Mag-log in“ นี่ทิปคุณพราวครับ “
ราเมศยื่นเงินให้พราวปึกนึง แต่ในจังหวะที่พราวกำลังจะยื่นมือไปรับ ราเมศก็ชักกลับแล้วชี้ไปที่แก้มตัวเอง พราวฟ้ายิ้มอย่างรู้ทัน ก่อนโน้มหน้าเข้าใกล้แล้วหอมแบบธุรกิจ จุ๊บ “แบบนี้ค่อยชื่นใจหน่อย ผมกลับนะครับไว้เจอกัน” พราวฟ้าโบกมือเบาๆส่งแขกvip “เห็นม๊ะ !!พี่บอกแล้ว ว่าลูกค้ากลุ่มนี้ทิปหลักหมื่น” พราวฟ้าหันมายิ้มระรื่นให้อลิซ อลิซมองดูในมือตัวเองบ้าง แค่เอนเตอร์เทนนิดหน่อยก็ได้ทิปหลักหมื่น คนรวยก็รวยจนเงินทองเหลือใช้ แต่เธอนี่สิชีวิตทำไมดูฝืดเคืองแบบนี้ ไหนจะแม่ที่กำลังต้องการค่ารักษาจำนวนมากนี่อีก “ขอบคุณนะคะพี่พราว พี่พราวดีกับอลิซที่สุด ” อลิซขอบคุณพราวฟ้าจากใจจริง “นี่!!อลิซฟังพี่นะ คุณภูวินทร์อะ รวยมากๆ และเขาก็ดูสนใจอลิซมากเหมือนกัน ถ้าเป็นเด็กเขาได้อะนะ รับรองรวยเละ” พร้าวฟ้าชี้ช่องทำเงินให้เพื่อนรุ่นน้อง “อลิซยังไม่คิดถึงขั้นนั้นหรอกค่ะพี่พราว อลิซไม่ได้อยากเป็นของเล่นคนรวย ” “จ้าๆ เอาไว้เป็นทางเลือกเผื่อฉุกเฉินไง ไปได้แล้วป่ะ” หลังจากลูกค้ากลุ่มนี้กลับไป ก็ได้เวลาเลิกงานพอดี อลิซจะไม่ได้อยู่จนผับปิด เพราะขอผู้จัดการเลิก5ทุ่มทุกวัน จะได้ไม่กระทบการเรียน แต่ก็ยกเว้นวันศุกร์เสาร์ ที่เธอจะอยู่จนผับปิด “พี่พราวคะอลิซกลับแล้วนะคะ“ พอเปลี่ยนชุดเสร็จเรียบร้อย อลิซก็บอกลาพราวฟ้าเหมือนอย่างทุกวัน ”จ้า กลับดีๆนะ ระวังตัวด้วย“ ”ขอบคุณนะคะ “ อลิซเดินไปเรียกรถไปส่งที่ห้องเช่า ทุกวันคือความอันตราย ต้องเสี่ยงกับแท็กซี่ และซอยเข้าห้องเช่าแสนเปลี่ยว ”150บาทครับ “ ”นี่ค่ะ“ อลิซรีบจ่ายเงินและเตรียมลงจากรถ ”น้อง!!เป็นผู้หญิง เดินในซอยเปลี่ยวๆแบบนี้ระวังนะ ยิ่งดึกยิ่งอันตราย“ ”ขอบคุณนะคะ หนูจะระวังตัว“ เธอรีบขอบคุณแท็กซี่ แล้วเดินเข้าซอยเปลี่ยวๆไป พอมาถึงห้องเช่าก็รีบกินอะไรรองท้อง อาบน้ำแล้วนอนพักผ่อนให้เร็วที่สุด ในตอนเช้า ครืด~~ครืด~~~ [ฮัลโลลูก] “ป้าพรคะ แม่เป็นไงบ้าง” [ตอนนี้หลับอยู่ หมอเข้ามาตรวจเมื่อวาน ว่าพิมร่างกายแข็งแรงขึ้น ถ้าผ่าตัดช่วงนี้จะดีมาก เพราะจะไม่มีอาการแทรกซ้อน ถ้าเงินเราพร้อม ก็นัดวันผ่าได้เลย ] อลิซเงียบไปพักใหญ่ [อลิซลูก ถ้าเรายังไม่มีก็รอผ่าตามกำหนดก็ได้นะ คือหมอเขาแค่แนะนำ ว่าผ่าช่วงที่ร่างกายแข็งแรงก็จะดีหน่อยหนะ ป้าเล่าให้ฟังเฉยๆ อย่าคิดมากนะ] ”ไม่คิดมากค่ะป้า ดีเหมือนกัน อลิซจะได้เร่งหาเงินให้เร็วขึ้นอีก งั้นแค่นี้ก่อนนะคะป้าพร หนูฝากแม่ด้วย หนูต้องไปเรียนแล้วนะ” [จ้าลูก ตั้งใจเรียนนะ ส่วนทางนี้ป้าดูแลเอง] หลังวางสายจากป้าพร อลิซก็รีบแต่งตัวไปรอขึ้นรถเมล์ ตอนนี้คือต้องประหยัดค่าใช้จ่ายทุกอย่าง “ป้าคะ หมูสองไม้ข้าวเหนียวหนึ่งค่ะ” พอเดินมาถึงปากซอย เธอก็จะซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งเป็นประจำทุกวัน สำหรับกินคนเดียวแค่นี้ก็อิ่มแล้ว “นี่จ๊ะหนูอลิซ 20บาทเหมือนเดิมจ๊ะ” อลิซควักเงินจ่ายพอดีค่าข้าว “เอ้อ แล้วพิมพาเป็นไงบ้างหละ อาการดีขึ้นบ้างไหม เห็นว่ารักษาโรงบาลเอกชน คงหมดค่ารักษาไปหลายตังค์” พอได้ยินคำถามถึงผู้เป็นแม่ อลิซก็ยิ้มบาง “แม่รอผ่าตัดค่ะป้า อาการตอนนี้ก็แข็งแรงดี ป้าไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ” “จ๊ะๆ รีบไปเถอะ เดี๋ยวไม่ทันรถ” เดินมารอรถได้ไม่นานรถก็มา เธอไม่เคยปล่อยเวลาให้เสียเปล่า รีบเอาข้าวออกมากิน และอ่านหนังสือไปด้วย เธอต้องได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ต้องได้ฝึกงานในบริษัทใหญ่ๆ และต้องได้ทำงานในบริษัทที่เงินเดือนสูงเท่านั้น พอมาถึงมหาลัย เธอก็ต้องเดินจากหน้าประตูเข้ามาถึงคณะบริหาร ก็ไกลเกือบ2กิโลเมตรได้ แต่สำหรับเธอแล้วชินมากๆเลย ”อลิซ!!!ทางนี้“ เสียงเรียกคุ้นหูจากเพื่อนสนิทอย่างทับทิมดังขึ้น และยังมีเมลดา สองคนนี้คือเพื่อนแท้ที่ไม่เคยเลยซักครั้ง ที่จะพูดถึงความจนของเธอในเย็นของวันนี้เลิกงานแล้วฉันก็ไปเลือกชุดตามที่เขาบอก เดินดูไปสักพักก็ได้ตัวที่สวยสุภาพมา2ชุด ราคาก็แพงเอาเรื่องเหมือนกันนะเนี่ย แต่ไม่เป็นไรคุณภูวินทร์ให้งบมาเพียบ เลือกเสร็จฉันก็เดินไปจ่ายเงิน และดูของที่จำเป็นต้องใช้อีกนิดหน่อย ก่อนที่จะกลับคอนโด ”ป้าพรคะวันนี้หนูอยากกินแกงเขียวหวานฝีมือป้าค่ะ หนูซื้อของมาให้ครบหมดแล้วป้าทำให้กินหน่อยนะคะ“ ฉันเดินเข้าไปในครัวแล้ววางวัตถุดิบ และอุปกรณ์ทั้งหมดลงโต๊ะ ”ได้ลูก เดี๋ยวป้าทำให้กินนะจ๊ะ“ ป้าพรยิ้มแล้วเดินไปล้างมือเตรียมที่จะทำอาหาร ”เอ่อ…คือ ป้าคะหนูต้องไปต่างจังหวัดสัก3-4วันนะคะ“ ฉันลังเลที่จะบอกป้า กลัวแกเป็นห่วงไม่อยากให้ไป ”อื้อ ไปสิลูก“ ป้าไม่ว่าอะไรแล้วถามต่อ ”ไปกับบริษัทใช่มั้ย“ ”ใช่ค่ะป้า เดี๋ยวหนูจะทำตัวดีๆแล้วรีบกลับมานะคะ“ ฉันดีใจมากคิดว่าจะไม่ได้ไปแล้วซะอีก เมื่อก่อนป้ากับแม่เป็นห่วงฉันมาก แต่เดี๋ยวนี้แกเริ่มปล่อย เห็นว่าฉันโตแล้วมั้ง ฮ่าๆๆ แล้วฉันก็ไปนั่งดูทีวีที่โซฟาราคาแพง สักพักก็เริ่มได้กลิ่นหอมลอยมาจากในครัว ”โห หอมขนาดนี้ถ้าป้าทำขายคงจะขายดีมากแน่เลยค่ะ“ ฉันแซวป้าไปจากโซนน้่งเล่น ”ป้าก็คิดว่าจะเปิดร้านขายอาหารตาม
17.00น. “อลิซ ขึ้นรถไปกับฉันเลยมั้ย เดี๋ยวเมลล์จะไปรอที่ร้าน” ทับทิมเดินมาถาม หลังจากเลิกงานตึก ตึก ตึก ”จะไปไหนกัน“ ได้ยินเสียงเดินมาจากด้านหลังทั้งสองคนก็หันไปมองพร้อมกัน พรึบ ”ก็ไปกินข้าวไงคะอาภู จะไปด้วยกันมั้ยคะ“ ทับทิมถามอาอย่างกวนๆ ส่วนอลิซหลบหน้าไม่กล้าสบตาเขา”ไร้สาระ“ เขาพูดแล้วเดินไปยังลิฟต์ ติ๊ง ”ป้ะ ฉันไปกับแกนี่แหละ“ อลิซตัดสินใจ แล้วตกลงกับทับทิม”โอเค ไปกัน“ ทับทิมยิ้มสดใสแล้วลากแขนอลิซลงไป อลิซที่วิ่งตามอย่างช้าๆก็ยิ้มออกมาเบาๆณ ร้านชาบู“นั่นไงเมลล์“ อลิซเห็นเพื่อนนั่งอยู่ในร้านเลยบอกทับทิม”โอเคไปกันเถอะ“ ทั้งคู่เดินไปยังโต๊ะที่เมลล์จองไว้ก่อนหน้านี้แล้ว”โอ้ย ไม่เจอพวกแกนานคิดถึงมาก“ เมลล์ยิ้มทักทายขึ้น”วันนี้ใครมีเรื่องจะเล่าป้ะ“ อลิซถามเพื่อนทั้งสองคนอย่างรู้กัน”ฉันมี/ฉันมี!!“ เมลล์และทับทิมพูดขึ้นพร้อมกัน โดยไม่ได้นัดหมาย ”ฮ่า ฮ่า ฮ่า“ ทั้งสามสาวหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุขเมื่อชาบูมาเสริฟ ทั้งสามคนก็ได้กลิ่นหอมที่ลอยออกมาจากหม้อชาบู “หื้มม หอมจัง” อลิซสูดดมแล้วหันไปหัวเราะกับเพื่อน“โอ้ย หอมมากแก ไม่ได้กินนานเลยแหละ ช่วงนี้ไม่ว่างเลย” ทับทิมพูดเชิงดราม
ภูวินทร์ให้เฟยหนูชอบถุงกระโปรงตามตัวเองขึ้นมายังห้องทำงาน ผ่านโต๊ะที่ทำงานของแพรววา “บอสคะ ถุงอะไรหรอคะทำไมมันของเยอะขนาดนั้น ให้พี่ช่วยมั้ย“ ”อ๋อไม่ต้องครับ จะถึงแล้ว“เขาเลี่ยงที่จะตอบคำถามว่าในถุงนั้นคืออะไร ”วางไว้ตรงนี้แหละ เดี๋ยวฉันถือเข้าไปเอง“เขากลัวว่าคนอื่นจะเห็นอลิซในสภาพนั้น เปิดประตูเข้าไปในห้อง ”โห คุณซื้ออะไรมาเยอะแยะขนาดนี้คะ“ อลิซถามด้วยความตกใจ ”ก็ผมไม่รู้นิ่ ว่าคุณให้ซื้อแบบไหน เอาไปให้หมดนี่เลย” เขาวางถุงไว้ที่โซฟาแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานต่อ -ซื้อมาเยอะขนาดนี้กะจะให้ฉันใส่ถึงปีหน้าเลยหรอ- แล้วเธอก็เปิดถุงออกดู หยิบดูตัวนั้นตัวนี้ “โห ตัวนี้สวยจัง” เธอเลือกดูไปมา “ตัวนี้สวยมาก ตัวนี้คอลเลคชั่นใหม่นิ่ ตัวนี้แพงมาก คุณซื้อหมดกี่บาทเนี่ย“ เธอเลือกไปยิ้มไป ด้วยความตื่นเต้น แล้วหันไปถามเขา ทั้งคู่ก็สบตากันพอดี เธอเห็นเขายิ้มมุมปากเล็กๆ ก่อนจะหุบยิ้มลงเมื่อเธอจับได้ ”อ๋อก็ไม่เท่าไหร่หรอก แค่นี้เองเธอชอบฉันซื้อให้ได้อีกเป็นสิบ“ แล้วหน้าหล่อก็ก้มลงเขียนงานต่อ ”คุณภูวินทร์คะ ตัวนี้สวยมั้ย“ เธอใส่แล้วยืนขึ้นให้เขาดู -โหสวยมาก ตัวนี้เหมาะกับเธอจริงๆ- ”ก็งั้นๆ
”รู้สึกยังไง เมื่อวานดื้อนักไม่ใช่หรอ ทำไมต้อนนี้ทำท่าเหมือนคนจะตา-“ ภูวินทร์สะใจที่วันนี้แกล้งเธอสำเร็จ หัวเราะแล้วกำลังหันไปมอง พบว่าเธอกำลังปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองออกอย่างลุกลี้ลุกลน “เอ้า อย่าทำแบบนี้” เขารีบวิ่งไปห้ามเธอไว้ แต่ก็ห้ามไม่อยู่ เมื่อยาออกฤทธิ์แล้วไม่มีอะไรแก้ได้ นอกจากหาคู่นอนเท่านั้น ”ช่วยฉันแก้พิษยาหน่อยนะคะ คุณภูวินทร์“ เธอทำเสียงออดอ้อน แล้วปลดเสื้อตัวเองออกจนหมด มองเห็นแต่เต้าอวบนั่นที่ล้นทะลักออกมาจากชุดชั้นในราคาแพงตัวสีดำ แล้วอลิซก็โน้มตัวเข้ามาจูบภูวินทร์ ชายหนุ่มตกใจเล็กน้อย ก่อนที่ตัวเองก็เคลิบเคลิ้มตามอารมณ์ แล้วจูบตอบเธออย่างเร่าร้อน อลิซผละเขาออก ”หืมมม~ คุณวางยาอลิซเองนะคะ วันนี้คุณต้องรับผิดชอบ” ก่อนจะจูบต่ออย่างดูดดื่ม ทั้งคู่แลกลิ้นกันครั้งแรก -ทำไมลิ้นของเธอมันหวานจัง- สองมือของชายหนุ่มจับไปที่ท้ายทอยของเธอ ล็อกไว้ไม่ให้ขยับหัวออกไปไหน หลังจากทั้งคู่หลุดจากพันธะแล้ว อลิซก็ถอดกางเกงภูวินทร์ออก แล้วคุกเข่าลงไป รวบผมตัวเองไว้อย่างหลวมๆ แล้วยื่นให้ภูวินทร์เป็นคนจับไว้ “จับไว้ค่ะ” จากนั้นเธอก็อ้าปากเล็ก งับเอาแท่งเอ็นลำใหญ่ แทงลึกลงไปจนสุดลำ
เช้าวันต่อมา ณ บริษัทภูทัชชัยกรุ๊ป ภูวินทร์ที่ตื่นสายเลยมาช้ากว่าปกติ“สวัสดีค่ะคุณภูวินทร์/สวัสดีครับประธาน” เสียงเอ่ยสวัสดีดังขึ้นตามหลังมาตลอดทางที่เดินเข้าบริษัท ชายหนุ่มที่กำลังเดินไปยังห้องทำงานด้วยความเร่งรีบก็ตกใจมาก“คุณพ่อ!!” เมื่อเห็นว่าชายที่นั่งอยู่บนรถวีลแชร์ในทางที่ไปห้องทำงานคือพ่อของตนเอง ที่มีคนรับใช้หนึ่งคนคอยเข็นให้“ตกใจขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมวันนี้มาสาย ฉันให้แกมาดูแลบริษัทไม่ได้ให้มาทำตัวเหลวไหล” ภูวินทร์ทำหน้าเจื่อนเล็กน้อยก่อนจะกล่าวขอโทษ“ผมขอโทษครับ เมื่อคืนผมแค่…”“ไม่ต้องมาแก้ตัว” ยังไม่ทันที่เขาจะพูดอะไร พ่อของเขาก็พูดตัดบทขึ้นมาซะงั้น “ฉันเป็นพ่อแก รู้หมดนั่นแหละว่าแกทำอะไรลงไปบ้าง ไป!! รีบไปเอาแผนงานของบริษัทในเดือนนี้มาอ่านให้พ่อฟัง”– เหมือนจะดุแต่ก็ไม่ใช่ เพราะคนที่เข้าใจผมมากที่สุดก็คือพ่อ“ครับคุณพ่อ ผมจะรีบรายงานเดี๋ยวนี้เลย” เขายิ้มแล้วรีบเดินไปหยิบแผนงานของบริษัทมาพูดให้พ่อฟังแอ๊ด~ เสียงเปิดประตูดังขึ้น“คุณปู่!! คิดถึงหนูมั้ยยย” ทับทิมรีบวิ่งมาแต่ไกลก่อนจะโผล่เข้ากอดปู่ ซึ่งเธอรักปู่ของเธอมากที่สุด เพราะปู่เป็นคนใจดีแล้วตามใจเธอที่สุด“คิดถึงสิ ห
ณ ร้าน Happy NaNa Club “มึงจัดเด็กมาให้ไอ้ภูดิ้” ศิวาเห็นเพื่อนรักอย่างภูวินทร์ทำหน้าเครียด เลยหาเด็กมาให้ “เด็กๆ” ศิวาปรบมือเป็นสัญญาณให้พีอาร์เข้ามาในห้อง VIP3 แล้วผู้หญิงสวยสี่คนก็เดินเข้ามา ทั้งสี่คนเดินไปชงเหล้าอย่างรู้งาน ก่อนจะมาประกบคู่ของตัวเอง -ผู้หญิงพวกนี้ก็สวยอยู่ แต่สู้อลิซไม่ได้สักคน เห้ย กูคิดอะไรอยู่ ยัยนั่นก็แค่เด็กเลี้ยง จะไปรู้สึกอะไรได้ไงวะเนี่ย- ภูวินทร์เถียงกับความคิดตัวเองอยู่ครู่ ก่อนเอ่ยว่า “คือ…ผมไม่ดื่มครับวันนี้” พีอาร์ที่ยื่นแก้วให้ทำหน้าเจื่อนทันที เธอวางแก้วลงก่อนจะขยับเข้ามาซบอก คลอเคลียเขา ทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองเพิ่งโดนปฏิเสธ “พี่ภูวินทร์ขา วันนี้ทำไมอารมณ์ไม่ดีคะ” เธอพูดพร้อมลูบไล้หน้าอกแกร่งของเขา “หงุดหงิดนิดหน่อย” เขาตอบแต่สีหน้าไม่เปลี่ยน สายตาจับจ้องโทรศัพท์ ไม่สนใจคนข้างตัวแม้แต่นิดเดียว “โถ่ไอ้ภู มึงจะเครียดอะไรนักหนาวะ สาวงามก็อยู่ตรงนี้ สนใจน้องเขาหน่อยดิวะ” ราเมศแซวเมื่อเห็นเพื่อนซึม -ไอ้พวกนี้นี่ จะอะไรกันนักหนา ก็บอกว่าไม่ได้อยากสนุก มันก็บังคับอยู่นั่นแหละ ถึงยังไงผมก็รู้ว่ามันหวังดี- “มึงว่างั้นมั้ยคิม” นั่นมันยังหาพรร







