เขาคือเจ้าของม้าจอมพยศอย่างเธอ งัดทุกกลเม็ดที่มีอยู่มาเพื่อปราบเธอ ทุ่มสุดตัวสุดกำลังแค่หวังให้เป็นผู้ชนะ นนท์ นนท์ธิวรรธน์ ประธานหนุ่มไฟแรง งานก็ต้องทำ เลขาก็ต้องมี เมียก็ต้องเอา ลูกก็ต้องผลิต ผู้เป็นแม่จึงควานหาผู้หญิงที่เหมาะสมทุกตำแหน่งภายในคนเดียวมาเสิร์ฟให้ถึงเตียงนอน หนมหวาน พราวลลิล หญิงสาวสวยและฉลาดตรงตามตำราโบราณที่ว่าเอาไว้ เหมาะจะเป็นทั้งเลขา เมีย และแม่ของลูก แต่มันไม่ง่ายเลยที่จะปราบพยศคนอย่างเธอ เพราะเธอไม่ได้เต็มใจมา แต่เธอกลับถูกทุบหัวแล้วลากเข้าถ้ำที่มีเสืออย่างเขาเป็นเจ้าของ นนท์ นนท์ธิวรรธน์ พ่อหนุ่มนักธุรกิจ เนื้อหอมและขาว ไฟแรงพร้อมเสน่ห์ก็แรงไม่แพ้กัน วันๆทำแต่งาน เรื่องหาเมียไม่เคยมีในหัวมาก่อน พ่อหนุ่มขายาวสูง 189 ซม วัยกำลังตกมันส์ 35 ขวบ หนมหวาน พราวลลิล หญิงสาวสวยที่กำลังมีความสุขกับชีวิตโสด ทำงานวันละแค่นิดหน่อยด้วยการช่วยพ่อกับแม่ทำธุรกิจส่วนตำเพื่อแลกกับค่าขนม มักถูกจับคู่กับคนโน้นคนนี้จากครอบครัวของเธอ หุ่นนางแบบแต่สูงไม่มากแค่ 165 ซม อายุ 25 ขวบ
View More“แม่กับพ่อปรึกษากันแล้วว่าจะช่วยลูกหาเมียสักคน”
เสียงแหลมเล็กที่ปลายเสียงมีความหวานปนความดุผสมอยู่ด้วยเอ่ยดังมาแต่ไกลเพื่อพูดคุยกับลูกชายเพียงคนเดียวของเธอ ไม่นับรวมลูกสาวอีกคนที่ใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศตั้งแต่ไปเรียนไฮสคูลจนป่านนี้จบปริญญาโทแล้วยังไม่ยอมกลับบ้านเลย
“อือฮึ”
นนท์ธิวรรธน์ที่กำลังนั่งรับลมหนาวอยู่ตรงริมระเบียงบ้านที่ติดกับสวนหย่อมของบ้าน ลมหนาวที่นานๆ จะพัดผ่านมาให้ได้เย็นชื่นใจแค่ปีละครั้งและครั้งละไม่กี่วัน สะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ
เขากำลังเพลิดเพลินกับธรรมชาติที่นานๆ จะได้พบเจอ และนานๆ จะได้มีเวลาเพลิดเพลินกับมัน แต่ก็ต้องถูกขัดจังหวะเข้าอีกจนได้
ใบหน้าหล่อเหลาที่ถูกผสมผสานจากดีเด่นของทั้งพ่อและแม่อย่างลงตัว เปลี่ยนจากผ่อนคลายเป็นดูหงุดหงิดขึ้นมาทันตาเห็น
“และแม่คิดว่า ผู้หญิงคนนี้ควรจะมาเป็นเลขาของลูกได้ด้วย เพราะแม่ไม่สบายใจถ้าลูกจะมีเลขากับเมียเป็นผู้หญิงคนละคนกัน แม่กลัวว่ามันจะมีผู้หญิงหน้าด้านมาแทรกแซงครอบครัวของลูกได้ ต้องกันเอาไว้ก่อนประเดี๋ยวมีเรื่องขึ้นมาแล้วจะแก้ไขลำบาก”
พร้อมกันนั้นคนเป็นแม่ก็คิดเรื่องนี้เอาไว้อย่างรอบคอบเอาไว้แล้วด้วย เพื่อกันไม่ให้มีปัญหามือที่สามให้ว่าที่ลูกสะใภ้ในอนาคตของเธอต้องมาลำบากใจภายหลัง
ส่วนเรื่องเลี้ยงหลานในอนาคตก็ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะเธอในฐานะแม่ยายจะจัดการเรื่องนี้เอง และก็จ้างพี่เลี้ยงมาช่วยเพราะเธอถนัดใช้เงินแก้ปัญญาอยู่แล้ว ขอให้ลูกได้แม่พันธุ์ที่ดีมาก็พอ
“เรื่องนั้นมันยังไม่จำเป็นหรอกครับ เอาไว้ก่อนเถอะครับคุณแม่”
นนท์ธิวรรธน์ที่ไม่พร้อมมีเมียปฏิเสธเสียงแข็งออกไป ไม่สนว่าคนที่กำลังพูดอยู่นั้นจะเป็นแม่แท้ๆ ของเขา
เขาอยากใช้ชีวิตโสดต่อไปเรื่อยๆ แบบนี้อย่างมีความสุข มุ่งเน้นทำแต่งานที่จะสร้างฐานะให้มั่นคง รอไปจนกว่าเขาจะเจอคนที่ถูกใจและคิดจะแต่งงานด้วยตัวเอง
เรื่องนี้เขาไม่รีบร้อน ค่อยๆ เลือกหา ค่อยเป็นค่อยไป เพราะเธอผู้นั้นจะต้องแต่งงานอยู่กับเขาไปชั่วชีวิต
จะไปคว้าเอาใครมามั่วซั่วก็คงไม่ได้ คงได้เสียชื่อชายหนุ่มที่ครองโสดมานานหรือแทบจะไม่มีแฟนเลยอย่างเขาเป็นแน่แท้
“จำเป็นสิ ทำไมจะไม่จำเป็นล่ะ ปีนี้ลูกอายุปาเข้าไปสามสิบห้าย่างสามสิบหกแล้วนะ ไม่มีลูกปีนี้หรือปีหน้า แม่เกรงว่าพ่อกับแม่จะอยู่รอดูหน้าหลานไม่ไหว อีกอย่างกว่าหลานแม่จะโตลูกไม่อายุหกสิบเลยเหรอ ถึงเวลานั้นจะวิ่งเล่นกับลูกไม่ไหวเอานะตานนท์”
“ถ้าคุณแม่อยากมีก็ไปจ้างใครอุ้มบุญสักคนสิครับ ผมจะรีดน้ำเชื้อให้”
“นนท์ เบาหน่อยไหมลูก”
นวัตรผู้เป็นพ่อที่กำลังนั่งอ่านหนังสือชีวประวัติคนดังของต่างประเทศอยู่ตรงไกลๆ จากสถานที่ที่แม่กับลูกกำลังสนทนากันอยู่ ส่งเสียงดุๆ ผ่านแรงลมหนาวมาห้ามปรามลูกชาย
เขาไม่ได้เอ่ยอย่างเข้าข้างใครใดคนหนึ่ง เพราะบ้านนี้ก็มีกันแค่สามคน ลูกสาวคนเล็กก็ยังไม่ได้เดินทางกลับมาอยู่ด้วย เขาก็จะต้องวางตัวเป็นกลางเอาไว้
แต่ที่ดุออกไปนั้นก็เพื่อให้ลูกชายพูดจานิ่มนวลกับคนเป็นแม่สักนิด เพราะนั้นก็คือแม่ถึงแม้จะเจ้ากี้เจ้าการมากไปนิดจนเขาเองที่เป็นสามียังมีนึกรำคาญออกไปบ้างก็ตาม
“สรุปว่าผมยังไม่อยากมี ไม่อยากมีก็คือไม่อยากมี และเราจะไม่คุยเรื่องนี้กันอีกแล้วนะครับคุณแม่ ถือว่าผมขอล่ะ”
ร่างหนาลุกพรวดจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่อย่างสบายก่อนหน้านี้ด้วยอาการหงุดหงิดที่ไม่อาจปิดบังได้ แล้วเดินหนีขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านเพื่อหลบหน้าคนเป็นแม่เข้าไปอยู่ภายในห้องนอนส่วนตัว
“นนท์ นี่แม่เองนะลูก คุยกันก่อนสิ”
“ผมมีนัด แล้วเย็นนี้ก็ไม่ต้องรอกินข้าวนะครับผมจะไปนอนที่คอนโด”
แต่แค่การหลบหน้าไปสักพักคงไม่พอสำหรับแม่ของเขาที่มักจะคิดทำอะไรก็จะทำให้สำเร็จให้จงได้ เขาก็เลยจำต้องออกจากบ้านไปให้เร็วที่สุดและหายหน้าไปสักวันในช่วงวันหยุดงานนี้ เพื่อระงับความคิดที่มันฟุ้งซ่านของแม่เขา
“ดื้อเหมือนคุณไม่มีผิด ทำไมลูกไม่ได้ความหัวอ่อนจะฉันไปเลย ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ”
ลูกชายเดินหนีหน้าไปแล้ว คุณหญิงวรรณวิภาหรือคุณหญิงภาที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในแวดวงสังคมไฮโซก็หันไปแหวใส่สามีที่นั่งอยู่ไกลๆ ตรงนู้น
ที่ลูกชายไม่ได้ดั่งใจเธอ ชอบขัดใจเธออยู่เรื่อยๆ ก็เพราะหัวแข็งเหมือนคนเป็นพ่อนั่นแหละ ทำให้เธอที่เป็นแม่ที่ป้อนนมจากอกให้ได้กินพูดอะไรไม่เคยจะเชื่อฟังกันเลยสักนิด
“เอาไว้ค่อยๆ พูดกับลูกใหม่ก็ได้ อย่าเพิ่งไปเร่งรัด ลูกเราไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะจะบังคับอะไรแบบนั้นก็ยากหน่อย”
“เอาไว้วันหลังก็ได้ค่ะ ยังไงฉันก็ต้องมีลูกสะใภ้ให้ได้”
เป็นเหตุที่จะต้องทะเลาะกันทุกครั้งเมื่อมีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ ด้วยพ่อกับแม่ก็อายุมากโขด้วยกันทั้งคู่แล้ว ก็เกรงกลัวเหลือเกินว่าถ้าปล่อยให้ลูกหาเมียเองไม่รู้อีกกี่ปีจะได้เลี้ยงหลานหรืออาจตายไปก่อน ไอ้เจ้าลูกชายตัวดีก็ไม่เคยพอใจใครเลยสักคน วันๆ ทำแต่งานไม่มีวีไม่มีแววว่าจะหาเมียเข้าบ้านได้เลย
“พี่นนท์คะ”เสียงหวานเอ่ยเรียกสามีของเธอที่นั่งรออยู่บนเตียงนอนอย่างเย้ายวนพร้อมกับค่อยๆเดินอย่างเชื่องช้าออกมาจากภายในห้องแต่งตัว ด้วยชุดนอนแบบที่เรียกได้ว่าใส่แล้วคงไม่ได้นอน เป็นผ้าลื่นๆมันๆตัดขอบด้วยผ้าลูกไม้สีดำทั้งชุดร่างบางที่ตุ้ยนุ้ยขึ้นพร้อมกับท้องโตๆที่ใกล้คลอดเต็มแก่แล้วนั่งลงบนตักใหญ่ของสามีอย่างจงใจยั่วยวนเขาแม้ใกล้คลอดเต็มทนไม่ควรจะมาทำอะไรแบบนี้กัน แต่ทว่าบรรยากาศมันก็พาไปทำให้เธออดใจเอาไว้ไม่ไหวจริงๆอีกอย่างการอยู่ใกล้ท่านประธานที่หล่อเหลากว่าหนุ่มโฮสเป็นไหนๆแบบนี้ ใครล่ะจะไปอดใจถือศีลไหวกัน“หืม นมหวาน”นนท์ธิวรรธน์วางมือหนาบนท้องโตๆของเมียคนสวยแล้วลูบวนเบาๆอย่างอดใจต่อไปไม่ไหว ก่อนจะขยับปลายมือมาบีบขย้ำไปตามอกอวบของเธอที่มันใหญ่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจากการเตรียมตัวเป็นแม่คนไม่คาดคิดเลยว่าของขวัญวันเกิดในปีนี้ที่ได้เมียมานั้นจะแสนถูกใจเสียจนห้ามใจเอาไว้ไม่ไหวเลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตั้งใจเป็นพ่อที่ดีไม่ไปเร่งรัดให้ลูกน้องคลอดออกมาก่อนกำหนด“แบบนี้พอจะเป็นของขวัญของพี่นนท์ได้ไหมคะ”พราวลลิลเอนกายซบพิงไปกับร่างกำยำของผู้เป็นสามีพร้อมกับเปิดชายของชุดนอนขึ้นมาเล็กน้อยให้พ
ชีวิตหลังแต่งงานของนนท์ธิวรรธน์ไม่ต่างอะไรจากชีวิตก่อนแต่งงานเลยสักนิดเดียว เขายังคงทำตัวเหมือนเดิม เหมือนเมื่อตอนที่มีเธอเดินเข้ามาในชีวิตวันแรกไม่มีเปลี่ยนไปเลยเขาตื่นแต่เช้าออกไปทำงานทุกวัน บางวันก็พาเมียไปทำงานด้วย บางวันก็ไม่ได้พาเธอไปด้วยอย่างเช่นตอนนี้เพราะเธอนั้นท้องแก่ใกล้คลอดเต็มทนแล้ว เขาก็เลยให้เธอพักอยู่บ้านซะมากกว่า จะมีพาไปบ้างก็แค่บางวันที่เธอดูจะเบื่อการอยู่บ้านเท่านั้นและเขาก็จะรีบกลับจากที่ทำงานเพื่อมาที่บ้านในทันทีหลังจากที่เลิกงาน ไม่เคยแวะข้างทางที่ไหนเพื่อจะมาหาเมียให้เร็วที่สุด หรือถ้ามีเธอไปด้วยเขาก็รีบกลับบ้านอยู่ดีถ้าเธออยากกลับหรือพาเธอออกไปใช้ชีวิตหลังเลิกงานด้วยกันบ้างถ้าเธออยากไปและในวันนี้เขาก็เลิกงานค่อนข้างดึกพอสมควรเพราะอาทิตย์หน้าเจ้าตัวน้อยในท้องเมียน่าจะลืมตาดูโลกแล้วตามที่หมอคาดการณ์เอาไว้ เขาก็เลยคิดว่าน่าจะต้องลางานอีกหลายวันเลยละก็เลยเริ่มที่จะเคลียร์งานออกไปบ้างแล้ว แล้วก็รีบกลับบ้านมาหาเมียในทันที“ทำอะไรอยู่ครับ”ร่างสูงรีบเดินขึ้นมายังห้องนอนที่เมียขึ้นมาก่อนหน้านี้แล้วหลังจากที่เขานั้นให้เธอกินมื้อเย็นล่วงหน้าไปก่อนไม่ต้องรอเขาด้วยวันน
“วันนี้นมหวานสวยจังเลย”เสียงของนนท์ธิวรรธน์เอ่ยชมเมียคนสวยของเขาไม่ขาดปากในขณะที่กำลังเริ่มแต่งหน้าสำหรับงานเลี้ยงในรอบเย็น หลังจากที่เมื่อเช้านั้นเพิ่งจะจัดงานแต่งกันแบบไทยๆกันไปเมื่อในสายตาของเขานั้นเห็นว่าเมียสวยอยู่ตลอดเวลา เห็นแบบนี้มาตั้งแต่เจอหน้าเธอครั้งแรกก็ว่าได้“สวยตรงไหน สิวเม็ดเท่าช้างอยู่บนหน้าเนี้ยนะ”คนสวยตอบกลับด้วยความจริงเมื่อฮอร์โมนของคนท้องทำให้สิวหัวช้างขึ้นหน้าเธอตรงกลางหน้าผากพอดิบพอดีหัวสิวนั้นใหญ่เสียจนแต่งหน้ากลบยังไม่มิดเลย จะมีความสวยที่ไหนกันได้ล่ะ“สวยทุกตรงนั้นแหละ และก็สวยทุกวันเลยด้วย”ท่านประธานหนุ่มก็ยังคงไม่เลิกที่จะเอ่ยชมเมียตัวเล็กตัวน้อยของเขาที่สวยที่สุดสำหรับเขาอยู่ดี“หน้าก็ยังไม่ได้แต่ง ชุดก็ยังไม่ได้ใส่เนี้ยนะ”ถึงเขานั้นจะมองข้ามเรื่องสิวไปได้ก็ต้องเห็นเรื่องแต่งหน้าทำผมใส่ชุดของเธอบ้างแหละ ไม่ใช่มาหลับหูหลับตาชมเธอจนช่างแต่งหน้าอายแทนได้แบบนี้“เจ้าบ่าวออกไปรออีกห้องได้แล้วจ้ะ”นนท์ธิวรรธน์ยังไม่ทันได้เอ่ยชมเมียอีกสักรอบก็ถูกขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงของแม่เขาที่เปิดประตูเข้ามาพอดี“ครับคุณแม่”และนั้นทำให้นนท์ธิวรรธน์ต้องรีบออกจากห้องแต่ง
“วันนี้งานที่บริษัทเป็นยังไงบ้างคะ เหนื่อยหรือเปล่า”เสียงหวานๆเอ่ยทักทายผู้เป็นสามีพร้อมกับเดินเข้าไปหาเพื่อช่วยเขาถอดเสื้อสูทออกจากตัวหลังจากที่เขาเพิ่งจะกลับมาจากทำงานทำหน้าที่ภรรยาเป็นอย่างดีแต่ช่วงนี้ไม่ได้ไปทำหน้าที่เลขาเลย ด้วยเธอนั้นยังคงมีอาการแพ้ท้องอยู่ ท่านประธานก็เลยเป็นห่วงกลัวว่าเธอจะเป็นอะไรมากไปกว่านี้ก็เลยสั่งหยุดงานเธออย่างไม่มีกำหนดไปก่อนเธอก็เลยทำได้แค่ส่งเขาออกไปทำงานในตอนเช้า และก็รอรับเขากลับเข้าบ้านในตอนเย็นเท่านั้น“อืม ก็นิดหน่อย”นนท์ธิวรรธน์เอ่ยตอบไปตามความจริงพร้อมกับหอมแก้มเมียไปอีกฟอดใหญ่เพื่อเติมเมียเข้าปอดให้ได้ชื่นใจ หลังจากที่เขาต้องนั่งทำงานอย่างเคร่งเครียดมาทั้งวัน“ปวดหัวไหมคะ ให้หนูนวดให้ไหม”พราวลลิลขันอาสาเป็นหมอนวดให้เขาอีกครั้งเมื่ออาการแพ้ท้องของเธอนั้นเริ่มดีขึ้นมากแล้ว และก็อยากจะช่วยเขาแบ่งเบาความเครียดหลังเลิกงานด้วย“ก็ดีเหมือนกันนะ”ท่านประธานรีบประคองเมียให้เดินไปที่โซฟาในทันที ให้เธอนั่งลงอย่างนุ่มนวลภายใต้การคอยมองของเขา ก่อนที่เขาจะลงนอนหนุนตักเธอรีบหลับตาพริ้มในทันทีเพื่อรอมือเล็กๆของเธอนั้นมากดนวดให้ตามจุดต่างๆที่มักรู้สึกปวด
“เป็นอะไรไป ทำไมวันนี้ตื่นสายจัง”หลังจากที่เมื่อวานครอบครัวของเขาและก็ของเธอนั้นได้รวมตัวกันกินข้าวมื้อใหญ่เพื่อประกาศข่าวดีกันที่บ้านของคุณยายเธอ เขากับเธอก็กลับมานอนกันที่บ้านตามปกติด้วยตอนเช้านั้นเขามีประชุมต้องเดินทางออกจากบ้านแต่เช้า ก็เลยไม่ได้อยู่ค้างกันที่นู่นแต่พอในเช้าวันใหม่นี้ก็มีอะไรแปลกๆเกิดขึ้น เมื่อคนตัวเล็กที่มักตื่นนอนพร้อมกับเขาหรือบางทีก็ตื่นก่อนเขา วันนี้กลับไม่เหมือนวันอื่นๆเขานั้นอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอจะเพิ่งตื่นขึ้นมา แถมสีหน้ายังไม่สดชื่นอีกตั้งหาก“สงสัยเมื่อวานหนูจะกินขาหมูมากเกินไป เช้านี้ก็เลยไขมันขึ้น”พราวลลิลมีอาการพะอืดพะอมตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาเลยก็ว่าได้ และก็เวียนหัวจนแทบไม่อยากลุกจากที่นอนเลยล่ะเป็นอาการไม่สบายที่ทำให้นึกถึงคุณยายเป็นอย่างมากในเวลาที่ไขมันท่านขึ้นสูงจนต้องพาไปพบหมออยู่บ่อยๆ“อาการมันเป็นยังไง ทำไมถึงรู้ว่าตัวเองไม่สบายแบบนั้นล่ะ”มือหนาๆวางลงบนศีรษะเล็กอย่างอ่อนโยนก่อนจะลูบเบาๆด้วยความเป็นห่วง “ก็หนูเวียนหัวเหมือนคุณยายเวลาที่ไขมันท่านขึ้นสูง”“พี่ว่าไม่น่าจะใช่นะ”อาการของเธอไม่น่าจะใช้ไขมันขึ้นสูงแบบที่เธอกำลังค
“เป็นอะไรไป”เสียงหนาเอ่ยถามอย่างอบอุ่นเช่นเคยในเช้าวันหยุดที่เขากับเธอยังคงนอนเล่นกันอยู่บนเตียงไม่ได้รีบร้อนลุกไปทำงานเหมือนทุกวันเมื่อเขาเห็นว่าเธอดูจะหงอยเหงาผิดปกติไปจากเช้าวันอื่นๆที่ถึงแม้รีบเร่งไปทำงานก็ยังดูสดชื่นกว่าวันนี้เป็นเท่าตัวอาการเหล่านี้มันออกหลังจากที่เธอนั้นหยิบเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูแจ้งเตือนบางอย่างที่ส่งเสียงร้องอยู่สักพัก ก่อนจะวางมือถือนั่งลงแล้วก็ถอดถอนหายใจยาวออกมาเขาไม่รู้ว่ามันคือเรื่องอะไรแต่มันคงไม่ดีสักเท่าไหร่ ไม่อย่างนั้นพราวลลิลที่เปรียบเสมอความสดใสนั้นคงไม่ดูหม่นหมองถึงเพียงนี้“เปล่า”มือเล็กๆยกขึ้นปาดน้ำตาที่หางตาเบาๆไม่ให้คนที่นอนอยู่ข้างๆรับรู้เรื่องราวของเธอไปด้วย ก่อนหน้านี้เธอเคยตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ แต่พอมาถึงวันนี้ในระยะเพียงสั้นๆเท่านั้นเธอกลับเสียใจตั้งแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจให้เด็ดเดี่ยวเลยด้วยซ้ำไป“ไม่เป็นอะไรแล้วร้องไห้ทำไมคะ”ท่าทางของเธอไม่ได้โจ่งแจ้งสักเท่าไหร่แต่ทว่าเขานั้นอยู่ใกล้เธอมากจนไม่อาจมองข้ามไปได้ถึงแม้ว่าเธอจะนอนหันหลังให้เขาอยู่ก็ตาม เขาก็ยังรับรู้ได้อยู่ดี“ฮืออออ”พราวลลิลก็ปล่อยเสียงร้องไห้
Comments