LOGIN“มาวันแรกก็เข้าหาผู้ชาย หน้าไม่อาย” เสียงคุ้นหูของคนที่เดินตามหลังเหมือนจะพูดแขวะฉันอย่างไรก็ไม่รู้ จะว่าพวกเธอคุยกันก็ไม่ใช่เพราะไม่มีเสียงใครตอบกลับ
ฉันจึงตัดสินใจเหลียวหลังไปมองแล้วก็พบว่าเป็นลูกพีช ลูกติดภรรยาใหม่ของพ่อนั่นเอง
แค่เห็นหน้าฉันก็ไม่อยากที่จะคุยด้วย อยากว่าอะไรก็ว่าไปเถอะขี้เกียจต่อความยาวสาวความยืด ถอนหายใจแล้วเดินตามปกติ
“ยัยลูกพีชเน่านี่ก็ขยันหาเรื่องแกจริงๆ ให้ฉันสั่งสอนให้เอามั้ย” ณิชาที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับลูกพีชตั้งแต่เราเรียนมัธยมด้วยกันถึงกับบ่นออกมา
“ช่างเถอะแก อย่าไปสนใจเลย” อะไรที่เลี่ยงได้ก็อยากจะเลี่ยง แต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่ได้คิดเช่นนั้น
“ก็แค่ลูกกำพร้าที่ไม่มีใครรักเลยต้องหนีออกจากบ้านมาอยู่คอนโด นี้กะจะหาผู้ชายรวยๆ ไว้เลี้ยงดูสินะ” ลูกพีชสบถคำดูถูกออกมาจนคนที่โดนต่อว่าถึงกับชักสีหน้าไม่พอใจ ฉันหมดความอดทนแล้วนะยัยลูกพีชเน่า
“มันจะมากเกินไปแล้วนะลูกพีช ฉันอุตส่าห์ย้ายออกมาเพื่อจะได้ไม่ต้องทะเลาะกับเธอ นี่ยังจะมาหาเรื่องอะไรกันอีก”
“อยากโดนฉันตบใช่มั้ยยัยพีช แกจะคอยหาเรื่องขนมอะไรนักหนา ยัยขี้อิจฉา” ณิชารีบต่อว่าไปทันทีอย่างเหลืออดพร้อมกับถลาตัวเข้าใส่
“แกก็เข้ามาสิอีณิชา” ไม่ว่าเปล่าลูกพีชเงื้อมือขึ้นทำท่าจะตบหน้าเพื่อนรักของฉัน
“หยุดนะลูกพีช เธออย่าทำอะไรเพื่อนฉันนะ” รีบคว้าที่ข้อมือของลูกพีชทันที แต่เธอสะบัดจนมือฉันหลุดและผลักจนฉันเซและเกือบล้มหัวคะมำ ดีที่ได้ใครคนหนึ่งมาประคองไว้ได้ทันเสียก่อน
“ฝากไว้ก่อนเถอะ คนอย่างเธอไม่มีค่าให้ฉันอิจฉาหรอก จำไว้” ลูกพีชว่าจบก็เดินออกไปทันทีทำเหมือนกับว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
“เป็นอะไรมั้ยครับ” เสียงทุ้มของคนที่เข้ามาช่วยเอ่ยถามขึ้น
“ไม่เป็นไรค่ะ” ฉันดันตัวออกจากอ้อมแขนและยืนตัวตรงก่อนจะหันไปมองเจ้าของเสียง “พี่ณัฐ”
“ครับ พี่เอง แล้วนี่มีเรื่องอะไรกัน”
“ก็ยัยลูกพีชน่ะสิคะ คอยหาเรื่องขนมตลอดเลย” ณิชาเป็นฝ่ายตอบพี่ชายของเธอด้วยสีหน้าบึ้งตึง เพราะเธอเองก็เห็นเหตุการณ์แบบนี้มาโดยตลอด ตั้งแต่พ่อรับลูกพีชเข้ามาอยู่ในบ้านและย้ายมาเรียนที่เดียวกันกับฉัน
“ลูกพีช” พี่ณัฐเอ่ยย้ำชื่อของเธอ
“ค่ะพี่ณัฐ ลูกติดภรรยาใหม่ของพ่อขนมเองค่ะ เราไม่ค่อยถูกกัน แต่ขอบคุณพี่ณัฐมากเลยนะคะที่เข้ามาช่วยไว้ได้ทัน ไม่งั้นขนมคงล้มหัวทิ่มแน่เลย”
“แล้วนี่พวกเรากำลังจะไปเรียนกันใช่มั้ยครับ ปะ ไปด้วยกันเลย” หลังจากพี่ณัฐเอ่ยจบพวกเราก็เดินเข้าคณะไปพร้อมกัน
พี่ชายของณิชาก็เรียนคณะบริหารธุรกิจเหมือนกับพวกเรา ดีหน่อยที่ลูกพีชไม่ได้เรียนคณะเดียวกัน ไม่อย่างนั้นคงไม่เว้นต้องทะเลาะกันในคาบเรียนด้วยแน่นอน
…...
@คอนโด
.
วันนี้ฉันกับณิชาเรามีเรียนกันทั้งวันเลย ส่วนมากอาจารย์ก็จะเน้นบรรยายให้เราจดบันทึกแล้วก็สั่งให้ทำงานส่ง
แต่วันนี้ต้องเรียนเกี่ยวกับตัวเลขนี่สิ มาวันแรกอาจารย์ก็สั่งงานหินเลยแล้วเป็นงานเดี่ยวเสียด้วยสิ แง~ จะทำยังไงดีฉันยิ่งไม่ชอบตัวเลขอยู่ด้วย ‘พี่อินแจ’ คนเดียวที่นึกขึ้นได้ตอนนี้ก็คือเขา ว่าแล้วก็หอบกระดาษปากกาและหนังสือออกจากห้องไป
“พี่อินแจคะ” ฉันยืนเรียกอยู่หน้าห้อง ไม่นานเขาก็เปิดประตูให้
“มีอะไร” สายตาเย็นชาของเขาจ้องมาทางฉันและเลื่อนลงมองหนังสือที่กอดเอาไว้ที่อก
“มีเรื่องอยากรบกวนหน่อยค่ะ ขนมขอเข้าไปในห้องได้มั้ยคะ” เอ่ยพร้อมกับเผยยิ้มกว้างบนใบหน้าสวยๆ ของฉัน
“เข้ามาสิ” เจ้าของห้องอนุญาตฉันก็รีบแทรกตัวเข้าไปในห้องทันที แล้วเขาก็ปิดประตูเดินตามเข้ามา
“มีเรื่องอะไรว่ามา” น้ำเสียงทุ้มต่ำที่เอ่ยออกมาด้วยใบหน้าเคร่งขึงทำให้ฉันเริ่มไม่กล้าที่จะเอ่ยปากขอ
ฮึบ! สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วลองพูดออกไป เผื่อเขาอาจจะใจดีก็ได้นะยัยขนม ฉันให้กำลังใจตัวเองพร้อมกับคลี่ยิ้มอ่อนให้เขา
“พี่สอนการบ้านขนมได้มั้ยคะ นะ นะ” ส่งสายตาอ้อนสุดๆ พร้อมกับกระตุกชายเสื้อของเขาเบาๆ
“ทำเองไม่ได้เหรอ” ตอบมาแบบนี้จะปฏิเสธฉันงั้นเหรอ ไม่ได้นะลองอ้อนอีกสักหน่อย
“อือ พี่อินแจ นะนะ สอนขนมหน่อย ขนมไม่ชอบตัวเลขอะ ฟังอาจารย์สอนก็ไม่เข้าใจ นะคะ สอนหน่อยนะ” ทำหน้าเศร้าเว้าวอนอีกครั้ง หวังว่าโอปป้าว่าที่แฟนของฉันจะไม่ใจร้ายเห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ทำงานส่งอาจารย์ไม่ได้หรอกนะ
“เอามาดูก่อน” ทันใดที่เขาเอ่ยปากฉันก็รีบยื่นงานที่อาจารย์สั่งให้กับพี่อินแจดูทันที
ตอนนี้เรานั่งกันที่โซฟาทั้งคู่ เขาเปิดดูการบ้านที่อาจารย์สั่งมาได้ไม่นานก็รับปากว่าจะสอนฉันให้
“ไม่เห็นยากเลย โง่รึเปล่าเนี่ย” เขาพูดพลางหันมามองหน้าฉัน โดนหลอกด่าไปอีกยัยขนม แต่ไม่เป็นไรค่ะขนมยอมโดนว่า ถ้ามันทำให้พี่ยอมสอน
“ก็โง่จริงนั่นแหละค่ะ ไม่งั้นคงทำได้ไปแล้วไม่มาขอให้พี่ช่วยหรอก” ตอบแบบหน้าหงอยให้เขาสงสาร
“มา เดี๋ยวสอนให้” และแล้วก็รับปากสอนฉันจนได้ โอปป้าใจดีที่สุดเลย รับบทเป็นติวเตอร์สุดหล่อไปอีก
“พี่อินแจใจดีที่สุดเลยค่ะ” ตอบพร้อมกับส่งยิ้มตาหยี
ตอนนี้เราขยับลงมานั่งตรงพื้นที่มีพรมนุ่มนิ่มปูเอาไว้อยู่ตรงข้ามโซฟาเพื่อให้ฉันสะดวกในการเขียนมากขึ้น เพราะนั่งด้านบนแล้วต้องก้มจดบนโต๊ะกลางหน้าโซฟาแล้วมันไม่สะดวก
เราทั้งคู่นั่งตัวติดกันมาก บอกตามตรงเลยว่าแทบไม่มีสมาธิฟังที่พี่เขาสอนเลย ยิ่งมองใกล้ๆ ก็ยิ่งหล่อ ผิวหน้าเนียนละเอียดสุดๆ นี่ขนาดไม่ได้ทาแป้งทับเลยนะเนี่ย ยิ่งบางจังหวะที่เขาหันมาและเผลอสบตากัน ฉันนี่แทบลืมหายใจไปเลย ‘อร๊าย ว่าที่แฟนใครเนี่ยหล่อที่สุด’ แอบกรี๊ดในใจกลัวเขาได้ยิน
“เข้าใจที่สอนมั้ย”
“...”
“ขนม เข้าใจที่พี่สอนมั้ย”
“ขะ…คะ เออ สอนถึงตรงไหนแล้วนะคะ” ตื่นออกจากภวังค์เพราะสะดุ้งเสียงของพี่อินแจ มัวแต่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยคืนนี้จะเสร็จมั้ยเนี่ยงานของฉัน
“พี่สอนถึงตรงนี้ ก็ไม่มีสมาธิแบบนี้ไง ถึงได้เรียนไม่รู้เรื่อง” อือ เขาดุฉันด้วย แค่เผลอแป๊บเดียวเอง แต่เมื่อกี้เขาแทนตัวเองว่า ‘พี่’ อย่างนั้นเหรอ ดีใจอะ
“ขอโทษค่ะพี่อินแจ ขออีกรอบนะคะ” ส่งสายตาเว้าวอนไปอีกรอบ เขาก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรและเริ่มสอนใหม่ เอาจริงคราวนี้ฉันจะตั้งใจฟังละ กลัวเขาจะว่าให้อีก เดี๋ยวจะพลอยไม่อยากสอนไปด้วย
“ขอบคุณมากเลยนะคะพี่อินแจ ถ้าไม่ได้พี่ช่วยขนมคงทำไม่ได้แน่ ๆ เลย” ตอนนี้งานของฉันเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ไม่เป็นไร” เขาตอบกลับสั้นๆ
“ไม่แทนตัวเองว่าพี่แล้วเหรอคะ เมื่อกี้ขนมได้ยินพี่แทนตัวเองว่าพี่ น่ารักดีออก” โดนฉันหยอดไปอีกหนึ่งพร้อมกับยิ้มหวานๆ และกระพริบตาปริบๆ เพื่อรอดูปฏิกิริยา แต่เขาก็ไม่เผลอยิ้มให้ฉันเลย
“แล้วแต่อารมณ์” เสียงแข็งขึงตอบกลับมาตามสไตล์หนุ่มหล่อแสนเย็นชา
ฉันเริ่มทำตัวไม่ถูกแล้วสิ พอเริ่มสอนเขาก็ดูเหมือนเป็นอีกคนที่พูดเยอะกว่าปกติ ดูเป็นกันเองกว่านี้นิดหน่อย ตอนนี้เริ่มเข้าสู่โหมดเย็นชาอีกละ ไม่ได้การละฉันจะต้องหาวิธีที่ต้องทำให้เขายอมเปิดใจพูดดีๆ กับฉันให้ได้
“ขนมขอไลน์พี่อินแจได้มั้ยคะ”
@โรงพยาบาล.พี่อินแจเข้าไปสวมทับด้วยชุดสีเขียวเข้มปลอดเชื้อ เพื่อที่เข้าไปให้กำลังใจภรรยาสาว ที่กำลังนอนรอคลอดอยู่บนเตียง“ไม่ต้องกลัวนะครับที่รัก พี่อยู่นี่แล้ว” พี่อินแจคว้ามือของฉันที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเข้ามากุม ริมฝีปากหยักได้รูปบรรจงจูบที่หน้าผากอย่างอ่อนโยนเพื่อให้กำลังใจ“ฮือ ขนมปวดท้องค่ะ”“ปากมดลูกเปิดเจ็ดเซนแล้วค่ะคุณแม่ อดทนอีกนิดนะคะ” เสียงของพยาบาลที่เข้ามาตรวจเช็กการขยายตัวของปากมดลูกเพื่อเตรียมทำคลอดเอ่ยกับฉันฉันตั้งใจเอาไว้แล้ว ว่าอยากคลอดแบบธรรมชาติ เพราะฉะนั้นต้องทนให้ได้ อีกนิดเดียวเราก็จะได้เจอกันแล้วนะลูกรักนอนรอคลอดพร้อมกับความเจ็บปวดบนเตียงนานเกือบสามชั่วโมง ก็ถึงเวลาที่จะได้เจอกันเสียที“คุณแม่คะ ออกแรงเบ่งค่ะ”“อือ... อือ...”กลั้นใจออกแรงเบ่งเกือบสิบครั้ง อินแจน้อยก็ออกมาลืมตาดูโลกแล้วค่ะ เจ้าตัวน้อยของเราเนื้อตัวจ้ำม่ำ หน้าตาน่ารักน่าชังได้ทั้งพ่อทั้งแม่ ผิวขาวเนียนละเอียด และผมมีกระปู๋ครับ“ยินดีด้วยนะคะ คุณพ่อคุณแม่ได้ลูกชายค่ะ”พี่อินแจเดินเข้าไปรับเจ้าอินแจน้อยที่ถูกห่อหุ้มด้วยผ้าอ้อมขาวสะอาด เข้ามาอุ้มไว้ในอ้อมแขน“ขนม เราได้ลูกชายครับ” พี่อินแจเอ่
หลังจากกล่าวให้คำมั่นสัญญา เราก็จูบกันตามคำเรียกร้องของแขกที่มาร่วมงาน เสร็จจากนั้นก็จะเป็นโยนช่อดอกไม้ และตัดเค้ก ก่อนที่พิธีกรจะกล่าวปิดงานและร่วมกินเลี้ยงมื้อค่ำกันฉันกับพี่อินแจควงกันออกมาต้อนรับแขก และเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวอีกสองคน ก็ควงคู่กันมาช่วยดูแลความเรียบร้อยภายในงาน“สวัสดีค่ะพี่ไอดิน” เพื่อนเจ้าสาวอีกคนเอ่ยทักทายดูหน้าอีกฝ่ายทั้งตกใจและสับสนที่ไม่ได้เจอกันเสียนาน“สวัสดีครับ ลูกพีช ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ”“ค่ะ ไม่ได้เจอกันนาน พี่สบายดีมั้ยคะ”“ครับ พี่สบายดี แล้วลูกพีชอยู่ทางนั้นเป็นยังไงบ้างครับ”“สบายดีค่ะ แต่เหงา”“เหงา”“ค่ะเหงา เพราะต้องอยู่คนเดียว”ทั้งสองจ้องมองแล้วยิ้มให้กัน เป็นรอยยิ้มที่ดูอบอุ่น โหยหา และเฝ้ารอ“ถ้าลูกพีชยังไม่มีใคร พี่ยังอยู่ตรงนี้นะครับ”“งั้นเรามาลองคบกันมั้ยคะ ลูกพีชขอโทษสำหรับทุกสิ่งที่ผ่านมานะคะพี่ไอดิน พี่คือคนที่ดีกับลูกพีชที่สุด ขอโทษที่เมื่อก่อนไม่เคยเข้าใจความรักที่พี่มีให้”“ไม่เป็นไรครับลูกพีช ตกลงครับ เราคบกันนะ”“พี่รอลูกพีชอีกปีนึงได้มั้ยคะ รอลูกพีชเรียนจบ”“ครับ พี่รอได้”“ขอบคุณนะคะพี่ไอดิน”ฉันกับพี่อินแจ พร้อมกับณิชาและพี
ตอนนี้ฉันขึ้นปีสี่แล้ว และพี่อินแจก็เรียนจบออกไปทำงานที่บริษัทหลักทรัพย์ เพื่อบริหารงานต่อจากคุณตา ท่านอายุมากแล้วจะได้พักผ่อนใช้ชีวิตในวัยชราอยู่ที่บ้านแทน โดยที่มีคุณแม่และเลขาส่วนตัวของคุณตาคอยให้คำปรึกษาอยู่ส่วนณิชาเพื่อนรัก ตอนนี้เธอก็ได้คบกับพี่องศาไปเรียบร้อยแล้ว ฉันว่าแล้วว่าสองคนนี้มีอะไรแปลกๆ ตั้งแต่ตอนที่ไปเที่ยวทะเลด้วยกันแล้วนะ สรุปก็คือแอบชอบกันตั้งแต่ตอนนั้นจริงๆ.....@คลับ.การนัดกันครั้งนี้ของพวกเรา ก็มีหนึ่งหนุ่มโสดกับสองคู่รัก หนุ่มโสดของเราก็ไม่ใช่ใครที่ไหน พี่ไอดินนั่นเอง“อิจฉาคนมีคู่จังเลยครับ นี่กูคิดผิดหรือคิดถูกวะเนี่ย ที่มาตามนัดของพวกมึง” เสียงบ่นของพี่ไอดิน ที่บ่นให้เพื่อนรักทั้งสองของเขาจะบอกว่าพี่เขาเฮิร์ตหนักเรื่องของลูกพีชก็ได้นะ จากผู้ชายที่ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า แต่พอโดนลูกพีชหลอกใช้ในครั้งนั้น พี่ไอดินก็ไม่คุยกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย จึงกลายมาเป็นหนุ่มโสดเพียงคนเดียวในกลุ่มของพวกเราส่วนพี่องศารายนั้นพอได้คบกับณิชา ก็เปลี่ยนไปเป็นผู้ชายคลั่งรักเหมือนกับพี่อินแจไปอีกคน ยัยณิชาปลื้มมาก ก็เล่นเอาใจเสียทุกอย่างแถมเรื่องอย่างว่าก็ไม่มีแผ่วเลยเช่นกัน“มึงก
เมื่อได้ฟังคำถามของคุณตา พี่อินแจก็กระตุกยิ้มมองมาทางฉัน แล้วยื่นมือมาจับกันอีกครั้ง“ถ้าคุณตาหมายถึงผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ ผม ครับ ผมจะหมั้น และหมั้นให้เร็วที่สุดด้วยครับ”“ใจร้อนจริงๆ เลยนะเรา ไหนบอกกับแม่ไม่ใช่เหรอว่าไม่อยากหมั้น”“ใครจะไปรู้ล่ะครับ ว่าคุณแม่จะหมายถึงขนม”“เห็นมั้ยคะคุณพ่อ คุณเขม อังว่าแล้ว ว่าเด็กๆ จะต้องยอมหมั้น” แม่พี่อินแจเอ่ยขึ้น ทุกคนก็พากันยกยิ้มชอบใจฉันมองไปทางพ่ออย่างสงสัย มันสงสัยจริงๆ ว่าทำไมพวกผู้ใหญ่ถึงคุยกันอย่างนั้น หรือว่า…“ใช่แล้วลูก พวกเรารู้กันแต่แรกแล้วว่าลูกทั้งสองแอบคบหาดูใจกัน”“รู้แต่แรก” ขมวดคิ้วถามขึ้น มันก็ยังสงสัยอยู่ดี และคนที่นั่งข้างๆ ฉันก็เช่นกัน กำลังรอฟังคำตอบจากปากของผู้ใหญ่“ใช่แล้วจ้ะหนูขนม ป้ากับแม่ของหนูเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก เมื่อก่อนตอนที่พาอินแจกลับมาอยู่เมืองไทยใหม่ๆ หนูก็เคยไปเล่นกับพี่เขานะลูกแต่อาจจะจำไม่ได้ พวกเราสองคนเลยคุยกันไว้ว่าอยากให้ลูกของเราได้ลงเอยกัน จึงได้วางแผนซื้อคอนโดที่พวกหนูอยู่กันตอนนี้เอาไว้ให้คนละห้อง ให้อยู่ห้องติดกันเลย โตมาจะได้ทำความรู้จักกัน” แม่พี่อินแจอธิบายมาแบบนี้ฉันก็เริ่มจับต้นชน
#InjaeTalk.@คฤหาสน์สิงหพัฒน์พิศุจน์.ย้อนไปเมื่อ 3 ชั่วโมงก่อน“คุณแม่เรียกผมกลับบ้านมีเรื่องอะไรเหรอครับ”“เย็นนี้ไปเจอลูกสาวของเพื่อนแม่กัน แม่จองภัตตาคารเอาไว้ละ ลูกห้ามปฏิเสธ” อังคณาเอ่ยออกคำสั่งกับลูกชาย“ไหนเราตกลงกันแล้วไงครับ ว่าจะรอให้ผมเรียนจบก่อน ถ้าผมยังไม่มีแฟนค่อยว่ากัน”“แม่ไม่อยากรอละ วันนี้ลูกต้องไปพบน้องกับแม่ ยังไงเราทั้งสองคนก็ต้องหมั้นกันเอาไว้ก่อน”“หมั้นเหรอครับแม่ แม่อย่าบีบบังคับผมสิครับ ผมไม่หมั้น” ผมเอ่ยน้ำเสียงหนักแน่น“แต่แกต้องหมั้น เรื่องนี้แกไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ” อัครเดชเอ่ยเสียงแข็งกับหลานชาย“ทำไมต้องทำแบบนี้กับผมด้วยล่ะครับคุณตา ผมมีแฟนแล้ว ผมไม่หมั้นครับ” ยังคงยืนยันคำเดิม อย่างไรผมก็ไม่ยอมหมั้นเด็ดขาด“ถ้าแกไม่ยอม จะให้ฉันกับแม่แกเอาหน้าไปไว้ที่ไหน เรื่องนี้สองครอบครัวได้คุยกันเอาไว้หมดแล้ว”“แม่กับตาก็เอาไว้ที่เดิมนั่นแหละครับ ผู้ใหญ่คุยกันแต่เด็กไม่รู้เรื่อง นี่มันสมัยไหนละครับ ไม่มีใครเขาบีบบังคับเรื่องแบบนี้กันแล้วครับ ผมขอตัวขึ้นข้างบนก่อนนะครับ”“ถ้าแกไม่อยากให้ฉันหัวใจวายตาย ยังไงเย็นนี้แกก็ต้องไปพบกับครอบครัวนั้นพร้อมกับฉันและแม่ของแก” คนแก
“ไปถึงแล้วหนูก็จะรู้เอง” เขมชาติกระตุกยิ้มมองหน้าลูกสาวคุณพ่อพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วก็ลุกออกไป ฉันเลยกลับขึ้นมาบนห้องก๊อก ก๊อก “ขนม เธออยู่ในห้องรึเปล่า” เสียงของลูกพีชเอ่ยเรียกอยู่หน้าห้อง“อืม เข้ามาสิ”วันนี้เธอก็กลับมานอนที่บ้านเหมือนกัน แปลกที่กลับมาวันเดียวกัน หรือว่าเธอก็จะไปพบกับใครคนนั้นพร้อมกับฉันด้วย“มีอะไรเหรอลูกพีช”“เมื่อกี้คุณลุงเรียกเธอไปคุย เรื่องที่จะพาไปพบใครคนหนึ่งใช่มั้ย แล้วท่านได้บอกกับเธอรึเปล่าว่าเป็นใคร”“ไม่ได้บอกน่ะ”“ฉันได้ยินคุณลุงคุยกับแม่ ว่าจะพาเธอไปแนะนำตัวกับคนที่เธอจะต้องหมั้นด้วย”“หมั้น” เอ่ยย้ำคำพูดดังกล่าวอย่างตกใจ คุณพ่อจะให้ฉันหมั้นกับใคร ไม่นะ ฉันไม่อยากถูกคลุมถุงชน แล้วตอนนี้ก็มีแฟนแล้วด้วย“ใช่ หมั้น เห็นว่าเป็นลูกชายของเพื่อนแม่เธอน่ะ”“ลูกชายเพื่อนคุณแม่ ใครกัน ทำไมฉันไม่เคยได้ยินคุณแม่พูดถึงเรื่องนี้เลย”“แล้วเธอจะทำยังไงล่ะ ตอนนี้ก็คบกับพี่อินแจแล้วนี่ แล้วเรื่องที่ผู้ใหญ่คุยกันไว้แล้วล่ะ”ฉันนั่งครุ่นคิดอย่างลำบากใจ จะทำอย่างไรดี จะไปกับคุณพ่อแล้วบอกกับทางนั้นไปเลยดีไหมว่าฉันมีคนรักอยู่แล้ว เรื่องหมั้นจะได้ถูกยกเลิกไป ยิ่งคิดก็ยิ่







