“แกรู้ไหมท่านประธานเขาจะนั่งที่นี่อีกหลายเดือน” เรื่องเจ้านายไว้ใจเจ้ ๆ ในไลน์การผลิตนี่แหละ ม่านฟ้าฟังแล้วก็ถอนหายใจรอบที่สามสิบของวัน ปัญหาของแม่ฟ้าทำให้กลัดกลุ้มใจ
‘พวกนั้นเอาอีกแล้ว’ คำบอกเล่าของแม่ฟ้าทำให้เธอไม่ได้นิ่งนอนใจ ที่ต้องหนีกันมาหลายปีเพราะมีคนตาม แต่จะให้เธอทิ้งแม่โดยไม่สนใจก็คงทำไม่ได้
ทว่าปัญหาตอนนี้เธอจะทำอย่างไร
คิดแล้วก็เครียด ศาลาพักใจหลังโรงงาน เอาไว้สำหรับให้พนักงานพักผ่อน นึกย้อนไปถึงอดีตตอนที่แม่กับเธอรู้จักกัน ใช่ แม่ฟ้าที่เธอเรียกไม่ได้เป็นแม่ของเธอจริง ๆ เธอรู้
สิบห้าปีที่เธออยู่กับแม่ฟ้า อยู่เพราะแม่ของเธอไม่กลับมาหลังจากฝากเด็กหญิงวัยสิบขวบไว้กับผู้หญิงข้างห้อง เธอและแม่ฟ้าย้ายที่อยู่บ่อย ๆ เด็กหญิงม่านฟ้าเองก็ไม่รู้ว่าทำไมแม่ต้องย้ายที่อยู่บ่อยครั้ง
“หมิง” เสียงเรียกทำให้คนใจลอยนึกถึงอดีต สติกลับมาที่ปัจจุบัน
“น้า” น้าที่เธอเรียกคือ ‘น้ายอด’ คนขับรถของท่านประธานคนใหม่ น้ายอดทำงานกับท่านประธานมาหลายรุ่น อายุอานามน่าจะใกล้หกสิบ
“เป็นอะไรใจลอย” น้ายอดถามพนักงานฝ่ายผลิตหน้าตาสะสวยหมดจด เข้ามาทำงานที่นี่แรก ๆ มีแต่คนตามจีบเด็กใหม่คนนี้ แต่เพราะเธอบอกว่าไม่ชอบผู้ชาย ชอบผู้หญิง เท่านั้นแหละ หนุ่มที่ตามจีบเลยหายหน้าหายตาไปเยอะ
“ไม่เป็นอะไรค่ะ แล้วนี่วันนี้น้าไม่ออกไปไหนเหรอ” ม่านฟ้านั่งเก้าอี้อีกฟากของศาลา ถามพนักงานขับรถของท่านประธานด้วยน้ำเสียงเรื่อยเปื่อย แต่ในใจเริ่มคิดอะไรได้บางอย่าง
“ท่านประธานไม่ออกไปไหนน่ะ กลับดึกด้วยวันนี้” คำว่า ‘กลับดึก’ ทำให้หัวใจดวงน้อยของหญิงสาวเต้นระส่ำ หรือบางทีเธออาจต้องเสี่ยง
เสี่ยงแล้วโดนไล่ออกก็ไม่เป็นไร เพราะอย่างไรเธอก็ต้องลาออกอยู่แล้ว
“ท่านประธานงานเยอะเหรอน้า ถึงต้องกลับดึก” คนอยากรู้ใจจะขาดแต่แสดงอาการความอยากรู้ไม่ได้ เดี๋ยวมีพิรุธให้น้ายอดจับได้ว่าตอนนี้เธอคิดไม่ซื่อกับท่านประธานของเขา
“เห็นว่ามีประชุมออนไลน์น่ะ”
“กับเมืองนอกเหรอคะ”
“ใช่ ๆ น่าจะกลับสักสองทุ่มแหละ” สองทุ่มเหรอ วันนี้เธอไม่ได้ลงชื่อทำโอทีไว้ เสียดายจัง หรือจะดักเจอเขาที่หน้าโรงงานดี แต่ถ้าดักเจอเขาที่หน้าโรงงาน คนน่าจะเห็นนะ ทำยังไงดี...
กว่าจะเดินผ่านออฟฟิศเข้าไปห้องประธานต้องผ่านหลายแผนก
หลังจากล่ำลากับคนขับของนายใหญ่เพราะได้ข้อมูลที่อยากได้มาแล้ว ม่านฟ้ารู้ว่าช่วงนี้ลูกน้องคนสนิทของเขาต้องกลับฮ่องกง ดี จะได้ไม่มีใครขัดจังหวะเวลาที่เธอคุยกับเขา แต่จะทำอย่างไรถึงได้คุยกับเขา นี่แหละปัญหา
“พี่จ๋าขา มีงานให้หมิงทำไหมคะ” เสียงหวานของม่านฟ้าโทรไปหาหัวหน้าฝ่ายบัญชีและการเงิน ปกติพี่จ๋าขาจะเรียกให้เธอไปช่วยงานช่วงสิ้นเดือน โดยต้องได้รับอนุญาตจากผู้จัดการฝ่ายการผลิตของเธอก่อน
“วันนี้เหรอ ช่วงโอทีไม่มีใครอยู่ แต่หมิงมาจัดห้าสอก็ได้” ‘ห้าสอ’ แต่จริง ๆ แล้วส่วนมากโรงงานทำแค่สามสอเท่านั้นแหละ
ส...สะสางเป็นบางเวลา ที่เหลือซุกซ่อนไว้ในชั้น
ส...สะอาดเฉพาะเวลานายมาตรวจ
ส...สะดวกของเราไม่เหมือนกัน
ม่านฟ้ายิ้มกับคำว่า ห้าสอ เพราะเธอแทบจะไม่ได้ทำอะไรนอกจากจัดโต๊ะพี่ ๆ ให้เข้าที่เข้าทาง จัดเอกสารเข้าแฟ้มแค่นั้น ทำไมเธอถึงได้เลือกแผนกบัญชี ทั้งที่มีแผนกอื่นเรียกเธอไปช่วยงานหลายแผนก ถึงม่านฟ้าจะจบแค่วุฒิมัธยมศึกษาตอนปลาย แต่เพราะเธอเรียนระบบออนไลน์กับมหาวิทยาลัยเปิดชื่อดังของประเทศ ทำให้มีความคิดความอ่านไม่น้อย อย่างสกิลในเรื่องคอมพิวเตอร์ เธอเองก็ใช้งานจนคล่อง
ทำให้หลาย ๆ แผนกเรียกเธอใช้งานในยามที่แผนกเหล่านั้นต้องการกำลังคน แต่ที่วันนี้เธอเลือกแผนกบัญชี เพราะแผนกนี้นั่งอยู่หน้าห้องท่านประธานอย่างไรเล่า
ในเวลาสิบเจ็ดนาฬิกาที่ใครหลายคนเริ่มเดินออกจากออฟฟิศ มีเพียงม่านฟ้าที่เดินเข้าไป จุดหมายของเธอวันนี้คือแผนกบัญชีที่เดินเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงห้องท่านประธาน
เวลาที่ม่านฟ้ารอคอยก็มาถึง ในออฟฟิศเวลานี้มีเพียงเธอกับเขาและประตูห้องกั้นเท่านั้น
“เอาไงดีวะ” คนที่คิดแผนมาทั้งบ่าย แต่ตอนนี้กลับคิดอะไรไม่ออก นั่งเก็บเอกสารอยู่นาน ตอนนี้ไม่มีใครแล้ว เธอเหลือบมองห้องท่านประธานหลายต่อหลายรอบ
เสียงเคาะประตูห้องทำให้คนที่ไม่เคยปิดประตูห้องเพราะนโยบาย เปิดประตู (Open-Door Policy[1]) เงยหน้าจากแมคบุ๊กตรงหน้า เขาขมวดคิ้วแต่ก็บอกเสียงเรียบ
“เข้ามา”
เขาหรือเธอจะรู้หรือเปล่าว่าระหว่างกัน พวกเขาใช้ภาษาไทย ทั้งที่เวลาปกติหวังชางจะใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกับพนักงานคนอื่น
[1] Open-Door Policy คือนโยบายการบริหารงานแบบหนึ่งที่หัวหน้า เปิดประตูห้อง ให้ลูกน้องเข้าพบ เพื่อพูดคุยได้ตลอดเวลา เป็นการลดช่องว่างทางการสื่อสาร สร้างความเข้าใจระหว่างกัน
เรียกได้ว่าดีแลนหวังคือเฮียที่จิตใจดีของคนรอบข้าง ชวีชอบพูดว่าดีแลนหวังไม่เหมือนพ่อตรงนิสัย แต่ใคร ๆ ก็รู้ว่าชวีแค่ประชด ถึงจะเป็นพี่น้องต่างมารดา แต่หวังชางดูแลน้อง ๆ ดีเสมอ ทั้งยังเป็นคนได้สมบัติน้อยที่สุดเวลาพ่อแบ่งอะไรให้ทั้งสามคน ‘มันของนอกกาย ที่มีก็ใช้ไม่หมด’ นั่นคือคำพูดของคนที่เคยประสบเคราะห์ร้ายมาหลายเรื่อง ทั้งเรื่องลักพาตัว ทั้งอุบัติเหตุ กาสิโนที่มาเก๊าตอนนี้หวังชางยกให้เดวิดหวังทั้งหมด ตั้งแต่รู้จักกับม่านฟ้าและแม่ยายทั้งสองพาเข้าวัดบ่อย ๆ ทำให้เขาได้รู้แล้วว่าชีวิตเราไม่มีอะไรมาก แต่อย่าโลภ อย่าอยากได้ของที่ไม่ใช่ของเรา และประกอบอาชีพสุจริต เป็นแบบอย่างที่ดีกับลูก เงินที่มีเอาไปด้วยไม่ได้เมื่อถึงเวลาที่ต้องจากโลกนี้ไป เราต้องรู้จักแบ่งปัน ยิ่งให้เราจะยิ่งได้ เมื่อก่อนเขาไม่เคยคิดว่าคำสอนนี้จะเป็นจริง แต่ตอนนี้เขาเชื่ออย่างหมดใจ และยิ่งเชื่อมากขึ้นเมื่อในอีกสองปีต่อมาเขากับม่านฟ้าก็มีลูกชายฝาแฝด เด็กชายแพทริกและพาริสหวัง แฝดสองคู่ด้วยวิธีธรรมชาติ ไม่ต้องคิดอะไรมาก เรื่องนี้หวังชางเก็บไว้อวดได้อีกหลายคน พวกมันทำลูกได้ เขาไม่เถียง แต
สองหนุ่มสาวเจ้าของปาร์ตี้ตรงไปยังห้องน้ำทันทีที่ได้ที่ตรวจการตั้งครรภ์ หวังชางเข้าไปในห้องน้ำเพื่อลุ้นกับม่านฟ้า สายตาของทั้งสองจับจ้องที่ตรวจทั้งห้าอันก่อนจะร้องเฮออกมาด้วยความดีใจ ไม่น่าเชื่อว่าครั้งนี้ก็ติดง่ายดาย “เป็นไง ท้องไหม” คำถามของน้องชายสุดที่รักดังขึ้นทันทีที่ม่านฟ้ากับหวังชางกลับมาที่โต๊ะหมูกระทะ “ท้อง ระดับกูก็ต้องท้องอยู่แล้ว” คนเมียท้องได้ทีคุยโวเป็นการใหญ่ ให้มันได้อย่างนี้สินะ ความเล่นใหญ่ไม่มีใครเกินคุณชายใหญ่ ชวีคีบหมูสามชั้นย่างเหลืองกรอบวางบนจานของคุณชายใหญ่เพื่อเป็นรางวัลที่ผลิตหลานให้เขาเพิ่ม “ไอ้ชายรอง กูเหม็น” ว่าแล้วพี่ชายใหญ่รีบวิ่งไปยังห้องน้ำเพื่ออาเจียน แต่ดูแล้วไม่มีใครสงสารหวังชางเลยสักนิด พวกเขาได้แต่หัวเราะคิกคัก โดยเฉพาะม่านฟ้าเมียรักของเขาหัวเราะไม่ยอมหยุด คอยดูนะ คนท้องก็คนท้องเถอะ เขาจะใช้แรงงานให้เข็ดไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ นอกจากท้องง่ายแล้ว ทั้งสองยังได้ลูกแฝดในท้องนี้ นี่ละนะ เวลาคนเราดวงขึ้นทำอะไรก็ดีไปหมด ใครจะคิดว่าท้องลูกคราวนี้ได้ถึงสองคนอย่างที่ม่านฟ้าหวังไว้ เพราะท้องแฝดจึงอยู่ในการดูแลขอ
เขาดูแลเธอดีตั้งแต่ตั้งท้อง คลอด และช่วยเลี้ยงลูก ม่านฟ้าเคยคิดเหมือนที่ในนิยายพูดไว้ ว่าเธอคงเป็นพวกกู้ชาติหรือไม่ก็เป็นแม่ทัพแนวหน้าในชาติที่แล้ว ชาตินี้ถึงได้โชคดีได้ผู้ชายอย่างหวังชางเป็นสามี “อย่าบีบแรง อืม” เสียงคำรามของเขาพาหัวใจคนบีบสยิวซ่าน “ตกลงคนที่จะทนไม่ได้ตอนท้องนี่เฮียหรือหมิงกันแน่ เมียเฮียฮอตตลอด” หวังชางกระเซ้าคนที่ทั้งลูบทั้งบีบ จากที่นิ่ม ๆ ตอนนี้เริ่มไม่นิ่มแล้ว ทุกอย่างกำลังตั้งชี้โด่เด่รอคอยการปลดปล่อย “นั่นสิคะ หรือว่าทั้งคู่” ม่านฟ้าหัวเราะคิกคักเมื่อเขาพลิกกายมาคร่อมเธอ “เรานี่นะ สามยกแล้วยังไม่พออีกเหรอ ตัวเองได้นอนกลางวัน แต่เฮียเนี่ยแอบงีบในห้องทำงาน ประธานหวังจะตัดออกจากกองมรดกเอานะ” คนจะโดนตัดออกจากกองมรดกซุกหน้ากับหน้าอกนุ่ม ม่านฟ้าอยากจะเถียง แต่ไม่อยากจะพูดมาก ในเวลานี้เธอทำเพียงแอ่นกายให้เขาดูดกลืนได้ถนัดมากขึ้นสามเดือนต่อมา หวังชางและม่านฟ้าบินมาเที่ยวเมืองไทย ฟ้ารุ่งและฟางซีซวน รวมทั้งท่านประธานหวังเดินทางมาพร้อมกับทั้งคู่ เพราะเป็นห่วงดีแลนหวังนั่นแหละ ผู้ใหญ่ทั้งสามคนรวมถึงเจ
“นี่น้องชายหมิง” ฟ้ารุ่งเปิดรูปเด็กชายวัยสิบสามปีใส่ชุดยูนิฟอร์มของโรงเรียนชื่อดังในต่างประเทศ “หล่อจังเลย” ม่านฟ้าชม “แอ๊ะ แอ๊ะ!” “โอ๋ หล่อไม่เท่าดีแลนของยายหรอก” ฟ้ารุ่งตบตูดเด็กชายตัวน้อยที่ปีนขึ้นมานอนบนอกแม่ “ตอนที่เราจากกันหมิงอายุเท่าไหร่นะคะพี่เจน” ฟ้ารุ่งถามถึงอดีตที่เธอลืมเลือนไปเสียแล้ว “ตอนนั้นหมิงสิบขวบ” นี่เป็นครั้งแรกที่เจนสุดาเล่าทั้งรอยยิ้ม ความทุกข์ใจในเวลาเก่าก่อนได้หายไปแล้ว ครั้งนี้พวกเขาทั้งสี่คนได้กลับมาอยู่ร่วมกัน “หมิงร้องไหมตอนแม่ไม่อยู่” ฟ้ารุ่งลูบหลังลูกสาวอย่างห่วงใย ช่วงเวลาที่ขาดหายไปหลายปีทำให้เธอรู้สึกปวดใจ “แม่ ก็ต้องร้องสิ ไม่ร้องก็แปลกแล้ว แต่หมิงไม่ได้ร้องให้แม่เจนเห็นนะคะ กลัวแม่เจนเป็นห่วง” ม่านฟ้าเวลานั้นรู้ว่าแม่ฟ้าหายไป เธอร้องไห้เพราะกลัวว่าแม่จะตาย แต่ก็ไม่อยากให้แม่เจนที่เอ็นดูเธอต้องเสียใจด้วยเหมือนกัน ตอนนั้นเธออายุสิบขวบ รู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร มีเรื่องของคนไม่ดีที่ตามแม่เจนทำให้เธอและแม่เจนต้องหนี นั่นก็เป็นปัญหาใหญ่ของเธอและแม่เจนเวลานั้น ม่านฟ้ารู้ดีว่าไม่ค
ฟางซีซวนเล่าเรื่องราวของฟางหมิงให้กับคนในครอบครัวตระกูลหวังฟังอย่างไม่ปิดบัง เขาเดินทางไปติดต่อการค้าที่ประเทศไทย ก่อนจะกลับเขาจึงแวะดื่ม และไม่คิดว่าจะเจอกับนักเลงแถวนั้นที่พยายามจะปล้นเขา เขาวิ่งหนีแต่โดนยิงที่ขา ฟางซีซวนเองก็ไม่รู้ว่าฟางหมิงเข้ามาช่วยเขาตอนไหน รู้แต่ว่าทั้งคู่วิ่งไปจนสุดทาง เสียงน้ำกระทบฝั่งบอกให้รู้ว่าข้างหน้าเป็นแม่น้ำหรือทะเล ฟางหมิงพาเขากระโดดลงน้ำ ในตอนนั้นทั้งคู่จมลงไปในน้ำลึก แต่อาจเพราะความโชคดีของพวกเขาก็ได้ที่เจอคนช่วยไว้ทัน แต่น่าเสียดายคือฟางหมิงบาดเจ็บที่ศีรษะต้องทำการรักษาด้วยการผ่าตัด ในเวลานั้นไม่มีเวลาจะตามหาญาติคนไข้หรือดำเนินเรื่องเอกสารที่ถูกต้อง ฟางซีซวนให้เพื่อนของเขาที่เป็นนักธุรกิจใหญ่ช่วยเหลือในครั้งนั้น ฟางหมิงหลับไปหนึ่งเดือนเต็ม และเมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้งเธอก็จำอะไรไม่ได้เลย ฟางซีซวนใช้อำนาจที่มีจัดการเรื่องเอกสารและแต่งงานกับเธอพร้อมพาเธอมาอยู่ฮ่องกงในเวลาต่อมา “อาหมิงฟื้นขึ้นมาพูดแค่ ‘หมิง’ ผมจึงตั้งชื่อเธอใหม่ว่าฟางหมิง หลังจากที่เราแต่งงานกัน” ฟางซีซวนเล่าถึงอดีต ซึ่งคนที่นั่งฟังอย่างเจนสุดาได้
เจนสุดานึกขอบคุณสวรรค์ที่ส่งลูกทั้งสองมาให้เธอ ถึงเธอจะไม่ได้คลอดม่านฟ้ามาเอง แต่เพราะอยู่ด้วยกันมาสิบกว่าปี ความผูกพันจึงมีไม่น้อย ส่วนเจนิตาคือลูกที่เธออุ้มท้องและเลี้ยงดูมาถึงสิบปี ความรักและสายใยของสายเลือดนั้นแนบแน่นเกินกว่าช่วงเวลาที่ขาดหายไปจะพรากความรักความห่วงใยของแม่ลูกได้ หลังจากไหว้พระใหญ่ พวกเขาแวะรับประทานอาหารเจในวัดที่มีบริการ ต้องยอมรับว่าอาหารเจของที่นี่ โดยเฉพาะเต้าหู้ถือว่ารสชาติค่อนข้างดี “กลับกันรึยังสาว ๆ” หวังชางที่เดินถ่ายรูปจนครบทุกจุดกลับมาถามสาว ๆ ที่กำลังเอร็ดอร่อยกับอาหารเจ “เฮียไม่กินเหรอ” ม่านฟ้าถามอย่างห่วงใย “ไม่ ๆ เพิ่งกินกาแฟไป” ถึงที่นี่จะอยู่สูงจนต้องนั่งกระเช้ามาหลายนาที แต่กาแฟเจ้าดังที่มีสาขาทั่วโลกก็ยังตั้งอยู่บนยอดเขาแห่งนี้ เรียกได้ว่าความสะดวกสบายครบครัน “อิ่มแล้วไปกันเถอะ คิดถึงดีแลนแล้ว” เจนิตาลุกและเร่งทุกคน ป่านนี้เจ้าอ้วนพุงกะทิของเธอจะนอนกลางวันหรือยังนะ “นั่นสิ ดีแลนหลานอา” พลอยใสเองก็ติดหลานยิ่งกว่าใคร อยากฟัดหลานรักให้หายคิดถึง หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นพว