาถึงบ้านไร่ วันจึงเดินออกมาอุ้มน้องพริมและป้าสายก็จูงมือน้องพร้อมไป ทั้งสองจึงเข้าไปนั่งรอแม่เลี้ยงที่ห้องทำงานตะวัน ซึ่งตะวันก็นั่งรอพวกเขาอยู่แล้ว เมื่อคนทั้งสองมาปลายฝันจึงยกของว่างไปให้ทั้งสอง พลอยจึงยกน้ำส้มเข้าไปให้"สวัสดีคะพี่พิภพพี่พลอย ลองชิมขนมดูหน่อยค่ะปลายทำเองเลยนะ คุ๊กกี้สามรสค่ะ "ปลายฝันพูดและยื่นขนมให้กับพลอยไพลินลองชิม พลอยไพลินถือจานมาและหยิบไปหนึ่งชิ้นและวางจานลง ไม่นานแม่เลี้ยงก็เดินเข้ามานั่งอยู่หัวโต๊ะ ตะวันกับพิภพก็นั่งข้างๆและถัดมาปลายฝันกับพลอยไพลินก็นั่งตรงข้ามกัน"วันนี้ที่แม่เรียกทั้งสองมาก็เพราะว่าแม่เห็นว่าเกือบหนึ่ง ปีที่ผ่านมานี้ไร่ของตะวันดำเนินไปด้วยความสะดวกแล้ว แม่ต้องขอบคุณที่ปลายฝันเข้ามาช่วยตะวันดูแลไร่ ค่าใช้จ่ายในไร่ของตะวันลดน้อยลงแต่ก็ไม่ทำให้คนงานเดือดร้อน รวมทั้งค่าน้ำค่าไฟค่ากินค่
หลังจากที่ตะวันไปที่ผับแล้วก็เอาโทรศัพท์มาดูที่ปลายฝันตั้งหน้าโปรไฟล์ facebook ขึ้นว่าผับตะวันแล้วเขาก็นำรูปที่ตะวันถ่ายไว้ในโทรศัพท์ออกมาเป็นรูปโปรไฟล์ ตะวันจึงโทรไปหามานพเพื่อนที่อยู่นครพนมบอกให้เพิ่มเพื่อนกับเขาทางเฟสบุ๊ค"โถแต่ก่อนมึงไม่อยากจะมีเฟสทำไมตอนนี้ถึงมีเฟสได้ว่ะ"มานพถามขึ้น"แล้วมันไม่ดีหรอวะถ้ากูมีเฟสนะ"ตะวันพูดขึ้น"ก็ดีน่ะสิเพราะมึงทำงานเกี่ยวกับผับถ้ามึงเข้าถึงคนจำนวนมากได้ก็จะเป็นผลดีต่อมึงแล้ว อีกอย่างมันมีประโยชน์กับการที่มึงจะไปหาแหล่งซื้อเหล้าซื้อเบียร์พวกนี้ด้วยจะได้ของที่ถูกและดีขึ้น"มานพพูดแล้วเพิ่มเพื่อนตะวันไป หลังจากที่ตะวันเพิ่มเพื่อนไปหลายๆคน เขาก็นึกสงสัยเกี่ยวกับการแต่งงานของของขวัญจึงเข้าไปดูในเฟสของของขวัญ ก็พบว่าไม่ได้มีการแต่งงานหรืออะไรทั้งนั้น ตะวันจึงเข้าไปดูเฟสของธาวินเขาก็พบกับรูปแต่งงานตรงหน้าโปรไฟล์จึงกดเข้าไปดูก็พบว่าเป็นธาวินกับของขวัญจริงๆด้วย เขาช่างโง่เง้าเสียเหลือเกิน วันนั้นมันน่าจะเป็นข่าวใหญ่พอสมควร แต่เพราะเขามัวแต่อยู่ในไร่ไม่สนใจโทรทัศน์ข่าวคราวใดๆและไม่เล่นโซเชียลจึงทำให้เขาเหมือนคนโง่ มีคนงานในไร่พยายามที่จะพูดแต่พอแม่เลี้ย
หลังจากที่พ่อเลี้ยงกลับมาตอนบ่าย ๆ ก็กินข้าวเสร็จก็ถามหาปลายฝัน ตัววันดี เองก็ทำหน้าลำบากใจ เขาต้องเล่าให้พ่อเลี้ยงฟังหรือไม่ว่าคุณของขวัญมาที่ไร่ ทางคุณของขวัญก็ไม่ได้บอกว่าให้บอกพ่อเลี้ยงสักหน่อยแล้วพ่อเลี้ยงยัง ถามหาปลายฝันอีกไม่ใช่จะเอาเรื่องเขาหรือ วันดีคิดมากเหมือนคนทำผิดใหญ่หลวง"คุณปลายฝันไปทำงานตั้งแต่กลับมาแล้ว หลังจากทำกับข้าวให้พ่อเลี้ยงเสร็จก็ไปทำงานเลย พ่อเลี้ยงจะให้ป้าโทรตามคุณปลายฝันกลับมาหรือเปล่า วันนี้คุณของขวัญเข้ามาหาพ่อเลี้ยงด้วยแต่ก็มานั่งสักพักเขาไม่ได้รอและก็ออกไป"ป้าสายยืนรายงานพ่อเลี้ยงอยู่ พ่อเลี้ยงจึงเหลือบตาไปมองวันดีแป๊บนึง ทำให้วันดีก้มหน้าหลบทันที"โทรให้คุณปลายมาพบผมที่ห้องทำงานแล้วกันครับป้า วันดียกน้ำส้มไปให้ผมกับคุณปลายในห้องทำงานผมด้วย"หลังจากสั่งงานเสร็จพ่อเลี้ยงก็ขึ้นห้องไป ป้าสายจึงรีบโทรตามคุณปลายฝัน และเตรียมน้ำส้มให้ทั้งสองถ้าทั้งสองเข้าห้องทำงานแล้วจะได้ให้วันดียกไป"เป็นอะไรวันดีแกกำลังทำตัวมีพิรุธอยู่ ถ้าคุณปลายกับพ่อเลี้ยงเข้าไปในห้องทำงานแล้วยกน้ำส้มไปให้อย่าทำตัวมีพิรุธ อย่าทำให้น้ำส้มหกเลอะเทอะล่ะเดี๋ยวจะโดนโกรธ"ป้าสายพูดขึ้นและสั
ทางด้านตะวันเมามายได้ไม่นาน คนที่ผับติดต่อไม่ได้ก็ต้องโทรเข้าเบอร์บ้าน เพราะตอนนี้ของเริ่มหมดสต็อกอีกแล้ว พวกเขาต้องให้พ่อเลี้ยงตะวันอนุมัติเท่านั้นจึงต้องเร่ง"พ่อเลี้ยง คนทีผับโทรมาว่าติดต่อพ่อเลี้ยงไม่ได้ เขาว่ามันสำคัญมากป้าเลยเดินมาบอก"ป้าสายขึ้นมาบอกพ่อเลี้ยง"มีรถไปรับคุณปลายฝันกับวันดีแล้วหรือ เดียวผมจะออกไปผับเลยแล้วกันให้พลอยขึ้นมาเก็บห้องให้ด้วยนะครับเอาของพวกนั้นไปทิ้งให้หมดเลย"ตะวันพูดขึ้นพลางชีไปที่มุมห้อง"คนขับรถไปรับคุณปลายตั้งแต่เช้าแล้ว คุณตะวันจะกินอะไรก่อนไหมเดียวป้าไปทำให้"ป้าสายถามขึ้น"ไม่ต้องครับเดี๋ยวคุณปลายกลับมา แล้วให้เขาทำไว้รอผมแล้วกัน ผมอาบน้ำแล้วจะรีบไปพักเลย"ตะวันพูดขึ้นแล้วรีบไปอาบน้ำ ป้าสายจึงให้พลอยขึ้นมาทำความสะอาด แล้วให้คนงานขึ้นมายกของที่พ่อเลี้ยงต้องการทิ้ง ตะวันออกมาจากห้องน้ำเห็นพวกคนกำลังขนของลงไปเขาก็ไม่ได้ใส่ใจ และออกไปจากบ้านขับรถออกไปทันที"แม่เลี้ยงพ่อเลี้ยงออกไปแล้วค่ะ แล้วก็ให้คนงานขนของในห้องพ่อเลี้ยงออกไปทิ้งเป็นจำนวนหนึ่งน่าจะเป็นของของคุณของขวัญ"ป้าสายโทรไปรายงานแม่เลี้ยง"ดีแล้วล่ะเตรียมตัวรับมือกับของขวัญให้ดีแล้วกันเหมือ