ห้องสมุดแห่งความฝัน...ที่พักพิงของจินตนาการ:**
หลังจากการทำงานอันเหน็ดเหนื่อยในแต่ละวัน โรเซ่มักจะหลีกหนีจากความวุ่นวาย ไปยังสถานที่ที่เธอเรียกว่า "ห้องสมุดแห่งความฝัน" สถานที่แห่งนี้เป็นเหมือนโลกอีกใบของเธอ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและจินตนาการอันไร้ขีดจำกัด บรรยากาศที่เงียบสงบและอบอุ่นของห้องสมุด ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและได้ปลดปล่อยตัวเองไปกับโลกของหนังสือได้อย่างเต็มที่
หนังสือหลากหลายประเภท ตั้งแต่วรรณกรรมคลาสสิกไปจนถึงนิยายรักและแฟนตาซี ล้วนเป็นเพื่อนคู่ใจของเธอ โรเซ่ชอบที่จะสวมบทบาทเป็นตัวละครต่างๆ ในเรื่องราวที่เธออ่าน เธอกลายเป็นนางเอกผู้กล้าหาญในโลกแฟนตาซี เป็นหญิงสาวผู้มีความรักอันแสนหวาน หรือแม้แต่เป็นนักสืบที่ไขคดีปริศนา เธอเชื่อว่าการอ่านหนังสือช่วยเปิดโลกทัศน์และเติมเต็มจินตนาการของเธอได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เย็นวันหนึ่ง หลังจากใช้เวลาในห้องสมุดนานกว่าปกติ โรเซ่กลับมาถึงบ้านด้วยรอยยิ้มกว้างและดวงตาที่เปล่งประกายไปด้วยความตื่นเต้น เธอแทบจะอดใจไม่ไหวที่จะเล่าเรื่องราวที่เธอได้พบเจอในหนังสือให้ครอบครัวฟัง
"กลับมาแล้วเหรอลูก? วันนี้ดูท่าทางมีความสุขเป็นพิเศษนะ ไปอ่านหนังสืออะไรมาอีกล่ะ?" แม่ซูฮีทักทายจากในครัวด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
โรเซ่รีบหยิบหนังสือนิยายที่เพิ่งยืมมาขึ้นมา และยืนอยู่ตรงหน้าครอบครัวราวกับนักเล่านิทานมืออาชีพ "แม่ พ่อ วันนี้หนูเจอนิยายเรื่องใหม่ที่สนุกมากๆ เลยค่ะ เป็นเรื่องราวของหญิงสาวธรรมดาๆ ที่บังเอิญหลุดเข้าไปในโลกแฟนตาซี เธอต้องกลายเป็นนางเอกที่ต้องช่วยเหลืออาณาจักรนั้น!"
"โอ้...น่าสนใจจริงๆ แล้วนางเอกของเราทำอะไรบ้างล่ะ" พ่อมินซูถามด้วยความอยากรู้
โรเซ่ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาข้างๆ มินจี น้องสาวตัวน้อยที่ตั้งใจฟังเรื่องราวด้วยดวงตาที่เป็นประกาย "นางเอกคนนี้เก่งมากๆ ค่ะพ่อ เธอฉลาด กล้าหาญ และมีจิตใจดี ในเรื่องเธอได้ร่วมมือกับเจ้าชายผู้เฉลียวฉลาดและใจดี เขาทั้งสองต้องเผชิญหน้ากับอันตรายมากมาย แต่ก็มีช่วงเวลาที่ตลกและน่ารัก ทำให้พวกเขาสนิทกันมากยิ่งขึ้น"
มินจีขยับเข้ามาใกล้พี่สาวอย่างตื่นเต้น "ว้าว...พี่โรเซ่ หนูอยากเป็นนางเอกแบบนั้นบ้างจังเลย แล้วสุดท้ายเธอได้กลับบ้านไหมคะ?"
"ยังไม่รู้เลยจ้ะน้องมินจี เรื่องมันยังไม่จบ พี่ต้องไปอ่านต่อถึงจะรู้" โรเซ่ตอบด้วยรอยยิ้ม
"นี่ลูกรักนิยายจริงจังขนาดนี้เลยนะ โรเซ่ เห็นลูกกลายเป็นนางเอกในทุกๆ เรื่องที่อ่านแบบนี้ ไม่เบื่อบ้างเหรอ" แม่ซูฮีถามด้วยความเอ็นดู
"เบื่อได้ยังไงล่ะคะแม่ นี่คือโลกแห่งความฝันของหนูเลยนะ! ตอนที่หนูกำลังอ่านหนังสือ มันเหมือนกับหนูได้เข้าไปอยู่ในโลกนั้นจริงๆ ทุกครั้งที่อ่านก็เหมือนหนูได้หลุดเข้าไปในเรื่องราวเหล่านั้น ถ้าพวกเราได้เข้าไปในนิยายสักเรื่อง จะดีแค่ไหนนะคะ" โรเซ่ตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยจินตนาการ
พ่อมินซูหัวเราะกับความคิดของลูกสาว ขณะที่แม่ซูฮีมองดูด้วยความรักและความเข้าใจ เพราะเธอรู้ว่าการอ่านหนังสือเป็นสิ่งที่เติมเต็มความสุขให้กับโรเซ่
"แล้วถ้าลูกต้องเลือกระหว่างอยู่ในโลกนิยายหรืออยู่กับครอบครัวของเราล่ะ ลูกจะเลือกแบบไหน" พ่อถามด้วยรอยยิ้ม
"อืม...ถ้าหนูต้องอยู่ในโลกนิยาย หนูก็คงทำได้ไม่นาน แต่ถ้าให้หนูต้องทิ้งครอบครัวไป หนูก็คงทำไม่ได้ค่ะ เพราะทุกครั้งที่กลับบ้านมาเล่าเรื่องราวเหล่านี้ให้พ่อแม่ฟัง มันทำให้หนูมีความสุขที่สุดแล้ว" โรเซ่ตอบด้วยความจริงใจ
มินจียิ้มและพยักหน้าเห็นด้วย โรเซ่จึงยิ้มกว้างและลูบหัวน้องสาวด้วยความรัก
"ถ้าหนูเป็นนางเอกในเรื่อง หนูอยากกลับมาหาครอบครัวเหมือนกันค่ะ เพราะไม่มีที่ไหนที่อบอุ่นเท่าบ้านของเราอีกแล้ว" มินจีพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น
**เมื่อจินตนาการกลายเป็นความจริง...ร้านกาแฟในโลกนิยาย:**
หลังจากพูดคุยถึงเรื่องนิยายและโลกแฟนตาซีกันอย่างสนุกสนาน ครอบครัวก็เริ่มพูดคุยถึงแผนการที่จะเปิดร้านกาแฟในโลกนิยายที่โรเซ่จินตนาการขึ้นมา พ่อมินซูเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับการออกแบบร้าน แม่ซูฮีก็เสนอความคิดเห็นที่น่าสนใจ
"ถ้าเราสร้างร้านกาแฟในโลกนิยายของลูกได้จริงๆ มันคงเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นมากๆ เลยนะ" แม่ซูฮีพูดด้วยความตื่นเต้น "โรเซ่ลูกคิดว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ร้านกาแฟของเราพิเศษกว่าที่อื่น"
โรเซ่ยิ้มและเริ่มจินตนาการถึงรายละเอียดต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในโลกที่เธอสร้างขึ้น เธอหยิบกระดาษขึ้นมาและเริ่มจดไอเดียต่างๆ
"แม่คะ หนูว่าเจ้าชายที่หลงเข้ามาในร้านของเรา เขาจะชอบกาแฟรสชาติแบบไหนนะ? น่าจะเป็นกาแฟที่มีรสชาติอ่อนโยน หรือไม่ก็เป็นรสชาติที่ตื่นเต้นเหมือนกับเขากำลังผจญภัยในโลกใหม่"
"แล้วลูกจะทำกาแฟรสชาติแปลกๆ เช่น กาแฟรสเผ็ดหรือหวานจัดไหมล่ะ? เพื่อให้มันเข้ากับบรรยากาศการผจญภัยในโลกแฟนตาซี" พ่อมินซูถาม
"อ๋อ! หนูมีไอเดียค่ะพ่อ! หนูจะทำกาแฟที่มีรสชาติหลากหลาย เหมือนกับตัวละครในนิยายเลยค่ะ ทุกครั้งที่เขากลับเข้ามาที่ร้านกาแฟของเรา มันเหมือนกับการที่เขาได้สัมผัสกับรสชาติของการเดินทางทุกครั้งที่ดื่ม" โรเซ่ตอบด้วยความตื่นเต้น
"แสดงว่าร้านกาแฟของเราจะเป็นร้านที่ทุกคนอยากเข้ามาใช่ไหมพี่โรเซ่" มินจีถาม
"ใช่เลยจ้ะ! พอเจ้าชายเข้ามาในร้านแล้ว เราจะทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยการผจญภัยไปพร้อมกัน! น้องมินจีจะเป็นคนคอยต้อนรับลูกค้าและช่วยเสิร์ฟกาแฟให้พวกเขา" โรเซ่ตอบ
"เย้! หนูจะทำให้ทุกคนยิ้มได้" มินจีตอบด้วยรอยยิ้ม
"เห็นลูกๆ มีความฝันแบบนี้ แม่ก็มีความสุขมากๆ เลยนะ ถ้าเราได้สร้างโลกแบบนี้ขึ้นมา มันคงทำให้ทุกคนมีความสุขมากๆ เลย" แม่ซูฮีกล่าวด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น
**โลกแห่งความฝัน...เมื่อจินตนาการกลายเป็นจริง:**
เมื่อพูดถึงนิยาย โลกจินตนาการของโรเซ่ก็ยิ่งเปิดกว้าง ครอบครัวของเธอคอยรับฟังอย่างอบอุ่น และให้ความสำคัญกับสิ่งที่โรเซ่รักเสมอ ทำให้โรเซ่รู้สึกว่าความฝันและจินตนาการของเธอมีคนคอยสนับสนุนอยู่เสมอ ไม่มีเงื่อนไขใดๆ จากพ่อแม่ของเธอ ซึ่งทำให้เธอสามารถฝันได้อย่างไม่มีข้อจำกัด
การผจญภัยในโลกแฟนตาซีที่โรเซ่รักนั้น อาจจะไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในหน้าหนังสือเท่านั้น แต่มันอาจจะเป็นเรื่องราวที่ค่อยๆ ขยายออกไปในโลกแห่งความจริงที่โรเซ่และครอบครัวร่วมกันสร้างสรรค์ไปพร้อมกัน
โรเซ่นั่งอยู่ในห้องทำงานส่วนตัว บนโต๊ะทำงานเต็มไปด้วยหนังสือที่ซูโฮเคยอ่านและเขียนไว้ เธอมักจะเปิดดูมันในบางครั้ง เพื่อค้นหาคำตอบที่เขาเคยทิ้งไว้ในทุกบรรทัด ทุกตัวอักษรที่เขาเขียนดูเหมือนยังคงมีชีวิตและพลังงานบางอย่างหลงเหลืออยู่ แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในโลกนี้แล้ว แต่มันก็เหมือนกับเขายังคอยมอบคำแนะนำให้กับเธออยู่เสมอ"ซูโฮ...ขอบคุณที่ยังคงอยู่ในหัวใจของฉันเสมอ" โรเซ่พูดเบา ๆ กับตัวเอง ขณะที่เธอเปิดอ่านบทหนึ่งจากหนังสือที่เขาชื่นชอบ ซึ่งมันเต็มไปด้วยคำพูดที่เต็มไปด้วยความหวังและความรัก "ความฝันไม่มีวันสิ้นสุด"เมื่อเวลาผ่านไป โรเซ่เริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในตัวเอง เธอเริ่มเปิดใจให้กับสิ่งใหม่ ๆ หลังจากที่เธอได้พอใจกับการทำงานและการสร้าง Aura Seoul จนกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่บางครั้ง ความเหงาก็ทำให้เธอรู้สึกถึงความว่างเปล่าในใจ เมื่อเธอกลับบ้านในค่ำคืนที่เงียบสงบ เธอไม่อาจหลีกหนีความรู้สึกของการสูญเสียซูโฮ แม้เธอจะพยายามปล่อยให้เขาอยู่ในความทรงจำ แต่ความรู้สึกที่มีต่อเขากลับยังคงแน่นแฟ้น**การพบเจอ...และการเริ่มต้นใหม่:**จนกระทั่งวันหนึ่ง เธอได้พบกับยุคยองเป็นครั้งที่สองในงานเลี้
โรเซ่ยืนอยู่ท่ามกลางแสงไฟสว่างไสวในห้องทำงานของ Aura Seoul รอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจปรากฏบนใบหน้า เธอสัมผัสได้ถึงความสำเร็จที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เสียงปรบมือและคำชื่นชมจากงานเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ยังคงดังก้องอยู่ในหู"เธอรู้ไหม โรเซ่ ฉันคิดว่าเธอสามารถทำได้ดีมาก" แคลร์ เพื่อนสนิทและผู้ช่วยคนเก่งของเธอ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความยินดี"จริงเหรอคะ" โรเซ่ยิ้มกว้าง พลางยกมือขึ้นแตะหน้าอกข้างซ้าย "ฉันเองก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมาถึงจุดนี้ได้""ความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ของเธอคือสิ่งที่วงการนี้ต้องการ ไม่มีใครเหมือนเธอหรอก" จูฮี เพื่อนอีกคนเสริมด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจโรเซ่หัวเราะเบา ๆ"ขอบคุณนะ แต่ทุกครั้งที่ฉันต้องเผชิญหน้ากับการเปิดตัวใหม่ ๆ มันก็เหมือนกับการโดนตีในท้อง แต่ถ้าฉันไม่ทำแบบนี้ ฉันคงไม่รู้จักตัวเองว่าความสามารถที่แท้จริงของฉันคืออะไร" โรเซ่กล่าวด้วยแววตาที่มุ่งมั่น"ฉันก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกันนะ" จูฮีกล่าว "แต่เราจะอยู่ข้างเธอเสมอ สู้ ๆ นะ โรเซ่"โรเซ่รู้สึกอบอุ่นใจจากคำพูดของเพื่อน ๆ ซึ่งเป็นกำลังใจสำคัญในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้**ข่าวลือ...และการเผชิญหน้
ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบของห้องสมุดแห่งความฝัน โรเซ่พบว่ามันแตกต่างจากครั้งก่อน ๆ ทุกครั้งที่เธอมาที่นี่ มักจะมีแสงอ่อน ๆ สะท้อนผ่านหน้าต่างบานใหญ่ พร้อมเสียงเพลงเบา ๆ ที่ชวนให้รู้สึกอบอุ่น แต่ครั้งนี้ มันกลับดูหม่นหมองเล็กน้อย คล้ายกับการบอกลาที่กำลังใกล้เข้ามาซูโฮยืนอยู่ตรงมุมหนึ่งของห้อง เขายิ้มให้เธอเหมือนทุกครั้ง แต่โรเซ่รู้สึกได้ถึงความเศร้าที่แฝงอยู่ในดวงตาของเขา เธอเดินเข้าไปใกล้ ก่อนจะหยุดยืนตรงหน้าเขา"ผมดีใจที่คุณมาที่นี่อีกครั้ง" เสียงของซูโฮนุ่มนวลเหมือนเคย"ฉันจะไม่มาได้ยังไงล่ะ" โรเซ่ตอบพร้อมยิ้ม แม้ในใจเธอจะรู้สึกหนักอึ้ง "คุณเป็นคนสำคัญสำหรับฉันนี่นา"ซูโฮยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า"คุณเองก็เป็นคนสำคัญสำหรับผม แต่ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องเดินไปข้างหน้า ด้วยตัวของคุณเอง" ซูโฮกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความห่วงใยโรเซ่เม้มริมฝีปาก เธอรู้ว่านี่คือบทสนทนาสุดท้ายของพวกเขา แต่เธอกลับไม่อยากยอมรับความจริง"ฉันไม่อยากจากคุณไป..." เธอพูดเสียงเบา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรู้สึกที่อัดแน่นซูโฮก้าวเข้ามาใกล้ จับมือเธอไว้อย่างอ่อนโยน"ผมไม่อยากจากคุณเหมือนกัน แต่คุณมีชีวิตที่ต้องใช้ในโ
หลังจากให้คำสัญญา โรเซ่รู้สึกถึงความหนักอึ้งที่เคยเกาะกุมจิตใจเริ่มเบาบางลง เธอมองซูโฮที่ยังคงยิ้มให้เธอ รอยยิ้มนั้นแม้จะแฝงไปด้วยความเศร้า แต่กลับเต็มไปด้วยความจริงใจ"คุณเคยคิดไหมว่าทำไมฉันถึงได้พบคุณที่นี่" โรเซ่ถามพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม"ผมคิดว่าเราคงถูกกำหนดให้พบกัน" ซูโฮตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "บางทีการพบกันของเราอาจเป็นบทเรียนสำหรับทั้งคุณและผม""บทเรียน?" โรเซ่ทวนคำ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย"ใช่ครับ บทเรียนที่ทำให้คุณเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง และทำให้ผมได้เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง" ซูโฮอธิบายโรเซ่นิ่งเงียบ ดวงตาของเธอจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของซูโฮ เธอเริ่มเข้าใจความหมายที่เขาพยายามจะบอก"แต่ฉันยังไม่อยากให้คุณไป" เสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย"โรเซ่" ซูโฮพูดชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น "ทุกสิ่งในโลกนี้มีเวลาของมัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือความเศร้า สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้จักยอมรับและปล่อยวาง""คุณพูดเหมือนง่าย" เธอพึมพำ"มันไม่ง่ายหรอกครับ" ซูโฮยอมรับ "แต่คุณเป็นคนที่เข้มแข็ง ผมเชื่อว่าคุณทำได้"โรเซ่เม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่รู้ว่าจะตอบกลับเขาอย่างไรดี น้ำตาเริ่มไหลลงมาช้า ๆ"ฉันไม่เคยคิดเ
หลังจากให้คำสัญญา โรเซ่รู้สึกถึงความหนักอึ้งที่เคยเกาะกุมจิตใจเริ่มเบาบางลง เธอมองซูโฮที่ยังคงยิ้มให้เธอ รอยยิ้มนั้นแม้จะแฝงไปด้วยความเศร้า แต่กลับเต็มไปด้วยความจริงใจ"คุณเคยคิดไหมว่าทำไมฉันถึงได้พบคุณที่นี่" โรเซ่ถามพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม"ผมคิดว่าเราคงถูกกำหนดให้พบกัน" ซูโฮตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "บางทีการพบกันของเราอาจเป็นบทเรียนสำหรับทั้งคุณและผม""บทเรียน?" โรเซ่ทวนคำ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย"ใช่ครับ บทเรียนที่ทำให้คุณเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง และทำให้ผมได้เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง" ซูโฮอธิบายโรเซ่นิ่งเงียบ ดวงตาของเธอจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของซูโฮ เธอเริ่มเข้าใจความหมายที่เขาพยายามจะบอก"แต่ฉันยังไม่อยากให้คุณไป" เสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย"โรเซ่" ซูโฮพูดชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น "ทุกสิ่งในโลกนี้มีเวลาของมัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือความเศร้า สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้จักยอมรับและปล่อยวาง""คุณพูดเหมือนง่าย" เธอพึมพำ"มันไม่ง่ายหรอกครับ" ซูโฮยอมรับ "แต่คุณเป็นคนที่เข้มแข็ง ผมเชื่อว่าคุณทำได้"โรเซ่เม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่รู้ว่าจะตอบกลับเขาอย่างไรดี น้ำตาเริ่มไหลลงมาช้า ๆ"ฉันไม่เคยคิดเ
แสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้าของกรุงโซลทอประกายผ่านม่านสีขาว ส่องกระทบใบหน้าของโรเซ่ที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียง เธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏบนริมฝีปาก เมื่อนึกถึงความฝันอันแสนหวานที่เพิ่งผ่านพ้นไป เธอลุกขึ้นจากเตียงและเดินไปเปิดม่านหน้าต่าง กวาดสายตามองทิวทัศน์ของเมืองที่ค่อย ๆ ตื่นขึ้นจากนิทรา"วันนี้ต้องเป็นวันที่ดีแน่นอน" โรเซ่พูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สดใสเมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จ โรเซ่ก็เดินลงมายังห้องครัว กลิ่นหอมของอาหารเช้าลอยมาเตะจมูก เธอพบว่าคุณพ่อกำลังตักข้าวใส่ชาม ส่วนคุณแม่กำลังจัดวางเครื่องเคียงต่าง ๆ บนโต๊ะอาหาร มินจี น้องสาวของเธอนั่งรออยู่ด้วยท่าทางสดใส"เช้านี้ดูมีพลังจังเลยนะลูก" คุณแม่ทักทายด้วยรอยยิ้มโรเซ่ยิ้มกว้าง "แน่นอนค่ะ เมื่อคืนได้นอนเต็มอิ่มและมีเรื่องอยากเล่าให้ทุกคนฟังด้วย"มินจีที่กำลังตักกิมจิใส่จาน เงยหน้าขึ้นมาพูดแซว"จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับแฟชั่นโชว์ที่ปารีสอีกหรือเปล่า พี่นี่คงไม่หยุดพูดเรื่องนั้นแน่" มินจีกล่าวด้วยน้ำเสียงขี้เล่นโรเซ่หัวเราะเบา ๆ "แน่นอนสิ! นี่มันเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตฉันเลยนะ มินจี เธอควรภูมิใจกับพี่สาวคนนี้บ้าง"ทุกคนหั