แชร์

บทที่ 284

ผู้เขียน: มู่โร่ว
จากนั้นจึงส่งข้อความให้ผู้จัดการร้านขายรถ ให้เขานำรถยี่สิบคันที่เธอเพิ่งซื้อไป ส่งไปยังร้านแต่งรถ

เธอทำการชำระค่ามัดจำแต่งรถ

เมื่อทำทุกอย่างเสร็จสิ้น เธอรู้สึกเหมือนลืมอะไรบางอย่าง

เธอเปิดช็อปปีบนมือถือ สั่งซื้อตาข่ายกันแดดแบบเจาะรู โครงเหล็กจำนวนมาก…

มากพอที่จะให้ความร่มเงากับทุ่งนานับหมื่นหมู่

เธอนึกได้อีกว่าเหอหงจะไปหาเหมืองถ่านหิน ต้องจากด่านเจิ้นกวนเป็นเวลานาน เสบียงอาหารที่พกไปด้วยไม่สามารถเก็บไว้ได้นาน

เธอจึงซื้อเสบียงทหาร ขนมปังแข็ง หมูแฮม เนื้อกระป๋องและผลไม้กระป๋องจำนวนมากจากในเมือง

รวมถึงถังน้ำขนาดใหญ่ที่บรรจุแบบปิดผนึก

เธอนัดหมายกับร้านค้าเรียบร้อย ให้นำของมาส่งในวันพรุ่งนี้

ครั้นทำทุกอย่างเสร็จ เธอจึงชำระล้างตัวแล้วเข้าสู่สภาวะหลับลึก

วันถัดมา เธอเพิ่งตื่นนอน ก็ได้ยินเสียงร่วงหล่นดังขึ้นจากลานหลังบ้าน

ส่วนแจกันของเธอ ไม่รู้ว่าไปตั้งอยู่ตำแหน่งใกล้ระเบียงตั้งแต่เมื่อไหร่

ผีหลอกแล้ว!

แจกันของเธอบรรลุเป็นเซียน จนขยับได้ด้วยตนเอง!

เธอลุกจากเตียงทันควัน กอดแจกันไว้แล้วเปิดประบานเลื่อนออก

ลานหลังบ้าน…

สถานที่ที่คุณแม่เคยเอาไว้ปลูกผักเมื่อก่อน รกไปด้วยวัชพืชและมีไ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 285

    “ข้าซื้อรถกระบะสิบคัน รถออฟโรดสิบคัน หลังจากแต่งรถเสร็จจะส่งไปให้…เจ้ารีบฝึกคนขับโดยเร็ว!”“ใช่ ข้ายังมีรถกระบะใช้เองอีกหนึ่งคัน ข้าจะส่งให้ทันที เจ้าหาคนมาฝึกขับรถจนกว่าจะขับคล่องแล้วจึงหยุดได้”“ช่วงบ่าย ข้าจะออกไปข้างนอกครู่หนึ่งเพื่อไปซื้อรถขุดสองสามคัน สิ่งนี้เป็นของดี สามารถขุดคลองขุดคู เป็นของมีประโยชน์อย่างยิ่ง!”เธอหย่อนกระดาษลงไปจ้านเฉิงอิ้นมีใจตรงกันมาก เขาส่งแท็บเล็ตมือสองมาทันที!เย่มู่มู่อัพโหลดวิดีโอคู่มือการเรียนและการซ่อมบำรุงรถขุดวิดีโอคู่มือการเรียน การซ่อมบำรุงรถกระบะบรรทุกหนักและรถออฟโรด…การเอาชีวิตรอดในป่า วิธีกางเต็นท์ วิธีใช้พลั่วสามพับ...และวิดีโออื่น ๆเธออัพโหลดวิดีโอกว่าหนึ่งร้อยคลิป จากนั้นจึงส่งแท็บเล็ตมือสองกลับไปอีกครั้งหลังจากทำทุกอย่างเสร็จ เย่มู่มู่ชำระล้างตัวแล้วจึงลงไปกินข้าวข้างล่างขณะรับประทานอาหาร เธอจัดการประวัติย่อของผู้จัดการร้านค้า นักบัญชีและพนักงานร้านที่ผู้อาวุโสสองสามคนเมื่อวานแนะนำมาให้ผู้จัดการร้านค้าแซ่เวิน ชื่อลี่อายุสามสิบกว่า สถานภาพโสด จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศ เคยดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขายในสาข

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 286

    จวบจนวันนี้เพิ่งผ่านไปเพียงหนึ่งเดือน แต่เถากลับงอกงามแข็งแรงพิเศษใบเขียวเถาขาว เติบโตอย่างน่าพอใจมีคนเด็ดหนึ่งเส้นออกมาลองกัดกินเป็นรสชาติผักสดใหม่ปนรสใบเขียวเล็กน้อยเมื่อเถานี้กินได้ ใบก็กินได้เช่นกันพวกชาวเมืองตัดเถาออกมา เก็บดอกตูมไว้สองใบแล้วปลูกลงไปพร้อมรดน้ำให้…สองวันผ่านไปเถามันเทศมีชีวิตอีกครา เมื่อเถามันเทศเติบโตแข็งแรงแล้ว สามารถเก็บมาประกอบอาหารผัดกินได้ครั้นชาวเมืองเห็นมันเทศเด็ดกิ่งใบ เก็บเกี่ยวได้ ก็ยิ่งมีความกระตือรือร้นต่อการทำงานในที่นาเมื่อก่อนพ่อค้าผู้มั่งคั่งด่านเจิ้นกวน นิ้วมือทั้งห้าไม่เคยต้องงานในครัวเรือน ตอนนี้ลงไปทำงานในทุ่งนาแล้วทุกคนพวกเขาเปี่ยมไปด้วยความหวังกับอนาคตทุกวันนี้ไม่อยู่ในภาวะสงคราม จึงไม่มีรางวัลมอบให้เหล่านายทหาร แต่ละเดือนไปรับเสบียงทหารจำนวนสิบห้าชั่งได้เพียงเท่านั้นถึงกระนั้น มีบางครอบครัวที่ไม่มีคนเข้าร่วมกองทัพ วันนี้ก็ได้รับพื้นที่เพาะปลูกจัดสรรและปลูกมันเทศสำเร็จแล้วทุกคนต่อให้ไม่ต้องอาศัยแม่ทัพและโรงโจ๊กอีก แต่พวกเขาก็สามารถพึ่งพาตนเองและเลี้ยงดูตัวเองได้แล้วเช่นกัน!*จ้านเฉิงอิ้นเดินออกจากจวนแม่ทัพบนท้องถน

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 287

    จ้านเฉิงอิ้นปัดลูกธนูได้หนึ่งดอก แต่ดอกที่สองกลับทิ่มทะลุหัวใจจ้านเฉิงอิ้นแกร็ง~ภาพเหตุการณ์นี้ ทำหน่วยกล้าตายลอบสังหารทั้งหมดอ้าปากต้าค้างเพราะลูกธนูร่วงจากแผ่นหลังจ้านเฉิงอิ้นปลายธนูไม่อาจแทงทะลุชุดเกราะเพียงเท่านั้น แต่ภายใต้ชุดเกราะยังมีชุดเกราะชั้นในให้การป้องกันสูงอีก…แม้ว่าธนูสองดอกยิงโดนเขา แต่ก็ไม่อาจทำร้ายเขาได้หน่วยกล้าตายเหล่านั้นจับจ้องจ้านเฉิงอิ้นราวกับมองสัตว์ประหลาดถึงกระทั่งมีช่วงเวลาหนึ่ง พวกเขาอยากถอนตัวกลางคัน หนีออกมาบางทีอาจยังรอดชีวิตแต่น่าเสียดาย มันสายไปแล้ว!เพราะกองทัพตระกูลจ้านได้ออกปฏิบัติการปิดล้อมแล้วทั่วทั้งบริเวณ!สวีหมิงควบม้าวิ่งมาหาและโยนของลักษณะกลมสีดำให้จ้านเฉิงอิ้น“แม่ทัพ หมวกกันน็อก!”หมวกกันกระสุนสีดำใบหนึ่งถูกจ้านเฉิงอิ้นรับไว้ด้วยหนึ่งมือเขารีบเร่งสวมหมวกดาบเหิงเตาราชวงศ์ถังร่ายรำอย่างดุเดือดมากกว่าเดิม มุ่งหน้าฟันนักฆ่าแปดคนส่วนกำลังคนและม้าของกองทัพตระกูลจ้าน ปิดล้อมตรอกซอยอย่างมิดชิดไม่ให้น้ำไหลผ่านแม้แต่หยดเดียว ย่อวงล้อมแคบลงเรื่อย ๆชาวเมืองหนีอพยพแล้วตั้งแต่แรก นักฆ่าเหล่านี้เห็นทีว่าแนวโน้มสถานการณ์เปลี่ยนไ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 288

    เขากลัวจ้านเฉิงอิ้นปลุกพลังลุกฮือฮ่องเต้น้อยมีพระราชโองการ ให้จ้านเฉิงอิ้นปราบปรามกองทัพธงเหลืองถ้าเขาทำสำเร็จ ทั้งราชสำนัก ทั้งแคว้นต้าฉี่ ตำแหน่งของจ้านเฉิงอิ้นต่างกรรมต่างวาระ จะนำมาเปรียบเทียบไม่ได้อีก!ไม่ต้องพูดถึงเสนาบดีซู แม้กระทั่งฮ่องเต้น้อยก็ไม่สามารถกดขี่เขาแล้วเช่นเดียวกันเมื่อจ้านเฉิงอิ้นมีอำนาจและอิทธิพล ผู้เกิดความกลัวมากสุดย่อมเป็นเสนาบดีซูเขากลัวจ้านเฉิงอิ้นมาคิดบัญชี แก้แค้นที่เขาใส่ร้ายบิดาจนเสียชีวิต!ฉะนั้น ก่อนที่จ้านเฉิงอิ้นจะออกรบไปปราบกองทัพเหลือง เขาแทบรอไม่ไหวที่จะกำจัดเขาโดยเร็ว!สวีหวย น่าจะเป็นไปไม่ได้!ตอนนี้เขายังเอาตัวเองไม่รอด มีรายงานว่าเขาส่งคนและม้าไปตามหาหยูกยาและหมอเทวดาในดินแดนภาคกลางร่างกายของเขาบาดเจ็บสาหัสมาก อยากมีชีวิตรอดเพียงเท่านั้นเขาจะมีความคิดไปหาเรื่องจ้านเฉิงอิ้นอย่างไรอีกจ้านเฉิงอิ้นกวาดสายตาไปบนหลังคา นักยิงธนูสองคนหายไปนานแล้ว“ยังมีนักฆ่าสองคนหนีไปได้ จำไว้ ต้องจับเป็น!”เฉินขุยรับคำสั่ง “ขอรับ แม่ทัพ!”ศพบนพื้นถูกลากออกไปแล้วเดิมทีเฉินขุยเตรียมพาทหารในกองทัพตระกูลจ้านไปขุดท่อนไม้เนื่องจากแม่ทัพถูกลอบสังห

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 289

    คำพูดไม่มีเค้าของจ้านเฉิงอิ้น ทำมั่วฝานชะงักอยู่กับที่ ครู่หนึ่งผ่านไปดวงตาเขาพลางแดงก่ำเขากล่าวอ้ำอึ้ง “ไทเฮาผู้อาวุโสเอ็นดูข้าเป็นที่สุด ข้าไม่อาจทนมองพะองค์ตายจากไป!”“จะให้กองทัพธงเหลืองบุกเข้าเมืองหลวงไม่ได้ ท่านพ่อท่านแม่ของข้าและคนทั้งตระกูลมั่ว…อยู่ที่เมืองหลวงทุกคน”“จ้านเฉิงอิ้น พลเมืองในเมืองหลวงช่างบริสุทธิ์เหลือเกิน ท่านทนมองกองทัพธงเหลืองบุกฝ่าไปถึงเมืองหลวงได้จริงหรือ?”จ้านเฉิงอิ้นถามอีกครั้ง “เจ้าเชื่อท่านเทพหรือไม่?”ใช่ นี่คือสิ่งที่ท่านเทพกล่าวไว้!บางทีถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น เขาจะตำหนิผู้นั้นพูดจาพล่อย ๆ จะรู้สึกโมโหและลากตัวผู้นั้นออกไปฆ่าทิ้งแต่ผู้ที่ทำนายเป็นท่านเทพเป็นท่านเทพที่เคยช่วยชีวิตนับไม่ถ้วนรอดมาได้!จ้านเฉิงอิ้นเดินเข้ามาตบไหล่ปลอบใจเขา“ท่านเทพเคยกล่าวไว้ ในบันทึกประวัติศาสตร์ ตัวข้าคนเดียวยืนอยู่บนภูเขาซากศพและทะเลเลือด ปลายกระบี่ชี้ไปยังนายทหารหนึ่งแสนคนของแคว้นฉี่ สุดท้ายสิ้นชีพใต้ดาบของพวกเขา”“ประวัติศาสตร์ที่แท้จริงเป็นอย่างไร ไม่มีความสำคัญด้วยซ้ำ! เจ้าดูสิ วันนี้แม่ทัพข้ายังมีชีวิตอยู่และสบายทีเดียว”“พวกเราได้พบท่านเทพ มีชีวิตรอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 290

    “ขอรับ แม่ทัพ!”จากนั้นเถียนฉินยื่นบัตรเชิญหลายฉบับให้เขา“แม่ทัพ ท่านมีอ่างขุมทรัพย์กับตัว ในที่สุดก็ไม่อาจปกปิดต่อไปได้อีก”“นี่คือบัตรเชิญจากสมาคมการค้าขนาดใหญ่จากแคว้นอื่น พวกเขาอยากแลกเปลี่ยนการค้ากับท่าน!”จ้านเฉิงอิ้นวางหนังสือในมือลงพ่อค้ามีชนชั้นทางสังคมต่ำสุดในแคว้นต้าฉี่ แคว้นอื่น ๆ ก็เช่นเดียวกันแต่พ่อค้ากลับเป็นกลุ่มคนที่ร่ำรวยที่สุดถึงแม้ท่านเทพส่งเสบียงมาให้ไม่ขาดสาย แต่ก็ยังต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลในการสั่งซื้อฉะนั้น ถ้าในมือพ่อค้าเหล่านี้ มีสิ่งที่ท่านเทพต้องการหรือสิ่งของที่น่าสนใจเขาจะนำมาถวายให้ท่านเทพ“เอาบัตรเชิญให้ข้าดูหน่อย…”เถียนฉินยื่นบัตรเชิญนับสิบใบด้วยสองมือจำนวนมากเพียงนี้ นับว่าเกินความคาดหมายของจ้านเฉิงอิ้นมากบัตรเชิญสองสามใบด้านหน้าสุด ล้วนเป็นของสมาคมการค้าขนาดใหญ่ไม่กี่กลุ่มที่อยู่ในอาณาเขตหัวเซี่ยมีกลุ่มต้องการน้ำ มีกลุ่มต้องการเสบียงอาหาร…พวกเขายินยอมที่จะส่งทองคำนับหมื่น เพื่อต้องการแลกเปลี่ยนเสบียงอาหารและน้ำกับจ้านเฉิงอิ้นแน่นอนว่า พวกเขาอยากเข้ามาทำการค้าในด่านเจิ้นกวนมากกว่าจะเข้าด่านเจิ้นกวนต้องมีใบผ่านด่านและอนุญาตเ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 291

    จ้านเฉิงอิ้นเบิกตาอย่างดุดัน สีหน้าตึงเครียด“กองทัพธงเหลืองมีความเป็นมาอย่างไร?”มั่วฝานหยิบม้วนเอกสารลับออกมาจากอกเสื้อ แล้วส่งให้จ้านเฉิงอิ้นด้วยสองมือจ้านเฉิงอิ้นดึงกระดาษสีขาวในกระบอกไม้ไผ่ออกมา เขาเปิดเอกสารลับนั้นอย่างระมัดระวังข้อความเขียนโดยหน่วยกล้าตาย พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงบุคคลสำคัญในระดับสูงได้ สมาชิกทั้งหมดในตอนนี้ กินโจ๊กที่ทำจากข้าวฟ่างข้าวฟ่างสะอาดมาก ไม่มีกรวดปะปน ไม่มีการผสมเปลือกข้าวและรำข้าวข้าวฟ่าง หรืออีกชื่อคือข้าวเม็ดเล็ก เป็นสิ่งที่ท่านเทพประทานมาให้จำนวนมาก ชาวบ้านในด่านเจิ้นกวนกลับชอบกินข้าวขาวและแป้งสาลีมากกว่า ข้าวขาวนำมาทำเป็นโจ๊ก ส่วนแป้งสาลีนำมาทำเป็นแป้งเหลวหรือก้อนแป้งข้าวเม็ดเล็กกลับไม่มีใครเต็มใจจะแลก ดังนั้นจึงถูกกองไว้ในคลังเสบียงปัจจุบันนี้ ความอดอยากเกิดขึ้นมาหนึ่งปีแล้ว ธัญพืชไม่สามารถเจริญเติบโตได้ แม้จะมีข้าวเก็บ ก็ไม่อาจเพียงพอเลี้ยงคนจำนวนมากขนาดนี้ได้ผู้ที่อยู่เบื้องหลังกองทัพธงเหลือง เกรงว่าคงมาจากโลกเดียวกับเทพเจ้าใต้กระดาษสีขาวนั้น มีภาพวาดของอาวุธที่กองทัพธงเหลืองใช้งานส่วนใหญ่เป็นดาบและกระบี่ รวมถึงอาวุธทหารรูป

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 292

    เธอค้นหาหนังสือจากในตู้หนังสือแถมหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ “อุดมการณ์และแนวคิดของมาร์กซิสต์-เลนินนิสต์”เธอถอดม้วนกระดาษบทกวีที่มีชื่อว่า “วสันต์สวนชิ่น : หิมะ” ที่แขวนอยู่บนผนังลงมาเธออุ้มหนังสือที่ซ้อนทับ พร้อมเขียนข้อความลงบนกระดาษ ส่งหนังสือที่ล้ำค่า รวมถึงม้วนบทกวีเหล่านี้ขอให้เขาอ่านให้จบก่อนส่วนเรื่องการบริหารจัดการชาวบ้านในชายแดนด่านเจิ้นกวนอย่างไรในอนาคต เธอจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวอย่างไรก็ตาม หากมีการก่อกบฏทุกพื้นที่ หากต้องการดึงกองกำลังก่อกบฏอื่น ๆ มาเข้าพวก จะต้องพิจารณาปัญหาจากจุดยืนของพวกเขาต้องทำให้ชาวบ้านจำนวนมากมีชีวิตรอดต่อไปให้ได้ส่วนแคว้นต้าฉี่ในตอนนี้ เธอยังไม่แน่ใจว่าระบบที่ใช้อยู่คือระบบทาสหรือระบบศักดินาเย่มู่มู่โยนแท็บเล็ตและกระดาษข้อความลงไปจากนั้นก็ใส่หนังสือจำนวนหนึ่งกับม้วนภาพม้วนหนึ่งลงในแจกันในตอนนั้น คนหวงโทรศัพท์หาเธอ แจ้งว่าขบวนรถห้าคันของพวกเขาเดินทางมาถึงโกดังที่ตีนเขาแล้ว เถ้าแก่ชียังส่งรถบรรทุกปลายข้าวมาอีกหนึ่งคัน ตอนนี้กำลังจอดรถเพื่อขนถ่ายสินค้าอยู่ที่ตีนเขา เย่มู่มู่กอดแจกันไว้แน่นก่อนจะขับรถกระบะลงจากภูเขา *จ้านเฉิงอิ้

บทล่าสุด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 714

    เค้าโครงหน้าคมคาย ยิ่งดูหล่อเหลาโดดเด่นขึ้นแต่สีหน้ากลับเย็นชามาตลอด กลายเป็นหนุ่มหล่อสุดเย็นชาประจำโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไปแล้วแน่นอนว่า เขาเดินทางด้วยจักรยานสาธารณะ หรือไม่ก็นั่งรถประจำทาง ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีของแบรนด์เนมเลยไม่เหมือนกับเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ที่พอเข้าเรียนปุ๊บก็รู้เลยว่า พ่อแม่ทำอาชีพอะไร มาจากตระกูลไหน ตระกูลมีกิจการอะไรบ้างเพื่อนร่วมชั้นคนอื่น ๆ ล้วนแต่ร่ำรวยหรือมีฐานะสูงส่งส่วนเขาพื้นเพธรรมดา การแต่งตัวก็สบาย ๆโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไม่มีเครื่องแบบนักเรียน เพื่อนคนอื่น ๆ ใส่แต่แบรนด์หรู หรือไม่ก็ชุดสั่งตัดส่วนเขาใส่เสื้อผ้าแผงลอยข้างทาง!อาศัยหน้าตาแบกล้วน ๆพอดูออกว่าที่บ้านไม่มีเงิน ก็ถูกนักเรียนเกเรหมายหัวเพื่อนร่วมชั้นที่มายั่วโมโห หัวเราะอย่างโอหัง “โธ่เอ๊ย กล้าทำหน้าบึ้งใส่ฉันเหรอ!”“มา ๆ ๆ วันนี้พวกเราสั่งสอนมันหน่อย ลากตัวมันขึ้นรถไปที่นอกเมือง”หลันซีเยว่ตัวสั่นด้วยความกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังคงขวางอยู่ข้างหน้าเขา“พวกนายกล้าเหรอ ถ้าวันนี้พวกนายกล้าแตะต้องเขาแม้แต่นิดเดียว ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ทันใดนั้นนักเรียนหลายคนก็หัวเราะล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 713

    เมื่อรถของเย่มู่มู่และหลูหมิงเคลื่อนตัวออกไป ลู่ฉิงยวนยังคงยืนสง่าอยู่ริมถนน มองส่งจนรถลับสายตาไป ครั้งนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลย อย่างน้อยเขาก็ได้ช่องทางการติดต่อของเธอมาเย่มู่มู่ตอนห้าขวบไม่ยอมรับเขา~ไม่นึกเลยว่าพออายุยี่สิบปี เย่มู่มู่ก็ยังคงไม่ชอบเขาเหมือนเดิมผู้หญิงเพียงคนเดียว กลับเป็นคนที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ถึงสองครั้งในชีวิตนี้หลังจากขึ้นรถแล้ว ลู่ฉิงยวนก็ถามหัวหน้าบอดี้การ์ดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “บอดี้การ์ดที่อยู่กับเย่มู่มู่คนนั้น เป็นคนของสายไหนกันแน่?”หัวหน้าทีมบอดี้การ์ดยังนึกถึงชายคนนั้น ออกหมัดฉับไว รุนแรง นั่นไม่ใช่ฝีมือของคนธรรมดาแน่นอน“เป็นนักสู้มืออาชีพครับ ที่สำคัญคือเป็นประเภทที่ทุกกระบวนท่าล้วนมุ่งเอาชีวิต! นั่นไม่ใช่ฝีมือของพวกเรียนกังฟูหรือซานต้าวิธีที่เขาลงมือ ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย!”ลู่ฉิงยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย แค่คนเดียวก็สามารถล้มบอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดลงไปกองกับพื้นได้เดิมทีเขายังเป็นห่วงเย่มู่มู่ กลัวว่าเด็กกำพร้าตัวคนเดียวอย่างเธอจะถูกรายล้อมไปด้วยฝูงหมาป่าและเสือร้ายแต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าความกังวลของเขาจะไม่จำเป็นเสียแล้วการที่สามารถอัด

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 712

    “คุณคู่ควรกับผู้หญิงที่ดีกว่านี้นะคะ ส่วนฉัน... ไม่ได้สนใจเรื่องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธ์อะไรแบบนั้นเลยค่ะ!”เธอกำลังจะหันหลังเดินจากไป แต่เสียงของลู่ฉิงยวนก็เย็นเยียบลงหลายส่วน เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าว่า “ทำไม?”เย่มู่มู่หันกลับไปมองเขา“ทำไมถึงปฏิเสธผม คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังจะพลาดอะไรไป?”“คุณไม่ชอบผม หรือคิดว่าเราไม่มีความรู้สึกต่อกันงั้นเหรอ!”เย่มู่มู่ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ขอโทษนะคะคุณลู่ มันไม่เกี่ยวกับคุณเลยค่ะ การที่ต้องสร้างครอบครัวกับผู้ชายที่แทบไม่รู้จักกันดี แค่คิด...ฉันก็รับไม่ได้แล้วค่ะ!”“สุดท้ายแล้ว ก็ยังเป็นเพราะคุณไม่ชอบผมใช่ไหม? มู่มู่ อย่าดื้อนักเลย ความรู้สึกน่ะมันสร้างกันได้นะ...”เย่มู่มู่ขมวดคิ้ว มองไปยังลู่ฉิงยวนเขาทั้งหนุ่ม ทั้งรวย อาศัยความสามารถของตัวเองล้วน ๆ สร้างหลิ่วอวิ๋นกรุ๊ปจนยิ่งใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้เขายอดเยี่ยมมากบางทีในอนาคตเธออาจจะต้องเสียใจ ที่ตัวเองพลาดมหาเศรษฐีโสดผู้เพียบพร้อมทั้งความสามารถและฐานะระดับเพชรยอดมงกุฎคนนี้ไปแต่ ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่เรื่องหาเงิน และเรื่องการช่วยจ้านเฉิงอิ้นรวบรวมใต้หล้าให้เป็นปึกแผ่นในคติประจำใจ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 711

    “แน่นอนว่าพวกเธอก็จะไม่บังคับลูก ๆ ถ้าไม่ชอบ ก็ปฏิเสธได้!”“ต่อมา คุณแม่เกิดอุบัติเหตุ ผมถูกบ้านตาไปรับเลี้ยง ไอ้สารเลวนั่นเริ่มฟ้องร้องยาวนานกว่าสิบปี เพียงเพื่อล้มล้างพินัยกรรมของแม่!”“ระหว่างนั้น เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในมือผม ป้าหลินจึงมอบหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ในมือของเธอให้ผมโดยไม่คิดค่าตอบแทน”“ผมเคยถามเธอ ว่าต้องการอะไรเป็นการตอบแทนไหม์”“เธอขอให้ผมดูแลคุณให้ดี หากวันใดวันหนึ่งพวกเขาสามีภรรยาเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณก็จะกลายเป็นเด็กกำพร้า ต้องถูกคนตระกูลเย่รังแกแน่ ๆ เธอหวังว่าผมจะรับปากว่าจะดูแลคุณให้ดีไปชั่วชีวิต!”น้ำตาของเย่มู่มู่ร่วงเผาะ ๆเธอไม่คิดเลยว่า คุณแม่ได้วางแผนเพื่อเธอไว้แต่เนิ่น ๆ แล้วเพื่อเดิมพันกับโอกาสอันน้อยนิดนั้น ใช้หุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ของลู่ซื่อกรุ๊ป แลกกับคำมั่นสัญญาเพื่อเธอพ่อแม่ของเธอรักเธอมาก“ลู่ฉีหยางตามหาคุณ ข่มขู่คุณ! นอกจากจะหมายตาฟู่ลี่กรุ๊ปที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่แล้ว ยังมีอีกอย่าง พวกเขารู้ว่าแม่ของคุณมีหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์!”“ผมเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นสิบอันดับแรกของบริษัทต่อสาธารณะ พวกเขาก็ยังคงไม่เชื่อ!”“อยากจะยึดหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์นั้นมาเป็นขอ

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 710

    ตอนที่เธออายุประมาณห้าขวบ เคยพบเคยพบลู่ฉิงยวนครั้งหนึ่งตอนนั้นเป็นการประชุมประจำปีขององค์กร ลู่ฉิงยวนถูกลุงพามาจากเมืองหลวงเพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีของฟู่ลี่กรุ๊ปเวลานั้นแม่ถามเธอว่า “ชอบพี่ชายตัวน้อยคนนั้นไหมจ๊ะ? ให้เขาเป็นแฟนของหนูดีไหม?”ตอนนั้นเธอยังเด็กเกินไป ฟันยังไม่ทันขึ้นครบเธอกำลังกินเค้กก้อนเล็ก ๆ พลางถามมารดาด้วยท่าทางน่ารัก “คุณแม่คะ แฟนคืออะไรเหรอคะ กินได้หรือเปล่า?”ผลลัพธ์ก็คือคำพูดประโยคนี้ทำให้ลุงของลู่ฉิงยวนกับบิดาของเธอรู้สึกขบขัน!แต่ว่าเธอกับลู่ฉิงยวนเคยพบกันแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่เคยพบกันอีกเลยตอนนั้นพ่อกับแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลู่ฉิงยวนไม่ได้มาไว้ทุกข์ ทว่าลุงของเขาส่งของมาร่วมพิธี!แต่ว่าคนไม่ได้มา!แน่นอนว่าเย่มู่มู่สามารถเข้าใจได้ พอหมดอำนาจคนก็ลาจาก เด็กกำพร้าเช่นเธอไม่ค่าพอที่จะแสวงหาผลประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอถอนตัวจากการบริหารฟู่ลี่กรุ๊ปทุกคนรู้ดีว่าเอาอกเอาใจเธอไปก็ไม่มีประโยชน์ตอนที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ มีคนไปมาหาสู่อยู่บ้างทว่าหลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิต ก็ไม่มีใครมาสนใจอีกเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 709

    คิดไม่ถึงเลยว่าคุณผู้หญิงหลิวจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตและสู้ยิบตา จนคุณชายลู่รู้สึกเสียใจในภายหลังเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว ตบหน้า และสารภาพด้วยน้ำตานองหน้าบอกว่าไม่ยินยอมหย่าร้าง ขอร้องให้คุณผู้หญิงหลิวให้โอกาสเขาอีกสักครั้งหนึ่งเพื่อแสดงความจริงใจ เขาจึงลบข้อมูลการติดต่อของผู้หญิงทุกคนทิ้งไปจนหมด ต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิวทั้งยังเปิดเผยข่าวอื้อฉาวของนักแสดงที่เคยมาก่อเรื่องต่อหน้าคุณผู้หญิงหลิว และทำลายอาชีพของเธอ!นอกจากนี้ยังทำให้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งต้องตกงาน และถูกแบนในธุรกิจนั้นด้วยเขาเอาบ้าน และรถที่จ่ายเงินซื้อให้กับคุณหญิงลู่ กลับคืนมาทั้งหมด!บางทีคณผู้ชายลู่อาจจะแสดงเก่งจนเกินไป บางทีลูกอาจจะเล็กจนเกินไป จึงไม่อยากให้ลูกที่พอเกิดมาก็กลายเป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวคุณผู้หญิงหลิวจึงใจอ่อนเธอยอมรับคุณผู้ชายลู่ และชิงบริษัทที่อยู่ในมือของคุณชายลู่กลับคืนมาญาติพี่น้องและเพื่อนที่คุณชายลู่เอาเข้ามาก่อนหน้านี้ ถูกไล่ออกไปจนหมดเชิญพนักงานเก่ากลับเข้ามาโรงงานภายใต้การบริหารของคุณผู้หญิงลู่ กลับมาฟื้นฟูอีกครั้งและในครั้งนี้ คุณผู้หญิงหลิวได้บีบคุณผู้ชายลู่ให้ล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 708

    หากว่าทางจ้านเฉิงอิ้นสามารถเอาชนะการรบได้ เธอจะต้องเฉลิมฉลองให้สักครั้งอย่างแน่นอนเธอกับหลูหมิงคืนจักรยานไฟฟ้าอย่างมีความสุข และขึ้นรถแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงฮ่าวอี้และเสี่ยวเฉิงที่เฝ้าดูกระบวนการทั้งหมดอยู่ เมื่อเห็นพวกเขาขึ้นรถแท็กซี่ไป ก็ขับรถตามไปอยู่ห่าง ๆจนถึงวันนี้หวังเสี่ยวเฉิงก็ยังไม่อาจเข้าใจได้ เรื่องที่ว่าเจ้านายของตนเองเป็นผู้บำเพ็ญเซียน“พี่ นี่ผมกำลังฝันอยู่ใช่ไหม คุณหนูเย่เป็นนักศึกษาที่อายุยังน้อยแล้วก็สวยขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียน เหลือเชื่อเกินไปแล้ว”“พี่ว่า ผมต้องฝากตัวเป็นศิษย์กับเธอหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นไปขอให้เธอทดสอบหินวิญญาณให้ดีไหม ไม่แน่ผมอาจมีความสามารถในการบำเพ็ญเซียนเหมือนกันก็ได้?”ฮ่าวอี้กำลังมองคนปัญญาอ่อนที่ฝันกลางวันมาตลอดทั้งวัน “หุบปาก เย่มู่มู่เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น!”“ผมรู้อยู่แล้วน่า ว่าเธอเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ซ่อนตัวเป็นคนธรรมดาเท่านั้น พี่ว่าตอนนี้เธอบรรลุถึงขั้นไหนแล้ว?”“ฝึกลมปราณ สร้างรากฐาน หรือว่าแก่นปราณทองคำ? สามารถดูดซับสายฟ้า เคลื่อนย้ายพายุฝน ขั้นต่อไปก็พลักภูเขาผลิกทะเล

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 707

    แคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ หรือแม้กระทั่งแคว้นอวี่ กับแคว้นหย่งต่างก็กำลังจับจ้องกองทัพเผ่าหมาน...ทำไมงั้นหรือ?พวกเขาต่างก็ต้องการเข้ามาแบ่งปันผลประโยชน์ของแคว้นต้าฉี่เพราะความโง่เขลาและเหี้ยมโหดของฮ่องเต้น้อย ไม่แบ่งแยกถูกผิด และพยายามทุกวิถีทางเพื่อสังหารจ้านเฉิงอิ้นพวกเขาจึงต่างคิดว่าแคว้นต้าฉี่อ่อนแอข่มเหงได้ง่าย!หากในหกแคว้น แคว้นใดที่ล้มลงไวที่สุดย่อมต้องเป็นแคว้นฉี่ที่ปราศจากจ้านเฉิงอิ้นอย่างแน่นอนดังนั้น การที่เผ่าหมานแห่งม่อเป่ยบุกโจมตีแคว้นต้าฉี่ ทุกแคว้นของหัวเซี่ยจึงจ้องกันตาเป็นมันหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยทำสำเร็จแคว้นฉู่กับแคว้นฉี่ก็จะถอนทัพออกจากแคว้นเยี่ยนโดยทันที และยกกำลังทหารทั้งหมดไปที่แคว้นต้าฉี่ล่าสังหารราษฎรของแคว้นต้าฉี่มาเป็นเสบียงอาหารอย่างป่าเถื่อน เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยแล้งสองปีที่อันตรายที่สุดหากว่าเผ่าหมานแห่งม่อเป่ยล้มเหลว ก็ไม่เป็นไรทหารเผ่าหมานที่กล้าหาญและสันทัดในการรบสองแสนคน ถึงแม้จะพ่ายแพ้ ก็สามารถลดทอนกำลังของกองทัพตระกูลจ้านลงได้เมื่อพวกเขาบุกเข้าแคว้นต้าฉี่ก็จะสะดวกมากยิ่งขึ้นจุดจบเป็นเช่นไร พวกเขาเพียงแต่ต้องใช้กลยุทธ์ดูไฟจา

  • ปีแห่งภัยอดอยาก ฉันขายวัตถุโบราณเลี้ยงดูท่านแม่ทัพ   บทที่ 706

    ขอเพียงสามารถยึดครองทัพกระกูลจ้าน พวกเขาก็จะสามารถบุกเข้าเมืองหลวง และแช่งยิงแผ่นดินต้าฉี่มาได้ ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่าจะถูกจ้านเฉิงอิ้นทำให้เสียเรื่องเขามองเข้าไปยังสนามรบ ที่ยังคงโรมรันกับกองทัพตระกูลจ้าน ทหารเผ่าหมานต่อสู้ดิ้นรนอย่างยากลำบาก จะให้พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ ละทิ้งเมืองหลวงแห่งแคว้นต้าฉี่เช่นนี้งั้นหรือ?ไม่มีทาง!เขายกดาบม่อเตาที่อยู่ในมือ จับจ้องไปที่จ้านเฉิงอิ้นด้วยดวงตาที่แหลมคมราวกับเหยี่ยว“ข้า ม่อเป่ยอ๋อง จะไม่มีวันพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!”จ้านเฉิงถือดาบม่อเตาด้วยมือเดียว กระชับบังเหียนม้าและเดินวนอยู่รอบ ๆ ตัวเขา“หลัวซู่ เจ้าหมดหวังแล้ว เจ้าไม่อาจเอาชนะกองทัพตระกูลจ้านได้หรอก!”“ยอมจำนนแต่โดยดีเถิด!”หลัวซู่ปักมีดลงไปในดินโคลน สายตาของเขาเย็นชา “ข้าเป็นบุรุษแห่งทุ่งหญ้า ไม่เกรงกลัวความตาย!”“เพียงแต่ข้าไม่ยินยอมเท่านั้น เหตุใดข้าจึงได้พ่ายแพ้เจ้าอย่างไร้สาระเช่นนี้ พ่ายแพ้เจ้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!”การศึกในครั้งนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมากกองทัพตระกูลจ้านของจ้านเฉิงอิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ ขวัญกำลังใจ หรือว่าจำนวนคนที่ติดอาวุธ...ไม่ว่าจะ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status