“ทำไมออกมาเร็ว เจ๊โดนเขาดุมาเหรอ”
ช่วงสายๆของวันในขณะที่พราวลลิลกำลังก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่อย่างขะมักเขม้นเอาเป็นเอาตายเพื่อให้งานเสร็จภายในครึ่งวันเช้า แล้วช่วงบ่ายเธอนั้นจะเหลือเวลาเอาไว้ให้นั่งร่างสัญญาเพื่อแลกกับเงินสองพันและค่าโอทีของเธอ
ใบขณะที่กำลังต่อสู้กับอาการเมาค้างของตัวเองกับงานที่กองท่วมหัว กล้าหาญก็ชิงตัดหน้าเธอเดินเข้าไปส่งงานในส่วนของเขากับเจ๊านายก่อนหน้าเธอ
แต่ทว่าเพียงแค่ไม่ถึงนาทีกล้าหาญก็เดินกลับมานั่งโต๊ะตามเดิมเสียแล้ว ทำเอาเธออดไม่ได้ที่จะถามออกไป
“บอสหลับนะ”
กล้าหาญเอ่ยตอบเบาๆเพราะกลัวว่าน้ำเสียงของเขาจะเล็ดลอดเข้าไปในประตูห้องทำงานของเจ๊านายจนทำให้เจ๊านายตื่น
ดูท่าแล้วเจ๊านายของเขาคงจะเหน็ดเหนื่อยจริงๆถึงได้มานั่งหลับที่ทำงานให้เขาเห็นได้ เพราะตั้งแต่ทำงานด้วยกันมาสิบปีเขายังไม่เคยเห็นเจ๊านายนั่งหลับบนโต๊ะทำงานเลยสักครั้งเดียว
“เขาน่ะเหรอจะหลับ ปกติถ่างตาตี่ๆอ่านเอกสารทั้งวันไม่เคยพัก”
พราวลลิลเถียงกลับคอเป็นเอ็นอย่างไม่เชื่อหูในสิ่งที่เธอนั้นได้ยินมา
“นี่ยัยคนสวย เมื่อคืนแกกวนเวลานอนของบอสหรือเปล่า”
“หนูจะทำอะไรได้ หลับตั้งแต่อยู่บนรถแล้ว”
“เธอแน่ใจเหรอว่าเธอหลับ ไม่ใช่กลับไปอาละวาดเขาที่บ้านล่ะ”
“แน่ใจ เพราะเมื่อเช้าคุณป้ากับคุณลงก็ไม่ได้ว่าอะไรเลย ท่านสองคนก็ดูปกติดี”
“บ้านบอสหลังใหญ่อย่างกับวัง แกกรีดร้องจนสุดเสียงคนในบ้านก็ได้ยินไม่ครบหรอก”
“ยังไงหนูก็หลับ ไม่มีทางทำให้เขาเดือดร้อนแบบนั้นหรอก”
พอย้อนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ในหัวของพราวลลิลก็ไม่มีความทรงจำอะไรอยู่เลย นอกเสียจากความฝันดีๆที่เธอนั้นได้หิ้วหนุ่มหน้าตี๋คนหนึ่งกลับบ้านมานอนกอดด้วยก็เท่านั้นเอง แต่ก็แค่ฝันว่ากอดไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่านั้น แม้จะอยู่ในห้วงฝันเธอก็ยังบริสุทธิ์อยู่เหมือนเดิม
“บอสช่างน่าสงสาร ทำงานก็หนัก เวลานอนก็ยังไม่มีอีก ไม่รู้ว่าจะล้มป่วยหรือเปล่า ถ้าบอสล้มป่วยไปบริษัทคงต้องแย่แน่ๆในสถานการณ์ที่มีแต่การแข่งขันสูงแบบนี้ พนักงานหลายคนก็อาจต้องตกงาน ไอ้ตัวเราก็คงไม่เป็นไรถ้าต้องออกจากงานแต่บางคนน่ะสิมีลูกมีผัวต้องดูแลคงจะลำบากแย่เลย เฮ้อออ”
แต่กล้าหาญกลับไม่เชื่อแม้อีกฝ่ายจะตอบกลับเสียงแข็งอย่างมั่นอกมั่นใจแค่ไหนก็ตาม เพราะคนเมาก็ยังคงเป็นคนเมา ยังไงซะก็ต้องเกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นเจ๊านายของเขาก็คงไม่มีสภาพย่ำแย่แบบนั้น
แล้วเขาก็ชักแม่น้ำทั้งห้ามาดราม่าใส่เธอ หวังให้เธอลุกขึ้นไปรับผิดชอบเจ๊านายของเขา
“เฮ้ออออ เดี๋ยวหนูไปดูเขาเอง พอใจเจ๊หรือยัง”
พราวลลิลทนฟังคำพูดของกะเทยเฒ่าที่แก่ประสบการณ์นั้นไม่ได้เพราะรำคาญ ถึงกับรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ไปเลยทีเดียว
“อืม ก็ค่อยยังชั่วขึ้นมานิดหน่อย”
“ก๊อกๆ”
แล้วก็รีบไปเคาะประตูห้องทำงานของท่านประธานบริษัทโดยที่ไม่ถือวิสาสะเปิดเข้าไปเลย เพราะอีกฝ่ายอาจจะหลับอยู่และคงไม่อยากให้ใครเห็นภาพนั้น ยกเว้นอีเจ๊กัสที่เห็นไปแล้ว
“อืม เข้ามา”
นนท์ธิวรรธน์ที่นอนฟุ๊บอยู่กับโต๊ะทำงานเพื่อพักสายตาตื่นขึ้นตามเสียงเคาะประตูโดยที่เขาไม่รู้เลยว่าใครมาเคาะประตูห้องทำงานของเขาทั้งที่ปกติแล้วเขาจะพอคาดเดาได้บ้าง แต่เพราะความเหนื่อยล้าที่แทบไม่ได้นอนมาทั้งคืนนั้นเล่นงานเขาอย่างหนักจนไม่อาจมีสมาธิจับจ้องสิ่งใดนอกเหนื่อยจากการแอบงีบได้เลย
“คุณไม่สบายหรือเปล่า ทำไมถึงมาหลับกลางวันแบบนี้”
หญิงสาวเดินเข้ามาภายในห้องอย่างระมัดระวังฝีเท้าไม่ก้าวหนักจนเกินไปนัก เมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้วเห็นว่าเจ๊าของห้องทำงานนั้นมีใบหน้ายุ่งเหยิงเหมือนคนเพิ่งจะตื่นนอนตามที่อีเจ๊กัสบอกกล่าวมาจริงๆ
“แค่ง่วงนิดหน่อย งานเสร็จแล้วเหรอ”
เขาไม่รู้ว่าเธอเข้ามาภายในห้องทำงานของเขาทำไม ก็เลยคาดเดาไปว่าเธออาจมาเพราะเรื่องงานก็เป็นได้
“ยังไม่เสร็จ คุณสั่งงานเอาไว้ตั้งเยอะก็ต้องรอหน่อยสิ”
“อืม”
แต่แล้วก็ไม่ใช่เรื่องงาน และเขาก็ไม่อาจเดาได้เลยว่าเธอเข้ามาด้วยเรื่องอะไรอีก
“ดูคุณไม่สดชื่นเลย ฉันไปชงกาแฟให้เอาไหม”
พราวลลิลเอ่ยอย่างเป็นห่วงเขาเมื่อเห็นว่าเขาดูมีสีหน้าที่ไม่ค่อยจะดีนัก และนั้นอาจมีสาเหตุมาจากการเมาของเธอก็เป็นได้ เธออาจร้องโวยวายเสียงดังในห้องนอนจนเขานอนไม่หลับ
“อืม ก็ดี”
เขาดื่มกาแฟจากที่บ้านมาแล้วแก้วหนึ่งแต่เห็นที่คงฉุดรั้งความง่วงเอาไว้ไม่ได้ ก็คงต้องดื่มเป็นแก้วที่สอง ทุกอย่างมันอาจจะดีขึ้นมาก็ได้
“ถ้างั้นรอแป๊บหนึ่งนะคะบอส”
พราวลลิลรับออเดอร์เรียบร้อยแล้วก็รีบออกจากห้องทำงานนั้นไป จัดการชงกาแฟให้เขาในทันที
“เฮ้ออ ถ้าเธอไม่ทำฉันเอาไว้อย่างเจ็บแสบเมื่อคืน เช้าวันนี้ของเธอก็คงดีกว่านี้”
นนท์ธิวรรธน์บ่นพึมพำกับตัวเองเมื่อรู้สึกผิดเล็กๆกับเรื่องที่เขานั้นหักเงินเดือนของเธอเพียงเพราะไม่พอใจที่เธอเมาแล้วก็มายั่วเขาอย่างไม่รู้กาลเทศะแบบนั้น ไม่รู้หรือไงว่าผู้ชายวัยหนุ่มอย่างเขาพอถูกยั่วยุเข้าหน่อยแล้วมันเป็นยังไง
“กาแฟค่ะ และนี่ก็มะนาวฝานบางๆโรยน้ำพริกเกลือสูตรเด็ดเรียกความสดชื่น”
พราวลลิลเดินออกจากห้องทำงานไปไม่นานก็กลับมาพร้อมกับกาแฟและก็เมนูเรียกความสดชื่นสไตล์สาวสวยอย่างเธอที่นิยมชมชอบการกินอาหารรสแซ่บ
“อืม ขอบใจ”
เขารับทั้งกาแฟและก็เมนูน่าตื่นตาตื่นใจของเธอเอาไว้ แต่คงกินแค่กาแฟ มะนาวของเธอนั้นเขาคงไม่ได้กิน เพราะไม่นิยมกินของเปรี้ยว
“คุณต้องการอะไรอีกไหม”
“ไม่แล้วล่ะ เธอออกไปทำงานต่อเถอะ”
“ถ้าไม่ไหวก็กลับไปนอนพักได้นะ เดี๋ยวทางนี้ฉันกับคุณกล้าช่วยดูแลให้”
ไม่รู้ว่ากาแฟของเธอจะช่วยเขาได้ไหมเพราะเขาดูจะไม่สดชื่นเอาซะเลย แต่เธอก็ยินดีเสนอตัวเขาช่วยเขานะ เพราะตลอดระยะเกือบจะหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเธอเรียนรู้งานเอาไว้ได้มากแล้ว ถ้าจะให้ทำงานแทนเขาสักครึ่งวันโดยมีผู้ช่วยของเขาเข้ามาช่วยด้วย เธอคิดว่าทำได้อย่างแน่นอน
“ฉันไหว”
เขาพยักหน้าเล็กน้อยให้เธอรับรู้ว่าเขาไหว ยังไม่พร้อมให้เธอมายึดตำแหน่งในตอนนี้หรอก อีกอย่างเขาก็แค่ง่วงนอนไม่ได้เจ็บป่วยหนักถึงขึ้นต้องกลับไปพักหรอก
เธอดูจะห่วงเขามากสินะ ราวกับว่าตอนนี้เขาได้ป่วยติดเตียงไปแล้วเรียบร้อย
“อืม ถ้างั้นฉันไปนะ”
พราวลลิลยืนมองเขาดื่มกาแฟสักพักก็ออกไป เธอไม่ได้เบาใจลงเลยเมื่อสีหน้าของเขานั้นยังดูไม่ดีขึ้น แต่ทว่าเห็นเขาพอจะกินอะไรลงไปได้ก็นับว่ายังไม่น็อกตายไปง่ายๆ
“เฮ้อ ฉันคงลงโทษเธอไม่ลงสินะ”
“คุณกล้า ยกเลิกเรื่องเมื่อเช้าอย่างเงียบๆด้วย”
นนท์ธิวรรธน์หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรหาลูกน้องคนสนิทที่นั่งอยู่ด้านหน้าห้อง แล้วก็ยกเลิกคำสั่งของตัวเองที่สั่งออกไปเมื่อเช้านี้ เมื่อคนทำผิดนั้นดูจะสำนึกผิดเพียงพอแล้ว อีกอย่างเงินเดือนของเธอก็ไม่ได้มากอะไรขืนหักออกไปเธอก็คงไม่พอใจ และก็หนีไม่พ้นต้องมาของเขาใช้แน่ๆ สู้ให้เธอไปเต็มจำนวนจะดีกว่า
“จะร่างสัญญาว่ายังไงดีนะ อีเจ๊กัสเคยร่างสัญญายอมเลิกเหล้าไหม”
พราวลลิลนั่งก้มหน้าก้มตาพิมพ์สัญญาของเธอตั้งแต่บ่ายอ่อนๆจนป่านนี้บ่ายแก่ๆแล้ว เธอก็ยังพิมพ์ไม่ได้สักคำเดียว เมื่อในหัวมันคิดอะไรไม่ออก ไม่เคยมาก่อนที่จะมาคิดว่าจะเลิกเหล้าเพราะเธอเป็นสาวสังคมชื่นชอบงานปาร์ตี้เป็นชีวิตจิตใจ
จนปัญญาจนต้องหันไปถามคนที่นั่งทำงานอยู่ข้างๆ เพื่อหาทางออกและเพื่อให้สัญญาเสร็จทันก่อนเลิกงาน
“ไม่เคย เพราะฉันไม่ได้เมาจนหลับพับไปกลางอากาศได้แบบนั้น”
“ถ้างั้นก็ช่วยคิดหน่อยสิ”
“เธอคออ่อนแต่ไม่ยอมรับขืนดันทุรังดื่มเข้าไปตั้งสามแก้ว ก็สมควรแล้วล่ะที่จะต้องรับผิดชอบตัวเอง สู้ๆนะยัยคนสวย”
นอกจากเขาจะไม่ช่วยเธอคิดแล้ว เขายังดุเธอเข้าให้อีกด้วย เมื่อเขาเกือบจะซวยเพราะคำโกหกของเธอ นี่ถ้าเธอเมามากจนเป็นอะไรไปป่านนี้เขาคงโดนไล่ออกจากงานไปแล้ว
โดนลงโทษมาแบบนี้ เขาไม่มีทางช่วยเธอเป็นอันขาด ตัวใครตัวมันก็แล้วกัน
“เจ๊กัส”
“เงียบเหอะ ฉันต้องการสมาธิในการทำงาน”
“หึ๋ย”
นึกโมโหกะเทยเฒ่าตรงหน้านักแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เลยหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดหาข้อมูล
ไถไปไถมาก็วนเข้าไปเปิดรูปของตัวเองดู หวังหาไอเดียวหรือความคิดถึงจากครอบครัวที่ไม่ติดต่อเธอกลับมาเลยภายในนั้น
“ตายห่า”
แล้วเธอก็แทบสิ้นสติตั้งแต่เปิดดูรูปแรก รูปนั้นเธอกำลังหอมแก้มของชายหนุ่มที่ชื่อนนท์ธิวรรธน์
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด”
ร่างเล็กมุดลงไปนั่งใต้โต๊ะทำงานของตัวเอง กรีดร้องออกมาอย่างสุดเสียงด้วยความตกใจ
“เป็นอะไรยัยคนสวย งูกัดจิ๊หรือไงถึงได้อยู่ดีๆก็กรี๊ดออกมา”
กล้าหาญที่นั่งทำงานอยู่ใกล้ๆได้ยินเขาก็รีบก้มหน้าลงไปดูด้วยความเป็นห่วง อยู่ดีๆชะนีเด็กก็ร้องออกมาเหมือนโดนอะไรกัด
“ไม่มีอะไรทั้งนั้น”
“แล้วแกลงไปทำอะไรใต้โต๊ะนั้นอ่ะ”
“หาของ”
“หาอะไร อะไรหายงั้นเหรอ”
“ปากกาหาย”
“ปากกาหายกับผีอะไรล่ะ มันอยู่บนโต๊ะนั้นไง”
“หนูขอไปห้องน้ำก่อนนะ”
โกหกอะไรก็ดูเหมือนจะไม่ได้ผล ก็เลยหาเรื่องหลบหน้าทุกคนไปก่อน เพราะเธอก็ไม่พร้อมพูดเรื่องนี้กับใครเหมือนกัน อีกอย่างจะให้ใครรู้ไม่ได้ว่าเธอเป็นฝ่ายหอมแก้มผู้ชายแบบนั้น
“เอ่อๆ จะไปไหนก็ไป”
“เป็นคนสวยแล้วต้องติ๊งต๊องขนาดนี้ ฉันขอเป็นกะเทยต่อดีกว่า เฮ้อ”
กล้าหาญปล่อยให้ยัยคนสวยเดินไปห้องน้ำโดยไม่เข้าไปก้าวก่ายอะไรเพราะอีกฝ่ายคงมีเรื่องส่วนตัวจริงๆถึงไม่ยอมปริปากบอก หรือไม่ก็คงมีเรื่องไม่เป็นเรื่องถึงได้ไม่กล้าพูดออกมา
แต่ก็ช่างเถอะเพราะคงไม่ได้เดือดร้อนอะไร เพราะไม่อย่างนั้นพราวลลิลก็คงพูดออกมาแล้ว
หรือว่าจะเมาจนติ๊งต๊องไปแล้วก็ไม่รู้ เพราะเหล้าเมื่อคืนมันก็แรงอยู่เหมือนกัน
“พี่นนท์คะ”เสียงหวานเอ่ยเรียกสามีของเธอที่นั่งรออยู่บนเตียงนอนอย่างเย้ายวนพร้อมกับค่อยๆเดินอย่างเชื่องช้าออกมาจากภายในห้องแต่งตัว ด้วยชุดนอนแบบที่เรียกได้ว่าใส่แล้วคงไม่ได้นอน เป็นผ้าลื่นๆมันๆตัดขอบด้วยผ้าลูกไม้สีดำทั้งชุดร่างบางที่ตุ้ยนุ้ยขึ้นพร้อมกับท้องโตๆที่ใกล้คลอดเต็มแก่แล้วนั่งลงบนตักใหญ่ของสามีอย่างจงใจยั่วยวนเขาแม้ใกล้คลอดเต็มทนไม่ควรจะมาทำอะไรแบบนี้กัน แต่ทว่าบรรยากาศมันก็พาไปทำให้เธออดใจเอาไว้ไม่ไหวจริงๆอีกอย่างการอยู่ใกล้ท่านประธานที่หล่อเหลากว่าหนุ่มโฮสเป็นไหนๆแบบนี้ ใครล่ะจะไปอดใจถือศีลไหวกัน“หืม นมหวาน”นนท์ธิวรรธน์วางมือหนาบนท้องโตๆของเมียคนสวยแล้วลูบวนเบาๆอย่างอดใจต่อไปไม่ไหว ก่อนจะขยับปลายมือมาบีบขย้ำไปตามอกอวบของเธอที่มันใหญ่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจากการเตรียมตัวเป็นแม่คนไม่คาดคิดเลยว่าของขวัญวันเกิดในปีนี้ที่ได้เมียมานั้นจะแสนถูกใจเสียจนห้ามใจเอาไว้ไม่ไหวเลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตั้งใจเป็นพ่อที่ดีไม่ไปเร่งรัดให้ลูกน้องคลอดออกมาก่อนกำหนด“แบบนี้พอจะเป็นของขวัญของพี่นนท์ได้ไหมคะ”พราวลลิลเอนกายซบพิงไปกับร่างกำยำของผู้เป็นสามีพร้อมกับเปิดชายของชุดนอนขึ้นมาเล็กน้อยให้พ
ชีวิตหลังแต่งงานของนนท์ธิวรรธน์ไม่ต่างอะไรจากชีวิตก่อนแต่งงานเลยสักนิดเดียว เขายังคงทำตัวเหมือนเดิม เหมือนเมื่อตอนที่มีเธอเดินเข้ามาในชีวิตวันแรกไม่มีเปลี่ยนไปเลยเขาตื่นแต่เช้าออกไปทำงานทุกวัน บางวันก็พาเมียไปทำงานด้วย บางวันก็ไม่ได้พาเธอไปด้วยอย่างเช่นตอนนี้เพราะเธอนั้นท้องแก่ใกล้คลอดเต็มทนแล้ว เขาก็เลยให้เธอพักอยู่บ้านซะมากกว่า จะมีพาไปบ้างก็แค่บางวันที่เธอดูจะเบื่อการอยู่บ้านเท่านั้นและเขาก็จะรีบกลับจากที่ทำงานเพื่อมาที่บ้านในทันทีหลังจากที่เลิกงาน ไม่เคยแวะข้างทางที่ไหนเพื่อจะมาหาเมียให้เร็วที่สุด หรือถ้ามีเธอไปด้วยเขาก็รีบกลับบ้านอยู่ดีถ้าเธออยากกลับหรือพาเธอออกไปใช้ชีวิตหลังเลิกงานด้วยกันบ้างถ้าเธออยากไปและในวันนี้เขาก็เลิกงานค่อนข้างดึกพอสมควรเพราะอาทิตย์หน้าเจ้าตัวน้อยในท้องเมียน่าจะลืมตาดูโลกแล้วตามที่หมอคาดการณ์เอาไว้ เขาก็เลยคิดว่าน่าจะต้องลางานอีกหลายวันเลยละก็เลยเริ่มที่จะเคลียร์งานออกไปบ้างแล้ว แล้วก็รีบกลับบ้านมาหาเมียในทันที“ทำอะไรอยู่ครับ”ร่างสูงรีบเดินขึ้นมายังห้องนอนที่เมียขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้วหลังจากที่เขานั้นให้เธอกินมื้อเย็นล่วงหน้าไปก่อนไม่ต้องรอเขาด้วยวันน
“วันนี้นมหวานสวยจังเลย”เสียงของนนท์ธิวรรธน์เอ่ยชมเมียคนสวยของเขาไม่ขาดปากในขณะที่กำลังเริ่มแต่งหน้าสำหรับงานเลี้ยงในรอบเย็น หลังจากที่เมื่อเช้านั้นเพิ่งจะจัดงานแต่งกันแบบไทยๆกันไปเมื่อในสายตาของเขานั้นเห็นว่าเมียสวยอยู่ตลอดเวลา เห็นแบบนี้มาตั้งแต่เจอหน้าเธอครั้งแรกก็ว่าได้“สวยตรงไหน สิวเม็ดเท่าช้างอยู่บนหน้าเนี้ยนะ”คนสวยตอบกลับด้วยความจริงเมื่อฮอร์โมนของคนท้องทำให้สิวหัวช้างขึ้นหน้าเธอตรงกลางหน้าผากพอดิบพอดีหัวสิวนั้นใหญ่เสียจนแต่งหน้ากลบยังไม่มิดเลย จะมีความสวยที่ไหนกันได้ล่ะ“สวยทุกตรงนั้นแหละ และก็สวยทุกวันเลยด้วย”ท่านประธานหนุ่มก็ยังคงไม่เลิกที่จะเอ่ยชมเมียตัวเล็กตัวน้อยของเขาที่สวยที่สุดสำหรับเขาอยู่ดี“หน้าก็ยังไม่ได้แต่ง ชุดก็ยังไม่ได้ใส่เนี้ยนะ”ถึงเขานั้นจะมองข้ามเรื่องสิวไปได้ก็ต้องเห็นเรื่องแต่งหน้าทำผมใส่ชุดของเธอบ้างแหละ ไม่ใช่มาหลับหูหลับตาชมเธอจนช่างแต่งหน้าอายแทนได้แบบนี้“เจ้าบ่าวออกไปรออีกห้องได้แล้วจ้ะ”นนท์ธิวรรธน์ยังไม่ทันได้เอ่ยชมเมียอีกสักรอบก็ถูกขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงของแม่เขาที่เปิดประตูเข้ามาพอดี“ครับคุณแม่”และนั้นทำให้นนท์ธิวรรธน์ต้องรีบออกจากห้องแต่ง
“วันนี้งานที่บริษัทเป็นยังไงบ้างคะ เหนื่อยหรือเปล่า”เสียงหวานๆเอ่ยทักทายผู้เป็นสามีพร้อมกับเดินเข้าไปหาเพื่อช่วยเขาถอดเสื้อสูทออกจากตัวหลังจากที่เขาเพิ่งจะกลับมาจากทำงานทำหน้าที่ภรรยาเป็นอย่างดีแต่ช่วงนี้ไม่ได้ไปทำหน้าที่เลขาเลย ด้วยเธอนั้นยังคงมีอาการแพ้ท้องอยู่ ท่านประธานก็เลยเป็นห่วงกลัวว่าเธอจะเป็นอะไรมากไปกว่านี้ก็เลยสั่งหยุดงานเธออย่างไม่มีกำหนดไปก่อนเธอก็เลยทำได้แค่ส่งเขาออกไปทำงานในตอนเช้า และก็รอรับเขากลับเข้าบ้านในตอนเย็นเท่านั้น“อืม ก็นิดหน่อย”นนท์ธิวรรธน์เอ่ยตอบไปตามความจริงพร้อมกับหอมแก้มเมียไปอีกฟอดใหญ่เพื่อเติมเมียเข้าปอดให้ได้ชื่นใจ หลังจากที่เขาต้องนั่งทำงานอย่างเคร่งเครียดมาทั้งวัน“ปวดหัวไหมคะ ให้หนูนวดให้ไหม”พราวลลิลขันอาสาเป็นหมอนวดให้เขาอีกครั้งเมื่ออาการแพ้ท้องของเธอนั้นเริ่มดีขึ้นมากแล้ว และก็อยากจะช่วยเขาแบ่งเบาความเครียดหลังเลิกงานด้วย“ก็ดีเหมือนกันนะ”ท่านประธานรีบประคองเมียให้เดินไปที่โซฟาในทันที ให้เธอนั่งลงอย่างนุ่มนวลภายใต้การคอยมองของเขา ก่อนที่เขาจะลงนอนหนุนตักเธอรีบหลับตาพริ้มในทันทีเพื่อรอมือเล็กๆของเธอนั้นมากดนวดให้ตามจุดต่างๆที่มักรู้สึกปวด
“เป็นอะไรไป ทำไมวันนี้ตื่นสายจัง”หลังจากที่เมื่อวานครอบครัวของเขาและก็ของเธอนั้นได้รวมตัวกันกินข้าวมื้อใหญ่เพื่อประกาศข่าวดีกันที่บ้านของคุณยายเธอ เขากับเธอก็กลับมานอนกันที่บ้านตามปกติด้วยตอนเช้านั้นเขามีประชุมต้องเดินทางออกจากบ้านแต่เช้า ก็เลยไม่ได้อยู่ค้างกันที่นู่นแต่พอในเช้าวันใหม่นี้ก็มีอะไรแปลกๆเกิดขึ้น เมื่อคนตัวเล็กที่มักตื่นนอนพร้อมกับเขาหรือบางทีก็ตื่นก่อนเขา วันนี้กลับไม่เหมือนวันอื่นๆเขานั้นอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอจะเพิ่งตื่นขึ้นมา แถมสีหน้ายังไม่สดชื่นอีกตั้งหาก“สงสัยเมื่อวานหนูจะกินขาหมูมากเกินไป เช้านี้ก็เลยไขมันขึ้น”พราวลลิลมีอาการพะอืดพะอมตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาเลยก็ว่าได้ และก็เวียนหัวจนแทบไม่อยากลุกจากที่นอนเลยล่ะเป็นอาการไม่สบายที่ทำให้นึกถึงคุณยายเป็นอย่างมากในเวลาที่ไขมันท่านขึ้นสูงจนต้องพาไปพบหมออยู่บ่อยๆ“อาการมันเป็นยังไง ทำไมถึงรู้ว่าตัวเองไม่สบายแบบนั้นล่ะ”มือหนาๆวางลงบนศีรษะเล็กอย่างอ่อนโยนก่อนจะลูบเบาๆด้วยความเป็นห่วง “ก็หนูเวียนหัวเหมือนคุณยายเวลาที่ไขมันท่านขึ้นสูง”“พี่ว่าไม่น่าจะใช่นะ”อาการของเธอไม่น่าจะใช้ไขมันขึ้นสูงแบบที่เธอกำลังค
“เป็นอะไรไป”เสียงหนาเอ่ยถามอย่างอบอุ่นเช่นเคยในเช้าวันหยุดที่เขากับเธอยังคงนอนเล่นกันอยู่บนเตียงไม่ได้รีบร้อนลุกไปทำงานเหมือนทุกวันเมื่อเขาเห็นว่าเธอดูจะหงอยเหงาผิดปกติไปจากเช้าวันอื่นๆที่ถึงแม้รีบเร่งไปทำงานก็ยังดูสดชื่นกว่าวันนี้เป็นเท่าตัวอาการเหล่านี้มันออกหลังจากที่เธอนั้นหยิบเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูแจ้งเตือนบางอย่างที่ส่งเสียงร้องอยู่สักพัก ก่อนจะวางมือถือนั่งลงแล้วก็ถอดถอนหายใจยาวออกมาเขาไม่รู้ว่ามันคือเรื่องอะไรแต่มันคงไม่ดีสักเท่าไหร่ ไม่อย่างนั้นพราวลลิลที่เปรียบเสมอความสดใสนั้นคงไม่ดูหม่นหมองถึงเพียงนี้“เปล่า”มือเล็กๆยกขึ้นปาดน้ำตาที่หางตาเบาๆไม่ให้คนที่นอนอยู่ข้างๆรับรู้เรื่องราวของเธอไปด้วย ก่อนหน้านี้เธอเคยตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ แต่พอมาถึงวันนี้ในระยะเพียงสั้นๆเท่านั้นเธอกลับเสียใจตั้งแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจให้เด็ดเดี่ยวเลยด้วยซ้ำไป“ไม่เป็นอะไรแล้วร้องไห้ทำไมคะ”ท่าทางของเธอไม่ได้โจ่งแจ้งสักเท่าไหร่แต่ทว่าเขานั้นอยู่ใกล้เธอมากจนไม่อาจมองข้ามไปได้ถึงแม้ว่าเธอจะนอนหันหลังให้เขาอยู่ก็ตาม เขาก็ยังรับรู้ได้อยู่ดี“ฮืออออ”พราวลลิลก็ปล่อยเสียงร้องไห้