LOGINทั้งคู่เดินกลับไปที่โซน VIP ที่เสียงเพลงกระหึ่มและแสงสีสาดส่อง ธนา นั่งลงกับกลุ่มเพื่อน ส่วน เมย์ มองหาใครบางคน
"อ้าว... แล้ว พี่วายุ ไปไหนแล้วคะ?" เมย์ถามขึ้น
วิน หัวเราะอย่างอารมณ์ดี "น่าจะไปดูความเรียบร้อยมั้ง ไม่ต้องห่วงหรอก น้องเมย์ น้องไอ้ เมฆ ก็เหมือนน้องพวกพี่นั่นแหละ เดี๋ยวพวกพี่ดูแลน้อง ๆ เอง"
เสียงเฮดังลั่นเมื่อทุกคนเริ่มปาร์ตี้ต่ออย่างสนุกสนาน แต่ท่ามกลางความอลหม่านนั้น ริสา กลับนั่งนิ่ง จิบเครื่องดื่มในมือเบา ๆ ราวกับกำลังอยู่ห่างไกลจากความรื่นเริงรอบตัว
"เฮ้ย! ไอ้ธนา นี่แกห่วงน้องสาวขนาดนี้เลยเหรอวะ!" ปกรณ์ ตะโกนแข่งกับเสียงเพลง "นั่งเงียบไปกี่ชั่วโมงแล้วเนี่ย ยังไม่ได้ยินเสียงมันพูดอะไรเลยตั้งแต่มา!"
"เออว่ะ! มันจะเงียบไปถึงไหน!" เพื่อนคนอื่นเสริม
ธนา ตอบสั้น ๆ ห้วน ๆ ด้วยน้ำเสียงที่ไร้อารมณ์ "ขี้เกียจพูด วันนี้มาดื่ม... ไม่ได้มาพูดโว้ย"
ทุกคนฮือฮา "เออ! แกพูดเองนะเว้ยว่าแกมาดื่ม! คืนนี้ถ้าแกไม่เมา... อย่าเรียกตัวเองว่าดื่มเลยนะโว้ย! ว่าไงพวกเรา!"
บรรดาหนุ่ม ๆ เริ่มพยายามชวนชนแก้วกับสาว ๆ บ่อยขึ้น ริสาที่ดื่มไปทีละนิดแต่บ่อยครั้งก็เริ่มรู้สึกถึงอาการ มึนงง ที่คืบคลานเข้ามา
ทันใดนั้น เสียงเพลง EDM ก็กระหึ่มขึ้นจนพื้นสะเทือน เมย์ คว้าแขนริสาแล้วลากเธอลงไปยังชั้นล่างสุดของคลับ เพื่อลงไป แดนซ์ปลดปล่อย
ริสาที่โดนดึงออกจากโซน VIP กลับรู้สึก โล่งใจ อย่างประหลาด เธอปล่อยให้ตัวเองถูกกลืนหายไปในจังหวะเพลงที่เร่งเร้า โยกย้ายไปตามแรงดึงดูดของเสียงดนตรี
ยิ่งดึก ริสา ยิ่งดื่มและเต้นอย่าง เมามันและเร่าร้อน ชุดเดรสสีดำที่รัดรูปยิ่งขับให้สรีระของเธอดึงดูดสายตา หนุ่ม ๆ ที่เต้นเบียดเสียดอยู่ข้าง ๆ เริ่มเข้ามาขอชนแก้วและกระซิบขอเบอร์โทรศัพท์
จากมุมสูงของโซน VIP ธนา ที่มองลงมา สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง เขาจ้องมองภาพเบื้องล่างด้วยดวงตาที่ เยียบเย็น ก่อนจะยกแก้วเหล้ากระดกแล้วกระดกอีก พร้อมกับ กำหมัดแน่น จนข้อกระดูกขาวโพลนอยู่ที่ราวจับ
เขากระซิบพึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความ ขุ่นเคืองรุนแรง
"นี่สินะ... คืนนั้นที่เป็นแบบนั้น... ที่เกิดขึ้น... ก็คงเป็นแบบนี้สินะ..."
พูดจบ เขาก็กระดกเหล้าที่เหลือในแก้วจนหมด แล้วเดินลงไปทันที! มุ่งหน้าตรงเข้าไปหาหญิงสาว... ในหัวของเขา ภาพที่ริสาไปเต้นและถูกชายอื่นเข้าหา ทำให้เขาคิดว่า 'คืนนั้น' ที่เคยเกิดขึ้น อาจจะเป็นเพราะริสาเองก็ ตั้งใจ หรือคุ้นเคยกับบรรยากาศแบบนี้...
แรงฉุดรั้งที่ไร้การยับยั้ง
ธนา พุ่งทะลุฝูงชน ที่กำลังเต้นอย่างบ้าคลั่ง เขาไม่ใช่คนที่เดิน แต่เป็น พายุ ที่เคลื่อนที่อย่างมีจุดหมาย ไม่สนใจว่าต้องชนใครบ้างเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย สายตาของเขาล็อกเป้าไปที่ ริสา ซึ่งกำลังหัวเราะและโยกย้ายตัวอย่างอิสระกับเมย์ ในชุดเดรสที่เย้ายวน โดยมีชายหนุ่มหลายคนเต้นเบียดอยู่ใกล้ ๆ พยายามฉวยโอกาส เข้าใกล้และฉกฉวย
วินาทีที่เขาไปถึง ริสา ถูกชายคนหนึ่งที่ยื่นหน้าขอเบอร์โทรศัพท์ คว้ามือไว้เบา ๆ
ภาพนั้นคือ ฟางเส้นสุดท้ายที่ขาดผึง!
หมับ!
ธนาไม่ได้คว้ามือริสา แต่เขาตะครุบข้อมือของชายคนนั้นไว้แน่นราวกับคีมเหล็ก เลือดในกายของเขา เดือดพล่าน ด้วยความรู้สึกที่เขาเองก็แยกแยะไม่ได้ว่ามันคือ ความโกรธ หรือ ความหึงหวง กันแน่
"ปล่อย" ธนาพูดเพียงคำเดียว เสียงทุ้มต่ำและ เย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง มันเป็นเสียงที่ไม่ต้องตะคอก แต่เปี่ยมไปด้วย อำนาจ ที่ทำให้จังหวะดนตรีรอบข้างดูเหมือนจะ เบาลงไปในฉับพลัน
ชายหนุ่มคนนั้นหันมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ แต่เมื่อเขาเห็นใบหน้าเย็นชาและดวงตาที่ กรุ่นโกรธดั่งไฟนรก ของธนา เขาก็ หน้าซีดเผือด รีบปล่อยมือจากริสาทันทีแล้ว ถอยห่างไปอย่างรวดเร็ว
ริสาที่กำลังมึนงงจากแอลกอฮอล์และจังหวะเพลง ก็ถูกแรงกระชากที่ รุนแรง จากธนา ทำให้เธอเสียหลักเซถลาไปปะทะเข้ากับ แผงอกที่แข็งแกร่ง ของเขา
"คุณ...?" ริสาพึมพำอย่างงุนงง เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยดวงตาที่ พร่ามัว
ธนาไม่ตอบ เขายังคงมองไปยังชายคนนั้นด้วยสายตาที่ พร้อมจะแหลกสลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า ก่อนจะหันกลับมาที่ริสา เขากระชากเธอออกห่าง จากวงล้อมของฝูงชนอย่าง ไม่ไยดี
เมย์ ที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ตกใจจนพูดไม่ออก รีบวิ่งตามไปติด ๆ
"เฮ้ย! พี่ธนา! ปล่อยริสาก่อน! จะทำอะไรน่ะ!" เมย์พยายามคว้าแขนริสาไว้
ธนาหยุดเดิน ก้มลงมองริสาที่กำลังเมาอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วย ความผิดหวัง และ ความรู้สึกเป็นเจ้าของที่ถูกหักห้ามใจ
"ทำอะไรน่ะเหรอ?" เขาพูดเสียงหนักแน่น น้ำเสียงคล้าย เหยียดหยาม "ก็ทำหน้าที่ พี่ชาย ที่ต้องดูแลน้องสาวไง!"
เมย์ทำหน้างงงวย "หน้าที่อะไร...?"
เขาไม่ได้สนใจคำถาม ธนาออกแรง ลากริสา อย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปยัง ทางออกลับ ที่เชื่อมต่อไปยังโซนด้านหลังคลับ ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่แทบไม่มีใครเข้ามา
ริสารู้สึกถึง ความโมโหที่แผ่ออกมาจากร่างกายของเขาอย่างชัดเจน แรงบีบที่ข้อมือของเธอทำให้เธอ เจ็บจนน้ำตาคลอ
"ปล่อยฉันนะ...! ฉันไม่ใช่ของเล่นของคุณ! คุณไม่มีสิทธิ์... มาตัดสินว่าฉันควรทำอะไร!"
"ไม่มีสิทธิ์เหรอ?" เขาหัวเราะในลำคออย่าง เย้ยหยัน "เธอคิดว่าเราเป็นแค่คนแปลกหน้าบนโลกใบนี้... เธอเองก็ไม่คิดว่าฉันมีสิทธิ์อะไรเลยอย่างนั้นเหรอ?"
คำพูดนั้นแทงเข้ากลางใจของริสา! แม้เธอจะเมาแต่ ความเจ็บปวด ก็ทำให้เธอได้สติ เธอเริ่มไม่แน่ว่าเขากำลังพูดถึงอะไร คืนที่พวกเขาทำลายเส้นแบ่งทุกอย่างทิ้งไป ก่อนที่พวกเขาจะรู้ว่าต้องกลายมาเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน!
เขาลากริสาอย่าง ไม่ไยดี ผ่านทางออกลับไปยังลานจอดรถส่วนตัวที่มีเพียงแสงไฟสลัว ๆ เมื่อมาถึงรถยุโรปคันหรูของเขา ธนาก็ปลดล็อกประตูฝั่งผู้โดยสารและ ออกแรงผลักริสาเข้าไปด้านในอย่างแรง จนร่างของเธอเซถลาปะทะเข้ากับเบาะหนังอย่างจัง
"กลับบ้าน" เขาออกคำสั่งเสียงเข้มก่อนจะปิดประตูรถลงอย่างหนักแน่น 'ปัง!' เป็นการตัดขาดริสาออกจากสถานการณ์โกลาหลทั้งหมด
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแนบหู "วายุ...อยู่ไหน" ธนาพูดกรอกเสียงหนัก "...ไปส่งเมย์ที่บ้านด้วยนะ ทั้งคู่เมามาก ฉันจะพาริสากลับบ้านเอง"
พูดจบเขาก็เดินอ้อมไปขึ้นประจำที่คนขับ แล้วเหยียบคันเร่งออกไปจากลานจอดรถอย่างรวดเร็ว
ภายในรถ ริสาพยายามจะปลดเข็มขัดนิรภัยแต่ทำไม่ได้เพราะ มือสั่นไปหมด
"จอดนะ! ให้ฉันลงเดี๋ยวนี้!" เธอตะโกน
ธนาหันมามองเธอเพียงเสี้ยววินาที ดวงตาของเขา วาวโรจน์ด้วยความเดือดดาลที่ถูกกดเอาไว้
"เธอลงไม่ได้หรอก" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ ดุดันและต่ำกว่าปกติ "คืนนี้...ไม่มีใครมีสิทธิ์ตัดสินใจแทนตัวฉันได้...โดยเฉพาะเธอ"
ไฟหน้าของรถยนต์คันหรูสาดส่องไปตามถนนเปลี่ยวที่ทอดยาวออกจากตัวคลับ แสงไฟนีออนจากเมืองเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว เหลือไว้แต่ ความเงียบ และ เสียงหายใจที่หนักหน่วง ของคนสองคน
ริสาพยายามรวบรวมสติที่เหลืออยู่จากฤทธิ์แอลกอฮอล์เพื่อต่อสู้กับธนา แต่ทุกครั้งที่เธอขยับ ความโกรธที่เย็นชาของเขาก็ยิ่งกดดันเธอไว้
"คุณต้องการอะไร?" ริสากดเสียงต่ำ สัญชาตญาณ ทำให้เธอรู้ว่าการตะโกนใส่เขาตอนนี้ ไม่เป็นผลดีแน่...
ในขณะที่ทั้งคู่ที่ยืนสบตากันธนา รุกด้วยท่าทีที่นุ่มนวล "ทำอะไรกันอยู่ครับ ไม่เห็นชวนพี่มาบ้างเลย อุตส่าห์รอให้ชวน ก็ไม่เห็นชวน เลยต้องเดินมากดกริ่ง"ริสาถึงกับเขิน ธนาจับไปที่แก้มสีชมพูของคนตรงหน้า "หน้าแดงใหญ่เลย เขินพี่ขนาดนั้นเลยเหรอ"ริสาที่ยังอึ้งรีบดึงสติแล้วเดินกลับไปนั่งที่โซฟา "ริสาแค่ทำตัวไม่ถูกค่ะ พี่จะกลับมาทำไมไม่บอกล่วงหน้า ยังส่งข้อความคุยกันอยู่เลย กลับมาแล้วน่าจะบอกริสาหน่อย"ธนา เดินตามมานั่งลงตรงข้ามเธอ "ก็พี่ยุ่งๆ กับห้องใหม่อยู่เลยยังไม่เข้าที่เข้าทาง... ทำไม ถ้ารู้ว่าเป็นพี่ย้ายมาอยู่ข้างห้อง จะช่วยพี่จัดของเหรอ"ริสา "เปล่าสักหน่อย ริสาก็แค่... แค่ทำตัวไม่ถูก ที่พี่มาอยู่ตรงหน้าแบบกะทันหันแบบนี้"ธนา เสียงนุ่มนวลและจริงใจ "หลายเดือนที่ผ่านมา พี่ขอโทษริสานะ ที่พี่ไม่ได้อยู่ข้างๆ ริสา"ริสา "จะขอโทษทำไมคะ มันเป็นความต้องการของริสาเอง มันทำให้ริสาทำใจง่าย การที่ไม่เจอหน้าพี่ในช่วงนั้น... ถ้าริสาต้องเจอพี่ในตอนนั้นมันมีแต่ความเจ็บปวดของการสูญเสีย"ธนานั่งนิ่งเงียบ สีหน้าเริ่มเศร้าลงมา พร้อมกับคำถามที่แสนจริงใจ "แล้วตอนนี้... เจอหน้าพี่... แล้วยังเจ็บปวดอยู่ไห
หกเดือนผ่านไป...หลังเหตุการณ์ที่พลิกผันชีวิต ริสา เลือกที่จะย้ายออกจากบ้านตามความต้องการของตัวเอง ทว่าเพื่อคลายความกังวลของของแม่ เธอจึงยอมรับข้อเสนอของพ่อเลี้ยงที่มอบคอนโดมิเนียมให้เป็นที่พักพิง และรอคอยวันที่เธอพร้อมจะกลับมาริสาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายที่คอนโด เธอทำงานรับงานรีวิวบ้าง ขายของออนไลน์บ้าง พยายามดำเนินชีวิตให้กลับสู่ภาวะปกติ ทว่าบาดแผลจากการสูญเสียครั้งใหญ่ยังคงฝังลึกในใจ ไม่มีวันลบเลือนเสียงตะกุกตะกักดังมาจากห้องข้างๆ ริสาเปิดประตูออกไปดูด้วยความแปลกใจ "อ้าว! ห้องนี้มีคนซื้อแล้วเหรอ... เพื่อนบ้านใหม่จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายนะ" เธอพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะปิดประตูและกลับมานั่งดูทีวีต่อหลังจากที่ริสาปิดประตู... ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาว คิ้วเข้มคมคาย ก้าวออกมาจากลิฟต์ เขาหยุดยืนอยู่หน้าห้องของตน แต่สายตาและใบหน้ากลับจับจ้องไปยังประตูห้องข้างๆ ที่เพิ่งปิดลง รอยยิ้มเล็กๆ แห่งความหวังฉายชัดบนใบหน้า ก่อนที่เขาจะเดินเข้าสู่ห้องใหม่ที่เพิ่งขนข้าวของเข้ามา เขาเปิดม่านรับแสงแดดยามบ่ายอ่อนๆ ยืนเท้าเอวทอดสายตาไปยังวิวเบื้องหน้าอันกว้างไกล ก่อนจะหันมาพึมพำกับตัวเอง"นี่แหละค
ริสาหลับไปได้ราว 3 ชั่วโมง จากความอ่อนเพลียและความเจ็บปวดทั้งทางกายและใจ จนเสียงสะอื้นเงียบลงไปธนานั่งเฝ้าไม่ห่าง ค่อยๆ ขยับเข้าไปมองใบหน้าเธอใกล้ๆ ความรู้สึกเจ็บปวดที่ทิ่มแทงหัวใจเขา... เขาใช้ปลายนิ้วแตะไปที่ผ้าปิดแผลด้วยความรู้สึกผิดและลูบกลุ่มผมของเธอเบาๆ สัมผัสรอยน้ำตาข้างแก้มที่ยังไม่แห้งกรัง ปากเขาพึมพำแต่คำว่า "ขอโทษ" อย่างไม่หยุดหย่อนน้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาอย่างไม่อาจห้ามได้ ยอมรับความรู้สึกผิดอย่างแท้จริงชั่วขณะต่อมา ริสารู้สึกเหมือนมีบางสิ่งสัมผัสกายและใบหน้า เธอสะดุ้งเล็กน้อยแล้วลืมตาขึ้น พบว่าเป็นธนา ชายที่เธอรักมากที่สุด สายตาอ่อนล้าและเจ็บปวดในใจของเธอสบกับเขา เป็นสายตาที่ผสมผสานระหว่างความรักและความทนทุกข์ริสาไม่ได้ถาม ไม่ด่าทอ หรือแม้แต่ไล่เขาไป เธอกลับเงียบสนิทราวกับเขาไม่มีตัวตน ยิ่งทำให้ธนารู้สึกทรมานในหัวใจมากขึ้น"ริสา... ทำไมต้องเงียบแบบนี้ด้วย จะด่า จะว่า จะไล่พี่ก็ยังดี! พูดกับพี่สักคำได้ไหม พี่ขอร้อง พี่ขอโทษนะ อย่าเงียบแบบนี้เลย ให้โอกาสพี่สักครั้ง พี่ยอมรับผิดทุกอย่าง จะว่าพี่ยังไงก็ได้ แต่อย่าเงียบแบบนี้" ธนาอ้อนวอนด้วยเสียงสั่นเครือและใบหน้าเปื้อนน
ทันทีที่ธนาก้าวออกมาจากห้องพักฟื้น เขาเหมือนสูญสิ้นเรี่ยวแรง ร่างสูงใหญ่ทรุดฮวบลงนั่งคุกเข่าต่อหน้ามณีและศักดิ์ชัย ด้วยความรู้สึกผิดที่กัดกินหัวใจจนแทบจะแหลกสลายเมฆที่ยืนอยู่ใกล้ๆ รับรู้ถึงบรรยากาศอันหนักอึ้ง เขาเลือกที่จะเดินเลี่ยงออกไปอย่างเงียบเชียบ ปล่อยให้ครอบครัวได้เผชิญหน้าและสะสางเรื่องราวกันเองธนาก้มหน้าต่ำ ติดพื้นห้องเย็นเฉียบ น้ำตาเอ่อคลอ ก่อนจะเริ่มกล่าวคำขอโทษและสารภาพผิดทั้งหมดออกมาอย่างยากลำบาก"ผมขอโทษครับคุณน้า... ทุกอย่างเป็นความผิดของผมคนเดียว ถ้าผมชัดเจนและทำให้น้องมั่นใจในความสัมพันธ์ของเรามากกว่านี้... เรื่องของเราคงไม่ต้องปิดบังใคร... เป็นเพราะผม... ตั้งแต่แรก..."ธนาหยุดหายใจ พยายามรวบรวมสติ "ทั้งๆ ที่ทุกอย่างมันเกิดขึ้นตั้งแต่ที่เรายังไม่รู้จักกัน... ผมน่าจะทำให้มันถูกต้องตั้งแต่ทีแรก..."คำว่า 'ความผิดพลาดตั้งแต่ทีแรก' ทำให้มณีที่กำลังปวดร้าวอยู่แล้วยิ่งชะงักงัน"อะไรคือความผิดพลาดตั้งแต่ครั้งแรก... ตั้งแต่ยังไม่รู้จักกัน... น้าไม่เข้าใจ !" มณีเอ่ยถามเสียงสั่นเทาแฝงความประหลาดใจธนาเงยหน้าขึ้น ดวงตาแดงก่ำ เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้มณีฟังอย่างละเอียดยิบ พ
ไม่ทราบว่าพวกคุณเป็นญาติของคนไข้หรือเปล่าครับ...ทุกคนเงียบกริบ ธนา, มณี, และศักดิ์ชัย ก้าวเข้าไปหาคุณหมอพร้อมกันด้วยความหวังอันริบหรี่คุณหมอ สีหน้าเคร่งเครียดและเศร้าสร้อย"ต้องขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ..."คำพูดนั้น... ทำให้ ธนา ทรุดตัวลงกับพื้น มณีร้องไห้โฮอย่างสุดเสียงธนา เสียงแตกพร่า คุณหมอ... หมายความว่ายังไงครับ! ริสา... !คุณหมอ "คนไข้ปลอดภัยครับ แต่เนื่องจากคนไข้ได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรงจากการตกบันได... ทำให้... เราไม่สามารถช่วยชีวิตเด็กในครรภ์ไว้ได้ครับ คนไข้มีภาวะแท้งคุกคามจากการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง..."ความเงียบเข้าปกคลุมทุกคนศักดิ์ชัยถึงกับกุมขมับอย่างเคร่งเครียด ส่วนธนาคุกเข่าตัวสั่นงันงกลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวดมณีหยุดร้องไห้ชั่วขณะด้วยความสับสนมณี เสียงแหบแห้ง "เด็ก... เด็กอะไรคะ! ลูกสาวฉัน... ริสา... ริสาท้องเหรอคะ...!"ศักดิ์ชัยหันไปมองธนาอย่างไม่เชื่อสายตา "ธนา... นี่แก... เป็นแก...แกทำอะไรลงไป...!"ธนา ไม่สามารถตอบได้ เขาร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างบ้าคลั่ง ความเจ็บปวดจากการสูญเสียที่มาพร้อมกับการรับรู้ถึงการมีอยู่ของลูก! และการสูญเสียครั้งนี้เกิดจ
จีน่า รีบวิ่งตามออกมา "เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งไป!"ริสาไม่สนใจรีบเดินลิ่ว จีน่า รีบวิ่งตามมาคว้าแขนเธอไว้"ฉันบอกว่าหยุด!" นี่เธอมีปัญหากับพี่ชายของเธอเพราะรูปถ่ายใบนั้นเหรอ! ฉันไม่คิดว่าเขาจะยังเก็บไว้อยู่! และอีกอย่างนึง รูปนั้น..."ริสา ไม่ฟังสะบัดแขนจีน่าออกอย่างรวดเร็ว แล้วรีบวิ่งไปที่ลิฟท์ แต่ลิฟท์ไม่เปิด เธอจึงวิ่งไปทาง บันไดหนีไฟ ทันที เพื่อที่จะรีบออกจากที่น่ารังเกียจนี้ให้เร็วที่สุดธนา ที่วิ่งตามมาเห็นคนรักที่ตกบันไดไปต่อหน้าต่อตา หัวใจของเขาร่วงหล่นตามร่างเธอลงไป เขาตกใจจนแทบหยุดหายใจ ริสากลิ้งลงไปจนถึงขั้นสุดท้ายของบันได แล้วเธอก็ แน่นิ่งไปทันทีที่ ธนา วิ่งมาถึงร่างของเธอ เขาไม่สนใจอาการบาดเจ็บที่มือของตัวเอง รีบช้อนร่างบางของเธอขึ้นมา... เลือด ที่ไหลออกมาจากไรผมของเธอ และที่น่าตกใจกว่านั้นคือ เลือดที่ไหลออกมาจากช่วงล่างของเธอ เต็มไปถึงขา"ริสา... ริสา..." เขาพยายามเรียกชื่อเธอและเขย่าเบาๆ แต่เธอก็ไม่ได้สติน้ำตาเขาไหลพรากออกมาอย่างบ้าคลั่งด้วยความเจ็บปวดอย่างที่สุด ราวกับมีดนับพันเล่มกรีดแทงกลางอก เขาไม่มีเวลาเสียใจ ความหวาดกลัวเข้ากัดกินจนไร้สติ รีบอุ้มร่างของเธอขึ้น







