Share

บทที่ 11

เพื่อไม่ให้อาการป่วยของเธอเลวร้ายไปกว่านี้ หลินเหยียนจึงกำหนดเวลาคีโมระยะแรกสำหรับเธอเป็นวันมะรืน

ผลข้างเคียงของคีโมค่อนข้างจะหลากหลาย โดยที่สองสัปดาห์แรกหลังการทำคีโมร่างกายจะอ่อนแออย่างมากและผมร่วง ซูชิงอวี่จึงต้องจัดเตรียมสิ่งต่างๆ ติดตัวไว้ให้อย่างเรียบร้อยล่วงหน้า

ซูฉี่ผิงไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นขึ้นในขณะนั้น โชคดีที่เธอไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาล จึงชำระค่ารักษาพยาบาลแล้วกลับบ้าน

เดิมทีห้องแต่งงานเป็นของเธอและลี่ถิงเชิน เมื่อคิดว่าตัวเองจะย้ายออกไปไม่นานนี้แล้ว เธอกลัวว่าร่างกายของตัวเองจะอ่อนแอยิ่งขึ้นหลังจากทำคีโม จึงหาบริษัทขนย้ายบ้านมาล่วงหน้า

โดยที่ฉินโอวเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอก็มาด้วยเช่นกัน เธอสวมชุดสูทและรองเท้าส้นสูงพร้อมกระเป๋า และยังพกมันเทศเผาสองหัวมาอีกด้วย

และเสียงของเธอก็ดังขึ้นมาแต่ไกลว่า "เพื่อนซู ในที่สุดเธอก็ออกจากไอ้หมอนั่นได้สักทีนะ! ฉันเพิ่งรับค่าคอมมิชชั่นขายบ้านเมื่อเดือนที่แล้ว ตอนกลางคืนฉันจะพาเธอไปเที่ยวที่ไนต์คลับเฮยหม่านะ คางคกมีสามขามันหายาก แต่ผู้ชายมีสองขามีทุกที่ "

สัปดาห์นี้เมื่อซูชิงอวี่หายไป เธอเพิ่งบินไปต่างประเทศเพื่อหาแฟนของเธอ เธอจึงไม่รู้อาการป่วยของซูชิงอวี่ คิดแค่ว่าสุดท้ายนี้ซูชิงอวี่ก็อยากหย่ากัน

ซูชิงอวี่พูดด้วยรอยยิ้ม "ไม่เอาหรอก ฉันกลัวว่าถ้าคนนั้นรู้ว่าเธอไปที่ไนต์คลับเฮยหม่า คืนนี้เขาก็อาจจะบินกลับมาจัดการกับฉันเลยก็ได้นะ"

"อย่าพูดเลย ฉันไม่ได้เชื่อรักแท้ของซีกโลกเหนืออีกแล้ว เดิมทีฉันอยากจะทำให้เขาเซอร์ไพรส์ แม่งเอ๊ย เธอเดาสิ ยังไงก็คิดไม่ถึงหรอกนะว่าเขาใช้เงินหายากของฉันไปกิ๊กกับผู้หญิงคนอื่นที่นั่น"

ฉินโอวก่นด่าออกมาอย่างอารมณ์เสีย เธอไม่สามารถซ่อนความเจ็บปวดจากน้ำตา ในที่สุดความรักเจ็ดปีก็สิ้นสุดลงเพราะระยะทาง

ซูชิงอวี่อยากจะพูดปลอบโยนคำสองสามคำ แต่เมื่อนึกถึงชีวิตการแต่งงานอันยุ่งเหยิงของตัวเอง ตัวเธอเองก็เป็นคนบาป เธอจะไถ่ผู้อื่นได้อย่างไร?

"ด้วยนิสัยเธอ เธอไม่ระเบิดหรอ?"

ฉินโอวลากเธอไปนั่งบนแท่นดอกไม้ของลาน เอามันเทศเผาหนึ่งหัวมาให้เธอ แล้วฉินโอวก็เริ่มกินมันเทศเผาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"น่าจะเป็นเพราะเราสองคนรักกันทางไกลมานานแล้ว นิสัยไม่ดีขนาดไหนก็คลี่คลายลง หรือว่ามีลางสังหรณ์มาก่อน คนที่รักเธอสามารถหาเหตุผลร้อยแปดพันเก้า ถ้าไม่รักมีแค่เหตุผลเดียวก็พอ

ฉินโอวมองที่ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมอกและพูดต่อ "ก่อนหน้านี้ต่อให้เขาจะมีวันหยุดแค่เพียงสองสามวัน เขาก็จะบินกลับมาหาฉันจากครึ่งซีกโลกเพียงเพื่อใช้เวลาวันวาเลนไทน์กับฉัน แต่ตอนนี้เขาไม่ได้กลับมาสามปีแล้ว "

"เมื่อก่อนเขาจะพูดอรุณสวัสดิ์กับฉันตอนที่มีแสงพระจันทร์ แต่ในช่วงสองปีที่ผ่านมาเขาคุยกับฉันน้อยลงทุกที ตอนแรกฉันนึกว่าเขายุ่งกับเรียนป.เอก เพื่อให้เขามีชีวิตสบายมากๆ ฉันยังเรียนไม่จบก็ไปทำพาร์ทไทม์ขายบ้าน ฉันต้องกินข้าวและดื่มเหล้าเป็นเพื่อนกับคนอื่น เกือบจะนอนเป็นเพื่อนแล้ว เงินหายากขนาดนี้ทำให้เขาซื้อบ้านที่นั่นได้ "

"เพื่อนอวี่เข้าใจไหม เรื่องเหมือนละครเว่อร์เกินไป ฉันคิดว่าฉันจะบ้าตาย แต่เมื่อฉันเห็นว่าเขายังสวมกางเกงชั้นในสีแดงของฉันที่ส่งจากบ้านเราไป จู่ๆ ฉันก็รู้สึกว่ามันน่าตลกสิ้นดี"

แม้ว่าฉินโอวกำลังหัวเราะ แต่น้ำตาของเธอก็ยังร่วงหล่นลงที่มันเทศเผา "ฉันไม่ยอมซื้อแม้แต่สตาร์บัคส์หนึ่งถ้วยในบ้านเรา ให้ตายเถอะ นักศึกษาแพทย์ที่โดดเด่นอย่างฉันต้องวิ่งไปๆมาๆระหว่างอาคารชุดต่างๆทุกวัน แต่กลับเป็นได้เลี้ยงไอ้คนอกตัญญูคนหนึ่ง และไม่แน่นะว่าถุงยางที่เขาสองคนใช้กันนั่นก็อาจจะรูดบัตรฉันซื้อก็ได้"

ซูชิงอวี่ยื่นแขนออกมากอดเธอ "อย่าร้องไห้เลยนะ เขาไม่คู่ควรกับเธอหรอก"

"ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน เธอไม่รู้ว่าฉันเท่ขนาดไหน ฉันไม่โวยวาย แค่นั่งลงสูบบุหรี่แล้วเริ่มคิดบัญชีกับเขาในหลายปีมานี้ โชคดีที่ฉันไม่เชื่อเขา บ้านนี้ยังเป็นชื่อของฉันอยู่ ในคืนนั้นฉันให้เขาพาอีดอกออกจากบ้านของฉันทันที"

ซูชิงอวี่รู้สึกประหลาดใจนิดหน่อย เพราะไม่คิดว่าเธอจะเด็ดขาดได้ขนาดนี้ "งั้นเขายอมหรอ?"

ตลอดหลายปีที่ผ่านมาด้วย เขาก็คุกเข่าลงขอให้ฉันยกโทษทันที ฉันมองไปยังน้ำตาที่กำลังนองหน้าเขาอยู่ คิดแค่ว่าตอนนั้นตัวเองคงจะตาบอด ทำไมถึงชอบตัวเหี้ยแบบนี้ได้ จากนั้นฉันก็อยู่ที่นั่นสองสามวัน เพื่อขายบ้านเสียก่อน ลาขาดความสัมพันธ์กับเขาทั้งหมด แล้วก็กลับมานี่ไง

ไม่ยอมหรอก เมื่อเขาได้ยินว่าฉันไม่เพียงจะให้เขาคืนบ้านเท่านั้น แต่ยังต้องการให้เขาชดใช้เงินที่เขาใช้ไปตลอดหลายปีที่ผ่านมาด้วย เขาก็คุกเข่าลงขอให้ฉันยกโทษทันที ฉันมองไปยังน้ำตาที่กำลังนองหน้าเขาอยู่ คิดแค่ว่าตอนนั้นตัวเองคงจะตาบอด ทำไมถึงชอบตัวเหี้ยแบบนี้ได้ จากนั้นฉันก็อยู่ที่นั่นสองสามวัน เพื่อขายบ้านเสียก่อน ลาขาดความสัมพันธ์กับเขาทั้งหมด แล้วก็กลับมานี่ไง

ฉินโอวกลืนมันเทศเผาคำสุดท้ายและมีรอยยิ้มเล็กน้อยบนใบหน้าของเธอ "เธอลองดูคิดสิว่า แม้ว่าเธอจะสูญเสียผู้ชายคนหนึ่งไป แต่เธอสามารถใช้เงินของเขามาเลี้ยงหนุ่มหล่อแปดเก้าคนได้เลยนะ มันฟินออกจะตายไป"

ซูชิงอวี่ยิ้มอย่างเขินอาย "โอ้ แต่...ฉันได้ค่าชดเชยห้าสิบล้านบาทเท่านั้นนะ"

"อะไรวะ ผู้ชายเฮงซวยคนนั้นมีชู้นะ เขากล้าให้เธอแค่ห้าสิบล้านงั้นเหรอ" ฉินโอวตกใจอย่างไม่น่าเชื่อ

"ก่อนหน้านี้ ไอ้เหี้ยนี่ใจดีกับเธอมากเลยไม่ใช่เหรอ ทำไมตอนนี้ถึงขี้เหนียวจังเลยล่ะ เขามีเงินเยอะไม่ใช่หรอ"

ซูชิงอวี่ไม่อธิบายอะไร "เมื่อเขารักเธอเธอก็เหมือนดวงดาว กอดอยู่ยังกลัวเธอหายไป แต่เมื่อไม่รักแล้ว วัชพืชเธอก็เทียบไม่ได้ พอๆอย่าพูดเรื่องเขาเลยนะ ที่เรียกเธอมาก็เพื่อจะช่วยฉันย้ายบ้านนั่นแหละ"

"โอเคเลย หลังจากเรียบร้อยแล้วฉันเลี้ยงข้าว เย็นนี้พวกเราไปกินอาหารดีๆ เถอะ"

ซูชิงอวี่ยิ้มตอบ "โอเค"

ทุกอย่างในบ้าน ลี่ถิงเชินเป็นคนจัดการทั้งหมด ดังนั้นเธอจึงไม่ได้นำอะไรติดตัวไปด้วย เธอบอกว่าเธอกำลังจะย้ายบ้าน จริงๆ แล้ว ก็เก็บของสำคัญบางอย่างของเธอเองเท่านั้น

เมื่อมองที่ภาพถ่ายแต่งงานที่แขวนอยู่บนผนัง เธอยิ้มหวานมากในแต่ละภาพ ลี่ถิงเชินผู้ซึ่งไม่ยิ้มแย้มมาโดยตลอดก็ยิ้มขึ้นในการโอบเอวของเธอ

ฉินโอวโกรธเมื่อเธอมองหน้าผู้ชายเฮงซวยคนนี้ "รูปแต่งงานพวกนี้เธอจะทำยังไง เอาเป็นขยะรีไซเคิลไปขายก็ดีนะ อาจจะซื้อมันเทศเผาสองหัวได้ หรือไม่ก็เผาทิ้งไปเลย

ซูชิงอวี่ส่ายหน้า "ไม่จำเป็น ถ้าหย่ากันแล้วก็คนละครึ่งนั่นแหละ"

ซูชิงอวี่ให้คนรื้อรูปภาพทั้งหมดและตัดส่วนของตัวเองออก แล้วแขวนกลับไปที่ผนังตามเดิม

และสิ่งที่เธอทิ้งไม่ลงเพียงอย่างเดียวก็คือห้องทารกที่ออกแบบด้วยตัวเองและจัดแต่งด้วยลี่ถิงเชิน เธอไม่อยากให้ลูกของไป๋หยวนหยวนพักที่นี่ในอนาคต

ห้องที่อยู่ด้วยซูชิงอวี่มาเป็นรอบปี ซูชิงอวี่ย้ายออกไปแล้ว แต่เธอเอาแค่เตียงทารกออก แล้วให้คนมาถอดของตกแต่งทั้งหมดออก

ร่องรอยที่ใช้เวลาหลายร้อยวันและคืนที่ผ่านมานั้นก็แค่ใช้เวลาทำความสะอาดเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงนี้เอง

เมื่อยืนอยู่ที่ประตูของบ้านหรูหลังนี้ เธอก็นึกถึงความดีใจครั้งแรกที่มาที่นี่ เมื่อก่อนรอยยิ้มของเธอช่างหวานเหลือเกิน แต่ตอนนี้น้ำตาของเธอช่างเค็มเอาเสียมากๆ

ตอนนั้นเธอคงไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า สักวันหนึ่งเธอจะต้องหย่าร้างกับลี่ถิงเชินแบบนี้ได้

เธอมองไปที่ประตูครั้งสุดท้ายราวกับจะบอกลาอดีตของตัวเอง และจากไปอย่างสงบโดยไม่หันกลับมามอง

ซูชิงอวี่เดินมาหาฉินโอว แล้วพูดว่า "เพื่อนโอว พาฉันไปที่ร้านตัดผมหน่อยสิ"

ฉินโอวตบไหล่ของเธอทันที "ได้เลย ทรงผมใหม่ก็เหมือนการเริ่มต้นใหม่ ลืมไอ้เหี้ยคนนั้นไปซะ ฉันจะย้อมทรงผมสีชมพูน่ารักๆ เพื่อนอวี่ล่ะ"

ซูชิงอวี่ไม่ได้คิดมากก็บอกเลยว่า "ฉันอยากตัดผมสั้น"

"เพื่อนอวี่ ถึงแม้ว่าเธอจะสวยมาก ไม่ว่าจะผมยาวและผมสั้นก็ดูดีเหมือนกัน แต่ฉันคิดว่าไม่ควรตัดสั้นเกินไป อาจจะเสียดายขึ้นมาทีหลังก็ได้นะ"

และเธอก็ไม่รู้หรอกว่า การที่ซูชิงอวี่ตัดผมไม่ใช่เพราะอยากดูดี แต่เพียงแค่กลัวว่าผมจะหลุดร่วงมากเกินไปหลังทำคีโมเสียต่างหาก

ซูชิงอวี่ยิ้มเบา ๆ แล้วพูดว่า "ไม่เสียดายเลยหรอก"

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status