EP 3 - หนุ่มฮอตประจำคณะ
“งั้นมึง คนอื่นไม่รักกู แต่มึงต้องรัก”
น้ำอิงชะงัก มองหน้าอ้าปากค้าง ก่อนจะรีบพูดออกมาเสียงดังกลบเกลื่อนความรู้สึกลึก ๆ ที่ตัวเองมี
“พอเถอะ เลิกพูดเรื่องนี้เปลี่ยนเรื่องกันดีกว่า ว่าแต่วันนี้คาบเช้าอาจารย์ยกคลาสนะ มีเรียนอีกทีตอนสิบโมงครึ่ง”
“อ้าว! แม่งแล้วกูจะรีบตื่นมาเรียนทำไมเนี่ย เมื่อคืนนอนตั้งตีสาม ยัยพริตตี้คนเมื่อคืนแม่งโคตรเด็ดเล่นเอากูคึกทั้งคืน”
ตอนแรกเขาก็กะจะไปดื่มกับพริตตี้คนนั้นแค่แป๊บเดียว แต่ดันถูกเธอยื้อไว้ไม่ยอมให้กลับ ไอ้เขามันก็เป็นประเภทปฏิเสธผู้หญิงไม่เป็น เลยยอมจัดให้เธอตามคำขอ
ถามว่าสนุกไหม ก็ไม่ แค่แก้เซ็ง แล้วสุดท้ายเช้านี้ก็เลยมีสภาพอย่างที่เห็น
“เหอะ นี่มึงรีบตื่นแล้วเหรอไอ้เตอร์” น้ำอิงอดที่จะบ่นอีกฝ่ายไม่ได้ เพราะนอกจากที่เขาทำตัวหล่อไปวัน ๆ เต๊าะสาว ๆ กับแข่งรถแล้ว ไอ้เพื่อนบ้าคนนี้มันทำอะไรดี ๆ เป็นบ้าง
“น่า กูก็มาแล้วนี่ไงครับ คุณน้ำอิง”
คนที่ฟังได้แต่ถอนหายใจยาวเพราะเห็นอีกฝ่ายพูดแบบนี้มาหลายรอบ แต่สุดท้ายก็ทำตัวเหมือนเดิมไปทุกครั้ง
ทว่าระหว่างที่พวกเขากำลังนั่งคุยกันอยู่ เพื่อรอเข้าเรียนในคลาสถัดไป จู่ ๆ ก็มีน้องนักศึกษาหญิงปีหนึ่ง หน้าตาน่ารักมากเดินมาเป็นกลุ่ม และหนึ่งในนั้นคือ
คนที่กำลังจะลงประกวดดาวมหาวิทยาลัยให้คณะนิเทศในปีนี้ชื่อเชอร์รี่
หน้าตาน้องน่ารัก ปากชมพู ผมยาวตรงสีดำขลับเดินตรงเข้ามาหาก่อนจะหยุดตรงข้างกับเซนเตอร์นั่งอยู่ พร้อมกับค้อมศีรษะให้รุ่นพี่ปี 2 อย่างพวกเขาทีละคน
“เอ่อ คือสวัสดีค่ะพี่ ๆ” เชอร์รี่รีบยิ้มทักทายทุกคนในกลุ่ม
“คือพอดีว่าเชอร์รี่มีเรื่องจะคุยกับพี่เซนเตอร์ส่วนตัวหน่อยได้ไหมคะ”
“คุยเหรอครับพูดตรงนี้ก็ได้ เพื่อนพี่ไม่ใช่คนนอก”
นี่คือสิ่งหนึ่งที่อาจจะเป็นข้อดีของเซนเตอร์เพราะเขาเป็นคนที่รักเพื่อนมาก จะไม่ยอมทำให้เพื่อนของตัวเองรู้สึกว่าเป็นคนนอกเด็ดขาด
“คะ คือ เออ …พี่เซนเตอร์คะ พอดีว่าหนูอยากได้เบอร์พี่น่ะค่ะ จะเป็นอะไรไหมคะว่าจะขอเบอร์พี่...” หญิงสาวรุ่นน้องพูดขึ้นอย่างกล้า ๆ กลัวๆ
“อืม… ปกติพี่ไม่ค่อยให้เบอร์ส่วนตัวกับใครนะครับ” ชายเจ้าของใบหน้าคมสันเอ่ยบอกไปตามตรง ทำเอาฝ่ายตรงข้ามถึงกับหน้าเสียขึ้นมาในทันที แต่แล้วต่อมความเจ้าเล่ห์ของเซนเตอร์ก็เริ่มทำงาน...
“แต่…พี่ให้ไลน์น้องได้นะครับ ถ้าเกิดว่าสนใจ...”
“หา จริงเหรอคะ?”
“จริงสิครับ เอามาสิ” เซนเตอร์ตอบพร้อมกับแบมือขอโทรศัพท์มือถือจากรุ่นน้องคนนั้น และเมื่อให้ช่องทางการติดต่อเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใบหน้าของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา ทำเอารุ่นน้องที่เดินเข้ามาขอเบอร์คนนั้น หัวใจแทบละลายกลายเป็นของเหลวไปต่อหน้าต่อตาเลยก็ว่าได้
“ขอบคุณนะคะพี่เซนเตอร์ หล่อแล้วยังใจดีอีกต่างหาก”
“ไม่เป็นไรครับ แต่ว่าน้องรีบไปเรียนเถอะ เดี๋ยวพี่จะเข้าเรียนแล้วเหมือนกัน”
“ค่ะพี่เซนเตอร์ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ”
ทันทีที่รุ่นน้องเดินออกไป เสียงพูดแซวจากปากของเพื่อนสนิทในกลุ่มเดียวกันอย่างเชคก็ดังสวนขึ้นมาอย่างทันควัน
“เอาว่ะ โคตรจะฮอตเลยเพื่อนกู ว่าแต่ที่ให้ไปนั่นไลน์ของจริงหรือเปล่าวะ?”
“ของจริงดิ น้องเขาก็ดูหน้าตาน่ารักดีออก จีบไว้เป็นตุ๊กตาหน้ารถเฉย ๆ ไม่เห็นเสียหายอะไร”
“ฮอตจังนะมึงเนี่ย ?” เสียงน้ำอิงติดประชดเธอรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
ใช่! เพราะเธอไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวายกับเซนเตอร์ ถึงแม้ว่าเธอจะมีสถานะเป็นแค่เพื่อนของเขาก็ตามที
“กูก็แค่เล่น ๆ ปะวะ พวกมึงยังไม่ชินกันอีกหรือไง?” เซนเตอร์หัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี
“เออจ้า หล่อมากค่ะเพื่อนกู ถ้าวันหนึ่งมึงตกหลุมรักใครเขาเข้าจริง ๆ ระวังเขาทำเหมือนที่มึงทำจะรู้สึก” เพลงขวัญเอ่ยขึ้นอย่างทีเล่นจริง เธอแซวเซนเตอร์อย่างไม่คิดอะไร ผิดกับเซนเตอร์ที่คิด เพราะคนที่เขาแอบชอบก็คือเพลงขวัญ แต่เขากลับไหวไหล่เบา ๆ พูดออกมาตรงข้ามความรู้สึก
“แล้วไง ช่วยไม่ได้ กูพอใจแบบนี้ ใครจะทำไมกู” เซนเตอร์ว่าจบพลางเอนหลังพิงพนักเก้าอี้อย่างสบายอารมณ์ แต่กลับไม่รู้เลยว่ากำลังมีคู่สายตาหนึ่งจับจ้องเขาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งสายตาคู่นั้นก็คงจะหนีไม่พ้นน้ำอิง
“เสน่ห์แรงเหลือเกินนะมึง” เชคเอ่ยปากแซว
“ช่วยไม่ได้โว้ย คนมันหล่อ” เซนเตอร์ยักไหล่ ในขณะที่น้ำอิงเอ่ยออกมาเสียงขุ่นไม่รู้ตัว
“ระวังติดโรคเหอะมึง?”
“แล้วมึงจะหงุดหงิดทำไมวะน้ำอิง กูก็แค่ให้แอดไว้คุยใช่ว่าจะตกลงปลงใจเป็นแฟนกันเลยสักหน่อย” เซนเตอร์ มองโปรไฟล์ของคนที่ตัวเองเพิ่งแลกไอดีพลางยิ้มออกมา
ยัยเด็กคนนั้นน่ารักดีจริง ๆ
“หรือว่ามึงหวงเพื่อนอย่างกูเหรอ เอาน่ากูรับปากจะยังไม่มีแฟน จนกว่ามึงจะมีก็แล้วกัน ว่าแต่คนอย่างมึงจะมีคนเอาหรือเปล่าวะ”
“ปากหมา! พอเหอะ กูขี้เกียจพูดกับมึงแล้ว” น้ำอิงคว่ำปากพลางค้อนใส่
“เออว่าแต่คาบต่อไป ของอาจารย์สุภาใช่ปะ”
เซนเตอร์ถามขึ้นเพราะถ้ากลุ่มเพื่อนพากันไม่เข้าเรียน ตัวเขาเองก็คิดว่าจะโดดด้วยเหมือนกันเพราะง่วงมาก
“เออ ทำไม มีอะไร?”
“เฮ้อ~ งั้นกูคงต้องเข้าสินะ แม่งง่วงนอนฉิบหายไม่อยากเรียนคาบต่อไปแล้วว่ะ” พอได้ยินชื่ออาจารย์ผู้สอนเขาก็พอจะรู้ชะตากรรมตัวเองแล้ว ก็อาจารย์คนนี้ขึ้นชื่อความเคี่ยวเป็นที่หนึ่ง
“ทำไมมึงจะโดดเหรอไอ้เตอร์” น้ำอิงพูดขึ้นมา
“เออกูว่าจะโดด”
“ห้ามเลยไอ้ควายเผือก ถ้าโดดกูจะฟาดหัวมึงเดี๋ยวนี้เลย” เพลงขวัญว่าพลางยกหนังสือเตรียมฟาด
“ค้าบ ค้าบ แม่ ไม่โดดก็ได้ค้าบ”
และไม่รู้เป็นไร ถ้าอะไรที่เพลงขวัญพูดออกมา น้ำอิงสังเกตว่าเซนเตอร์มักจะฟังเพลงขวัญมากกว่าเพื่อนคนอื่นในกลุ่มอยู่เสมอ
---
แต่เหมือนว่าการประกาศเป็นแฟนกันของเซนเตอร์กับน้ำอิงยังไม่จบ เพราะรู้กันแค่กลุ่มเพื่อนสนิทเท่านั้นหลังจากวันนั้น เชอร์นี่อดีตคู่ขาของเซนเตอร์ยังมาวนเวียนกับเขาไม่ยอมจบ“พี่เซนเตอร์”“มีอะไรเชอร์รี่”“ทำไมคราวก่อนถึงทิ้งเชอร์รี่ไว้ แล้วหนีกลับไปแบบล่ะคะ รู้ไหมว่าเพื่อนของเชอร์รี่พากันถามหาพี่เซนเตอร์กันใหญ่ มันเสียหน้ามากเลยนะ”เชอร์รี่ที่เก็บความเคืองใจนี้มาหลายวัน เอ่ยถามเสียงแข็ง คราวก่อนพวกเพื่อนของเธอต่างพากันบอกว่าเธอโกหกเรื่องที่เคยมีความสัมพันธ์กับเซนเตอร์ ทำให้เธอรู้สึกอับอายมากที่โดนเทกลางงานวันเกิดเมื่อคราวก่อน“แล้วจะให้พี่ทำยังไงเชอร์รี่ เราเชิญพี่ไปร่วมงานพี่ก็ไปให้แล้วไง พอไปเสร็จพี่ก็กลับมันแปลกตรงไหนอะ”“พี่เซนเตอร์!!”“พอเถอะเรื่องมันจบไปแล้วจะขุดขึ้นมาพูดอีกทำไม อ่อ...แล้วตั้งแต่นี้ พี่ขอประกาศไว้ตรงนี้เลยว่าต่อไปพี่จะไม่สะดวกใจไปไหนมาไหนด้วยอีกต่อไป แต่ถ้าเรายังอยากให้พี่ไปด้วยจริง ๆ พี่จะพาน้ำอิงที่เป็นแฟนของพี่ไปด้วยกัน”เสียงของเซนเตอร์พูดดังขึ้นจนทำให้นักศึกษาที่อยู่แถวนั้นต่างได้ยินกันอย่างชัดเจน ทำเอาน้ำอิงถึงกับหน้าแดงเพราะความอาย“อุ้ย ได้ยินชัดไหมจ๊ะ ผู้ชาย
“ด่ากูทำไม...เดี๋ยวนะ มึงหมายถึงกูเหรอ นี่มึงรักกูเหมือนที่กูรักมึงใช่ไหมน้ำอิง!!”“เออ...กูรักมึงเซนเตอร์”“น้ำอิง!! เป็นแฟนกับกูนะ กูไม่อยากรอหรืออยากให้ใครมายุ่งกับมึงอีก”เซนเตอร์ไม่รอช้าที่จะขอเธอเป็นแฟน ในเมื่อเขากับเธอใจตรงกันแล้วก็คงไม่ใช่เรื่องยาก“งั้นกูมีเรื่องจะถามมึงก่อนได้ไหม”“ได้ถามมาเลย”“ต่อไปนี้ถ้ามีเรื่องอะไรมึงเลือกจะเชื่อกูก่อนได้หรือเปล่า”“ได้! กูจะเชื่อ”“มึงเลิกยุ่งกับคนอื่นได้ไหม”“ได้! มึงก็รู้ถึงกูจะสำส่อนแต่ถ้าคบใครก็ทุ่มเทให้ได้แค่คนเดียว”“อือ...อีกอย่าง มึงเลิกชอบยัยขวัญจริง ๆ ใช่ไหม ไม่ได้เห็นกูเป็นตัวแทนของยัยขวัญใช่หรือเปล่า”“กูไม่ได้รักขวัญ กูรักมึง ส่วนเรื่องที่เห็นมึงเป็นตัวแทน ไม่มีทางหรอกขวัญมันสวยกว่ามึงเยอะ”เพียะ!!“เซนเตอร์!!”“โอ๊ยยยเจ็บนะน้ำอิง! แล้วตกลงมึงยอมคบกับกูไหมเนี่ย ถึงมึงไม่สวยเท่าขวัญ แต่มึงน่ารักสำหรับกู และดีที่สุดในโลกด้วย แต่ถ้ามึงไม่รับรักกูนะ กูจะแช่งให้มึง...”“อือ...ไอ้บ้าไม่ต้องมาแช่งเลย กูยอมคบกับมึงก็ได้““...ฮ่า ๆ ต้องแบบนี้สิถึงเป็นน้ำอิงของกู”“...”“...กูรักมึงนะอิง”เซนเตอร์จับคางเล็กของน้ำอิงก่อนจะให้เธอแหงนหน
“จะร้องทำไมมันก็เรื่องของกูปล่อย! กูสระผมให้มึงเสร็จแล้วจะออกไป”“แต่มึงยังไม่ฟังคำตอบของกูจบเลยนะที่บอกว่าจะเลือกรับผิดชอบใคร”“มึงก็ตอบแล้วไงว่าเลือกลูก”ราวกับตอกย้ำความเจ็บปวดของตัวเองน้ำตาของเธอไหลลงอาบแก้มอีกครั้ง“แต่กูยังพูดไม่จบสักหน่อย...ถ้าเกิดมีวันนั้นจริง ๆ กูอะเลือกลูก แต่เป็นลูกที่ต้องมีมึงเป็นแม่”ราวกับคลื่นลมที่ถาโถมพัดเอาความรู้สึกเศร้าของเธอให้หายไปเหลือเพียงความรู้สึกดี“หา มึงเลือกกูด้วยเหรอ”“ใช่...และต้องเป็นมึงคนเดียวด้วยน้ำอิง”“มึงพูดเหมือนตัวเองชอบกูทั้งที่...”“ที่?”“มึงชอบเพลงขวัญไม่ใช่เหรอ”เซนเตอร์ชะงักเล็กน้อยไม่คิดว่าน้ำอิงจะรู้เรื่องความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อเพลงขวัญแต่ก่อน“เราออกไปคุยข้างนอกกันเถอะ”น้ำอิงเดินตามเซนเตอร์มานั่งตรงเตียงนอนอย่างว่าง่าย ก่อนที่เขาจะเดินหายไปในห้องแต่งตัวไม่นานก็ออกมาพร้อมกับเสื้อผ้าชุดใหม่“รอนานหรือเปล่า”“ไม่”“งั้นกูถามเลยแล้วกันนะ มึงรู้ได้ยังไงว่ากูชอบขวัญ” เซนเตอร์ที่สงสัยในข้อนี้ก็ถามอย่างตรงประเด็น“กูเห็นกล่องที่มึงเก็บไว้ในห้อง มันมีแต่รูปเพลงขวัญกับมึง”เซนเตอร์นึกถึงกล่องที่น้ำอิงกำลังนึกถึง ก่อนจะจำได้ว่
หลังจากเซนเตอร์พาน้ำอิงเข้ามาในห้องเธอก็รีบเดินแยกไปเตรียมน้ำอาบให้เขาทันที“เซนเตอร์กูเตรียมน้ำให้แล้วมึง...” น้ำอิงที่ตั้งใจเดินออกมาเรียกอีกฝ่ายเห็นเขายังใส่เสื้อผ้าชุดเดิมอยู่เลยขมวดคิ้วเข้าหากัน“ทำไมมึงยังไม่ถอดเสื้อผ้าออก””ก็กูเจ็บแขน มันถอดไม่ถนัด ให้ทำไง”“เฮ้อมึงนี่นะโคตรสำออย...มางั้นกูช่วย” เธอเดินไปหยุดยืนตรงหน้าเขาก่อนจะค่อย ๆ ถอดกระดุมเสื้อเชิ้ตเขาทีละเม็ดจะถอดออกหมดเหลือเพียงส่วนล่าง“ข้างล่างมึงถอดเอาแล้วกันนะ”“มึงช่วยกูหน่อยไม่ได้เหรอ กูก็บอกอยู่ว่ามันไม่ค่อยถนัดอะ”“แต่...”“มึงอายอะไร กูคนแก้ผ้าต่อหน้ามึงยังไม่อาย แล้วถามหน่อยของของกูมึงเห็นหมดแล้วมั้ย”“เฮ้อ~ ก็ได้”อ่อนอกอ่อนใจกับคารมของหมอนี่ซะจริง ๆในที่สุดการถอดกางเกงมันก็ผ่านไปอย่างทุลักทุเลเธอพยายามปัดป่ายน้องชายอีกฝ่ายที่อยู่ใต้กางเกงที่ตั้งโด่ออกมาหลายครั้ง เพราะมันเอาแต่ชี้หน้าไปมาน่ากัดให้ขาดนักพอเงยหน้าขึ้นไป ก็เห็นเซนเตอร์ที่กำลังหัวเราะที่ได้แกล้งเธออยู่สนุกมากมั้ง“กูสระผมให้มึงเฉย ๆ นะ ที่เหลืออาบเอง”“คร้าบ”ทำมาเป็นว่าง่าย แถมยังดูไม่อายเลยที่แก้ผ้าต่อหน้าเธอแบบนี้ ถึงจะเคยเห็นกันหมดทุกส่วนแ
น้ำอิงกับเซนเตอร์นั่งกินข้าวกันไปสักพัก เธอกับเขาเลือกจะพูดเรื่องอื่นที่จะไม่ทำให้ทะเลาะกัน“กินข้าว กินยาเสร็จมึงจะทำอะไรต่อ...พอดีกูจะออกไปข้างนอกก่อนได้ไหมสัก 2-3 ชั่วโมงเดี๋ยวกลับมา”น้ำอิงเพิ่งจะนึกออกว่าก่อนหน้านี้ตัวเองนัดกับแพรวไว้ ก่อนหน้านี้ที่หายไปเธอก็ได้แพรวช่วยดูแลเลยไม่อยากปฏิเสธนัดของเพื่อน“ไปไหน?”“ไปหาเพื่อนนะ”เพื่อนที่น้ำอิงบอกทำให้เซนเตอร์นึกถึงใบหน้าของเหนือ ก็ไม่คิดหรอกนะว่าเธอจะโกหกตัวเองแต่ก็ไม่อยากให้เธอไปอยู่ดี“อ่อ...งั้นมึงไปเถอะกูตั้งใจว่าจะอาบน้ำ แต่กูอาบคนเดียวได้ถึงแผลอาจจะถูกน้ำแล้วเปื่อย ต้องไปหาหมอใหม่ ไม่ก็เข้าแอดมิทหรืออย่างร้ายก็ตัดแขนทิ้ง กูก็ไม่เป็นไรจริง ๆ”นอกจากจะพูดให้ฟังดูน่าสงสารแล้วเซนเตอร์ยังตีหน้าเศร้า ทำเอาน้ำอิงถึงกับหนักใจก็รู้อยู่หรอกนะว่าเขาพูดให้ดูเว่อร์ไว้ก่อน แต่จำเป็นมั้ยต้องเว่อร์ขนาดนี้“มึงไปเถอะไม่ต้องคิดมากนะ แค่นี้กูก็ขอบคุณมึงจะแย่แล้ว...กูรู้ดีว่าตัวเองทำเรื่องไม่ดีต่อมึงไว้มาก ที่มึงทำให้ก็ไม่รู้จะตอบแทนยังไงหมด”“พอ ๆ มึงเลิกดึงดราม่าเถอะ กูอยู่อาบน้ำให้มึงก่อนก็ได้““จริงนะ!” เซนเตอร์พอได้ยินแบบนั้นก็ดีใจจนออกอากา
แกร๊ก~หลังจากลิฟต์ถึงชั้นของตัวเองเซนเตอร์ก็เดินไปห้องอย่างเร็วเพื่อดูว่าคนที่ตัวเองรอมาตลอดกลับมาอยู่ที่นี่แล้วจริง ๆ“น้ำอิงกูมาแล้ว” แต่พอตะโกนเรียกหากับไม่มีเสียงของใครตอบรับกลับแต่อย่างใดเซนเตอร์หน้าถอดสีก่อนจะถอนหายใจออกมาหรือเธอจะออกไปก่อนหน้าที่เขามาถึงโกหกกันสินะ แต่ว่าเขาก็สมควรโดนแล้วแหละสุดท้ายน้ำอิง...ก็คงยังจะเกลียดเขามากอยู่ดีสินะถึงตอนนี้เขายิ่งแน่ใจความรู้สึกที่ตัวเองมีต่อน้ำอิงรู้ตัวแล้วว่ารักเธอมากแค่ไหน ถึงจะไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นตอนไหน แต่ความรู้สึกนี้มันคือความจริงใช่ เขาขาดเธอไม่ได้“อ้าว เซนเตอร์! มึงมานานแล้วเหรอเมื่อกี้กูไปอาบน้ำมา ขอโทษทีนะไม่ได้ยิน”น้ำอิงเดินออกมาจากห้องน้ำ ทำเอาเซนเตอร์รีบหันกลับไปมอง ตอนแรกก็คิดว่าตัวเองคงหูแว่ว แต่พอเห็นว่าเป็นเธอจริง ๆ หัวใจมันก็เต้นแรงจนบอกไม่ถูกความรู้สึกที่ได้รักใครสักคนมันดีแบบนี้เองสินะ“เจ็บตรงไหนอะเตอร์ ทำไมถึงทำหน้าแบบนั้นอะ” น้ำอิงเดินลงมาพอเห็นสีหน้าของเซนเตอร์ก็รีบเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อก่อนเธอช่วยทำความสะอาดห้องให้อีกฝ่ายจนสะอาด พอเธอไม่อยู่ห้องนี้เกือบเดือนสุดท้ายห้องก็กลับกลายเป็นกองขยะอีกค