"สวัสดีค่ะ"
ปลายฝันกล่าวขึ้นและยกมือไหว้เมื่อมาถึงพ่อกับ แขกทั้งสอง
"สวัสดีจร้า"
เสียงผู้หญิงกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงเอ็นดู แต่ที่เป็นผู้ชายคนข้างๆกลับมองมาเฉยๆไม่ได้กล่าวอะไรออกมา
"พึ่งจบมหาลัยสินะ ป้าว่าอยากชวนหนูไปทำงานอยู่ที่เชียงใหม่ สนใจหรือป่าวล่ะ"
แม่เลี้ยงถามขึ้นอย่างเอาใจเด็ก พลางหันไปมองลูกชายที่ทำสีหน้าราวแบกโลกเอาไว้
"หนูเพิ่งเรียนจบยังไม่มีประสบการณ์ทำงานนะค่ะ หนูว่าจะสมัครงานแถวนี้ดูก่อน เผื่อได้จะได้ดูแลพ่อแม่ด้วย"
ปลายฝันปฏิเสธออกไป
"ลองคิดดูก่อนก็ได้นะปลายฝัน ตาพงษ์คุยกับลูกสาวแล้วหรือ"
แม่เลี้ยงกล่าวขึ้น
"ยังเลยครับแม่เลี้ยง ยังไม่มีเวลาคุยกันเลย ผมว่าจะจัดการเรื่องคุณแม่เสร็จก่อนและจะเรียกญาติๆทุกคนมาและเปิดจดหมายคุณแม่ให้ทุกคนอ่านครับ ส่วนเรื่องปลายฝันผมก็ต้องคุยกับเขาก่อนอยู่แล้ว"
พ่อของปลายฝันกล่าวขึ้น พลางมองหน้าลูกสาวยิ้มๆ
"เรื่องอะไรหรือพ่อ"
ปลายฝันถามขึ้น
"มันมีเรื่องที่คุณย่ารับปากแม่เลี้ยงเอาไว้นะ ว่าจะให้ลูกแต่งงานกับลูกแม่เลี้ยง"
ผู้เป็นพ่อกล่าวขึ้นแบบยิ้มๆเล็กน้อย
"อะไรนะค่ะ"
ปลายฝันพูดขึ้นอย่างตกใจ จนทำให้คนอื่นหันมามอง ที่แรกหลายๆคนก็สนใจผู้หญิงกับผู้ชายคนนั้นอยู่แล้ว แต่พอมีปลายฝันไปนั่งคุยด้วยแล้วทำท่าทางตกใจมาก จึงมีคนสนใจมากกว่าเดิมอีก แม่เลี้ยงยื่นมือมาจับแขนปลายฝันไว้แล้วก็ลูบหลังมือเบาๆ
"ป้ากับย่าหนูมีสัญญาต่อกันนิดหน่อยนะ เดียวรายละเอียดไปคุยกันหลังเสร็จงานนะ นี้แหละพี่ตะวันที่หนูจะต้องแต่งงานด้วย"
แม่เลี้ยงกล่าวขึ้น ยิ้มๆและพ่อของปลายฝันก็ไปส่งพวกเขาทั้งสองที่รถ
"ปลายฝันแกเป็นอะไรหรือทำไม่ร้องตกใจอะไรเสียงดังเชียว"
เมื่อคนอื่นเดินจากไปแล้วต้นข้าวก็เดินเข้ามาพูดคุยด้วย จึงทำให้ทุกคนหันมามองเป็นตาเดียวกัน ต้นข้าวเห็นจึงสะกิดเพื่อน และพากันเดินกลับบ้าน เพราะบ้านของปลายฝันอยู่ในระแวกวัด เนื่องจากพรุ่งนี้เป็นวันเผาแล้วพ่อกับแม่ต้องจัดของช่วยวัดก่อน พ่อเองมีพี่สาวหนึ่งคน และน้องชายหนึ่งคน ซึ่งในการจัดแจงอะไรก็ต้องพึ่งแม่เพราะพี่สาวกับน้องชายของพ่อไปทำงานในต่างถิ่นกันหมด มีพ่อกับแม่ที่อยู่ระแวกนี้จึงต้องช่วยที่วัดก่อน ครอบครัวของพ่อนั้นดีอยู่ถึงต่างคนต่างไปทำมาหากินก็ยังช่วยเหลือกันเมื่อมีปัญหา
"ตกลงว่าเป็นอะไรหรือป่าว เห็นแกตกอกตกใจขนาดนั้น"
ระหว่างที่เดินออกมาแล้วไม่มีใครคอยสอดส่อง และแอบฟังอีก ต้นข้าวจึงถามขึ้น
"แกเห็นคนสองคนที่คุยกับเราได้ป่าวตอนที่พ่อเรียกเราไปนั้นนะ เขาเป็นแม่ลูกกัน และคนเป็นแม่น่าจะมีความสัมพันธ์บางอย่างกับย่าของเรา และได้ตกลงให้เรากับลูกชายของเขาคือคนที่แกว่าหล่อๆนั้นนะแต่งงานกัน"
ปลายฝันพูดยังไม่ทันจบดี
"อะไรน่ะ"
ต้นข้าวร้องด้วยความตกใจ
"เห็นไหมเป็นใครได้ยินก็ตกใจ ขนาดแกยังตกใจเลยจะไม่ให้เราตกใจได้อย่างไร แล้วแกดูผู้ชายคนนั้นสิ อายุน่าจะห่างกับเรามาก แล้วดูสีหน้าสิเหมือนถูกบังคับมาตั้งแต่วันแรกแล้ว"
ปลายฝันกล่าวขึ้น
"สองคนนี้เขามาหลายวันแล้วหรือเราไม่ยักจะเห็นเลย ทำไมแกเห็นเขาล่ะ ไม่ใช้ว่าสนใจอยู่ลึกๆหรือป่าวถึงเห็นพวกเขานะ"
ต้นข้าวถามขึ้นเพราะเขาสงสัยที่ตัวเองไม่เห็น อาจเป็นเพราะไม่ได้ใส่ใจ แต่คนอย่างปลายฝันก็ไม่ได้ใส่ใจคนอื่นเช่นกันทำไมถึงเห็นคนผู้นี้ได้ หรือว่าสนใจอยู่แล้วกันแน่
"ก็มาวันแรกน่าจะคืนที่ห้าอ่ะ พ่อเราเรียกไปต้อนรับ ทุกคืนก็จะมาก่อนพระสวดเลยไม่ค่อยมีคนสนใจ แต่คืนนี้มาช้าจนพระใกล้สวดแล้วจึงมีคนเห็นและเกิดความสนใจล่ะมั่ง"
ปลายฝันกล่าวขึ้น
"แล้วก่อนหน้านี้พ่อแกไม่ได้พูดอะไรที่เกี่ยวกับเรื่องนี้เลยหรือ"
ต้นข้าวถามขึ้น
"ไม่เลยวันแรกที่เจอเรายังไปถามพ่ออยู่เลย แต่พ่อแค่บอกว่าคนผู้นั้นคือแม่เลี้ยงนวลจันทร์ เขาออกค่าใช้จ่ายที่รักษาย่าทุกบาทก่อนย่าจะสิ้นใจแค่นั้นแหละ เพราะพ่อเองก็รีบไปดูรถ และเราเองก็รีบไปช่วยแม่เตรียมซองนะ เราแทบไม่มีเวลาคุยกันเลย"
ปลายฝันกล่าวขึ้น
"แล้วแกจะแต่งงานกับผู้ชายคนนั้นหรือ ก็หล่อดีนะท่าทางจะรวยด้วย แล้วแม่เลี้ยงอะไรนั้นก็เหมือนชอบแกเอามากๆเลย"
ต้นข้าวพูดพลางยิ้มอย่างคนฝันหวาน
"เราก็ต้องดูจดหมายของยายก่อนนะ ถ้าจะให้ปฏิเสธออกไปเลยยังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ กลัวว่าถ้ามันเป็นการที่ผู้ใหญ่ติดค้างอะไรกันแล้วเดียวพ่อจะไม่สบายใจ ถ้าอ่านในจดหมายแล้วปฏิเสธได้ก็จะปฏิเสธ"
ปลายฝันพูดขึ้น
"เราว่าเรื่องที่ตกลงกันน่าจะเป็นเรื่องเงินแน่เลยปลายฝันถ้าแกแต่งงานกับคนนี้ก็ดีอยู่นะ คนบ้านนอกแถมฐานะทางบ้านเราก็ไม่ได้ดีแบบนี้ด้วยอะนะ แล้วถ้าแกแต่งขึ้นมาจริงๆจะชวนเพื่อนที่กรุงเทพหรือป่าวล่ะ"
ต้นข้าวถามขึ้น
"ไม่หรอก เอาจริงตั้งแต่กลับมาบ้านไม่มีเพื่อนที่กรุงเทพฯโทรมาหาเราเลยนะรู้ป่าว เห็นในเฟสบุ๊คพวกเขาไปเทียวโน้นเที่ยวนี้ด้วยกัน เอาจริงๆที่แกกับเราเคยพูดกันมันน่าจะถูกต้องแล้วล่ะ พวกเขาเห็นเราเป็นแค่คนช่วยงานให้พวกเขาเรียนจบก็เท่านั้นในเมื่อเขาคิดแบบนั้นเราก็จะไม่สนใจเขาอีก แล้วแกล่ะถ้าวันหนึ่งวันใดแต่งงานจะชวนพวกนั้นหรือป่าว"
ปลายฝันกล่าวและถามกลับไป
"ถ้าได้แต่งกับคนรวยๆแบบแกก็อยากจะชวนอยู่นะ จะได้มาเห็นว่าเราโชคดีแค่ไหนดีกว่าผู้ชายที่ยัยพวกนั้นหามาให้เราเสียอีก"
ต้นข้าวพูดขึ้นพร้อมกับทำสีหน้าอย่างผู้ที่เหนือกว่า
"555+ดูแกทำสีหน้าสิเหมือนตัวอิจฉาไม่มีผิด"
ปลายฝันกล่าวขึ้น ในกลุ่มทั้งสองคนนี้จะสนิทกันเพราะถ้ามหาวิทยาลัยปิดเทอมทั้งสองจะขึ้นรถกลับมาพร้อมกัน ทีแรกทั้งสองคนไม่รู้จักกันด้วยซ้ำจนถึงช่วงปิดเทอมแรกก็นั่งรถขันเดียวกัน จึงจำได้ว่าเรียนห้องเดียวกัน ต้นข้าวจึงเขามาถามปลายฝันจึงได้รู้ว่าอยู่จังหวัดเดียวและบ้านห่างกันเพียงสองร้อยกิโลเมตรเท่านั้น หลังจากเปิดเทอมทั้งสองก็เข้ากลุ่มด้วยกันและสนิทกันมากขึ้น ส่วนคนอื่นๆในกลุ่มก็อยู่ในกรุงเทพทุกคน คนกรุงเทพส่วนมากจะไม่ตั้งใจเรียนแต่พอได้ทั้งสองคนเข้ากลุ่มการเรียนก็ดีขึ้น คนกรุงเทพส่วนมากไม่ค่อยจริงใจอยู่แล้วเหมือนทั้งสองคนจะถูกหลอกใช้เรื่องเรียนเสียมากกว่า
เรื่องของมานพและต้นข้าว ตะวันแค่แจ้งให้มานพรู้ว่า ต้นข้าวท้องลูกของมานพอยู่และใกล้คลอดออกมาแล้ว และตอนนี้ต้นข้าวอยู่ตอนโดวรโชติ ส่วนเรื่องอื่นๆให้มานพคิดและจัดการกับชีวิตเอาเอง"เพื่อนของคุณและเพื่อนของผมก็มีลูกกันแล้วเนาะ เราแต่งงานก่อนเขาเสียอีกยังไม่มีลูกเลย "ตะวันพูดขึ้น"ปลายว่าเราต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปค่ะ วันนี้พ่อเลี้ยงจะกินอะไรค่ะปลายจะได้ทำให้"ปลายฝันพูดขึ้น"พ่อเลี้ยงอยากกินหนูปลายได้หรือป่าวครับ"พ่อเลี้ยงกระซิบขึ้นทำสีหน้าละลื่น ทำใหคนฟังหน้าแดง พลางใช้มือใหญ่ๆโอบเอวบางจับให้คนตัวเล็กกว่านั่งบนตักตัวเอง"มันยังไม่มืดเลยนะคะ เดียวปลายไปทำกับข้าวนะอุ๊ยๆๆๆ"ปลายฝันพูดขึ้นแต่พ่อเลี้ยงไม่ลดละความพยายามทำให้ปลายฝันร้องออกมา"บางครั้งเราต้องเปลี่ยนช่วงบาง ทำช่วงเดิมซ้ำๆจะมีลูกได้อย่างไร เปลี่ยนช่วงเปลี่ยนบรรยากาศเสียบ้าง"ตะวันเอ่ยเย้า พลางจับคางให้เธอหันหน้ามาหาเขาและบดจูบอย่างเต็มที ปลายฝันก็ไม่ได้ฟืนอะไรเขาตอบสนองพ่อเลี้ยงอย่างไว สักพักก็หันหน้าออก"แต่ไม่นานก็ต้องมีคนมาตามปลายไปทำกับข้าว ปลายไปทำกับข้าวก่อนนะคะ"ปลายฝันพูดขึ้นอย่างหอบๆ พลางพลักอกใหญ่ๆของพ่อเลี้ยงออก"ไม่มี
"ที่แท้พ่อเลี้ยงตะวันกับคนพิภพก็เป็นพี่น้องกันหรือคะ เห็นเป็นข่าวใหญ่โตก็ไม่เห็นออกมายอมรับหลายๆคนนึกสงสัยและนำรูปมาเปรียบเทียบกันที่แท้พวกคุณก็หลอกสังคมอยู่นี่เอง ว่าพวกคุณไม่ใช่พี่น้องกันทั้งที่พวกคุณเป็นพี่น้องกัน"ของขวัญพูดขึ้นอย่างคนที่เหนือกว่าเขาเอาคำนี้ไปบอกนักข่าวรับรองว่าเป็นข่าวดังแน่ๆ"ผมไม่เคยบอกใครว่าผมกับตะวันไม่ใช่พี่น้องกัน และก็ไม่เคยยอมรับที่ไหนว่าเราเป็นพี่น้องกัน คุณว่าจริงหรือเปล่าครับ แล้วถ้าคุณจะเอาจุดนี้มาเป็นข้อได้เปรียบของพวกผมคุณคิดน้อยเกินไปแล้วล่ะครับคุณของขวัญ ตอนนี้ธุรกิจของผมก็ไปในทิศทางที่ดี ตะวันเองก็ไปในทิศทางที่ดีตอนนี้ถ้าทุกคนรู้ว่าเราเป็นพี่น้องกันชื่อเสียงของเราก็จะผลักดันกันครับ แต่เมื่อก่อนมันไม่ใช่เพราะถ้าทุกคนรู้ว่าพวกเราเป็นพี่น้องกันรั้งแต่จะฉุดให้อีกคนลงต่ำมา เพราะตะวันทำตัวเองไม่ได้เรื่อง มีแม่เลี้ยงที่พลอยอุ้มชูอยู่เท่านั้น คุณคงเข้าใจนะครับว่าทำไมผมไม่ออกมายอมรับว่าเขาคือน้องแต่ผมก็ไม่ได้ปฏิเสธนะครับ"พิภพพูดขึ้นให้ของขวัญกระจ่าง แม่เลี้ยงเป็นคนวางแผนเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นให้เขาทั้งสองคนแยกกันอยู่เพราะเรื่องที่ว่าผู้หนึ่งได้ดี แล้วต้
ผับของตะวันเองไปได้สวยแล้ว ทางด้านแม่เลี้ยงก็เห็นเป็นอย่างดีจึงยอมที่จะให้ลูกชายจัดการไร่เองทั้งหมดรวมกับรายได้ของไร่ตะวันด้วย เขาจึงเรียกลูกชายทั้งสองกับลูกสะใภ้มาพร้อมๆกันที่ไร่ตะวัน"คุณพลอยไพลินฝากคุณหนูทั้งสองไว้กับป้าก็ได้นะ"ป้าสายพูดขึ้นเมื่อทั้งสี่เข้ามาถึงบ้านไร่ วันจึงเดินออกมาอุ้มน้องพริมและป้าสายก็จูงมือน้องพร้อมไป ทั้งสองจึงเข้าไปนั่งรอแม่เลี้ยงที่ห้องทำงานตะวัน ซึ่งตะวันก็นั่งรอพวกเขาอยู่แล้ว เมื่อคนทั้งสองมาปลายฝันจึงยกของว่างไปให้ทั้งสอง พลอยจึงยกน้ำส้มเข้าไปให้"สวัสดีคะพี่พิภพพี่พลอย ลองชิมขนมดูหน่อยค่ะปลายทำเองเลยนะ คุ๊กกี้สามรสค่ะ "ปลายฝันพูดและยื่นขนมให้กับพลอยไพลินลองชิม พลอยไพลินถือจานมาและหยิบไปหนึ่งชิ้นและวางจานลง ไม่นานแม่เลี้ยงก็เดินเข้ามานั่งอยู่หัวโต๊ะ ตะวันกับพิภพก็นั่งข้างๆและถัดมาปลายฝันกับพลอยไพลินก็นั่งตรงข้ามกัน"วันนี้ที่แม่เรียกทั้งสองมาก็เพราะว่าแม่เห็นว่าเกือบหนึ่ง ปีที่ผ่านมานี้ไร่ของตะวันดำเนินไปด้วยความสะดวกแล้ว แม่ต้องขอบคุณที่ปลายฝันเข้ามาช่วยตะวันดูแลไร่ ค่าใช้จ่ายในไร่ของตะวันลดน้อยลงแต่ก็ไม่ทำให้คนงานเดือดร้อน รวมทั้งค่าน้ำค่าไฟค่ากินค่
หลังจากที่ตะวันไปที่ผับแล้วก็เอาโทรศัพท์มาดูที่ปลายฝันตั้งหน้าโปรไฟล์ facebook ขึ้นว่าผับตะวันแล้วเขาก็นำรูปที่ตะวันถ่ายไว้ในโทรศัพท์ออกมาเป็นรูปโปรไฟล์ ตะวันจึงโทรไปหามานพเพื่อนที่อยู่นครพนมบอกให้เพิ่มเพื่อนกับเขาทางเฟสบุ๊ค"โถแต่ก่อนมึงไม่อยากจะมีเฟสทำไมตอนนี้ถึงมีเฟสได้ว่ะ"มานพถามขึ้น"แล้วมันไม่ดีหรอวะถ้ากูมีเฟสนะ"ตะวันพูดขึ้น"ก็ดีน่ะสิเพราะมึงทำงานเกี่ยวกับผับถ้ามึงเข้าถึงคนจำนวนมากได้ก็จะเป็นผลดีต่อมึงแล้ว อีกอย่างมันมีประโยชน์กับการที่มึงจะไปหาแหล่งซื้อเหล้าซื้อเบียร์พวกนี้ด้วยจะได้ของที่ถูกและดีขึ้น"มานพพูดแล้วเพิ่มเพื่อนตะวันไป หลังจากที่ตะวันเพิ่มเพื่อนไปหลายๆคน เขาก็นึกสงสัยเกี่ยวกับการแต่งงานของของขวัญจึงเข้าไปดูในเฟสของของขวัญ ก็พบว่าไม่ได้มีการแต่งงานหรืออะไรทั้งนั้น ตะวันจึงเข้าไปดูเฟสของธาวินเขาก็พบกับรูปแต่งงานตรงหน้าโปรไฟล์จึงกดเข้าไปดูก็พบว่าเป็นธาวินกับของขวัญจริงๆด้วย เขาช่างโง่เง้าเสียเหลือเกิน วันนั้นมันน่าจะเป็นข่าวใหญ่พอสมควร แต่เพราะเขามัวแต่อยู่ในไร่ไม่สนใจโทรทัศน์ข่าวคราวใดๆและไม่เล่นโซเชียลจึงทำให้เขาเหมือนคนโง่ มีคนงานในไร่พยายามที่จะพูดแต่พอแม่เลี้ย
หลังจากที่พ่อเลี้ยงกลับมาตอนบ่าย ๆ ก็กินข้าวเสร็จก็ถามหาปลายฝัน ตัววันดี เองก็ทำหน้าลำบากใจ เขาต้องเล่าให้พ่อเลี้ยงฟังหรือไม่ว่าคุณของขวัญมาที่ไร่ ทางคุณของขวัญก็ไม่ได้บอกว่าให้บอกพ่อเลี้ยงสักหน่อยแล้วพ่อเลี้ยงยัง ถามหาปลายฝันอีกไม่ใช่จะเอาเรื่องเขาหรือ วันดีคิดมากเหมือนคนทำผิดใหญ่หลวง"คุณปลายฝันไปทำงานตั้งแต่กลับมาแล้ว หลังจากทำกับข้าวให้พ่อเลี้ยงเสร็จก็ไปทำงานเลย พ่อเลี้ยงจะให้ป้าโทรตามคุณปลายฝันกลับมาหรือเปล่า วันนี้คุณของขวัญเข้ามาหาพ่อเลี้ยงด้วยแต่ก็มานั่งสักพักเขาไม่ได้รอและก็ออกไป"ป้าสายยืนรายงานพ่อเลี้ยงอยู่ พ่อเลี้ยงจึงเหลือบตาไปมองวันดีแป๊บนึง ทำให้วันดีก้มหน้าหลบทันที"โทรให้คุณปลายมาพบผมที่ห้องทำงานแล้วกันครับป้า วันดียกน้ำส้มไปให้ผมกับคุณปลายในห้องทำงานผมด้วย"หลังจากสั่งงานเสร็จพ่อเลี้ยงก็ขึ้นห้องไป ป้าสายจึงรีบโทรตามคุณปลายฝัน และเตรียมน้ำส้มให้ทั้งสองถ้าทั้งสองเข้าห้องทำงานแล้วจะได้ให้วันดียกไป"เป็นอะไรวันดีแกกำลังทำตัวมีพิรุธอยู่ ถ้าคุณปลายกับพ่อเลี้ยงเข้าไปในห้องทำงานแล้วยกน้ำส้มไปให้อย่าทำตัวมีพิรุธ อย่าทำให้น้ำส้มหกเลอะเทอะล่ะเดี๋ยวจะโดนโกรธ"ป้าสายพูดขึ้นและสั
ทางด้านตะวันเมามายได้ไม่นาน คนที่ผับติดต่อไม่ได้ก็ต้องโทรเข้าเบอร์บ้าน เพราะตอนนี้ของเริ่มหมดสต็อกอีกแล้ว พวกเขาต้องให้พ่อเลี้ยงตะวันอนุมัติเท่านั้นจึงต้องเร่ง"พ่อเลี้ยง คนทีผับโทรมาว่าติดต่อพ่อเลี้ยงไม่ได้ เขาว่ามันสำคัญมากป้าเลยเดินมาบอก"ป้าสายขึ้นมาบอกพ่อเลี้ยง"มีรถไปรับคุณปลายฝันกับวันดีแล้วหรือ เดียวผมจะออกไปผับเลยแล้วกันให้พลอยขึ้นมาเก็บห้องให้ด้วยนะครับเอาของพวกนั้นไปทิ้งให้หมดเลย"ตะวันพูดขึ้นพลางชีไปที่มุมห้อง"คนขับรถไปรับคุณปลายตั้งแต่เช้าแล้ว คุณตะวันจะกินอะไรก่อนไหมเดียวป้าไปทำให้"ป้าสายถามขึ้น"ไม่ต้องครับเดี๋ยวคุณปลายกลับมา แล้วให้เขาทำไว้รอผมแล้วกัน ผมอาบน้ำแล้วจะรีบไปพักเลย"ตะวันพูดขึ้นแล้วรีบไปอาบน้ำ ป้าสายจึงให้พลอยขึ้นมาทำความสะอาด แล้วให้คนงานขึ้นมายกของที่พ่อเลี้ยงต้องการทิ้ง ตะวันออกมาจากห้องน้ำเห็นพวกคนกำลังขนของลงไปเขาก็ไม่ได้ใส่ใจ และออกไปจากบ้านขับรถออกไปทันที"แม่เลี้ยงพ่อเลี้ยงออกไปแล้วค่ะ แล้วก็ให้คนงานขนของในห้องพ่อเลี้ยงออกไปทิ้งเป็นจำนวนหนึ่งน่าจะเป็นของของคุณของขวัญ"ป้าสายโทรไปรายงานแม่เลี้ยง"ดีแล้วล่ะเตรียมตัวรับมือกับของขวัญให้ดีแล้วกันเหมือ