Share

บทที่ 148

Author: มู่โร่ว
เขาและซ่งอวิ๋นฮุยขี่ม้าไปที่ค่ายพัก

เขามองไปที่แจกัน เย่มู่มู่ไม่ได้ตอบจดหมายกลับมา

เวลานี้ ดวงอาทิตย์เพิ่งจะขึ้น ตามวิธีพูดของท่านเทพ ยังไม่ถึงแปดโมง นางกำลังพักผ่อนอยู่

โรคระบาดเป็นเรื่องที่เร่งรีบ รอไม่ได้แล้ว

เขาหาแท็บเลต ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ห้านาที

แล้วส่งกระดาษเหมือนกันไปด้วย

บนกระดาษเขียนอาการของโรคระบาด

ร่างกายรู้สึกร้อนวูบวาบ เหมือนถูกไฟไหม้

เหงื่อแตกจนทำให้เตียงเปียกได้ และเริ่มพูดเพ้อเจ้อ

สองชั่วยามต่อมา ชีพจรอ่อนแอลง ลมหายใจเริ่มติด ๆ ขัด ๆ

พอผ่านไปอีกหนึ่งหรือสองชั่วยาม ตอนที่พบ ก็หมดลมหายใจแล้ว

อุณหภูมิร่างกายของศพยังสูงมาก!

*

เย่มู่มู่ที่นอนหลับสนิทได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก

เธอลุกขึ้นจากเตียง ลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ ได้ยินเสียงแท็บเลตมือสองดังขึ้นใต้แจกัน

มีกระดาษสีขาวสองแผ่นตกอยู่ข้าง ๆ

กระดาษหนึ่งแผ่นถูกเขียนไว้เต็มหน้า ส่วนอีกแผ่นเขียนสองสามบรรทัด!

เธอหยิบกระดาษขาวที่เขียนไว้ขึ้นมา

ลายมือสะเปะสะปะ ปากกาลูกลื่นเขียนเร็วและรีบร้อน

หรือว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่ด่านเจิ้นกวน?

เธออ่านทั้งหมดแล้ว เหงื่อก็แตกพลั่กทันที!

เกิดโรคระบาดในด้านเจิ้นกวน!

โรคระบาด!

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
อำนวย สุขสงคราม
รับโบนัดฟรีครั้งละ1โบนัดน่าบื่อ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 149

    สถิติคร่าว ๆ ในตอนนี้ ผู้ติดเชื้อโรคระบาดมีประมาณพันคนคนพวกนี้ จะให้กักตัวก็คงสายไปแล้วบางทีจำนวนผู้ติดเชื้ออาจเพิ่มเป็นหมื่นคน!ขณะที่จ้านเฉิงอิ้นกังวลกับโรคระบาด...ทหารที่คอยสังเกตการณ์กองทัพของแคว้นฉู่และแคว้นฉี ก็กลับมารายงานอย่างรวดเร็ว“รายงานท่านแม่ทัพ...มีการเคลื่อนไหวแปลก ๆ ที่แคว้นฉู่และแคว้นฉีขอรับ!”จ้านเฉิงอิ้นไปดูภาพสังเกตการณ์ตอนนี้จากอากาศยานไร้คนขับเมื่อคืนนี้ถูกไฟไหม้หนักค่ายทหารของแคว้นฉู่ทรุดโทรมอย่างหนัก กระโจมจำนวนนับไม่ถ้วนถูกเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่านมีศพที่ถูกเผาจำนวนมากวางอยู่นอกค่ายพักกองทัพแคว้นฉู่ไม่ได้ฝังศพ แต่โยนศพไปข้าง ๆในเวลานี้ หลิงเซี่ยวเฟิงออกคำสั่งให้ทหารทุกคนรวมตัว สวมชุดเกราะ ถืออาวุธในมือ เตรียมพร้อมออกเดินทางพวกเขากำลังเตรียมโจมตีด่านเจิ้นกวนหรือ?จ้านเฉิงอิ้นมาที่กำแพงเมืองอย่างรวดเร็ว เห็นธงมังกรดำของแคว้นฉีอยู่ไม่ไกลทหารแคว้นฉียืนเต็มพื้นที่ กำลังเคลื่อนตัวเข้ามาทางกำแพงเมืองระหว่างฟ้าดิน สิ่งที่เห็นคือสีดำที่มืดมัว!เกี้ยวที่อยู่ตรงกลางถูกล้อมรอบด้วยกองทัพแคว้นฉี ฮ่องเต้ฉีซวนเหิงสวมชุดหรูหราสีเหลืองสดใส นั่งอยู่บนเกี้ย

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 150

    “โรงหมอกองทัพไม่สามารถจัดการกับโรคระบาดนี้ได้ หมอประจำกองทัพหลายคนก็ไร้ความสามารถ!”หลี่หยวนจงถามว่า “ระเบิดล่ะ? จะมาถึงเมื่อไหร่?”ดวงตาของจ้านเฉิงอิ้นมืดมน ขณะที่กำลังมองไปที่กองทัพใต้กำแพงเมืองที่บุกมาประชิดกำแพงเขากล่าวว่า “ระเบิดจะมาถึงตอนค่ำ ส่วนหน้าไม้ราชวงศ์ฉินกับดาบม่อเตาจะมาช่วงบ่าย!”แต่ตอนนี้~เหลือเวลาเพียงไม่กี่ชั่วยามก่อนที่อาวุธจะส่งมาแต่ภายในไม่กี่ชั่วยามนี้ ส่วนใหญ่ในด่านเจิ้นกวนจะต้องร้อนระอุเถียนฉินและสวี่หมิงปิดปากปิดจมูก พยายามระงับอาการไอพวกเขาติดโรคระบาดแล้วเช่นนี้ แม่ทัพล่ะ...ใบหน้าของจ้านเฉิงอิ้นยังไม่ได้แปลกใจ!อย่างไรก็ตาม เถียนฉินและสวี่หมิงก็ไม่รอดเขาเองก็อาจจะติดเชื้อไปแล้วเฉินอู่มองไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยสายตากังวล “ท่านแม่ทัพ ร่างกายของท่าน...”เขาส่ายหัว “ไม่เป็นไร!”ปัญหาแรกตอนนี้คือการทำให้ศัตรูล่าถอยก่อนแม้ว่าหน้าไม้ราชวงศ์ฉินและดาบม่อเตาจะถูกส่งมาตอนบ่ายในเวลานั้น มีคนติดเชื้ออยู่เท่าไหร่ มีกี่คนที่สามารถดึงหน้าไม้ราชวงศ์ฉินได้หน้าไม้ราชวงศ์ฉินต้องใช้กำลังทั้งหมดของร่างกาย เท้าต้องเหยียบที่สายธนูเพื่อยิงทหารที่เป็นไข้สู

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 151

    ตอนนี้ ก็ดูแค่ว่าใครจะทนไม่ไหวก่อนกัน!จวงเหลียงก็เห็นด้วยกับคำพูดของจ้านเฉิงอิ้น“ครั้งก่อนที่มาตีกำแพงเมือง ทั้งสองแคว้นล้วนพ่ายแพ้อย่างอนาถ ดังนั้น พวกเขาจะไม่เคลื่อนไหวอย่างหุนหันเป็นแน่”“นอกเสียจากจะมีความมั่นใจเต็มสิบส่วน มิเช่นนั้นไม่มีทางมาตีเมืองแน่!”“ตอนนี้ พวกเราได้แต่ภาวนา ให้ท่านเทพรีบส่งอุปกรณ์และยุทโธปกรณ์มาเร็วไว หากเป็นเช่นนั้น อาจพอมีกำลังให้สู้ได้อีกครั้ง”ภายใต้สถานการณ์ในตอนนี้ มีเพียงใช้ระเบิด จึงจะสามารถทำให้ถอยทัพได้ดังนั้น แม้จะส่งหน้าไม้มาก็อาจไร้ประโยชน์ เพราะเหล่าทหารติดโรคระบาด ไม่อาจง้างสายธนูได้ทุกคนล้วนกลัดกลุ้มใจ ต่างคิดหาทุกวิธีเพื่อถ่วงเวลาทำศึก!ในเวลานี้ มีทหารชั้นผู้น้อยมารายงานอีกครั้ง“รายงานท่านแม่ทัพ กองทัพเผ่าหมานปรากฏตัวทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ขอรับ!”ทัพเผ่าหมานเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?พวกเขาคิดว่า เผ่าหมานล้มเลิกความคิดเกี่ยวกับด้านเจิ้นกวนไปแล้ว เพราะฝ่ายนั้นสูญเสียทหารไปกว่าแสนนายและผู้นำทัพก็มิได้อยู่ประจำการมานานแล้ว…คิดไม่ถึงว่า พวกมันยังกล้าบุกมาอีก!จ้านเฉิงอิ้นรีบเดินไปที่กำแพงเมืองทางทิศตะวันตกเฉียงใต้อย่างรวดเร็ว

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 152

    ดินแดนของแคว้นฉี่ จะถูกพวกเขาตัดแบ่งแว่นแคว้นที่คงอยู่ในประวัติศาสตร์มาหลายสิบปี จะไม่มีแม้แต่คุณสมบัติ ที่จะถูกบันทึกไว้ในพงศาวดารได้แต่ถูกบันทึกในประวัติศาสตร์อย่างไม่เป็นทางการเท่านั้นเมื่อคิดถูกจุดนี้ น้ำตาของเฉินอู่ก็ไหลออกมาอย่างไม่อาจควบคุม“ข้าทำใจไม่ได้จริง! ทั้งที่พวกเรารบชนะตั้งหลายรอบขนาดนั้น แถมพวกเรายังเคยรบชนะแคว้นฉู่แคว้นฉี ทั้งสองแคว้นอีก… ”“ตอนนี้ทั้งเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย และรถไถนาก็มีหมดแล้ว” “รอหว่านเมล็ดพันธุ์ลงไป ผ่านไปไม่กี่เดือนก็เก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว กำลังจะมีชีวิตที่ดีแล้วแท้ ๆ!”จ้านเฉิงอิ้นตบไหล่ของเขา “ใครบอกว่า พวกเราจะแพ้กันล่ะ?”“ยังไม่ถึงวินาทีสุดท้าย ผู้ใดจะชนะ ผู้ใดจะพ่าย ก็ยังไม่แน่”ทุกคนพากันเงยหน้า มองไปทางแม่ทัพด้วยดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความหวังพวกเขาสามารถชนะได้หรือ?มีความหวังที่จะรอดชีวิตต่อไปหรือ?ท่านเทพจะช่วยพวกเขาอีกครั้ง?ในขณะที่จ้านเฉิงอิ้นคิดจะอธิบาย…ลูกน้องของเหอหงก็เข้ารายงาน“รายงานท่านแม่ทัพ ผู้ติดเชื้อห้าพันคนภายในเมือง ได้ถูกแยกกักตัวแล้วขอรับ!”เหอหงถามเขาว่า “จำนวนผู้เสียชีวิตล่ะ?”“ตอนนี้ยังไม่มีขอรับ แต่ในผ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 153

    เมื่อเหล่าทหารได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวดังออกมาจากห้องโถงหารือ ก็รู้ในทันทีว่า!ท่านเทพได้ส่งสิ่งของมาให้อีกแล้ว!เป็นอาวุธมาถึงแล้วหรือ?หรือเป็นยาที่สามารถรักษาโรคระบาดได้?เหล่าบุรุษชาติอาชาไนย ต่างพากันแอบปาดน้ำตาที่หางตาจนแห้ง จากนั้นก็พุ่งไปที่ห้องโถงหารือทุกคนเห็นว่า ในโถงหารือเต็มไปด้วยกล่องกระดาษหลายร้อยใบมีทั้งยาแผนจีน แผนตะวันตก หน้ากากอนามัย ชุดป้องกันเชื้อ และน้ำยาฆ่าเชื้อ…เป็นยาจริงๆ!เมื่อยาชุดนี้มาถึง ก็แปลว่าโรคระบาดมีทางรักษาแล้วใช่หรือไม่?ทุกคนต่างร้องไห้ด้วยความดีใจ!ในสถานการณ์ที่สามทัพบุกประชิดกำแพงเมือง และภายในเมืองก็เกิดโรคระบาดแพร่กระจายไปทั่วท่านเทพมิได้ทอดทิ้งพวกเขา!ยาชุดนี้ มาได้ทันเวลายิ่งนัก!หากช้ากว่านี้ไปไม่อีกกี่ชั่วยาม คนกว่าครึ่งเมืองคงติดโรค และเกิดการล้มตายเป็นร้อยเป็นพันเมื่อถึงเวลานั้น ด่านเจิ้นกวน ก็จะเปลี่ยนจากเมืองที่เต็มไปด้วยความหวังไปเป็นอเวจีในแดนมนุษย์แล้วหลายคนพากันหันไปทางท้องฟ้า คุกเข่าลงโขกศีรษะจากส่วนลึกของจิตใจให้ท่านเทพ“ขอบพระคุณท่านเทพ ที่ช่วยประชาชนในด่านเจิ้นกวนอีกครั้ง”“เหล่าทหาร ขอกราบขอบพระคุณท่า

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 154  

    เด็กรับใช้แพทย์รีบเก็บไปทันทีมือของซ่งอวิ๋นฮุยลูบหน้าผากของเด็กรับใช้แพทย์ เขาก็กำลังเป็นไข้เช่นกัน ทว่าเด็กตัวน้อยกลับมิได้ร่ำร้องแสดงความเจ็บปวดออกมาเขาหยิบน้ำจากโต๊ะขวดหนึ่งยัดเข้าไปในอ้อมแขนของเขาด้วยความสงสาร“เจ้าเองก็จงกินลงไปครึ่งเม็ดเถิด ดื่มร่วมกับน้ำ เด็กดี รีบไปเร็วเข้า!”เด็กรับใช้แพทย์รับคำอย่างเชื่อฟัง “ขอรับ ท่านอาจารย์”หลังเด็กรับใช้แพทย์จากไปแล้ว ซ่งอวิ๋นฮุยก็มิได้อยู่เฉยเขาจัดลังยาร่วมกับทหารอีกหลายนายในตอนที่ซ่งอวิ๋นฮุยเห็นชุดป้องกัน หน้ากากอนามัย และถุงมือ…น้ำยาฆ่าเชื้อเป็นถัง ๆ และถังพ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อขนาดใหญ่เขาก็ดีใจราวกับคลุ้มคลั่ง รีบพูดกับจ้านเฉิงอิ้นว่า “ท่านเทพกล่าวถูกแล้ว ต่อให้ไม่มีโกฐจุฬา ก็ต้องฆ่าเชื้อทั่วทั้งเมืองสักรอบ”ในด่านเจิ้นกวนมีคนติดเชื้อกว่าห้าพันคน คนอื่น ๆ จึงมีโอกาสที่จะติดโรคเช่นเดียวกันแต่หากทำการฆ่าเชื้อให้สะอาด โอกาสเสี่ยงที่จะติดโรคก็จะลดลงมากจ้านเฉิงอิ้นมอบเรื่องนี้ให้เหอหงจัดการภายใต้การบังคับบัญชาของเขามีคนกว่าสองพันคน รับผิดชอบเรื่องโรคระบาดโดยเฉพาะม้าในคอกม้า และรถสามล้ออีกสิบคัน ล้วนมอบสิทธิ์ให้เขาใช้ได

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 155

    ทั้งสองฝ่ายต่างตั้งกระบวนทัพอย่างพรักพร้อมสำหรับโจมตี ทว่า ต่างฝ่ายต่างรักษาท่าทีไม่มีความคืบหน้า เมื่อเวลาผ่านไป เหล่าทหารที่ทำหน้าที่รักษากำแพงเมือง ค่อย ๆ มีสีหน้าแดงก่ำและไอออกมา บางคนก็เริ่มมีไข้สูง จากเดิมที่ยืนอยู่บนกำแพงเมืองอย่างมั่นคง สุดท้ายไม่ทันระวัง ก็ร่วงตกลงมาจากกำแพงเมือง ตกลงมาตายต่อหน้าทุกคน ภายใต้การเผชิญหน้าของสองทัพ เมื่อเฉินขุยเห็นเช่นนั้น ก็บันดาลโทสะขึ้นมา“ไม่รู้จักยืนถอยไปหน่อยหรือไง? เฝ้ากำแพงเมืองมานานเพียงนี้แล้ว นี่ยังเป็นครั้งแรกที่เห็นคนตกลงมาตาย”ทหารหลายนาย ตกใจจนรีบวางหอกในมือลง คุกเข่าลงให้เขา“ท่านแม่ทัพ ข้าเป็นไข้สูงแล้วขอรับ รู้สึกทรมานยิ่งนัก ยิ่งเมื่อถูกแสงอาทิตย์ร้อนแรงแผดเผา ยิ่งรู้สึกว่าใกล้จะทนไม่ไหวแล้วขอรับ”“ท่านแม่ทัพ ข้าน้อย ข้าน้อยรู้สึกว่าหายใจลำบาก ปวดหัวจนจะเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ แล้วขอรับ…”เฉินขุยยังคิดจะบันดาลโทสะต่อไปอีกทว่า เฉินอู่กลับส่ายหน้าให้เขาเฉินอู่กล่าวว่า “ผู้ที่เป็นไข้ ให้ถอยลงไป ไปรับยาที่รองแม่ทัพเหอหง แล้วแยกไปกักตัวซะ”“ส่วนผู้ที่ไม่ได้เป็นไข้ จงรีบเข้าประจำการแทนเสีย!”นายทหารที่มีอาการตัวร้อน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 156

    โดยเฉพาะบุตรชายทั้งสองคนของเขา สีหน้ายินดียากจะอธิบายออกมา ราวด่านเจิ้นกวนเป็นสิ่งของที่อยู่ในกระเป๋าของพวกเขา ที่สามารถได้มาครอบครองโดยไม่ต้องลงแรงกระนั้นฉีซวนเหิงเย้ยหยันว่า “ช่างเป็นคนชั่วลำพองจริง ๆ ข้าสงสัยเหลือเกินว่า ที่หลิงเซี่ยวเฟิงชนะศึกติดต่อกันมาสามสิบกว่าครั้ง คิดใช่ได้มาเพราะวิธีการแพร่โรคระบาดทั้งหมดหรอกนะ!”เยว่หงก็รู้สึกดูแคลนเช่นกันแม้วิธีการของทัพต้าฉี่จะสกปรกจริง ๆ เริ่มจากขโมยม้าก่อน จากนั้นก็เป็นการวางเพลิงทว่า คนเขาเคลื่อนไหวในยามวิกาลอย่างตรงไปตรงมา มิได้ใช้เล่ห์อุบายเช่นการวางยาพิษเป็นพวกเขาที่ป้องกันไว้ไม่ได้เองแคว้นฉีถูกขโมยม้าไปสามพันตัว ส่วนแคว้นฉู่ถูกขโมยไปห้าพันตัวแคว้นฉีถูกเผากระโจมไปร้อยกว่าหลัง แคว้นฉู่ถูกเผาไปสามร้อยกระโจม เผาตายไปสองพันกว่าคนเป็นเพราะแคว้นฉีค้นพบได้เร็ว และก็มิได้ไล่ตามคนวางเพลิงไปอย่างหน้ามืดตามัว จึงแทบไม่มีผู้เสียชีวิตทัพฉู่ดูเหมือนจะมีวินัยทหารเข้มงวด เปี่ยมประสบการณ์ชาญศึก ชนะการรบมากครั้งทว่าเยว่หงคิดว่า ผลงานการรบที่ชนะติดต่อกันเพราะอาศัยการวางยาพิษนั้น ช่างปลอมยิ่งนักฉีซวนเหิงพูดขี้นอีกว่า “ข้าได้ยินมาอีก

Latest chapter

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 714

    เค้าโครงหน้าคมคาย ยิ่งดูหล่อเหลาโดดเด่นขึ้นแต่สีหน้ากลับเย็นชามาตลอด กลายเป็นหนุ่มหล่อสุดเย็นชาประจำโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไปแล้วแน่นอนว่า เขาเดินทางด้วยจักรยานสาธารณะ หรือไม่ก็นั่งรถประจำทาง ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีของแบรนด์เนมเลยไม่เหมือนกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ที่พอเข้าเรียนปุ๊บก็รู้เลยว่า พ่อแม่ทำอาชีพอะไร มาจากตระกูลไหน ตระกูลมีกิจการอะไรบ้างเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ล้วนแต่ร่ำรวยหรือมีฐานะสูงส่งส่วนเขาพื้นเพธรรมดา การแต่งตัวก็สบาย ๆโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไม่มีเครื่องแบบนักเรียน เพื่อนคนอื่น ๆ ใส่แต่แบรนด์หรู หรือไม่ก็ชุดสั่งตัดส่วนเขาใส่เสื้อผ้าแผงลอยข้างทาง!อาศัยหน้าตาแบกล้วน ๆพอดูออกว่าที่บ้านไม่มีเงิน ก็ถูกนักเรียนเกเรหมายหัวเพื่อนร่วมชั้นที่มายั่วโมโห หัวเราะอย่างโอหัง “โธ่เอ๊ย กล้าทำหน้าบึ้งใส่ฉันเหรอ!”“มา ๆ ๆ วันนี้พวกเราสั่งสอนมันหน่อย ลากตัวมันขึ้นรถไปที่นอกเมือง”หลันซีเยว่ตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังคงขวางอยู่ข้างหน้าเขา“พวกนายกล้าเหรอ ถ้าวันนี้พวกนายกล้าแตะต้องเขาแม้แต่นิดเดียว ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ทันใดนั้นนักเรียนหลายคนก็หัวเราะล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 713

    เมื่อรถของเย่มู่มู่และหลูหมิงเคลื่อนตัวออกไป ลู่ฉิงยวนยังคงยืนสง่าอยู่ริมถนน มองส่งจนรถลับสายตาไป ครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลย อย่างน้อยเขาก็ได้ช่องทางการติดต่อของเธอมาเย่มู่มู่ตอนห้าขวบไม่ยอมรับเขา~ไม่นึกเลยว่าพออายุยี่สิบปี เย่มู่มู่ก็ยังคงไม่ชอบเขาเหมือนเดิมผู้หญิงเพียงคนเดียว กลับเป็นคนที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ถึงสองครั้งในชีวิตนี้หลังจากขึ้นรถแล้ว ลู่ฉิงยวนก็ถามหัวหน้าบอดี้การ์ดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “บอดี้การ์ดที่อยู่กับเย่มู่มู่คนนั้น เป็นคนของสายไหนกันแน่?”หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดยังนึกถึงชายคนนั้น ออกหมัดฉับไว รุนแรง นั่นไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดาแน่นอน“เป็นนักสู้มืออาชีพครับ ที่สำคัญคือเป็นประเภทที่ทุกกระบวนท่าล้วนมุ่งเอาชีวิต! นั่นไม่ใช่ฝีมือของพวกเรียนกังฟูหรือซานต้าวิธีที่เขาลงมือ ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย!”ลู่ฉิงยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แค่คนเดียวก็สามารถล้มบอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดลงไปกองกับพื้นได้เดิมทีเขายังเป็นห่วงเย่มู่มู่ กลัวว่าเด็กกำพร้าตัวคนเดียวอย่างเธอจะถูกรายล้อมไปด้วยฝูงหมาป่าและเสือร้ายแต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าความกังวลของเขาจะไม่จำเป็นเสียแล้วการที่สามารถอัด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 712

    “คุณคู่ควรกับผู้หญิงที่ดีกว่านี้นะคะ ส่วนฉัน... ไม่ได้สนใจเรื่องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์อะไรแบบนั้นเลยค่ะ!”เธอกำลังจะหันหลังเดินจากไป แต่เสียงของลู่ฉิงยวนก็เย็นเยียบลงหลายส่วน เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “ทำไม?”เย่มู่มู่หันกลับไปมองเขา“ทำไมถึงปฏิเสธผม คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังจะพลาดอะไรไป?”“คุณไม่ชอบผม หรือคิดว่าเราไม่มีความรู้สึกต่อกันงั้นเหรอ!”เย่มู่มู่ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ขอโทษนะคะคุณลู่ มันไม่เกี่ยวกับคุณเลยค่ะ การที่ต้องสร้างครอบครัวกับผู้ชายที่แทบไม่รู้จักกันดี แค่คิด...ฉันก็รับไม่ได้แล้วค่ะ!”“สุดท้ายแล้ว ก็ยังเป็นเพราะคุณไม่ชอบผมใช่ไหม? มู่มู่ อย่าดื้อนักเลย ความรู้สึกน่ะมันสร้างกันได้นะ...”เย่มู่มู่ขมวดคิ้ว มองไปยังลู่ฉิงยวนเขาทั้งหนุ่ม ทั้งรวย อาศัยความสามารถของตัวเองล้วน ๆ สร้างหลิ่วอวิ๋นกรุ๊ปจนยิ่งใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้เขายอดเยี่ยมมากบางทีในอนาคตเธออาจจะต้องเสียใจ ที่ตัวเองพลาดมหาเศรษฐีโสดผู้เพียบพร้อมทั้งความสามารถและฐานะระดับเพชรยอดมงกุฎคนนี้ไปแต่ ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่เรื่องหาเงิน และเรื่องการช่วยจ้านเฉิงอิ้นรวบรวมใต้หล้าให้เป็นปึกแผ่นในคติประจำใจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 711

    “แน่นอนว่าพวกเธอก็จะไม่บังคับลูก ๆ ถ้าไม่ชอบ ก็ปฏิเสธได้!”“ต่อมา คุณแม่เกิดอุบัติเหตุ ผมถูกบ้านตาไปรับเลี้ยง ไอ้สารเลวนั่นเริ่มฟ้องร้องยาวนานกว่าสิบปี เพียงเพื่อล้มล้างพินัยกรรมของแม่!”“ระหว่างนั้น เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในมือผม ป้าหลินจึงมอบหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ในมือของเธอให้ผมโดยไม่คิดค่าตอบแทน”“ผมเคยถามเธอ ว่าต้องการอะไรเป็นการตอบแทนไหม์”“เธอขอให้ผมดูแลคุณให้ดี หากวันใดวันหนึ่งพวกเขาสามีภรรยาเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณก็จะกลายเป็นเด็กกำพร้า ต้องถูกคนตระกูลเย่รังแกแน่ ๆ เธอหวังว่าผมจะรับปากว่าจะดูแลคุณให้ดีไปชั่วชีวิต!”น้ำตาของเย่มู่มู่ร่วงเผาะ ๆเธอไม่คิดเลยว่า คุณแม่ได้วางแผนเพื่อเธอไว้แต่เนิ่น ๆ แล้วเพื่อเดิมพันกับโอกาสอันน้อยนิดนั้น ใช้หุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ของลู่ซื่อกรุ๊ป แลกกับคำมั่นสัญญาเพื่อเธอพ่อแม่ของเธอรักเธอมาก“ลู่ฉีหยางตามหาคุณ ข่มขู่คุณ! นอกจากจะหมายตาฟู่ลี่กรุ๊ปที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่แล้ว ยังมีอีกอย่าง พวกเขารู้ว่าแม่ของคุณมีหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์!”“ผมเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นสิบอันดับแรกของบริษัทต่อสาธารณะ พวกเขาก็ยังคงไม่เชื่อ!”“อยากจะยึดหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์นั้นมาเป็นขอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 710

    ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 709

    คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 708

    หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 707

    แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 706

    ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status