로그인พันธนาการที่ถูกคลาย
ทันทีที่วายุก้าวเข้ามาใกล้โซน V1 ริสาใช้จังหวะนั้นดิ้นเบาๆ พร้อมกับออกแรงแกะมือของธนาที่กอดเธอไว้อย่างแน่นหนา
ธนาเห็นวายุเดินมาพอดี และนึกขึ้นได้ถึงสถานะที่เขาต้องรักษา เขาจึงคลายวงแขนออกอย่างรวดเร็วราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ริสาหลุดจากพันธนาการนั้นอย่างโล่งใจ เธอรีบจัดชุดและเตรียมจะลุกเดินหนี แต่ไม่ทัน
วายุเดินมาพร้อมกับเมย์ที่เพิ่งตามมาสมทบ เขาโบกมือห้าม "ไม่ต้องไปไหนแล้วครับน้องริสา น้องเมย์! เด็กที่พี่จ้างมาดูแลแขกตอนนี้มากันครบแล้ว พวกน้องทั้งสองคนชิลล์อยู่ตรงนี้แหละ!"
วายุ พูดอย่างอารมณ์ดี "พี่ขอบคุณน้องทั้งสองคนมากที่ช่วยพี่วันนี้ ไม่งั้นแย่เลย คืนนี้เต็มที่เลยนะ!"
กลุ่มเพื่อนที่โต๊ะ V1 มองหน้ากันเลิ่กลั่ก วินขมวดคิ้ว "อะไรของแกวะวายุ? อยู่ดีๆ ให้พนักงานเลิกงานแล้วมานั่งแจมแบบนี้เลยเหรอ? หรือว่าแกเหมาจ่ายให้พวกเธอแล้ว?"
คำว่า 'เหมาจ่าย' ทำให้สีหน้าของริสาซีดเผือดลงทันที เธอรู้สึกเหมือนถูกลดค่าให้เป็นเพียงสินค้าที่แลกเปลี่ยนด้วยเงิน
วายุรีบแทรกขึ้นด้วยสีหน้าจริงจังกว่าเดิม "อ้าว พวกแกนี่ไม่รู้เหรอ? นี่น้องริสา น้องสาวไอ้ธนามัน! ส่วนนี่น้องเมย์ น้องไอ้เมฆ!"
ทุกคนต่างอึ้ง ปกรณ์มองธนาอย่างไม่เชื่อสายตา "น้องสาวธนาเหรอ? แต่พ่อแกไม่ได้แต่งงานใหม่นี่หว่า..."
วายุหัวเราะ "ก็งานเลี้ยงเปิดตัวน้องสาวไอ้ธนาเมื่ออาทิตย์ที่แล้วไง พวกแกมัวแต่ติดงานไม่ได้ไปกันเอง"
"โอ้โฮ! นึกว่าเป็นแค่ปาร์ตี้ของคนรุ่นพ่อ เลยไม่ได้สนใจ" ปกรณ์ทำหน้าเสียดาย "ใครจะคิดว่าจะมีนางฟ้าแฝงอยู่ในงาน! เนาะพวกแก!" ทุกคนยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความนัย
วินหรี่ตาจับผิดธนา "ว่าแต่... ไอ้ธนา แกห่วงน้องสาวขนาดนี้เลยเหรอวะ? สีหน้าแกเมื่อกี้มันไม่ใช่อาการห่วงน้องนะ"
"เออ... ก็จริง" ปกรณ์เสริม "แต่ก็นะ... พี่น้องไม่ใช่ท้องเดียวกันนี่ ก็อย่างนี้แหละพวกเรา ฮาๆๆ"
คำพูดติดตลกของปกรณ์เรียกเสียงหัวเราะจากกลุ่มชายหนุ่ม แต่มันกลับทำให้ริสารู้สึกแย่ลงไปอีก วายุรีบเปลี่ยนเรื่องเพื่อปรับอารมณ์
"ว่าแต่... เมื่อกี้เหมือนหายไปคนนึงนะ? น้องจี๊ดไปไหนแล้วล่ะ?"
เมย์รีบตอบ "จี๊ดท้องเสียค่ะพี่วายุ! มาถึงแล้วก็กลับไปแล้ว"
"อ้าว... แล้วไอ้เมฆล่ะ? มันน่าจะถึงตั้งนานแล้วนี่" วายุกำลังจะโทรศัพท์หาเมฆ แต่เมย์รีบคว้ามือถือไว้ทัน "อย่านะคะพี่วายุ! ถ้าพี่เมฆเห็นเมย์ในสภาพแบบนี้ เมย์โดนด่าตายเลย!"
"เออจริง! ถ้ามันรู้ว่าพี่เอาน้องมันมาเป็นพนักงานแบบนี้โดยไม่ขอ มันได้ฆ่าพี่แน่" วายุพยักหน้าเข้าใจ "งั้นเมย์ลองไลน์ถามดูสิว่าถึงไหนแล้ว"
เมย์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทันที และข้อความของเมฆก็เด้งขึ้นมา: ตอนนี้พี่"อยู่โรงพยาบาล พอดีเห็นจี๊ดอยู่หน้าคลับ เลยพามาหาหมอ"
เมย์โล่งใจขึ้นมาทันทีที่รู้ว่าพี่ชายไม่เห็นเธอในชุดหูกระต่าย ส่วนริสาที่นั่งก้มหน้ากำหมัดแน่นอยู่ข้างธนาก็พูดขึ้นมาอย่างแผ่วเบา "เมย์ ฉันอยากกลับแล้ว แกจะกลับพร้อมฉันไหม?"
"อะไรกันริสา! เพิ่งได้นั่งเอง! เพิ่งหมดหน้าที่จากพนักงาน ขอแปลงร่างเป็นคนที่มาเที่ยวก่อนได้ไหม นะแกนะ อย่าเพิ่งกลับเลย ถ้าแกกลับ ฉันจะอยู่กับใคร?"
ริสากังวลใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ "ถ้าอย่างนั้น... เราไปเปลี่ยนชุดนี้ออกกันดีไหม? ฉันไม่อยากใส่ชุดนี้แล้ว"
"ก็ได้ๆ แก"
ปกรณ์ที่ได้ยินก็พูดขัดขึ้นทันที "ไม่เห็นต้องเปลี่ยนเลยน้องริสา! ใส่ชุดนี้ออกจะน่ารักเซ็กซี่จะตาย! ใส่แบบนี้แหละเป็นอาหารตาพวกพี่หน่อยนะ!"
คำพูดของปกรณ์และสายตาของชายหนุ่มรอบโต๊ะที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง ยิ่งทำให้ริสารู้สึกแย่ลงไปอีก เธอรู้สึกว่าไม่มีใครปกป้องเธอเลย แม้แต่ธนาที่นั่งข้างๆ ก็ยังมองเธอด้วยสายตา
"ไม่ล่ะค่ะ... ริสาขอไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ" พูดจบ เธอก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
เมย์รีบเดินตาม "เดี๋ยวเมย์กลับมานะคะพี่วายุ แป๊บนึงค่ะ!"
บอดี้การ์ดที่ไม่อุ่นใจ
เมื่อมาถึงห้องเปลี่ยนชุด ริสาหันไปหาเมย์ทันที "เมย์... เราไม่ต้องไปนั่งตรงนั้นได้ไหม? ฉันว่าเราอยู่กันแค่สองคนไม่ดีกว่าเหรอ"
"ได้ไงแก! แกไม่กลัวเหรอ? เราเป็นผู้หญิงอยู่กันสองคนนะ ถ้าอยู่กับพวกพี่วายุ พี่ธนา พวกนั้นน่ะเพื่อนพี่เมฆทั้งนั้น ยังไงก็ไม่มีใครกล้าทำอะไรเราหรอก แถมเรายังมีเกราะคุ้มกันจากสายตาคนอื่นด้วย ดีซะอีก เหมือนมีบอดี้การ์ดส่วนตัวตั้งหลายคน!"
ริสาได้แต่ถอนหายใจอย่างกระอักกระอ่วนใจ แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรต่อ เมย์เดินมาเกาะแขนเธอ "แกอย่าคิดมากสิ ฉันมีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า บอกฉันได้นะ ฉันเพื่อนแกนะเว้ย"
"เปล่า... ไม่มีอะไรหรอกแก ฉันก็แค่เกรงใจพวกพี่ๆ เขา เผื่อเขาอยากพาแฟนมา"
"ไม่เห็นเป็นไรเลย! สมัยเด็กๆ ฉันก็สนิทกับพี่วายุกับพี่ธนา พี่เขานิสัยดีออก พี่วายุถึงจะดูกะล่อน แต่เขาพึ่งพาได้ ส่วนพี่ธนาเห็นเงียบๆ ครึ๋มๆ แบบนั้น เขาเป็นคนอบอุ่นใจดีมาก เชื่อฉันสิ"
ริสาได้แต่ทำใจ และยอมตามใจเพื่อน ให้เรื่องนี้มันจบๆ ไป
ขณะที่กำลังจะเดินออกจากห้อง ริสาโทรศัพท์หาจี๊ดอีกรอบ "ฮัลโหลจี๊ด แกเป็นไงบ้าง?"
"โชคดีเจอพี่เมฆตอนอยู่หน้าคลับค่ะพี่เขามาส่งฉัน ตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้วแก... แต่ที่สำคัญที่สุดคือทุกสิ่งทุกอย่างมันจบแล้ว ริสา ฉันหมดโอกาสแก้ตัวแล้ว..." จี๊ดกระซิบเสียงอ่อนแรง
"ทำไม? เกิดอะไรขึ้น?"
"นี่ฉันท้องเสียขี้แตกต่อหน้าผู้ชายนะ! ฉันอยากจะเอาหน้าเอาหัวมุดดินมากเลยตอนนี้!"
ริสาหัวเราะเบาๆ "แกก็ว่าไป... รีบๆ หายนะ ดูแลตัวเองด้วย สักพักนึงฉันก็จะกลับแล้ว"
"โอเคแก เที่ยวเผื่อฉันด้วยนะ บอกยัยเมย์ด้วย... อย่าไปดื่มเยอะนะ พวกแกไม่มีตัวแม่ตัวมัมอย่างฉัน เดี๋ยวโดนคนลากไปไหนไม่รู้ เมาไม่รู้ตัว"
เมย์ที่ได้ยินประโยคสุดท้ายก็แย่งโทรศัพท์ไป "ไม่ต้องห่วงหรอกฉันมีบอดี้การ์ดเยอะ! แกดูแลตัวเองเถอะยัยจี๊ด!" เมย์กดวางสาย
ทั้งคู่เดินกลับ ไปที่โซน VIP และนั่งลงกับกลุ่มเพื่อนของธนา...อีกครั้ง
ในขณะที่ทั้งคู่ที่ยืนสบตากันธนา รุกด้วยท่าทีที่นุ่มนวล "ทำอะไรกันอยู่ครับ ไม่เห็นชวนพี่มาบ้างเลย อุตส่าห์รอให้ชวน ก็ไม่เห็นชวน เลยต้องเดินมากดกริ่ง"ริสาถึงกับเขิน ธนาจับไปที่แก้มสีชมพูของคนตรงหน้า "หน้าแดงใหญ่เลย เขินพี่ขนาดนั้นเลยเหรอ"ริสาที่ยังอึ้งรีบดึงสติแล้วเดินกลับไปนั่งที่โซฟา "ริสาแค่ทำตัวไม่ถูกค่ะ พี่จะกลับมาทำไมไม่บอกล่วงหน้า ยังส่งข้อความคุยกันอยู่เลย กลับมาแล้วน่าจะบอกริสาหน่อย"ธนา เดินตามมานั่งลงตรงข้ามเธอ "ก็พี่ยุ่งๆ กับห้องใหม่อยู่เลยยังไม่เข้าที่เข้าทาง... ทำไม ถ้ารู้ว่าเป็นพี่ย้ายมาอยู่ข้างห้อง จะช่วยพี่จัดของเหรอ"ริสา "เปล่าสักหน่อย ริสาก็แค่... แค่ทำตัวไม่ถูก ที่พี่มาอยู่ตรงหน้าแบบกะทันหันแบบนี้"ธนา เสียงนุ่มนวลและจริงใจ "หลายเดือนที่ผ่านมา พี่ขอโทษริสานะ ที่พี่ไม่ได้อยู่ข้างๆ ริสา"ริสา "จะขอโทษทำไมคะ มันเป็นความต้องการของริสาเอง มันทำให้ริสาทำใจง่าย การที่ไม่เจอหน้าพี่ในช่วงนั้น... ถ้าริสาต้องเจอพี่ในตอนนั้นมันมีแต่ความเจ็บปวดของการสูญเสีย"ธนานั่งนิ่งเงียบ สีหน้าเริ่มเศร้าลงมา พร้อมกับคำถามที่แสนจริงใจ "แล้วตอนนี้... เจอหน้าพี่... แล้วยังเจ็บปวดอยู่ไห
หกเดือนผ่านไป...หลังเหตุการณ์ที่พลิกผันชีวิต ริสา เลือกที่จะย้ายออกจากบ้านตามความต้องการของตัวเอง ทว่าเพื่อคลายความกังวลของของแม่ เธอจึงยอมรับข้อเสนอของพ่อเลี้ยงที่มอบคอนโดมิเนียมให้เป็นที่พักพิง และรอคอยวันที่เธอพร้อมจะกลับมาริสาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายที่คอนโด เธอทำงานรับงานรีวิวบ้าง ขายของออนไลน์บ้าง พยายามดำเนินชีวิตให้กลับสู่ภาวะปกติ ทว่าบาดแผลจากการสูญเสียครั้งใหญ่ยังคงฝังลึกในใจ ไม่มีวันลบเลือนเสียงตะกุกตะกักดังมาจากห้องข้างๆ ริสาเปิดประตูออกไปดูด้วยความแปลกใจ "อ้าว! ห้องนี้มีคนซื้อแล้วเหรอ... เพื่อนบ้านใหม่จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายนะ" เธอพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะปิดประตูและกลับมานั่งดูทีวีต่อหลังจากที่ริสาปิดประตู... ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาว คิ้วเข้มคมคาย ก้าวออกมาจากลิฟต์ เขาหยุดยืนอยู่หน้าห้องของตน แต่สายตาและใบหน้ากลับจับจ้องไปยังประตูห้องข้างๆ ที่เพิ่งปิดลง รอยยิ้มเล็กๆ แห่งความหวังฉายชัดบนใบหน้า ก่อนที่เขาจะเดินเข้าสู่ห้องใหม่ที่เพิ่งขนข้าวของเข้ามา เขาเปิดม่านรับแสงแดดยามบ่ายอ่อนๆ ยืนเท้าเอวทอดสายตาไปยังวิวเบื้องหน้าอันกว้างไกล ก่อนจะหันมาพึมพำกับตัวเอง"นี่แหละค
ริสาหลับไปได้ราว 3 ชั่วโมง จากความอ่อนเพลียและความเจ็บปวดทั้งทางกายและใจ จนเสียงสะอื้นเงียบลงไปธนานั่งเฝ้าไม่ห่าง ค่อยๆ ขยับเข้าไปมองใบหน้าเธอใกล้ๆ ความรู้สึกเจ็บปวดที่ทิ่มแทงหัวใจเขา... เขาใช้ปลายนิ้วแตะไปที่ผ้าปิดแผลด้วยความรู้สึกผิดและลูบกลุ่มผมของเธอเบาๆ สัมผัสรอยน้ำตาข้างแก้มที่ยังไม่แห้งกรัง ปากเขาพึมพำแต่คำว่า "ขอโทษ" อย่างไม่หยุดหย่อนน้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาอย่างไม่อาจห้ามได้ ยอมรับความรู้สึกผิดอย่างแท้จริงชั่วขณะต่อมา ริสารู้สึกเหมือนมีบางสิ่งสัมผัสกายและใบหน้า เธอสะดุ้งเล็กน้อยแล้วลืมตาขึ้น พบว่าเป็นธนา ชายที่เธอรักมากที่สุด สายตาอ่อนล้าและเจ็บปวดในใจของเธอสบกับเขา เป็นสายตาที่ผสมผสานระหว่างความรักและความทนทุกข์ริสาไม่ได้ถาม ไม่ด่าทอ หรือแม้แต่ไล่เขาไป เธอกลับเงียบสนิทราวกับเขาไม่มีตัวตน ยิ่งทำให้ธนารู้สึกทรมานในหัวใจมากขึ้น"ริสา... ทำไมต้องเงียบแบบนี้ด้วย จะด่า จะว่า จะไล่พี่ก็ยังดี! พูดกับพี่สักคำได้ไหม พี่ขอร้อง พี่ขอโทษนะ อย่าเงียบแบบนี้เลย ให้โอกาสพี่สักครั้ง พี่ยอมรับผิดทุกอย่าง จะว่าพี่ยังไงก็ได้ แต่อย่าเงียบแบบนี้" ธนาอ้อนวอนด้วยเสียงสั่นเครือและใบหน้าเปื้อนน
ทันทีที่ธนาก้าวออกมาจากห้องพักฟื้น เขาเหมือนสูญสิ้นเรี่ยวแรง ร่างสูงใหญ่ทรุดฮวบลงนั่งคุกเข่าต่อหน้ามณีและศักดิ์ชัย ด้วยความรู้สึกผิดที่กัดกินหัวใจจนแทบจะแหลกสลายเมฆที่ยืนอยู่ใกล้ๆ รับรู้ถึงบรรยากาศอันหนักอึ้ง เขาเลือกที่จะเดินเลี่ยงออกไปอย่างเงียบเชียบ ปล่อยให้ครอบครัวได้เผชิญหน้าและสะสางเรื่องราวกันเองธนาก้มหน้าต่ำ ติดพื้นห้องเย็นเฉียบ น้ำตาเอ่อคลอ ก่อนจะเริ่มกล่าวคำขอโทษและสารภาพผิดทั้งหมดออกมาอย่างยากลำบาก"ผมขอโทษครับคุณน้า... ทุกอย่างเป็นความผิดของผมคนเดียว ถ้าผมชัดเจนและทำให้น้องมั่นใจในความสัมพันธ์ของเรามากกว่านี้... เรื่องของเราคงไม่ต้องปิดบังใคร... เป็นเพราะผม... ตั้งแต่แรก..."ธนาหยุดหายใจ พยายามรวบรวมสติ "ทั้งๆ ที่ทุกอย่างมันเกิดขึ้นตั้งแต่ที่เรายังไม่รู้จักกัน... ผมน่าจะทำให้มันถูกต้องตั้งแต่ทีแรก..."คำว่า 'ความผิดพลาดตั้งแต่ทีแรก' ทำให้มณีที่กำลังปวดร้าวอยู่แล้วยิ่งชะงักงัน"อะไรคือความผิดพลาดตั้งแต่ครั้งแรก... ตั้งแต่ยังไม่รู้จักกัน... น้าไม่เข้าใจ !" มณีเอ่ยถามเสียงสั่นเทาแฝงความประหลาดใจธนาเงยหน้าขึ้น ดวงตาแดงก่ำ เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้มณีฟังอย่างละเอียดยิบ พ
ไม่ทราบว่าพวกคุณเป็นญาติของคนไข้หรือเปล่าครับ...ทุกคนเงียบกริบ ธนา, มณี, และศักดิ์ชัย ก้าวเข้าไปหาคุณหมอพร้อมกันด้วยความหวังอันริบหรี่คุณหมอ สีหน้าเคร่งเครียดและเศร้าสร้อย"ต้องขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ..."คำพูดนั้น... ทำให้ ธนา ทรุดตัวลงกับพื้น มณีร้องไห้โฮอย่างสุดเสียงธนา เสียงแตกพร่า คุณหมอ... หมายความว่ายังไงครับ! ริสา... !คุณหมอ "คนไข้ปลอดภัยครับ แต่เนื่องจากคนไข้ได้รับแรงกระแทกอย่างรุนแรงจากการตกบันได... ทำให้... เราไม่สามารถช่วยชีวิตเด็กในครรภ์ไว้ได้ครับ คนไข้มีภาวะแท้งคุกคามจากการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง..."ความเงียบเข้าปกคลุมทุกคนศักดิ์ชัยถึงกับกุมขมับอย่างเคร่งเครียด ส่วนธนาคุกเข่าตัวสั่นงันงกลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวดมณีหยุดร้องไห้ชั่วขณะด้วยความสับสนมณี เสียงแหบแห้ง "เด็ก... เด็กอะไรคะ! ลูกสาวฉัน... ริสา... ริสาท้องเหรอคะ...!"ศักดิ์ชัยหันไปมองธนาอย่างไม่เชื่อสายตา "ธนา... นี่แก... เป็นแก...แกทำอะไรลงไป...!"ธนา ไม่สามารถตอบได้ เขาร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างบ้าคลั่ง ความเจ็บปวดจากการสูญเสียที่มาพร้อมกับการรับรู้ถึงการมีอยู่ของลูก! และการสูญเสียครั้งนี้เกิดจ
จีน่า รีบวิ่งตามออกมา "เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งไป!"ริสาไม่สนใจรีบเดินลิ่ว จีน่า รีบวิ่งตามมาคว้าแขนเธอไว้"ฉันบอกว่าหยุด!" นี่เธอมีปัญหากับพี่ชายของเธอเพราะรูปถ่ายใบนั้นเหรอ! ฉันไม่คิดว่าเขาจะยังเก็บไว้อยู่! และอีกอย่างนึง รูปนั้น..."ริสา ไม่ฟังสะบัดแขนจีน่าออกอย่างรวดเร็ว แล้วรีบวิ่งไปที่ลิฟท์ แต่ลิฟท์ไม่เปิด เธอจึงวิ่งไปทาง บันไดหนีไฟ ทันที เพื่อที่จะรีบออกจากที่น่ารังเกียจนี้ให้เร็วที่สุดธนา ที่วิ่งตามมาเห็นคนรักที่ตกบันไดไปต่อหน้าต่อตา หัวใจของเขาร่วงหล่นตามร่างเธอลงไป เขาตกใจจนแทบหยุดหายใจ ริสากลิ้งลงไปจนถึงขั้นสุดท้ายของบันได แล้วเธอก็ แน่นิ่งไปทันทีที่ ธนา วิ่งมาถึงร่างของเธอ เขาไม่สนใจอาการบาดเจ็บที่มือของตัวเอง รีบช้อนร่างบางของเธอขึ้นมา... เลือด ที่ไหลออกมาจากไรผมของเธอ และที่น่าตกใจกว่านั้นคือ เลือดที่ไหลออกมาจากช่วงล่างของเธอ เต็มไปถึงขา"ริสา... ริสา..." เขาพยายามเรียกชื่อเธอและเขย่าเบาๆ แต่เธอก็ไม่ได้สติน้ำตาเขาไหลพรากออกมาอย่างบ้าคลั่งด้วยความเจ็บปวดอย่างที่สุด ราวกับมีดนับพันเล่มกรีดแทงกลางอก เขาไม่มีเวลาเสียใจ ความหวาดกลัวเข้ากัดกินจนไร้สติ รีบอุ้มร่างของเธอขึ้น







