/ โรแมนติก / ปากบอกไม่แต่ใส่สุดเกียร์ / ตอนที่ 6 ถ้าหาแฟนยากก็ไม่ต้องหา

공유

ตอนที่ 6 ถ้าหาแฟนยากก็ไม่ต้องหา

last update 최신 업데이트: 2025-02-26 01:22:27

 

และวันที่เป็นกังวลก็มาถึงวันนี้เป็นวันที่โรงเรียนเก่าของปราญติญาจะจัดเลี้ยงซึ่งงานจะเริ่มในเวลาหกโมงเย็นแต่เธอและพรชนกก็เดินทางกลับมาบ้านตั้งแต่เช้า

ปราญติญาแวะส่งพรชนกที่บ้านและนัดเจอกันในเวลา 17:45 น. เพราะบ้านของพวกเธอนั้นอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนเมื่อส่งเพื่อนเสร็จแล้วหญิงสาวก็ขับรถกลับไปที่บ้านของตนเอง

“สวัสดีค่ะพ่อ สวัสดีค่ะแม่” หญิงสาวยกมือไหว้บิดามารดาที่นั่งรอเธออยู่ที่ระเบียงบ้าน

“สวัสดีจ้ะลูก กินข้าวมาหรือยัง”

“ป่านกินข้าวมาแล้วค่ะแม่ วันนี้แปลกจังที่พ่อไม่เข้าสวน”

“ก็พ่อรอเจอป่านก่อนไงล่ะ ขับรถมาเหนื่อยไหม”

“ไม่เลยค่ะ พ่อกับแม่สบายดีมั้ยคะ”

“สบายดีจ้ะ แต่แม่ว่าป่านผอมลงหรือเปล่าลูกยังจะลดความอ้วนอีกเหรอ”

“เปล่านะคะแม่ป่านก็น้ำหนักเท่าเดิมเลย”

“แม่คงติดภาพตอนที่ป่านเรียนม.ปลายมากไปหน่อย พอเห็นป่านผอมแม่ก็ไม่ค่อยชินตา”

“พ่อก็ว่าตอนนี้ลูกสาวของพ่อสวยกว่าตอนเรียนมากไม่รู้ว่าตอนนี้มีหนุ่มมาจีบบ้างหรือเปล่า” คุณอาคมถามเพื่อหยั่งเชิงเพราะถ้าหากปราญติญายังไม่มีแฟนเขาจะติดต่อลูกชายของเพื่อนให้กับลูกสาว

“ป่านมีแฟนแล้วค่ะและก็เพิ่งจะเลิกกันได้ไม่กี่วันพ่ออย่าพยายามหาใครมาแนะนำให้ป่านรู้จักเลยนะคะตอนนี้ป่านยังเจ็บอยู่และยังไม่พร้อมจะมีใคร” หญิงสาวรีบพูดดักคอผู้เป็นบิดาเรื่องที่เธอพูดก็เป็นเรื่องจริงที่เพิ่งเลิกกับแฟนแต่เรื่องที่เจ็บนั้นไม่ใช่เรื่องจริงเธอไม่ได้รู้สึกเสียใจที่เลิกกับรัฐภูมิแต่กลับรู้สึกดีใจด้วยซ้ำที่รู้นิสัยของเขาก่อนที่ตนเองจะถลำลึกมากไปกว่านี้

“แล้วเมื่อไหร่ลูกสาวพ่อจะมีแฟนล่ะ”

“คุณคะตอนนี้ลูกสาวของแล้วอายุยังน้อยอยู่เลยจะให้รีบมีแฟนไปทำไมล่ะ” คุณปัทมาภรณ์หันไปคุยกับสามี

“ใช่ค่ะตอนนี้ปานอายุยังไม่ถึงยี่สิบห้าเลย ป่านว่ารอให้พี่ป้องแต่งงานก่อนดีกว่านะคะ พ่ออย่าเพิ่งคิดถึงเรื่องของป่านเลย” หญิงสาวรีบโยนเรื่องนี้ไปทางพี่ชายซึ่งตอนนี้อายุก็เกือบจะ 30 ปีแล้วแต่ยังไม่เห็นวี่แววว่าเขาจะแต่งงาน

“ก็พี่เขาเป็นผู้ชายแต่งงานอายุมากหน่อยก็ไม่มีปัญหาหรอกแต่ผู้หญิงน่ะพออายุมากขึ้นก็จะหาแฟนยาก”

“ถ้าหาแฟนยากก็ไม่ต้องหาสิคะพ่อ อยู่แบบนี้สบายดีออกแม่ว่าจริงไหมคะ”

“แม่เห็นด้วยกับป่านนะลูกถ้าหาแฟนได้ไม่ดีพอหามาแล้วทำให้เราลำบากหรือมีปัญหาในชีวิตมากขึ้นแม่ว่าอยู่เป็นโสดก็ดีเหมือนกันนะ”

“ขอบคุณแม่มากๆ นะคะที่เข้าใจป่าน”

“เอาล่ะลูกขับรถมาเหนื่อยๆ พักผ่อนก่อนไหมแล้วเย็นนี้ยังจะต้องไปงานที่โรงเรียนอีก”

“ถ้างั้นป่านขอเข้าไปในห้องนอนก่อนนะคะ”

“ได้เลยจ้ะ แม่ให้คนทำความสะอาดไว้แล้ว แต่อย่าลืมออกมากินข้าวกลางวันนะ หนูอยากกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า”

“ป่านกินอะไรก็ได้ค่ะ ฝีมือแม่อร่อยทุกอย่างเลย” หญิงสาวกอดมารดาอย่างประจบก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง

เธอเปิดลิ้นชักหัวเตียงหยิบหนังสืออนุสรณ์ตอนที่ตัวเองเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่หกออกมาเปิดดู เธอเปิดไปยังห้องของตัวเองและทบทวนชื่อเพื่อนอีกทั้งเปรียบเทียบใบหน้าปัจจุบันกับใบหน้าในอดีตแล้วก็ยิ้มเพราะเพื่อนบางคนก็เปลี่ยนไปค่อนข้างมาก ทุกคนดูดีขึ้นสวยขึ้นซึ่งก็ไม่รู้ว่ารูปที่เห็นในโซเชียลกับตัวจริงจะต่างกันมาน้อยแค่ไหน

เพื่อนบางคนก็ไม่มีคอนแท็คในโลกโซเชียลหญิงสาวจึงไม่รู้ว่าผู้ชายคนที่เธอนอนด้วยนั้นเป็นเพื่อนของเธออย่างที่เป็นกังวลไหม

ในห้องของเธอมีผู้ชายทั้งหมดประมาณสิบห้าคนคนแต่ละคนเธอก็จำชื่อไม่ค่อยได้เท่าไหร่เพราะส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้สุงสิงกับเพื่อนผู้ชายเนื่องจากพวกนั้นชอบเรียกเธอว่ายัยอ้วนบ้างยัยเหยินบ้างหญิงสาวจึงไม่ค่อยเข้าใกล้และน้อยครั้งมากที่จะพูดคุยกับเพื่อนผู้ชายเหล่านั้น

เมื่อถึงเวลาเที่ยงปราญติญาก็ออกจากห้องมารับประทานอาหารกลางวันกับบิดามารดาและพี่ชายก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเองในตอนบ่ายอีกครั้ง

ส่วนเธอก็รอเวลาที่จะไปร่วมงานเลี้ยงที่โรงเรียนซึ่งพี่ชายและมารดาของเธอก็เป็นครูสอนอยู่ที่โรงเรียนนี้ด้วย

“ป่านจะไม่ไปพร้อมพี่เหรอ”

“ป่านต้องไปรับบุ๋มที่บ้านค่ะ พี่ป้องกับแม่รีบไปก่อนเถอะเพราะป่านเป็นแขกนะคะไม่ได้เป็นเจ้าภาพเหมือนพี่กับแม่”

“งานเลิกแล้วจะไปต่อที่ไหนกับหรือเปล่าลูก”

“ไม่รู้เหมือนกันค่ะคงต้องถามเพื่อนก่อน”

“ถ้าจะกลับดึกก็เอากุญแจบ้านไปด้วยเพราะถ้าเกิดกลับมาแล้วคนในบ้านหลับกันหมดจะได้ไม่ต้องนอนในรถ”

“ค่ะแม่” หญิงสาวเดินไปหยิบกุญแจสำรองลงกระเป๋าแล้วเดินมาส่งพี่ชายกับมารดาขึ้นรถก่อนที่ตัวเองจะกลับไปอาบน้ำแต่งตัวและขับรถออกจากบ้านเพื่อตรงไปยังบ้านของพรชนกที่อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่

เมื่อไปถึงพรชนกก็แต่งตัวรออยู่ก่อนแล้ว”

“โอ้โหวันนี้บุ๋มสวยมากๆ เลย” ปราญติญาชมเพื่อนเพื่อนที่แต่งตัวด้วยเสื้อแขนกุดสีฟ้าสดใสซึ่งเป็นสีประจำของโรงเรียน

“ป่านก็สวยเหมือนกันใส่กางเกงยีนแบบนี้ดูขาเรียวมากๆ แต่บุ๋มว่าเสื้อทันธรรมดาไปหน่อยไหม บุ๋มว่าเปลี่ยนเป็นเสื้อปาดไหล่ดีไหมจะได้ดูเซ็กซี่หน่อยเดี๋ยวบุ๋มเอาให้นะ”

พรชนกรีบเข้าไปหยิบเสื้อปาดไหล่สีฟ้ารัดรูปออกมาให้กับเพื่อน

“เปลี่ยนเลยป่านเสื้อตัวนี้ป่านใส่ต้องสวยมากแน่”

“ขอบใจนะบุ๋ม” ปราญติญาเข้าไปเปลี่ยนเสื้อในห้องน้ำเธอมองตัวเองในกระจกแล้วยิ้ม เสื้อตัวนี้ใส่แล้วสวยอย่างที่เพื่อนพูดจริงๆ

“สวยมากเลยป่าน คืนนี้พวกที่มันชอบว่าป่านใช้แอพแต่งรูปจะได้เห็นกันสักทีว่าป่านตัวจริงสวยมากกว่าในรูปตั้งเยอะ”

พรชนกพูดด้วยความแค้นเพราะเธอเห็นเป็นเพื่อนหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเวลาที่ปราญติญาลงรูปว่าเป็นการแต่งรูปจนทำให้เพื่อนของเธอขาดความมั่นใจและช่วงหลังมานี้ปราญติญาแทบจะไม่โพสต์รูปของตัวเองลงโซเชียลเลยเพราะเบื่อกับคำพูดพวกนั้น

“เราจะไปกันเลยไหมล่ะนี่มันก็ใกล้หกแล้วนะ”

“ออกจากบ้านสักหกโมงครึ่งดีกว่านั่งดูทีวีกันก่อนแล้วค่อยไป”

“ทำไมล่ะ”

“ก็ถ้าไปถึงก่อนเราก็จะไม่เด่นสิป่าน”

“แต่ป่านไม่อยากเด่นนะ”

“เอาเถอะน่าป่านเชื่อบุ๋มเถอะ”

ทั้งสองคนนั่งเล่นมือถือดูทีวีกันจนถึงเวลาหกโมงครึ่งปราญติญาก็ขับรถพาพรชนกมายังโรงเรียนที่พวกเธอเคยเรียนอยู่ซึ่งตอนนี้มีศิษย์เก่ามาร่วมงานกันอย่างมากมายทำให้พวกเธอต้องจอดรถไกลจากโรงเรียนมาก

“ถ้ารู้ว่ามาช้าแล้วจอดรถไกลแบบนี้บุ๋มคงรีบมา”

“เป็นไงล่ะบอกแล้วไม่เชื่อแล้วเดินไหวไหมบุ๋มให้ป่านวนไปส่งหน้าโรงเรียนกาอนไหม” ปราญติญาถามด้วยความเป็นห่วงเพราะวันนี้พรชนกใส่รองเท้าส้นสูงเธอก็กลัวว่าเพื่อนจะเดินไม่ไหว

“ไหวสิ”

เมื่อเดินเข้าไปในงานทั้งสองก็เป็นจุดสนใจของใครหลายๆ คน ทั้งสองไปสวัสดีทักทายอาจารย์ก่อนจะเดินไปยังโต๊ะของเพื่อนซึ่งตอนนี้ทั้งกลุ่มก็รอแค่พรชนกกับปราญติญาเท่านั้น

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ปากบอกไม่แต่ใส่สุดเกียร์   ตอนที่ 31 ตอนจบ

    ปราญติญาขับรถมาส่งพรชนกที่หน้าโรงพยาบาลเพราะใกล้จะถึงเวลาที่แฟนของเธอเลิกงานพอดี“บุ๋มดีใจกับป่านด้วยนะ”“ขอบใจจ้ะ ป่านก็ต้องขอบคุณบุ๋มมากถ้าบุ๋มไม่บอกให้ณุตามป่านไปที่สมุยป่านก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้ตัวเองจะเป็นยังไงบ้าง”“ป่านโชคดีมากๆ นะที่ณุเข้ามาช่วยไว้”“ใช่ป่านโชคดีมากทั้งเขาช่วยป่านไว้ทั้งคืนนั้นที่ป่านโดนยาปลุกเซ็กซ์และครั้งที่โดนผู้ชายเมาเข้ามาทำร้าย ถ้าไม่ได้ณุเข้ามาป่านคงแย่”“เพราะแบบนี้ป่านถึงยอมใจอ่อนแล้วยกโทษให้เขา”“มันก็มีส่วนอยู่นะแต่ระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ป่านห่างจากณุป่านก็ไม่เคยลืมเขาได้เลย บุ๋มว่ามันเร็วไปไหม”“ไม่หรอกนะป่านกับณุไม่ใช่เพิ่งรู้จักกันสักหน่อย ทั้งสองคนรู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนแล้วเพียงแต่ว่าแยกย้ายกันไปและกลับมาเจอกันอีกครั้ง บุ๋มบอกแล้วว่าคนเป็นเนื้อคู่กันยังไงวันหนึ่งก็ต้องกลับมาเจอกันอยู่ดี บุ๋มใจด้วยมากๆ บุ๋มไปก่อนนะ”เมื่อพรชนกลงจากรถไปแล้วปราญติญาก็ขับรถกลับมาที่คอนโดมิเนียมของภาณุวิชญ์อีกครั้งเมื่อมาถึงชายหนุ่มก็อาบน้ำสวมชุดนอนรออยู่แล้ว “วันนี้เป็นยังไงบ้างปวดแผลหรือเปล่า”“ไม่ปวดเลย ผมนอนทั้งวันจนจะปวดหลังแล้ว”“อดทนหน่อยนะยิ่งพักผ่อนเยอ

  • ปากบอกไม่แต่ใส่สุดเกียร์    ตอนที่ 30 เขาคือผู้ชายคนนั้น

    ปราญติญาและพรชนกนั่งคุยกันต่อไม่นานก็มีอุบัติเหตุเข้ามาที่ห้องฉุกเฉินเสียก่อนทั้งสองคนจึงรีบวิ่งออกมาทำงานซึ่งกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก็ถึงเวลาลงเวรเช้าพอดี“บุ๋มอยากไปเยี่ยมณุมั้ย”“จะดีเหรอ”“ดีสิณุต้องดีใจมากๆ ที่บุ๋มไปเยี่ยม”“จะไม่เป็นการรบกวนมากเกินไปใช่ไหม”“ไม่หรอกน่าเดี๋ยวป่านขอโทรถามณุก่อนว่าอยากจะกินอะไรเราจะได้ซื้อไปกินที่นั่น ว่าแต่บุ๋มจะไปกับป่านได้หรือเปล่าล่ะ”“ได้สิวันนี้พี่อรรถลงเวรสองทุ่มบุ๋มมีเวลาให้ป่านเยอะเลย ไปเยี่ยมณุหน่อยก็ดีเหมือนกัน”ปราญติญาโทรศัพท์ไปหาภาณุวิชญ์และบอกว่าจะชวนพรชนกมาทานอาหารเย็นด้วยชายหนุ่มก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะพรชนกก็คือเพื่อนของเขาและถ้าไม่มีเธอเขากับปราญติญาก็คงยังไม่เข้าใจหญิงสาวแวะซื้ออาหารที่ร้านด้านหน้าโรงพยาบาลก่อนจะขับรถพาพรชนกไปยังคอนโดมิเนียมของภาณุวิชญ์“เป็นยังไงบ้างเจ็บหนักเลยใช่ไหม” พรชนกทักทายภาณุวิชญ์ที่นั่งรออยู่ในห้องรับแขก“ก็นิดหน่อยนะแต่เจ็บครั้งนี้มันคุ้มมากๆ เลยนะ” เขาพูดแล้วมองหน้าปราญติญาแล้วยิ้ม“บุ๋มดีใจด้วยนะที่ป่านกับณุเข้าใจกันตกลงคบกินจริงใช่ไหม”“ผมต้องขอบคุณบุ๋มมากๆ ถ้าบุ๋มไม่ช่วยผมกลับป่านก็คงไม่เข้าใจกันเร็วแ

  • ปากบอกไม่แต่ใส่สุดเกียร์    ตอนที่ 29 เรื่องดีและเรื่องร้าย

    “ป่านทำไมถึงนอนห่างผมขนาดนั้นล่ะ ขยับเข้ามาใกล้ๆ ได้ไหม นอนห่างแบบนั้นแล้วผมจะกอดได้ยังไง”“ณุลืมอะไรไปหรือเปล่าณุมีแผลอยู่นะ ป่านกลัวจะดิ้นไปโดนแผลจริงๆ แล้วป่านน่าจะออกไปนอนอีกห้องหนึ่งหรือไม่ก็นอนที่ห้องรับแขกด้วยซ้ำ”“ไม่ได้นะ ป่านต้องนอนกับผมถ้าเกิดผมเป็นอะไรขึ้นมาตอนกลางคืนแล้วใครจะช่วยผมล่ะ”“ณุไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วนอนตอนอยู่ที่โรงพยาบาลก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร เอาหมอนข้างกั้นไว้แบบนี้ดีแล้วเกิดป่านดิ้นไปโดนแผลขึ้นมามันจะแย่เอานะ”“ทำไมไม่เห็นใจกันเลยนะ ไม่ได้นอนด้วยกันตั้งเดือนกว่าแล้วนะแล้วจะมานอนห่างกันแบบนี้ได้ยังไง”“ณุอย่างอแงเป็นเด็กสิตัวเองเจ็บอยู่นะ”“ก็อยากนอนกอด”“ถ้าณุยังงอแงพูดไม่รู้เรื่องป่านจะออกไปนอนที่ห้องรับแขกแล้วนะ”“ถ้างั้นขอจับมือได้ไหมนิดเดียวนะ”“ได้สิ” ปราญติญาตอบตกลงและให้ภาณุวิชญ์จับมือไว้จนกระทั่งชายหนุ่มหลับสนิทเธอแกะมือเขาออกแล้วห่มผ้าให้เขาจากนั้นก็กลับมานอนอีกฝั่งของเตียงปราญติญาตื่นนอนตั้งแต่เช้าเธอลงไปซื้อแซนด์วิชกับขนมปังมาให้ภาณุวิชญ์ทานเป็นอาหารเช้า ส่วนอาหารกลางวันจะให้เขาสั่งขึ้นมาทานเองเพราะเธอทำกับข้าวไม่เป็นหญิงสาวให้เขาทานยาก่อนอาหารและทาน

  • ปากบอกไม่แต่ใส่สุดเกียร์    ตอนที่ 28 ลืมเรื่องสองเดือนแรก

    “ผมขอโทษนะป่านที่ทำให้การมาเที่ยวสมุยของคุณต้องอุดอู้อยู่แต่ในโรงพยาบาล”“ไม่เป็นไรหรอกอย่างน้อยป่านก็ได้เที่ยวก่อนหน้าที่ณุจะมาแล้ว ว่าแต่ณุเถอะไหวแน่นะที่จะต้องออกโรงพยาบาลวันนี้”“ไหวสิผมไม่อยากอยู่ที่นี่คนเดียวหรอกนะ ป่านกลับกรุงเทพผมก็จะกลับด้วย หมอก็บอกแล้วว่าแผลของผมไม่ได้เป็นอะไรมากกลับไปรักษาตัวที่บ้านหรือโรงพยาบาลที่กรุงเทพก็ได้”“แล้วณุจะเอายังไงต่อจะไปนอนโรงพยาบาลไหมป่านจะได้ให้คุณหมอที่นี่เขาประสานงานให้”“ผมว่าไม่ดีกว่าตอนนี้ผมก็ดีขึ้นมากๆ แล้ว”“แต่ณุต้องกินยาแก้อักเสบให้ตรงเวลาและครบตามที่คุณหมอสั่งให้เข้าใจไหม”วันนี้เธอต้องกลับกรุงเทพตามกำหนดเดิมและภาณุวิชญ์ก็ไม่ยอมอยู่โรงพยาบาลต่อ เมื่อปรึกษาคุณหมอแล้วท่านก็อนุญาตให้เขาออกจากโรงพยาบาลได้แต่ต้องระวังเรื่องแผลและทานยาให้ครบคุณหมอให้ประวัติการรักษาไปด้วยเพราะเขาต้องไปให้หมอที่กรุงเทพตัดไหมให้ตอนนี้เธอเก็บของใช้ของตัวเองลงกระเป๋าเสร็จแล้วส่วนกระเป๋าเดินทางของภาณุวิชญ์ทางรีสอร์ทก็เอามาให้ตั้งแต่วันที่พาตำรวจมาสอบปากคำโรงพยาบาล เรื่องคดีเธอก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจและทางรีสอร์ทจัดการเพราะถึงเวลาแล้วที่หญิงสาวจะต้องบิน

  • ปากบอกไม่แต่ใส่สุดเกียร์    ตอนที่ 27 ขอเปลี่ยนคำตอบ

    ปราญติญาระบายความรู้สึกของตัวเองออกมาโดยที่หญิงสาวไม่รู้เลยว่าภาณุวิชญ์นั้นรู้สึกตัวตื่นตั้งแต่เธอกลับมาจากห้องน้ำ ภาณุวิชญ์รู้สึกดีมากที่ได้ยินคำพูดของหญิงสาว เขาเองก็รู้สึกไม่ได้ต่างจากปราญติญาเลยระยะเวลาที่ไม่ได้เจอกันหนึ่งเดือนนั้นทำให้เขารู้ใจตัวเองมากขึ้น เขาไม่สามารถลืมเรื่องราวระหว่างตนเองกับหญิงสาวได้เลย เขาตั้งใจไว้ว่าจะตามมาขอโทษเธออย่าจริงจังและขอโอกาสกับปราญติญาอีกครั้ง เขาจะบอกความรู้สึกที่มีกับเธอทั้งหมดเพราะกลัวว่าจะเสียเธอไปภาณุวิชญ์มาถึงสมุยในเย็นวันศุกร์หลังจากเช็กอินที่รีสอร์ทเดียวกับปราญติญาแล้วก็ไปหาเธอที่บ้านพักซึ่งรู้มาจากพรชนกว่าหญิงสาวพักอยู่ที่บ้านหลังไหนเมื่อไปถึงก็ยืนเคาะประตูอยู่นานแต่ทั้งบ้านก็เงียบสนิทชายหนุ่มจึงเดินไปหาเธอบริเวรชายหาดเพราะคิดว่าหญิงสาวน่าจะไปเดินเล่นเขาเดินไปเรื่อยๆ จนเห็นเธอเดินอยู่ที่ชายหาด แต่ก็ไม่ได้ตามเธอในระยะใกล้เพราะกลัวจะรบกวนเวลาของหญิงสาว แต่ก็ไม่คิดเลยว่าการที่เขาทิ้งระยะห่างจากเธอมากนั้นมันจะทำให้เกิดเรื่องไม่ดีขึ้น ถ้าหากปราญติญาเป็นอะไรไปเขาคงรู้สึกผิดและให้อภัยตัวเองไม่ได้อย่างแน่นอน“คุณจะหลับแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนนะ น

  • ปากบอกไม่แต่ใส่สุดเกียร์    ตอนที่ 26 ตื่นมาคุยกันหน่อย

    เพราะมัวแต่ตกใจปราญติญาจึงไม่ทันได้สังเกตว่าผู้ชายที่เข้ามาช่วยเธอนั้นคือใคร แต่พอพาเขาขึ้นมาบนรถพยาบาลและกำลังตรงไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดพยาบาลที่มาด้วยก็เริ่มซักประวัติชายหนุ่มเพราะกลัวว่าถ้าไปถึงที่โรงพยาบาลแล้วเขาจะหมดสติไปเสียก่อน“คนเจ็บชื่ออะไร อายุเท่าไหร่คะ เคยมารักษาที่นี่ไหม คุณมีบัตรประจำตัวหรือบัตรประกันติดตัวมาหรือเปล่า”“ผมชื่อภาณุวิชญ์อายุ 27 ปี บัตรประจำตัวบัตรประชาชนผมอยู่ในกระเป๋าครับ” เสียงที่ตอบนั้นฟังดูเบาแต่มันก็ทำให้ปราญติญารีบหันหน้าไปมองเธอตกใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นว่าคนที่นอนเจ็บอยู่ตรงหน้าคือภาณุวิชญ์“ณุมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”ภาณุวิชญ์ยิ้มก่อนจะตอบด้วยเสียงที่แผ่วเบา“ผมมาหาป่าน” เขาตอบเบาๆ เพราะตอนนี้เริ่มเจ็บแผลมากขึ้นเรื่อยๆ“คุณรู้จักกับคนเจ็บเหรอคะ” พยาบาลที่นั่งมาถามขึ้น“ค่ะฉันรู้จักเขา”“ถ้ายังงั้นเดี๋ยวไปถึงโรงพยาบาลคุณช่วยทำประวัติคนไข้ให้ฉันด้วยนะคะ เราอาจจะต้องรีบพาเขาเข้าไปผ่าตัดด่วนเพราะตอนนี้เลือกเขาออกเยอะมาก”“ที่นี่มีคุณหมอประจำห้องผ่าตัดใช่ไหมคะ”“มีค่ะคุณไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ แต่คนไข้ค่อนข้างเสียเลือดมาก คุณเลือกกรุ๊ปอะไรคะพอจะจำได้ไหม” พยาบ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status