Beranda / มาเฟีย / ประธานคลั่งรักxคุณหนูสายยั่ว / ตอนที่ 3 สัญญาซาตาน กับเลขาส่วนตัวที่ (ไม่) มีสิทธิ์ปฏิเสธ

Share

ตอนที่ 3 สัญญาซาตาน กับเลขาส่วนตัวที่ (ไม่) มีสิทธิ์ปฏิเสธ

last update Terakhir Diperbarui: 2025-08-27 20:31:43

เช้าวันถัดมา...

ท้องฟ้าแจ่มใสเกินเบอร์ เหมือนฟ้ากำลังตบไหล่บอกว่า “สู้ ๆ นะยัยบ้า ไปตายซะดี ๆ”

ลลิล คหบดีวัฒน์ ยืนอยู่หน้าตึกกระจกสูงระฟ้าของ Ramius Group ในมือถือกระเป๋าหนังแบรนด์เนม ชุดเดรสสีครีมที่เธอเลือกใส่มาอย่างตั้งใจดูเรียบหรู แม่เรียกว่าเรียบร้อย — แต่เธอเรียกมันว่า ‘ชุดสารภาพบาป’

ภายนอกดูเป็นคุณหนูผู้ดี แต่ภายใน...เหมือนใส่เกราะเหล็กพร้อมระเบิดเวลาไว้ตรงอก

แน่นไปหมด

หายใจก็ไม่สุด หัวใจก็สั่น ระดับความเครียดพุ่งเท่าภาษีที่ต้องจ่ายตอนรู้ว่าเธอทำน้ำไวน์ราดสูทคนมีอำนาจที่สุดในเมืองนี้

เธอกลืนน้ำลายอย่างยากเย็น

สายตาเงยขึ้นไปมองโลโก้ “Ramius Group” ตัวอักษรสีดำเงาเรียบหรูบนกระจกใสที่สูงเสียดฟ้า

ข้างใต้เขียนว่า Power. Precision. Privacy.

“...เออ ใช่สิ พาวเวอร์จนฉันอยากเป็นลม เพรซิชันจนฉันราดไวน์ใส่เขา แล้วพรายเวซี่...เออ แม่งจะลากฉันไปทำอะไรหลังม่านอีกก็ไม่รู้!”

เธอสาปแช่งตัวเองในใจพลางสูดลมหายใจลึก

“โอเค ลลิล...แกแค่ไปขอโทษ เขาคงไม่ใจร้ายมั้ง—ถึงแม้เขาจะหน้าหล่อแบบฆ่าได้โดยไม่กะพริบตาก็ตาม”

เธอพึมพำ

“…แล้วก็อธิบายไปตรง ๆ ว่าแกไม่มีเงินจ่ายค่าสูทบ้า ๆ นั่น! ขอผ่อน 48 งวดกับดอกเบี้ย 0% ก็ยังดี!”

เอาเข้าจริง เธอพร้อมเซ็นสัญญาผ่อนค่าสูทยิ่งกว่าสัญญาเรียนต่อโทอีก!

รวบรวมความกล้าครั้งสุดท้าย เธอถอดรองเท้าส้นสูงตัวเองออกมาเคาะพื้นเบา ๆ สองทีเหมือนสะกดใจ แล้วเดินเข้าสู่ตึกทรงอำนาจที่สูงพอจะบดบังแสงแห่งความหวังของคนอย่างเธอ

ประตูอัตโนมัติเลื่อนเปิดอย่างนุ่มนวล

อากาศเย็นฉ่ำราวกับไหลออกมาจากช่องแช่แข็ง ล็อบบี้ตึกดูเงียบเย็นแบบที่โรงแรมห้าดาวบางแห่งยังต้องอาย เสาเพดานสูง เงาสะท้อนจากพื้นหินอ่อนวาววับ และเสียงรองเท้ากระทบพื้นของเธอดังชัดในความเงียบ มีพนักงานในชุดสูทดำเดินไปมาอย่างเร่งรีบ แต่ทุกคนดูนิ่ง สุภาพ และ...ไม่ยิ้มให้ใครง่าย ๆ

เธอเดินเข้าสู่ล็อบบี้หรูหราราวกับฉากในซีรีส์เกาหลี แล้วตรงดิ่งไปที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์

“ขะ…ขอเข้าพบคุณอลิสแตร์ค่ะ นัดไว้สิบโมงตรง”

เจ้าหน้าที่ต้อนรับหญิงสาวในชุดยูนิฟอร์มหรูยิ้มสุภาพก่อนจะกดโทรศัพท์เพียงสองวินาที แล้วพูดเสียงนิ่ม

“คุณคิมหันต์จะลงมารับค่ะ”

...ห้านาทีต่อมา

ประตูลิฟต์วีไอพีเปิดออก พร้อมชายหนุ่มคนหนึ่งในสูทเข้ารูปพอดีตัว ใบหน้าหวานจัดเหมือนนายเอกซีรีส์ แต่ดวงตานี่โคตรสายลับ MI6

ทั้งเงียบ ทั้งนิ่ง ทั้งคม

ลลิลกลืนน้ำลายอีกหนึ่งครั้ง มือกำนามบัตรไว้แน่นเหมือนเป็นยันต์กันผี

“คุณลลิล?”

เสียงของเขาทุ้มต่ำ แต่เนิบชัดแบบมีแรงกดดันแฝงอยู่ในทุกคำ

“ตามผมมา”

...จังหวะนั้นเธออยากหันหลังแล้วตะโกนว่า

“เปลี่ยนใจได้ไหมคะะะะะ!!!”

แต่ก็ทำได้แค่ยิ้มแห้ง ๆ แล้วเดินตามหลังไปเหมือนคนจะไปขึ้นเขียง

ลิฟต์กระจกพาเธอไต่ระดับขึ้นไปเรื่อย ๆ จากท้องฟ้าโปร่งใสด้านนอก กลับกลายเป็นความหนาวเหน็บภายในห้องสี่เหลี่ยมที่เธออยู่กับเลขาหน้าหวาน เสียงดนตรีบรรเลงเบา ๆ ไม่ได้ช่วยให้ความตึงเครียดในอกคลายลงเลยแม้แต่น้อย

ติ๊ง!

ประตูลิฟต์เปิดออก เผยให้เห็นโถงหินอ่อนสว่างไสว ตกแต่งด้วยงานศิลป์ร่วมสมัยที่ดูแพงชนิดที่ “ราคามากกว่าบ้านทั้งหลังของเธอรวมกัน”

คิมหันต์ก้าวออกจากลิฟต์ก่อน เปิดประตูกระจกใสอัตโนมัติให้เธอด้วยท่าทางนิ่งขรึม

ลลิลยิ้มแห้ง ๆ แล้วพยายามยืนตัวตรง ทั้งที่ขาข้างในกำลังสั่นคล้ายสลิงชำรุด โถงทางเดินตกแต่งด้วยโทนสีดำ-ทองแบบมินิมอล แต่มีแผงไม้ขัดมันจากอิตาลีพาดยาวตลอดแนวผนัง

กลิ่นหอมจากเครื่องอโรมาสูงข้างกำแพงลอยคลุ้ง — ไม่แรงจนฉุน แต่เย้ายวนเหมือนเดินเข้าร้านเสื้อชั้นในราคาเหยียบแสน

“เชิญครับ”

คิมหันต์เปิดประตูบานสุดท้าย แล้วผายมือให้เธอก้าวเข้าไป และสิ่งแรกที่เธอเห็นคือ...

โต๊ะไม้โอ๊คสีเข้ม ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางห้องอย่างเด่นชัด เก้าอี้หนังแท้ตัวเดียวด้านหลังโต๊ะ…

และ…

ไม่มีเก้าอี้ฝั่งเธอ ไม่มีแม้แต่สตูลตัวเล็ก มีเพียง ‘พรมขนนุ่ม’ ที่ดูแพงจนเธอไม่กล้าเหยียบแรง

อลิสแตร์ นั่งอยู่หลังโต๊ะนั้นในชุดเชิ้ตสีดำติดกระดุมถึงลำคอ ดวงตาสีเทาคมกริบเหลือบมองเธอขึ้นมาชั่วขณะ ขณะปลายนิ้วยังคงขีดเซ็นชื่อในเอกสารอย่างต่อเนื่อง

แรงกดดันในห้องนั้นหนาแน่นระดับ “กดลิฟต์ผิดชั้นแล้วไปโผล่ในดงเสือ”

ลลิลยืนนิ่งเหมือนถูกสะกด หัวใจเต้นแรงจนกลัวว่าเสียงจะดังไปถึงหูเขา

“นั่งสิ” เสียงของเขาดังขึ้น ทุ้ม ต่ำ ช้า

ลลิลกวาดสายตาไปรอบห้องช้า ๆ เหมือนกำลังมองหาสิ่งที่จะทำให้เธอนั่งหน้าเขาได้

“…แต่มันไม่มีเก้าอี้ค่ะ”

เขาเงยหน้าขึ้น สบตาเธอตรง ๆ แล้วเอียงคอเล็กน้อย

“ผมรู้”

ลมหายใจเธอติดขัด ริมฝีปากของเขากระตุกยิ้มเบา ๆ เหมือนพึงพอใจกับความกระอักกระอ่วนของเธอเต็มที่

“คุณลลิล คหบดีวัฒน์ ทายาทตระกูลอสังหาฯ ชั้นนำของไทย ปีสี่ บริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัย RCU ผลการเรียนดี...แต่ไม่มีใครรู้ว่าโกงนิด ๆ เวลาทำโปรเจกต์กลุ่ม”

เขายักคิ้ว

“ขี้โวยวายในไลน์กลุ่ม แต่เวลาพูดกับอาจารย์คือเสียงอ่อนหวานเป็นลูกแมว”

“…คุณ…” ลลิลแทบสำลัก

“…ไปสืบมาจากไหนเนี่ย!?”

“มีคนรู้จักอยู่ RCU เยอะน่ะ” เขาตอบหน้าตาย ก่อนวางปากกาในมือลง

“และคุณก็เพิ่งทำไวน์หกใส่สูททอมฟอร์ดที่ผมรักที่สุด…ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นของการสัมภาษณ์งานนี้”

“…สัมภาษณ์?” ลลิลถามเสียงสูง

“ใช่”

เขาพยักหน้า

“ผมจะให้คุณฝึกงานกับผม โดยตรง ในตำแหน่ง ‘เลขานุการส่วนตัว’ ”

เขาเน้นคำว่า ส่วนตัว ด้วยโทนเสียงที่ชัดกว่าคำอื่น ๆ ทั้งหมด

“คุณจะมีหน้าที่แค่...ฟังคำสั่ง และทำตาม โดยเฉพาะตอนที่ผมเรียกหา แม้จะเป็นกลางดึก หรือในห้องลับที่ไม่ได้มีใครเข้าได้ง่าย ๆ”

ลลิลเริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง

นี่มันฝึกงาน หรือคัดตัวเข้าฮาเร็มกันแน่!?

“ถ้าฉันปฏิเสธล่ะคะ” เธอถาม เสียงสั่นน้อย ๆ

อลิสเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ พลิกแฟ้มบางอย่างขึ้นมา แล้ววางกระแทกโต๊ะเบา ๆ

ด้านบนคือ…

เอกสารหนี้สินของ KHB Property และชื่อพ่อของเธอในบรรทัดล่างสุด

“งั้นผมคงต้องติดต่อคุณพ่อคุณ...ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่คนใหม่ของตระกูลคหบดี”

ลลิลตัวชา เธอเม้มปากแน่น

อลิสลุกขึ้นช้า ๆ เดินอ้อมโต๊ะอย่างไร้เสียง ก่อนจะมายืนตรงหน้าเธอ สูงกว่า นิ่งกว่า และมีแรงดึงดูดระดับกลืนใจ

“หรือจะชดใช้ด้วยวิธีที่...น่าสนใจกว่านี้หน่อย?”

เขากระซิบข้างหูเธอเบา ๆ เสียงนั้นราวกับราดไฟใส่น้ำแข็ง—เย็นแต่แสบวาบจนขนอ่อนลุกชัน

ลลิลมองชายตรงหน้าที่กำลังยืนใกล้เธอจนกลิ่นหอมจากตัวเขาลอยแตะปลายจมูก

ดวงตาสีเทานั้นจับจ้องใบหน้าเธออย่างเย็นชาแต่…มีแรงกดดันแบบ “ถ้าหนีไปตอนนี้ จะมีคนลากกลับมาแน่”

เธอสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ กำหมัดแน่น แล้วกัดฟันตอบเสียงสั่นนิด ๆ

“…ก็ได้ ฉันจะรับตำแหน่งนั่นก็ได้”

เขายกคิ้วน้อย ๆ แต่ยังไม่พูดอะไร

เธอจึงรีบพ่นต่อ “แต่…ฉันขอถามก่อนนะคะ ว่าฉันจะได้อะไรตอบแทน?”

อลิสยืนนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนยกมือไขว้หลัง เสียงของเขาราบเรียบ แต่เจือด้วยน้ำเสียงของนักล่า

“เงินเดือนห้าหมื่นบาท”

ลลิลเบิกตากว้าง “ห้าหมื่น!?”

“ยังไม่จบ” เขาเอ่ยต่อ ดวงตาเรียบนิ่งเหมือนกำลังอ่านรายชื่อของเล่นที่เพิ่งซื้อมาใหม่

“คุณจะมีรถประจำตำแหน่ง พร้อมคนขับ 24 ชั่วโมง จะมีคอนโดในชื่อคุณเอง—อยู่ชั้นบนสุดของอาคารติดตึกสำนักงาน คุณจะได้อาหารดี ๆ ทุกมื้อ ได้บัตร VIP เข้างานระดับสูง และได้สิทธิ์เดินเข้าห้องผม…เมื่อไหร่ก็ได้”

ลลิลฟังจนตาโต โอ้โห นี่มันเลขาหรือสนมประจำวัง!?

“แต่…” เสียงของเขาหนักแน่นขึ้น ดวงตาเฉียบคมเจาะลึกตรงมา

“มีเงื่อนไขเดียวที่คุณไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธเด็ดขาด”

ลลิลเงยหน้าสบตาเขาอีกครั้ง หัวใจเต้นระส่ำ ทั้งจากความหวั่น…และความอยากรู้อย่างห้ามไม่อยู่

อลิสแตร์โน้มตัวเข้าใกล้เพียงเล็กน้อย ริมฝีปากหยักลมหายใจเบา ๆ ใกล้ใบหูเธอ น้ำเสียงเรียบนิ่ง…แต่ร้อนจนเธอขนลุกทั้งตัว

“คุณ…ต้องเชื่อฟังคำสั่งของผมทุกอย่าง”

เขาหยุดนิดเดียว ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าใกล้ กระซิบชิดข้างใบหูเธอด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น

“แม้มันจะไม่ใช่งานของเลขาก็ตาม”

ลมหายใจของลลิลสะดุดทันที เธอหันขวับไปสบตาเขาด้วยความตกใจ แต่อลิสกลับผละออก…แค่ครึ่งก้าวเท่านั้น มากพอให้เธอเห็นรอยยิ้มที่มุมปากของเขา

รอยยิ้มที่ไม่ควรจะทำให้คนหัวใจเต้นแรงได้—แต่มันทำ

“เอาล่ะ ถ้าคุณไม่มีคำถามเพิ่มเติม…”

อลิสเอื้อมมือหยิบเอกสารขึ้นมาจากแฟ้มด้านข้าง เสียงนิ้วเคาะบนกระดาษเบา ๆ อย่างเป็นจังหวะ

“...เซ็นตรงนี้”

ลลิลก้มมองแผ่นกระดาษ หัวกระดาษระบุชัดเจนด้วยฟอนต์เรียบหรูว่า ‘สัญญาฝึกงานพิเศษ – ตำแหน่งเลขานุการส่วนตัว’

เธอกลืนน้ำลายลงคอช้า ๆ ดวงตาไหววูบขณะจ้องเอกสารตรงหน้า คำว่า ‘เลขานุการส่วนตัว’ เหมือนมันจะเรียบง่าย แต่ในหัวเธอตอนนี้—มันดังเป็นเสียงกระซิบว่า “ทาสประธาน...แบบ Full Option”

เธอไม่รู้ว่าไอ้เอกสารนี่มันสัญญาฝึกงาน หรือ ‘ใบยินยอมให้โดนควบคุมทุกอย่าง—ตั้งแต่สมอง จนถึงเตียง’ ความรู้สึกเหมือนกำลังจะเซ็นสัญญากับซาตานที่ใส่เชิ้ตหรูและมีกลิ่นน้ำหอมแพง…ที่ทำให้ต้นขาเธอร้อน ๆ หนาว ๆ ไปหมด

“…แล้วถ้าฉันไม่เซ็นล่ะคะ?”

เสียงเธอสั่นนิด ๆ แต่กัดฟันถามออกไปจนได้

แวบหนึ่ง เธอเห็นรอยยิ้มซาตานปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อคมของเขา ก่อนที่มันจะจางหายไป…ราวกับไม่เคยอยู่ตรงนั้น

“คุณก็แค่...” เขาพูดเสียงเรียบ

“…ต้องแต่งงานกับคนที่ตระกูลคุณเลือกไว้ให้ก็เท่านั้นเอง”

เสียงเขาไม่แม้แต่จะเปลี่ยนโทน — เย็น เยียบ และโคตรเฉยเมยในชะตากรรมที่เธอกำลังหนีสุดชีวิต เหมือนเขากำลังยื่นทางเลือกที่เรียกว่า ‘ไม่มีทางเลือก’ ให้เธอ

ลลิลกัดฟันแน่น ภายในใจวุ่นวายไปหมด ทางหนึ่งคือ ‘งานเลขา’ ที่ฟังดูไม่น่าจะใช่แค่เลขา อีกทาง…คือ “งานแต่ง” ที่เจ้าบ่าวยังไม่รู้หน้าค่าตา

สุดท้าย เธอก็คว้าปากกาขึ้น มือสั่นนิดหน่อย แต่แรงกดในหัวใจคือเต็มร้อย ปลายปากกาขยับเป็นชื่อ ‘ลลิล คหบดีวัฒน์’ อย่างชัดถ้อยชัดคำ เพราะเธอรู้…นี่คือ ‘ทางรอด’ แม้มันจะเต็มไปด้วยป้ายคำเตือนสีแดงตัวโตว่า “ยินดีต้อนรับเข้าสู่เขตอันตราย”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ประธานคลั่งรักxคุณหนูสายยั่ว   ตอนที่ 7 ไวน์ต้อนรับ...และฝันที่ไม่ใช่แค่ฝัน

    กลิ่นลาเวนเดอร์เจือจางผสานกลิ่นไวน์แดงลอยคลุ้งในห้องนอนหรูที่ประดับด้วยโทนสีดำทอง แสงไฟอุ่นละมุนจากโคมตั้งโต๊ะหัวเตียงทอดเงาอ่อนบนพื้นไม้ โซฟาหนังแท้ริมหน้าต่างมีผ้าคลุมกำมะหยี่พาดไว้เรียบหรู ทุกอย่างดูดี...ดีเกินไปสำหรับเลขาชั่วคราวที่เพิ่งย้ายเข้ามาเมื่อไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงร่างบางของลลิลยืนอยู่กลางห้อง ในชุดคลุมอาบน้ำสีครีมนวล ผมยาวเปียกหมาดแนบลู่กับผิวไหล่ข้างหนึ่ง ลมหายใจอุ่นยังคงผสานกับไอจากร่างที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำเธอเดินไปหยิบผ้าขนหนูเล็กซับปลายผมอย่างช้า ๆ ก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นกล่องไม้เล็ก ๆ บนโต๊ะเตี้ยข้างเตียง“Welcome to your new job, Ms. Lalin.”ลายมืออังกฤษหวัดสวย ถูกเขียนด้วยปากกาหมึกดำลงบนการ์ดเล็ก ๆ ข้าง ๆ กันคือขวดไวน์แดงที่ถูกเปิดฝาไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมแก้วใสที่มีหยดน้ำเกาะข้างแก้ว ราวกับมีคนเพิ่งรินให้หมาด ๆ“จงใจชัด ๆ ...”ลลิลพึมพำ พลางยิ้มเอียงคอเบา ๆ อย่างคนรู้ทันเกม เธอหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาหมุนเล็กน้อยก่อนยกขึ้นจิบ กลิ่นไวน์เข้มผสานกลิ่นลาเวนเดอร์บาง ๆ ชวนให้หัวใจเธอผ่อนคลายในทันทีรสชาติฝาดนุ่มละมุนลิ้น...แต่กลับมีบางอย่างซ่อนอยู่ในกลิ่น—บางสิ่งที่ทำให้หัวใจ

  • ประธานคลั่งรักxคุณหนูสายยั่ว   ตอนที่ 6 เพราะเธอเป็นของฉัน...ตั้งแต่เซ็นสัญญา

    เสียงดนตรีแจ๊สบรรเลงคลอเบา ๆ ท่ามกลางแสงไฟนวลหรูของฮอลล์กลางงานเลี้ยงอลิสแตร์ ก้าวนำลลิลเข้าไปยังอีกฝั่งของห้องโถง ที่ตอนนี้มีชายเกาหลีท่าทางเนี้ยบจัด สวมสูทเข้ารูปและผูกไทด์ลายเอกลักษณ์เขาหันมาทันทีเมื่อเห็นอลิส พร้อมรอยยิ้มเปื้อนริมฝีปาก“Mr. Alistair! You came, good!” ชายเกาหลียื่นมือออกมา“Mr. Seo.” อลิสจับมือแน่นแต่สั้น ตามแบบคนที่ถือไพ่เหนือกว่าพอลลิลเดินตามมาถึง เธอก็ยกมือไหว้แบบไทย ๆ อัตโนมัติ แต่ชายเกาหลีผู้นั้นหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดขึ้นว่า“You brought a new assistant this year, huh?”“More than that,” อลิสตอบเรียบ ๆ พร้อมปรายตามองลลิล“She's my personal secretary now. Lalin, this is Mr. Seo Min-hyun —CEO ของ SKI Holdings ฝั่งโซล”ลลิลยิ้มแบบมีมารยาท และตอบกลับด้วยภาษาอังกฤษที่ค่อนข้างคล่อง“Nice to meet you, Mr. Seo.”เขาดูพอใจ หัวเราะเบา ๆ แล้วชำเลืองมองอลิส“เธอดูเฉียบดีนะ มิสเตอร์อลิสแตร์... ฉันชอบความฉลาดในสายตาแบบนี้”อลิสไม่ได้พูดอะไร แค่ยิ้มมุมปากบาง ๆ ก่อนจะโน้มตัวกระซิบข้างหูลลิล“จำไว้นะ—เขาแยกคำพูดกับสายตาไม่ออก อย่าเชื่อทุกอย่างที่เขาชม”เธอพยักหน้าช้า ๆ ก่อนจะ

  • ประธานคลั่งรักxคุณหนูสายยั่ว   ตอนที่ 5 แฟนเก่าหรือจะสู้เลขาใหม่...

    ค่ำนี้คือคืนของ ‘งานเลี้ยงมอบรางวัลนักธุรกิจดีเด่นแห่งปี’ เป็นงานหรูที่เต็มไปด้วยคนดังระดับประเทศ และแขก VIP ที่มีกระเป๋าหนักพอจะซื้อประเทศได้ครึ่งหนึ่งท่ามกลางกลิ่นไวน์ฝรั่งเศส ล็อบบี้โรงแรมห้าดาวที่สว่างไสวจนแทบมองเห็นรูขุมขนผู้คน —เสียงแชมเปญเปิดดัง ‘ป๊อบ’ ตามมาด้วยเสียงหัวเราะของเหล่าผู้บริหารระดับประเทศแต่ทั้งหมดนั่น...เงียบลงทันทีเมื่อเห็นชายหนุ่มเจ้าของความสูงกว่า 185 เซนติเมตร ก้าวเข้ามาในงานอลิสแตร์ ราเมียสCEO แห่ง Ramius Group — ชุดสูทสีดำเข้ารูปตัดเย็บเฉียบเฉือนด้วยผ้าเกรดสูงสุดจากอังกฤษเส้นผมสีดำสนิทเซ็ตเรียบเนี้ยบรับกับกรอบหน้าคมคาย ปลายคิ้วเข้ม ดวงตาคมลึกที่เหมือนกลืนทุกอย่างให้จมหาย ริมฝีปากหยักตรงที่ดูสุขุม...แต่หากจ้องนานไป อาจเผลอจินตนาการว่ามันจะสัมผัสยังไงเวลาเขาจูบเขาหล่อจนแม้แต่ภรรยาท่านรัฐมนตรี ยังเหลือบมองโดยไม่รู้ตัว สูทสีดำสนิทของทอม ฟอร์ดที่สวมอยู่บนร่างสูงราวเทพเจ้าโรมันปิดหน้ากากเยือกเย็นเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ จนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เสียงส้นสูงกระทบพื้นดังเบา ๆ ...ตามด้วยกลิ่นหอมเย้ายวนที่ลอยมาก่อนตัวข้างกายเขา —คือหญิงสาวในเดรสยาวผ้าซาตินสีมุกเน

  • ประธานคลั่งรักxคุณหนูสายยั่ว   ตอนที่ 4 เลขาส่วนตัว หรือของเล่นประธาน?

    เสียงของลลิลยังคงดังในห้องเงียบ…เซ็นเรียบร้อยแล้ว—แม้ใจจะยังไม่แน่ใจว่าเพิ่งจรดปากกาบนเอกสารฝึกงาน หรือเอกสารสัญญาวิญญาณชั้นดีให้ซาตานที่สวมสูทเซอร์เมดอินอิตาลีอลิสแตร์จ้องลายเซ็นเธอครู่หนึ่งก่อนจะเก็บเอกสารเข้าซองอย่างเรียบร้อย ราวกับไม่ใช่แค่เอกสารธรรมดา...แต่คือ “ของสำคัญ” ที่เขารอจะได้ครอบครองเขาเงยหน้าขึ้น สบตาเธอตรง ๆ“มีคำถามเพิ่มเติมไหม มิสคหบดีวัฒน์?”ลลิลส่ายหน้าเบา ๆ อย่างเกร็ง แต่สายตาเธอยังมีแววแข็งกล้าอยู่บ้าง เขาเห็นมัน—และมันทำให้รอยยิ้มบางที่มุมปากเขาขยับขึ้นนิดหน่อย“งั้นผมขอถามอะไรสักอย่าง...”เขาเอนตัวพิงโต๊ะเล็กน้อย มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกง ขณะที่อีกข้างควงปากกาทองบนปลายนิ้วอย่างช้า ๆ“ปกติคุณเรียกตัวเองว่าอะไร เวลาคุยกับเพื่อน?”ลลิลกะพริบตาปริบ ๆ“หืม...หมายถึงแทนตัวเองน่ะเหรอคะ?”“ใช่” เขาพยักหน้าเบา ๆ“เช่น...ฉัน ลลิล เค้า หรือ...อะไรแบบนั้น”เธอเม้มปากนิดหน่อย ก่อนตอบออกไปแบบงง ๆ“ก็...ลินค่ะ”“ลิน?” เขาทวนคำช้า ๆ คล้ายจงใจกลืนคำลงลำคอ พร้อมกับสายตาที่ไม่ละไปไหน“ค่ะ...” เธอตอบเบา ๆเขาพยักหน้าเบา ๆ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่เต็มไปด้วยอำนาจแปลกป

  • ประธานคลั่งรักxคุณหนูสายยั่ว   ตอนที่ 3 สัญญาซาตาน กับเลขาส่วนตัวที่ (ไม่) มีสิทธิ์ปฏิเสธ

    เช้าวันถัดมา...ท้องฟ้าแจ่มใสเกินเบอร์ เหมือนฟ้ากำลังตบไหล่บอกว่า “สู้ ๆ นะยัยบ้า ไปตายซะดี ๆ”ลลิล คหบดีวัฒน์ ยืนอยู่หน้าตึกกระจกสูงระฟ้าของ Ramius Group ในมือถือกระเป๋าหนังแบรนด์เนม ชุดเดรสสีครีมที่เธอเลือกใส่มาอย่างตั้งใจดูเรียบหรู แม่เรียกว่าเรียบร้อย — แต่เธอเรียกมันว่า ‘ชุดสารภาพบาป’ภายนอกดูเป็นคุณหนูผู้ดี แต่ภายใน...เหมือนใส่เกราะเหล็กพร้อมระเบิดเวลาไว้ตรงอกแน่นไปหมดหายใจก็ไม่สุด หัวใจก็สั่น ระดับความเครียดพุ่งเท่าภาษีที่ต้องจ่ายตอนรู้ว่าเธอทำน้ำไวน์ราดสูทคนมีอำนาจที่สุดในเมืองนี้เธอกลืนน้ำลายอย่างยากเย็นสายตาเงยขึ้นไปมองโลโก้ “Ramius Group” ตัวอักษรสีดำเงาเรียบหรูบนกระจกใสที่สูงเสียดฟ้าข้างใต้เขียนว่า Power. Precision. Privacy.“...เออ ใช่สิ พาวเวอร์จนฉันอยากเป็นลม เพรซิชันจนฉันราดไวน์ใส่เขา แล้วพรายเวซี่...เออ แม่งจะลากฉันไปทำอะไรหลังม่านอีกก็ไม่รู้!”เธอสาปแช่งตัวเองในใจพลางสูดลมหายใจลึก“โอเค ลลิล...แกแค่ไปขอโทษ เขาคงไม่ใจร้ายมั้ง—ถึงแม้เขาจะหน้าหล่อแบบฆ่าได้โดยไม่กะพริบตาก็ตาม”เธอพึมพำ“…แล้วก็อธิบายไปตรง ๆ ว่าแกไม่มีเงินจ่ายค่าสูทบ้า ๆ นั่น! ขอผ่อน 48 งวดกับดอกเบี้

  • ประธานคลั่งรักxคุณหนูสายยั่ว   ตอนที่ 2 ไวน์แดงและคำเชิญจากซาตาน

    หลังจากปล่อยให้เรื่องของ ฌอง บราซัวส์ ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง อลิสแตร์ ก็กลับออกมาสู่ห้องจัดเลี้ยงที่ยังเต็มไปด้วยเสียงพูดคุย ไวโอลิน และแชมเปญเขาหยิบแก้วไวน์แดงจากถาดของบริกรอย่างไม่ใส่ใจนัก ก่อนจะหันตัวตั้งใจเดินไปยังระเบียงกระจกมุมเดิม—ที่เขาหวังจะได้ยืนพักจิบไวน์เงียบ ๆ สักครู่...แต่เขายังไม่ทันจะก้าวเท้าเดินออกไปพรึ่บ!แรงกระแทกเล็ก ๆ ปะทะเข้าที่อกเต็มแรงจนของเหลวในแก้วกระฉอก“อ๊ะ! ขอโทษค่ะ—!”เสียงหวานดังขึ้นพร้อมร่างเล็กของหญิงสาวคนหนึ่งที่ชนเขาเข้าเต็มเปา ไวน์แดงราดเป็นทางบนสูทสีเงินอ่อนของเขา รอยเปื้อนแดงฉานโดดเด่นบนเนื้อผ้าเนียนเฉียบประหนึ่งเลือดในสมรภูมิรบอลิสก้มมองสีสูทที่เลอะเสียจนแทบพังทั้งชุด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอย่างช้า ๆร่างตรงหน้าเขาคือหญิงสาววัยประมาณยี่สิบต้น ๆ ผมยาวสีน้ำตาลประกายทองดูยุ่งเหยิงจากการวิ่งใบหน้าขาวแดงจัดจากความเหนื่อยและความตกใจ ดวงตากลมโตเบิกกว้างเธอกำลังหอบหายใจ—และดูเหมือนเพิ่งหนีออกมาจากสงคราม...หรือไม่ก็การจับคลุมถุงชนชุดเดรสเกาะอกสีงาช้างสั้นเหนือเข่าดูจะหรูเกินไปสำหรับคนที่หน้าตาตื่นขนาดนี้แต่ก็ไม่ใช่ว่าเธอแต่งตัวไม่สวย—ตรงกันข้าม เธอสวยมาก

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status