“เจ้าอย่าคิดว่าข้าจะช่วยเจ้าจำกัดสำนักอวี้ซือเลย!”อวี้ลู่หยิบทิชชูเปียกขึ้นมาเช็ดคราบน้ำมันที่ติดตรงมุมปาก เธอหายใจหอบหนักขณะที่แลบลิ้นน้อยๆ ออกมา เห็นได้ชัดว่ารู้สึกเผ็ดร้อนมากแต่แบบนั้นก็ไม่สามารถหยุดยั้งมือน้อยๆ ของเธอที่ไปหยิบบาร์บิคิวด้วยความรวดเร็วยิ่งเผ็ดยิ่งฟิน ยิ่งเผ็ดยิ่งอยากกินตอนนี้เธอตกอยู่ในกับดักของอร่อยที่คนส่วนใหญ่ไม่สามารถหนีได้ และเธอก็ไม่สามารถดึงตัวเองออกมาได้เช่นกัน“พี่สบายใจเถอะครับ ผมไม่มีทางให้พี่เข้าไปเกี่ยวข้องเด็ดขาด พี่ทำแค่มองดูความครึกครื้นจากข้างหลังผมก็พอ ไม่ว่าจะเป็นตระกูลหยาง หรือสำนักอวี้ซือ ผมสามารถจัดการได้ครับ”ฉู่เฉินพูดขึ้นมาด้วยเสียงหัวเราะหืม?อวี้ลู่ได้ยินประโยคนี้ เธอก็อึ้งไปเลย อมลูกชิ้นปลาเอาไว้ในปาก กะพริบตา ทันใดนั้นเธอก็เข้าใจความหมายของฉู่เฉินทันทีมีเธอระดับเทวะมากความสามารถแบบนี้คอยหนุนหลังฉู่เฉินไว้ ใครจะกล้าทำอะไรฉู่เฉินล่ะ?สำนักอวี้ซืองั้นเหรอ?หากพูดในสายตาของทุกคน แม้แต่ผู้บำเพ็ญเต๋าระดับทารกวิญญาณก็ยังไม่มี เมื่อถึงตอนนั้นสำนักอวี้ซือคงจะอยู่ในน้ำมือของเขาคนที่สามารถกำราบสำนักอวี้ซือได้นั่นก็คืออวี้ลู่ แต่ฉู
“นายท่านใหญ่ ไอ้เจ้าฉู่เฉินนี่ผมว่าไม่ใช่คนที่ตระกูลหยางของเราจะเข้าไปยุ่งด้วยได้ ผู้หญิงคนนั้นก่อนที่จะฆ่าผู้อาวุโสต่ง เธอยังประกาศว่าจะจำกัดสำนักอวี้ซือให้สิ้นซาก”หยางเทียนหมิงสีหน้าไร้หนทางมองไปยังหยางติ่งเทียนเมื่อถึงคราวที่ต้องต่อสู้กันระหว่างผู้บำเพ็ญเต๋า พวกเขาไม่สนใจเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้ ตระกูลหยางก็ไม่ได้ทำถูกต้องตั้งแต่แรกแล้วสมมุติฝ่ายตรงข้ามบุกเข้ามายังสำนักอวี้ซือ ผลลัพธ์คงไม่อาจคาดเดาแน่ๆ !หยางติ่งเทียนหรี่ตาลง สีหน้าดูวิตกกังวลเล็กน้อย “อย่าพึ่งกังวลไป ให้ฉันคิดก่อน”เมื่อพูดถึงตรงนี้ หยางติ่งเทียนเดินไปเดินมาในห้องโถง“นายท่านใหญ่ ตระกูลหยางของเราจะล่มสลายเพราะหยางเส้าหัวคนเดียวไม่ได้นะครับ!”หยางเทียนฉีที่ก่อนหน้าเอาแต่เรียกร้องให้ฉีกร่างฉู่เฉินออกเป็นชิ้นๆ แต่ตอนนี้กลับยอมแพ้กลัวหัวหดในเมื่อหยางเทียนฉีเป็นแค่สมาชิกคนอื่นๆ ในตระกูลหยางวันนี้แม้ว่าทายาทจะถูกสังหาร แต่ก็ไม่ได้มีผลกระทบมากมายกับตระกูลหยางในเมืองหลงเฉิงแต่ว่าหากไปยั่วยุคนที่ไม่ควรยั่วยุแล้ว ตระกูลหยางก็จะตกอยู่ในความอันตรายหยางเทียนเสียงลุกยืนพร้อมพูดขึ้นมาว่า “นายท่านใหญ่ ในฐานะล
ต้วนหลิงเวยสองพี่น้อง ก็ตามหลังของฉู่เฉินเดินออกไปที่ประตูใหญ่ด้วยกันในตอนที่ถึงหน้าประตูแล้ว ก็อึ้งเกือบทุกคนพวกเขาเห็นชายแก่หัวขาว พาหยางเทียนหลงและชายวัยกลางคนอีกคน และชายหนุ่มอีกยี่สิบกว่าคนคุกเข่าที่หน้าประตูบ้านใหญ่ตระกูลฉู่แม้แต่ฉู่เฉินก็มองไปที่ชายแก่หัวขาวด้วยความสงสัย “ท่านผู้เฒ่า ท่านกำลัง...”“ผมคือหยางติ่งเทียน ตั้งใจมาขอโทษและน้อมรับความผิดกับคุณฉู่ครับ!”ในระหว่างที่พูด หยางติ่งเทียนก็ใช้ไม้เท้าที่อยู่ในมือสะกิดหยางเทียนหลงที่อยู่ข้างๆหยางเทียนหลงก็รับคุกเข่าคลานไปข้างหน้าฉู่เฉิน “คุณฉู่ ขอโทษด้วยครับ ก่อนหน้านี้เป็นเพราะผมมีตาหามีแววไม่ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง คุณฉู่ได้โปรดเมตรและปล่อยตระกูลหยางของผมด้วยเถอะครับ”พูดจบหยางเทียนหลงก็หมอบลงไปที่พื้น พร้อมทั้งโขกหัวไปที่พื้นเสียงดังลั่นฉู่เฉินใช้สายตามองหยางเทียนหลงและหยางติ่งเทียนทั้งสองคน ผ่านไปสักพักถึงจะหัวเราะอย่างเย็นชา “ทำไมเหรอครับ ส่งคนมาฆ่าผมแต่ไม่สำเร็จ แล้วยังจะอยากใช้ไม้อ่อนจัดการผมอีกเหรอครับ?”ประโยคนี้ออกไป หยางติ่งเทียนและคนอื่นๆ รีบส่ายมือ “ไม่กล้าหรอกครับ ผมไม่กล้าหรอกครับ”“คุณฉู่ ก่อนหน้าน
โดยเฉพาะผิวของเธอที่นุ่มลื่นเหมือนผ้าซาติน แม้ว่าจะเอื้อมมือไปสัมผัสแค่ครู่หนึ่ง ก็ทำเอาฉู่เฉินใจสั่นไปหมด“หลีกไป!”อวี้ลู่ปัดมือของฉู่เฉินออก พร้อมทั้งถลึงตาใส่ฉู่เฉินเจ้าหมอเด็กนี่นับวันยิ่งเหิมเกริมขึ้นทุกวัน กล้าฉวยโอกาสกับเธอหากไม่ใช่เพราะเห็นแก่ของกิน ไม่อย่างนั้นเธอคงสั่งสอนฉู่เฉินไปแล้วล่ะ!หึ!อวี้ลู่ส่งเสียงพึมพำ อวี้ลู่นำมือทั้งสองข้างไพล่ไว้ที่หลัง เดินเข้าไปในห้องเมื่ออวี้ลู่เดินออกไปไกลแล้ว หยางติ่งเทียนจึงเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก เขาพูดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องว่า “ตระกูลหยางของผมยินดีติดตามคุณฉู่ บุกน้ำลุยไฟไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ครับ!”“หากผิดคำสาบาน พวกเรายินดีให้สายฟ้าผ่าลงมา ให้ลูกศรธนูปักเข้ามายังที่กลางใจของพวกเรา!”หลังจากที่คำพูดของหยางติ่งเทียนจบลง คนอื่นๆ ก็ทำตามฉู่เฉินวาดยันต์ยื่นสัตย์สาบานกลางอากาศ พร้อมทั้งชี้ไปทางคนของตระกูลหยางตู้ม!ทันใดนั้นก็เหมือนมีพลังงานลึกลับบางอย่าง ทะลุเข้ามาภายในร่างกายของคนตระกูลหยางแม้แต่หยางเทียนหมิงที่อยู่ห่างไกลออกไปหลายร้อยไมล์ ก็สามารถสัมผัสถึงร่างกายของเขาถูกพลังงานบางอย่างผูกมัดไว้ “คุณอยู่ตรงนี้ก่อน ส่วนคนอื่นอ
เช้าวันที่สอง หลังจากที่ฉู่เฉินกินข้าวเช้าแล้ว เขาก็ขับรถมายังโรงพยาบาลประชาชนเมื่อถึงหน้าประตูก็ต่อสายหาหลี่จิงจิง เพื่อถามห้องผู้ป่วยของท่านเฉียว หลังจากนั้นเขาถึงเดินเข้ามาในโรงพยาบาลเดินมาถึงห้องพักผู้ป่วยพิเศษที่ชั้นบนสุด รอบๆ ไม่เพียงแต่ตำรวจของเจียงจงคอยเฝ้ายามเอาไว้ อีกทั้งยังมีชายฉกรรจ์ที่สวมหูฟังสื่อสารใส่ชุดสูทสีดำคอยเฝ้าเวรยามอยู่รอบๆ อีกด้วยฉู่เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อยคนพวกนี้ไม่เหมือนบอดี้การ์ดธรรมดาทั่วไป บนร่างของพวกเขามีความอำมหิตและโหดร้ายแฝงอยู่กลิ่นอายนั้นเป็นกลิ่นที่คนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถมีมันได้ แต่เป็นกลิ่นอายจากคนที่ผ่านศึกมามากมาย อีกทั้งมือยังเคยเปื้อนเลือดมาก่อนหรือจะพูดอีกอย่างหนึ่งว่า คนพวกนั้นคือนักรบ!“หยุดนะ!”ไม่รอช้าให้ฉู่เฉินได้เข้าใกล้ห้องผู้ป่วยของท่านเฉียว เขาก็ถูกชายในชุดสูทสองคนขวางทางเอาไว้“ฉันมาหาท่านเฉียว”ฉู่เฉินพูดขึ้นมาอย่างเรียบเฉย“แสดงบัตรประชาชนของคุณหน่อยครับ!”หนึ่งในนั้นพูดขึ้นมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ฉู่เฉินหัวเราะเจื่อนๆ แล้วพูดขึ้นมาว่า “ขอโทษด้วยครับ ผมลืมไว้ที่บ้าน แต่ว่าพวกคุณลองไปแจ้งให้ผู้ว่าการเฉียวดูก็ได้นะครับ
“ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ เพียงแต่ว่าท่านผู้เฒ่าท่านนี้เหลือเวลาอีกไม่มาก แต่สาเหตุที่ว่าทำไมถึงมีร่องรอยของการเสียชีวิต อันนี้ผมก็ยังไม่ค่อยแน่ใจครับ”ความหมายในคำพูดของฉู่เฉินชัดเจนเป็นอย่างมาก นั่นก็คือท่านหลงไม่ได้มีโรคภัยอะไร แต่จะตายโดยอุบัติเหตุ“บังอาจ!”ใครจะไปคิดว่าหลังจากที่ฉู่เฉินพูดจบ ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านขวาของท่านหลงก็ยืนขึ้นมา ถลึงตาดุร้ายราวกับเสือ พร้อมทั้งเดินมาข้างหน้าอย่าดุร้าย!รอบๆ ตัวของเขามีกลิ่นอายของผู้ฝึกปราณชั้นหกคละคลุ้งออกมา!แม้แต่เฉียวเทียนฉี่ที่เป็นบุคคลสูงส่งขนาดนี้ก็ยังรับไม่ไหวกับความน่าเกรงขามของเขาไม่ได้ ถึงกลับต้องถอยไปข้างหลังท่านหลงกลับยิ้มไม่พูดอะไรมองไปที่ฉู่เฉินเมื่อเห็นฉู่เฉินไม่ได้มีความหวาดกลัวแม้แต่อย่างไร ยังคงดื่มชาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้แต่ท่านหลงเองก็ยังอดไม่ได้ที่จะพยักหน้าเล็กน้อย และเขาก็ชื่นชมในตัวฉู่เฉินมากยิ่งขึ้นอีกด้วยหนักแน่นดั่งเขาไท่ซาน!เด็กหนุ่มแบบนี้ตอนนี้มีไม่มากเท่าไหร่แล้ว“ที่ผมพูดล้วนแต่เป็นความจริง ดังนั้นนายท่านใหญ่ช่วงนี้ให้ระวังตัวเป็นพิเศษหน่อยนะครับ หลีกเลี่ยงเผื่อจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นจริงๆ เมื่อถ
ถังจิ้งจือกวาดมองฉู่เฉินอย่างดูถูก เขายิ้มเยาะ “เสียแรงที่เป็นถึงแพทย์แผนจีน ไม่รู้จักแม้กระทั่งฉันได้ยังไง ถังจิ้งจือ หนึ่งในแพทย์จีนหัตถ์เทวดาระดับประเทศ เคยได้ยินหรือเปล่า”ถังจิ้งจือใบหน้าหยิ่งทะนง เขาเม้มปาก ยื่นมือออกไปหมายจะคว้ายาบำรุงปราณในมือของท่านเฉียวเขาเป็นแพทย์ประจำตัวของท่านหลง เดิมทีที่เขาติดตามท่านหลงมาในครั้งนี้ เพียงเพื่อมาเยี่ยมเยือนท่านเฉียวเท่านั้นแต่ทว่า ตั้งแต่สองผู้อาวุโสพบหน้ากัน นายท่านใหญ่เฉียวกลับเอ่ยชมความสามารถด้านการแพทย์ของฉู่เฉินไม่ขาดปากแม้แต่เฉียวเทียนฉี่ยังเรียกฉู่เฉินว่าหมอเทวดาฉู่ทุกคำ นี่ทำให้ถังจิ้งจือที่เป็นหมอรู้สึกเสียหน้าอย่างมากเขาเป็นถึงหมอหัตถ์เทวดาระดับประเทศเชียวนะ แม้จะไร้หนทางรักษาอาการป่วยของนายท่านใหญ่เฉียวก็แล้วไปตอนนี้นายท่านใหญ่ดีขึ้นมากแล้ว แต่เขากลับไม่สามารถจัดการกับปัญหาที่เหลือได้ นี่ไม่เท่ากับโดนตบหน้าตรงๆ เหรอเป็นถึงหมอหัตถ์เทวดาระดับประเทศ หมอประจำตัวของท่านหลง แต่กลับพ่ายแพ้เรื่องความสามารถด้านการแพทย์ให้กับเด็กรุ่นหลังคนหนึ่ง ถังจิ้งจือมีหรือจะยอมจบง่ายๆ?เขาข่มกลั้นความโกรธไว้เต็มอกก่อนที่ฉู่เฉินจะมาอยู่แ
เพียะ!ถังจิ้งจือยังพูดไม่ทันจบ ฉู่เฉินสะบัดฝ่ามือใส่หน้าเขาอย่างแรง ถังจิ้งจือถูกตบจนตัวหมุน แว่นตาบนหน้ากระเด็นออกไปไกลสามเมตร ตกกระแทกพื้นแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย“ใครมอบความกล้าให้คุณ ถึงได้กล้าพูดจาหยาบคายต่อหน้าผม!”พูดจบ ฉู่เฉินลุกขึ้นและหันไปพูดกับท่านเฉียวว่า “ท่านเฉียว กินยาบำรุงปราณแล้วผมจะใช้วิชาฝังเข็มกระตุ้นให้ฤทธิ์ยากระจายไปทั่วร่างกายของคุณเอง”ท่านเฉียวเหลือบมองท่านหลงที่สีหน้าดำทะมึนแวบหนึ่ง แต่ก็ยังทำตามที่ฉู่เฉินบอกท่านเฉียวเพิ่งจะกินยาบำรุงปราณ ฉู่เฉินยกมือขึ้นพร้อมกับเข็มเงินสามเล่มที่ลอยอยู่กลางอากาศ ส่งเสียงดังหึ่งๆ เป็นระยะภาพเหตุการณ์นี้ทำให้แม้แต่ท่านหลงก็ยังต้องลุกขึ้นยืนด้วยความตกตะลึง มองฉู่เฉินและอุทานด้วยความตื่นตาตื่นใจว่า “นะ… นี่มันวิชาฝังเข็มเสวียนเทียนคืนวิญญาณ?!”บอกตามตรง ทั้งชีวิตท่านหลงเคยเห็นแค่ครั้งเดียวนั่นก็คือตอนที่นักพรตพเนจรท่านหนึ่งใช้วิชานี้เพื่อรักษาท่านอาจารย์ที่หอคอยเทียนจื่อในเมืองหลวงตอนนั้น นักพรตพเนจรคนนั้นพูดเองกับปาก บนโลกนี้นอกจากเขาก็ไม่มีใครสามารถใช้วิชาลึกลับนี้ได้อีกพริบตาเดียวก็ผ่านไปแล้วหลายสิบปี แพทย์ชื่อด
“ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณฉู่”หลินเยว่หรูขอบคุณเป็นล้นพ้นแล้ววางสายไปแต่หลินเจิ้งไท่ที่อยู่ทางด้านข้างกลับมองไปยังฉู่เฉินด้วยความสงสัยเขาอยู่ระดับสร้างรากฐานชั้นเจ็ด แต่หลินเยว่หรูกลับให้ฉู่เฉินช่วยต่อกรกับยอดฝีมือระดับสร้างรากฐานชั้นเก้าเหรอ?ลูกสาวของเขาคงไม่ได้โดนฉู่เฉินเอาจนโง่งมไปแล้วใช่ไหม?แต่พอขบคิดให้ละเอียด ด้วยสถานะของฉู่เฉินในตอนนี้ ระดับสร้างรากฐานชั้นเก้ายังไม่อยู่ในสายตาเขาจริง ๆ ต่อให้ฉู่เฉินเป็นแค่คนธรรมดา แต่ใครจะกล้าแตะต้องเขาแม้กระทั่งปลายนิ้ว? “หัวหน้าจ้าว เมื่อกี้คุณบอกว่าจะพาผมไปส่งที่เจียงจงเหรอครับ?” ฉู่เฉินวางโทรศัพท์ลง จิบชาแล้วเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “แน่นอนสิครับ ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่คุณฉู่มาที่เมืองชิงหลง ผมกับผู้เฒ่าหลินจะต้องออกมาต้อนรับสิบลี้ ไปส่งสิบลี้อย่างแน่นอน” จ้าวเต๋อฉวนพรูลมหายใจยาวออกมา ในที่สุดก็จะได้ส่งไอ้ตัวซวยคนนี้ออกไปสักทีเมื่อเห็นฉู่เฉินกับหลิงเสวี่ยลุกขึ้น หลินเจิ้งไท่ก็รีบตามไป คนทั้งกลุ่มมุ่งหน้าตรงไปทางทางออกฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเจียงจงทันที ......อีกทางด้านหนึ่ง หลินเยว่หรูเพิ่งจะวางโทรศัพท์ลง ลั่วเทียนเต๋อก็ตบโต๊ะด้วย
“คุณฉู่ ตอนนี้ลูกชายของฉันฟื้นแล้ว หมอบอกว่าพักอีกหน่อยก็ไม่เป็นอะไรแล้ว ที่ฉันโทรหาคุณครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ แต่...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ หลินเยว่หรูลังเลอยู่นาน ก่อนจะกล่าวต่อ “ไม่ทราบว่าช่วงนี้คุณฉู่พอจะมีเวลาว่างไหมคะ?”“ช่วงนี้... คงไม่มีเวลาไปไปเยี่ยมเยียนเส้นทางที่ร่มรื่นของคุณหรอกครับ”ขณะที่ฉู่เฉินกล่าว ก็หันศีรษะไปมองหลิงเสวี่ยที่อยู่ข้างๆเมื่อเทียบกับหลิงเสวี่ยแล้ว สุดท้ายหลินเยว่หรูก็ยังด้อยกว่าอยู่ระดับหนึ่งไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น แค่ในแง่ของความอดทน แม้ว่าหลิงเสวี่ยจะเป็นมือใหม่ แต่ความอดทนของเธอก็ดีกว่าหลินเยว่หรูไม่น้อยหลังจากศึกหนักเมื่อคืนนี้ หลิงเสวี่ยไม่เพียงแต่ไม่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง แต่กลับได้รับการพัฒนาอย่างลึกซึ้ง ยิ่งกว่านั้น หลิงเสวี่ยยังมีร่างกายพิเศษซึ่งมีคุณสมบัติในการบำรุงฉู่เฉินไม่น้อยเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว หลินเยว่หรูยังคงมีร่างกายเป็นกระถางรับซึ่งเป็นเพียงการเล่นสนุกเท่านั้นและฉู่เฉินก็ไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆหลินเยว่หรูที่ปลายสายเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าวว่า “คุณฉู่คะ ฉัน... ฉันมีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณค่ะ
แม้แต่ฉู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมืองเล็กๆ ในโลกแห่งการหยั่งรู้ใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอ?งั้นจะยังเดินเที่ยวทำไม มันเดินให้ทั่วไม่ได้อยู่แล้ว“หัวหน้าจ้าว ศูนย์กระจายวัตถุดิบยาของเมืองชิงหลงอยู่ที่ไหนครับ พาผมไปดูหน่อย”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบแม้จะค้นหาในคลังวัตถุดิบยาของสำนักชิงอวิ๋นและคลังยาของวังเทียนเจี้ยนแล้ว ฉู่เฉินก็ยังคงไม่พบหญ้าเทียนเซียง สถานการณ์ของอวี้ลู่เริ่มไม่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว จำเป็นต้องหาวิธีโดยเร็วที่สุดและเอาหญ้าเทียนเซียงอีกสองต้นมาให้ได้“ไม่ทราบว่าคุณฉู่ต้องการซื้อวัตถุดิบยาอะไรครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะมอบมันให้กับคุณฉู่ครับ”จ้าวเต๋อฉวนกล่าวด้วยสีหน้าประจบสอพลอตราบใดที่ฉู่เฉินพอใจ บางทีอาจจะไล่เขาออกไปได้เร็วขึ้น“หญ้าเทียนเซียง”ฉู่เฉินกล่าวเสียงเรียบออกมาสามคำ ทั้งจ้าวเต๋อฉวนและหลินเจิ้งไท่ต่างก็ชะงักไป แต่ในวินาทีต่อมา สีหน้าของทั้งสองก็กลับมาเป็นปกติในทันที“คุณฉู่ครับ วัตถุดิบยาแบบนี้ ในเมืองชิงหลงเราก็ไม่มีเช่นกัน ถ้าไม่เชื่อ คุณสามารถตามผมไปที่ตรวจสอบที่ถนนขายวัตถุดิบยาด้วยตนเองได้เลยครับ!”เมื่อฉู่เฉินได้ยินก็หรี่ตาลง สายตาพิจารณาของ
“กลับเหรอ? ไม่ต้องรีบ ผมกำลังอยากไปเดินเล่นในเมืองพอดี”ฉู่เฉินเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังและชี้ไปที่เมืองชิงหลงซึ่งอยู่ไม่ไกลอะไรนะ?หยาดเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นที่ขมับของจ้าวเต๋อฉวนทันที มองไปทางฉู่เฉินแล้วกล่าวว่า “คุณฉู่ครับ เมืองชิงหลงทรุดโทรมมาก เกรงว่ามันจะไม่เข้าตาของคุณฉู่หรอกครับ”ฉู่เฉินแค่นเสียงเย็น มองสำรวจจ้าวเต๋อฉวนและกล่าวว่า “นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่สำนักชิงอวิ๋นของคุณเป็นฝ่ายยั่วยุผม คุณคิดว่าผมฉู่เฉินเป็นคนยังไง? ที่พวกคุณเรียกมาก็มา ไล่ไปก็ไปงั้นเหรอ?”หลังจากที่กล่าวคำนี้ออกมา แม้แต่จ้าวเต๋อฉวนก็ยังยืนตะลึงอยู่กับที่“ฉู่เฉิน แกอย่ารังแกคนอื่นมากเกินไปนัก”หลินฮ่าวกัดฟันจ้องฉู่เฉินด้วยความโกรธฉู่เฉินคนนี้ไม่ใช่แค่คำว่าเกินไปสองคำจะมาอธิบายได้แล้ว แทบจะไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยในเมืองชิงหลง ไม่ต้องพูดถึงการตบคนตระกูลหลินของพวกเขา และยังข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า นี่มันอวดดีเกินไปแล้วในขณะนี้ จู่ๆ จ้าวเต๋อฉวนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวหลายสายกำลังสอดส่องมาทางนี้ ในใจพลันหนักอึ้ง ก่อนจะยกเท้าเตะหลินฮ่าวลงไปกองกับพื้น“นี่แกมีสิทธิ์อะไรมาพูด?”ตอนนี้ใน
สิ้นเสียงของฉู่เฉิน ก็ตบใบหน้าอีกด้านของหลินฮ่าว ตบซ้ำไปสองครั้งเสียงดังสนั่น“ไอ้คนแซ่ฉู่!”หลินฮ่าวโกรธจัดจนแทบคลั่ง!เห็นชัดว่าเขาพาคนมาดักฆ่าฉู่เฉิน แต่ผลลัพธ์ล่ะ?ฉู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่เขากลับโดนตบหน้าไปหกเจ็ดครั้งติดต่อกันจนแก้มบวมเป่งแล้วเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?“ฉู่เฉิน ฉันแนะนำให้แกทำแต่พอดี ไม่งั้น...”เมื่อหลินเจิ้งไท่กล่าวไปได้เพียงครึ่งประโยค ฉู่เฉินก็หันขวับมามองหลินเจิ้งไท่และกล่าวแทรกด้วยรอยยิ้มเยาะ “ถ้าคุณไม่พูด ผมคงเกือบลืมคุณไปแล้ว”“เมื่อกี้คุณเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? ฆ่าผม?”เพียะ เพียะ!ตบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาดลงบนใบหน้าชราของหลินเจิ้งไท่อย่างจังเสียงตบดังสนั่นสองครั้งติดต่อกัน หลินเจิ้งไท่ตกตะลึง และทุกคนในตระกูลหลินต่างก็ตกตะลึงเช่นกันหลินเจิ้งไท่ลูบใบหน้าชราที่ถูกตบจนแดงก่ำด้วยความไม่เชื่อ ราวกับตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะเขาเป็นใคร?เขาอยู่ไหน?นี่คือในเมืองชิงหลง และตระกูลหลินก็เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของเมืองชิงหลง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นผู้นำตระกูลหลินไม่ต้องพูดถึงการโดนตบเลย ปกติแล้วใครจะกล้าแม้แต่มาขึ้นเสียงกับเขา?แล้ววันนี้
เมื่อเห็นว่าคนในตระกูลหลินกำลังจะลงมือกับฉู่เฉินจริงๆ จ้าวเต๋อฉวนก็แทบจะกระอักเลือดออกมาสมองของกลุ่มคนนี้ช่างไม่เหมือนใครจริงๆ ฆ่าฉู่เฉิน นี่พวกเขาต้องการจะทำลายสำนักชิงอวิ๋นงั้นเหรอ?“พวกคุณตระกูลหลินอยากให้สำนักชิงอวิ๋นของผมจะถูกล้างบางมากนักใช่ไหม?”ครั้งนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจัด คนอื่นมองสถานการณ์ไม่ออก เขายังพอเข้าใจได้ แต่หลินเจิ้งไท่อายุมากแล้ว ยังจะไร้เดียงสาเหมือนเด็กอีกงั้นเหรอ?เมื่อหลินเจิ้งไท่ได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนแล้วกล่าวว่า “หัวหน้าจ้าว คุณพูดแบบนี้ได้ยังไงครับ?”ในสายตาของเขา การฆ่าฉู่เฉินจะเป็นยังไง?อย่างไรก็ตาม ว่านโซ่วเซียนเวิงและคนอื่นๆ ต้องการหยกโลหิตกิเลน และไม่เคยบอกว่าจะปกป้อง ฉู่เฉินถ้าพวกเขาไม่แตะหยกโลหิตกิเลนเรื่องก็จบไม่ใช่เหรอ?“พูดแบบนี้ได้ยังไงน่ะเหรอ? ตราบใดที่เกิดเรื่องไม่คาดฝันกับคุณฉู่ในเมืองชิงหลง ในไม่ช้าทางสำนักว่านเซียนก็จะได้รับข่าว เมื่อถึงเวลานั้นคนที่จะมาก็ไม่ใช่แค่สำนักว่านเซียนแล้ว”“สำนักเสวียนปิง รวมถึงบรรดาสำนักใหญ่ที่โด่งดังพอๆ กับสำนักว่านเซียนต่างจะส่งคนมาที่นี่ ผมขอถามคุณว่าเมื่อถึงเวลานั้นใครจะส
สิ้นเสียง คนในตระกูลหลินต่างก้าวเท้าไปข้างหน้าและล้อมจ้าวเต๋อฉวนไว้ดูเหมือนว่าถ้าพูดไม่ถูกใจก็จะลงมือทันทีจ้าวเต๋อฉวนโกรธจนหัวเราะกับคนตระกูลหลิน มองสำรวจหลินเจิ้งไท่และกล่าวอย่างเย็นชา “ให้คำอธิบายกับคุณน่ะเหรอ? ผมจะอธิบายอะไรให้คุณล่ะ”หลินเจิ้งไท่สีหน้ามืดมน กัดฟันกล่าวว่า “พวกเราดักฆ่าฉู่เฉินที่นี่แล้วผิดอะไร? เจ้าสำนักก็เคยกล่าวไว้ ถ้าได้หยกโลหิตกิเลนมาก็เป็นประโยชน์ต่อสำนักชิงอวิ๋นของเราอย่างยิ่ง หัวหน้าจ้าวไม่รู้เหรอครับ?”“หึ ดักฆ่าฉู่เฉิน?”จ้าวเต๋อฉวนกัดฟันกรอดจนฟันแทบแตก มองหลินเจิ้งไท่อย่างเย็นชาและกล่าวว่า “พวกคุณคิดว่ามีแค่พวกคุณที่ได้รับข่าวว่าฉู่เฉินนำหยกโลหิตกิเลนเข้าสู่โลกแห่งการหยั่งรู้งั้นเหรอ?”“จนถึงตอนนี้ ฉู่เฉินยังคงปลอดภัยดี พวกคุณไม่คิดบ้างเหรอว่าทำไม?”หมายความว่ายังไง?เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเจิ้งไท่ก็มองไปที่จ้าวเต๋อฉวนด้วยความไม่เข้าใจ“ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสำนักดูถูกพวกคุณตระกูลหลิน พวกคุณสร้างปัญหาให้เจ้าสำนักเก่งจริงๆ”ตอนนี้จ้าวเต๋อฉวนโกรธจนอยากจะด่าคน ไม่เคยเจอใครโง่งมขนาดนี้มาก่อน“หัวหน้าจ้าว หวังว่าคุณจะอธิบายให้ชัดเจนครับ”หลินเจิ้งไท่
ในขณะนี้ หลิงเสวี่ยก็รู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยเช่นกันเพราะไม่ใช่แค่หลินเจิ้งไท่เท่านั้น รวมถึงยอดฝีมือของตระกูลหลินทั้งสามที่อยู่เบื้องหลังเขาต่างก็ก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าวแม้ว่าตอนนี้หลิงเสวี่ยจะอยู่ระดับสร้างรากฐานขั้นแปด แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลินเจิ้งไท่อย่างแน่นอนยิ่งกว่านั้น เหล่าคนที่อยู่เบื้องหลังหลินเจิ้งไท่ก็ล้วนมีพลังระดับสร้างรากฐานขั้นสูงสุด ถ้าลงมือขึ้นมาจริงๆ เธอและฉู่เฉินก็ไม่มีโอกาสชนะเลยแม้แต่น้อย“ฉู่เฉิน ฉันบอกคุณนานแล้วว่าอย่าอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้นานเกินไป คุณก็ไม่ฟัง”หลิงเสวี่ยกระซิบตำหนิฉู่เฉินไปพลาง มองไปรอบๆ อย่างกระวนกระวายไปพลางเมื่อเห็นว่าหลิงเสวี่ยเริ่มลนลานแล้ว หลินฮ่าวที่กำลังเอามือกุมหน้าก็ปาดเลือดที่มุมปากออก ก้าวไปข้างหน้าและมองสำรวจฉู่เฉินด้วยความดูถูกพลางกล่าวว่า “ไอ้คนแซ่ฉู่ ตอนนี้รู้แล้วหรือยังล่ะ?”ขณะกล่าว ก็กวาดตามองไปยังเหล่ายอดฝีมือของตระกูลหลินและกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนี้ จงส่งหยกโลหิตกิเลนมาซะ และทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้น ตาย!”ทันทีที่คำว่าตายหลุดออกมา คนในตระกูลหลินแทบจะก้าวเท้าไปข้างหน้าพร้อมกันแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัว
ในขณะที่คนในตระกูลหลินกำลังหัวเราะเยาะอยู่ในใจ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ คนแซ่ฉู่คนนี้ช่างมีดวงผู้หญิงของผู้หญิงจริงๆ“ผมเอง มีอะไรเหรอครับ?”ฉู่เฉินเหลือบมองหลินฮ่าวและคนอื่นๆ แล้วพยักหน้าเล็กน้อย“เหอะๆ มีอะไรงั้นเหรอ?”หลินฮ่าวหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ฉู่เฉิน แกคงไม่รู้ตัวว่าใกล้ถึงวาระสุดท้ายของแกแล้วสินะ?”ฉู่เฉินขมวดคิ้ว มองสำรวจหลินฮ่าวและคนอื่นๆ พร้อมกับสงสัยว่า “ใกล้ถึงวาระสุดท้าย? ดูเหมือนว่าเราจะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันนะครับ?”ขณะกล่าว ฉู่เฉินและหลิงเสวี่ยต่างก็มองไปที่สมาชิกตระกูลหลินด้วยความระแวดระวังแม้ว่าคนเหล่านี้จะอยู่ในระดับสร้างรากฐานขั้นหกเท่านั้น แต่ฉู่เฉินกลับรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ายอดฝีมือจำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้เมื่อหลินฮ่าวได้ยินเช่นนี้ ก็แค่นเสียงเย็นและกล่าวว่า “คนแซ่ฉู่ แกจะแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไปทำไม เจ้าสำนักให้เวลาแกสามวันเพื่อไปรับโทษตายที่สำนักชิงอวิ๋น แกคิดว่าแกซ่อนตัวอยู่ในโลกแห่งการหยั่งรู้แล้วจะไม่มีใครหาแกเจองั้นเหรอ?”“ฉันแนะนำให้แกส่งหยกโลหิตกิเลนมาจะดีที่สุด แล้วทิ้งผู้หญิงข้างๆ แกไว้ ไม่งั้นฉันจะฆ่าแกให้ตายอย่างไม่เหลือซาก