หลังจากวันทำงานที่แสนยาวนาน โรเซ่เดินออกจากบริษัทด้วยความรู้สึกโล่งใจ เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ปล่อยให้ความเหนื่อยล้าจางหายไปกับสายลมเย็น เธอรู้ดีว่ามีสถานที่แห่งหนึ่งที่พร้อมจะต้อนรับและเติมเต็มจิตใจของเธอเสมอ นั่นก็คือ "ห้องสมุดแห่งความฝัน" ที่เธอรักยิ่ง
เมื่อประตูห้องสมุดเปิดออก เสียงกระดิ่งเล็ก ๆ ก็ดังขึ้นเบา ๆ ราวกับเสียงต้อนรับจากโลกอีกใบ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของกระดาษเก่าและบรรยากาศที่เงียบสงบ ทำให้โรเซ่รู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน เธอเดินเข้าไปข้างในอย่างคุ้นเคย
ลุงวูฮยอน ผู้ดูแลห้องสมุด ชายสูงวัยที่มีแว่นตากรอบหนาและรอยยิ้มที่แสนอบอุ่น เงยหน้าขึ้นจากหนังสือที่อ่านอยู่และทักทายเธอ
"สวัสดีจ้ะ โรเซ่ วันนี้มาถึงช้ากว่าปกตินะ งานเยอะหรือเปล่า" ลุงวูฮยอนถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง
"สวัสดีค่ะลุง! วันนี้งานยุ่งมาก ๆ เลยค่ะ เลยมาช้าหน่อย" โรเซ่ตอบพร้อมรอยยิ้ม "วันนี้หนูอยากอ่านแนวแฟนตาซีค่ะ อยากได้เรื่องที่มีทั้งการผจญภัยและความรัก"
"หืม...งั้นลุงแนะนำเรื่อง 'เจ้าหญิงแห่งรัตติกาล' แล้วกันนะ เป็นเรื่องราวของเจ้าหญิงที่ต้องออกเดินทางเพื่อตามหาวิธีถอนคำสาป เธอต้องเผชิญหน้ากับอันตรายและได้พบกับมิตรสหายมากมายเลยทีเดียว" ลุงวูฮยอนแนะนำ
"ฟังดูน่าสนใจมากเลยค่ะ! หนูว่าคืนนี้หนูคงต้องอ่านจนตาแฉะแน่ๆ" โรเซ่กล่าวด้วยความตื่นเต้น
โรเซ่รับหนังสือจากลุงวูฮยอนด้วยความดีใจ เธอเลือกที่นั่งประจำตรงมุมห้องสมุด ติดกับหน้าต่างที่มองเห็นท้องฟ้ายามเย็น เมื่อเธอเปิดหนังสืออ่าน โลกของเธอก็เหมือนกับได้เปลี่ยนไป เธอเริ่มจินตนาการตัวเองเป็นเจ้าหญิงที่กำลังผจญภัยในโลกแฟนตาซีอย่างที่ลุงวูฮยอนเล่าไว้
**การพบกัน...ในโลกแห่งหนังสือ:**
หลังจากอ่านไปได้สักพัก โรเซ่รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังหลุดเข้าไปในเรื่องราว เธอมองเห็นอาณาจักรที่เต็มไปด้วยหมอกหนาทึบและภูเขาสูงใหญ่ และเมื่อเธอเงยหน้าขึ้น เธอได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ จากมุมหนึ่งของห้องสมุด
เธอหันไปมอง และได้พบกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังอ่านหนังสืออย่างตั้งใจ เด็กหนุ่มคนนั้นมีใบหน้าที่อ่อนโยน แววตาที่เต็มไปด้วยความรู้ และรอยยิ้มที่ดูเป็นมิตร เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนๆ ที่ดูสะอาดสะอ้าน โรเซ่รู้สึกสนใจในตัวเขาอย่างประหลาด
หลังจากอ่านหนังสือของตัวเองได้เกือบชั่วโมง โรเซ่ก็รู้สึกถึงสายตาที่จ้องมองมา เธอเงยหน้าขึ้น และพบว่าเด็กหนุ่มคนนั้นกำลังมองมาที่เธอด้วยรอยยิ้ม
"คุณก็ชอบอ่านหนังสือเหมือนกันเหรอครับ" เด็กหนุ่มคนนั้นทักทาย "ผมเห็นคุณอ่านหนังสืออย่างสนุกสนานมากเลยนะ"
"ใช่ค่ะ! ฉันชอบอ่านหนังสือมาก โดยเฉพาะเรื่องที่มีการผจญภัย มันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนได้หนีไปอีกโลกหนึ่งเลย" โรเซ่ตอบด้วยรอยยิ้ม
"นั่นสินะ ผมก็รู้สึกเหมือนกัน เวลาที่ได้อ่านหนังสือสักเล่ม มันเหมือนกับเราได้ไปเจอโลกใหม่ ๆ ที่ไม่มีอยู่ในชีวิตจริง" เด็กหนุ่มกล่าว
พวกเขาสนทนากันอย่างถูกคอ พวกเขาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและมุมมองของกันและกันเกี่ยวกับหนังสือเรื่องโปรด โรเซ่รู้สึกว่าการสนทนากับเขามันช่างเป็นธรรมชาติและมีชีวิตชีวามาก
"ฉันชื่อโรเซ่นะคะ แล้วคุณชื่ออะไรคะ" โรเซ่ถาม
"ผมชื่อซูโฮครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะโรเซ่" ซูโฮตอบพร้อมรอยยิ้ม
หลังจากนั้น พวกเขาก็กลับไปอ่านหนังสือของตัวเอง โดยไม่ได้พูดอะไรกันอีก แต่การได้อยู่ใกล้ ๆ กับคนที่ชอบอะไรเหมือนกัน ทำให้โรเซ่รู้สึกอบอุ่นและสบายใจอย่างประหลาด
**มิตรภาพใหม่...และเรื่องเล่าที่ไม่จบ:**
จนกระทั่งถึงเวลาที่ห้องสมุดต้องปิด ลุงวูฮยอนเดินเข้ามาเตือนโรเซ่ด้วยความเป็นห่วง
"ถึงเวลาที่ห้องสมุดต้องปิดแล้วนะโรเซ่ วันนี้อย่าลืมกลับไปเล่าเรื่องที่อ่านให้ครอบครัวฟังล่ะ" ลุงวูฮยอนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
"ขอบคุณค่ะ ลุงวูฮยอน วันนี้สนุกมากเลยค่ะ แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะคะ" โรเซ่ตอบพร้อมรอยยิ้ม เธอมองไปที่ซูโฮ และยิ้มให้เขา ก่อนจะเดินออกจากห้องสมุดไปอย่างอิ่มเอมใจ
ระหว่างทางกลับบ้าน โรเซ่คิดถึงสิ่งที่ได้เจอในวันนี้ ทั้งซูโฮและนิยายที่ทำให้เธอจินตนาการอย่างเพลิดเพลิน เธอแทบจะอดใจรอไม่ไหวที่จะกลับไปเล่าเรื่องราวเหล่านี้ให้ครอบครัวฟัง
เมื่อกลับถึงบ้าน มินจี น้องสาวตัวน้อยของเธอก็กำลังนั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหารด้วยความตื่นเต้น
"พี่โรเซ่ กลับมาแล้ว! วันนี้พี่ไปอ่านเรื่องอะไรมาอีก บอกหนูเร็ว!" มินจีถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"วันนี้พี่อ่านเรื่องของเจ้าหญิงที่ต้องผจญภัยเพื่อแก้คำสาปน่ะ น่าสนุกมากเลย แถมยังได้เจอเพื่อนใหม่ที่ห้องสมุดด้วยนะ เขาก็เป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือเหมือนกัน" โรเซ่เล่า
"เอ้า งั้นวันนี้โรเซ่ก็มีเรื่องจะเล่าต่อไม่จบแน่เลย แล้วเขาคนนั้นเป็นใครล่ะจ๊ะ" แม่ซูฮีถามด้วยความเอ็นดู
"เขาชื่อซูโฮค่ะ เป็นคนใจดีและอ่อนโยนมาก ๆ พ่อคะ แม่คะ มันเหมือนกับพี่หลุดเข้าไปในโลกนิยายจริงๆ เลยค่ะ" โรเซ่พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
"ก็ดีนี่ลูก ได้เจอเพื่อนที่มีความชอบเหมือนกัน แล้วจะไปเจอกันอีกไหมล่ะ" พ่อมินซูถามด้วยรอยยิ้ม
"พรุ่งนี้ค่ะ! หนูจะกลับไปที่ห้องสมุดอีกครั้ง หนูอยากรู้จักเขาให้มากกว่านี้ และอยากอ่านหนังสือต่อด้วย" โรเซ่ตอบด้วยความมั่นใจ
มินจีและแม่ของเธอยิ้มอย่างอ่อนโยน เมื่อเห็นว่าโรเซ่มีความสุขจากสิ่งเล็ก ๆ ในชีวิต โรเซ่พูดคุยกับครอบครัวด้วยเสียงที่สดใส แววตาของเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้นในโลกของหนังสือและเพื่อนใหม่ที่ห้องสมุด
โรเซ่นั่งอยู่ในห้องทำงานส่วนตัว บนโต๊ะทำงานเต็มไปด้วยหนังสือที่ซูโฮเคยอ่านและเขียนไว้ เธอมักจะเปิดดูมันในบางครั้ง เพื่อค้นหาคำตอบที่เขาเคยทิ้งไว้ในทุกบรรทัด ทุกตัวอักษรที่เขาเขียนดูเหมือนยังคงมีชีวิตและพลังงานบางอย่างหลงเหลืออยู่ แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในโลกนี้แล้ว แต่มันก็เหมือนกับเขายังคอยมอบคำแนะนำให้กับเธออยู่เสมอ"ซูโฮ...ขอบคุณที่ยังคงอยู่ในหัวใจของฉันเสมอ" โรเซ่พูดเบา ๆ กับตัวเอง ขณะที่เธอเปิดอ่านบทหนึ่งจากหนังสือที่เขาชื่นชอบ ซึ่งมันเต็มไปด้วยคำพูดที่เต็มไปด้วยความหวังและความรัก "ความฝันไม่มีวันสิ้นสุด"เมื่อเวลาผ่านไป โรเซ่เริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในตัวเอง เธอเริ่มเปิดใจให้กับสิ่งใหม่ ๆ หลังจากที่เธอได้พอใจกับการทำงานและการสร้าง Aura Seoul จนกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่บางครั้ง ความเหงาก็ทำให้เธอรู้สึกถึงความว่างเปล่าในใจ เมื่อเธอกลับบ้านในค่ำคืนที่เงียบสงบ เธอไม่อาจหลีกหนีความรู้สึกของการสูญเสียซูโฮ แม้เธอจะพยายามปล่อยให้เขาอยู่ในความทรงจำ แต่ความรู้สึกที่มีต่อเขากลับยังคงแน่นแฟ้น**การพบเจอ...และการเริ่มต้นใหม่:**จนกระทั่งวันหนึ่ง เธอได้พบกับยุคยองเป็นครั้งที่สองในงานเลี้
โรเซ่ยืนอยู่ท่ามกลางแสงไฟสว่างไสวในห้องทำงานของ Aura Seoul รอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจปรากฏบนใบหน้า เธอสัมผัสได้ถึงความสำเร็จที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เสียงปรบมือและคำชื่นชมจากงานเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ยังคงดังก้องอยู่ในหู"เธอรู้ไหม โรเซ่ ฉันคิดว่าเธอสามารถทำได้ดีมาก" แคลร์ เพื่อนสนิทและผู้ช่วยคนเก่งของเธอ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความยินดี"จริงเหรอคะ" โรเซ่ยิ้มกว้าง พลางยกมือขึ้นแตะหน้าอกข้างซ้าย "ฉันเองก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมาถึงจุดนี้ได้""ความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ของเธอคือสิ่งที่วงการนี้ต้องการ ไม่มีใครเหมือนเธอหรอก" จูฮี เพื่อนอีกคนเสริมด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจโรเซ่หัวเราะเบา ๆ"ขอบคุณนะ แต่ทุกครั้งที่ฉันต้องเผชิญหน้ากับการเปิดตัวใหม่ ๆ มันก็เหมือนกับการโดนตีในท้อง แต่ถ้าฉันไม่ทำแบบนี้ ฉันคงไม่รู้จักตัวเองว่าความสามารถที่แท้จริงของฉันคืออะไร" โรเซ่กล่าวด้วยแววตาที่มุ่งมั่น"ฉันก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกันนะ" จูฮีกล่าว "แต่เราจะอยู่ข้างเธอเสมอ สู้ ๆ นะ โรเซ่"โรเซ่รู้สึกอบอุ่นใจจากคำพูดของเพื่อน ๆ ซึ่งเป็นกำลังใจสำคัญในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้**ข่าวลือ...และการเผชิญหน้
ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบของห้องสมุดแห่งความฝัน โรเซ่พบว่ามันแตกต่างจากครั้งก่อน ๆ ทุกครั้งที่เธอมาที่นี่ มักจะมีแสงอ่อน ๆ สะท้อนผ่านหน้าต่างบานใหญ่ พร้อมเสียงเพลงเบา ๆ ที่ชวนให้รู้สึกอบอุ่น แต่ครั้งนี้ มันกลับดูหม่นหมองเล็กน้อย คล้ายกับการบอกลาที่กำลังใกล้เข้ามาซูโฮยืนอยู่ตรงมุมหนึ่งของห้อง เขายิ้มให้เธอเหมือนทุกครั้ง แต่โรเซ่รู้สึกได้ถึงความเศร้าที่แฝงอยู่ในดวงตาของเขา เธอเดินเข้าไปใกล้ ก่อนจะหยุดยืนตรงหน้าเขา"ผมดีใจที่คุณมาที่นี่อีกครั้ง" เสียงของซูโฮนุ่มนวลเหมือนเคย"ฉันจะไม่มาได้ยังไงล่ะ" โรเซ่ตอบพร้อมยิ้ม แม้ในใจเธอจะรู้สึกหนักอึ้ง "คุณเป็นคนสำคัญสำหรับฉันนี่นา"ซูโฮยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า"คุณเองก็เป็นคนสำคัญสำหรับผม แต่ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องเดินไปข้างหน้า ด้วยตัวของคุณเอง" ซูโฮกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความห่วงใยโรเซ่เม้มริมฝีปาก เธอรู้ว่านี่คือบทสนทนาสุดท้ายของพวกเขา แต่เธอกลับไม่อยากยอมรับความจริง"ฉันไม่อยากจากคุณไป..." เธอพูดเสียงเบา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรู้สึกที่อัดแน่นซูโฮก้าวเข้ามาใกล้ จับมือเธอไว้อย่างอ่อนโยน"ผมไม่อยากจากคุณเหมือนกัน แต่คุณมีชีวิตที่ต้องใช้ในโ
หลังจากให้คำสัญญา โรเซ่รู้สึกถึงความหนักอึ้งที่เคยเกาะกุมจิตใจเริ่มเบาบางลง เธอมองซูโฮที่ยังคงยิ้มให้เธอ รอยยิ้มนั้นแม้จะแฝงไปด้วยความเศร้า แต่กลับเต็มไปด้วยความจริงใจ"คุณเคยคิดไหมว่าทำไมฉันถึงได้พบคุณที่นี่" โรเซ่ถามพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม"ผมคิดว่าเราคงถูกกำหนดให้พบกัน" ซูโฮตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "บางทีการพบกันของเราอาจเป็นบทเรียนสำหรับทั้งคุณและผม""บทเรียน?" โรเซ่ทวนคำ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย"ใช่ครับ บทเรียนที่ทำให้คุณเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง และทำให้ผมได้เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง" ซูโฮอธิบายโรเซ่นิ่งเงียบ ดวงตาของเธอจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของซูโฮ เธอเริ่มเข้าใจความหมายที่เขาพยายามจะบอก"แต่ฉันยังไม่อยากให้คุณไป" เสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย"โรเซ่" ซูโฮพูดชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น "ทุกสิ่งในโลกนี้มีเวลาของมัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือความเศร้า สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้จักยอมรับและปล่อยวาง""คุณพูดเหมือนง่าย" เธอพึมพำ"มันไม่ง่ายหรอกครับ" ซูโฮยอมรับ "แต่คุณเป็นคนที่เข้มแข็ง ผมเชื่อว่าคุณทำได้"โรเซ่เม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่รู้ว่าจะตอบกลับเขาอย่างไรดี น้ำตาเริ่มไหลลงมาช้า ๆ"ฉันไม่เคยคิดเ
หลังจากให้คำสัญญา โรเซ่รู้สึกถึงความหนักอึ้งที่เคยเกาะกุมจิตใจเริ่มเบาบางลง เธอมองซูโฮที่ยังคงยิ้มให้เธอ รอยยิ้มนั้นแม้จะแฝงไปด้วยความเศร้า แต่กลับเต็มไปด้วยความจริงใจ"คุณเคยคิดไหมว่าทำไมฉันถึงได้พบคุณที่นี่" โรเซ่ถามพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม"ผมคิดว่าเราคงถูกกำหนดให้พบกัน" ซูโฮตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "บางทีการพบกันของเราอาจเป็นบทเรียนสำหรับทั้งคุณและผม""บทเรียน?" โรเซ่ทวนคำ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย"ใช่ครับ บทเรียนที่ทำให้คุณเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง และทำให้ผมได้เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง" ซูโฮอธิบายโรเซ่นิ่งเงียบ ดวงตาของเธอจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของซูโฮ เธอเริ่มเข้าใจความหมายที่เขาพยายามจะบอก"แต่ฉันยังไม่อยากให้คุณไป" เสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย"โรเซ่" ซูโฮพูดชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น "ทุกสิ่งในโลกนี้มีเวลาของมัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือความเศร้า สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้จักยอมรับและปล่อยวาง""คุณพูดเหมือนง่าย" เธอพึมพำ"มันไม่ง่ายหรอกครับ" ซูโฮยอมรับ "แต่คุณเป็นคนที่เข้มแข็ง ผมเชื่อว่าคุณทำได้"โรเซ่เม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่รู้ว่าจะตอบกลับเขาอย่างไรดี น้ำตาเริ่มไหลลงมาช้า ๆ"ฉันไม่เคยคิดเ
แสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้าของกรุงโซลทอประกายผ่านม่านสีขาว ส่องกระทบใบหน้าของโรเซ่ที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียง เธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏบนริมฝีปาก เมื่อนึกถึงความฝันอันแสนหวานที่เพิ่งผ่านพ้นไป เธอลุกขึ้นจากเตียงและเดินไปเปิดม่านหน้าต่าง กวาดสายตามองทิวทัศน์ของเมืองที่ค่อย ๆ ตื่นขึ้นจากนิทรา"วันนี้ต้องเป็นวันที่ดีแน่นอน" โรเซ่พูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สดใสเมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จ โรเซ่ก็เดินลงมายังห้องครัว กลิ่นหอมของอาหารเช้าลอยมาเตะจมูก เธอพบว่าคุณพ่อกำลังตักข้าวใส่ชาม ส่วนคุณแม่กำลังจัดวางเครื่องเคียงต่าง ๆ บนโต๊ะอาหาร มินจี น้องสาวของเธอนั่งรออยู่ด้วยท่าทางสดใส"เช้านี้ดูมีพลังจังเลยนะลูก" คุณแม่ทักทายด้วยรอยยิ้มโรเซ่ยิ้มกว้าง "แน่นอนค่ะ เมื่อคืนได้นอนเต็มอิ่มและมีเรื่องอยากเล่าให้ทุกคนฟังด้วย"มินจีที่กำลังตักกิมจิใส่จาน เงยหน้าขึ้นมาพูดแซว"จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับแฟชั่นโชว์ที่ปารีสอีกหรือเปล่า พี่นี่คงไม่หยุดพูดเรื่องนั้นแน่" มินจีกล่าวด้วยน้ำเสียงขี้เล่นโรเซ่หัวเราะเบา ๆ "แน่นอนสิ! นี่มันเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตฉันเลยนะ มินจี เธอควรภูมิใจกับพี่สาวคนนี้บ้าง"ทุกคนหั