“โอ๊ย เอกสารตั้งเยอะตั้งแยะใครมันจะอ่านหมดนั่นล่ะนายดิน นี่นายกำลังแกล้งฉันอยู่ใช่ไหม” เอลินอร์โวยวายเมื่อเห็นกองเอกสารบนโต๊ะทำงานที่ปฐพีบอกกับเธอว่าต้องอ่านและทำความเข้าใจทุกอย่างในนั้นแล้วสรุปมาให้เขาฟังอีกที
“ผมจะแกล้งคุณหนูทำไม่ละครับ นี่ผมเลือกแต่ที่จำเป็นเท่านั้นเองนะครับ” ปฐพีพูดไปตามความจริง
“แล้วนายให้เวลาฉันเท่าไหร่ล่ะ”
“คนเก่งอย่างคุณหนูคิดว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่ล่ะครับ” เขารู้นิสัยของเอลินอร์ดีว่าเป็นคนชอบความท้าทาย
“สองอาทิตย์ได้ไหมมันเยอะมากเลยนะ”
“นานไปครับ ผมให้แค่อาทิตย์เดียวครับ” เขาทำเป็นต่อรอง
“มันโหดไปหน่อยเหรอ ฉันไม่ถนัดเรื่องบริหารเลย ฉันชอบออกแบบมากกว่า ขอย้ายไปฝ่ายออกแบบได้ไหม”
“คุณหนูต้องเรียนรู้งานทุกฝ่ายอยู่แล้วครับ”
“ฉันไม่ถนัดเรื่องบริหารเลย ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องมาเรียนรู้เรื่องพวกนี้ ในเมื่อพ่อและนายก็ช่วยกันบริหารได้ดีอยู่แล้ว” เธอไม่อยากรับผิดชอบอะไรทั้งนั้นเพราะคิดว่ายังไงเขาและบิดาก็ช่วยกันบริหารบริษัทได้ดีอยู่แล้ว
“เพราะคุณหนูเป็นเจ้าของที่นี่ไงครับ ก็เลยต้องเรียนรู้ทุกอย่าง ลูกน้องเขาจะได้มั่นใจว่าคุณหนูมีความสามารถและรู้เรื่องทุกอย่างในบริษัทจริง ไม่ใช่ได้ตำแหน่งรองประธานมาเพราะเป็นลูกสาวของคุณเอกภพ”
“แต่ฉันไม่อยากได้ตำแหน่งนั้น นายรับไปสิ พ่อรักนายจะตาย เอาไหมฉันจะบอกพ่อให้”
“ผมไม่ใช่สายเลือดของท่านครับ ที่ผมทำทุกวันนี้ก็เพื่อตอบแทนบุญคุณที่ท่านส่งให้ผมเรียนจนจบ ถ้าคุณหนูไม่ชอบบริษัทนี้ คุณหนูจะเปลี่ยนกับคุณอลันก็ได้นะครับ”
“จะบ้าเหรอเรื่องพวกนั้นไม่เคยอยู่ในหัวฉันเลยสักนิด ขืนฉันไปทำงานบริษัทคุณพ่อคงได้เจ๊งกันพอดี” เพราะอลันพี่ชายของเธอนั้นดูแลบริษัทอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเรื่องพวกนั้นเอลินอร์ไม่เข้าใจเลย
“ผมรู้ว่าคุณหนูชอบออกแบบและผลงานของคุณหนูที่ส่งทางมหาวิทยาลัยก็ดีทุกชิ้น เอาอย่างนี้นะครับ ถ้าคุณอ่านพวกนั้นได้ครึ่งหนึ่งแล้วมาสรุปให้ผมฟัง ผมจะให้คุณพักสมองด้วยการออกแบบดีไหม”
“จริงเหรอ” หญิงสาวมีความตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด เธอยิ้มกว้างมาทางชายหนุ่มด้วยแววตาเป็นประกาย ที่คนมองแล้วรู้สึกหัวใจวูบไหว แต่ก็ต้องเก็บอาการไว้เพราะเธอคือลูกสาวของผู้มีพระคุณ
“จริงสิ เรากำลังอยากได้เครื่องประดับสำหรับผู้หญิงวัยทำงานที่ราคาไม่สูงมาก เอาแบบที่ทุกคนจับต้องได้ แต่จะเน้นขายเป็นจำนวนเยอะ ผมว่าคุณคงทำได้ไม่ยากจริงไหมครับ”
“แน่นอน เอาล่ะนายอย่ากวนฉันนะ ฉันจะตั้งใจอ่าน”
“ตามสบายเลยครับ” ปฐพีถึงกับโล่งใจที่เธอยอมอ่านเอกสารพวกนั้น
ตลอดทั้งช่วงเช้าเอลินอร์ให้ความสนใจกับการศึกษาข้อมูลของบริษัทมากกว่าที่เขาคิดไว้มาก หญิงสาวถามข้อมูลที่ไม่เข้าใจกับเขาเป็นระยะซึ่งเขาก็ตอบคำถามของเธอด้วยความเต็มใจจนกระทั่งใกล้ถึงเวลาอาหารกลางวัน
“กลางวันนี้คุณหนูจะทานอาหารกับท่านประธานไหมครับ ผมจะได้บอกคุณแขไขจัดเพิ่มให้”
“แล้วนายไปกินกับคุณพ่อด้วยหรือเปล่า”
“เปล่าครับ ปกติผมจะออกไปทานที่ร้านข้างๆ บริษัทหรือไม่ก็ฝากคุณแขซื้อมาแล้วไปทานที่ห้องพักเบรก”
“ฉันไม่อยากรบกวนคุณพ่อ งั้นฉันไปกินกับนายได้ไหมกินเสร็จจะได้รีบกลับมาทำงาน”
“คุณหนูหิวหรือยังครับ”
“ยังไม่หิวเลย นายล่ะ”
“ปกติแล้วผมจะลงไปเวลาเที่ยงครึ่งเพราะคนอื่นเริ่มจะทานกันอิ่มแล้วจะได้ไม่ต้องรอนาน แต่ถ้าคุณหิวก็ไปเที่ยงตรงก็ได้ อยากจะทานอะไรร้านไหนคุณเลือกมาเลยจะได้โทรสั่งไว้ก่อน”
ปฐพีส่งรายชื่อร้านอาหารและเมนูอาหารที่แขไขเตรียมไว้ให้ตั้งแต่เมื่องานให้กับเอลินอร์เป็นคนเลือก
“ฉันอยากกินขนมจีน ไม่ได้กินนานแล้ว แต่ถ้าไปเที่ยงก็กลัวคนเยอะ ร้านมันอยู่ไกลมากไหม ฉันกลัวกลับมาไม่ทันบ่ายโมง” เพราะอ่านระเบียบของพนักงานไปแล้วเอลินอร์จึงรู้ว่าที่นี่ทุกคนต้องเข้างานตรงเวลาถึงแม้จะเป็นลูกสาวท่านประธานแต่เธอเพิ่งมาทำงานวันแรกก็ไม่อยากให้คนอื่นมองว่าเป็นเด็กเส้น
“ถ้าเราออกไปทานตอนเที่ยงครึ่งก็เข้างานบ่ายโมงครึ่งครับ ทุกคนมีเวลาพักเท่ากัน”
“งั้นฉันไปกินขนมจีนนะ นายโทรสั่งให้ได้ไหม ฉันสั่งไม่ถูก เอาน้ำยาที่มันสีส้มๆ อ้อ ถ้าเขามีแกงเขียวหวานก็เอาด้วย”
“ครับ”
13.05 น.
“นายนี่ท่าทางจะแฟนคลับเยอะไม่เบาเลยนะ เดินไปไหนก็มีแต่คนทักทาย” เพราะตั้งแต่ร้านอาหารจนเดินกลับเขามาก็มีแต่คนทักทายปฐพีจนเอลินอร์รู้สึกหมั่นไส้
“เขาก็ทักทายตามมารยาท ผมทำงานที่นี่มานานก็ต้องรู้จักคนเยอะเป็นธรรมดาครับ ถ้าคุณหนูทำงานที่นี่ไปอีกสักพักก็จะมีคนรู้จักเยอะแบบผมนี่แหละครับ พรุ่งนี้ผมจะพาคุณไปแนะนำให้ทุกคนรู้จัก”
“ทำไมฉันจะต้องไปรู้จักพวกเขาด้วยละ” เอลินอร์พูดอย่างถือตัว
“ที่มหาวิทยาลัยเขาไม่สอนเรื่องการบริหารคนเหรอครับแต่ผมว่ามหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงขนาดนั้นคงไม่พลาดกับเรื่องนี้ อาจจะเป็นที่คุณหนูไม่ตั้งใจเรียนมากกว่า”
“นี่นายดิน พอเลยนะ หยุดว่าฉันได้แล้ว ฉันรู้หรอกน่าจะต้องวางตัวยังไง ฉันก็แค่ลองพูดแบบเมื่อกี้ดู ฉันจะได้รู้ด้วยไงว่านายน่ะ เข้าใจเรื่องพวกนี้มากแค่ไหน” เอลินอร์แก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ
“ครับ” ปฐพีไม่เถียงต่อเพราะมีงานต้องทำ ตลอดบ่ายห้องก็เลยอยู่ในความสงบเงียบจนกระทั่งคุณแขไขเอากาแฟและของว่างเข้ามาให้
“คุณเอลินอร์คะ แขไม่รู้ว่าคุณทานกาแฟแบบไหนก็เลยชงเป็นกาแฟดำมาให้ก่อน ส่วนครีมกับน้ำตาลคุณเติมเองนะคะ แล้วครั้งหน้าแขจะทำตามที่คุณชอบทานค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ คุณแขเรียกแอลก็พอค่ะ ไม่ต้องเรียกชื่อจริงก็ได้ ปกติแล้วตอนบ่ายแอลชอบคาปูชิโน่คะหวานน้อยค่ะ แอลไม่ชอบกาแฟร้อน”“เดี๋ยวแขให้เด็กไปซื้อให้นะคะ”
“ไม่ต้องหรอกครับคุณแข เดี๋ยวผมจัดการเอง” ปฐพีรีบบอกด้วยความเกรงใจ เขารู้ว่าแขไขนั้นมีงานที่ต้องรับผิดชอบมากมายอยู่แล้วจึงไม่อยากจะรบกวนเธอ
“ค่ะ งั้นแขไปนะคะถ้ามีอะไรคุณแอลเรียกแขได้ตลอดเลยนะคะ” แขไขพูดจบก็เดินออกจากห้องทำงานไป
“ฉันเอาคาปูชิโน่หวานน้อยนะนายดิน” เอลินอร์รีบบอกเพราะคิดว่าเขาจะเป็นคนไปซื้อให้
“บอกผมทำไมครับคุณหนู”
“ก็นายบอกคุณแขว่าจะจัดการเอง”
“ผมหมายถึงให้คุณลงไปซื้อเอง แค่ชั้นล่างตึกนี่เอง”
“นานดิน นายแกล้งฉันอีกแล้วนะ”
“ผมจะแกล้งคุณหนูทำไมครับ คุณแขเขาก็มีงานของเขา คุณจะใช้เขาไปซื้อกาแฟได้ยังไง”
“เขาใช้ลูกน้องเขาอีกที่ก็ได้ หรือให้แม่บ้านไปซื้อก็ได้”
“ทุกคนมีงานครับถ้าคุณอยากกินกาแฟก็ลงไปซื้อเอง”
“นายดิน นายไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหม” เมื่อโหมดวีนไม่ได้ผลเอลินอร์ก็เปลี่ยนมาพูดดีๆ
“ผมจะไปเป็นเพื่อนคุณก็ได้ แต่มีข้อแม้”
“ข้อแม้อะไรอีก ทำไม่อยู่กับนายนี่ข้อแม้ถึงเยอะจัง”
“ก็ระหว่างทางเราต้องผ่านหลายแผนกเพราะฉะนั้นผมจะพาคุณไปแนะนำให้ทุกคนรู้จักทั้งขาไปแล้วขากลับคุณหนูยอมไหมล่ะครับ”
“ไหนว่าจะไปพรุ่งนี้ไง”
“งั้นคุณหนูก็ค่อยกินกาแฟพรุ่งนี้แล้วกันนะครับ” พูดจบเขาก็ก้มหน้าทำงานต่อ
“ไปก็ได้ นายนี่มันเจ้าเล่ห์ไม่มีใครเกินเลย” เอลินอร์หน้าบูดบึ้งขณะที่เดินตามปฐพีออกมาจากห้องทำงาน แต่พอเจอกับคนอื่นเธอก็ยิ้มแย้มทักทายอย่างเต็มใจ กว่าจะมาถึงร้านกาแฟหญิงสาวก็ต้องฉีกยิ้มจนเมื่อยหน้า
“นายจะกินอะไรสั่งสิ ฉันเลี้ยง”
“ผมกินกาแฟดำไปแล้ว ขืนกินกับคุณอีกคืนนี้ก็ไม่ต้องนอนกันพอดี”
“งั้นกินเค้กไหม ฉันว่าน่ากินดีนะ”
“ไม่ล่ะ ผมไม่ค่อยชอบกินของหวาน”
“อย่ามามั่วพี่อลันบอกฉันว่าเค้กที่ฉันหัดทำนายกินคนเดียว”
“ก็นั้นมันเป็นเค้กที่คุณหนูทำ”
“มันจะต่างกันยังไงนี่ก็เค้กเหมือนกัน”
“ต่างกันที่คนทำไงครับ ถ้าเค้กที่คุณหนูทำแล้วผมกินไม่หมด ผมก็ไม่รู้ว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง”
ปฐพีรู้ฤทธิ์เดชของเอลินอร์เป็นอย่างดี ครั้งหนึ่งเธอปิดเทอมแล้วกลับมาที่บ้านและบังเอิญว่าเขาก็ปิดเทอมจึงกลับมาที่บ้าน หญิงสาวกำลังทำขนมอะไรสักอย่างแล้วยื่นให้เขาชิม แต่เขาไม่รับเพราะตอนนั้นมือเปื้อนอยู่ คุณหนูเอลินอร์ก็เลยเอาขนมนั้นขว้างใส่หน้าเขาจนเละไม่มีชิ้นดี
“นายกลัวฉันเอาเค้กป้ายหน้านายเหรอ ฉันไม่ทำอย่างนั้นหรอก”
“เพราะอะไรล่ะครับ”
“เพราะฉันเข้าหอชายไม่ได้ยังไงล่ะ”
พูดจบเอลินอร์ก็หัวเราะเพราะนึกภาพชายหนุ่มที่มีครีมสีขาวอยู่เต็มหน้าแล้วเธอก็อดขำไม่ได้
“ผมนั่งรอตรงนู้นนะ คุณหนูสั่งเสร็จก็ตามมา”
“อือ ไปนั้นรอก่อนเลย”
พอปฐพีไปนั่งรอแล้วหญิงสาวก็สั่งกาแฟของตนเองกับเค้ก และคุกกี้กับนมชมพูเพราะอยากจะแกล้งให้เขาอายคนอื่นที่กินเครื่องดื่มสีหวานขัดกับหน้าตา
เมื่อได้รับคำตอบจากภรรยาแล้วปฐพีก็เริ่มปฏิบัติการปั๊มทายาททันที ปฐพีอุ้มเจ้าสาวไปยังห้องนอน เขาวางเธอลงที่ปลายเตียงแล้วรั้งให้เธอเข้ามาแนบชิด จุมพิตไปบนริมฝีปากนุ่มสวย บดขยี้อย่างโหยหาเพียงแค่สัมผัสร่างกายก็ตื่นตัว ชายหนุ่มจับมือเล็กของภรรยาสาวไปสัมผัสกับส่วนแข็งขืนเพื่อให้เธอรับรู้ ว่าตอนนี้เขาต้องการเธอมากแค่ไหน “พี่ดินทำไมมันโตเร็วละคะ” “ก็พี่คิดถึงและต้องการหนูแอลไงครับ ไม่เจอกันหนึ่งเดือน แล้วพอเจอกันก็ได้แค่เดินจับมือ มันทรมานมากนะครับ รู้ไหมพี่ต้องการแอลมาก”เสียงของเขาบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าตัวเองนั้นต้องการเธอมากแค่ไหน ชายหนุ่มประคองใบหน้าคนรักแล้วประกบปากจูบอีกครั้งอย่างเร่าร้อนและเรียกร้องเอลินอร์เผยอปากรับลิ้นอุ่นเข้าให้เข้ามาตวัดไล้น้ำหวาน พร้อมส่งเสียงครางอย่างรัญจวน เมื่อฝ่ามือใหญ่ละจากใบหน้าลงมาทรวงอกอิ่มบีบคลึงเต้างามอย่างหนักมือ ปฐพีผละจูบออกเมื่อเธอเริมครางประท้วงเพราะกำลังจะขาดอากาศ สองตาสบประสานส่งผ่านความรู้สึกและความต้องการที่ต่างฝ่ายต่างต่างมีให้แก่กันอย่างท่วมท้นชุดนอนไม่ได้นอนและบราตัวจิ๋วที่พี่สะใภ้มอบให้ค่อยๆ
งานแต่งงานระหว่างปฐพีและเอลินอร์ถูกจัดขึ้นที่โบสถ์เก่าแก่แห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน ความสวยงามของโบสถ์กับการออกแบบงานแต่งงานเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความสุข ซึ่งปฐพีเป็นคนออกแบบเองทั้งหมด ปฐพีสวมสูทสั่งตัดสีขาวที่ตัดเย็บอย่างประณีต แขกที่มาร่วมกันต่างมีใบหน้ายิ้มแย้มและรอคอยการปรากฏตัวของเจ้าสาว เมื่อเสียงดนตรีดังขึ้นชายหนุ่มก็หันไปมองที่ประตูทางเข้า เขารู้สึกใจเต้นแรง ในขณะที่แขกต่างลุกขึ้นยืนเพื่อให้เกียรติเจ้าสาวที่เดินควงแขนคุณเอกภพผู้เป็นบิดาเข้ามาใบหน้าสวยปกปิดด้วยผ้าสีขาว นั้นยิ่งกระตุ้นให้ทุกคนอยากเห็นว่าหญิงสาวผู้โชคดีคนนี้จะมีใบหน้าสวยงามแค่ไหน แม้ว่าปฐพีจะไม่มีคนรู้จักที่นี่มากนักแต่เพราะเขาเป็นทายาทอย่างถูกต้องตามกฎหมายคนเดียวของวิลเลียม เบอร์เรลนักธุรกิจชื่อดังของเมืองนี้งานแต่งครั้งนี้จึงมีคนจับตามองอยู่มากพอสมควรเมื่อคุณเอกภพเดินมาถึงยังแท่นพิธีเขาก็ส่งตัวลูกสาวให้กับปฐพี ที่ยื่นมือมารับเจ้าสาวของเขาด้วยความตื่นเต้น มือใหญ่สั่นเล็กน้อยและนั่นก็ทำให้เอลินอร์รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นไปอีกเมื่อเอลินอร์มายืนอยู่ตรงหน้า ชายหนุ่มก็ยกผ้าคลุมใบหน้า
ความสุขมันแสนสั้นเมื่อถึงเวลาที่ปฐพีจะต้องกลับไปทำงานอีกครั้ง เอลินอร์มาส่งคนรักที่สนามบิน แต่ครั้งนี้เธอไมได้เศร้าเหมือนครั้งก่อนเพราะปลายเดือนหน้าเธอครอบครัวก็จะบินไปเที่ยวอังกฤษตามคำเชิญของคุณลินดาและคุณวิลเลียม“อีกไม่ถึงเดือนเราก็จะเจอกันอีกแล้ว ครั้งนี้หนูแอลคงไม่งอแงให้พี่ต้องรีบกลับมาใช่ไหมครับ”“แอลไม่เคยงอแงนะคะ”“แล้วใครกันล่ะครับ ที่ไม่ยอมให้พี่โทรหาจนพี่ทนคิดถึงไม่ไหวรีบบินกลับมาแบบนี้”“มาโทษแอลได้ยังไงล่ะคะ พี่ดินอยากทนไม่ไหวเอง”“ถ้าไม่รักก็คงไม่รีบบินกลับมาหรอกครับ”“พี่ดินขา อย่าปากหวานแบบนี้กับใครนะคะ”“พี่ทั้งรักทั้งหลงขนาดนี้ หนูแอลยังไม่ไว้ใจพี่อีกเหรอครับ”“ก็พี่ดินของแอลหล่อขนาดนี้เป็นใครก็ต้องหวง”“พี่ไม่เคยมองใครมานานหลายปีแล้ว มองแค่หนูแอลคนเดียว” ปฐพีกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น เขาไม่อยากจะห่างเธอเลยแต่เพราะมีความจำเป็นเรื่องงานเลยต้องทำใจ“พี่ดิน เขาประกาศเรียกแล้ว”“พี่ไปก่อนะครับ รักหนูแอลนะ” ชายหนุ่มก้มจูบหน้าผากมนอย่างรักใคร่“แอลก็รักพี่ดินค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะพี่ดิน ถึงแล้วอย่าลืมโทรหาแอลนะคะ”“จะลืมได้ยังไงล่ะครับ พี่ไปก่อนนะครับ หนูแอลจะได้รีบกลับไปท
สามวันมาแล้วที่เอลินอร์ทำโทษปฐพี เธอทั้งคิดถึงและอยากเห็นหน้าอยากได้ยินเสียงแต่ก็ต้องอดทนเพราะไม่อยากจะกลายเป็นคนผิดคำพูด แม้ว่าเขาจะไลน์มาหาทุกวัน วันละหลายรอบแต่เธอก็เพียงแค่อ่านแต่ไม่คิดจะตอบกลับ“เหลือแค่สาวันเองจิ๊บๆ” หญิงสาวให้กำลังใจตัวเองก่อนจะเก็บของใช่ลงกระเป๋าเพราะเลยเวลาเลิกงานมานานนับชั่วโมง แต่เพราะวันนี้ไม่ต้องกลับไปนอนที่บ้านเนื่องจากบิดามารดาไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัดเธอจังไม่เร่งรีบอะไร หญิงสาวแวะทานอาหารที่ร้านเดิมที่เคยมาทานกับปฐพีอยู่บ่อยๆ จากนั้นก็เข้าร้านสะดวกซื้อและเลือกอาหารแช่แข็งอีกหลายกล่องเพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุดเธอจึงอยากจะพักผ่อนอย่างเต็มที่ แม้ว่าแพรวาจะโทรศัพท์มาชวนไปเที่ยวแต่เอลินอร์ก็ปฏิเสธเพราะรู้สึกไม่สนุกกับการไปในสถานที่แบบนั้นอีกแล้ว กลับมาถึงห้องก็เก็บของที่ซื้อมาเขาตู้เย็นก่อนจะรับอาบน้ำเตรียมเข้านอนซึ่งก็ไม่รู้ว่าคืนนี้จะนอนหลับไหม เพราะที่ผ่านมาสองคืนเธอก็นอนไม่ค่อยหลับเนื่องจากไม่ได้คุยกับปฐพีอย่างเคย เอลินอร์ออกมาจากห้องน้ำก็ต้องแปลกใจเพราะตอนนี้บนเตียงของเธอนั้นโรยด้วยกลีบกุหลาบสีแดงสดเป็นตัวหนังสือคำว
เอลินอร์ออกจากงานออกจากงานเลี้ยงของคุณติณณ์ก็ตรงไปคอนโดเพราะคืนนี้เธอบอกกับบิดามารดาว่าจะค้างที่นี่ เนื่องจากจะกลับดึกก็ไม่อยากจะขับรถไปที่บ้านเพราะว่าระยะทางจากคอนโดไปที่งานเลี้ยงของคุณติณณ์นั้นใกล้กว่าบ้านของเธอมาก หญิงสาวพยายามจะข่มอารมณ์โมโหของตนมาตั้งแต่อยู่ในงาน พอประตูห้องปิดลงเธอก็กรีดร้องอย่างสุดเสียงเพื่อระบายความโกรธที่ทนจะอัดอั้นมาเกือบชั่วโมง อันที่จริงเธอก็อยากจะกรี๊ดตั้งแต่อยู่ในงานเพราะรับไม่ได้กับสิ่งที่พลอยลดานำมาบอก แต่เพราะเมื่อคืนตนเองไปในนามบริษัทจึงทำแบบนั้นไม่ได้ “พี่ดินนะพี่ดินทำแบบนี้กับแอลได้ยังไง”เอลินอร์ตัวสั่นเทาขณะกดวิดีโอคอลไปหาคนรัก พอเขากดรับเธอก็พูดกับเขาด้วยอารมณ์โมโหสุดขีด “พี่ดิน พี่ทำแบบนี้กับแอลได้ยังไง ไหนพี่ว่าไม่เคยมีอะไร ไม่เคยนอนด้วย แล้วนี่ถึงกับนัดกันไปถึงอังกฤษ ไหนพี่ดินบอกว่ารักแอล ให้แอลรอ ให้แอลอดทน แล้วยังไงคะ ในขณะที่แอลอดทนอยู่ทางนี้พี่ดินก็มีความสุขอยู่ทางนู้น พี่ว่ามันยุติธรรมกับแอลไหมล่ะ พี่ดินใจร้าย พี่ดินทำลายความไว้ใจของแอล” เอลินอร์พูดยาวเหยียดก่อนจะร้องไห้อย่างหนักเมื่อพูดจ
เกือบเดือนแล้วที่เอลินอร์กับปฐพีไม่ได้เจอกับเพราะต่างฝ่ายต่างก็มีหน้าที่ของตนเองที่ต้องรับผิดชอบ แต่พวกเขาก็ยังคงคุยกันอยู่ทุกวันเหมือน เธอกับครอบครัววางแผนว่าจะไปเยี่ยมครอบครัวของเขาที่อังกฤษปลายเดือนหน้า แต่ระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ได้วิดีโอคอลคุยกันบ้างแล้ว เอลินอร์ทำหน้าที่ของตนเองได้เป็นอย่างดีทั้งในฐานะรองประธานบริษัทและในฐานะนักออกแบบเครื่องประดับ พนักงานทุกคนยอมรับในความสามารถของหญิงสาว และต่างพากันชื่นชมเจ้านายของตนเองที่ทั้งสวยและเก่งจนหาตัวจับยาก หญิงสาวรับผู้ช่วยส่วนตัวมาหนึ่งคนชื่อกมลมาศเพื่อจะได้ออกไปทำงานข้างนอกกับเธอในขณะที่คุณแขไขก็ยังทำหน้าที่เป็นเลขาได้เป็นอย่างดี "คุณแอลคะ งานเย็นนี้มาศเตรียมชุดให้แล้วนะคะ” “แอลไม่อยากไปเลยค่ะ พี่มาศไปแทนแอลได้ไหมคะ” “ได้ยังไงล่ะคะคุณแอล เขาเป็นคู่ค้าคนสำคัญเลยนะคะ ถ้าคุณแอลไม่ไปมาศว่าท่านประธานคงจะไม่ค่อยพอใจแน่ๆ” “แอลไม่ชอบงานแบบนี้เลยค่ะ” “แล้วแต่ก่อนใครไปล่ะคะ หรือว่าท่านประธานไปเอง” “ก็คงจะเป็นผู้ช่วยคุณพ่อนั่นแหละ พอเขาออกไปงานทุกอย