เมื่อเห็นกระบวนท่านี้ของฮวาว่านโหลว กู่ฉางเซิงก็ทำหน้าตกตะลึงออกมา ขณะเดียวกันยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นรอยยิ้มบาง ๆ นี่เป็นการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดซึ่งหลอมรวมเคล็ดวิชาตลอดทั้งชีวิตของฮวาว่านโหลว ต่อให้เป็นกู่ฉางเซิงก็ไม่กล้าไปรับง่าย ๆ เหมือนกันนอกจากนี้ นี่ก็เป็นสุดยอดวิชาที่สร้างชื่อเสียงให้ฮวาว่านโหลวมาหลายปี เคยพลิกสถานการณ์มาหลายครั้ง สังหารสุดยอดผู้แข็งแกร่งที่มีระดับพลังสูงกว่าฮวาว่านโหลวฉู่เฉินกลับหัวเราะหยัน ในสายตาของคนอื่น ความเร็วของฮวาว่านโหลวไวจนไม่อาจแยกแยะด้วยตาเปล่า แต่ว่าในสายตาของฉู่เฉิน ความเร็วของเขาช้าเหมือนเต่าคลานก็ไม่ปาน“นี่ก็คือการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของคุณเหรอ?” ฉู่เฉินยิ้ม ดูเหมือนว่าช่องว่างระหว่างนักสู้กับผู้บำเพ็ญเพียรจะไม่สามารถลบเลือนด้วยการสั่งสมระดับพลังและประสบการณ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายมีความแตกต่างกันโดยแก่นแท้ ต่อให้ฮวาว่านโหลวใช้พลังทั้งหมด มันก็เป็นแค่พละกำลังของมนุษย์คนหนึ่งเท่านั้นมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ธรรมดาหรือว่านักสู้ เมื่ออยู่ต่อหน้าฟ้าดินล้วนอ่อนแอเกินไปตราบใดที่ยังไม่ได้ก้าวข้ามขั้นนั้นแล้วตระหนักรู้ถึงกลไกขอ
ฉู่เฉินยิ้มหยันพลางส่ายหน้า เมื่อกี้เขาใช้วิธีการของนักสู้โจมตีฮวาว่านโหลวล้วน ๆ เพียงแต่ว่าต่อให้ฉู่เฉินไม่ได้ใช้กำลังทั้งหมด การโจมตีสุดชีวิตของอีกฝ่ายก็ยังคงทำให้เขาผิดหวังอย่างมากดูท่าความห่างชั้นระหว่างนักสู้กับผู้บำเพ็ญเพียรจะไม่ง่ายเหมือนอย่างที่ฉู่เฉินจินตนาการไว้เมื่อครู่นี้ “เป็นไปไม่ได้!” ฮวาว่านโหลวเหมือนถูกอะไรบางอย่างกระตุ้นก็ไม่ปาน เขาคำรามสุดเสียงว่า “เป็นไปไม่ได้เด็ดขาดที่คุณจะไม่ได้รับบาดเจ็บเลย ผมไม่เชื่อ!” ฉู่เฉินแบมือกล่าวว่า “ความจริงก็อยู่ตรงหน้าคุณแล้ว คุณอ่อนแอเกินไปจริง ๆ อ่อนแอจนผมกลัวว่าแค่ต่อยส่ง ๆ ทำให้คุณตัวระเบิดได้แล้ว”ฉู่เฉินเอามือสองข้างไพล่หลังแล้วเดินไปหาฮวาว่านโหลว “เป็นไปไม่ได้...” ฮวาว่านโหลวเห็นฉู่เฉินเดินเข้ามา จากนั้นก็มีพายุหมุนเกิดขึ้นใต้เท้าของเขา ดูดเศษหินที่กระจายเต็มพื้นลอยขึ้นไปในอากาศเวลานี้เอง กลิ่นอายของความตายพลันปกคลุมตัวเขา “เดิมทีคิดว่าคุณพูดจาโอหังขนาดนั้น คงจะมีความสามารถอยู่บ้างจริง ๆ เฮ้อ”ฉู่เฉินถอนหายใจเบา ๆ แล้วกล่าวว่า “แต่ความจริงพิสูจน์แล้วว่าคุณไม่มีคุณสมบัติแม้แต่จะเป็นคู่ฝึกซ้อมของผมเลยด้วยซ้ำ”
ราชันขาอุดรผู้ยิ่งใหญ่ จนกระทั่งตายก็ไม่อาจเหลือแม้แต่ศพที่สมบูรณ์ได้ฉากนี้ ใครเห็นแล้วไม่ขวัญหนีดีฝ่อ?ทั่วทั้งห้องโถงตกอยู่ท่ามกลางความเงียบงันอย่างเนิ่นนานถึงขนาดที่ผู้คนรอบข้างไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงด้วยซ้ำเวลานี้เอง ภายในห้องออฟฟิศชั้นสอง หยวนคุนมองฉู่เฉินด้วยสายตาคมกริบข้างกายเขามีชายวัยกลางคนสวมเสื้อแบบจีนสั้นสีดำ เอ่ยพลางขมวดคิ้วมุ่นว่า “เจ้าสำนัก ท่านจะรับเขาเข้าหงเหมินเหรอครับ?”หยวนคุนส่ายหน้าเล็กน้อย ลูกเหล็กในมือส่งเสียงดังกังวานใส ก่อนจะเอ่ยอย่างใคร่ครวญว่า “คนระดับนี้ พวกเราอยากรับก็รับเลยได้ยังไง?” “คบเป็นเพื่อนไว้ก็พอ แต่ต้องระวังหมอนี่ให้มาก ๆ”หยวนคุนกล่าวจบก็หันตัวเดินจากไป ไม่เหลียวมองไปทางห้องโถงจัดแสดงอีกเลย จนกระทั่งผ่านไปเนิ่นนาน ฉู่เฉินถึงค่อย ๆ หันหน้ามามองกู่ฉางเซิงแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ว่า “เมื่อกี้คุณบอกว่าจะให้ผมตายโดยไม่เหลือศพครบถ้วนสินะ?” “ฝ่ามือเหล็กอะไรนั่นของคุณ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเทียบกับเขาแล้วเป็นยังไง? มาเถอะ ผมรีบ” กู่ฉางเซิงที่เมื่อกี้ยังทำสีหน้ายโสโอหัง พอถูกฉู่เฉินชี้นิ้วใส่ตัวสั่นขึ้นมาฉับพลัน เขากับฮวาว่านโหลวอยู่
หยางเส้าหัวกระเสือกกระสนลุกขึ้นมาจากพื้น เขาไม่สนใจกางเกงที่เปียกชื้น ชี้นิ้วไปที่ฉู่เฉินแล้วพูดว่า “รากฐานของตระกูลหยางเรา เศรษฐีใหม่อย่างแกจะมาเทียบได้ยังไง” “ถึงแม้ผู้อาวุโสฮวาจะตายไปแล้ว แต่ก็ยังมีผู้อาวุโสกู่อยู่นะ!”“อาศัยแค่ฝ่ามือทรายเหล็กของผู้อาวุโสกู่ก็สามารถตบแกจนกลายเป็นเนื้อเละ ๆ ได้แล้ว!”ฟึบ! เขาเพิ่งจะพูดจบ กระบี่ยาวที่ส่องประกายเย็นเยียบไปทั่วพลันปรากฏขึ้นในมือของฉู่เฉินกระบี่เล่มนี้เพิ่งจะปรากฏขึ้นในมือของฉู่เฉิน ความมั่นใจที่กู่ฉางเซิงเพิ่งหากลับมาได้พลันมลายหายไปทันทีแม้ว่าเขาไม่ใช่ผู้บำเพ็ญเพียร แต่ก็เป็นยอดฝีมือระดับฝึกปราณชั้นเจ็ด แค่เห็นก็ดูออกว่ากระบี่ในมือของฉู่เฉินเล่มนั้นไม่ใช่ของธรรมดาอย่างแน่นอนมีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นกระบี่ล้ำค่าระดับของวิเศษกลิ่นอายของความตายปกคลุมเหนือศีรษะของกู่ฉางเซิงในพริบตาเวลานี้กู่ฉางเซิงเคียดแค้นหยางเส้าหัวกับผู้ติดตามหลายคนข้างกายเขาจะตายอยู่แล้วจริง ๆนี่ตั้งใจเร่งให้เขาไปตายไม่ใช่หรือไง?“ใช่เหรอครับ? ฝ่ามือเหล็ก? ได้ งั้นก็เข้ามาเถอะ” ฉู่เฉินกวักนิ้วให้กู่ฉางเซิง ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ไม่มีพิษภัย“
อันที่จริงกู่ฉางเซิงทำทุกอย่างนี้ก็เพื่อถ่วงเวลาเท่านั้น ขอเพียงคนของแก๊งมังกรมาถึง เขาก็จะปลอดภัยแล้วเพียงแต่ว่าพวกหยางเส้าหัวไม่รู้แผนการเหล่านี้ในใจของเขาเลย เมื่อเห็นกู่ฉางเซิงตั้งท่าพร้อมสู้กับฉู่เฉินจริง ๆ แต่ละคนก็ตะโกนเชียร์กู่ฉางเซิงด้วยความตื่นเต้น“ผู้อาวุโสกู่ลงมือแล้ว จะต้องฆ่าไอ้หมอนี่ทิ้งแน่!” “ฉันว่าผู้อาวุโสกู้ไม่มีทางทำให้พวกเราผิดหวังแน่นอน” “ควรฟาดไอ้หมอนี่ให้แบนเป็นแป้งย่างตั้งนานแล้ว ผู้อาวุโสกู่เกรียงไกร!” เสียงตะโกนของผู้คนรอบข้างทำให้ใบหน้าของกู่ฉางเซิงเผยรอยยิ้มมั่นใจออกมาอย่างเต็มเปี่ยม “พร้อมแล้วสินะ?”ฉู่เฉินยิ้มจาง ๆ เดินไปหากู่ฉางเซิง“เจ้าหนุ่ม คุณต้องคิดให้ดี ๆ นะ ไม่รู้ว่ามีดวงวิญญาณอาฆาตของยอดฝีมือมากเท่าไหร่ที่อยู่ภายใต้ฝ่ามือทรายเหล็กนี้ของผม เมื่อประมือกันแล้ว คุณไม่มีทางให้ถอยแล้วนะ”กู่ฉางเซิงพูดพลางก้าวเดินแปดทิศวนรอบฉู่เฉิน ดวงตาฝ้าฟางจ้องเขม็งไปที่กระบี่ยาวในมือของฉู่เฉิน ฉู่เฉินอดเลิกคิ้วไม่ได้แล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า “จะสู้ก็สู้สิ คุณจะเดินวนอะไร?”“เจ้าหนุ่ม นี่คุณไม่เข้าใจสินะ นักสู้ใช้วรยุทธ์มากำจัดคนชั่วสนับสนุนผู้
หืม?กู่ฉางเซิงได้ยินคำกล่าวก็ขมวดคิ้วมองไปทางฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “ปกป้องฉันให้รอดตาย? เด็กไร้ยางอายอย่างคุณพูดออกมาได้ ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะคุณให้คนไปแจ้งแก๊งมังกร เวลานี้ คุณคงเป็นศพอยู่ที่นี่ไปนานแล้ว!”ฉู่เฉินได้ยินคำกล่าวก็หัวเราะหยันแล้วเอ่ยว่า “ใช่เหรอครับ?”“งั้นผมขอถามเจียงหย่วนหน่อยว่า ใครเรียกคนของแก๊งมังกรมากันแน่” ทันทีที่สิ้นเสียงพูด ฉู่เฉินค่อย ๆ หันหน้ามองไปทางเจียงหย่วน เวลานี้เจียงหย่วนก็มองเห็นฉู่เฉินแล้วเช่นกัน เขารีบเดินมาหาฉู่เฉินอย่างรวดเร็ว ก่อนจะประสานมือคารวะกล่าวว่า “คุณฉู่”เมื่อเห็นฉากนี้ ไม่ว่าจะเป็นกู่ฉางเซิงหรือว่าพวกหยางเส้าหัวต่างก็ตกใจ! ฉู่เฉินมีความสัมพันธ์กับคนของแก๊งมังกรด้วยเหรอ?นี่เป็นเรื่องที่กู่ฉางเซิงคิดไม่ถึงอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อเห็นท่าทางของเจียงหย่วน ดูเหมือนหวาดกลัวฉู่เฉินมากเลยแย่แล้ว!กู่ฉางเซิงอดรู้สึกหนักอึ้งไม่ได้ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลัง ปรายตามองเจียงหย่วนแล้วกล่าวว่า “หัวหน้าเจียง คุณมาที่นี่ได้ยังไงครับ?” เจียงหย่วนได้ยินคำกล่าวแล้วจะกล้าปิดบังที่ไหน เขายื่นแท็บเล็ตในมือให้ฉู่เฉินโดยตรงแล้วพูดว่า “คุณฉู่ เมื่
ตุบ!หยางเส้าหัวสมกับเป็นลูกชายเศรษฐีอันดับหนึ่ง คุกเข่าลงอย่างคล่องแคล่วฉับไว ไม่มีอืดอาดยืดยาดเลยแม้แต่น้อย “พะ...พี่ฉู่ ผมผิดไปแล้ว ผมเต็มใจยอมรับความพ่ายแพ้”ในขณะที่หน้าผากของหยางเส้าหัวกำลังจะแตะพื้น กลับถูกหนังรองเท้าของฉู่เฉินขวางไว้ ปากของหยางเส้าหัวเลยสัมผัสแนบชิดกับหนังรองเท้าของฉู่เฉินทันที“พี่ฉู่ ผมยอมแล้วจริง ๆ” หยางเส้าหัวเงยหน้าขึ้นมา มองฉู่เฉินด้วยท่าทางน่าสงสาร “ขอโทษคุณหนูเย่!” ฉู่เฉินเอานิ้วชี้ไปที่เย่ชิ่นเหยียนแล้วเอ่ยอย่างเรียบนิ่งหยางเส้าหัวได้ยินคำกล่าว ความเคียดแค้นที่ยากจะสังเกตเห็นก็แล่นวาบขึ้นมาในดวงตา เขาก้มหน้าลง กัดฟันสูดลมหายใจลึกเฮือกหนึ่งเมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มน่ารักน่าเอ็นดูแทน“ครับ ๆๆ ผมจะโขกหัวขอโทษคุณหนูเย่เดี๋ยวนี้เลย” หยางเส้าหัวเองก็ทำตัวเชื่อฟังมากพอ เวลานี้การทำตัวอวดดีก็เท่ากับรนหาที่ตาย แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่มีแผนสำรองหยางเส้าหัวฉวยโอกาสตอนที่กู่ฉางเซิงถูกฆ่าเมื่อสักครู่นี้ ส่งข้อความไปให้หยางเทียนหลงแล้ว เนื่องจากเวลากระชั้นชิด ดังนั้นจึงบอกแค่ว่าเขาอยู่ในสถานการณ์คับขัน รีบม
“แม่งเอ๊ย! ไว้ฉันรอดพ้นคราวนี้ไปได้ พวกนายหน้าไหนก็อย่าคิดจะอยู่ดีมีสุขเลย!”หยางเส้าหัวลอบสาบานในใจพลางโทรศัพท์หาพ่อของตัวเอง“ฉันรีบไปแล้ว ไม่ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ให้เขารอฉันซะ!” เพิ่งจะรับสายโทรศัพท์ เสียงตวาดทุ้มต่ำของชายวัยกลางคนก็ดังมาจากฝั่งตรงข้าม ก่อนจะวางสายไปฉู่เฉินแสยะยิ้ม มองหยางเส้าหัวพลางกล่าวว่า “โอ้ ดูท่าทางคุณชายเส้าจะมีแผนสำรองด้วยสินะ?”เพียะ!เมื่อสิ้นเสียงพูด หยางเส้าหัวยังไม่ทันจะเอ่ยปาก ฉู่เฉินก็ตบหน้าหยางเส้าหัวไปฉาดใหญ่“พี่ฉู่ คะ...คุณเข้าใจผิดแล้ว พะ...พ่อของผม...พ่อของผมจะต้องรู้แน่เลยว่าผมซื้อรถแล้ว ดังนั้นถึงได้...”เพียะ ๆๆ!หยางเส้าหัวยังกล่าวไม่ทันจบ ฉู่เฉินก็ตบซ้ายขวาเข้าที่บ้องหูของเขาจนดังกังวานไปอีกสามที ตบหยางเส้าหัวจนมีเลือดไหลซึมจากมุมปาก ฟันกระเด็นออกไปหนึ่งซี่“คุณชายเส้า นี่คุณกำลังดูถูกสติปัญญาของผมสินะ” รอยยิ้มบนใบหน้าของฉู่เฉินพลันแข็งทื่อ สายตาที่ส่องประกายเย็นเยียบจับจ้องไปที่หยางเส้าหัว“พี่ฉู่ ผมผิดไปแล้วจริง ๆ อีกไม่นานพ่อของผมก็จะมาถึงแล้ว พอเขามาแล้ว ผม...ผมจะให้เขาชดใช้ค่าเสียหายของพี่ฉู่ยังไม่ได้อีกเหรอ? ขอร้องละอย่าตี
แม้แต่ฉู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมืองเล็กๆ ในโลกแห่งการหยั่งรู้ใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ?งั้นจะยังเดินเที่ยวทำไม มันเดินให้ทั่วไม่ได้อยู่แล้ว“หัวหน้าจ้าว ศูนย์กระจายวัตถุดิบยาของเมืองชิงหลงอยู่ที่ไหนครับ พาผมไปดูหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบแม้จะค้นหาในคลังวัตถุดิบยาของสำนักชิงอวิ๋นและคลังยาของวังเทียนเจี้ยนแล้ว ฉู่เฉินก็ยังคงไม่พบหญ้าเทียนเซียง สถานการณ์ของอวี้ลู่เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จำเป็นต้องหาวิธีโดยเร็วที่สุดและเอาหญ้าเทียนเซียงอีกสองต้นมาให้ได้“ไม่ทราบว่าคุณฉู่ต้องการซื้อวัตถุดิบยาอะไรครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณฉู่ครับ”จ้าวเต๋อฉวนกล่าวด้วยสีหน้าประจบสอพลอตราบใดที่ฉู่เฉินพอใจ บางทีอาจจะไล่เขาออกไปได้เร็วขึ้น“หญ้าเทียนเซียง”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบออกมาสามคำ ทั้งจ้าวเต๋อฉวนและหลินเจิ้งไท่ต่างก็ชะงักไป แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของทั้งสองก็กลับมาเป็นปกติในทันที“คุณฉู่ครับ วัตถุดิบยาแบบนี้ ในเมืองชิงหลงเราก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณสามารถตามผมไปที่ตรวจสอบที่ถนนขายวัตถุดิบยาด้วยตนเองได้เลยครับ!”เมื่อฉู่เฉินได้ยินก็หรี่ตาลง สายตาพิจารณาของ
“กลับเหรอ? ไม่ต้องรีบ ผมกำลังอยากไปเดินเล่นในเมืองพอดี”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังและชี้ไปที่เมืองชิงหลงซึ่งอยู่ไม่ไกลอะไรนะ?หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับของจ้าวเต๋อฉวนทันที มองไปทางฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ครับ เมืองชิงหลงทรุดโทรมมาก เกรงว่ามันจะไม่เข้าตาของคุณฉู่หรอกครับ”ฉู่เฉินแค่นเสียงเย็น มองสำรวจจ้าวเต๋อฉวนและกล่าวว่า “นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สำนักชิงอวิ๋นของคุณเป็นฝ่ายยั่วยุผม คุณคิดว่าผมฉู่เฉินเป็นคนยังไง? ที่พวกคุณเรียกมาก็มา ไล่ไปก็ไปงั้นเหรอ?”หลังจากที่กล่าวคำนี้ออกมา แม้แต่จ้าวเต๋อฉวนก็ยังยืนตะลึงอยู่กับที่“ฉู่เฉิน แกอย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนัก”หลินฮ่าวกัดฟันจ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธฉู่เฉินคนนี้ไม่ใช่แค่คำว่าเกินไปสองคำจะมาอธิบายได้แล้ว แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยในเมืองชิงหลง ไม่ต้องพูดถึงการตบคนตระกูลหลินของพวกเขา และยังข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันอวดดีเกินไปแล้วในขณะนี้ จู่ๆ จ้าวเต๋อฉวนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายสายกำลังสอดส่องมาทางนี้ ในใจพลันหนักอึ้ง ก่อนจะยกเท้าเตะหลินฮ่าวลงไปกองกับพื้น“นี่แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด?”ตอนนี้ใน
สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ก็ตบใบหน้าอีกด้านของหลินฮ่าว ตบซ้ำไปสองครั้งเสียงดังสนั่น“ไอ้คนแซ่ฉู่!”หลินฮ่าวโกรธจัดจนแทบคลั่ง!เห็นชัดว่าเขาพาคนมาดักฆ่าฉู่เฉิน แต่ผลลัพธ์ล่ะ?ฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่เขากลับโดนตบหน้าไปหกเจ็ดครั้งติดต่อกันจนแก้มบวมเป่งแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?“ฉู่เฉิน ฉันแนะนำให้แกทำแต่พอดี ไม่งั้น...”เมื่อหลินเจิ้งไท่กล่าวไปได้เพียงครึ่งประโยค ฉู่เฉินก็หันขวับมามองหลินเจิ้งไท่และกล่าวแทรกด้วยรอยยิ้มเยาะ “ถ้าคุณไม่พูด ผมคงเกือบลืมคุณไปแล้ว”“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? ฆ่าผม?”เพียะ เพียะ!ตบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดลงบนใบหน้าชราของหลินเจิ้งไท่อย่างจังเสียงตบดังสนั่นสองครั้งติดต่อกัน หลินเจิ้งไท่ตกตะลึง และทุกคนในตระกูลหลินต่างก็ตกตะลึงเช่นกันหลินเจิ้งไท่ลูบใบหน้าชราที่ถูกตบจนแดงก่ำด้วยความไม่เชื่อ ราวกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะเขาเป็นใคร?เขาอยู่ไหน?นี่คือในเมืองชิงหลง และตระกูลหลินก็เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองชิงหลง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้นำตระกูลหลินไม่ต้องพูดถึงการโดนตบเลย ปกติแล้วใครจะกล้าแม้แต่มาขึ้นเสียงกับเขา?แล้ววันนี้
เมื่อเห็นว่าคนในตระกูลหลินกำลังจะลงมือกับฉู่เฉินจริงๆ จ้าวเต๋อฉวนก็แทบจะกระอักเลือดออกมาสมองของกลุ่มคนนี้ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ ฆ่าฉู่เฉิน นี่พวกเขาต้องการจะทำลายสำนักชิงอวิ๋นงั้นเหรอ?“พวกคุณตระกูลหลินอยากให้สำนักชิงอวิ๋นของผมจะถูกล้างบางมากนักใช่ไหม?”ครั้งนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจัด คนอื่นมองสถานการณ์ไม่ออก เขายังพอเข้าใจได้ แต่หลินเจิ้งไท่อายุมากแล้ว ยังจะไร้เดียงสาเหมือนเด็กอีกงั้นเหรอ?เมื่อหลินเจิ้งไท่ได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนแล้วกล่าวว่า “หัวหน้าจ้าว คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงครับ?”ในสายตาของเขา การฆ่าฉู่เฉินจะเป็นยังไง?อย่างไรก็ตาม ว่านโซ่วเซียนเวิงและคนอื่นๆ ต้องการหยกโลหิตกิเลน และไม่เคยบอกว่าจะปกป้อง ฉู่เฉินถ้าพวกเขาไม่แตะหยกโลหิตกิเลนเรื่องก็จบไม่ใช่เหรอ?“พูดแบบนี้ได้ยังไงน่ะเหรอ? ตราบใดที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับคุณฉู่ในเมืองชิงหลง ในไม่ช้าทางสำนักว่านเซียนก็จะได้รับข่าว เมื่อถึงเวลานั้นคนที่จะมาก็ไม่ใช่แค่สำนักว่านเซียนแล้ว”“สำนักเสวียนปิง รวมถึงบรรดาสำนักใหญ่ที่โด่งดังพอๆ กับสำนักว่านเซียนต่างจะส่งคนมาที่นี่ ผมขอถามคุณว่าเมื่อถึงเวลานั้นใครจะส
สิ้นเสียง คนในตระกูลหลินต่างก้าวเท้าไปข้างหน้าและล้อมจ้าวเต๋อฉวนไว้ดูเหมือนว่าถ้าพูดไม่ถูกใจก็จะลงมือทันทีจ้าวเต๋อฉวนโกรธจนหัวเราะกับคนตระกูลหลิน มองสำรวจหลินเจิ้งไท่และกล่าวอย่างเย็นชา “ให้คำอธิบายกับคุณน่ะเหรอ? ผมจะอธิบายอะไรให้คุณล่ะ”หลินเจิ้งไท่สีหน้ามืดมน กัดฟันกล่าวว่า “พวกเราดักฆ่าฉู่เฉินที่นี่แล้วผิดอะไร? เจ้าสำนักก็เคยกล่าวไว้ ถ้าได้หยกโลหิตกิเลนมาก็เป็นประโยชน์ต่อสำนักชิงอวิ๋นของเราอย่างยิ่ง หัวหน้าจ้าวไม่รู้เหรอครับ?”“หึ ดักฆ่าฉู่เฉิน?”จ้าวเต๋อฉวนกัดฟันกรอดจนฟันแทบแตก มองหลินเจิ้งไท่อย่างเย็นชาและกล่าวว่า “พวกคุณคิดว่ามีแค่พวกคุณที่ได้รับข่าวว่าฉู่เฉินนำหยกโลหิตกิเลนเข้าสู่โลกแห่งการหยั่งรู้งั้นเหรอ?”“จนถึงตอนนี้ ฉู่เฉินยังคงปลอดภัยดี พวกคุณไม่คิดบ้างเหรอว่าทำไม?”หมายความว่ายังไง?เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเจิ้งไท่ก็มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนด้วยความไม่เข้าใจ“ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสำนักดูถูกพวกคุณตระกูลหลิน พวกคุณสร้างปัญหาให้เจ้าสำนักเก่งจริงๆ”ตอนนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจนอยากจะด่าคน ไม่เคยเจอใครโง่งมขนาดนี้มาก่อน“หัวหน้าจ้าว หวังว่าคุณจะอธิบายให้ชัดเจนครับ”หลินเจิ้งไท่
ในขณะนี้ หลิงเสวี่ยก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยเช่นกันเพราะไม่ใช่แค่หลินเจิ้งไท่เท่านั้น รวมถึงยอดฝีมือของตระกูลหลินทั้งสามที่อยู่เบื้องหลังเขาต่างก็ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าวแม้ว่าตอนนี้หลิงเสวี่ยจะอยู่ระดับสร้างรากฐานขั้นแปด แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเจิ้งไท่อย่างแน่นอนยิ่งกว่านั้น เหล่าคนที่อยู่เบื้องหลังหลินเจิ้งไท่ก็ล้วนมีพลังระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุด ถ้าลงมือขึ้นมาจริงๆ เธอและฉู่เฉินก็ไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อย“ฉู่เฉิน ฉันบอกคุณนานแล้วว่าอย่าอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้นานเกินไป คุณก็ไม่ฟัง”หลิงเสวี่ยกระซิบตำหนิฉู่เฉินไปพลาง มองไปรอบๆ อย่างกระวนกระวายไปพลางเมื่อเห็นว่าหลิงเสวี่ยเริ่มลนลานแล้ว หลินฮ่าวที่กำลังเอามือกุมหน้าก็ปาดเลือดที่มุมปากออก ก้าวไปข้างหน้าและมองสำรวจฉู่เฉินด้วยความดูถูกพลางกล่าวว่า “ไอ้คนแซ่ฉู่ ตอนนี้รู้แล้วหรือยังล่ะ?”ขณะกล่าว ก็กวาดตามองไปยังเหล่ายอดฝีมือของตระกูลหลินและกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนี้ จงส่งหยกโลหิตกิเลนมาซะ และทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้น ตาย!”ทันทีที่คำว่าตายหลุดออกมา คนในตระกูลหลินแทบจะก้าวเท้าไปข้างหน้าพร้อมกันแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัว
ในขณะที่คนในตระกูลหลินกำลังหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คนแซ่ฉู่คนนี้ช่างมีดวงผู้หญิงของผู้หญิงจริงๆ“ผมเอง มีอะไรเหรอครับ?”ฉู่เฉินเหลือบมองหลินฮ่าวและคนอื่นๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย“เหอะๆ มีอะไรงั้นเหรอ?”หลินฮ่าวหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ฉู่เฉิน แกคงไม่รู้ตัวว่าใกล้ถึงวาระสุดท้ายของแกแล้วสินะ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้ว มองสำรวจหลินฮ่าวและคนอื่นๆ พร้อมกับสงสัยว่า “ใกล้ถึงวาระสุดท้าย? ดูเหมือนว่าเราจะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันนะครับ?”ขณะกล่าว ฉู่เฉินและหลิงเสวี่ยต่างก็มองไปที่สมาชิกตระกูลหลินด้วยความระแวดระวังแม้ว่าคนเหล่านี้จะอยู่ในระดับสร้างรากฐานขั้นหกเท่านั้น แต่ฉู่เฉินกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ายอดฝีมือจำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เมื่อหลินฮ่าวได้ยินเช่นนี้ ก็แค่นเสียงเย็นและกล่าวว่า “คนแซ่ฉู่ แกจะแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไปทำไม เจ้าสำนักให้เวลาแกสามวันเพื่อไปรับโทษตายที่สำนักชิงอวิ๋น แกคิดว่าแกซ่อนตัวอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้แล้วจะไม่มีใครหาแกเจองั้นเหรอ?”“ฉันแนะนำให้แกส่งหยกโลหิตกิเลนมาจะดีที่สุด แล้วทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแกให้ตายอย่างไม่เหลือซาก
ในความเป็นจริงทั้งเมืองชิงหลง แทบจะอยู่ภายใต้อิทธิพลของสำนักชิงอวิ๋นตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่ก็ล้วนเป็นศิษย์ของสำนักชิงอวิ๋นเช่นกันถ้าตระกูลหลินเป็นฝ่ายเริ่มเสนอการสังหารฉู่เฉินพื่อแย่งชิงสมบัติ จากนั้นนำหยกโลหิตกิเลนไปมอบให้กับธรรมมาจารย์สำนักชิงอวิ๋น ดูเหมือนว่าตระกูลหลินของพวกเขาก็คงจะได้ความดีความชอบเป็นอันดับแรกสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือจ้าวเต๋อฉวนเป็นทายาทรุ่นที่สองของตระกูลจ้าวและยังเป็นเจ้าสำนักชิงอวิ๋นอีกด้วยถ้าใจร้อนอยากได้ความดีความชอบโดยปกปิดตระกูลจ้าว ทันทีที่เป็นศัตรูกับตระกูลจ้าว ก็ยากที่จะรับประกันได้ว่าในอนาคตจะไม่ถูกจ้าวเต๋อฉวนกีดกันดังนั้น ข้อเสนอของหลินฮ่าวจึงได้รับการเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์จากบรรดาผู้เฒ่าตระกูลหลินอย่างรวดเร็วในไม่ช้า ตระกูลหลินก็เริ่มดำเนินการ โดยส่งยอดฝีมือจำนวนมากติดตามหลินฮ่าวไปดักรอฉู่เฉินนอกเมืองชิงหลงอีกด้านหนึ่ง ยังได้ส่งลูกหลานตระกูลหลินไปจำนวนไม่น้อยไปแจ้งตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่แค่ยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานขั้นที่หกของตระกูลหลิน ก็มีมากถึงสิบกว่าคนแล้วเมื่อรวมกับตระกูลจ้าวและตระกูลสวี่ ภายใต้การร่วมมือของสามตระกูล ไม่ต้องพูดถึง
แม้ว่าจะไม่มีตึกสูง แต่ที่นี่ก็มีสินค้าอุปโภคบริโภคสมัยใหม่บางชนิดจำหน่ายด้วยเหมือนกันหลังจากฟังคำแนะนำของหลิงเสวี่ย ฉู่เฉินก็พยักหน้าและกล่าวว่า “ได้ งั้นไปที่เมืองชิงหลงกันก่อน”อันที่จริง ในด้านหนึ่งฉู่เฉินต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับโลกแห่งการหยั่งรู้ และในอีกด้านหนึ่งก็ต้องการค้นหาวัตถุดิบยาในเมืองชิงหลงด้วยอย่างไรก็ตาม ตอนนี้เจ้าทึ่มก็ถึงคอขวดแล้ว และจำเป็นต้องคิดหาวิธีที่จะเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นผีดิบเหินฟ้าโดยเร็วที่สุดไม่อย่างนั้น ฉู่เฉินก็คงจะขาดคู่ซ้อมที่แข็งแกร่งไปคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ“คุณจะไปเมืองชิงหลงจริงๆ เหรอ? คุณควรรู้ไว้ว่าตอนนี้คุณในโลกแห่งการหยั่งรู้ก็เหมือนกับเป็นสมบัติที่มีชีวิต ไม่รู้ว่ามีคนจำนวนเท่าไหร่ที่กำลังเล็งคุณอยู่”หลิงเสวี่ยกล่าวพลางขมวดคิ้วแน่นไม่ใช่ว่าเธอเป็นห่วงฉู่เฉินมากขนาดนั้น แต่ถ้าฉู่เฉินตกอยู่ในอันตราย เธอก็จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย“เมื่อวานเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้น ยังมีใครกล้าคิดร้ายกับผมอีกงั้นเหรอ?”ฉู่เฉินถามด้วยความสงสัยชิ!หลิงเสวี่ยกลอกตามองฉู่เฉินและกล่าวด้วยสีหน้าจนใจ “คุณคิดว่าเหตุการณ์เมื่อวานนี้จะสร้างความฮือฮาได้มากขนาดไหน แม้ว่า