[เกวลิน]
บรื้นนน!! ฉันได้ยินเสียงเร่งเครื่องยนต์รถ ตอนนี้ฉัน…อยู่บนรถเหรอ? ทำไมมองอะไรไม่ชัดเลยนะ? ฉันง่วงจัง! “ฮึกๆๆฮือออ!” เสียงร้องไห้ดังมาจากข้างๆฉันเลยนี่ เสียงที่คุ้นหูของผู้หญิง “แม่เหรอ?” ฉันเห็นภาพที่เรือนลางของผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆตัว แม้จะเห็นไม่ชัด แต่ฉันจำเสียงนี้ได้ เสียงของแม่นี่ “ฮึกๆ! เกวลูก! เราไปหาพ่อกันนะลูก ฮือออ” “พ่อเหรอ? แฮ่กๆ! พ่ออยู่ไหนเหรอคะแม่?” ทำไมจู่ๆก็รู้สึกแน่นหน้าอกขึ้นมาได้นะ ฉัน…หายใจไม่ออกเลยสักนิด “ฮึกฮือออ!!” “อึก! มะ…แม่! แฮ่กๆ! แม่~” อาการแน่นหน้าอกมันเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆเลย ลมหายใจฉันมันเริ่มอ่อนแรงลงเรื่อยๆ อีกทั้งฉันเริ่มรู้สึกเหมือนทุกอย่างกำลังจะวูบดับไปเลย ปี๊นนนน!!! และสิ่งสุดท้ายที่ฉันเห็นและได้ยิน ก่อนที่ทุกอย่างมันจะหายไป คือแสงไฟจากหน้ารถบรรทุก และเสียงแตรที่ดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ “เกวลิน! เกวลิน!!” ฉันได้ยินเสียงเรียกที่แว่วดังเข้ามาในหู แต่มันคือเสียงใครกันนะ? อึก! ทำไมทุกอย่างมันถึงมืดไปหมดอย่างนี้ล่ะ? แน่นหน้าอกจัง! ฉันหายใจไม่ออกเลย “เกวลิน!!” พรวด!! และทันทีใดนั้นความรู้สึกแน่นหน้าอก หายใจไม่ออกที่เกิดขึ้นกับฉันเมื่อกี้ก็สลายหายไป รู้สึกเหมือนถูกดึงขึ้นมาจากน้ำ หลังจากที่จมลงไปใต้น้ำลึกเลย “เฮือก! แฮ่กๆๆ!” ฉันหอบหายใจเข้าออกอย่างสุดแรง หลังจากที่หลุดพ้นจากอาการแน่นหน้าอกก่อนหน้านี้ “อยากตายมากรึไงฮ่ะ!? เกวลิน!!” แต่แล้วเสียงที่ดังอยู่ข้างหูช่วยเรียกสติฉันกลับมาได้อย่างดีเลยล่ะ “คุณคิมหันต์!” ฉันมองคนตัวสูงที่อยู่ตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะหันไปสังเกตรอบๆตัวเอง และเริ่มรู้สึกได้ถึงความเย็นที่ครอบคลุมร่างกายของฉันเอาไว้ ตอนนี้ฉัน…กำลังนั่งอยู่ในอ่าง ตัวที่เปียกไปทั้งตัว ทำให้ฉันพอจะรู้ได้ว่าเมื่อกี้ฉัน…คงจะจมลงไปในอ่างทั้งตัวสินะ! “ทำบ้าอะไรของเธอฮ่ะ!? จะดำลงไปในน้ำทำไม!?” “ฉะ…ฉัน…ไม่รู้ว่าฉันเข้ามาอยู่ในนี้ได้ยังไง?” ฉันไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองเข้ามาอยู่ในนี้ได้ยังไง? รู้ตัวอีกทีก็เห็นว่าตัวเองมาโผล่อยู่ในอ่างซะแล้ว “เฮ้อออ! ยัยโง่เอ้ย!” หมับ!! คนตัวสูงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะก้มลงมาอุ้มตัวฉันออกจากอ่าง และเพราะกลัวตกฉันเลยยกแขนขึ้นไปโอบคอเขาเอาไว้อย่างไว เขาพาฉันเดินออกมาจากห้องน้ำ ก่อนจะวางฉันลงบนเตียงในห้อง “เธอไปทำอะไรในนั้น?!” น้ำเสียงที่ฟังดูเหมือนกำลังดุฉันอยู่ถูกเปล่งออกมาจากคนตรงหน้า “ฉัน…” ฉันจำได้ว่าตัวเองร้องไห้อยู่ในห้องนี้ บนเตียงนี้เลย ก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้า แต่จู่ๆก็…ไปโผล่อยู่ในอ่างได้ยังไงก็ไม่รู้เหมือนกัน “ฉัน…จำไม่ได้!” “คิดจะฆ่าตัวตายเพราะโดนฉันจูบแค่นั้นรึไง!? มันไม่สิ้นคิดไปหน่อยเหรอ?” “ฉันไม่ได้คิดจะทำเรื่องบ้าๆแบบนั้นซะหน่อย แต่…” “แต่อะไร?” “แต่ฉันจำไม่ได้ว่าฉันไปโผล่อยู่ในอ่างได้ยังไง!” ฉันพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เพราะความหนาวจากเสื้อผ้าที่เปียกชื้นบนตัว บวกกับเจออากาศหนาวจากแอร์มันก็ยิ่งหนาวจนปากสั่นตัวสั่นเข้าไปใหญ่ “เฮ้อออ! ถอดเสื้อออกซะ!” “อะไรนะ? นี่คุณบ้า…” ทำไมในหัวเขาถึงมีแค่เรื่องน่ารังเกียจแบบนี้นะ พรึ่บ!! คนตรงหน้าไม่รอฟังสิ่งที่ฉันจะพูดให้จบ แต่เขากลับเหวี่ยงโยนของบางอย่างมาให้ฉัน “เปลี่ยนเสื้อซะ!” ของที่เขาโยนมาให้ฉัน คือเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งของเขานั่นเอง เขา…ตั้งใจโยนเสื้อของเขามาให้ฉันเปลี่ยนเหรอ? “ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวมันก็แห้ง!” “กว่าเสื้อเธอจะแห้ง เธอคงได้หนาวตายก่อนล่ะมั้ง! รีบๆเปลี่ยนเสื้อแล้วออกมากินข้าวซะ!” ขวับ!! พูดจบเขาก็เดินหันหลังออกไปจากห้องทันที เฮอะ! เอาแต่ใจตัวเองชะมัด! ไอ้คนใจร้าย! ไอ้คนเห็นแก่ตัว! ฉันเกลียดคุณ!! ฟุ่บ!! ฉันลุกจากเตียงแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำใหม่อีกรอบเพื่อเปลี่ยนเสื้อ “เฮ้อออ!” ฉันถอนหายใจออกมา ทันทีที่ได้มองตัวเองในกระจก ทำไมสภาพฉัน…มันถึงได้น่าสมเพชขนาดนี้นะ ร่างทั้งร่างเปียกปอนเป็นหมาตกน้ำ สิ่งที่มองแล้วน่าเจ็บใจที่สุด ก็คงเป็นรอยที่อยู่บนคอฉันนี่แหละ ทำไมมันไม่จางลงซักทีเลยล่ะ!? ฉัน…ทนมองมันต่อไปแบบนี้ไม่ไหวหรอกนะ ทั้งรอยพวกนี้ และผู้ชายคนนั้น ฉันอยากจะหนีหายจากเขาไปให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย จะเป็นยังไงนะ? ถ้าเมื่อกี้…เขาไม่ช่วยดึงฉันขึ้นมาจากอ่าง ถ้าเป็นแบบนั้น…บางทีฉันอาจจะหนีไปจากเขาไปได้แล้วล่ะ! “แม่เหรอ?” จริงสิ! เกือบลืมเรื่องนี้ไปเลย ตอนที่ฉันจมลงไปในอ่าง ฉันเห็นอะไรบางอย่างผุดขึ้นมาในหัวด้วย มันคือความฝันรึเปล่านะ? แต่ทำไมถึงได้รู้สึกคุ้นๆกับเหตุการณ์นั้นจังเลยล่ะ? รู้สึกเหมือนเคยอยู่ในเหตุการณ์นั้นมาก่อน แต่ก็จำไม่ได้ว่ามันเคยเกิดเหตุการณ์นั้นกับมาก่อนจริงๆมั้ย? เฮ้อออ! สับสนจัง! ทำไมวันนี้ถึงมีเรื่องให้น่าหงุดหงิดได้มากขนาดนี้กันนะ[คิมหันต์]“คุณคิมหันต์!! มาดูนี่เร็ววว~” เสียงของคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ริมทะเลหันมาร้องเรียกผมพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใส“หึๆ” ผมที่ที่กำลังเดินอยู่ก็รีบเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปหาเกวลินโดยทันที พร้อมกับหิ้วไก่ทอดที่ซื้อมาก่อนหน้านี้ติดมือมาด้วย ตามคำสั่งของคนตัวเล็ก“คุณคิมหันต์ พระอาทิตย์ตกสวยมากเลยว่ามั้ยคะ?” พอเดินเข้ามาถึงตัวเกวลินแล้ว เธอก็ยังคงยกยิ้มสดใสออกมาด้วยความสดใส แถมยังกระโดดไปมาดุกดิกด้วยความตื่นเต้นกับวิวพระอาทิตย์ตกริมทะเลตรงหน้าอีกด้วยผมที่ได้เห็นท่าทีของเธอที่น่ารักของเธอ ก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู“ไหนว่าจะกลับห้องไง ทำไมถึงพามาที่นี่ล่ะ?” หลังจากออกมาจากห้างก่อนหน้านี้ ผมตั้งใจว่าจะพาเกวลินกลับไปพักที่ห้องของเธอทันที แต่เธอก็ดื้อดึงอ้อนให้ผมพามาดูพระอาทิตย์ตกที่นี่จนได้ แล้วท่าทีตอนที่เกวลินอ้อนผมมันก็ดันน่ารักซะจนผมปฏิเสธเธอไม่ลงเลยจริงๆ“จะกลับเลยได้ยังไงล่ะคะ วันนี้อุตส่าห์ได้พักทั้งที ต้องออกมาเที่ยวซะหน่อยสิ”หมับ!! เกวลินพูดพร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้ผม ขณะเดียวกันเธอก็ยื่นมือตัวเองมาจับมือที่ว่างอยู่ของผมเอาไว้ ก่อนจะพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมใจสั
[เกวลิน]“แน่ใจนะว่าไม่ต้องไปโรงพยาบาล” คุณคิมหันต์ที่ขับรถอยูข้างๆเอ่ยถามคำถามนีเป็นรอบที่สิบได้แล้วมั้ง? หลังจากที่ฉันดีขึ้นแล้ว คุณริมหันต์ก็จัดการเรื่องลางานกับผู้จัดการให้ฉัน แถมยังอาสาพาฉันกลับห้องอีกด้วย และตั้งแต่ที่ออกมามาจากโรงแรม เขาก็เอาแต่ถามย้ำกับฉันอยู่ได้ว่าไม่เป็นไรแน่นะ? ไม่ต้องโรงพยาบาลแน่นะ? ให้ฉันพาไปโรงพยาบาลมั้ย? ถามย้ำรอบที่สิบได้แล้วมั้งน่ะ“เกวไม่เป็นไรแล้วจริงๆค่า แข็งแรงดี สบายใจหายห่วงได้ค่ะ”“ถ้างั้นกลับห้องไปก็พักผ่อนให้เต็มที่่นะ”“เอ่อ คือว่า…ก่อนกลับห้อง เกวมีที่ที่ต้องไปก่อนน่ะค่ะ” จริงๆวันนี้ฉันต้องไปทำธุระสำคัญอย่างหนึ่ง ตอนแรกฉันตั้งใจว่าจะไปคนเดียวด้วยซ้ำ แต่คุณคิมหันต์ก็ดื้อดึงจะไปส่งฉันให้ได้ ฉันปฏิเสธเขาไม่ได้เลยจริงๆ เลยต้องยอมให้เขามาส่งให้จนได้“ไว้รอหายดีก่อนแล้วค่อยไปวันหลัง วันนี้เธอต้องกลับไปพักก่อน”“ไม่ได้ค่ะ เกวต้องไปทำธุระสำคัญมากๆ ต้องไปวันนี้เท่านั้นค่ะ”“ฉันไม่ให้ไป” คนตัวสูงข้างๆเอ่ยออกมาอย่างเด็ดขาด“คุณคิมหันต์! นี่คุณจะเห็นแก่ตัวเกินไปแล้วนะ ฉันไปแค่แปบเดียว คุณแค่ไปส่งฉันแล้วนั่งรออยู่บนรถก็ได้”“ธุระอะไรจะสำคัญไป
[คิมหันต์]พรึ่บ!! ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ ก่อนที่จะต้องหรี่ตาลงเมื่อแสงที่เล็ดลอดผ่านผ้าม่านสอดส่องเข้ามากระทบกับดวงตา และเมื่อปรับสายตาให้คงที่ได้แล้ว ผมถึงได้รู้ว่าตัวเองยังคงนอนอยู่ใขอบนเตียงในห้องพักของเกวลินเหมือนเดิมเพียงแต่ตอนนี้ที่ข้างๆที่เคยมีเกวลินนอนอยู่ด้วย กลับเหลือไว้เพียงแค่รอยยับที่ว่างเปล่าเท่านั้นเกวลิน…ยัยนั่นทิ้งผมไปอีกแล้วเหรอเนี่ย?ฟุ่บ!! ผมลุกขึ้นมาจากเตียงนอน ก่อนจะเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา แต่เมื่อก้าวเข้าไปในห้องน้ำแล้ว บางสิ่งบางอย่างอยู่ในนั้นกลับทำให้ผมแปลกใจขึ้นมาบนกระจกในห้องน้ำมีกระดาษอยู่สามแผ่นแปะเรียงกันไว้อย่างเป็นแถวเลยล่ะฟึ่บ! ผมเอื้อมมือไปหยิบกระดาษโน้ตแผ่นที่แปะอยู่บนกระจกห้องน้ำมาอ่าน‘เกวต้องออกไปทำงานแต่เช้าเมื่อคืนคุณดูเหนื่อยมากเกวเลยไม่อยากปลุก ขอโทษที่ปล่อยให้อยู่คนเดียวนะคะ’“หึ! ใครกันแน่ที่เหนื่อย” ผมยกยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจทันทีที่ได้อ่านข้อความที่เกวลินทิ้งไว้ให้ฟึ่บ!! จากนี้ก็หยิบกระดาษโน้ตใบที่สองขึ้นมาอ่านต่อ‘คุณอาบน้้ำแปรงฟันก่อนได้นะคะ เกวแขวนเสื้อผ้าที่คุณพอจะใส่ได้ไว้ให้ที่ตู้แล้ว’ผมอดไม่ไ
วันต่อมาณ โรงแรมพาวิลงเลียน“อ้าวเกว” เสียงของรินณ์เอ่ยทักขึ้นทันทีที่รินณ์เดินเข้ามาในห้องพักพนักงาน ซึ่งมีฉันที่นั่งอยู่ก่อนหน้าแล้ววันนี้ฉันตั้งใจออกจากห้องมาแต่เช้า เช้าถึงขนาดที่คุณคิมหันต์ยังไม่ตื่นเลยด้วยซ้ำ “ไงรินณ์”“ทำไมมาเช้าจังอ่ะ วันนี้เกวเข้างานกะบ่ายไม่ใช่เหรอ?”“อ่อ เราแลกเวรกับพี่แอนอ่ะ พอดี…ตอนเย็นเรามีธุระต้องไปทำธน่ะ” ใช่แล้วล่ะ! จริงๆ วันนี้ฉันเข้างานกะบ่าย แต่ช่วงเย็นวันนี้ฉันมีที่ที่ต้องไปน่ะ เลยแลกเวรกับพี่แอนไว้“ไปไหนอ่ะ? หรือว่า…ไปเดทเหรอ?” รินณ์ยิ้มกรุ้มกริ่มพลางเดินเข้ามากระซิบใกล้ฉัน อะไรกัน? ยิ้มแบบนี้หมายความว่าไงเนี่ย?“ดะ เดทอะไรกันเล่า? ไม่ใช่ซะหน่อย” “เอ้า! ไม่ใช่หรอกเหรอ แต่เมื่อคืนเราเห็นน้า ผู้หญิงชุดฟ้าที่เดินควงแขนกับคุณคิมหันต์” รินณ์เข้ามานั่งใกล้ๆ ก่อนจะเขยิบมากระซิบข้างๆหู“นี่รินณ์เห็นด้วยเหรอ?0_0!” ฉันถึงกับเบิกตาโพลงออกมาด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าเมื่อคืนจะมีคนเห็นฉันกันคุณคิมหันต์ด้วย นี่ขนาดแอบย่องออกไปตอนไม่มีคนแล้วน่ะเนี่ย ยังมีคนเห็นอีกเหรอเนี่ย? “อื้ม เมื่อคืนเราอยู่ทำโอทีน่ะ”“นอกจากรินณ์แล้ว…”“ไม่ต้องห่วงหรอก เมื
“อื้มมม~” เสียงครวญครางของเราสองคนดังลั่นไปทั่วทั้งห้องพักของฉัน เพราะรสจูบที่ร้อนแรงเกินกว่าจะต้านทานของกันและกัน เรียวลิ้นที่สอดประสานกันไปมาของเราสองคน มันเต็มไปด้วยความรุ่มร้อน แต่ก็แฝงไปด้วยความปรารถนาที่เหลือล้น ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไร ฉันก็ยิ่งรู้สึกว่าริมฝีปากของคนตัวสูงยิ่งหอมหวานน่าช่วงชิมมากกว่าเดิมขึ้นไปเรื่อยๆหมับ!! ฉันเอื้อมมือออกไปค้วาท้ายทอยของคนตัวสูงเหนือร่างลงมากอดไว้แน่น เพื่อให้เราสองคนแลกเปลี่ยนรสจูบจากกันและกันได้แนบแน่นกันมากยิ่งขึ้น“อื้อออ~” ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียวที่ต้องการสัมผัสจากคุณคิมหันต์ เขาเองก็คงจะรู้สึกเช่นเดียวกันกับฉัน ฉันส่งเสียงครวญครางผ่านลำคอออกมาด้วยความเสียวซ่าน เมื่อคนตัวสูงเลื่อนไล้มือหนาของตัวเอง ลงไปสัมผัสกับกลีบกุหลาบที่ซ่อนตัวอยู่ใต้กางเกงนอนของฉัน ในขณะที่ปากของเขาก็ยังคงดูดเม้ม ช่วงชิมรสหวานจากปากของฉันอย่างไม่ลดละ“อื้อ!!~” ฉันเริ่มจะทนกับความเสียวซ่านที่ถูกกระตุ้นทั้งช่วงบน และช่วงล่างไม่ไหวแล้ว จนต้องส่งเสียงร้องประท้วงผ่านลำคอออกมาเพื่อให้เขาปล่อยส่วนใดส่วนหนึ่งซะที ก่อนที่ฉันจะทนไม่ไหวจนขาดใจตายไปซะก่อน“อึก!
หลังจากที่คุณคิมหันต์บุกเข้ามาหาถึงห้อง แล้วขอนอนค้างด้วย ตอนนี้เขา…กำลังนอนอยู่บนเตียงข้างๆฉันถึงแม้ว่าคุณคิมหันต์จะนอนก่ายหน้าผากอยูข้างฉัน แต่เขากลับไม่เอ่ยปากคุยอะไรกับฉันต่อเลยแม้แต่คำเดียวนี่เขา…กำลังไม่พอใจฉันอยูแน่ๆเลย“คุณคิมหันต์ หลับรึยังคะ?” ฉันรู้ว่าเขายังไม่หลับแน่ๆ“หลับแล้ว” หลับแล้วเขาจะตอบฉันได้ยังไงล่ะ?“คุณ…โกรธเกวเหรอคะ?”“…” สิ้นสุดคำถามของฉัน ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆจากคนข้างๆอีกเลย“เกวขอโทษนะคะ ที่ทิ้งคุณไว้ที่ร้านอาหารคนเดียว”“…” คราวนี้ก็ยังเงียบเหมือนเดิม“เกวแค่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับความจริงน่ะค่ะ”“เกวลิน…”“คะ?”“รู้ใช่มั้ย…ว่าฉันรักเธอ?” คุณคิมหันต์ที่เอาแต่หลับตาในตอนแรก ตอนนี้เขากลับลืมตาหันมามองฉันที่อยู่ใกล้ๆ ด้วยแววตาที่อ่อนโยน“…รู้ค่ะ” ฉันจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเขา พลางเอ่ยคำตอบที่รู้ดีอยู่แก่ใจออกไปอย่างลึกซึ้ง“แล้วเธอล่ะ?” คำถามที่คาดไม่ถึงจากคนตัวสูงตรงหน้า ทำฉันอึ้งจนอ้าปากค้าง ทำไมเขาถึงถามแบบนี้ออกมาได้“รักสิคะ เกวรักคุณมากๆค่ะ”“ถ้างั้น…อย่าทิ้งฉันไปอีกได้มั้ยเกว?” คำถามที่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือของคนตรงหน้า บวกกับ