โรเซ่ไม่เพียงแต่เป็นดีไซเนอร์ที่เก่งกาจ แต่เธอยังเป็นเหมือนกาวใจที่เชื่อมความสัมพันธ์ของเพื่อนร่วมงานให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เธอเชื่อว่าการได้ใช้เวลาร่วมกัน พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และหัวเราะอย่างมีความสุข จะช่วยเติมพลังให้ทุกคนพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ
"นี่คือ 'การประชุมอาหาร' ของเราทุกคน!" โรเซ่ประกาศอย่างร่าเริงขณะวางจานคุกกี้ช็อกโกแลตชิปที่เธอทำเองลงบนโต๊ะ "มาเติมพลังกันหน่อย ก่อนที่เราจะไปสร้างสรรค์ผลงานที่ยิ่งใหญ่!"
"โรเซ่...เธอทำขนมเก่งขนาดนี้ น่าจะเปิดร้านเบเกอรี่นะ" จันจิเอ่ยชมด้วยความชื่นชม
"ใช่ๆ ฉันอยากกินเค้กที่เธอทำทุกวันเลย" มินอาเสริม
"แล้วถ้าฉันทำเสื้อผ้าลายแมวสุดน่ารักออกมา ลูกค้าคงต้องรักมันมากแน่ๆ เลย!" โรเซ่พูดพลางจินตนาการถึงคอลเลกชันใหม่ของเธอ
"ห้ามพูดแบบนั้นเลยนะ! ไม่งั้นฉันก็จะกลายเป็นดีไซเนอร์ที่ออกแบบ 'แมวลาย' ไปแล้วสิ!" ฮานาแกล้งทำเสียงโอดครวญ ทำให้ทุกคนหัวเราะออกมา
โรเซ่สังเกตว่าฮานาเป็นคนจริงจังกับการทำงานมาก เธอจึงมักจะชวนฮานาพักผ่อนและคลายเครียดบ้าง "ฮานา...มาลองคุกกี้ของฉันหน่อยสิ มันอร่อยจนทำให้เธอหายเครียดได้เลยนะ"
"อร่อยมาก! เธอทำได้ยังไงเนี่ย" ฮานาเอ่ยชมด้วยความประหลาดใจ
"ก็เพราะว่าฉันใส่ความรักลงไปด้วยไง" โรเซ่ตอบพร้อมรอยยิ้ม
**พลังแห่งการสนับสนุน...แรงใจที่สำคัญ:**
เพื่อนของโรเซ่แต่ละคนต่างมีบุคลิกที่โดดเด่นและมีอารมณ์ขัน พวกเขาไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมงาน แต่เป็นเหมือนครอบครัวที่คอยสนับสนุนและให้กำลังใจกันเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการระดมสมองเพื่อหาไอเดียใหม่ๆ การแบ่งปันเรื่องราวตลกๆ หรือแม้กระทั่งการนัดรวมกลุ่มกันหลังเลิกงาน ทุกช่วงเวลาที่ได้ใช้ร่วมกัน ทำให้โรเซ่รู้สึกว่าเธอไม่ได้อยู่คนเดียวบนเส้นทางสายแฟชั่นนี้
ความรักและการสนับสนุนจากเพื่อนๆ ทำให้โรเซ่มีความสุขกับการทำงานมากยิ่งขึ้น เธอรู้สึกว่าตัวเองมีพลังมากขึ้น และพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ๆ ที่เข้ามา
**ช่วงเวลาแห่งมิตรภาพ...การเติมเต็มในทุกวัน:**
ช่วงเวลาพักเที่ยงเป็นเหมือนช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนและเติมพลังของโรเซ่ เธอจะรีบไปที่ห้องพักของบริษัท ซึ่งกลายเป็นจุดนัดพบประจำของกลุ่มเพื่อน โดยเฉพาะมินอาที่มักจะนั่งรอเธออยู่ก่อนแล้ว
"โรเซ่จ๋า! วันนี้ฉันเตรียม 'คุกกี้ดับเบิลช็อก' สูตรพิเศษมาให้เธอด้วยนะ" มินอาพูดพร้อมยื่นกล่องคุกกี้ให้
"จริงเหรอ! คุกกี้ของเธอเป็นไอเทมที่ฮิตที่สุดในบริษัทแล้วนะเนี่ย ฉันขอลองชิมก่อนใครเลยละกัน!" โรเซ่ตอบด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
ทั้งสองสาวหัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนาน ขณะที่โรเซ่ชิมคุกกี้ที่กรอบนอกนุ่มใน เธอมองเห็นมินอาที่กำลังยิ้มอย่างสดใส และรู้สึกว่ามิตรภาพของพวกเธอนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
"พวกเธอคงไม่ลืมเรื่อง 'นัดดื่มสุดสัปดาห์' ของเรานะ" ซูจินพูดพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ "ฉันเตรียม 'เกมทายใจ' ไว้ให้พวกเธอเล่นกันด้วย"
"ฉันไม่ลืมหรอกซูจิน! แต่วันนี้เธอต้องเล่าเรื่องที่ทำให้ฉันขำจนท้องแข็งให้ฟังอีกนะ" โรเซ่ตอบพร้อมหัวเราะ
ทุกคนต่างหัวเราะและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน โรเซ่รู้สึกโชคดีมากที่ได้มีเพื่อนที่น่ารักและคอยเป็นกำลังใจให้กันและกันในทุกๆ วัน
**ความท้าทายใหม่...โอกาสแห่งการเติบโต:**
เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงช่วงบ่าย โรเซ่ได้รับการเรียกตัวจากคุณชเวให้ไปพบในห้องทำงานอีกครั้ง หัวใจของเธอเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น เธอไม่รู้ว่าคุณชเวเรียกเธอไปพบด้วยเรื่องอะไร แต่ก็รู้สึกว่ามันต้องเป็นเรื่องสำคัญแน่นอน
"โรเซ่ ฉันอยากให้เธอเข้าร่วมโปรเจกต์พิเศษที่จะเป็นคอลเลกชันที่โดดเด่นที่สุดแห่งปีนี้" คุณชเวพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "เธอสนใจไหม"
"ขอบคุณมากค่ะคุณชเว! ฉันยินดีมากค่ะ ฉันจะทำให้ดีที่สุดแน่นอน!" โรเซ่ตอบด้วยความมุ่งมั่น แววตาของเธอเปล่งประกายด้วยความกระตือรือร้น
คุณชเวพยักหน้าด้วยความพึงพอใจและแอบยิ้มเล็กน้อย แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในความสามารถของโรเซ่
**ค่ำคืนแห่งมิตรภาพ...การผ่อนคลายจากความเครียด:**
หลังเลิกงาน โรเซ่และเพื่อนๆ นัดกันที่ร้านกาแฟใกล้บริษัท เพื่อพูดคุยผ่อนคลายและปล่อยวางจากความเครียดจากการทำงาน
"เอาล่ะ! วันนี้ใครจะเล่าเรื่องสนุกๆ ให้ฟังบ้าง" ยุนซูเปิดประเด็นด้วยเสียงสดใส
"ไม่ต้องห่วง! ยกหน้าที่ให้โรเซ่เลย เธอมีเรื่องเล่าตลกๆ ตลอด" มินอาตอบ
"งั้นฉันจะเล่าเรื่องลูกค้าคนหนึ่งที่ทำให้ฉันอึ้งไปเลยละกัน!" โรเซ่เริ่มเล่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น "เขามาถามฉันว่า 'เสื้อผ้าพวกนี้ใส่แล้วจะทำให้ดูเหมือนคนรวยได้ไหม?' ฉันแทบขำเลย แต่ก็ต้องตอบไปว่า 'เสื้อผ้าช่วยให้ดูดีได้ แต่ตัวเธอเองต้องช่วยด้วยนะ!'"
ทุกคนหัวเราะเสียงดังเมื่อได้ฟังเรื่องเล่าของโรเซ่ เสียงหัวเราะของพวกเขาดังสนั่นไปทั่วร้านกาแฟ มิตรภาพของกลุ่มเพื่อนเหล่านี้ทำให้โรเซ่รู้สึกว่าการทำงานที่ Aura Seoul ไม่ใช่เพียงแค่การทำงาน แต่เป็นช่วงเวลาที่เธอได้เติบโตและมีความสุขไปพร้อมกับเพื่อนๆ
โรเซ่นั่งอยู่ในห้องทำงานส่วนตัว บนโต๊ะทำงานเต็มไปด้วยหนังสือที่ซูโฮเคยอ่านและเขียนไว้ เธอมักจะเปิดดูมันในบางครั้ง เพื่อค้นหาคำตอบที่เขาเคยทิ้งไว้ในทุกบรรทัด ทุกตัวอักษรที่เขาเขียนดูเหมือนยังคงมีชีวิตและพลังงานบางอย่างหลงเหลืออยู่ แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในโลกนี้แล้ว แต่มันก็เหมือนกับเขายังคอยมอบคำแนะนำให้กับเธออยู่เสมอ"ซูโฮ...ขอบคุณที่ยังคงอยู่ในหัวใจของฉันเสมอ" โรเซ่พูดเบา ๆ กับตัวเอง ขณะที่เธอเปิดอ่านบทหนึ่งจากหนังสือที่เขาชื่นชอบ ซึ่งมันเต็มไปด้วยคำพูดที่เต็มไปด้วยความหวังและความรัก "ความฝันไม่มีวันสิ้นสุด"เมื่อเวลาผ่านไป โรเซ่เริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในตัวเอง เธอเริ่มเปิดใจให้กับสิ่งใหม่ ๆ หลังจากที่เธอได้พอใจกับการทำงานและการสร้าง Aura Seoul จนกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่บางครั้ง ความเหงาก็ทำให้เธอรู้สึกถึงความว่างเปล่าในใจ เมื่อเธอกลับบ้านในค่ำคืนที่เงียบสงบ เธอไม่อาจหลีกหนีความรู้สึกของการสูญเสียซูโฮ แม้เธอจะพยายามปล่อยให้เขาอยู่ในความทรงจำ แต่ความรู้สึกที่มีต่อเขากลับยังคงแน่นแฟ้น**การพบเจอ...และการเริ่มต้นใหม่:**จนกระทั่งวันหนึ่ง เธอได้พบกับยุคยองเป็นครั้งที่สองในงานเลี้
โรเซ่ยืนอยู่ท่ามกลางแสงไฟสว่างไสวในห้องทำงานของ Aura Seoul รอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจปรากฏบนใบหน้า เธอสัมผัสได้ถึงความสำเร็จที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เสียงปรบมือและคำชื่นชมจากงานเปิดตัวคอลเลกชันใหม่ยังคงดังก้องอยู่ในหู"เธอรู้ไหม โรเซ่ ฉันคิดว่าเธอสามารถทำได้ดีมาก" แคลร์ เพื่อนสนิทและผู้ช่วยคนเก่งของเธอ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความยินดี"จริงเหรอคะ" โรเซ่ยิ้มกว้าง พลางยกมือขึ้นแตะหน้าอกข้างซ้าย "ฉันเองก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมาถึงจุดนี้ได้""ความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ของเธอคือสิ่งที่วงการนี้ต้องการ ไม่มีใครเหมือนเธอหรอก" จูฮี เพื่อนอีกคนเสริมด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจโรเซ่หัวเราะเบา ๆ"ขอบคุณนะ แต่ทุกครั้งที่ฉันต้องเผชิญหน้ากับการเปิดตัวใหม่ ๆ มันก็เหมือนกับการโดนตีในท้อง แต่ถ้าฉันไม่ทำแบบนี้ ฉันคงไม่รู้จักตัวเองว่าความสามารถที่แท้จริงของฉันคืออะไร" โรเซ่กล่าวด้วยแววตาที่มุ่งมั่น"ฉันก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกันนะ" จูฮีกล่าว "แต่เราจะอยู่ข้างเธอเสมอ สู้ ๆ นะ โรเซ่"โรเซ่รู้สึกอบอุ่นใจจากคำพูดของเพื่อน ๆ ซึ่งเป็นกำลังใจสำคัญในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้**ข่าวลือ...และการเผชิญหน้
ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบของห้องสมุดแห่งความฝัน โรเซ่พบว่ามันแตกต่างจากครั้งก่อน ๆ ทุกครั้งที่เธอมาที่นี่ มักจะมีแสงอ่อน ๆ สะท้อนผ่านหน้าต่างบานใหญ่ พร้อมเสียงเพลงเบา ๆ ที่ชวนให้รู้สึกอบอุ่น แต่ครั้งนี้ มันกลับดูหม่นหมองเล็กน้อย คล้ายกับการบอกลาที่กำลังใกล้เข้ามาซูโฮยืนอยู่ตรงมุมหนึ่งของห้อง เขายิ้มให้เธอเหมือนทุกครั้ง แต่โรเซ่รู้สึกได้ถึงความเศร้าที่แฝงอยู่ในดวงตาของเขา เธอเดินเข้าไปใกล้ ก่อนจะหยุดยืนตรงหน้าเขา"ผมดีใจที่คุณมาที่นี่อีกครั้ง" เสียงของซูโฮนุ่มนวลเหมือนเคย"ฉันจะไม่มาได้ยังไงล่ะ" โรเซ่ตอบพร้อมยิ้ม แม้ในใจเธอจะรู้สึกหนักอึ้ง "คุณเป็นคนสำคัญสำหรับฉันนี่นา"ซูโฮยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า"คุณเองก็เป็นคนสำคัญสำหรับผม แต่ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องเดินไปข้างหน้า ด้วยตัวของคุณเอง" ซูโฮกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความห่วงใยโรเซ่เม้มริมฝีปาก เธอรู้ว่านี่คือบทสนทนาสุดท้ายของพวกเขา แต่เธอกลับไม่อยากยอมรับความจริง"ฉันไม่อยากจากคุณไป..." เธอพูดเสียงเบา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรู้สึกที่อัดแน่นซูโฮก้าวเข้ามาใกล้ จับมือเธอไว้อย่างอ่อนโยน"ผมไม่อยากจากคุณเหมือนกัน แต่คุณมีชีวิตที่ต้องใช้ในโ
หลังจากให้คำสัญญา โรเซ่รู้สึกถึงความหนักอึ้งที่เคยเกาะกุมจิตใจเริ่มเบาบางลง เธอมองซูโฮที่ยังคงยิ้มให้เธอ รอยยิ้มนั้นแม้จะแฝงไปด้วยความเศร้า แต่กลับเต็มไปด้วยความจริงใจ"คุณเคยคิดไหมว่าทำไมฉันถึงได้พบคุณที่นี่" โรเซ่ถามพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม"ผมคิดว่าเราคงถูกกำหนดให้พบกัน" ซูโฮตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "บางทีการพบกันของเราอาจเป็นบทเรียนสำหรับทั้งคุณและผม""บทเรียน?" โรเซ่ทวนคำ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย"ใช่ครับ บทเรียนที่ทำให้คุณเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง และทำให้ผมได้เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง" ซูโฮอธิบายโรเซ่นิ่งเงียบ ดวงตาของเธอจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของซูโฮ เธอเริ่มเข้าใจความหมายที่เขาพยายามจะบอก"แต่ฉันยังไม่อยากให้คุณไป" เสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย"โรเซ่" ซูโฮพูดชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น "ทุกสิ่งในโลกนี้มีเวลาของมัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือความเศร้า สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้จักยอมรับและปล่อยวาง""คุณพูดเหมือนง่าย" เธอพึมพำ"มันไม่ง่ายหรอกครับ" ซูโฮยอมรับ "แต่คุณเป็นคนที่เข้มแข็ง ผมเชื่อว่าคุณทำได้"โรเซ่เม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่รู้ว่าจะตอบกลับเขาอย่างไรดี น้ำตาเริ่มไหลลงมาช้า ๆ"ฉันไม่เคยคิดเ
หลังจากให้คำสัญญา โรเซ่รู้สึกถึงความหนักอึ้งที่เคยเกาะกุมจิตใจเริ่มเบาบางลง เธอมองซูโฮที่ยังคงยิ้มให้เธอ รอยยิ้มนั้นแม้จะแฝงไปด้วยความเศร้า แต่กลับเต็มไปด้วยความจริงใจ"คุณเคยคิดไหมว่าทำไมฉันถึงได้พบคุณที่นี่" โรเซ่ถามพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม"ผมคิดว่าเราคงถูกกำหนดให้พบกัน" ซูโฮตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "บางทีการพบกันของเราอาจเป็นบทเรียนสำหรับทั้งคุณและผม""บทเรียน?" โรเซ่ทวนคำ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย"ใช่ครับ บทเรียนที่ทำให้คุณเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง และทำให้ผมได้เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง" ซูโฮอธิบายโรเซ่นิ่งเงียบ ดวงตาของเธอจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของซูโฮ เธอเริ่มเข้าใจความหมายที่เขาพยายามจะบอก"แต่ฉันยังไม่อยากให้คุณไป" เสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย"โรเซ่" ซูโฮพูดชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่น "ทุกสิ่งในโลกนี้มีเวลาของมัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือความเศร้า สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้จักยอมรับและปล่อยวาง""คุณพูดเหมือนง่าย" เธอพึมพำ"มันไม่ง่ายหรอกครับ" ซูโฮยอมรับ "แต่คุณเป็นคนที่เข้มแข็ง ผมเชื่อว่าคุณทำได้"โรเซ่เม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่รู้ว่าจะตอบกลับเขาอย่างไรดี น้ำตาเริ่มไหลลงมาช้า ๆ"ฉันไม่เคยคิดเ
แสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้าของกรุงโซลทอประกายผ่านม่านสีขาว ส่องกระทบใบหน้าของโรเซ่ที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียง เธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏบนริมฝีปาก เมื่อนึกถึงความฝันอันแสนหวานที่เพิ่งผ่านพ้นไป เธอลุกขึ้นจากเตียงและเดินไปเปิดม่านหน้าต่าง กวาดสายตามองทิวทัศน์ของเมืองที่ค่อย ๆ ตื่นขึ้นจากนิทรา"วันนี้ต้องเป็นวันที่ดีแน่นอน" โรเซ่พูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่สดใสเมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จ โรเซ่ก็เดินลงมายังห้องครัว กลิ่นหอมของอาหารเช้าลอยมาเตะจมูก เธอพบว่าคุณพ่อกำลังตักข้าวใส่ชาม ส่วนคุณแม่กำลังจัดวางเครื่องเคียงต่าง ๆ บนโต๊ะอาหาร มินจี น้องสาวของเธอนั่งรออยู่ด้วยท่าทางสดใส"เช้านี้ดูมีพลังจังเลยนะลูก" คุณแม่ทักทายด้วยรอยยิ้มโรเซ่ยิ้มกว้าง "แน่นอนค่ะ เมื่อคืนได้นอนเต็มอิ่มและมีเรื่องอยากเล่าให้ทุกคนฟังด้วย"มินจีที่กำลังตักกิมจิใส่จาน เงยหน้าขึ้นมาพูดแซว"จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับแฟชั่นโชว์ที่ปารีสอีกหรือเปล่า พี่นี่คงไม่หยุดพูดเรื่องนั้นแน่" มินจีกล่าวด้วยน้ำเสียงขี้เล่นโรเซ่หัวเราะเบา ๆ "แน่นอนสิ! นี่มันเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตฉันเลยนะ มินจี เธอควรภูมิใจกับพี่สาวคนนี้บ้าง"ทุกคนหั