เช้าวันต่อมาเป็นวันที่ทุกคนตื่นเช้าเพราะต้องไปเตรียมของที่วัดปลายฝันกับต้นข้าวรีบเดินทางไปวัดตั้งแต่ยังไม่ 6 โมงเพราะแม่บอกว่าให้ปลายฝันไปดูเรื่องอาหาร เตรียมของในครัวสำหรับพระทั้งหมด 9 ชุด และของแขกแขกที่มาอีก วันนี้น่าจะมีผู้มาเยอะอยู่ ส่วนต้นข้าวแม่ก็ให้ไปช่วยตรวจนับของที่ระลึก เพราะหลานของย่าลูกของป้ากับอานั้นเป็นผู้ชายจึงไม่ได้เข้ามาช่วยกันทำส่วนนี้ เพราะต้องไปเตรียมโกนผมแต่เช้าเพื่อที่จะบวชจูงย่า หน้าที่นี้เลยเป็นของลูกหลานที่เป็นฝ่ายหญิงซึ่งมีปลายฝันคนเดียวดีหน่อยที่ปลายฝันพาเพื่อนมา แม่จึงถือว่าต้นข้าวเป็นลูกอีกคน พ่อของปลายฝันไม่มีลูกชายตัวเองจึงต้องบวชเพื่อจูงแม่ พ่อของปลายฝันก็ไม่ได้เขามาช่วยส่วนนี้อีกแล้ว เรื่องรถก็ให้อาพจน์ทำต่อ ในเช้าวันนี้เสียงเปิดเครื่องเสียงแต่เช้าเป็นการเตือนให้หลายบ้านที่อยู่ใกล้เคียงรู้ว่าจะมีงานฌาปนกิจในวันนี้ ผู้ที่สนิทสนมกับผู้วายชนม์ก็จะมาช่วยกันจัดเตรียมของแต่เช้าส่วนผู้ที่ไม่ค่อยสนิทมากนักก็จะมารับประทานอาหารในเวลาสายๆ ย่าของปลายฝันน่าจะมีคนที่สนิทพอสมควรเพราะตอนที่จัดเตรียมอาหารในครัวก็มีคนมาช่วยอยู่มากโข และจุดนับของชำร่วยเองก็มีคนอยู่เยอะเช่นกันต้นข้าวจึงวางมือจากจุดนั้นเพื่อมาหาปลายฝัน เพราะสายหน่อยๆไม่ค่อยมีอะไรให้ทำแล้วแม่จึงให้ปลายฝันกับต้นข้าวกลับบ้านไปอาบน้ำเพื่อมาใหม่ เมื่อมาถึงก็เพลพอดี จึงนั่งรอถวายเพลพระเสร็จก็กินข้าวกันและจัดแจงยกของชำร่วยมาวางกลางศาลา และถาดดอกไม้จันทน์มาวางเรียงกัน เมื่อจัดแจงของเสร็จต้นข้าวกับปลายฝันก็รีบเข้าครัวเพื่อที่จะไปช่วยล้างจาน
"มาแล้วถามเลย ป้าถามสิ"
เมื่อเข้ามาในครัวทั้งสองก็ได้ยินเสียงคุยกันและมีคนเร่งให้ป้าคนเดิมที่ชอบถามให้ปลายฝันอึดอัดอยู่บ่อยๆสอบถามพวกเขาขึ้น ต้นข้าวจึงสะกิดแขนปลายฝัน
"พี่ปลายฝันแม่พี่ให้มาบอกว่า ให้พี่ไปฟังมัคทายกเพื่อพี่จะได้ถือพานผ้าไตร มอบให้แขกที่มาถวายผ้าไตรให้พระ มัคทายกกำลังจัดแจงเรื่องที่วางผ้าไตรอยู่พี่ปลายฝันไปหาเขาหน่อยนะ"
เสียงเด็กผู้ชายดังขึ้นทำให้ปลายฝันมองไปหาเด็กผู้ชายคนนั้น และก็จูงมือต้นข้าวเดินออกไป ทุกคนที่รอให้ปลายฝันเข้าไปก็นึกเสียดายแทนที่จะได้ถามสักหน่อยว่าสองคนนั้นเป็นใครแล้วเมื่อวานคุยอะไรกันทำไมปลายฝันถึงตกใจขนาดนั้น
"คนเหล่านั้นน่าจะเสียดายน่าดูนะที่ไม่ได้ถามเรื่องเมื่อวานกับแกนะ คนบ้านแกก็อยากรู้อยากเห็นไปเสียทุกอย่างนะ แล้วถ้าอยู่ๆแกจะแต่งงานกับคนๆนั้นขึ้นมา แล้วเพื่อนรวมหมู่บ้านพวกนี้จะเอาอะไรไปพูดอีกเนาะ ยิ่งคิดยิ่งสนุกเนาะ"
ต้นข้าวกล่าวพลางหัวเราะเพื่อน
"หรือว่าแกจะเข้าไปตอบคำถามชาวบ้านเหล่างั้นล่ะจะได้ไม่ต้องมากับเรา"
ปลายฝันกล่าวขึ้น
"ใครอยากอยู่ที่นั้นล่ะอึดอัดก็อึดอัดพูดกันเรื่องคนนู้นทีคนดีทีเอาคนนั้นมาพูดเอาคนนี้มาพูด"
ต้นข้าวกล่าวขึ้น เมื่อทั้งสองมาถึงมัคทายก มัคทายกก็ให้ทั้งสองช่วยกันถือพานหนึ่ง คนและอยู่หลังโต๊ะผ้าไตรอีกหนึ่งคน เมื่อคนเป็นแม่ให้ปลายฝันถือพาน ปลายฝันก็ถือพานและจะมีต้นข้าวยื่นผ้าไตรใส่พานให้ แล้วปลายฝันก็จะเดินไปหน้าพระพุทธรูปแล้วย่อลงหนึ่งครั้ง แล้วก็หันหน้ามาก็จะมีแขกผู้ที่ต้องถวายผ้าไตรเดินมาหยิบผ้าไตรไปจากพานแล้วก็เข้าไปถวายพระอีกรอบ ปลายฝันก็ต้องเดินมาหยุดอยู่ตรงโต๊ะผ้าไตรข้างๆกับต้นข้าว เมื่อมัคทายกเห็นทั้งสองคนเข้าใจที่ตนบอก ก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรจึงไปจัดผ้าไตรให้ครบชุด ปลายฝันกับต้นข้าวจึงไม่คิดที่จะเดินเข้าไปช่วยในครัวแล้วเพราะขืนเข้าไปก็คงจะอึดอัดกับคำถามของป้าผู้นั้น แต่เอาเข้าจริงๆคนอื่นมากมายที่อยากรู้แต่จะเป็นป้าคนนั้นที่ถาม ทั้งสองจึงเลือกเดินไปที่ของชำร่วยและก็เดินตรวจดูของเหมือนคนมีงานทำ พอเสร็จแล้วก็เดินไปที่ลานวัดไปดูรถที่จอดกันอย่างเป็นระเบียบ
"หนูปลายฝันจะมาทำไมกันตรงนี้ล่ะ พาเพื่อนเข้าไปอยู่ในวัดเถอะมันร้อนเดียวก็เหม็นกันก่อนพอดี ไปช่วยเตรียมอะไรในวัดเถอะลูก ไม่ต้องมาดูรถหรอกอาดูคนเดียวได้"
อาพจน์กล่าวขึ้น ทั้งสองคนจึงเดินกลับมาอยู่ในศาลาวัดเช่นเดิม สักพักใหญ่ๆแม่เลี้ยงกับลูกชายก็ลงจากรถมา
"ปลายฝันเดินเข้าไปต้อนรับแม่เลี้ยงแทนพ่อหน่อย พ่อหนูบวชเณรจึงไม่สามารถออกมาต้อนรับแม่เลี้ยงได้พาแม่เลี้ยงไปนั่งโต๊ะด้านในได้เลยตรงโต๊ะไม้โน้น"
แม่ปลายฝันเดินมาบอกลูกสาว และชี้มือไปทางโต๊ะที่อยู่หน้าสุด ปลายฝันจึงเดินเข้าไปหาแม่เลี้ยง วันนี้แม่เลี้ยงมาในชุดผ้าไหมสีดำกระโปรงจะเป็นลายตะขอส่วนด้านบนจะเป็นผ้าไหมทรงเงียบยาวไปจนถึงแขนและคอก็จะเป็นคอยาวปิดไปถึงคางและข้างหน้าจะมีโบขนาดเล็กติดอยู่ และลูกชายของแม่เลี้ยงเองใส่ชุดสูทสีดำแต่วันนี้ช่างดูแปลกเพราะเขาใส่แว่นตาดำมาด้วยอาจจะเป็นเพราะวันนี้ได้ออกมาตอนกลางวันสายตาน่าจะสู้แดดไม่ได้จึงใส่แว่นตาดำมา ปลายฝันได้แต่คิด
"สวัสดีค่ะแม่เลี้ยง เชิญค่ะเชิญทางนี้"
ปลายฝันชวนให้แม่เลี้ยงเดินตาม แต่แม่เลี้ยงก็คว้าเอามือของปลายฝันแล้วก็ชวนปลายฝันเดินไปยังโต๊ะด้านหน้า หลายๆคนก็มองเห็นภาพนั้นก็เกิดความสนใจมากกว่าเดิมเพราะวันนี้ผู้ชายที่เดินตามหลังของทั้งสองสวมแว่นตาดำจึงทำให้ดึงดูดสายตายิ่งขึ้น เมื่อต้นข้าวเห็นแบบนั้นจึงไปจัดน้ำมาเพื่อที่จะไปเสิร์ฟให้ทั้งสอง เมื่อทั้ง 3 มานั่งที่โต๊ะแล้วต้นข้าวก็นำน้ำมาเสิร์ฟถึงพอดี
"น้ำค่ะ"
ต้นข้าวพูดขึ้น ปลายฝันจึงหยิบน้ำเปล่าให้แม่เลี้ยงหนึ่งแก้ว แล้วก็หยิบน้ำเปล่าให้ตะวันอีกหนึ่งแก้ว ความจริงตะวันไม่อยากหยิบน้ำในมือของปลายฝันเลย แต่พอมองหน้าของแม่ที่กำลังมองตนจึงต้องหยิบน้ำในมือนั้น
"เชิญนั่งกันตรงนี้ก่อนนะคะเดี๋ยวหนูไปช่วยงานตรงนั้นก่อน"
ปลายฝันกล่าวขึ้นแล้วก็ลุกไปพร้อมกับต้นข้าว
"ทำไมวันนี้ว่าที่สามีแกถึงใส่แว่นดำล่ะ"
ต้นข้าวถามขึ้นอย่างหยอกๆ ทำให้ปลายฝันไม่ได้ตอบอะไรแต่กลับตีไปที่แขนเพื่อนเบาๆทุกการกระทำของปลายฝันอยู่ในสายตาของตะวัน ในใจตะวันก็คิดมากปลายฝันคงจะดีใจที่จะได้แต่งงานกับเขามากเพราะดูจากท่าทีของวันนี้แล้วเธอไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใดสงสัยจะคิดว่าตนร่ำรวยจึงอยากจะเกาะตนเป็นแน่
หลังจากเสร็จงานฌาปนกิจคุณย่าเสร็จ ต้นข้าวก็ขอตัวกลับบ้านพร้อมกับพ่อที่มาร่วมงานวันสุดท้าย และแม่เลี้ยงกับลูกชายก็กลับบ้านไป
เรื่องของมานพและต้นข้าว ตะวันแค่แจ้งให้มานพรู้ว่า ต้นข้าวท้องลูกของมานพอยู่และใกล้คลอดออกมาแล้ว และตอนนี้ต้นข้าวอยู่ตอนโดวรโชติ ส่วนเรื่องอื่นๆให้มานพคิดและจัดการกับชีวิตเอาเอง"เพื่อนของคุณและเพื่อนของผมก็มีลูกกันแล้วเนาะ เราแต่งงานก่อนเขาเสียอีกยังไม่มีลูกเลย "ตะวันพูดขึ้น"ปลายว่าเราต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปค่ะ วันนี้พ่อเลี้ยงจะกินอะไรค่ะปลายจะได้ทำให้"ปลายฝันพูดขึ้น"พ่อเลี้ยงอยากกินหนูปลายได้หรือป่าวครับ"พ่อเลี้ยงกระซิบขึ้นทำสีหน้าละลื่น ทำใหคนฟังหน้าแดง พลางใช้มือใหญ่ๆโอบเอวบางจับให้คนตัวเล็กกว่านั่งบนตักตัวเอง"มันยังไม่มืดเลยนะคะ เดียวปลายไปทำกับข้าวนะอุ๊ยๆๆๆ"ปลายฝันพูดขึ้นแต่พ่อเลี้ยงไม่ลดละความพยายามทำให้ปลายฝันร้องออกมา"บางครั้งเราต้องเปลี่ยนช่วงบาง ทำช่วงเดิมซ้ำๆจะมีลูกได้อย่างไร เปลี่ยนช่วงเปลี่ยนบรรยากาศเสียบ้าง"ตะวันเอ่ยเย้า พลางจับคางให้เธอหันหน้ามาหาเขาและบดจูบอย่างเต็มที ปลายฝันก็ไม่ได้ฟืนอะไรเขาตอบสนองพ่อเลี้ยงอย่างไว สักพักก็หันหน้าออก"แต่ไม่นานก็ต้องมีคนมาตามปลายไปทำกับข้าว ปลายไปทำกับข้าวก่อนนะคะ"ปลายฝันพูดขึ้นอย่างหอบๆ พลางพลักอกใหญ่ๆของพ่อเลี้ยงออก"ไม่มี
"ที่แท้พ่อเลี้ยงตะวันกับคนพิภพก็เป็นพี่น้องกันหรือคะ เห็นเป็นข่าวใหญ่โตก็ไม่เห็นออกมายอมรับหลายๆคนนึกสงสัยและนำรูปมาเปรียบเทียบกันที่แท้พวกคุณก็หลอกสังคมอยู่นี่เอง ว่าพวกคุณไม่ใช่พี่น้องกันทั้งที่พวกคุณเป็นพี่น้องกัน"ของขวัญพูดขึ้นอย่างคนที่เหนือกว่าเขาเอาคำนี้ไปบอกนักข่าวรับรองว่าเป็นข่าวดังแน่ๆ"ผมไม่เคยบอกใครว่าผมกับตะวันไม่ใช่พี่น้องกัน และก็ไม่เคยยอมรับที่ไหนว่าเราเป็นพี่น้องกัน คุณว่าจริงหรือเปล่าครับ แล้วถ้าคุณจะเอาจุดนี้มาเป็นข้อได้เปรียบของพวกผมคุณคิดน้อยเกินไปแล้วล่ะครับคุณของขวัญ ตอนนี้ธุรกิจของผมก็ไปในทิศทางที่ดี ตะวันเองก็ไปในทิศทางที่ดีตอนนี้ถ้าทุกคนรู้ว่าเราเป็นพี่น้องกันชื่อเสียงของเราก็จะผลักดันกันครับ แต่เมื่อก่อนมันไม่ใช่เพราะถ้าทุกคนรู้ว่าพวกเราเป็นพี่น้องกันรั้งแต่จะฉุดให้อีกคนลงต่ำมา เพราะตะวันทำตัวเองไม่ได้เรื่อง มีแม่เลี้ยงที่พลอยอุ้มชูอยู่เท่านั้น คุณคงเข้าใจนะครับว่าทำไมผมไม่ออกมายอมรับว่าเขาคือน้องแต่ผมก็ไม่ได้ปฏิเสธนะครับ"พิภพพูดขึ้นให้ของขวัญกระจ่าง แม่เลี้ยงเป็นคนวางแผนเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นให้เขาทั้งสองคนแยกกันอยู่เพราะเรื่องที่ว่าผู้หนึ่งได้ดี แล้วต้
ผับของตะวันเองไปได้สวยแล้ว ทางด้านแม่เลี้ยงก็เห็นเป็นอย่างดีจึงยอมที่จะให้ลูกชายจัดการไร่เองทั้งหมดรวมกับรายได้ของไร่ตะวันด้วย เขาจึงเรียกลูกชายทั้งสองกับลูกสะใภ้มาพร้อมๆกันที่ไร่ตะวัน"คุณพลอยไพลินฝากคุณหนูทั้งสองไว้กับป้าก็ได้นะ"ป้าสายพูดขึ้นเมื่อทั้งสี่เข้ามาถึงบ้านไร่ วันจึงเดินออกมาอุ้มน้องพริมและป้าสายก็จูงมือน้องพร้อมไป ทั้งสองจึงเข้าไปนั่งรอแม่เลี้ยงที่ห้องทำงานตะวัน ซึ่งตะวันก็นั่งรอพวกเขาอยู่แล้ว เมื่อคนทั้งสองมาปลายฝันจึงยกของว่างไปให้ทั้งสอง พลอยจึงยกน้ำส้มเข้าไปให้"สวัสดีคะพี่พิภพพี่พลอย ลองชิมขนมดูหน่อยค่ะปลายทำเองเลยนะ คุ๊กกี้สามรสค่ะ "ปลายฝันพูดและยื่นขนมให้กับพลอยไพลินลองชิม พลอยไพลินถือจานมาและหยิบไปหนึ่งชิ้นและวางจานลง ไม่นานแม่เลี้ยงก็เดินเข้ามานั่งอยู่หัวโต๊ะ ตะวันกับพิภพก็นั่งข้างๆและถัดมาปลายฝันกับพลอยไพลินก็นั่งตรงข้ามกัน"วันนี้ที่แม่เรียกทั้งสองมาก็เพราะว่าแม่เห็นว่าเกือบหนึ่ง ปีที่ผ่านมานี้ไร่ของตะวันดำเนินไปด้วยความสะดวกแล้ว แม่ต้องขอบคุณที่ปลายฝันเข้ามาช่วยตะวันดูแลไร่ ค่าใช้จ่ายในไร่ของตะวันลดน้อยลงแต่ก็ไม่ทำให้คนงานเดือดร้อน รวมทั้งค่าน้ำค่าไฟค่ากินค่
หลังจากที่ตะวันไปที่ผับแล้วก็เอาโทรศัพท์มาดูที่ปลายฝันตั้งหน้าโปรไฟล์ facebook ขึ้นว่าผับตะวันแล้วเขาก็นำรูปที่ตะวันถ่ายไว้ในโทรศัพท์ออกมาเป็นรูปโปรไฟล์ ตะวันจึงโทรไปหามานพเพื่อนที่อยู่นครพนมบอกให้เพิ่มเพื่อนกับเขาทางเฟสบุ๊ค"โถแต่ก่อนมึงไม่อยากจะมีเฟสทำไมตอนนี้ถึงมีเฟสได้ว่ะ"มานพถามขึ้น"แล้วมันไม่ดีหรอวะถ้ากูมีเฟสนะ"ตะวันพูดขึ้น"ก็ดีน่ะสิเพราะมึงทำงานเกี่ยวกับผับถ้ามึงเข้าถึงคนจำนวนมากได้ก็จะเป็นผลดีต่อมึงแล้ว อีกอย่างมันมีประโยชน์กับการที่มึงจะไปหาแหล่งซื้อเหล้าซื้อเบียร์พวกนี้ด้วยจะได้ของที่ถูกและดีขึ้น"มานพพูดแล้วเพิ่มเพื่อนตะวันไป หลังจากที่ตะวันเพิ่มเพื่อนไปหลายๆคน เขาก็นึกสงสัยเกี่ยวกับการแต่งงานของของขวัญจึงเข้าไปดูในเฟสของของขวัญ ก็พบว่าไม่ได้มีการแต่งงานหรืออะไรทั้งนั้น ตะวันจึงเข้าไปดูเฟสของธาวินเขาก็พบกับรูปแต่งงานตรงหน้าโปรไฟล์จึงกดเข้าไปดูก็พบว่าเป็นธาวินกับของขวัญจริงๆด้วย เขาช่างโง่เง้าเสียเหลือเกิน วันนั้นมันน่าจะเป็นข่าวใหญ่พอสมควร แต่เพราะเขามัวแต่อยู่ในไร่ไม่สนใจโทรทัศน์ข่าวคราวใดๆและไม่เล่นโซเชียลจึงทำให้เขาเหมือนคนโง่ มีคนงานในไร่พยายามที่จะพูดแต่พอแม่เลี้ย
หลังจากที่พ่อเลี้ยงกลับมาตอนบ่าย ๆ ก็กินข้าวเสร็จก็ถามหาปลายฝัน ตัววันดี เองก็ทำหน้าลำบากใจ เขาต้องเล่าให้พ่อเลี้ยงฟังหรือไม่ว่าคุณของขวัญมาที่ไร่ ทางคุณของขวัญก็ไม่ได้บอกว่าให้บอกพ่อเลี้ยงสักหน่อยแล้วพ่อเลี้ยงยัง ถามหาปลายฝันอีกไม่ใช่จะเอาเรื่องเขาหรือ วันดีคิดมากเหมือนคนทำผิดใหญ่หลวง"คุณปลายฝันไปทำงานตั้งแต่กลับมาแล้ว หลังจากทำกับข้าวให้พ่อเลี้ยงเสร็จก็ไปทำงานเลย พ่อเลี้ยงจะให้ป้าโทรตามคุณปลายฝันกลับมาหรือเปล่า วันนี้คุณของขวัญเข้ามาหาพ่อเลี้ยงด้วยแต่ก็มานั่งสักพักเขาไม่ได้รอและก็ออกไป"ป้าสายยืนรายงานพ่อเลี้ยงอยู่ พ่อเลี้ยงจึงเหลือบตาไปมองวันดีแป๊บนึง ทำให้วันดีก้มหน้าหลบทันที"โทรให้คุณปลายมาพบผมที่ห้องทำงานแล้วกันครับป้า วันดียกน้ำส้มไปให้ผมกับคุณปลายในห้องทำงานผมด้วย"หลังจากสั่งงานเสร็จพ่อเลี้ยงก็ขึ้นห้องไป ป้าสายจึงรีบโทรตามคุณปลายฝัน และเตรียมน้ำส้มให้ทั้งสองถ้าทั้งสองเข้าห้องทำงานแล้วจะได้ให้วันดียกไป"เป็นอะไรวันดีแกกำลังทำตัวมีพิรุธอยู่ ถ้าคุณปลายกับพ่อเลี้ยงเข้าไปในห้องทำงานแล้วยกน้ำส้มไปให้อย่าทำตัวมีพิรุธ อย่าทำให้น้ำส้มหกเลอะเทอะล่ะเดี๋ยวจะโดนโกรธ"ป้าสายพูดขึ้นและสั
ทางด้านตะวันเมามายได้ไม่นาน คนที่ผับติดต่อไม่ได้ก็ต้องโทรเข้าเบอร์บ้าน เพราะตอนนี้ของเริ่มหมดสต็อกอีกแล้ว พวกเขาต้องให้พ่อเลี้ยงตะวันอนุมัติเท่านั้นจึงต้องเร่ง"พ่อเลี้ยง คนทีผับโทรมาว่าติดต่อพ่อเลี้ยงไม่ได้ เขาว่ามันสำคัญมากป้าเลยเดินมาบอก"ป้าสายขึ้นมาบอกพ่อเลี้ยง"มีรถไปรับคุณปลายฝันกับวันดีแล้วหรือ เดียวผมจะออกไปผับเลยแล้วกันให้พลอยขึ้นมาเก็บห้องให้ด้วยนะครับเอาของพวกนั้นไปทิ้งให้หมดเลย"ตะวันพูดขึ้นพลางชีไปที่มุมห้อง"คนขับรถไปรับคุณปลายตั้งแต่เช้าแล้ว คุณตะวันจะกินอะไรก่อนไหมเดียวป้าไปทำให้"ป้าสายถามขึ้น"ไม่ต้องครับเดี๋ยวคุณปลายกลับมา แล้วให้เขาทำไว้รอผมแล้วกัน ผมอาบน้ำแล้วจะรีบไปพักเลย"ตะวันพูดขึ้นแล้วรีบไปอาบน้ำ ป้าสายจึงให้พลอยขึ้นมาทำความสะอาด แล้วให้คนงานขึ้นมายกของที่พ่อเลี้ยงต้องการทิ้ง ตะวันออกมาจากห้องน้ำเห็นพวกคนกำลังขนของลงไปเขาก็ไม่ได้ใส่ใจ และออกไปจากบ้านขับรถออกไปทันที"แม่เลี้ยงพ่อเลี้ยงออกไปแล้วค่ะ แล้วก็ให้คนงานขนของในห้องพ่อเลี้ยงออกไปทิ้งเป็นจำนวนหนึ่งน่าจะเป็นของของคุณของขวัญ"ป้าสายโทรไปรายงานแม่เลี้ยง"ดีแล้วล่ะเตรียมตัวรับมือกับของขวัญให้ดีแล้วกันเหมือ