จ้านเฉิงอิ้นจัดแจงข้าวสารและแป้งสาลีเข้าโกดัง นายทหารทั้งหลายมองดูเสบียงอาหารกองพะเนินเป็นกำแพงสูง...เสบียงอาหารที่ท่านเทพส่งมาเมื่อวานนั้น เพียงพอแค่กินได้หนึ่งวัน พวกเขายังกังวลกันว่าหากขาดแคลนเสบียงจะทำอย่างไรต่อไป?บัดนี้ สิ่งแน่นหนักในใจเหล่านั้นสลายหายไปหมดแล้วท่านเทพเป็นผู้รักษาวาจาท่านประทานอาหารมาให้อย่างเพียงพอจริง ๆ!จ้านเฉิงอิ้นวางมือลงบนกระสอบข้าวสาร มองไล่ไปตามเสบียงอาหารขาวโพลนพลางเอ่ย “หากตามที่ท่านเทพบอก เสบียงนี้เพียงพอจะอยู่ได้นานเท่าใด”หลี่หยวนจงตอบว “ข้าวสารสองแสนชั่ง แป้งสาลีสองหมื่นห้าพันชั่ง...”บัดนี้พลทหารแต่ละนายได้ข้าวสารวันหนึ่งครึ่งชั่งใช้ประทังชีพได้ยี่สิบเอ็ดวันขอรับ”นายทหารได้ยินกันถ้วนทั่ว หากเป็นเมื่อก่อนน่ะหรือ เพียงคิดก็ไม่อาจหาญกล้า!มีที่ไหนใครจะได้กินข้าววันหนึ่งถึงครึ่งชั่ง เกรงว่าจะมีแต่เชื้อพระวงศ์ขุนนางที่กล้าฟุ่มเฟือยได้เพียงนั้น!ภายนอกเมืองกำลังประสบทุพภิกขภัยครั้งใหญ่!แต่ในเมืองของพวกเขา กลับผ่านไปอย่างสุขสันต์ดังแดนสวรรค์ทุกคืนวันคิดถึงตรงนี้ ทหารแต่ละนายต่างก็ยิ่งอยากมีชีวิตรอด อยากตีฝ่าวงล้อมออกไป อยากทำลายเผ่าหม
ส่วนคนที่เหลือไปช่วยกันซ่อมแซมกำแพงเมือง!ฟ้าค่อย ๆ มืดลง จ้านเฉิงอิ้นมองดูอาหารสองสามอย่างและข้าวหลายกล่องบนโต๊ะ มุมปากผุดพรายยิ้มนุ่มนวล ท่านเทพมาโปรดสัตว์อีกแล้วเมื่อคืนวานเป็นปลาน้ำแดง วันนี้เป็นซี่โครงหมูนึ่ง เนื้อวัวผัดแห้ง ผัดผัก และซุปมะเขือเทศใส่ไข่นางช่างทุ่มเทส่งอาหารมาให้เขาเต็มกำลังจริง ๆเขาเปิดกล่องอาหารออกแล้วเรียกสวี่หมิงกับเถียนฉินมากินด้วยกัน ทั้งสองกลับส่ายหน้า “ท่านแม่ทัพ พวกข้าน้อยทานกันที่กองทัพกันแล้วขอรับ”“วันนี้เป็นข้าวสวยหุงสุกหนึ่งมื้อ ผัดหมูจานหนึ่ง ผัดกะหล่ำปลีหนึ่งจาน และน้ำแกงฟักเขียว... อร่อยมากจริง ๆ”“ใช่ขอรับ ที่แท้ข้าวสวยหุงก็อร่อยเช่นนี้ ทั้งหอมละมุน ไม่ติดฝาดบาดคอ รสชาติกลมกล่อม เคี้ยวไปยังมีรสหวานอีกด้วย”จ้านเฉิงอิ้นจึงเลือกกินเพียงซี่โครงหมูนึ่งกับซุป ส่วนที่เหลือยกให้เถียนฉิน ให้เขานำกลับไปให้ลุงหลี่เถียนฉินรับไว้หลังมื้ออาหาร จ้านเฉิงอิ้นมองกระบะทรายจำลองภูมิศาสตร์เผ่าหมานรวมตัวกันห่างออกไปราวสามสิบลี้[1] กองกำลังหลักทั้งสิ้นประจำอยู่ที่ประตูเมืองด้านหลังมีทหารเผ่าหมานกว่าแสน ขัดขวางการติดต่อระหว่างกองทัพตระกูลจ้านและแคว
เย่มู่มู่ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของร้านค้า สอบถามราคาและประสิทธิภาพของชุดเกราะทว่าร้านค้าโดยส่วนใหญ่ผลิตชุดเกราะโบราณสำหรับคอสเพลเยอร์ ไม่ก็เป็นเพียงอุปกรณ์ประกอบฉากในการถ่ายละครเท่านั้น ประสิทธิภาพใช้งานจริงเป็นอย่างไรพวกเขาเองก็ไม่รู้แน่ชัดเช่นกัน เธอสอบถามร้านค้าไปกว่าสิบแห่ง ในที่สุดก็พบร้านหนึ่งที่ผลิตอาวุธโบราณจำลอง และมีโรงงานผลิตเป็นของตัวเองเนื่องด้วยเธอต้องการซื้อเป็นจำนวนมาก พ่อค้าจึงต่อสายวิดีโอคอลกับเธอด้วยตัวเองทั้งยังทดสอบให้เธอได้ดู การใช้กระบี่ยาวฟันลงไปบนชุดเกราะเคร้ง~เกิดประกายไฟพุ่งขึ้นมา ทั้งกระบี่ของเขายังเกิดรอยบิ่น ทว่าชุดเกราะยังคงสภาพสมบูรณ์ไร้ความเสียหายพ่อค้าเลื่อนกล้องเข้าไปใกล้ชุดเกราะเพื่อให้เย่มู่มู่เห็นชัด ๆ ว่าชุดเกราะมีรอยขีดข่วนเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับแตกหักเย่มู่มู่เอ่ย “ฉันเห็นร้านคุณมีดาบกระบี่ที่ลับคมแล้ว ลองใช้ดาบคุณฟันชุดเกราะคุณให้ดูหน่อยสิคะ”มาแบบนี้ พ่อค้าก็รู้สึกลำบากใจเล็กน้อยเธอจึงพูดต่อว่า “ฉันว่าจะสั่งสักหมื่นชุดขึ้นไป แต่พ่อค้าต้องให้ฉันดูก่อนนะคะ ว่าชุดเกราะของคุณแข็งแรงแค่ไหน”เมื่อได้ยินว่าจะสั่งซื้อเป็นหมื่นชุด ซึ่ง
เห็นว่าผ่านไปนานแล้วนางยังคงไม่ตอบกลับ จ้านเฉิงอิ้นจึงส่งกระดาษมาอีกหลายแผ่น “ท่านเทพ?”“ทำให้ท่านเทพเป็นกังวลแล้ว ล้วนเป็นความผิดข้าเอง ข้าจะไม่ทำให้ท่านเทพผิดหวัง จะนำพาปวงประชาฝ่าวงล้อมออกไปให้จงได้”“ท่านเทพหลับแล้วหรือ? เช่นนั้นข้าไม่รบกวนแล้ว”เย่มู่มู่เห็นกระดาษขาว จึงรีบตอบกลับ“ข้าไปช่วยซื้อเครื่องใช้ยุทธภัณฑ์มา ได้ชุดเกราะมาพันชุด ดาบม่อเตาราชวงศ์ถังห้าพันเล่ม หน้าไม้ราชวงศ์ฉินร้อยคัน…”จ้านเฉิงอิ้นตอบ “ดาบม่อเตาราชวงศ์ถังคือสิ่งใด? หน้าไม้ราชวงศ์ฉินเล่า? กองทัพของข้ายังมีธนูและศรอยู่”เย่มู่มู่เพิ่งฉุกคิดขึ้นมาได้ แคว้นต้าฉี่คงยังไม่มีหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน ดาบม่อเตาราชวงศ์ถังเองก็เป็นเกิดขึ้นหลังจากยุคของพวกเขาราวหนึ่งพันห้าร้อยปีเห็นจะได้ “ส่งแท็บเล็ตมาให้ข้า ข้าจะโหลดวิดีโอการใช้งานอาวุธให้เจ้าเรียนรู้”แท็บเล็ตถูกส่งกลับมาเย่มู่มู่เปิดดูแกลเลอรีเห็นภาพถ่ายภาพหนึ่งมีชายหนุ่มรูปร่างผอมสูงห้าคนอยู่ในชุดเกราะ ทว่าเสื้อผ้าด้านในกลับมอซอยิ่งผมเผ้ายุ่งเหยิง หนวดเครารุงรัง ดวงตาทอประกาย ต่างเมียงมองมายังกล้องด้วยความฉงนสนเท่ห์เย่มู่มู่ยังสังเกตเห็น ว่าฉากหลังของพวกเข
เย่มู่มู่ดาวน์โหลดคลิปวิดีโอสาธิตวิธีใช้งานดาบม่อเตาราชวงศ์ถังและหน้าไม้ราชวงศ์ฉินรวมถึงยังดาวน์โหลดยุทธวิธีสู้รบกับชนเผ่าเร่ร่อนในช่วงหลายพันปีมานี้ของจีนมาทั้งหมดอีกด้วยดาวน์โหลดตำราพิชัยสงครามหลายเล่ม เนื้อหาครอบคลุมกว้างขวาง แม้แต่หนังสือเกี่ยวกับการรบของพลเอกอาวุโสซู่อวี้ในยุคใกล้[1]ก็ดาวน์โหลดมาด้วยเช่นกันดาวน์โหลดเสร็จก็หยิบพาวเวอร์แบงค์หนึ่งเครื่องโยนลงไปด้วยกันฝ่ายจ้านเฉิงอิ้นได้รับแล้วก็เห็นว่ามีวิดีโอเกี่ยวกับดาบม่อเตาราชวงศ์ถังและหน้าไม้ราชวงศ์ฉิน รวมถึงตำราเกี่ยวกับการรบอีกหลายเล่มเขาดีใจยิ่งนัก“ท่านเทพ ขอบพระคุณอย่างสูง ตำราพิชัยสงครามและบันทึกการสู้รบกับชนเผ่าเร่ร่อนมีความสำคัญสำหรับอิ้นยิ่งนัก!”“ไม่ต้องขอบคุณหรอก รีบพักผ่อนเถอะ ข้าเตรียมจะปล่อยน้ำแล้ว”เย่มู่มู่ส่งกระดาษแผ่นสุดท้ายลงไปเสร็จก็เปิดเครื่องสูบน้ำดีเซลเริ่มส่งน้ำไปให้*วันรุ่งขึ้น เธออาบน้ำและกินมื้อเช้าเสร็จก็โทรไปนัดผู้อาวุโสมู่ล่วงหน้าผู้อาวุโสมู่ได้รับสายจากเธอก็ดีใจมากบอกว่ารอเธออยู่ที่ร้านทั้งวัน!เย่มู่มู่เลือกเหรียญทองแดงสามแบบจากบรรดาสิ่งของที่จ้านเฉิงอิ้นส่งมาให้เธอคราวก่อน โ
บันทึกทางประวัติศาสตร์มีความสำคัญใหญ่หลวงทุพภิกขภัยเมื่อสองพันปีก่อนได้เกิดขึ้นจริง เมืองร้างพันลี้ แคว้นเล็กหลายแคว้นถึงกาลล่มสลายในนั้นยังรวมแคว้นฉี่ด้วยเช่นกันผู้อาวุโสมู่มีสีหน้าพลุ่งพล่านใจ “คุณผู้หญิง คุณต้องการขายม้วนไม้ไผ่กับเหรียญสามเหรียญนี้ใช่ไหม ผมซื้อทั้งหมด! หนึ่งพันล้านเป็นยังไง?”ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ อยากบอกว่าเปิดราคาสูงเกินไปแล้วแต่วัตถุโบราณจากแคว้นต้าฉี่มีแค่เจ้านี้เท่านั้น หายากเสียยิ่งกว่ายากหนึ่งพันล้านสูงมากก็จริง แต่ก็คู่ควรเธอพยักหน้า “ตกลง คุณต้องชำระโดยเร็วที่สุดนะคะ”ผู้อาวุโสมู่ยิ้มบอกให้คนไปจัดการโอนเงินเย่มู่มู่ตรวจสอบยืนยันว่าเงินเข้าบัญชีแล้วก็บอกลากับผู้อาวุโสมู่ผู้อาวุโสมู่ยังอยากรั้งเธอไว้ เพราะรู้สึกว่าในมือเธอน่าจะยังมีของดีกว่านี้แต่สหายเก่าแก่ที่มาวันนี้มีเยอะเกินไป ล้วนแต่เป็นระดับหัวหน้าของพิพิธภัณฑ์ใหญ่ ๆ จึงไม่ได้รั้งไว้ แต่ขอหมายเลขโทรศัพท์มือถือของเย่มู่มู่แทน*เย่มู่มู่ออกมาจากร้านขายวัตถุโบราณก็เดินทางไปนอกเมืองต่อฤดูกาลนี้เป็นช่วงที่แตงโมวางตลาดพอดีชาวไร่แตงโมนำแตงโมมาตั้งแผงขายริมถนน ด้านหลังก็คือไร่แตงโมพ่อค้
จ้านเฉิงอิ้นตวัดดาบไปมาก็ได้ยินเสียงแหวกอากาศขวับ ๆ...เขาอุทานชมเชย “เป็นดาบที่ดีจริง ๆ!”ซ่งตั๋วถือดาบม่อเตาราชวงศ์ถังอย่างติดใจจนวางไม่ลง “ข้าน้อยทำอาวุธมานานหลายปีก็ยังไม่เคยเห็นดาบยาวที่คมกริบถึงเพียงนี้มาก่อนเลย”เมื่อวานนำเหล็กกล้าชั้นดีไปหลอม เหล็กกล้าแข็งแกร่ง จุดหลอมเหลวสูง ไม่จำเป็นต้องตีก็สามารถทำเป็นอาวุธได้โดยตรงเขานึกว่าเหล็กกล้าเหล่านั้นดีมากแล้วเสียอีกแต่เมื่อเทียบกับดาบม่อเตาที่ได้รับมาวันนี้กลับห่างชั้นกันไกลนี่ก็คืออาวุธที่ท่านเทพประทานให้เช่นนั้นหรือ เยี่ยมยอดกว่าของแคว้นต้าอวี่ไม่รู้ตั้งกี่เท่า!ทันใดนั้น ชุดเกราะกว่าพันชุดก็หล่นลงมาในคลังสรรพาวุธชุดเกราะผลิตอย่างพิถีพิถัน มีชั้นนอกชั้นในสองชั้น เกราะชั้นนอกเป็นแผ่นเหล็กทรงใบหลิวร้อยต่อกัน เกราะชั้นในบุด้วยผ้าฝ้ายและผ้าสำลีซ่งตั๋วใช้ฝักดาบโจมตีชุดเกราะอย่างแรงชุดเกราะไม่บุบยุบ มีเพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อยเท่านั้นเขาตกตะลึงสุดแสน “ท่านแม่ทัพ ชุดเกราะนี้ดีกว่าชุดเกราะของพวกเราเสียอีกขอรับ!!”จ้านเฉิงอิ้นใช้มือแตะเกราะชั้นนอกที่เย็นเฉียบเบา ๆ แล้วชักกระบี่พกของตนออกมาฟันลงไปบนชุดเกราะเคร้ง~กระบี่ข
เมื่อเหล่าทหารเห็นดาบม่อเตาและชุดเกราะ ดวงตาก็พลันวาววับเฉินอู่ชักดาบม่อเตาออกจากฝักแล้วฟันไปกลางอากาศเสียงแหวกอากาศดังขวับเขาร้องเสียงดัง “ดาบที่ดี!”เปี้ยนจื่อผิงและหลี่หยวนจงจับชุดเกราะด้วยความหลงใหลไม่วางมือทหารใต้บังคับบัญชาพวกเขาล้วนแต่เป็นพลบุกทะลวงที่อยู่ทัพหน้า กองทัพขาดแคลนวัสดุ ชุดเกราะทองแดงพังแล้วไม่มีวัสดุมาซ่อมบำรุง ได้แต่ถอดเอาจากทหารที่เสียชีวิตไปแล้ว นำมาประกอบกันใหม่อีกครั้ง ตอนนี้ชุดเกราะทุกชุดล้วนแต่ชำรุดยามนี้ได้เห็นชุดเกราะเหล็กกล้าใหม่เอี่ยมก็รู้สึกหลงใหลยินดียิ่งนักแผ่นเหล็กกล้าบนชุดเกราะแน่นหนาแข็งแกร่ง หมุดย้ำต่อเนื่อง ข้างในบุด้วยผ้าฝ้ายและผ้าสำลี สัมผัสนุ่มนิ่มไม่เสียดสีผิวหนัง ระดับการป้องกันสูงยิ่งเมื่อทหารได้สวมก็ช่วยลดการบาดเจ็บล้มตายได้เกินครึ่งจ้านเฉิงอิ้นออกคำสั่งทันทีว่าชุดเกราะและดาบม่อเตาจะจัดสรรให้ทหารทัพหน้าเสียก่อนเปี้ยนจื่อผิงและหลี่หยวนจงจับกลุ่มฝึกซ้อมทหารทัพหน้า ชุดเกราะบวกกับดาบม่อเตา คนสามคนจับกลุ่มหันหลังให้กัน สามารถต้านทานกองทัพทหารม้าที่เหี้ยมหาญที่สุดของเผ่าหมานได้ นอกจากนี้ยังคัดเลือกพลธนูที่มีเรี่ยวแรงแขนมากม
เค้าโครงหน้าคมคาย ยิ่งดูหล่อเหลาโดดเด่นขึ้นแต่สีหน้ากลับเย็นชามาตลอด กลายเป็นหนุ่มหล่อสุดเย็นชาประจำโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไปแล้วแน่นอนว่า เขาเดินทางด้วยจักรยานสาธารณะ หรือไม่ก็นั่งรถประจำทาง ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีของแบรนด์เนมเลยไม่เหมือนกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ที่พอเข้าเรียนปุ๊บก็รู้เลยว่า พ่อแม่ทำอาชีพอะไร มาจากตระกูลไหน ตระกูลมีกิจการอะไรบ้างเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ล้วนแต่ร่ำรวยหรือมีฐานะสูงส่งส่วนเขาพื้นเพธรรมดา การแต่งตัวก็สบาย ๆโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไม่มีเครื่องแบบนักเรียน เพื่อนคนอื่น ๆ ใส่แต่แบรนด์หรู หรือไม่ก็ชุดสั่งตัดส่วนเขาใส่เสื้อผ้าแผงลอยข้างทาง!อาศัยหน้าตาแบกล้วน ๆพอดูออกว่าที่บ้านไม่มีเงิน ก็ถูกนักเรียนเกเรหมายหัวเพื่อนร่วมชั้นที่มายั่วโมโห หัวเราะอย่างโอหัง “โธ่เอ๊ย กล้าทำหน้าบึ้งใส่ฉันเหรอ!”“มา ๆ ๆ วันนี้พวกเราสั่งสอนมันหน่อย ลากตัวมันขึ้นรถไปที่นอกเมือง”หลันซีเยว่ตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังคงขวางอยู่ข้างหน้าเขา“พวกนายกล้าเหรอ ถ้าวันนี้พวกนายกล้าแตะต้องเขาแม้แต่นิดเดียว ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ทันใดนั้นนักเรียนหลายคนก็หัวเราะล
เมื่อรถของเย่มู่มู่และหลูหมิงเคลื่อนตัวออกไป ลู่ฉิงยวนยังคงยืนสง่าอยู่ริมถนน มองส่งจนรถลับสายตาไป ครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลย อย่างน้อยเขาก็ได้ช่องทางการติดต่อของเธอมาเย่มู่มู่ตอนห้าขวบไม่ยอมรับเขา~ไม่นึกเลยว่าพออายุยี่สิบปี เย่มู่มู่ก็ยังคงไม่ชอบเขาเหมือนเดิมผู้หญิงเพียงคนเดียว กลับเป็นคนที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ถึงสองครั้งในชีวิตนี้หลังจากขึ้นรถแล้ว ลู่ฉิงยวนก็ถามหัวหน้าบอดี้การ์ดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “บอดี้การ์ดที่อยู่กับเย่มู่มู่คนนั้น เป็นคนของสายไหนกันแน่?”หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดยังนึกถึงชายคนนั้น ออกหมัดฉับไว รุนแรง นั่นไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดาแน่นอน“เป็นนักสู้มืออาชีพครับ ที่สำคัญคือเป็นประเภทที่ทุกกระบวนท่าล้วนมุ่งเอาชีวิต! นั่นไม่ใช่ฝีมือของพวกเรียนกังฟูหรือซานต้าวิธีที่เขาลงมือ ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย!”ลู่ฉิงยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แค่คนเดียวก็สามารถล้มบอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดลงไปกองกับพื้นได้เดิมทีเขายังเป็นห่วงเย่มู่มู่ กลัวว่าเด็กกำพร้าตัวคนเดียวอย่างเธอจะถูกรายล้อมไปด้วยฝูงหมาป่าและเสือร้ายแต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าความกังวลของเขาจะไม่จำเป็นเสียแล้วการที่สามารถอัด
“คุณคู่ควรกับผู้หญิงที่ดีกว่านี้นะคะ ส่วนฉัน... ไม่ได้สนใจเรื่องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์อะไรแบบนั้นเลยค่ะ!”เธอกำลังจะหันหลังเดินจากไป แต่เสียงของลู่ฉิงยวนก็เย็นเยียบลงหลายส่วน เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “ทำไม?”เย่มู่มู่หันกลับไปมองเขา“ทำไมถึงปฏิเสธผม คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังจะพลาดอะไรไป?”“คุณไม่ชอบผม หรือคิดว่าเราไม่มีความรู้สึกต่อกันงั้นเหรอ!”เย่มู่มู่ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ขอโทษนะคะคุณลู่ มันไม่เกี่ยวกับคุณเลยค่ะ การที่ต้องสร้างครอบครัวกับผู้ชายที่แทบไม่รู้จักกันดี แค่คิด...ฉันก็รับไม่ได้แล้วค่ะ!”“สุดท้ายแล้ว ก็ยังเป็นเพราะคุณไม่ชอบผมใช่ไหม? มู่มู่ อย่าดื้อนักเลย ความรู้สึกน่ะมันสร้างกันได้นะ...”เย่มู่มู่ขมวดคิ้ว มองไปยังลู่ฉิงยวนเขาทั้งหนุ่ม ทั้งรวย อาศัยความสามารถของตัวเองล้วน ๆ สร้างหลิ่วอวิ๋นกรุ๊ปจนยิ่งใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้เขายอดเยี่ยมมากบางทีในอนาคตเธออาจจะต้องเสียใจ ที่ตัวเองพลาดมหาเศรษฐีโสดผู้เพียบพร้อมทั้งความสามารถและฐานะระดับเพชรยอดมงกุฎคนนี้ไปแต่ ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่เรื่องหาเงิน และเรื่องการช่วยจ้านเฉิงอิ้นรวบรวมใต้หล้าให้เป็นปึกแผ่นในคติประจำใจ
“แน่นอนว่าพวกเธอก็จะไม่บังคับลูก ๆ ถ้าไม่ชอบ ก็ปฏิเสธได้!”“ต่อมา คุณแม่เกิดอุบัติเหตุ ผมถูกบ้านตาไปรับเลี้ยง ไอ้สารเลวนั่นเริ่มฟ้องร้องยาวนานกว่าสิบปี เพียงเพื่อล้มล้างพินัยกรรมของแม่!”“ระหว่างนั้น เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในมือผม ป้าหลินจึงมอบหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ในมือของเธอให้ผมโดยไม่คิดค่าตอบแทน”“ผมเคยถามเธอ ว่าต้องการอะไรเป็นการตอบแทนไหม์”“เธอขอให้ผมดูแลคุณให้ดี หากวันใดวันหนึ่งพวกเขาสามีภรรยาเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณก็จะกลายเป็นเด็กกำพร้า ต้องถูกคนตระกูลเย่รังแกแน่ ๆ เธอหวังว่าผมจะรับปากว่าจะดูแลคุณให้ดีไปชั่วชีวิต!”น้ำตาของเย่มู่มู่ร่วงเผาะ ๆเธอไม่คิดเลยว่า คุณแม่ได้วางแผนเพื่อเธอไว้แต่เนิ่น ๆ แล้วเพื่อเดิมพันกับโอกาสอันน้อยนิดนั้น ใช้หุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ของลู่ซื่อกรุ๊ป แลกกับคำมั่นสัญญาเพื่อเธอพ่อแม่ของเธอรักเธอมาก“ลู่ฉีหยางตามหาคุณ ข่มขู่คุณ! นอกจากจะหมายตาฟู่ลี่กรุ๊ปที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่แล้ว ยังมีอีกอย่าง พวกเขารู้ว่าแม่ของคุณมีหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์!”“ผมเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นสิบอันดับแรกของบริษัทต่อสาธารณะ พวกเขาก็ยังคงไม่เชื่อ!”“อยากจะยึดหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์นั้นมาเป็นขอ
ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล
คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล
หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล
แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา
ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ